๓
ห่างกันสักพัก
คีรินขับรถผ่านเส้นทางคดโค้งอย่างระมัดระวัง เส้นทางที่นำเขากลับมาสู่บ้านที่จากมาหลายปี เขาออกจากที่นี่เพื่อไปแสวงหาความก้าวหน้าในเมืองใหญ่ ดวงตาของเขาแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในชีวิตที่ผันแปรอย่างกะทันหัน
‘นิรา คุณเอาเงินของเราไปไว้ที่ไหนหมด’ เขาจำได้ว่ามือและเท้าของเขาชาวูบไปหมด หลังจากเอาสมุดบัญชีไปอัปเดตยอดเงิน แล้วเห็นยอดเงินที่เหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาทติดไว้ในบัญชี
‘นิก็เอาไปลงทุนไงคะคี’
‘ลงทุน ลงทุนอะไร นี่มันเงินที่ผมเตรียมไว้จัดงานแต่งงานของเรา คุณเอาไปได้ยังไงโดยที่ไม่บอกผมเลยสักคำ’
‘ก็เทรดคริปโตไงคะ คุณก็เทรดไม่ใช่หรือคะ’
‘เทรดคริปโต ใช่ผมก็เทรดแต่ไม่ได้เอาเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นไปเทรด งั้นคุณก็ถอนออกมา ได้เท่าไหร่ก็ช่าง ดีกว่าให้ราคาตกไปมากกว่านี้’ เขารู้ว่าตอนนี้ตลาดการลงทุนคริปโตเคอเรนซีอยู่ในช่วงที่ไม่น่าลงทุนนัก
‘ก็มันถอนไม่ได้อยู่นี่ไงคะ ฉันเอาไปฝากเขาเทรด ตอนนี้ติดต่อไม่ได้เลย แอปพลิเคชั่นก็กดถอนออกไม่ได้’
‘คุณเอาไปฝากเขาเทรด บ้าไปแล้ว ใครเขาทำกัน ทำไมคุณไม่ศึกษาให้ดีก่อน เงินตั้งห้าล้าน ไหนเรายังต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ จะเอาเงินที่ไหน แถมผมยังออกจากงานเพราะคุณว่างานสถาปนิกทำให้ผมไม่มีเวลาให้คุณ ให้ออกมาช่วยคุณที่บริษัท จะสร้างเนื้อสร้างตัวไปด้วยกัน’ คีรินเอ่ยอย่างหัวเสีย
เขาลงทุนเปิดบริษัทผลิตโฆษณาให้กับเธอมาได้ราวสองปีแล้วและเมื่อไม่นานมานี้เธอเริ่มทำละครสั้นด้วย นิราเรียนจบนิเทศศาสตร์และทำงานในวงการละครและภาพยนตร์ เป็นครอบครัวรายได้ปานกลาง แต่เธอมีความฝันที่จะทำงานในวงการบันเทิง จึงไปเป็นตัวประกอบระหว่างเรียนไปด้วย
เธอหวังว่าจะได้บทนางเอกบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้รับ เป็นได้แค่เพื่อนนางเอกหรือตัวรองอันดับหลัง ๆ พอทำนานเข้า ก็มีนักแสดงใหม่มาแข่งมากขึ้น เธอจึงอยากผันตัวเองไปเป็นผู้จัดละครแทน เธออยากทำกิจการเป็นของตัวเอง เขาเห็นว่าเธอมีประสบการณ์ด้านนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว จึงยอมลงทุนให้
