ภาวนายังคงติดใจในคำพูดของผักหวานอยู่ไม่น้อย เกี่ยวกับเรื่องการ แก้แค้น ของคุณเพทาย ส่วนป้าอร่อยนึกขันคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองสวย
“อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ มันก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย คุณพราวทำอาหารเป็นไหมคะ มาช่วยป้าทางนี้ดีกว่า” ป้าอร่อยตัดบททำให้ภาวนาจำต้องเดินไปหานาง
“พราวทำอาหารเป็นค่ะและชอบทำมาก พราวอยากเป็นเชฟในโรงแรมหรือร้านอาหารใหญ่ๆ ค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อได้พูดถึงความฝันของตนเองและวางเรื่องที่ผักหวานพูดไปชั่วคราว
“ดีเลยค่ะ วันนี้เราจะทำอะไรกันดีคะ มีปลากะพง ผักบุ้ง กะทิแล้วก็ผักอีกสองสามอย่าง”
“คุณเพทายชอบกินอะไรคะ”
“คุณท่านชอบอาหารไทยๆ โดยเฉพาะเมนูปลาค่ะ อาหารที่ไม่มีกะทิ แต่คุณแพทชอบแกงกะทิแต่ไม่ชอบกินหวานและในบ้านไม่มีใครกินเนื้อวัวหรือสัตว์ใหญ่ค่ะ” พี่กระจิบบอก
“อ้อ.. ค่ะ” ภาวนารับรู้แล้วหันไปคุยกับป้าอร่อยเรื่องอาหารอย่างถูกคอ
หลังจากที่ทำอาหารเย็นเสร็จแล้วก็เป็นเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาเศษๆ ภาวนารู้สึกเหนียวตัวและอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะวันนี้ตั้งแต่มาถึงเธอก็ได้ทำงานตลอดทั้งวันจนเหงื่อท่วมตัวแต่เธอไม่รู้จะบอกใคร หรือทำอย่างไรในเมื่อสิ่งที่ค้างคาใจอยู่นั้นมันทำให้เธอนั่งหงอยอยู่ในครัว
“อ้าวคุณพราวเดี๋ยวก็จะได้เวลาอาหารเย็นแล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสิคะ ดูสิเหงื่อท่วมตัวแล้วค่ะ” พี่ยี่สุ่นขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งยากใจ
“พราวไม่รู้จะทำยังไงค่ะพี่ยี่สุ่น” เมื่อได้ฟังคำพูดของหญิงสาวยี่สุ่นก็ถอนใจเบาๆ
“ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำห้องพี่ก่อนมั้ยคะ”
“แต่พราวไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน”
“ใส่ของพี่ไปก่อนค่ะ ขึ้นห้องแล้วค่อยไปเปลี่ยน” ยี่สุ่นยิ้มให้ทำให้ภาวนารู้สึกใจชื้นขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ เอ่อ.. พี่ยี่สุ่นคะ แล้วเย็นนี้พราวต้องร่วมโต๊ะอาหารเย็นกับพวกเขารึเปล่าคะ”
“เอ่อ.. พี่ก็ไม่รู้จ้ะ”
“พราวพอเดาได้ค่ะ” ภาวนาถอนหายใจแล้วลุกขึ้นแล้วพยายามยิ้มให้กว้างที่สุด
“พี่ยี่สุ่นพาพราวไปอาบน้ำหน่อยสิคะ พราวเหนียวตัวจะแย่แล้วค่ะ”
“ค่ะ มาทางนี้เลยค่ะ”
ยี่สุ่นพาภาวนาเดินออกประตูหลังครัวไปยังเรือนพักของสาวใช้ซึ่งปลูกอยู่กันคนละฝั่งกับเรือนคนสวนและคนขับรถซึ่งจะที่นี่จะแยกเรือนพักหญิงชาย ส่วนคนที่มีครอบครัวจะอยู่อีกด้านเพื่อความเป็นส่วนตัวเป็นสัดส่วนดูแลปกครองได้ง่ายและไม่ก่อให้เกิดปัญหารำคาญใจ แต่แล้วระหว่างทางทั้งสองก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับลิซ่ากับผักหวานยืนขวางทางอยู่
“แหม.. นี่น่ะเหรอ เมียทาส ของแพท ต๊ายตาย คิดว่าเมียทาสนี่ถูกยกเลิกไปตั้งแต่สมัยโน้นแล้ว ยังมีหลงเหลืออีกเหรอเนี่ย” ลิซ่าปิดปากหัวเราะเหน็บแนมเบะปากเหยียดหยัน
