“มาเถอะค่ะ พี่สุ่นจะพาไปที่ห้องคุณแพท มีของอะไรอีกมั้ยคะ”
ภาวนาส่ายหน้าช้าๆ ยี่สุ่นถอนหายใจอีกครั้งแล้วยิ้มให้อย่างจริงใจก่อนจะลุกขึ้นพาสมาชิกใหม่ หรือจะเรียกให้ถูกก็คือ ทาส คนใหม่ของบ้านไปยังห้องของเจ้านายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ ขี้โวยวาย เข้มงวด และทรงเสน่ห์มากที่สุด..
ภาวนาเดินไปยังเรือนเล็กในสวนตามที่คุณเพทายบอกไว้ด้วยความรู้สึกหนักอึ้งเธอรู้ดีว่าสิ่งที่กำลังเผชิญนั้นคืออะไร และก็ได้แต่ภาวนาว่าให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เธอมีชีวิตใหม่แล้ว มีคนปกป้องให้พ้นจากคนชั่ว มีที่ซุกหัวนอน มีข้าวให้กินสามมื้อ และมารดาได้รับการรักษาที่ดี คิดบวกสิคิดบวก หญิงสาวเฝ้าบอกตัวเองเช่นนั้น แม้จะไม่มั่นใจเลยว่าจะคิดบวกได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งท่าทางของภาวนานั้นคุณเพทายเฝ้าสังเกตตั้งแต่หญิงสาวเดินเข้ามาแล้ว
“เอาล่ะ มารับรู้สิ่งที่เธอจะต้องทำในบ้านนี้เสียทีนะภาวนา”
คุณเพทายเอกเขนกอิงหมอนใบสวยด้วยท่าทางสบายๆ ปากพูดแต่สายตาจับจ้องอยู่ที่หนังสือในมือ ภาวนานั่งลงกับพื้นอย่างสงบเสงี่ยมจนเมื่อผู้สูงวัยกว่าเหลืบตามองเธอลอดแว่นก่อนที่นางจะลุกนั่งตัวตรง
บรรยากาศในเรือนรับรองโล่งโปร่งสบายตาด้วยเป็นเรือนที่มีหน้าต่างบานกว้างยาวจรดพื้นลมอ่อนๆ พัดเย็นสบายทั้งวันและยังหอมสดชื่นด้วยกลิ่นดอกไม้ต่างๆ ที่ปลูกสลับกันอย่างลงตัว ภาวนาสังเกตว่าที่นี่เหมือนบ้านสวนเก่าที่ถูกปรับปรุงปลูกไม้ดอกไม้ประดับเพิ่มเติมเข้ามาให้สวยงามน่าอยู่เธอเห็นต้นมะม่วงและต้นชมพู่ ส้มโออยู่ตลอดแนวรั้วและทางเดินปูอิฐงดงาม
“เธอจะต้องทำอาหารเช้าให้ฉันทุกเช้า ฉันจะกินข้าวประมาณหกโมงเช้าไม่เกินเจ็ดโมงเช้า ตาแพทจะไปทำงานก่อนแปดโมง และรับของว่างเวลาสิบโมง จะกินมื้อเที่ยง เที่ยงตรง รับของว่ายามบ่ายบ่ายสองโมง ตอนเย็นเราจะกินข้าวพร้อมหน้าหกโมงเย็นไม่เกินหนึ่งทุ่ม.. นี่แค่เรื่องอาหารนะ ยังมีงานอื่นๆ นอกเหนือจากการทำอาหารอีกก็คือ เธอต้องทำความสะอาดบ้านทั้งหลังร่วมกับสาวใช้คนอื่นๆ และทำงานในสวนนี้ด้วย ตัดหญ้ารดน้ำต้นไม้พรวนดินใส่ปุ๋ยตัดแต่งกิ่ง ทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานสวนโดยห้ามไม่ให้ใครมาช่วย เข้าใจที่พูดรึเปล่า”
“เข้าใจค่ะ”
“หวังว่าคงทำได้”
“ค่ะ ทำได้ค่ะ”
หญิงสาวรับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นใบหน้าที่คุณเพทายยอมรับกับตัวเองว่าหญิงสาวผู้นี้สวยหวานปนโศกนั้นนิ่งสนิทราวกับยอมรับชะตากรรมของตนเองทำให้ใจอันรุ่มร้อนด้วยความคับแค้นใจของนางสั่นไหวอย่างประหลาด ก่อนที่นางจะรีบตัดความรู้สึกนั้นออกไปใบหน้าที่ยังคงความงดงามแม้วัยร่วงเลยมากว่าห้าสิบปีเชิดขึ้น
“เอาล่ะ ช่วงนี้ชั้นค่อนข้างปวดเมื่อยอยากได้หมอนวด นวดเป็นมั้ย”
“เป็นค่ะ”
“นวดฝ่าเท้าล่ะเป็นมั้ย”
“เป็นค่ะ พราวเคยเรียน” คำของหญิงสาวทำให้นางประหลาดใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็ทำเพียงยิ้มบางๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็นวดให้หน่อยนะ เสร็จแล้วก็ไปตัดกิ่งกำแพงโมกข์ตรงโน้นให้ฉันหน่อยกิ่งมันเริ่มเกะกะแล้ว”
“ค่ะ แต่ขอพราวไปเตรียมของสักครู่ได้ไหมคะ”
“เธออยากได้อะไร”
“ผ้าขนหนูกับน้ำมันนวดค่ะ น้ำมันพราวมีแต่ผ้าขนหนูพราวว่าจะไปขอจากพี่ยี่สุ่น” หญิงสาวตอบอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
“ไปสิ รีบไปรีบมาล่ะ” ภาวนาเดินเข่าออกไปช้าๆ คุณเพทายมองตามร่างเล็กบอบบางของ ลูกสะใภ้ ไปอย่างพินิจพิเคราะห์
