แชร์

บทที่ 2 สู่ดินแดนใหม่ 50%

“สวยแหละ เป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้เลย แต่ตอนนี้เป็นบ้านที่เก่าและทรุดโทรมที่สุดในละแวกนี้เช่นกัน” นภาธรกล่าวอย่างขำขัน ทว่าคนเป็นเพื่อนไม่ได้เห็นเป็นเรื่องน่าขำเลยแม้แต่น้อย คนไม่เคยมีบ้านเช่นเธอ เห็นมันมีค่าอย่างมหาศาลเลยทีเดียว

นภาธรเดินไปยกกระถางต้นไม้ที่มีหญ้าคลุมทับจนแทบไม่เห็นกระถางขึ้นมา แล้วหยิบกุญแจออกมาจากใต้กระถาง ก่อนจะนำไปไขประตู เมื่อเปิดประตูหนูก็วิ่งพรวดออกมา นภาธรวิ่งกระเจิงออกไปทันที เพียงฤดีก็เช่นกัน

“เห็นมั้ย ฉันบอกแล้วว่าอยู่ไม่ได้ บ้านปิดทิ้งไว้เกือบสิบปี แกคิดดูสิ จะอยู่ยังไง” นภาธรว่า ใบหน้าซีดเผือดเนื่องจากกลัวหนูยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

“เดี๋ยวฉันขอเข้าไปดูก่อน” เพียงฤดีว่าแล้วก็ค่อย ๆ เปิดประตูให้กว้างขึ้นกว่าเดิม แล้วเดินเข้าไปในบ้าน เธอยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทางพึมพำไปตามประสา ภายในเต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ บนพื้นมีปลวกขนดินขึ้นมาสร้างรังกองใหญ่อยู่หลายกอง เธอเปิดหน้าต่าง แค่ผลักออกไปเบา ๆ มันก็หลุดออกไปทั้งแผ่น หญิงสาวตกใจรีบหดมือ แล้วไปเปิดประตูห้องฝั่งขวามือที่อยู่ใกล้ทางเข้าบ้าน เป็นห้องขนาดกะทัดรัด ภายในไม่มีเครื่องเรือนใด ๆ เป็นเพียงห้องโล่ง มีหยากไย่จำนวนมาก รอยผนังที่มีคราบน้ำไหลซึม บนพื้นเป็นทางเดินปลวกอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันอยู่ห้องนี้ได้ เดี๋ยวปัดกวาดทำความสะอาดก็อยู่ได้แล้ว” เพียงฤดีหันไปหาเพื่อนที่ยังยืนหน้าซีดด้วยความตกใจเจ้าหนูตัวร้ายเมื่อสักครู่นี้

“แกเอาจริงเหรอ” นภาธรทำหน้าไม่อยากเชื่อว่าเพื่อนจะกล้าพักในสถานที่เช่นนี้

“อือ แกให้เช่าเดือนละเท่าไหร่ล่ะ หรือแกช่วยโทร.ถามพี่ชายแกหน่อยว่าจะให้เช่าเท่าไหร่”

“ไม่ต้องชงต้องเช่าหรอก ถ้าแกอยู่ได้ก็อยู่ไปเถอะ พี่คีรินคงไม่กลับมาตอนนี้หรอก ฉันไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะกลับมาภายในสองสามเดือนนี้เลย อยู่ไปตามสบาย เดี๋ยวฉันค่อยบอกให้ ถ้าแกจะอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเราไปจองห้องพักที่รีสอร์ตกันก่อน ฉันอยากหลับสักงีบแล้วพาแกไปซื้อของกินของใช้ตอนบ่าย ๆ ก็แล้วกัน ฉันมีเวลาอยู่กับแกแค่สองสามวันเท่านั้น วันจันทร์ฉันก็ต้องรีบกลับกรุงเทพฯ ต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จ แกจะได้ไม่ลำบาก”

ทั้งสองปิดประตูบ้านแล้วเดินไปขึ้นรถ นภาธรขับรถไปยังรีสอร์ตที่อยู่ไม่ไกลนัก เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการล่องแพ มีรีสอร์ตและโฮมสเตย์เปิดให้นักท่องเที่ยวได้พักอยู่หลายแห่ง

