เมื่อฝากเพื่อนไว้กับเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้วนภาธรก็พาเพื่อนเข้าไปที่บ้าน เมื่อเข้าไปถึง เพียงฤดีก็รีบเข้าไปปัดกวาดพื้นตรงส่วนของห้องนอนที่เธอตั้งใจว่าจะนอนที่ห้องนั้น ก่อนจะหยิบจอบ เสียม พลั่วและอุปกรณ์สำหรับทำการเกษตรสี่ห้าชิ้นลงมาจากรถ เอาพลั่วไปแซะรังปลวกกองโตสี่ห้ากองออกไปจากห้องโถงของบ้าน ปัดกวาดเรียบร้อยก็เอาไม้ถูพื้นมาถู โดยมีนภาธรคอยช่วย
“ทำแค่นี้ก่อนเถอะ ไว้เข้ามาอยู่แล้วค่อยไปทำความสะอาดห้องอื่น ๆ แค่นี้ก็น่าจะอยู่ได้แล้ว” เพียงฤดีว่า เพราะเห็นว่าเพื่อนรักคงจะเหนื่อยไม่น้อยแล้ว
“อือ พรุ่งนี้ฉันค่อยพาแกไปซื้อที่นอนหมอนมุ้งก็แล้วกัน เรากลับรีสอร์ตกันเถอะ ฉันอยากอาบน้ำจะแย่แล้ว อ้อ ฉันลืมไป ห้องน้ำอยู่ด้านหลังติดกับครัวน่ะ เมื่อกี้ฉันเข้าไปเปิดดูแล้ว สภาพเละเทะ แต่น้ำยังไหล ไฟยังสว่าง โถนั่งยอง ๆ แบบสมัยก่อนนะ แกก็ทนใช้ไปก่อนก็แล้วกัน” ผู้เป็นเพื่อนว่า
“ไม่เป็นไรหรอก ไว้พรุ่งนี้ฉันค่อยมาทำความสะอาดห้องน้ำกับห้องครัว มีพื้นที่ให้ใช้งานได้ก่อนแค่นี้ก็ดีมากแล้ว ฉันถือว่าโชคดีแล้วละที่ไม่ต้องไปเช่าบ้านอยู่ไกล ๆ” ว่าพลางเดินออกจากบ้านเพราะใกล้มืดเต็มที
“แล้วแกจะเดินทางไปโน่นมานี่ได้ยังไงล่ะ รถก็ไม่มี” นภาธรถาม
“ไว้โอนที่ดินเสร็จแล้ว เหลือเงินก็ค่อยเอามาซื้อรถมอเตอร์ไซค์สักคัน”
“อืม ก็ยังดี” นภาธรพึมพำก่อนจะขับรถกลับไปที่รีสอร์ต อาบน้ำแต่งตัวแล้วสั่งอาหารของรีสอร์ตมารับประทาน ก่อนจะเข้านอนแล้วหลับเป็นตายไปทั้งสองคน เพราะเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้านในวันแรก รวมกับการขับรถมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วมานอนช่วงเช้าซึ่งไม่ได้เต็มอิ่มนัก
วันต่อมาทั้งสองคนออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่อยู่ในตัวเมืองชุมพร เพื่อเลือกซื้อชุดเครื่องนอนและของใช้ต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น
“ฉันว่าแกเอาตู้เย็นเล็กนั่นไปด้วยดีไหม กำลังลดราคาด้วย” นภาธรถามเพื่อน ด้วยเห็นว่าอยู่ห่างไกลตลาดคงไม่สะดวกจะออกมาซื้อของกินได้บ่อยนัก ตู้เย็นเล็กแบบที่ใช้ในห้องพักของโรงแรม น่าจะเหมาะสำหรับเพียงฤดี ที่อยู่ตามลำพัง ซึ่งน่าจะเก็บของสดไว้กินได้หลายวัน
“มันจะใส่รถแกได้เหรอ ของตั้งเยอะ” เพียงฤดีทำท่าไม่แน่ใจ แม้เธอจะอยากได้ตู้เย็นสักหลังเพื่อความสะดวก แต่รถของเพื่อนก็เป็นรถเก๋งขนาดไม่ใหญ่มากนัก”
“ได้สิ พับเบาะหลังรถลงก็น่าจะวางได้ แกก็ซื้อแค่ที่นอนปิคนิคหมอนผ้าห่ม โต๊ะญี่ปุ่นกับชั้นวางของเล็ก ๆ แค่นี้ใส่รถฉันได้สบาย บอกเลยว่ารถรุ่นของฉันเนี่ยใส่ของได้เยอะอย่างกับรถบรรทุกเลยแหละ” กล่าวอย่างมั่นใจ