ความจริงแล้วในสายตาของนางนั้นภาวนาเป็นคนสวยเลยทีเดียวแต่ทำไมถึงได้มีสภาพซอมซ่อแต่งตัวราวกับเด็กหนุ่มทั้งที่คนอย่างอาภานั้นรักสวยรักงามและแต่งตัวเก่งพอตัว สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันอาภาเป็นดาวคณะเลยทีเดียวการแต่งเนื้อแต่งตัวสวยก็เนี้ยบกว่าใคร จริงอยู่แม้ว่าตอนนี้ฐานะของอาภากับเชษฐาไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเมื่อก่อนแต่อาภาไม่น่าจะปล่อยปละละเลยลูกสาวที่มีแววสะสวยไม่เป็นรองใครแบบนี้ ทรงผมก็เหมือนหนูแทะทุเรศลูกตา เสื้อผ้ารึก็เก่าคร่ำครึแม้มันจะสะอาดสะอ้านก็เถอะแต่ดูโดยรวมแล้วภาวนาดูมอมแมมทั้งที่มีเชื้อสายชาติตระกูลที่ดี
“หึ คงเอาแต่เที่ยวสนุกสนานจนไม่มีเวลาดูแลลูกสินะ สุดท้ายก็คงพากันเข้าบ่อนจนหมดเนื้อหมดตัวล่ะสิ เอ.. แล้วเชษฐาไปไหนของเขานะ ทำไมไม่เห็นอยู่กับลูกเมียทั้งที่เขายังไม่เลิกกัน มันต้องมีอะไรสักอย่าง..”
คุณเพทายคิดวุ่นวายใจอยู่คนเดียว แต่เหนือส่งอื่นใด การแก้แค้นคือสิ่งที่อยู่ในใจนางมาเสมอ สิบปีแก้แค้นไม่สายและนางก็รอเวลานี้มานานเหลือเกิน..
มือเล็กทว่ากร้านงานนวดเฟ้นเบาๆ ไปตามเท้าเรียวของคุณเพทายกดนวดหนักเบาอย่างระมัดระวัง สร้างความพอใจให้กับคุณเพทายยิ่งนัก ซึ่งนางไม่คิดเลยว่ามือเล็กๆ ของลูกคนที่ตนเกลียดจะทำให้รู้สึกดีและผ่อนคลายมากขนาดนี้ ดวงตางามหลับพริ้มแสนสบาย สบายกว่านวดในร้านสปาที่ไปเป็นประจำเสียอีก
“เสร็จแล้วค่ะ คุณท่านจะให้พราวทำอะไรตรงนี้อีกมั้ยคะ” เสียงนุ่มของภาวนาทำให้คุณเพทายลืมตาขึ้นช้าๆ สีหน้าค่อนไปทางรำคาญ เหมือนว่าหญิงสาวรบกวนเวลาพักผ่อนของนางกระนั้น
“ไปใส่ปุ๋ยต้นไม้ตรงนู้นไป กระสอบปุ๋ยขี้ไก่อยู่ที่ห้องเก็บของตรงนั้นเห็นไหม” นางชี้ไปยังโรงเรือนเล็กๆ ที่บ่งบอกว่าเป็นห้องเก็บของ
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแล้วเดินเลี่ยงไปอย่างรู้งาน ไม่มีท่าทีอิดออดหรือกระฟัดกระเฟียดอย่างเช่นสาวๆ สมัยใหม่บางคนชอบทำเมื่อถูกใช้ให้ทำงานไร่งานสวนหรืออะไรที่ไม่ถูกจริตพวกเจ้าหล่อน แต่สิ่งที่ภาวนาแสดงออกคือยอมรับและทำอย่างไม่เกี่ยงงอน อาจจะเป็นเพราะไม่มีทางเลือกภาวนาถึงได้เป็นแบบนี้ คุณแพทายคิดในใจขณะมองร่างเล็กๆ หิ้วถังใส่ปุ๋ยและเข็นรถเข็นที่บรรจุถุงใส่ปุ๋ยขี้ไก่ไปตามทางเพื่อตักใส่ต้นไม้ทีละต้น ต้นไหนที่รถไปไม่ถึงเธอก็ตักใส่ถังไปหญิงสาวทำทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่ว และเมื่อมองเผินๆ จากตรงนี้เหมือนว่าภาวนาเป็นเด็กผู้ชายเสียมากกว่าเป็นหญิงสาว ยิ่งทำให้คุณเพทายรู้สึกขบขันอยู่ไม่น้อย นี่นางคิดถูกแล้วสินะที่พาภาวนามาที่นี่เพื่อให้มาอยู่ในฐานะของภรรยาแพทริก แล้วท่าทางแบบนี้จะให้ลูกชายของนางสนใจได้อย่างไร ท่าทางนิ่งๆ เงียบๆ จะทันเล่ห์เหลี่ยมผู้หญิงของแพทริกหรือ แล้วจะสู้รบปรบมือกับเจ้าหล่อนพวกนั้นได้อย่างไรหนอตัวก็เล็กนิดเดียว แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ ถ้าภาวนาจะโดนสาวๆ พวกนั้นถล่ม ถ้าภาวนาจะต้องเจ็บปวดโดนข่มเหงรังแก นั่นไม่ใช่หรือสิ่งที่ตนต้องการคุณเพทายถอนใจเบาๆ กับตัวเอง
