แชร์

บทที่ 3 ห่างกันสักพัก 50%

‘แจ้งความ! คุณบ้าหรือเปล่าคะ ให้ฉันไปแจ้งความคุณกอล์ฟเหรอ เขาก็เสียหายเยอะเหมือนกัน แถมฉันยังดีลงานถ่ายโฆษณาชิ้นใหม่กับเขาอยู่ ถ้าฉันแจ้งความ งานฉันก็หายจ้อยไปด้วยสิคะ ถ้าได้งานนี้ฉันก็จะได้งานต่อจากเขาอีกยาว ๆ ยอม ๆ ไปเถอะ เงินแค่ห้าล้านเดี๋ยวก็หาใหม่ได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ค้างไว้ฉันจัดการได้ คุณไม่ต้องห่วงหรอก ฉันพอจะมีเงินในบัญชีบริษัทเหลืออยู่บ้าง’

‘โอเค งั้นเราเริ่มต้นใหม่ก็แล้วกันนะ พ่อบอกว่าให้เรากลับไปจัดงานแต่งงานกันได้แล้ว ตอนนี้เงินหมดแล้ว เราก็จัดแบบเล็ก ๆ ไปก่อนดีไหม ผมรู้ว่าตอนนี้เงินในบริษัทก็เหลือไม่มาก เรากลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนไหม ผมจะรับงานฟรีแลนซ์สร้างเนื้อสร้างตัวกันใหม่’

‘จัดแบบเล็ก ๆ งั้นเหรอ ไม่ค่ะ ถ้าไม่ได้สินสอดห้าล้าน และจัดงานแต่งงานในโรงแรมใหญ่ ๆ นิก็ไม่แต่งหรอกนะคะ อายเพื่อนเปล่า ๆ แล้วเรื่องกลับไปอยู่ที่บ้านคุณน่ะ นิไม่ไปหรอกนะคะ มีแต่ป่าจะทำอะไรได้ กลับไปให้ดูเหมือนชีวิตตกอับ นิจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน บอกตรง ๆ นิอายเพื่อนที่ต้องไปใช้ชีวิตตกต่ำแบบนั้น’

‘อายเพื่อน! คำก็อายเพื่อน สองคำก็อายเพื่อน คุณเอาเงินผมไปฝากเขาเทรดคริปโตฯ จนผมหมดตัวขนาดนี้แล้ว ยังจะให้ผมต้องหาเงินอีกห้าล้านไปเป็นสินสอดอีกเหรอ ผมจะหาจากที่ไหนทัน ตอนที่ผมพอจะมีเงิน คุณก็ไม่รักษาไว้’

‘ก็ทำงานสิคะ อีกสักสองสามปี ถ้าเร่งมือก็คงจะหาได้หรอก’

‘คุณพูดง่ายจังเลยนิ ห้าล้านนั่นผมเก็บมาตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี บวกกับเงินมรดกที่คุณปู่คุณย่าให้มา ยังใช้เวลาตั้งแปดปี’

‘ก็เพราะคุณเป็นแบบนี้ไงคะ ไม่กล้าได้กล้าเสีย คอยแต่จะเก็บเล็กผสมน้อย ทำอะไรกว่าจะได้ผลงอกเงยถึงได้ใช้เวลาหลายปีแบบนี้ ฉันคิดดูอีกทีถ้าแต่งงานกับคุณไป ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะรวย ฉันว่าบางทีเราแยกกันอยู่สักพักก็แล้วกันค่ะ ถ้าคุณหาเงินห้าล้านได้เมื่อไหร่ค่อยมาขอฉันแต่งงาน’

‘แยกกันสักพักงั้นเหรอ คุณมาขอแยกกันสักพักตอนที่ผมหมดตัวเนี่ยนะ ช่วงนี้คุณดูไม่แคร์ผมเลย หรือข่าวที่ในกองเขาซุบซิบกันว่าคุณกับผู้กำกับละครค่ายใหญ่ไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ เป็นเรื่องจริง’

‘คุณอย่ามากล่าวหาฉันแบบนั้นนะ แต่...ถ้าคุณจะเชื่อคนพวกนั้นก็เรื่องของคุณ ฉันไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก ในเมื่อคุณไม่ไว้ใจ เราก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ที่ฉันต้องการก็คือเราควรจะห่างกันไปสักพัก อยู่ใกล้กันก็มีแต่เรื่องทะเลาะกันเปล่า ๆ น่าเบื่อ มัวแต่หาเรื่องทะเลาะกันแบบนี้ ฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปคิดเรื่องงาน’ ว่าแล้วเธอก็เดินปึงปังออกไป แล้วขับรถคันใหม่ออกไปจากบ้าน ปล่อยให้เขาอยู่กับสมุดบัญชีธนาคารที่ว่างเปล่า