ในที่สุดเพียงฤดีก็ได้ของที่ต้องการจนครบ ก่อนจะแวะรับประทานอาหารเที่ยง แล้วซื้อของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับมาที่บ้าน ก่อนจะมาจัดห้องนอนและทำความสะอาดห้องน้ำก็ใกล้ค่ำเต็มที จึงกลับไปพักผ่อนที่รีสอร์ตอีกครั้งเพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้เดินทางไปโอนที่ดินอย่างที่วางแผนไว้
ในวันรุ่งขึ้นเพียงฤดีตื่นเช้าด้วยความตื่นเต้นเป็นพิเศษด้วยกลัวว่าเอกสารต่าง ๆ ที่เธอนำมาจะไม่ครบบ้าง การโอนที่ดินจะมีปัญหาบ้าง แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี หญิงสาวจ่ายเงินสองแสนเจ็ดหมื่นกว่าบาทสำหรับที่ดินสองไร่กับสามงานให้เพื่อน ตามที่ตกลงกันไว้ เธอรู้ว่าราคาประเมินไร่ละหนึ่งแสนก็จริงแต่ที่ดินในละแวกนี้ก็สูงกว่าราคาประเมินอยู่พอสมควรเพื่อนขายให้ในราคาประเมินถือว่าใจดีกับเธอที่สุดแล้ว หลังจากจ่ายค่าโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับเจ้าหน้าที่อีกห้าเปอร์เซ็นต์ของราคาประเมินเธอก็เหลือเงินอยู่เพียงไม่มาก
เพียงฤดีนั่งมองรถจักรยานที่จอดอยู่หน้าบ้าน หลังจากที่นภาธรเดินทางกลับในช่วงบ่ายแก่ ๆ นภาธรพาเธอไปซื้อของอีกหลายอย่างหลังจากที่โอนที่ดินเรียบร้อย ก่อนจะกลับมาส่งเธอที่บ้าน
เธอต้องเปลี่ยนแผนจากซื้อรถจักรยานยนต์มาเป็นจักรยานแทน ด้วยเงินในบัญชีที่เหลือน้อยเต็มที แม้นภาธรบอกว่าจะให้เงินเธอไว้ใช้แต่หญิงสาวปฏิเสธ ด้วยไม่อยากเป็นหนี้ใครตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านใหม่วันแรก
เธอต้องมีเงินเผื่อใช้จ่ายส่วนตัวของเดือนนี้ และเผื่อไว้ให้มารดาหนึ่งหมื่นบาทสำหรับเดือนหน้าด้วย หญิงสาวนั่งมองยอดเงินหนึ่งหมื่นเจ็ดพันบาทบนแอปพลิเคชันธนาคารในสมาร์ตโฟนแล้วถอนใจเบา ๆ
แม้ว่ายอดเงินค่าดาวน์โหลดอีบุ๊กในแพล็ตฟอร์มที่เธอวางขายอยู่นั้นจะมียอดโหลดให้เธอพอได้ลุ้นว่าเดือนหน้ายังจะมีรายได้เข้ามา แต่เดือนนี้ล่ะ เธอจะผ่านมันไปได้อย่างไรโดยใช้เงินให้น้อยที่สุด
เพียงฤดีสูดหายใจเข้าลึกแล้วเดินเข้าไปในครัว ซึ่งผนังฝั่งหนึ่งก่ออิฐเป็นเคาน์เตอร์สำหรับวางของและอ่างล้างจานไว้แล้ว เธอลงมือทำความสะอาดพื้นที่ในครัว สำรวจของที่อยู่ภายใน เห็นชั้นวางของทำด้วยไม้เก่า ๆ ที่ยังใช้ได้เธอก็ทำความสะอาดเพื่อใช้ต่อไป นอกจากชั้นวางแล้วยังมีเตาอั้งโล่ที่สามารถใช้งานได้
