แชร์

บทที่ 2 สู่ดินแดนใหม่ 100%

ผู้เขียน: ทิพย์ทิวา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 16:06:14

เมื่อฝากเพื่อนไว้กับเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้วนภาธรก็พาเพื่อนเข้าไปที่บ้าน เมื่อเข้าไปถึง เพียงฤดีก็รีบเข้าไปปัดกวาดพื้นตรงส่วนของห้องนอนที่เธอตั้งใจว่าจะนอนที่ห้องนั้น ก่อนจะหยิบจอบ เสียม พลั่วและอุปกรณ์สำหรับทำการเกษตรสี่ห้าชิ้นลงมาจากรถ เอาพลั่วไปแซะรังปลวกกองโตสี่ห้ากองออกไปจากห้องโถงของบ้าน ปัดกวาดเรียบร้อยก็เอาไม้ถูพื้นมาถู โดยมีนภาธรคอยช่วย

       “ทำแค่นี้ก่อนเถอะ ไว้เข้ามาอยู่แล้วค่อยไปทำความสะอาดห้องอื่น ๆ แค่นี้ก็น่าจะอยู่ได้แล้ว” เพียงฤดีว่า เพราะเห็นว่าเพื่อนรักคงจะเหนื่อยไม่น้อยแล้ว

       “อือ พรุ่งนี้ฉันค่อยพาแกไปซื้อที่นอนหมอนมุ้งก็แล้วกัน เรากลับรีสอร์ตกันเถอะ ฉันอยากอาบน้ำจะแย่แล้ว อ้อ ฉันลืมไป ห้องน้ำอยู่ด้านหลังติดกับครัวน่ะ เมื่อกี้ฉันเข้าไปเปิดดูแล้ว สภาพเละเทะ แต่น้ำยังไหล ไฟยังสว่าง โถนั่งยอง ๆ แบบสมัยก่อนนะ แกก็ทนใช้ไปก่อนก็แล้วกัน” ผู้เป็นเพื่อนว่า

       “ไม่เป็นไรหรอก ไว้พรุ่งนี้ฉันค่อยมาทำความสะอาดห้องน้ำกับห้องครัว มีพื้นที่ให้ใช้งานได้ก่อนแค่นี้ก็ดีมากแล้ว ฉันถือว่าโชคดีแล้วละที่ไม่ต้องไปเช่าบ้านอยู่ไกล ๆ” ว่าพลางเดินออกจากบ้านเพราะใกล้มืดเต็มที

       “แล้วแกจะเดินทางไปโน่นมานี่ได้ยังไงล่ะ รถก็ไม่มี” นภาธรถาม

       “ไว้โอนที่ดินเสร็จแล้ว เหลือเงินก็ค่อยเอามาซื้อรถมอเตอร์ไซค์สักคัน”

       “อืม ก็ยังดี” นภาธรพึมพำก่อนจะขับรถกลับไปที่รีสอร์ต อาบน้ำแต่งตัวแล้วสั่งอาหารของรีสอร์ตมารับประทาน ก่อนจะเข้านอนแล้วหลับเป็นตายไปทั้งสองคน เพราะเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้านในวันแรก รวมกับการขับรถมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วมานอนช่วงเช้าซึ่งไม่ได้เต็มอิ่มนัก

       วันต่อมาทั้งสองคนออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่อยู่ในตัวเมืองชุมพร เพื่อเลือกซื้อชุดเครื่องนอนและของใช้ต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น

       “ฉันว่าแกเอาตู้เย็นเล็กนั่นไปด้วยดีไหม กำลังลดราคาด้วย” นภาธรถามเพื่อน ด้วยเห็นว่าอยู่ห่างไกลตลาดคงไม่สะดวกจะออกมาซื้อของกินได้บ่อยนัก ตู้เย็นเล็กแบบที่ใช้ในห้องพักของโรงแรม น่าจะเหมาะสำหรับเพียงฤดี ที่อยู่ตามลำพัง ซึ่งน่าจะเก็บของสดไว้กินได้หลายวัน