ตอนที่5.พอใส่ปุ๋ยต้นไม้ให้กับ แม่สามี แล้วภาวนาก็ต้องรีบล้างไม้ล้างมือเดินไปยังห้องครัวด้วยความรีบร้อน ทำให้ชนกับหญิงสาวแต่งตัวสวยปราดเปรียวคนหนึ่งจนตัวเธอเองกระเด็นล้มไม่เป็นท่าอยู่กับพื้นหญ้า“ว้าย เดินยังไงกันยะไม่ดูรึไงว่าฉันเดินอยู่ตรงนี้”หญิงสาวคนนั้นหันมาเท้าสะเอวยืนค้ำหัวเธอน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ใบหน้าที่แต่งมาอย่างดีบิดเบ้จนน่าขันแต่ภาวนาไม่มีอารมณ์ขัน“คุณต่างหากที่เดินไม่ดูคนที่นี่บ้านคนนะคะไม่ใช่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ภาวนาลุกขึ้นปัดเศษดินออกจากตัวแล้วจะเดินผ่านไป หากหญิงสาวคนนั้นไม่เรียกจิกเธอไว้เสียก่อน“หยุดนะนังขี้ข้า ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลยนะยะ”“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมฉันต้องขอโทษด้วย หากจะขอโทษเราก็ต้องขอโทษซึ่งกันและกัน” ภาวนาไม่ยอมแพ้ แม้ภายนอกเธอจะดูเงียบๆ หงอๆ แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครรังแกได้ง่ายๆ หากเธอจะยอมเธอก็ยอมให้กับแค่บางคนและบางครั้งเท่านั้น“แต่แกเป็นขี้ข้าแกต้องขอโทษฉัน ฉันเป็นเมียเจ้าของบ้านนี้นะรู้เอาไว้ด้วย”คำพูดนี้ทำให้ภาวนายิ้มบางๆ กอดอกมองหญิงสาวที่แต่งตัวได้ไร้รสนิยมใจความคิดของตน เพราะนอกจากจะไม่สวยแล้วยังเหมือนว่าเจ้าหล่อนเอาเศษผ้าขาดๆ มาพั
ตอนที่6.ภาวนายังคงติดใจในคำพูดของผักหวานอยู่ไม่น้อย เกี่ยวกับเรื่องการ แก้แค้น ของคุณเพทาย ส่วนป้าอร่อยนึกขันคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองสวย“อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ มันก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย คุณพราวทำอาหารเป็นไหมคะ มาช่วยป้าทางนี้ดีกว่า” ป้าอร่อยตัดบททำให้ภาวนาจำต้องเดินไปหานาง“พราวทำอาหารเป็นค่ะและชอบทำมาก พราวอยากเป็นเชฟในโรงแรมหรือร้านอาหารใหญ่ๆ ค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อได้พูดถึงความฝันของตนเองและวางเรื่องที่ผักหวานพูดไปชั่วคราว“ดีเลยค่ะ วันนี้เราจะทำอะไรกันดีคะ มีปลากะพง ผักบุ้ง กะทิแล้วก็ผักอีกสองสามอย่าง”“คุณเพทายชอบกินอะไรคะ”“คุณท่านชอบอาหารไทยๆ โดยเฉพาะเมนูปลาค่ะ อาหารที่ไม่มีกะทิ แต่คุณแพทชอบแกงกะทิแต่ไม่ชอบกินหวานและในบ้านไม่มีใครกินเนื้อวัวหรือสัตว์ใหญ่ค่ะ” พี่กระจิบบอก“อ้อ.. ค่ะ” ภาวนารับรู้แล้วหันไปคุยกับป้าอร่อยเรื่องอาหารอย่างถูกคอหลังจากที่ทำอาหารเย็นเสร็จแล้วก็เป็นเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาเศษๆ ภาวนารู้สึกเหนียวตัวและอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะวันนี้ตั้งแต่มาถึงเธอก็ได้ทำงานตลอดทั้งวันจนเหงื่อท่วมตัวแต่เธอไม่รู้จะบอกใคร หรือทำอย่างไรในเมื่อสิ่งที่ค้างคาใจอยู่นั้นมันทำให้เธอนั่งหงอ
ตอนที่7.“หยุด.. อย่าคิดแม้แต่จะเข้ามาทำอะไรที่ไม่เข้าท่า ถ้าไม่อยากเจอดี”น้ำเสียงและแววของภาวนาเข้มจัด ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ก็ทำให้ผักหวานไม่กล้าเข้ามามีเพียงลิซ่าเท่านั้นที่กรีดร้องโวยวายด้วยความเจ็บปวดและเจ็บใจ“กรี๊ดนังบ้า แกปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บนะ”“ปล่อยน่ะปล่อยแน่” พูดจบภาวนาก็ผลักลิซ่าเต็มแรงจนหน้าไถลไปกับพื้นดีที่เจ้าหล่อนเอามือยันพื้นได้ทันก่อนที่ใบหน้าสวยเพราะศัลยกรรมจะแหกเพราะกระแทกกับพื้นปูอิฐหยาบๆ“ไปกันเถอะค่ะพี่ยี่สุ่น” ภาวนาเดินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยี่สุ่นจึงรีบก้าวตามไป ปล่อยให้ลิซ่ากับผักหวานนั่งมองด้วยความเดือดดาล“เจ็บใจนัก ฉันจะฟ้องแพทคอยดู”“ฟ้องเลยค่ะคุณลิซ่ามันมาทีหลังคุณนะคะ คุณแพทไม่มองมันหรอกค่ะ คุณแพทต้องเชื่อคุณลิซ่าและลงโทษมัน” ผักหวานยุส่งแล้วประคองลิซ่าขึ้นมาจากพื้นภาพการปะทะกันระหว่างลิซ่ากับภาวนานั้นอยู่ในสายตาของคุณเพทายตลอด นางมองดูตั้งแต่ภาวนาเดินคุยกันไปตามทางแล้วเจอกับลิซ่าที่ดักรออยู่ จริงๆ แล้วนางเองก็คิดว่าภาวนาจะถูกลิซ่ากับผักหวานรุมแน่นอน แต่แล้วก็กลายเป็นว่ามันผิดคาด และการกระทำของภาวนาทำให้คุณแพทายยิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยๆ
ตอนที่8.น้ำเสียงหาเรื่องอย่างเห็นได้ชัด ภาวนาลอบถอนใจเบาๆ ด้วยความเอือมระอา เธอเคยได้ยินเสียงแบบนี้ของบิดายามที่เรียกจิกมารดานี่เธอจะต้องมาเจอคนแบบเดียวกันกับคนที่เกลียดแสนเกลียดอย่างนั้นหรือ“ขอโทษค่ะ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วไม่คิดว่าเธอจะเอ่ยปากขอโทษเขาง่ายๆ แบบนี้ แต่มันยังไม่พอสำหรับเขา“เอ่ยปากขอโทษเฉยๆ แค่นี้เหรอ”ภาวนากัดริมฝีปากด้านในจนรู้สึกเจ็บ หญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาว่างเปล่าไม่ตอบโต้และไม่สนใจว่าเขาจะเป็นอย่างไรร่างเล็กเดินเร็วๆ ลงบันไดไปโดยไม่เหลียวหลังสร้างความขุ่นเคืองให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก“ยายเด็กบ้าเอ๊ย”แพทริกสบถตามหลังไปแล้วเดินกลับเข้าห้องปิดประตูอย่างแรง ป้าอร่อยซึ่งยืนรอภาวนาอยู่สะดุ้งตกใจมองตามร่างเล็กที่เดินลิ่วๆ ลงบันไดมาอย่างเห็นใจ“ขอโทษที่ให้รอนะคะป้า” หญิงสาวยิ้มให้บางๆ“ไม่เป็นไรค่ะ เราไปกันเถอะค่ะ”ทางด้านแพทริกที่เข้ามาในห้องก็ยังคงหัวเสียอยู่ไม่หาย ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มมองไปที่เตียงกว้างที่มันดูเรียบตึงเหมือนไม่มีใครใช้งานมันแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ“แล้วเมื่อคืนยายมอมแมมนั่นนอนที่ไหน อย่าบอกนะว่านอนบนพื้น” ชายหนุ่มมองเตียงกว้างแล้วกวาดตามองไปรอ
ตอนที่9.“ก็ใช่ไง งานแต่งที่ไม่ใช่งานแต่ง แต่ให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเมียลูกแค่นั้น คิดเหรอว่าแม่จะให้ผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างแม่ภาวนามาเป็นสะใภ้หรือให้ใช้นามสกุลเรา ไม่ใช่แค่ภาวนานะ แต่หมายถึงผู้หญิงที่ลูกควงๆ อยู่ทุกคนไม่มีสิทธิ์ด้วย”คุณเพทายน้ำเสียงจริงจังแพทริกจึงยกกาแฟขึ้นจิบเพื่อกลบเกลื่อนไป สองแม่ลูกคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นระหว่างรออาหารเช้าซึ่งทุกวันคุณเพทายจะต้องมานั่งที่นี่เพื่ออ่านหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็เดินออกไปที่สวนดูต้นไม้ใบหญ้า หรือบางครั้งก็จะเก็บดอกมะลิมาร้อยมาลัย แม้คุณเพทายจะไปใช้ชีวิตอยู่สวิสเซอร์แลนด์และอังกฤษตามสามี แต่นางก็ยังคงรักความเป็นไทยและใช้ชีวิตแบบวิถีไทยและสอนให้แพทริกรักในสายเลือดไทยด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ชายหนุ่มจะพูดภาษาแม่ได้ชัดเจน“คุณแม่ต้องการอะไรครับถึงได้ให้ภาวนาเข้ามาเป็น เอ่อ เป็นเมียผม คุณแม่ก็น่าจะรู้ว่าเธอไม่ใช่รสนิยมผมเลย”“แม่แค่ทำตามความต้องการของตัวเองเท่านั้นล่ะ ลูกจะไม่รักไม่อะไรกับแม่ภาวนาก็ไม่เป็นไรนี่ จะโขลกสับจะด่าว่าอะไรก็แล้วแต่ลูก ภาวนาเป็นสมบัติของลูก แพทจะทำอะไรกับเธอก็ได้..” พูดโดยไม่มองหน้าแพทริกส่ายหน้ายิ้มๆ“ผมไม่เข้าใจ.. แต
ตอนที่10.“รีบทำงานให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมงนี้นะ เพราะฉันมีงานให้เธอทำต่อ..”