ทว่าเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เขาเริ่มมีปัญหาบางอย่างในที่ทำงานที่ทำมาร่วมสิบปี เนื่องจากเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ มีการโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งงานทั้งองค์กร โดยนำคนใหม่มาแทนที่ตำแหน่งเดิมของเขา มีการบีบคนเก่าให้ลาออกด้วยวิธีการต่าง ๆ ทุกคนในองค์กรเริ่มระส่ำระสาย เขาเองก็คิดที่จะหางานใหม่ในตำแหน่งและเงินเดือนที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งเป็นขณะเดียวกับที่นิราก็บอกว่างานในบริษัทที่เขาออกทุนให้ เธอทำคนเดียวไม่ไหวและขาดนักแสดง จึงขอให้เขาลาออกจากงาน มาช่วยงานของเธอ โดยการเป็นนักแสดงละครสั้นที่ถ่ายทำเป็นรายตอนลงช่องยูทูป รวมทั้งทำหน้าที่อื่น ๆ ด้วย ด้วยเขามีบุคลิกหน้าตาดี สามารถจะช่วยเธอทำงานตรงนี้ได้
ตอนนั้นธุรกิจกำลังไปได้ดี ช่องมีคนติดตามเป็นจำนวนมาก อาจจะได้ค่าตอบแทนมากกว่างานประจำอีก เมื่อโดนเซ้าซี้บ่อยเข้าและงานที่ทำอยู่มีปัญหาหนักขึ้น เขาจึงตัดสินใจลาออก ตั้งใจว่าออกมาช่วยงานเธอสักพักจนกว่าจะได้งานใหม่ที่ตัวเองถนัดมากกว่า
แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาก่อน แต่เขาก็เรียนรู้และทำงานร่วมกับเธอได้ดี ด้วยเห็นว่าวางแผนแต่งงานกันมานานแล้วและเธอก็ตั้งใจทำงานดีจนบริษัทเริ่มมีรายได้ เขาจึงยกบัญชีเงินฝากให้เธอเป็นคนเก็บรักษาพร้อมด้วยบัตรเอทีเอ็ม เผื่อเธอมีเหตุจำเป็นต้องใช้ เพราะตอนนี้เขาก็ใช้ชีวิตร่วมกับเธอเหมือนสามีภรรยากันอยู่แล้ว เพียงแค่ยังไม่ได้แต่งงานกันเท่านั้น เขาคิดว่าเธอเป็นคนอยากแต่งงาน คงไม่เอาเงินเหล่านั้นไปใช้จ่ายเหลวไหล แต่เธอกลับทำให้เงินที่เขาเก็บมาตลอดชีวิต เหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาท
‘คีริน คุณอย่ามาโทษฉันนะ ที่ฉันทำก็เพราะอยากให้เราตั้งตัวได้สักที คนในวงการเดียวกับเรา เขามีบ้านหลังใหญ่มีรถหรู ๆ กันทั้งนั้น ฉันเห็นเขาเทรดแล้วได้เงิน ฉันก็ลองบ้าง แล้วมันก็ได้เงินจริง ๆ แป๊บเดียวก็ได้กำไรมาตั้งห้าแสน ก็เลยลงเพิ่มไปจนหมด ใครจะคิดล่ะ ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ที่ฉันต้องฝากเขาเทรดก็เพราะในวงการเขาก็เทรดกันทั้งนั้น ฉันก็อยากมีคอนเนกชันดี ๆ กับผู้จัดละคร กับนักแสดงดัง ๆ เพราะฉันก็อยากเป็นผู้จัดละครช่องใหญ่ ๆ บ้าง ไม่ใช่ทำแต่ละครสั้นลงยูทูปให้คนมองว่าบริษัทเราผลิตแต่งานตลาดล่าง’
“ก็ผมบอกคุณแล้วว่าเราพัฒนาที่งานเราก่อน ทำงานเราให้ดี ให้คนดูชอบ หานักเขียนบทดี ๆ ตากล้องมืออาชีพ ยกระดับงานของเราให้ดีกว่าเดิม เราก็จะเติบโตได้เองโดยไม่ต้องพึ่งใคร