       “มันจะใส่รถแกได้เหรอ ของตั้งเยอะ” เพียงฤดีทำท่าไม่แน่ใจ แม้เธอจะอยากได้ตู้เย็นสักหลังเพื่อความสะดวก แต่รถของเพื่อนก็เป็นรถเก๋งขนาดไม่ใหญ่มากนัก”

       “ได้สิ พับเบาะหลังรถลงก็น่าจะวางได้ แกก็ซื้อแค่ที่นอนปิคนิคหมอนผ้าห่ม โต๊ะญี่ปุ่นกับชั้นวางของเล็ก ๆ แค่นี้ใส่รถฉันได้สบาย บอกเลยว่ารถรุ่นของฉันเนี่ยใส่ของได้เยอะอย่างกับรถบรรทุกเลยแหละ” กล่าวอย่างมั่นใจ

       ในที่สุดเพียงฤดีก็ได้ของที่ต้องการจนครบ ก่อนจะแวะรับประทานอาหารเที่ยง แล้วซื้อของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับมาที่บ้าน ก่อนจะมาจัดห้องนอนและทำความสะอาดห้องน้ำก็ใกล้ค่ำเต็มที จึงกลับไปพักผ่อนที่รีสอร์ตอีกครั้งเพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้เดินทางไปโอนที่ดินอย่างที่วางแผนไว้

      ในวันรุ่งขึ้นเพียงฤดีตื่นเช้าด้วยความตื่นเต้นเป็นพิเศษด้วยกลัวว่าเอกสารต่าง ๆ ที่เธอนำมาจะไม่ครบบ้าง การโอนที่ดินจะมีปัญหาบ้าง แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี หญิงสาวจ่ายเงินสองแสนเจ็ดหมื่นกว่าบาทสำหรับที่ดินสองไร่กับสามงานให้เพื่อน ตามที่ตกลงกันไว้ เธอรู้ว่าราคาประเมินไร่ละหนึ่งแสนก็จริงแต่ที่ดินในละแวกนี้ก็สูงกว่าราคาประเมินอยู่พอสมควรเพื่อนขายให้ในราคาประเมินถือว่าใจดีกับเธอที่สุดแล้ว หลังจากจ่ายค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับเจ้าหน้าที่อีกห้าเปอร์เซ็นต์ของราคาประเมินเธอก็เหลือเงินอยู่เพียงไม่มาก

       เพียงฤดีนั่งมองรถจักรยานที่จอดอยู่หน้าบ้าน หลังจากที่นภาธรเดินทางกลับในช่วงบ่ายแก่ ๆ นภาธรพาเธอไปซื้อของอีกหลายอย่างหลังจากที่โอนที่ดินเรียบร้อย ก่อนจะกลับมาส่งเธอที่บ้าน

เธอต้องเปลี่ยนแผนจากซื้อรถจักรยานยนต์มาเป็นจักรยานแทน ด้วยเงินในบัญชีที่เหลือน้อยเต็มที แม้นภาธรบอกว่าจะให้เงินเธอไว้ใช้แต่หญิงสาวปฏิเสธ ด้วยไม่อยากเป็นหนี้ใครตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านใหม่วันแรก

เธอต้องมีเงินเผื่อใช้จ่ายส่วนตัวของเดือนนี้ และเผื่อไว้ให้มารดาหนึ่งหมื่นบาทสำหรับเดือนหน้าด้วย หญิงสาวนั่งมองยอดเงินหนึ่งหมื่นเจ็ดพันบาทบนแอปพลิเคชันธนาคารในสมาร์ตโฟนแล้วถอนใจเบา ๆ

แม้ว่ายอดเงินค่าดาวน์โหลดอีบุ๊กในแพล็ตฟอร์มที่เธอวางขายอยู่นั้นจะมียอดโหลดให้เธอพอได้ลุ้นว่าเดือนหน้ายังจะมีรายได้เข้ามา แต่เดือนนี้ล่ะ เธอจะผ่านมันไปได้อย่างไรโดยใช้เงินให้น้อยที่สุด