พูดจบร่างสูงก็เดินออกไป ภาวนาถอนหายใจเฮือกใหญ่มองกระดาษที่ปลิวออกจากกล่องที่ล้มเอียงกะเท่เร่อยู่กับพื้นพรมอย่างเศร้าสร้อยหญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ วันนี้เธอจะต้องทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดไม่ให้มีงานค้างเพราะเธอจะต้องไปเยี่ยมแม่ โชคดีที่คุณเพทายยังพอมีเมตตาต่อเธอบ้างด้วยการอนุญาตให้เธอไปเยี่ยมแม่ได้ทุกเย็นหลังจากทำอาหารเย็นแล้ว เธอจะอยู่กินข้าวหรือไม่พวกเขาไม่เคยสนใจอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่เธอเองก็ต้องการ ยิ่งไม่สนใจเธอเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะมันทำให้เธอได้มีเวลาของตัวเองบ้างหลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันภาวนารีบยกกล่องลงมาที่ห้องเก็บของใต้บันไดด้านหลังตึกใหญ่ห้องเก็บของที่แพทริกพูดถึงนั้นใหญ่กว่าบ้านหลังเล็กของเธอที่อยู่ก่อนหน้านี้อีก มีชั้นเก็บของมั่นคงแข็งแรงและยังสะอาดสะอ้านอีกด้วย นี่ละนะบ้านมหาเศรษฐีจะทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมด ภาวนารีบจัดการเอกสารตามที่เขาสั่งโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างแต่แล้วก็มีสิ่งมาดึงดูดความสนใจเธอเสียก่อน“นี่หล่อน..” เสียงเรียกแบบจิกหัวดังขึ้นเป็นช่วงเวลาพอดีที่เธอเก็บเอกสารเข้าแฟ้มเก็บอั
ตอนที่11.“คุณท่านคะ ช่วยผักหวานด้วยค่ะ นัง เอ่อ คุณพราวน่ะสิคะ ทำร้ายแขกคุณแพทแล้วยังขังพวกเราไว้ในห้องเก็บของด้วยค่ะ”“ก็ถ้าแกไม่ไปยุ่งกับเขาก่อน เขาจะยุ่งกับแกเหรอนังผักหวาน”“นี่พี่ผักบุ้ง น้องตัวเองโดนรังแกนะ ยังจะไปปกป้องคนอื่นอีก” ผักหวานแหวใส่พี่สาวอย่างลืมตัว“พอทั้งสองคนนั่นล่ะ แล้วนี่หล่อนมาได้ยังไงกันแม่โรซี่”คุณเพทายกอดอกมองโรซี่อย่างไม่ชอบใจพลางปรายตามองลูกชายตัวดีซึ่งหันมายิ้มแหยๆ ให้มารดา“แม่ไม่ชอบเลยนะแพทที่ผู้หญิงของลูกมาวุ่นวายที่บ้าน นี่ไปก่อเรื่องที่บริษัทไม่พอใช่ไหม นี่ยังเห็นหัวแม่กันอยู่รึเปล่า”คุณเพทายถามเสียงเขียวไม่พอใจรุนแรงที่ผู้หญิงของลูกชายเริ่มล้ำเส้นมากเกินไป“โธ่.. คุณแม่ครับ ผมไม่ได้ให้เธอมาหาผมเลยนะครับ อีกอย่างผมก็ไม่เคยคิดจริงจังกับพวกเธอเลย คุณแม่ก็รู้”“ใช่.. แม่รู้ แต่ผู้หญิงพวกนั้นเขาไม่ได้คิดเหมือนลูกนี่นา เขาคิดตรงกันข้ามบอกไว้เลยนะอย่าให้มีเหตุการณ์แบบวันนี้อีก และหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้หญิงของลูกมาวุ่นวายที่นี่ หากยายพวกนั้นจะตบตีแย่งชิงลูกก็บอกให้พวกหล่อนไปไกลๆ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่ของเทเลอร์” คุณเพทายพูดอย่างจริงจังทั้งน้
ตอนที่12.“พราวกำลังจะไปหาพี่เอกนะคะ รอแป๊บเดียวค่ะ”“ครับ พี่รอพราวมาตั้งแต่สองวันที่แล้วแล้วครับ” ทางปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า ภาวนาหัวเราะเบาๆ รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเขา“ค่ะ อีกยี่สิบนาทีพราวไปถึงประตูบ้านนะคะ”พูดจบหญิงสาวก็โบกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วบอกให้ไปยังจุดหมายของเอทันที ยี่สิบนาทีพอดิบพอดีกับที่เธอบอกไว้ภาวนาก็มายืนหน้าบ้านหลังใหญ่ที่เจ้าของบ้านเปิดประตูต้อนรับทันทีเช่นกัน“โอ้โห.. นี่ยี่สิบนาทีเป๊ะเลย” เป็นเอกชายหนุ่มวัยสามสิบเอ็ดปี รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาไม่เป็นรองใครซ้ำยังโสดมั่นคงทั้งฐานะการเงินและการงาน การศึกษาระดับมหาบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่หล่อเหลาครบสูตรแบบนี้เขาก็ยังไม่มีคนรักเสียทีจนใครๆ ต่างก็คิดว่าเขาชอบไม้ป่าเดียวกันแต่เป็นเอกไม่เคยใส่ใจคำนินทาของใคร“ก็บอกแล้วพราวไม่เคยพลาดเรื่องเวลา”“จ้ะแม่คุณมาเถอะ มาฝึกมือกันได้แล้ว หายหน้าไปสองวันมือตกแล้วมั้ง..” แล้วหนุ่มสาวก็เดินคุยกันอย่างเริงร่าเข้าบ้านไป..เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ภาวนารู้สึกอึดอัดจนคิดว่าอากาศบนโลกนี้มันน้อยนิดเสียเหลือเกิน หญิงสาวค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดไปช
ตอนที่62. อวสานภาวนามองลูกน้อยที่หลับไปแล้วอย่างเป็นสุขใจ มือบางลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบของตนเองเบาๆ เมื่อกำลังจะมีอีกชีวิตกำเนิดขึ้นมา“แม่กลับมาอยู่กับพราวอีกนะคะ” หญิงสาวภาวนานึกถึงมารดาเมื่อเธอสังหรณ์ใจว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกสาว“อ้วก..” เสียงโอ้กอ้ากของสามีที่อยู่ในห้องน้ำทำให้เธอหันไปมองแล้วรีบเดินเข้าไปหาคนที่ก้มหน้าก้มตาอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย“พี่แพทยังไม่หายอีกเหรอคะ พราวว่าเรียกพี่เมนี่มาดูดีกว่ามั้ยคะว่าเป็นอะไร”“ไม่ต้อง พี่ไม่เป็นไรมาก” บอกด้วยเสียงแหบโหยร่างใหญ่นั่งแหมะอยู่กับพื้นด้วยท่าทางอ่อนแรงน่าสงสาร ภาวนาเช็ดหน้าเช็ดตาให้สามีแล้วประคองพาร่างสูงมายังเตียงกว้าง แพทริกล้มตัวลงนอนพลางเกี่ยวร่างเล็กของเธอตามลงไปด้วย“อุ้ย พี่แพท พี่ไม่สบายอยู่นะคะ ซนจริงเชียว” ดุสามีไม่จริงจังนักก๊อกๆ “พี่ยี่สุ่นเองนะคะ เอายาหอมมาให้ค่ะ” ภาวนามองสามีดุๆ แล้วเดินไปเปิดประตูให้พี่ยี่สุ่นที่ยืนอยู่กับคุณเพทาย“คุณแพทดีขึ้นรึยังหนูพราว”“ยังเลยค่ะคุณแม่ไม่รู้เป็นอะไรมากไหมจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป จะเรียกพี่เมนี่มาก็ไม่เอา คนอะไรยังกับเด็กๆ ดื้อกว่าน้องพีทอีกค่ะ”ภาวนาบ่นสามีแล้วเดินไปนั่งข้
ตอนที่61.หญิงสาวแย้งแล้วสูดปากด้วยความเสียวซ่านเมื่อนิ้วแกร่งสะกิดปุ่มเกสรสาวแล้วนำพานิ้วเล็กของเธอไล้วนสอดไซ้เข้าออกในกลีบกายนุ่มเบาๆ เหมือนให้เธอหยอกเย้ากับตัวเอง ทั้งมือหนาก็นำพามือเล็กอีกข้างฟอนเฟ้นอกอวบไปด้วย ภาวนามองภาพสะท้อนในกระจกอย่างซ่านรัญจวนใจภาพในกระจกที่สะท้อนภาพร่างอรชรขาวกระจ่างของเธอตัดกับผิวสีน้ำตาลเข้มคร้ามงดงามของเขาอย่างเห็นได้ชัด ภาวนาครางเบาๆ ในลำคอหญิงสาวมองสบตาคมเข้มด้วยไฟปรารถนาในกระจกอย่างเอียงอายในขณะที่มือน้อยค่อยๆ ทำตามที่แพทริกกระซิบบอก หญิงสาวเคล้นคลึงอกอวบของตนไปตามจังหวะที่เขานำพาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจกับบทรักใหม่ที่น่าลิ้มลองและเมื่อเขาละมือออกไปเธอก็บีบเฟ้นอกอวบของตนด้วยจังหวะที่กำหนดเอง ส่วนมือเล็กที่กำลังสอดไซ้ในกลีบดอกไม้ของตนก็เช่นกัน ภาวนาสอดนิ้วเข้าออกและฟอนเฟ้นร่างของตนอย่างเสียวซ่านสุดใจกับจังหวะที่ตนปรารถนา ในขณะที่แพทริกจูบไซ้ผิวกายละมุนอย่างหลงใหลมองเธอช่วยตัวเองอย่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน“อะ พี่แพทขา...” หญิงสาวครางดังเมื่อชายหนุ่มยกเรียวขางามข้าง
ตอนที่60.“อา โอ้ววว พราวจ๋า ดีเหลือเกิน...”แพทริกครางออกมาอย่างซ่านใจแล้วดันแก่นกายเข้าไปลึกๆ เพียงครั้งเดียวจนสุดลำแกร่ง หนุ่มสาวครางออกมาพร้อมกันเสียงดัง ก่อนจะโยกโย้สะโพกเข้าหากันด้วยจังหวะเร่าร้อน เสียงเนื้อกระทบกันผสานกับเสียงครางระงมของหนุ่มสาวดังก้องไปทั่วห้องทำงานโอ่อ่า โต๊ะที่ว่าแข็งแรงยังลั่นเอี๊ยดอ๊าดๆ ยามที่เขากระแทกกายเข้าหาร่างสาวอย่างเมามันยิ่งสร้างอารมณ์เร่าร้อนให้กับคนทั้งสองมากขึ้นภาวนาครางพลิ้วหลับตาแน่นเด้งสะโพกรับแรงกระแทกของเขาอย่างเมามันเร่าร้อน ทรวงสาวกระเพื่อมไหวตามแรงโยกคลึง แพทริกยื่นมือไปบีบเคล้นมันอย่างมันมือ พร้อมทั้งสอดเสยแก่นกายเข้าหาร่างเล็กแรงเร็วขึ้นๆ“โอ้ววว พราวจ๋าชอบมั้ยครับที่รัก อา มันสุดๆ เลยเมียจ๋า ไม่ไหวแล้ว.” แพทริกครางกระหึ่มกระหน่ำแรงโรมรันอย่างแรงร้อน“พราวก็ไม่ไหวแล้วค่ะ พี่แพทขา อ๊ะ อ้ายยยย... / โอ้วววว...”เสียงครางของหนุ่มสาวกับเสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องแพทริก กระแทกแก่นกายจนลึกล้ำก่อนจะพ่นลาวารักร้อนๆ เข้าส