ทำไมต้องรีบร้อนจะดังเร็ว รวยเร็ว ทุกอย่างมันต้องก้าวไปทีละขั้น บริษัทก็เหมือนกับการสร้างบ้าน ที่ฐานต้องแข็งแรงถึงจะเติบโตได้มั่นคง
แล้วต่อไปเราจะทำยังไง ไหนต้องจ่ายค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ไหนจะค่าตัวนักแสดงที่ค้างอยู่และอีกจิปาถะ ทำแบบนี้หลอกลวงชัด ๆ มันเป็นใคร ผมจะไปแจ้งความ” เขาเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว
‘แจ้งความ! คุณบ้าหรือเปล่าคะ ให้ฉันไปแจ้งความคุณกอล์ฟเหรอ เขาก็เสียหายเยอะเหมือนกัน แถมฉันยังดีลงานถ่ายโฆษณาชิ้นใหม่กับเขาอยู่ ถ้าฉันแจ้งความ งานฉันก็หายจ้อยไปด้วยสิคะ ถ้าได้งานนี้ฉันก็จะได้งานต่อจากเขาอีกยาว ๆ ยอม ๆ ไปเถอะ เงินแค่ห้าล้านเดี๋ยวก็หาใหม่ได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่ค้างไว้ฉันจัดการได้ คุณไม่ต้องห่วงหรอก ฉันพอจะมีเงินในบัญชีบริษัทเหลืออยู่บ้าง’‘โอเค งั้นเราเริ่มต้นใหม่ก็แล้วกันนะ พ่อบอกว่าให้เรากลับไปจัดงานแต่งงานกันได้แล้ว ตอนนี้เงินหมดแล้ว เราก็จัดแบบเล็ก ๆ ไปก่อนดีไหม ผมรู้ว่าตอนนี้เงินในบริษัทก็เหลือไม่มาก เรากลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนไหม ผมจะรับงานฟรีแลนซ์สร้างเนื้อสร้างตัวกันใหม่’‘จัดแบบเล็ก ๆ งั้นเหรอ ไม่ค่ะ ถ้าไม่ได้สินสอดห้าล้าน และจัดงานแต่งงานในโรงแรมใหญ่ ๆ นิก็ไม่แต่งหรอกนะคะ อายเพื่อนเปล่า ๆ แล้วเรื่องกลับไปอยู่ที่บ้านคุณน่ะ นิไม่ไปหรอกนะคะ มีแต่ป่าจะทำอะไรได้ กลับไปให้ดูเหมือนชีวิตตกอับ นิจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน บอกตรง ๆ นิอายเพื่อนที่ต้องไปใช้ชีวิตตกต่ำแบบนั้น’‘อายเพื่อน! คำก็อายเพื่อน สองคำก็อา
๑ทางที่ต้องเลือก เพียงฤดีหญิงสาวร่างบอบบาง นั่งร้องไห้ร่างกายสั่นเทาอยู่ต่อหน้านภาธรเพื่อนสาวคนสนิท เธอลูบแขนเขียวช้ำที่เพิ่งผ่านเรื่องร้าย ๆ มา ภาพในหัววนเวียนอยู่กับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมามารดาโทร. เรียกให้เธอรีบกลับบ้าน บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ทั้ง ๆ ที่เธอจะตั้งใจจะทำโอที หลังจากกลับไปบ้าน ท่านก็บ่นเรื่องเธอกลับช้า ก่อนจะขอเงินหนึ่งหมื่นบาทเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งเธอต้องให้ท่านทุกเดือนอยู่แล้ว