       เพียงฤดีสูดหายใจเข้าลึกแล้วเดินเข้าไปในครัว ซึ่งผนังฝั่งหนึ่งก่ออิฐเป็นเคาน์เตอร์สำหรับวางของและอ่างล้างจานไว้แล้ว เธอลงมือทำความสะอาดพื้นที่ในครัว สำรวจของที่อยู่ภายใน เห็นชั้นวางของทำด้วยไม้เก่า ๆ ที่ยังใช้ได้เธอก็ทำความสะอาดเพื่อใช้ต่อไป นอกจากชั้นวางแล้วยังมีเตาอั้งโล่ที่สามารถใช้งานได้

       เธอซื้อของใช้ในครัวมาไว้บางส่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตาไฟฟ้าแบบพกพาที่มาพร้อมหม้อสเตนเลส กาน้ำร้อน ถ้วย จาน ชาม ช้อน กะละมังพลาสติก แก้วน้ำ ถ้วยกาแฟ มีด และเขียงเพื่อให้พอใช้ชีวิตเบื้องต้นไปได้ก่อน เธอจัดทุกอย่างในครัวจนเป็นระเบียบ

ก่อนจะหยิบซองบะหมี่สำเร็จรูปขึ้นมาแกะใส่ถ้วยแล้วรินน้ำร้อนใส่เพื่อกินเป็นมื้อเย็น วันนี้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะทำอาหารรับประทาน

หญิงสาวกวาดตามองห้องโถงที่ว่างเปล่า และพื้นปูนที่แตกร้าว เธอยังไม่ได้เข้าไปห้องอื่นเลยนอกจากห้องนอนทางปีกขวา ห้องโถง ห้องน้ำและห้องครัวที่อยู่ชั้นล่าง เพราะเพียงแค่ทำความสะอาดพื้นที่สี่ห้องนี้เธอก็หมดแรงแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของบ้านค่อยใช้เวลาสำรวจวันหลัง

       หลังจากรับประทานบะหมี่สำเร็จรูปเสร็จจึงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแล้วกลับเข้ามาในห้องนอน ความมืดที่เริ่มเข้ามาปกคลุมทำให้เธอเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา แม้จะบอกเพื่อนว่าอยู่ได้ แต่ใช่ว่าเธอจะไม่กลัว หญิงสาวแข็งใจทำตัวให้ปกติที่สุด แล้วนั่งลงบนที่นอน ก้มลงกราบหมอน ก่อนจะสวดมนต์แล้วอธิฐาน

“คุณปู่คุณย่าคะ เจ้าที่เจ้าทาง หนูเป็นเพื่อนกับนภา ขออนุญาตคุณปู่คุณย่าอาศัยอยู่ที่นี่สักพักนะคะ หนูไม่มีที่ไปแล้วจริง ๆ หนูจะเป็นคนดี ดูแลบ้านอย่างดี ขอบารมีคุณปู่คุณย่าและเจ้าที่เจ้าทางปกปักรักษา ให้ลูกแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ที่นี่อย่างมีความสุขด้วยเถอะนะคะ” เธอกล่าวเสียงไม่ดังนัก แต่เป็นคำกล่าวที่ออกมาจากใจ

หญิงสาวล้มตัวลงนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย ความกลัวทำให้เธอไม่กล้าที่จะปิดไฟนอนในคืนแรก จึงเปิดไฟไว้ทั้งในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องโถง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 3 ห่างกันสักพัก 30%