“มีสิคะคุณลิซ่า ก็นี่ไงคะ เมียทาสของคุณลิซ่าหรือจะพูดอีกทีก็เมียน้อย”
“อุ้ย.. ผักหวานพูดอะไรแบบนั้นล่ะจ๊ะ แบบนี้เมียทาสก็เสียใจแย่สิ” สองสาวหัวเราะให้กันด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้
“นี่นังผักหวาน เรื่องของนายเอ็งอย่ายุ่งดีกว่า แล้วอีกย่างคุณลิซ่าก็ไม่ใช่เจ้านายเอ็ง”
“นี่ยี่สุ่น หล่อนจะมากำเริบกับฉันเหรอ” ลิซ่ากรีดเสียงใส่ด้วยตอนนี้เธอคือคนที่แพทริกกำลังคบหาและเจ้าหล่อนก็มั่นใจว่าตนเองคือคนพิเศษเพราะแพทริกควงเธอมาเกือบเดือนแล้วนับว่านานกว่าใครๆ นั่นก็แสดงว่าเธออาจจะมีโอกาสเข้ามาเป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้ หญิงสาวคิดเข้าข้างตัวเอง
“เปล่าค่ะ แค่พูดตามความจริง”
“แต่คุณลิซ่าคือคนที่คุณแพทจะแต่งงานด้วยจริงๆ นะพี่ยี่สุ่น” ผักหวานยังคงมั่นใจว่าตนจะได้เป็นสาวใช้คู่ใจของเจ้านายคนใหม่
“แต่ยังไม่แต่ง นั่นก็หมายความว่าไม่ใช้เว้ย”
“นังขี้ข้า กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้กับฉัน ฉันเป็นแฟนแพทนะ”
“แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาดูถูกหรือจิกใช้ใครที่นี่ค่ะ”
ยี่สุ่นตอบฉะฉานเพราะรู้สึกไม่ชอบใจที่ลิซ่าเข้ามาวุ่นวายที่นี่จนเกินงาม ต่อหน้าคุณเพทายก็สงบเสงี่ยมดีอยู่หรอก แต่ลับหลังไม่ต่างจากคนไร้การศึกษาทั้งที่ครอบครัวชาติตระกูลก็มีหน้าตาอยู่ไม่น้อยฐานะหรือก็ไม่ด้อยกว่าใคร แต่ลิซ่าก็เป็นผู้หญิงที่สวยแต่รูปเท่านั้น
“เราไปกันเถอะค่ะพี่ยี่สุ่น” เมื่อเห็นว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่ภาวนาจึงสะกิดยี่สุ่น
“แหม.. หลบอยู่หลังคนอื่นทำไมล่ะยะ เมื่อกี้ยังเก่งอยู่ไม่ใช่เหรอ” ลิซ่าหันมาจิกตาใส่ภาวนาด้วยความฉุนเฉียวเธอตั้งใจว่าจะมาเอาคืนจึงมาดักรออยู่ที่นี่เพราะผักหวานคอยเป็นหูเป็นตาให้นั่นเอง
“ฉันไม่อยากลดตัวเองไปเกลือกลั้วกับเศษมนุษย์ค่ะ”
“กรี๊ดดด นังบ้า แกว่าใครเป็นเศษมนุษย์หา..” ลิซ่ากรีดร้องออกมาเหมือนชะนีถูกเชือด ภาวนายิ้มบางๆ ดวงตาที่ฉายแววหวานปนโศกเสมอวาววับขึ้นเล็กน้อยดูเย็นชาและน่าเกรงขาม
“ก็ใครล่ะที่ทำเสียงเหมือนเปรตขอส่วนบุญ.. เราไปเถอะค่ะพี่ยี่สุ่น”
ภาวนาไม่ใส่ใจดึงยี่สุ่นเดินเลี่ยงไป แต่ลิซ่าไม่ยอม หญิงสาวกระชากแขนเรียวของภาวนาเต็มแรง ร่างที่เล็กบอบบางกว่าของภาวนาปลิวถลาเลยทีเดียวและเกือบจะล้มหากแต่ภาวนายั้งกายไว้ทันและด้วยความที่เธอเคยถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนรังแกบ่อยๆ เพราะตัวเล็กและเงียบๆ ซึ่งมันทำให้ภาวนารู้วิธีการที่จะตอบโต้คนที่ตัวโตกว่าแข็งแรงกว่า