เธอซื้อของใช้ในครัวมาไว้บางส่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้า เตาไฟฟ้าแบบพกพาที่มาพร้อมหม้อสเตนเลส กาน้ำร้อน ถ้วย จาน ชาม ช้อน กะละมังพลาสติก แก้วน้ำ ถ้วยกาแฟ มีด และเขียงเพื่อให้พอใช้ชีวิตเบื้องต้นไปได้ก่อน เธอจัดทุกอย่างในครัวจนเป็นระเบียบ
ก่อนจะหยิบซองบะหมี่สำเร็จรูปขึ้นมาแกะใส่ถ้วยแล้วรินน้ำร้อนใส่เพื่อกินเป็นมื้อเย็น วันนี้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะทำอาหารรับประทาน
หญิงสาวกวาดตามองห้องโถงที่ว่างเปล่า และพื้นปูนที่แตกร้าว เธอยังไม่ได้เข้าไปห้องอื่นเลยนอกจากห้องนอนทางปีกขวา ห้องโถง ห้องน้ำและห้องครัวที่อยู่ชั้นล่าง เพราะเพียงแค่ทำความสะอาดพื้นที่สี่ห้องนี้เธอก็หมดแรงแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของบ้านค่อยใช้เวลาสำรวจวันหลัง
หลังจากรับประทานบะหมี่สำเร็จรูปเสร็จจึงเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแล้วกลับเข้ามาในห้องนอน ความมืดที่เริ่มเข้ามาปกคลุมทำให้เธอเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา แม้จะบอกเพื่อนว่าอยู่ได้ แต่ใช่ว่าเธอจะไม่กลัว หญิงสาวแข็งใจทำตัวให้ปกติที่สุด แล้วนั่งลงบนที่นอน ก้มลงกราบหมอน ก่อนจะสวดมนต์แล้วอธิฐาน
“คุณปู่คุณย่าคะ เจ้าที่เจ้าทาง หนูเป็นเพื่อนกับนภา ขออนุญาตคุณปู่คุณย่าอาศัยอยู่ที่นี่สักพักนะคะ หนูไม่มีที่ไปแล้วจริง ๆ หนูจะเป็นคนดี ดูแลบ้านอย่างดี ขอบารมีคุณปู่คุณย่าและเจ้าที่เจ้าทางปกปักรักษา ให้ลูกแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ที่นี่อย่างมีความสุขด้วยเถอะนะคะ” เธอกล่าวเสียงไม่ดังนัก แต่เป็นคำกล่าวที่ออกมาจากใจ
หญิงสาวล้มตัวลงนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย ความกลัวทำให้เธอไม่กล้าที่จะปิดไฟนอนในคืนแรก จึงเปิดไฟไว้ทั้งในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องโถง
๓ห่างกันสักพัก คีรินขับรถผ่านเส้นทางคดโค้งอย่างระมัดระวัง เส้นทางที่นำเขากลับมาสู่บ้านที่จากมาหลายปี เขาออกจากที่นี่เพื่อไปแสวงหาความก้าวหน้าในเมืองใหญ่ ดวงตาของเขาแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในชีวิตที่ผันแปรอย่างกะทันหัน ‘นิรา คุณเอาเงินของเราไปไว้ที่ไหนหมด’ เขาจำได้ว่ามือและเท้าของเขาชาวูบไปหมด หลังจากเอาสมุดบัญชีไปอัปเดตยอดเงิน แล้วเห็นยอดเงินที่เหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาทติดไว้ในบัญชี ‘นิก็เอาไปลงทุนไงคะคี’ ‘ลงทุน ลงทุนอะไร นี่มันเงินที่ผมเตรียมไว้จัดงานแต่งงานของเรา คุณเอาไปได้ยังไงโดยที่ไม่บอกผมเลยสักคำ’ ‘ก็เทรดคริปโตไงคะ คุณก็เทรดไม่ใช่หรือคะ’ ‘เทรดคริปโต ใช่ผมก็เทรดแต่ไม่ได้เอาเงินก