    ๓ห่างกันสักพัก คีรินขับรถผ่านเส้นทางคดโค้งอย่างระมัดระวัง เส้นทางที่นำเขากลับมาสู่บ้านที่จากมาหลายปี เขาออกจากที่นี่เพื่อไปแสวงหาความก้าวหน้าในเมืองใหญ่ ดวงตาของเขาแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในชีวิตที่ผันแปรอย่างกะทันหัน ‘นิรา คุณเอาเงินของเราไปไว้ที่ไหนหมด’ เขาจำได้ว่ามือและเท้าของเขาชาวูบไปหมด หลังจากเอาสมุดบัญชีไปอัปเดตยอดเงิน แล้วเห็นยอดเงินที่เหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาทติดไว้ในบัญชี ‘นิก็เอาไปลงทุนไงคะคี’ ‘ลงทุน ลงทุนอะไร นี่มันเงินที่ผมเตรียมไว้จัดงานแต่งงานของเรา คุณเอาไปได้ยังไงโดยที่ไม่บอกผมเลยสักคำ’ ‘ก็เทรดคริปโตไงคะ คุณก็เทรดไม่ใช่หรือคะ’ ‘เทรดคริปโต ใช่ผมก็เทรดแต่ไม่ได้เอาเงินก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-30
  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 3 ห่างกันสักพัก 50%

    ‘แจ้งความ! คุณบ้าหรือเปล่าคะ ให้ฉันไปแจ้งความคุณกอล์ฟเหรอ เขาก็เสียหายเยอะเหมือนกัน แถมฉันยังดีลงานถ่ายโฆษณาชิ้นใหม่กับเขาอยู่ ถ้าฉันแจ้งความ งานฉันก็หายจ้อยไปด้วยสิคะ ถ้าได้งานนี้ฉันก็จะได้งานต่อจากเขาอีกยาว ๆ ยอม ๆ ไปเถอะ เงินแค่ห้าล้านเดี๋ยวก็หาใหม่ได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ค้างไว้ฉันจัดการได้ คุณไม่ต้องห่วงหรอก ฉันพอจะมีเงินในบัญชีบริษัทเหลืออยู่บ้าง’‘โอเค งั้นเราเริ่มต้นใหม่ก็แล้วกันนะ พ่อบอกว่าให้เรากลับไปจัดงานแต่งงานกันได้แล้ว ตอนนี้เงินหมดแล้ว เราก็จัดแบบเล็ก ๆ ไปก่อนดีไหม ผมรู้ว่าตอนนี้เงินในบริษัทก็เหลือไม่มาก เรากลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนไหม ผมจะรับงานฟรีแลนซ์สร้างเนื้อสร้างตัวกันใหม่’‘จัดแบบเล็ก ๆ งั้นเหรอ ไม่ค่ะ ถ้าไม่ได้สินสอดห้าล้าน และจัดงานแต่งงานในโรงแรมใหญ่ ๆ นิก็ไม่แต่งหรอกนะคะ อายเพื่อนเปล่า ๆ แล้วเรื่องกลับไปอยู่ที่บ้านคุณน่ะ นิไม่ไปหรอกนะคะ มีแต่ป่าจะทำอะไรได้ กลับไปให้ดูเหมือนชีวิตตกอับ นิจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน บอกตรง ๆ นิอายเพื่อนที่ต้องไปใช้ชีวิตตกต่ำแบบนั้น’‘อายเพื่อน! คำก็อายเพื่อน สองคำก็อา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 3 ห่างกันสักพัก 70%

    ชายหนุ่มขับรถมาเรื่อย ๆ ยิ่งดึกถนนหนทางก็ยิ่งคดเคี้ยว หมอกหนาทึบทำให้เขาขับรถยากยิ่งขึ้น เขาพกหัวใจที่ปวดหนึบกลับมาที่นี่ ตั้งใจว่าจะมาตั้งต้นใหม่อีกครั้งบนที่ดินของตัวเองคีรินหันไปยังทางแยกที่จะเลี้ยวไปบ้านของบิดาซึ่งอาศัยอยู่กับพี่ชาย ทว่าตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง เขาไม่อยากกลับไปหาครอบครัวในเวลาที่สภาพจิตใจย่ำแย่แบบนี้ คืนนี้จะกลับเข้าไปดูบ้านบนที่ดินของตัวเองถ้าสามารถทำความสะอาดเพื่อพักอาศัยได้ก็จะทำตั้งแต่คืนนี้เลย เพราะอย่างไรก็ตามความเครียดที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ ก็ทำให้เขานอนไม่หลับอยู่ดี หากจะทำงานให้เหนื่อยจนหมดแรง แล้วไปนอนหลับตอนเช้า ก็คงจะดีกว่ากลับไปหาบิดามารดาด้วยความรู้สึกแย่ ๆ แบบนี้พอผ่านทางแยกมาเพียงไม่นานหยดน้ำหล่นลงมากระทบกับกระจกด้านหน้ารถดังเปาะแปะ เขาขับต่อไปอย่างระมัดระวัง เพราะเส้นทางที่คดเคี้ยวหากไม่ชำนาญทางอาจเกิดอันตรายได้ แม้จะจำทางได้ดี แต่ด้วยไม่ได้กลับมานานเขาจึงไม่รู้ว่าด้านหน้ามีอันตรายหรือไม่ เพราะบางช่วงของเส้นทางยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอยู่บ้างฝนเริ่มตกหนาตาขึ้น เขาลดความเร็วรถลงมากกว่าเดิม หันมองรอบข้างแทบไม่มีรถขับตา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 3 ห่างกันสักพัก 100%