เธอหายออกไปจากบ้านถึงสองวัน เขาโทร. ตามก็ปิดเครื่องหนี เป็นเวลาเดียวกับเมื่อสี่วันวันก่อน บิดาโทร.ตามให้เขามาจัดการเรื่องที่ดินมรดกราวหกสิบไร่ที่ปู่กับย่าของเขาทิ้งไว้ให้

‘คีริน ปีที่ผ่านมาพี่ชายแกขายทุเรียนได้ตั้งสามสิบกว่าล้าน ที่ดินแกตั้งหกสิบกว่าไร่ ทิ้งไว้เปล่า ๆ ถ้าแกไม่กลับมาทำ พ่อว่าจะไถแล้วปลูกทุเรียนให้’

‘ไม่นะครับพ่อ ผมไม่อยากไถที่ที่ปู่กับย่าสร้างมา ทั้งมะพร้าว ผลไม้ ปาล์ม ไหนจะสวนป่าอีก ปู่กับย่าปลูกไว้ทั้งนั้น ผมไม่ไถนะครับ จะเก็บไว้’ เขารีบท้วงอย่างรวดเร็ว เพราะที่ดินแปลงนั้นคือความทรงจำที่เขากับปู่และย่าร่วมกันทำมาด้วยกัน จะไม่ยอมไถเพื่อปลูกทุเรียนอย่างเดียวเด็ดขาด

ที่ดินแปลงของเขาก็มีทุเรียนอยู่บ้าง แม้จะไม่ใช่แปลงทุเรียนใหญ่ทั้งแปลงเหมือนกับของพี่ชาย แต่บนที่ดินแปลงนั้นก็มีทุเรียนอยู่ด้วยหลายสิบต้นเลยทีเดียว ปลูกผสมกันหลากหลายชนิด

เขาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีทุเรียนมากมาย แค่ที่มีอยู่ ถ้าดูแลดี ๆ ก็มีกินมีขายแล้ว แถมยังมีพืชพันธุ์ชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย เขาไม่อยากทำเกษตรเชิงเดี่ยว แต่ชอบความหลากหลายและความร่มรื่นเขียวขจีบนที่ดินผืนนั้น

‘ถ้าแกไม่อยากให้พ่อไถก็รีบกลับมาจัดการซะ มาทำให้ได้ผลประโยชน์งอกเงย วันก่อนพ่อแวะเข้าไป บ้านช่องห้องหับก็โดนปลวกแทะจนจะพังอยู่แล้ว ถ้าแกไม่กลับมา ฉันจะเอารถไปไถปลูกทุเรียนจริง ๆ’

‘ผมขอเวลาสักพักนะครับพ่อ แล้วจะรีบลงไปดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง’ เขารับปากบิดา ก่อนจะโทร.ไปหานิราอีกครั้ง เธอไม่รับสาย จึงเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของเธอ เห็นว่าเพิ่งโพสต์ภาพถ่ายในชุดว่ายน้ำพร้อมกับแคปชั่นว่า

‘โสดอีกทีดีไหม’

ตามด้วยบรรดาเพื่อน ๆ ของเธอที่เข้ามาคอมเมนต์มากมาย เขาเห็นเธอตอบคนโน้นคนนี้ว่ามาถ่ายทำงานที่พัทยา อีกสองวันจะกลับ

เขาจึงทักไปที่กล่องข้อความของเธอ เธออ่านแต่ไม่ตอบ เขาจึงทิ้งข้อความไว้ว่าจะรอเธอที่บ้านอีกสามวัน อยากให้เข้ามาเคลียร์กันอีกครั้ง หากไม่มาเขาจะกลับต่างจังหวัด

ทว่าผ่านไปถึงสี่วันเธอก็ยังไม่กลับเข้ามา เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปจัดการที่ทางของตนเอง เพราะแน่ใจแล้วว่าเธอคงไม่ใช่แค่งอน แต่เพราะอยากจะห่างกับเขาอย่างที่บอกจริง ๆ 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status