ภาวนาทำตัวอ่อนเหมือนจะล้มลงทำให้ลิซ่าได้ใจว่าจะได้เปรียบ จึงคิดจะปล่อยมือเพื่อให้ภาวนาล้มกระแทกพื้นแล้วจะคร่อมร่างเล็กของภาวนาและลงมือตบให้สมใจ แต่กลายเป็นกว่าภาวนาใช้ความปราดเปรียวพลิกตัวอย่างเร็วแล้วจับแขนของลิซ่าบิดไพล่หลังแล้วกดให้ร่างสูงกว่าของลิซ่านั่งคุกเข่าลงกับพื้น พอผักหวานได้สติจะเข้ามาช่วยภาวนาก็ถีบเข้าไปที่ท้องของผักหวานเต็มๆ จนผักหวานกระเด็นล้มไม่เป็นท่า ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนยี่สุ่นได้แต่ยืนอึ้งมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
ตอนที่7.“หยุด.. อย่าคิดแม้แต่จะเข้ามาทำอะไรที่ไม่เข้าท่า ถ้าไม่อยากเจอดี”น้ำเสียงและแววของภาวนาเข้มจัด ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ก็ทำให้ผักหวานไม่กล้าเข้ามามีเพียงลิซ่าเท่านั้นที่กรีดร้องโวยวายด้วยความเจ็บปวดและเจ็บใจ“กรี๊ดนังบ้า แกปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บนะ”“ปล่อยน่ะปล่อยแน่” พูดจบภาวนาก็ผลักลิซ่าเต็มแรงจนหน้าไถลไปกับพื้นดีที่เจ้าหล่อนเอามือยันพื้นได้ทันก่อนที่ใบหน้าสวยเพราะศัลยกรรมจะแหกเพราะกระแทกกับพื้นปูอิฐหยาบๆ“ไปกันเถอะค่ะพี่ยี่สุ่น” ภาวนาเดินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยี่สุ่นจึงรีบก้าวตามไป ปล่อยให้ลิซ่ากับผักหวานนั่งมองด้วยความเดือดดาล“เจ็บใจนัก ฉันจะฟ้องแพทคอยดู”“ฟ้องเลยค่ะคุณลิซ่ามันมาทีหลังคุณนะคะ คุณแพทไม่มองมันหรอกค่ะ คุณแพทต้องเชื่อคุณลิซ่าและลงโทษมัน” ผักหวานยุส่งแล้วประคองลิซ่าขึ้นมาจากพื้นภาพการปะทะกันระหว่างลิซ่ากับภาวนานั้นอยู่ในสายตาของคุณเพทายตลอด นางมองดูตั้งแต่ภาวนาเดินคุยกันไปตามทางแล้วเจอกับลิซ่าที่ดักรออยู่ จริงๆ แล้วนางเองก็คิดว่าภาวนาจะถูกลิซ่ากับผักหวานรุมแน่นอน แต่แล้วก็กลายเป็นว่ามันผิดคาด และการกระทำของภาวนาทำให้คุณแพทายยิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยๆ
ตอนที่8.น้ำเสียงหาเรื่องอย่างเห็นได้ชัด ภาวนาลอบถอนใจเบาๆ ด้วยความเอือมระอา เธอเคยได้ยินเสียงแบบนี้ของบิดายามที่เรียกจิกมารดานี่เธอจะต้องมาเจอคนแบบเดียวกันกับคนที่เกลียดแสนเกลียดอย่างนั้นหรือ“ขอโทษค่ะ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วไม่คิดว่าเธอจะเอ่ยปากขอโทษเขาง่ายๆ แบบนี้ แต่มันยังไม่พอสำหรับเขา“เอ่ยปากขอโทษเฉยๆ แค่นี้เหรอ”ภาวนากัดริมฝีปากด้านในจนรู้สึกเจ็บ หญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาว่างเปล่าไม่ตอบโต้และไม่สนใจว่าเขาจะเป็นอย่างไรร่างเล็กเดินเร็วๆ ลงบันไดไปโดยไม่เหลียวหลังสร้างความขุ่นเคืองให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก“ยายเด็กบ้าเอ๊ย”แพทริกสบถตามหลังไปแล้วเดินกลับเข้าห้องปิดประตูอย่างแรง ป้าอร่อยซึ่งยืนรอภาวนาอยู่สะดุ้งตกใจมองตามร่างเล็กที่เดินลิ่วๆ ลงบันไดมาอย่างเห็นใจ“ขอโทษที่ให้รอนะคะป้า” หญิงสาวยิ้มให้บางๆ“ไม่เป็นไรค่ะ เราไปกันเถอะค่ะ”ทางด้านแพทริกที่เข้ามาในห้องก็ยังคงหัวเสียอยู่ไม่หาย ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มมองไปที่เตียงกว้างที่มันดูเรียบตึงเหมือนไม่มีใครใช้งานมันแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ“แล้วเมื่อคืนยายมอมแมมนั่นนอนที่ไหน อย่าบอกนะว่านอนบนพื้น” ชายหนุ่มมองเตียงกว้างแล้วกวาดตามองไปรอ