    “น้องภา ได้เอาใครมาอยู่ที่บ้านพี่หรือเปล่า” เขาถามกลับไปเสียงเข้มเมื่ออีกฝ่ายรับสาย“พี่คีรินรู้ได้ยังไงคะ” เสียงอีกฝ่ายดังแทรกออกมาเพราะเขาเปิดเสียงสมาร์ตโฟนให้เธอได้ยินด้วย“ก็พี่อยู่ที่บ้านนี่ไง ทำไมทำอะไรถึงไม่บอกพี่ก่อน”“โธ่ น้องภาก็จะบอกนั่นแหละค่ะ แต่ไม่คิดว่าพี่คีรินจะกลับบ้านวันนี้นี่คะ นี่น้องภายังขับรถไม่ถึงคอนโดฯ เลยค่ะ เพิ่งจะมาถึงบางแค แล้วพี่คีรินนึกอะไรถึงได้กลับบ้านคะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นอยากจะกลับ เห็นพ่อบอกว่าโทร. ให้กลับบ้านหลายครั้งแล้วก็บอกว่าติดงาน ๆ ตลอด น้องภาก็เลยชะล่าใจ นึกว่ายังไม่กลับนี่คะ ก็เลยให้ยายฤดีพักที่บ้านนั้นก่อน”“แล้วนึกยังไงให้เพื่อนเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว มาอยู่ในบ้านร้างตามลำพังแบบนี้ ไม่รู้หรือไงว่ามันอันตราย”“ก็ยายฤดีเขาอยากอยู่ที่นั่นนี่คะ เขาไปซื้อที่ดินของน้องภา ที่ดินแปลงเล็กน่ะ น้องภาขายให้ยายฤดีไปแล้วนะพี่คีริน อย่าเพิ่งบอกพ่อล่ะ เดี๋ยวนภาจะหาโอกาสบอกพ่อเอง แล้วยายฤดีก็ไม่มีที่พัก ระหว่างรอเงินเดือนออกก็เลยขอเช่าพักที่บ้านพี่คีรินก่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-02
  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 4 เช้าวันใหม่ 20%

    ๔เช้าวันใหม่ เสียงดังกุกกักอยู่ในครัว ทำให้คีรินรู้สึกตัวตื่น เมื่อคืนนี้เขารู้สึกนอนหลับสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คิดว่าอาจจะเป็นเพราะอดนอนด้วยเศร้าเสียใจมาหลายวัน รวมทั้งการขับรถทางไกลที่ทำให้ร่างกายเหนื่อยอ่อน เมื่อกลับมาถึงบ้าน ได้นอนหลับในห้องที่เคยนอนมาตั้งแต่เด็กจึงรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย และหลับลึกได้อย่างง่ายดาย ชายหนุ่มหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดู เป็นเวลาเกือบเจ็ดโมงเช้าแล้ว เสียงที่ดังอยู่ข้างนอก ก็คงเป็นเพื่อนน้องสาวของเขา ที่กำลังทำกับข้าวอยู่ ตอนนี้เธอชื่ออะไรเขาก็จำไม่ค่อยได้แล้วสิ จำได้แค่ว่าเป็นหญิงสาวร่างเล็กบอบบาง หน้าตาเหมือนเด็กมัธยม มากกว่าจะเป็นหญิงสาวรุ่นเดียวกับนภาธรน้องสาวของเขา เพราะขานั้นชอบแฟชั่นและแต่งหน้าจัด แต่เธอคนนี้ดูเรียบง่ายธรรมดา ทว่ากล้าหาญชาญชัยถึงขั้นมาอยู่ตามลำพังในบ้านร้างได้ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งแล้วเรียบเรียงว่า วันนี้เขาจะต้องทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะการซ่อมแซมบ้านอย่างเร่งด่วน ซึ่งต้องใช้เงิน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 4 เช้าวันใหม่ 40%