แต่ขอเพิ่มอีกห้าพันบาทช่วยจ่ายค่าผ่อนรถให้กับเอกกมลผู้เป็นพี่ชายคนโต ‘แม่คะ แล้วเงินเดือนพี่ท็อปไปไหนหมดล่ะคะ ถ้าเอาไปหมื่นห้าแล้วฤดีจะเอาเงินที่ไหนใช้จ่ายจนกว่าจะสิ้นเดือนล่ะคะ เงินเดือนฤดีแค่สองหมื่นห้าเอง ไหนยังจะต้องให้เงินแม็กซ์ไปมหา’ลัยอีก’ หญิงสาวท้วงเพราะเธอต้องจ่ายเงินค่าใช้จ่ายภายในบ้านให้มารดาหนึ่งหมื่นบาททุกเดือน จะเหลือหนึ่งหมื่นห้าพันบาทไว้ใช้จ่ายส่วนตัวและเป็นเงินที่ต้องจ่ายให้กับนภดลหรือแม็กซ์ผู้เป็นน้องชายที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยสัปดาห์ละหนึ่งพันบาท ก่อนจะเจียดเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้เป็นเงินเก็บส่วนหนึ่ง ซึ่งเธอเองแทบจะไม่พอใช้อยู่แล้ว
“ไม่ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ถ้าฉันยังอยู่พวกเขาก็ต้องตามเจอ ฉันอายุตั้งยี่สิบหกแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย แกยังซื้อคอนโดฯ ซื้อรถได้แล้ว แต่ฉันยังไม่มีอะไรสักอย่าง ฉันอยากไปอยู่ต่างจังหวัด อยากไปที่ไกล ๆ ที่ใครก็ตามหาฉันไม่เจอ” “อ้าว แล้วแกจะทำอะไรกิน จะไปหางานทำต่างจังหวัดเนี่ยนะ” “เปล่า ฉันมีงานของฉันอยู่แล้วแกไม่ต้องห่วงหรอก ขอแค่มีไฟฟ้า มีอินเทอร์เน็ตฉันก็ทำงานได้” “เอาจริงดิ แล้วแกทำงานอะไร งานที่บริษัทแกเขาให้ทำออนไลน์ได้เหรอ” นภาธรเอ่ยถึงตำแหน่งงานพนักงานบัญชีของเพื่อน ซึ่งบริษัทอยู่ไม่ไกลกับคอนโดฯ ของเธอมากนัก “เปล่า ฉันจะลาออก” “ลาออก!!” นภาธรทำตาโตเป็นไข่ห่าน ไม่คิดว่าเพื่อนจะตัดสินใจเช่นนี้ “ใช่ ถ้าฉันไม่ลาออก ฉันก็เริ่มต้นใหม่ไม่ได้ ฉันคิดเรื่องนี้มานานแล้วละ เพียงแต่ยังห่วงแม่ห่วงน้องและหาที่ที่จะไปไม่ได้เท่านั้นเอง” เพียงฤดีตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่ก็ปนความแน่วแน่ในความคิดนั้น “แกมั่นใจเหรอ แกพูดเพราะกำลังตกใจหรือเปล่า บอกฉันได้ไหมแกคิดอะไรอยู่”“ฉันจะเล่าให้แกฟังก็แล้วกัน ว่าฉันต้องการอะไร แกจะหัวเราะฉันเหมื
นั่นสินะ ใครจะหาที่ดินมาขายให้เธอได้ปุบปับเช่นนี้ หญิงสาวนั่งนิ่งอย่างหมดหวัง เพราะหากอยู่ในกรุงเทพฯ ทำงานที่เดิม หรือมาพักกับนภาธร มารดาของเธอก็ต้องตามตัวเจออีกแน่ ๆ เมื่อเพียงฤดีนั่งนิ่ง นภาธรจึงได้แต่ถอนใจเบา ๆ อย่างนึกสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อ “ฉันรู้ว่าแกชอบดูคลิปทำเกษตร ชอบปลูกต้นหมากรากไม้ แต่การทำเกษตรมันไม่ง่ายอย่างที่แกเห็นในคลิปหรอกนะฤดี แกตัวเล็กแค่นี้จะไปทำงานหนัก ๆ ในไร่ในสวนได้ยังไง แถมอยู่ไกลญาติพี่น้องอีก เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาใครจะดูแล ขนาดฉันมีบ้านอยู่ต่างจังหวัดยังทำไร่ทำสวนไม่ไหวเลย”นภาธรว่าพลางมองเพื่อนที่นั่งกอดหมอนอิงน้ำตาไหลนองอยู่บนโซฟาอย่างอดเวทนาไม่ได้ เพียงฤดีคงจะทนไม่ไหวอีกแล้วจริง ๆ เพราะเมื่อสองปีก่อนเธอเคยชวนให้เพื่อนออกจากบ้าน มาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน เพื่อหนีปัญหาที่ถูกครอบครัวคอยรีดไถเงินอยู่เรื่อย เธอก็ห่วงแม่ ห่วงพี่ ห่วงน้องไม่ยอมออกมา แต่คราวนี้ถึงกับอยากหนีไปให้ไกลแสนไกล ไม่อยากให้ใครตามเจอ “ฉันบอกว่าต้องการที่ดินแปลงเล็ก ๆ แค่สองสามไร่ หรือไร่ครึ่งไร่ก็พอ ไม่ได้ต้องการจะไปทำสวนทำไร่เป็นหลัก แค่ให้ฉันได้มีที่อยู่เป็นของตัวเองจริง ๆ ไม่ใ
๒สู่ดินแดนใหม่เพียงฤดีมายืนอยู่บนที่ดินแปลงที่เพื่อนบอกว่าจะขายให้ เธอกวาดตามองโดยรอบอย่างไม่อยากเชื่อว่าที่ดินตรงนี้กำลังจะเป็นของเธอ เพราะบรรยากาศรอบด้านช่างสวยงาม แวดล้อมไปด้วยภูเขา เธอมาถึงที่นี่ในตอนเช้าตรู่ เพราะนภาธรไม่จอดรถที่ไหนเลย จึงได้เห็นบรรยากาศแสนสดชื่นและเย็นสบายในยามเช้า“สวยจังเลยนภา แกโชคดีจังเลยที่มีที่ดินสวย ๆ แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นภาคใต้ มีภูเขา มีหมอกสวยมาก อย่างกับภาคเหนือแน่ะ” เพียงฤดีลืมความหม่นหมองเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นสภาพอากาศโดยรอบ นี่แหละความฝันของเธอ ที่จะมีบ้านอยู่ท่ามกลางภูเขาและเมฆหมอก บรรยากาศในฝันที่เหมาะสำหรับการเขียนนิยายอย่างที่สุด“ที่นี่ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร แกเห็นแล้วใช่ไหมว่ามันห่างไกลมาก ถนนหนทางคดเคี้ยว โชคดีที่ตอนนี้เขาทำถนนใหม่ลาดยางสวยงาม ตอนที่ฉันยังเด็กลำบากกว่านี้เยอะมาก ปู่กับย่าดั้นด้นกันมาจับจองที่ดินที่นี่ส่วนแปลงสองไร่กว่านั่นน่ะ เพื่อนของปู่มาขออยู่ด้วย ปู่เลยยกที่ดินให้สร้างบ้าน ออกโฉนดให้เรียบร้อย คิดว่าจะได้มาอยู่ด้วยกัน แต่อยู่ได้ไม่นานเขาก็อยากขายที่ดินตรงนี้เพื่อเอาเงินไปซื้อแปลงอื่นที่ได้พื้นที่เยอะกว่า ก็เลยเ