ตอนที่9.“ก็ใช่ไง งานแต่งที่ไม่ใช่งานแต่ง แต่ให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเมียลูกแค่นั้น คิดเหรอว่าแม่จะให้ผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างแม่ภาวนามาเป็นสะใภ้หรือให้ใช้นามสกุลเรา ไม่ใช่แค่ภาวนานะ แต่หมายถึงผู้หญิงที่ลูกควงๆ อยู่ทุกคนไม่มีสิทธิ์ด้วย”คุณเพทายน้ำเสียงจริงจังแพทริกจึงยกกาแฟขึ้นจิบเพื่อกลบเกลื่อนไป สองแม่ลูกคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นระหว่างรออาหารเช้าซึ่งทุกวันคุณเพทายจะต้องมานั่งที่นี่เพื่ออ่านหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็เดินออกไปที่สวนดูต้นไม้ใบหญ้า หรือบางครั้งก็จะเก็บดอกมะลิมาร้อยมาลัย แม้คุณเพทายจะไปใช้ชีวิตอยู่สวิสเซอร์แลนด์และอังกฤษตามสามี แต่นางก็ยังคงรักความเป็นไทยและใช้ชีวิตแบบวิถีไทยและสอนให้แพทริกรักในสายเลือดไทยด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ชายหนุ่มจะพูดภาษาแม่ได้ชัดเจน“คุณแม่ต้องการอะไรครับถึงได้ให้ภาวนาเข้ามาเป็น เอ่อ เป็นเมียผม คุณแม่ก็น่าจะรู้ว่าเธอไม่ใช่รสนิยมผมเลย”“แม่แค่ทำตามความต้องการของตัวเองเท่านั้นล่ะ ลูกจะไม่รักไม่อะไรกับแม่ภาวนาก็ไม่เป็นไรนี่ จะโขลกสับจะด่าว่าอะไรก็แล้วแต่ลูก ภาวนาเป็นสมบัติของลูก แพทจะทำอะไรกับเธอก็ได้..” พูดโดยไม่มองหน้าแพทริกส่ายหน้ายิ้มๆ“ผมไม่เข้าใจ.. แต
ตอนที่10.“รีบทำงานให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมงนี้นะ เพราะฉันมีงานให้เธอทำต่อ..”พูดจบร่างสูงก็เดินออกไป ภาวนาถอนหายใจเฮือกใหญ่มองกระดาษที่ปลิวออกจากกล่องที่ล้มเอียงกะเท่เร่อยู่กับพื้นพรมอย่างเศร้าสร้อยหญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ วันนี้เธอจะต้องทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดไม่ให้มีงานค้างเพราะเธอจะต้องไปเยี่ยมแม่ โชคดีที่คุณเพทายยังพอมีเมตตาต่อเธอบ้างด้วยการอนุญาตให้เธอไปเยี่ยมแม่ได้ทุกเย็นหลังจากทำอาหารเย็นแล้ว เธอจะอยู่กินข้าวหรือไม่พวกเขาไม่เคยสนใจอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่เธอเองก็ต้องการ ยิ่งไม่สนใจเธอเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะมันทำให้เธอได้มีเวลาของตัวเองบ้างหลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันภาวนารีบยกกล่องลงมาที่ห้องเก็บของใต้บันไดด้านหลังตึกใหญ่ห้องเก็บของที่แพทริกพูดถึงนั้นใหญ่กว่าบ้านหลังเล็กของเธอที่อยู่ก่อนหน้านี้อีก มีชั้นเก็บของมั่นคงแข็งแรงและยังสะอาดสะอ้านอีกด้วย นี่ละนะบ้านมหาเศรษฐีจะทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมด ภาวนารีบจัดการเอกสารตามที่เขาสั่งโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างแต่แล้วก็มีสิ่งมาดึงดูดความสนใจเธอเสียก่อน“นี่หล่อน..” เสียงเรียกแบบจิกหัวดังขึ้นเป็นช่วงเวลาพอดีที่เธอเก็บเอกสารเข้าแฟ้มเก็บอั