    บนผนังห้องมีรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 กับพระราชินีที่แขวนไว้บนผนัง ส่วนด้านล่างเป็นภาพชายหญิงวัยกลางคนแขวนคู่กันไว้บนผนัง ซึ่งด้านล่างรูปมีหิ้งซึ่งวางแจกันดอกไม้ที่แห้งเหี่ยว ซึ่งเธอเชื่อว่านี่คงเป็นรูปของเจ้าของบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นคุณตากับคุณยายที่เพื่อนของเธอเล่าให้ฟัง เพียงฤดีเดินไปยกมือไหว้แล้วหยิบแจกันลงมา หันไปบอกเขาว่า“ฤดีเอาแจกันไปเปลี่ยนดอกไม้ให้คุณตาคุณยายนะคะ แล้วเดี๋ยวจะมาช่วยทำความสะอาดพื้นให้ค่ะ แต่ตอนนี้พี่คีรินลงไปทานข้าวก่อนไหมคะ ฤดีทำกับข้าวเสร็จแล้วค่ะ” หญิงสาวว่า“อืม ก็ดี แต่เดี๋ยวพี่อาบน้ำก่อนแล้วกัน” เขาว่าแล้วก็ก้าวลงบันได ก่อนจะเดินออกไปที่รถแล้วหิ้วกระเป๋าเดินทางเข้าไปไว้ในห้องนอนเพียงฤดีถือแจกันดอกไม้ตามลงไปด้านล่าง เธอวางแจกันดอกไม้แล้วล้างจานต่อจนเสร็จ ก่อนจะล้างแจกันวางไว้ แล้วเดินออกไปนอกบ้านหญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดอย่างลึกที่สุด เมื่อเห็นบรรยากาศภายนอกที่มีหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่บนเนินเขาใกล้ ๆ ที่นี่เต็มไปด้วยพื้นที่ที่เป็นเนินเขา ภูเขา และหุบเขา ภูมิประเทศไม่ได้เป็นที่ราบอย่างที่เธอเคยอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 4 เช้าวันใหม่ 60%

    หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เพียงฤดีก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เป็นเสื้อยืดแขนยาวเข้ารูปสีขาวกับกางเกงยีนส์ เพื่อให้เหมาะสมกับการออกไปนอกบ้าน หญิงสาวแต่งหน้าบาง ๆ ไม่ให้ดูซีดเซียวจนเกินไป รวบผมยาวสีน้ำตาลเข้มเป็นหางม้าอย่างง่าย ๆ ก่อนจะเดินออกมาขึ้นรถที่เขาจอดรออยู่เมื่อขึ้นไปบนรถก็เห็นคีรินถือสมุดบัญชีเล่มหนึ่งแล้วยื่นให้กับเธอ เอ่ยว่า“พี่โอนเงินค่ากับข้าวเข้าบัญชีนี้ให้แล้ว เอทีเอ็มกับรหัสก็อยู่ในสมุดนั่นแหละ” หญิงสาวรับมาแล้วเปิดดู เห็นบัตรเอทีเอ็มอยู่หน้าแรกของสมุดบัญชีพร้อมกับกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่จดเลขรหัสหกตัวไว้“เอ่อ ฤดีเอาแค่เอทีเอ็มไปก็ได้ค่ะ” หญิงสาวว่า“ไม่เป็นไร สมุดเล่มนี้พี่ไม่ได้ใช้แล้ว เราก็เก็บไว้แล้วกัน” เขาว่าแล้วก็ขับรถออกไป ตอนแรกตั้งใจว่าจะทิ้งสมุดเล่มนี้ เพราะเห็นแล้วก็เจ็บปวดกับสิ่งที่สูญเสียไป เขามอบให้นิราเก็บรักษาเงินในบัญชีนี้ไว้ด้วยความรักทว่าเธอกลับไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เขามอบให้ แถมยังทิ้งเขาไปยามที่เขาแทบไม่เหลืออะไรอีก เก็บไว้ก็รังแต่จะทำให้เจ็บช้ำใจเปล่า ๆ แต่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 4 เช้าวันใหม่ 80%