“สวยแหละ เป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้เลย แต่ตอนนี้เป็นบ้านที่เก่าและทรุดโทรมที่สุดในละแวกนี้เช่นกัน” นภาธรกล่าวอย่างขำขัน ทว่าคนเป็นเพื่อนไม่ได้เห็นเป็นเรื่องน่าขำเลยแม้แต่น้อย คนไม่เคยมีบ้านเช่นเธอ เห็นมันมีค่าอย่างมหาศาลเลยทีเดียวนภาธรเดินไปยกกระถางต้นไม้ที่มีหญ้าคลุมทับจนแทบไม่เห็นกระถางขึ้นมา แล้วหยิบกุญแจออกมาจากใต้กระถาง ก่อนจะนำไปไขประตู เมื่อเปิดประตูหนูก็วิ่งพรวดออกมา นภาธรวิ่งกระเจิงออกไปทันที เพียงฤดีก็เช่นกัน“เห็นมั้ย ฉันบอกแล้วว่าอยู่ไม่ได้ บ้านปิดทิ้งไว้เกือบสิบปี แกคิดดูสิ จะอยู่ยังไง” นภาธรว่า ใบหน้าซีดเผือดเนื่องจากกลัวหนูยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เดี๋ยวฉันขอเข้าไปดูก่อน” เพียงฤดีว่าแล้วก็ค่อย ๆ เปิดประตูให้กว้างขึ้นกว่าเดิม แล้วเดินเข้าไปในบ้าน เธอยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทางพึมพำไปตามประสา ภายในเต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ บนพื้นมีปลวกขนดินขึ้นมาสร้างรังกองใหญ่อยู่หลายกอง เธอเปิดหน้าต่าง แค่ผลักออกไปเบา ๆ มันก็หลุดออกไปทั้งแผ่น หญิงสาวตกใจรีบหดมือ แล้วไปเปิดประตูห้องฝั่งขวามือที่อยู่ใกล้ทางเข้าบ้าน เป็นห้องขนาดกะทัดรัด ภายในไม่มีเครื่องเรือนใด ๆ เป็นเพียงห้องโล่ง มีหยากไย่จำ
เมื่อฝากเพื่อนไว้กับเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้วนภาธรก็พาเพื่อนเข้าไปที่บ้าน เมื่อเข้าไปถึง เพียงฤดีก็รีบเข้าไปปัดกวาดพื้นตรงส่วนของห้องนอนที่เธอตั้งใจว่าจะนอนที่ห้องนั้น ก่อนจะหยิบจอบ เสียม พลั่วและอุปกรณ์สำหรับทำการเกษตรสี่ห้าชิ้นลงมาจากรถ เอาพลั่วไปแซะรังปลวกกองโตสี่ห้ากองออกไปจากห้องโถงของบ้าน ปัดกวาดเรียบร้อยก็เอาไม้ถูพื้นมาถู โดยมีนภาธรคอยช่วย “ทำแค่นี้ก่อนเถอะ ไว้เข้ามาอยู่แล้วค่อยไปทำความสะอาดห้องอื่น ๆ แค่นี้ก็น่าจะอยู่ได้แล้ว” เพียงฤดีว่า เพราะเห็นว่าเพื่อนรักคงจะเหนื่อยไม่น้อยแล้ว “อือ พรุ่งนี้ฉันค่อยพาแกไปซื้อที่นอนหมอนมุ้งก็แล้วกัน เรากลับรีสอร์ตกันเถอะ ฉันอยากอาบน้ำจะแย่แล้ว อ้อ ฉันลืมไป ห้องน้ำอยู่ด้านหลังติดกับครัวน่ะ เมื่อกี้ฉันเข้าไปเปิดดูแล้ว สภาพเละเทะ แต่น้ำยังไหล ไฟยังสว่าง โถนั่งยอง ๆ แบบสมัยก่อนนะ แกก็ทนใช้ไปก่อนก็แล้วกัน” ผู้เป็นเพื่อนว่า “ไม่เป็นไรหรอก ไว้พรุ่งนี้ฉันค่อยมาทำความสะอาดห้องน้ำกับห้องครัว มีพื้นที่ให้ใช้งานได้ก่อนแค่นี้ก็ดีมากแล้ว ฉันถือว่าโชคดีแล้วละที่ไม่ต้องไปเช่าบ้านอยู่ไกล ๆ” ว่าพลางเดินออกจากบ้านเพราะใกล้มืดเต็มที “แล