ตอนที่59.“น้องพีทหลับแล้วเหรอครับ” แพทริกมองภรรยาที่กำลังเก็บของเล่นน้องพีทเข้ากล่องหลังจากที่เจ้าตัวเล็กเล่นซนจนห้องทำงานของเขาเกลื่อนกลาดด้วยของเล่นนานาชนิด“ค่ะ กว่าจะหลับได้พราวแทบแย่ซนเหลือเกิน”ภาวนาหันมายิ้มหวานให้ขณะมือเล็กเก็บตุ๊กตาไดโนเสาร์เข้ากล่องร่างเล็กก้มๆ เงยๆ อยู่กับกล่องของเล่นลูกชายจอมซนที่ผู้เป็นพ่อจัดแจงแต่งห้องทำงานโอ่อ่าของตนที่สำนักงานใหญ่ให้มีมุมเด็กเล่นสำหรับลูกชายซึ่งน้องพีทก็ดูจะชื่นชอบเสียด้วย“อืม.. แบบนี้พราวก็น่าจะพักผ่อนได้แล้วนะ ให้พี่นวดให้ไหมครับ”ปากถามแต่แววตาที่เฝ้ามองร่างเล็กในชุดเดรสสายเดี่ยวชีฟองสีหวานลายดอกไม้เล็กๆ สั้นเสมอเข่ามนที่เปิดเผยผิวเนื้อเนียนสวยเปล่งปลั่งน่ามอง ซึ่งหากออกไปข้างนอกเขาจะให้ภาวนาสวมเสื้อคลุมเพราะไม่อยากให้ใครมองผิวสวยๆ ของเธอ แต่เมื่ออยู่กันสามคนพ่อแม่ลูกเขาอยากจะจับเธอถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเสียด้วยซ้ำ คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ซ่อนยิ้มเจ้าเล่ห์วางเอกสารที่ถือออกมาจากห้องประชุมไว้บนโต๊ะทำงาน
ตอนที่58.“พราวไม่ได้จะหนีไปไหนคะ พี่แพทเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าคะ”หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยสรรพนามที่ทำให้คนฟังใจชื้นขึ้นมาแต่เขาก็ยังคงคุกเข่าอยู่และกอดขาเธอไว้เพราะกลัวเธอหนีไป“แต่พราวกำลังจะไป.. กำลังจะหนีพี่ไป”“พราวเปล่าเสียหน่อย พราวกำลังจะกลับบ้านค่ะ บ้านของพ่อน้องพีท..”“บ้าน บ้านที่ไหน.. บ้านพ่อน้องพีท..”แพทริกขมวดคิ้วทวนคำพูดเธออย่างงุนงง แล้วใบหน้าหล่อเหลาที่หมองคล้ำด้วยความเศร้าโศกมากว่าสามเดือนสว่างไสวขึ้นทันตา“โอ.. พราว.. ขอบคุณ ที่รัก ขอบคุณเหลือเกิน..” แพทริกกอดเธอแน่นทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่“พี่แพทลุกขึ้นเถอะค่ะ พราวเขินนะคะ” หญิงสาวบอกเขายิ้มๆ ใบหน้านวลแดงก่ำเมื่อป้าสินกับพี่น้อยเดินมาเยี่ยมๆ มองๆ อยู่หน้าบ้าน“เอ่อ.. หนูพราวจะให้พี่น้อยไปส่งที่ไหนคะ”ในที่สุดพี่น้อยซึ่งยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าบ้านก็ร้องถามทั้งป้าสินก็อยากรู้ว่าชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าภาวนาคือใครจึงสะกิด
ตอนที่57.ในขณะเดียวกันลิซ่าที่บอกว่าไปเอาน้ำมาให้คุณเพทายนั้นกำลังยืนมองแผ่นหลังงองุ้มด้วยความเศร้าสร้อยของคุณเพทายด้วยความชิงชัง เธอไม่ได้หวังดีขนาดจะตามหาตัวภาวนาขนาดนั้น ที่เธอเลือกที่นี่ก็เพราะมันเหมาะที่สุดสำหรับแผนการบางอย่าง...จริงๆ แล้วลิซ่ากำลังวางแผนจะกำจัดคุณเพทายออกไปให้พ้นทางต่างหาก เธอรู้ดีว่าแพทริกนั้นรักและเชื่อฟังมารดาของเขาแค่ไหน และหากคุณเพทายบอกอะไรเขาก็พร้อมจะทำตาม ซึ่งหากไม่มีคุณเพทายแล้วแพทริกก็ต้องการใครสักคนมาปลอบใจและเมื่อเขายังตามหาภาวนากับลูกไม่เจอ เธอก็จะใช้โอกาสนี้ล่ะเข้ามาในชีวิตของแพทริกและจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาสนใจเธอ ไม่ใช่ว่าลิซ่าจะรักแพทริกมากขนาดทำเพื่อเขาได้ทุกอย่าง แต่เพราะเธออยากเอาชนะและอยากจะแก้แค้นเอาคืนคุณเพทายที่เคยหลอกใช้เธอต่างหากนังแก่นั่นจะต้องได้รับบทเรียนที่แสนแพง.. หญิงสาวมองคนที่นั่งบนวีลแชร์ด้วยแววตากร้าวกระด้างส่วนคุณเพทายนั้นกำลังมองหาภาวนาอย่างมีความหวัง แม้นางจะไม่ค่อยสบายแต่เพราะอยากเจอภาวนาจึงออกมากับลิซ่าด้วยความหวังแรงกล้า โดยไม่รู้ว่าบัดนี้ล้อรถวีลแช