    คีรินจอดรถที่หน้าบ้านในตอนบ่ายแก่ ๆ ก่อนจะช่วยกันขนของเข้าบ้าน เขามองนาฬิกาข้อมือแล้วถึงกับอุทานว่า“ตายจริง บ่ายสองกว่าแล้ว พี่ลืมพาแวะกินข้าว ทำไมเราไม่บอกพี่ หิวหรือเปล่าเนี่ย” เขาถามอย่างตกใจ เพราะหากเป็นนิราเธอคงโวยวายด้วยความโมโหหิวไปแล้ว แต่เพียงฤดีเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ แล้วตอบว่า“ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อกี้ฤดีซื้อกับข้าวถุงในตลาดมาด้วย เดี๋ยวเรากินกันก่อนนะคะ ข้าวที่หุงไว้เมื่อเช้ากับต้มยำก็ยังมีค่ะ อิ่มแล้วจะได้เริ่มซ่อมบ้านกัน เมื่อกี้ฝนตก หวังว่าของในห้องคงไม่มีอะไรเสียหาย เพราะตอนก่อนออกมาฤดีเอากะละมังรองไว้แล้วค่ะ” เธอว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างนึกขัน เมื่อนึกถึงท่าทางกอดเข่ามองน้ำที่หยดใส่กะละมังของเธอเมื่อคืนนี้“อืม งั้นเราเอากับข้าวไปไว้ในครัวเถอะ จะได้ตั้งโต๊ะกินข้าว เดี๋ยวพี่ยกของพวกนี้ลงเอง” เขามองกล่องเครื่องมือช่างทั้งหลายที่ขนซื้อมา กับตู้เย็นและเครื่องซักผ้าเพียงฤดีรีบกุลีกุจอขนของกินของใช้จำนวนมากเข้าไปกองไว้ในครัว ก่อนจะเทกับข้าวสองถุงใส่ถ้วยแล้วถือออกไปวางบนโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06

บทล่าสุด

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 100%

    “นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 70%

    หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 50%

    “งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 30%

    ๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 100%

    ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 70%

    งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 30%

    ๒๑ปรับตัวเองง่ายกว่าเพียงฤดีอัดคลิปนิยายเสียงเสร็จก็เดินกลับไปที่บ้านเพื่อช่วยมารดาทำอาหารเย็น ปล่อยให้คีรินได้กลับไปทำงานของเขา ซึ่งช่วงเย็นเขาก็จะมากินข้าวที่บ้านของเธอ เนื่องจากมารดาจะทำกับข้าวไว้ให้ตั้งแต่หทัยรัตน์รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คีรินก็ถือโอกาสไม่กินข้าวตอนเย็นที่บ้านตัวเองอีก จะหิ้วท้องไปนั่งรอกินข้าวที่บ้านของเธอทุกเย็นมีเพียงช่วงเช้าที่เธอจะมาทำอาหารเช้าให้เขาตามปกติ โดยทำเผื่อไปถึงมื้อเที่ยงด้วย และเธอก็กินมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงร่วมกับเขา โดยที่มารดาของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก แต่ช่วงเย็นเธอจะกลับไปช่วยมารดาทำอาหารและรอเขาไปกินด้วยกันเมื่อไปถึงบ้านเธอเห็นนภดลกับมารดานั่งดูสมาร์ตโฟนแล้วคุยอะไรกันอยู่“ดูอะไรเหรอแม็กซ์” เพียงฤดีเดินเข้าไปถาม“ส่องเฟซบีอยู่ ทะเลาะกับพี่ท็อปแล้วโพสต์เฟซด่ากระจาย แถมกรีดข้อมือตัวเองด้วย สยองมาก”“แล้วพี่ท็อปเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็คงเหนื่อยหน่อยน่ะ เมื่อกี้ผมแค่โทร. ไปจะถามว่ามางานแต่งงานพ