‘แจ้งความ! คุณบ้าหรือเปล่าคะ ให้ฉันไปแจ้งความคุณกอล์ฟเหรอ เขาก็เสียหายเยอะเหมือนกัน แถมฉันยังดีลงานถ่ายโฆษณาชิ้นใหม่กับเขาอยู่ ถ้าฉันแจ้งความ งานฉันก็หายจ้อยไปด้วยสิคะ ถ้าได้งานนี้ฉันก็จะได้งานต่อจากเขาอีกยาว ๆ ยอม ๆ ไปเถอะ เงินแค่ห้าล้านเดี๋ยวก็หาใหม่ได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ค้างไว้ฉันจัดการได้ คุณไม่ต้องห่วงหรอก ฉันพอจะมีเงินในบัญชีบริษัทเหลืออยู่บ้าง’‘โอเค งั้นเราเริ่มต้นใหม่ก็แล้วกันนะ พ่อบอกว่าให้เรากลับไปจัดงานแต่งงานกันได้แล้ว ตอนนี้เงินหมดแล้ว เราก็จัดแบบเล็ก ๆ ไปก่อนดีไหม ผมรู้ว่าตอนนี้เงินในบริษัทก็เหลือไม่มาก เรากลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนไหม ผมจะรับงานฟรีแลนซ์สร้างเนื้อสร้างตัวกันใหม่’‘จัดแบบเล็ก ๆ งั้นเหรอ ไม่ค่ะ ถ้าไม่ได้สินสอดห้าล้าน และจัดงานแต่งงานในโรงแรมใหญ่ ๆ นิก็ไม่แต่งหรอกนะคะ อายเพื่อนเปล่า ๆ แล้วเรื่องกลับไปอยู่ที่บ้านคุณน่ะ นิไม่ไปหรอกนะคะ มีแต่ป่าจะทำอะไรได้ กลับไปให้ดูเหมือนชีวิตตกอับ นิจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน บอกตรง ๆ นิอายเพื่อนที่ต้องไปใช้ชีวิตตกต่ำแบบนั้น’‘อายเพื่อน! คำก็อายเพื่อน สองคำก็อา
๑ทางที่ต้องเลือก เพียงฤดีหญิงสาวร่างบอบบาง นั่งร้องไห้ร่างกายสั่นเทาอยู่ต่อหน้านภาธรเพื่อนสาวคนสนิท เธอลูบแขนเขียวช้ำที่เพิ่งผ่านเรื่องร้าย ๆ มา ภาพในหัววนเวียนอยู่กับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมามารดาโทร. เรียกให้เธอรีบกลับบ้าน บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ทั้ง ๆ ที่เธอจะตั้งใจจะทำโอที หลังจากกลับไปบ้าน ท่านก็บ่นเรื่องเธอกลับช้า ก่อนจะขอเงินหนึ่งหมื่นบาทเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งเธอต้องให้ท่านทุกเดือนอยู่แล้ว แต่ขอเพิ่มอีกห้าพันบาทช่วยจ่ายค่าผ่อนรถให้กับเอกกมลผู้เป็นพี่ชายคนโต ‘แม่คะ แล้วเงินเดือนพี่ท็อปไปไหนหมดล่ะคะ ถ้าเอาไปหมื่นห้าแล้วฤดีจะเอาเงินที่ไหนใช้จ่ายจนกว่าจะสิ้นเดือนล่ะคะ เงินเดือนฤดีแค่สองหมื่นห้าเอง ไหนยังจะต้องให้เงินแม็กซ์ไปมหา’ลัยอีก’ หญิงสาวท้วงเพราะเธอต้องจ่ายเงินค่าใช้จ่ายภายในบ้านให้มารดาหนึ่งหมื่นบาททุกเดือน จะเหลือหนึ่งหมื่นห้าพันบาทไว้ใช้จ่ายส่วนตัวและเป็นเงินที่ต้องจ่ายให้กับนภดลหรือแม็กซ์ผู้เป็นน้องชายที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยสัปดาห์ละหนึ่งพันบาท ก่อนจะเจียดเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้เป็นเงินเก็บส่วนหนึ่ง ซึ่งเธอเองแทบจะไม่พอใช้อยู่แล้ว