ตอนที่56.“ก็แล้วแต่จะคิด เพราะฉันเองก็แค่หวังดีเห็นว่าแพทกำลังลำบาก ในฐานะเคยเป็นเพื่อน สนิท กันมาก ก็อดห่วงไม่ได้นี่นา”ลิซ่ายังคงพูดด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้และยังเหยียดยิ้มอย่างเหนือกว่าเมทินีกัดฟันกรอดใบหน้าสวยแดงก่ำ“เราไปกันเถอะค่ะคุณเมนี่”ยี่สุ่นซึ่งเดินตามหลังมารีบบอกแล้วดึงแขนเมทินีผ่านหน้าลิซ่าไปเพราะไม่อยากให้เกิดการทะเลาะอะไรกันมากกว่านี้“ทำเป็นพูดดีกันไปเถอะ พวกผู้ดีจอมปลอมแล้วจะรู้สึก” ลิซ่าพูดตามหลังอย่างชิงชังแววตาวาววับภาวนาวางลูกน้อยลงบนเปลสี่เหลี่ยมสีฟ้าสดใสแล้วแกว่งเบาๆ ให้เจ้าตัวน้อยหลับสบายแล้วจึงละมือจากเปลไปจัดขนมใส่ถุงตามที่ลูกค้าสั่งไว้ สามเดือนมานี้เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบในหมู่บ้านเล็กๆ แถบชานเมืองซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ไปไหนไกลเลยและก็เชื่อว่าแพทริกจะมองข้ามตรงนี้ไป ซึ่งมันก็จริงดังที่คิด ภาวนารู้ดีว่าเขาออกตามหาเธอกับลูกทุกวัน เธอเองก็แอบมองเขาอยู่ทุกวันด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน หลายครั้งที่อยากจะกลับไปหาเขากับทุกๆ
ตอนที่55.“น่าสงสารพราวนะคะ หนีไปแบบนี้ไม่รู้จะไปอยู่อย่างไร”“พี่เชื่อว่าพราวเอาตัวรอดได้ แต่คนที่นี่น่ะสิ จะรอดไหมหากไม่กินไม่นอน..”เป็นเอกถอนใจเมื่อเข้ามาในห้องรับแขกซึ่งแพทริกกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับเอกสารและจอโน้ตบุ๊กเพื่อหาข้อมูลข่าวสารของภาวนากับลูก ยี่สุ่นบอกว่าแพทริกจะอยู่แบบนี้ทุกวันพอดูข้อมูลต่างๆ จากเอกสารที่นักสืบให้มาแล้วก็จะออกไปตามหาภาวนากับลูกและจะกลับเข้าบ้านก็เป็นเวลาดึกๆ บางวันก็กลับมาตอนสว่างและไม่ค่อยกินอะไร“สวัสดีค่ะพี่แพท พักบ้างรึยังคะเนี่ย”“อ้าวเมนี่ เอก.. มาแต่เช้าเลย” แพทริกลูบหน้าของตนเบาๆ ท่าทางดูอ่อนระโหยโรยแรงเหลือเกิน“ใช่เรามาแต่เช้าแล้วคุณล่ะ เช้านี้กินอะไรรึยัง”เป็นเอกถามอย่างเป็นห่วงแล้วเอากล่องอาหารที่เขาทำเองมาวางตรงหน้าแพทริกซึ่งมันเป็นอาหารที่ภาวนามักทำให้เขารับประทานเสมอตอนอยู่ที่ร้าน มันเป็นของโปรดแพทริกที่ภาวนาคิดคำนวณแล้วว่าคนที่มีเวลาน้อยและทำแต่งานอย่างเขากินแล้วจะได้รับสารอาหารครบถ้วน
ตอนที่54.เป็นเอกมองภาวนาอย่างหนักใจ แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อคำพูดของลิซ่าตามที่ภาวนาเล่าให้ฟังนักแต่การกระทำหลายๆ อย่างที่ผ่านมาของคุณเพทายก็ทำให้เขาสับสนไม่แพ้กัน แต่เมื่อทุกอย่างกระจ่างแล้ว คุณเพทายก็รู้แล้วว่าสาเหตุที่แม่ของภาวนาแย่งคู่หมั้นของตัวเองไปนั้นเพราะอะไรและวันที่แม่ของภาวนาเสียชีวิตทุกอย่างมันก็จบลงแล้วเขาไม่คิดว่าสิ่งที่คุณเพทายกับแพทริกทำจะแอบแฝงแผนการอะไร“พราวคิดมากไปรึเปล่า เรื่องมันกระจ่างแล้วไม่มีใครติดค้างใคร พราวก็เห็นนี่ว่าคุณเพทายดูเสียใจมากแค่ไหนที่พราวพูดแบบนั้น”“แล้วใจพราวละคะ มีใครคิดถึงใจของพราวบ้าง มีใครเห็นใจพราวบ้าง แม้ว่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดแต่พราวก็คือคนที่สูญเสีย พราวไร้บ้าน แม่ก็ตายพ่อก็ติดเหล้าไม่เป็นผู้เป็นคน พราวไร้ญาติขาดมิตร หากพราวไม่มีพี่เอกไม่ได้ชนะการประกวดพราวก็ไม่มีอะไรเลย พี่เอกคิดว่าพวกเขาอยากจะได้ผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างพราวไปร่วมใช้นามสกุลเขาเหรอคะ คุณเพทายเคยพูดกับพราวเรื่องนี้มาก่อนค่ะ ว่าพราวไม่ใช่คนที่เขาเลือกและพราวไม่มีทางได้ใช้นามสกุลหรือร่วมวงศ์ตระกู