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 20 เจ้าของสวนตัวจริง 100%

    เสียงดังที่อยู่ในห้องนอนฝั่งตรงข้าม ทำให้คีรินต้องเงี่ยหูแนบกับประตูแล้วย่นคิ้วเบา ๆ เมื่อมีเสียงแปลก ๆ เหมือนมีคนสองสามคนอยู่ในนั้น เขาจึงตัดสินใจเคาะประตู “ฤดี ฤดี” ไม่มีเสียงตอบ แต่เขาได้ยินเสียงเดินมาเปิดประตู “มีอะไรหรือคะพี่คีริน” หญิงสาวถาม “ฤดีเข้ามาทำอะไรในนี้น่ะ แล้วเมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกัน”“ไม่มีใครค่ะ ฤดีอยู่คนเดียว” เธอว่าพลางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม เขาเดินเข้ามาในห้องนอนของเธอ กวาดตามองไปทั่วห้อง ซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีข้าวของของเธอมากนัก เพราะขนกลับไปไว้ที่บ้านของตัวเองหมดแล้ว เขาเปิดประตูห้องน้ำดูก็ไม่มีใคร ก่อนจะหันมาถาม “เมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกันจริง ๆ นะ แล้วฤดีทำอะไรน่ะ” เขาเห็นไมค์โครโฟนตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานเลยเดินเข้ามาดู

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 20 เจ้าของสวนตัวจริง 70%

    นิรานั่งมองไลฟ์สดในเพจไร่คีรินที่เธอเห็นเอกภพเปิดดู แล้วลองมาเปิดดูเองบ้าง เห็นท่าทางมีความสุขของเขาแล้วเธอถึงกับน้ำตาปรี่ลงมา เขากำลังมีความสุข ธุรกิจใหม่ก็กำลังรุ่งเรืองในขณะที่เธอสูญเสียเขาไปแล้วส่วนกิตติกรหรือกอล์ฟผู้กำกับชื่อดังซึ่งเธอเอาเงินของคีรินไปฝากลงทุนกับเขา และหวังว่าเขาจะดูแลเธอต่อจากคีรินได้เป็นอย่างดีเพราะมีฐานะดีกว่า และสามารถส่งเสริมอาชีพของเธอได้ แต่ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่ลำบากเพราะแม้คีรินจะไม่เอาเรื่อง แต่ก็มีคดีความที่ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ชื่อดัง จึงมีการฟ้องร้องของคู่กรณีคนอื่น ๆอีกทั้งเมื่อเธอมาลองคบกับดนุวัฒน์ไฮโซชื่อดัง ก็กลับกลายเป็นว่าคุณสมบัติของเธอไม่เพียงพอที่จะเป็นสะใภ้ผู้ดีเก่าในสายตามารดาของเขา ความหวังที่จะขึ้นไปอยู่บนที่สูงตกวูบลงมาทันใดตอนนี้มีเพียงบริษัทผลิตละครสั้นเล็ก ๆ ที่เธอขอให้คีรินลงทุนให้เท่านั้น ที่เป็นหลักให้กับชีวิต แต่พอเขาออกไป แฟนคลับของเขาก็ติดตามเขาไปด้วย จนตอนนี้ช่องของเธอมียอดวิวน้อยลงมาก รายได้ก็ลดน้อยลงตาม เอานักแสดงใหม่เข้ามาแทนเขา ก็เข้ากับทีมงานไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status