       สองสาวจองห้องพักที่รีสอร์ตซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะเข้าไปพักผ่อนแล้วตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนเที่ยง อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปรับประทานอาหารกลางวัน นภาธรพาเพียงฤดีไปซื้อของใช้ที่จำเป็นสำหรับทำความสะอาดบ้านพัก แม้เธอจะไม่อยากให้เพื่อนอยู่ตามลำพัง ในบ้านที่ไม่มีความปลอดภัย แต่ก็สุดจะห้ามได้เมื่อเพื่อนต้องการจะพักที่นั่น

       ระหว่างทางเธอก็ชี้ให้เพื่อนดูเส้นทางที่จะออกไปซื้อข้าวของ พาไปตลาด ร้านของชำ และพาไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ เผื่อเพื่อนเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้ไปหาหมอได้

       “ฉันยังไม่ได้เข้าไปอยู่ที่บ้านเลย แกจะแช่งให้ฉันป่วยแล้วเหรอยายนภา” เพียงฤดีอดขำเพื่อนไม่ได้ ที่เป็นห่วงเธอจนวางแผนทุกอย่างไว้ให้หมด

       “ก็ฉันกลัวนี่ แกอยู่คนเดียวเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง อ้อ เดี๋ยวฉันพาแกไปรู้จักเพื่อนบ้านก็แล้วกัน น้าเล็กกับน้านิดอยู่สวนติดกัน มีอะไรก็ไปขอความช่วยเหลือได้ แกใจดี เปิดบริการล่องแพอยู่ที่นี่”

นภาธรว่าแล้วก็เลี้ยวรถเข้าไปยังซอยเล็ก ๆ ที่ติดป้ายว่า ‘มาลินบริการล่องแพ’ เพียงครู่เดียวก็มาจอดที่บ้านสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ และมีบ้านหลังเล็ก ๆ อีกสองสามหลังตั้งเรียงรายอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งพอจะดูออกว่าเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว

       เพียงฤดีเดินตามนภาธรเข้าไปที่บ้านสองชั้น มีหญิงวัยกลางคนร่างผอมกับชายวัยกลางคนร่างกำยำที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้โยกพร้อมด้วยสุนัขตัวใหญ่ที่นอนแอบอยู่ข้างเก้าอี้ มันปรือตามามองแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่านภาธรทักทายเจ้าของบ้านอย่างสนิทสนมก็ซบหน้านิ่งอยู่ข้างเก้าอี้อย่างเดิม

       “น้าเล็ก น้านิด สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ ทั้งสองลุกขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็คลี่ยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นมาต้อนรับ พร้อมกับถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามประสา ก่อนที่นภาธรจะเล่าให้ฟังว่าขายที่ดินแปลงเล็กให้เพื่อน และเพื่อนจะมาอยู่ที่นี่ตามลำพัง จึงอยากพามาทำความรู้จัก เผื่อมีอะไรจะได้ขอความช่วยเหลือได้

       “ได้เลยน้องนภา ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวน้าเล็กกับน้านิดคอยดูให้ ขาดเหลืออะไรก็แวะมาหาน้าได้ตลอดนะจ๊ะ น้องฤดี”

เพียงฤดีคลี่ยิ้มได้กว้างขึ้น อย่างน้อยเธอก็อุ่นใจขึ้นมาก ที่ได้รู้จักกับคนพื้นที่ ไม่ได้รู้สึกเคว้งคว้างเหมือนตอนมาถึงครั้งแรก ที่ยังไม่รู้ว่าหากเพื่อนกลับไปแล้ว เธอจะอยู่อย่างไรตามลำพัง แม้ปากจะบอกว่าเธออยู่ได้ แต่แน่นอนว่าเธอก็ย่อมมีความกลัวปนอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

       “ขอบคุณค่ะ น้าเล็ก น้านิด” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณ

       “ถ้าหนูจะมาหาน้าก็เดินเลียบลำธารนั่นมาก็ได้นะ ลำธารนั้นก็มาจากไร่ของหนูนั่นละ ถ้าเดินมาทางถนนใหญ่มันไกล แต่ตอนนี้ทางเดินมันเริ่มรกบ้างเพราะไม่มีคนเดิน ไว้น้าจะไปถางทางไว้ให้” น้านิดชายวัยกลางคนว่า

       “ค่ะน้านิด ขอบคุณมากเลยค่ะ แล้วฤดีจะลองเดินมาค่ะ” เพียงฤดียกมือไหว้แล้วไหว้อีกอย่างซึ้งน้ำใจ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status