“ไม่ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ถ้าฉันยังอยู่พวกเขาก็ต้องตามเจอ ฉันอายุตั้งยี่สิบหกแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย แกยังซื้อคอนโดฯ ซื้อรถได้แล้ว แต่ฉันยังไม่มีอะไรสักอย่าง ฉันอยากไปอยู่ต่างจังหวัด อยากไปที่ไกล ๆ ที่ใครก็ตามหาฉันไม่เจอ” “อ้าว แล้วแกจะทำอะไรกิน จะไปหางานทำต่างจังหวัดเนี่ยนะ” “เปล่า ฉันมีงานของฉันอยู่แล้วแกไม่ต้องห่วงหรอก ขอแค่มีไฟฟ้า มีอินเทอร์เน็ตฉันก็ทำงานได้” “เอาจริงดิ แล้วแกทำงานอะไร งานที่บริษัทแกเขาให้ทำออนไลน์ได้เหรอ” นภาธรเอ่ยถึงตำแหน่งงานพนักงานบัญชีของเพื่อน ซึ่งบริษัทอยู่ไม่ไกลกับคอนโดฯ ของเธอมากนัก “เปล่า ฉันจะลาออก” “ลาออก!!” นภาธรทำตาโตเป็นไข่ห่าน ไม่คิดว่าเพื่อนจะตัดสินใจเช่นนี้ “ใช่ ถ้าฉันไม่ลาออก ฉันก็เริ่มต้นใหม่ไม่ได้ ฉันคิดเรื่องนี้มานานแล้วละ เพียงแต่ยังห่วงแม่ห่วงน้องและหาที่ที่จะไปไม่ได้เท่านั้นเอง” เพียงฤดีตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่ก็ปนความแน่วแน่ในความคิดนั้น “แกมั่นใจเหรอ แกพูดเพราะกำลังตกใจหรือเปล่า บอกฉันได้ไหมแกคิดอะไรอยู่”“ฉันจะเล่าให้แกฟังก็แล้วกัน ว่าฉันต้องการอะไร แกจะหัวเราะฉันเหมื
นั่นสินะ ใครจะหาที่ดินมาขายให้เธอได้ปุบปับเช่นนี้ หญิงสาวนั่งนิ่งอย่างหมดหวัง เพราะหากอยู่ในกรุงเทพฯ ทำงานที่เดิม หรือมาพักกับนภาธร มารดาของเธอก็ต้องตามตัวเจออีกแน่ ๆ เมื่อเพียงฤดีนั่งนิ่ง นภาธรจึงได้แต่ถอนใจเบา ๆ อย่างนึกสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อ “ฉันรู้ว่าแกชอบดูคลิปทำเกษตร ชอบปลูกต้นหมากรากไม้ แต่การทำเกษตรมันไม่ง่ายอย่างที่แกเห็นในคลิปหรอกนะฤดี แกตัวเล็กแค่นี้จะไปทำงานหนัก ๆ ในไร่ในสวนได้ยังไง แถมอยู่ไกลญาติพี่น้องอีก เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาใครจะดูแล ขนาดฉันมีบ้านอยู่ต่างจังหวัดยังทำไร่ทำสวนไม่ไหวเลย”นภาธรว่าพลางมองเพื่อนที่นั่งกอดหมอนอิงน้ำตาไหลนองอยู่บนโซฟาอย่างอดเวทนาไม่ได้ เพียงฤดีคงจะทนไม่ไหวอีกแล้วจริง ๆ เพราะเมื่อสองปีก่อนเธอเคยชวนให้เพื่อนออกจากบ้าน มาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน เพื่อหนีปัญหาที่ถูกครอบครัวคอยรีดไถเงินอยู่เรื่อย เธอก็ห่วงแม่ ห่วงพี่ ห่วงน้องไม่ยอมออกมา แต่คราวนี้ถึงกับอยากหนีไปให้ไกลแสนไกล ไม่อยากให้ใครตามเจอ “ฉันบอกว่าต้องการที่ดินแปลงเล็ก ๆ แค่สองสามไร่ หรือไร่ครึ่งไร่ก็พอ ไม่ได้ต้องการจะไปทำสวนทำไร่เป็นหลัก แค่ให้ฉันได้มีที่อยู่เป็นของตัวเองจริง ๆ ไม่ใ
๒สู่ดินแดนใหม่เพียงฤดีมายืนอยู่บนที่ดินแปลงที่เพื่อนบอกว่าจะขายให้ เธอกวาดตามองโดยรอบอย่างไม่อยากเชื่อว่าที่ดินตรงนี้กำลังจะเป็นของเธอ เพราะบรรยากาศรอบด้านช่างสวยงาม แวดล้อมไปด้วยภูเขา เธอมาถึงที่นี่ในตอนเช้าตรู่ เพราะนภาธรไม่จอดรถที่ไหนเลย จึงได้เห็นบรรยากาศแสนสดชื่นและเย็นสบายในยามเช้า“สวยจังเลยนภา แกโชคดีจังเลยที่มีที่ดินสวย ๆ แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นภาคใต้ มีภูเขา มีหมอกสวยมาก อย่างกับภาคเหนือแน่ะ” เพียงฤดีลืมความหม่นหมองเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นสภาพอากาศโดยรอบ นี่แหละความฝันของเธอ ที่จะมีบ้านอยู่ท่ามกลางภูเขาและเมฆหมอก บรรยากาศในฝันที่เหมาะสำหรับการเขียนนิยายอย่างที่สุด“ที่นี่ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร แกเห็นแล้วใช่ไหมว่ามันห่างไกลมาก ถนนหนทางคดเคี้ยว โชคดีที่ตอนนี้เขาทำถนนใหม่ลาดยางสวยงาม ตอนที่ฉันยังเด็กลำบากกว่านี้เยอะมาก ปู่กับย่าดั้นด้นกันมาจับจองที่ดินที่นี่ส่วนแปลงสองไร่กว่านั่นน่ะ เพื่อนของปู่มาขออยู่ด้วย ปู่เลยยกที่ดินให้สร้างบ้าน ออกโฉนดให้เรียบร้อย คิดว่าจะได้มาอยู่ด้วยกัน แต่อยู่ได้ไม่นานเขาก็อยากขายที่ดินตรงนี้เพื่อเอาเงินไปซื้อแปลงอื่นที่ได้พื้นที่เยอะกว่า ก็เลยเ
“สวยแหละ เป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้เลย แต่ตอนนี้เป็นบ้านที่เก่าและทรุดโทรมที่สุดในละแวกนี้เช่นกัน” นภาธรกล่าวอย่างขำขัน ทว่าคนเป็นเพื่อนไม่ได้เห็นเป็นเรื่องน่าขำเลยแม้แต่น้อย คนไม่เคยมีบ้านเช่นเธอ เห็นมันมีค่าอย่างมหาศาลเลยทีเดียวนภาธรเดินไปยกกระถางต้นไม้ที่มีหญ้าคลุมทับจนแทบไม่เห็นกระถางขึ้นมา แล้วหยิบกุญแจออกมาจากใต้กระถาง ก่อนจะนำไปไขประตู เมื่อเปิดประตูหนูก็วิ่งพรวดออกมา นภาธรวิ่งกระเจิงออกไปทันที เพียงฤดีก็เช่นกัน“เห็นมั้ย ฉันบอกแล้วว่าอยู่ไม่ได้ บ้านปิดทิ้งไว้เกือบสิบปี แกคิดดูสิ จะอยู่ยังไง” นภาธรว่า ใบหน้าซีดเผือดเนื่องจากกลัวหนูยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เดี๋ยวฉันขอเข้าไปดูก่อน” เพียงฤดีว่าแล้วก็ค่อย ๆ เปิดประตูให้กว้างขึ้นกว่าเดิม แล้วเดินเข้าไปในบ้าน เธอยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทางพึมพำไปตามประสา ภายในเต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ บนพื้นมีปลวกขนดินขึ้นมาสร้างรังกองใหญ่อยู่หลายกอง เธอเปิดหน้าต่าง แค่ผลักออกไปเบา ๆ มันก็หลุดออกไปทั้งแผ่น หญิงสาวตกใจรีบหดมือ แล้วไปเปิดประตูห้องฝั่งขวามือที่อยู่ใกล้ทางเข้าบ้าน เป็นห้องขนาดกะทัดรัด ภายในไม่มีเครื่องเรือนใด ๆ เป็นเพียงห้องโล่ง มีหยากไย่จำ