ตอนที่11.“คุณท่านคะ ช่วยผักหวานด้วยค่ะ นัง เอ่อ คุณพราวน่ะสิคะ ทำร้ายแขกคุณแพทแล้วยังขังพวกเราไว้ในห้องเก็บของด้วยค่ะ”“ก็ถ้าแกไม่ไปยุ่งกับเขาก่อน เขาจะยุ่งกับแกเหรอนังผักหวาน”“นี่พี่ผักบุ้ง น้องตัวเองโดนรังแกนะ ยังจะไปปกป้องคนอื่นอีก” ผักหวานแหวใส่พี่สาวอย่างลืมตัว“พอทั้งสองคนนั่นล่ะ แล้วนี่หล่อนมาได้ยังไงกันแม่โรซี่”คุณเพทายกอดอกมองโรซี่อย่างไม่ชอบใจพลางปรายตามองลูกชายตัวดีซึ่งหันมายิ้มแหยๆ ให้มารดา“แม่ไม่ชอบเลยนะแพทที่ผู้หญิงของลูกมาวุ่นวายที่บ้าน นี่ไปก่อเรื่องที่บริษัทไม่พอใช่ไหม นี่ยังเห็นหัวแม่กันอยู่รึเปล่า”คุณเพทายถามเสียงเขียวไม่พอใจรุนแรงที่ผู้หญิงของลูกชายเริ่มล้ำเส้นมากเกินไป“โธ่.. คุณแม่ครับ ผมไม่ได้ให้เธอมาหาผมเลยนะครับ อีกอย่างผมก็ไม่เคยคิดจริงจังกับพวกเธอเลย คุณแม่ก็รู้”“ใช่.. แม่รู้ แต่ผู้หญิงพวกนั้นเขาไม่ได้คิดเหมือนลูกนี่นา เขาคิดตรงกันข้ามบอกไว้เลยนะอย่าให้มีเหตุการณ์แบบวันนี้อีก และหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้หญิงของลูกมาวุ่นวายที่นี่ หากยายพวกนั้นจะตบตีแย่งชิงลูกก็บอกให้พวกหล่อนไปไกลๆ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่ของเทเลอร์” คุณเพทายพูดอย่างจริงจังทั้งน้
ตอนที่12.“พราวกำลังจะไปหาพี่เอกนะคะ รอแป๊บเดียวค่ะ”“ครับ พี่รอพราวมาตั้งแต่สองวันที่แล้วแล้วครับ” ทางปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า ภาวนาหัวเราะเบาๆ รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเขา“ค่ะ อีกยี่สิบนาทีพราวไปถึงประตูบ้านนะคะ”พูดจบหญิงสาวก็โบกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วบอกให้ไปยังจุดหมายของเอทันที ยี่สิบนาทีพอดิบพอดีกับที่เธอบอกไว้ภาวนาก็มายืนหน้าบ้านหลังใหญ่ที่เจ้าของบ้านเปิดประตูต้อนรับทันทีเช่นกัน“โอ้โห.. นี่ยี่สิบนาทีเป๊ะเลย” เป็นเอกชายหนุ่มวัยสามสิบเอ็ดปี รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาไม่เป็นรองใครซ้ำยังโสดมั่นคงทั้งฐานะการเงินและการงาน การศึกษาระดับมหาบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่หล่อเหลาครบสูตรแบบนี้เขาก็ยังไม่มีคนรักเสียทีจนใครๆ ต่างก็คิดว่าเขาชอบไม้ป่าเดียวกันแต่เป็นเอกไม่เคยใส่ใจคำนินทาของใคร“ก็บอกแล้วพราวไม่เคยพลาดเรื่องเวลา”“จ้ะแม่คุณมาเถอะ มาฝึกมือกันได้แล้ว หายหน้าไปสองวันมือตกแล้วมั้ง..” แล้วหนุ่มสาวก็เดินคุยกันอย่างเริงร่าเข้าบ้านไป..เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ภาวนารู้สึกอึดอัดจนคิดว่าอากาศบนโลกนี้มันน้อยนิดเสียเหลือเกิน หญิงสาวค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดไปช
ตอนที่13.“กรี๊ดดด..” หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนกร่างเล็กเซเสียหลักไปทางเตียงกว้างในขณะที่แพทริกเองก็ตกใจกับเสียงร้องของเธอจึงเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงและกำลังจะก้าวลงจากเตียงจึงกลายเป็นว่าสองร่างชนกันอย่างจึงล้มแหมะกองกันอยู่ข้างเตียงซ้ำแพทริกยังหัวโขกกับขอบเตียงเสียงดังสนั่นโป๊ก...“โอ๊ยยย.. นี่เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย”ชายหนุ่มร้องลั่นลูบหัวป้อยๆ ทั้งยังดุหญิงสาวที่นั่งคร่อมทับร่างแกร่งของตนโดยลืมไปว่าตอนนี้เขาและเธอใกล้ชิดกันมากชนิดที่ว่าเนื้อแนบเนื้อ ภาวนาเองก็กอดเขาแน่นด้วยความตกใจ“ฉะ ฉัน เหยียบอะไรไม่รู้ มันต้องเป็นจิ้งจกแน่ๆ มันมาได้ยังไง” หญิงสาวละล่ำละลักบอก แม้จะดูเก่งกาจไปเสียทุกเรื่องแต่เธอกลัวจิ้งจกเป็นที่สุด“อย่างเธอนี่นะกลัวจิ้งจก ฉันว่าจิ้งจกมันต้องกลัวเธอมากว่า แล้วดูสิหัวฉันแตกไหมเนี่ย เจ็บเป็นบ้าเลย”“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไหนขอดูหน่อยสิคะ..”ภาวนาขอโทษเขาเบาๆ อย่างรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เขาเจ็บตัว หญิงเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าหล่อเหลาที่ดูยุ่งเหยิงหงิกงอด้วยความรู้สึกหวั่นไหวทั้งกลัวว่าเขาจะหัวแตกเพราะเสียงโป๊กเมื่อครู่นี้ดังมากจนเธอเองก็คิดว่าเขาอาจจะหัวแตก
ตอนที่14.ทางด้านภาวนาเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดก็ค่อยๆ เลื่อนผ้าห่มลงช้าๆ ใบหน้าเล็กๆ โผล่พ้นผ้าห่มหนามาเพียงดวงตากลมโศกสวย หญิงสาวถอนใจเบาๆ แล้วนอนตะแคงข้างมองไปนอกระเบียงกว้างด้วยใจไหวหวั่นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูออกมา เธอนอนฟังความเคลื่อนไหวของเขาด้วยหัวใจเต้นแรงและพยายามนอนให้นิ่งที่สุดเหมือนว่าเธอหลับแล้วความร้อนระอุที่เกิดขึ้นกายสาวและความแกร่งกระด้างของเขาที่เธอได้สัมผัสทำให้แก้มสาวร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง แล้วยิ่งคิดถึงรสสัมผัสจากเขาเมื่อครู่เธอก็ยิ่งรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งกาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอไม่ควรรู้สึกอย่างนั้น ไม่ควรรู้สึกเกินกว่าที่เป็นอยู่ เธอไม่คู่ควรกับเขาแม้แต่น้อยและไม่ควรหวั่นไหวไปกับเขา หญิงสาวเฝ้าบอกตัวเองอย่างนั้นจนหลับไปวันรุ่งขึ้นแพทริกตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน ถึงแม้ว่าภายนอกหรือสิ่งที่ใครๆ เห็นภาพลักษณ์ของเขาเป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญเที่ยวเตร่เฮฮาและแวดล้อมด้วยหญิงสาวสวยมากมายข่าวคาวๆ ก็เยอะเป็นเงาตามตัวเป็นเจ้าพ่อปาร์ตี้อย่างที่ภาวนาค่อนแคะ แต่แพทริกคือชายหนุ่มที่เอาใจใส่มารดาของเขาอย่างที่สุด เพราะตลอดสิบปีที่ผ่านมาชีวิตของเขามีเพียงมารดาเท่านั้น
ตอนที่41.“พราว พราวจริงๆ ด้วย พี่มองอยู่นานนึกว่าใคร” เสียงนุ่มของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นทั้งสองสาวจึงเงยหน้ามอง“พี่เอก มาได้ยังไงคะเนี่ย” ภาวนายิ้มกว้างดีใจที่เจอเป็นเอก“พอดีพี่มาซื้อของไปเตรียมงานน่ะ ว่าแต่พราวเถอะมายังไง แล้วนี่ โอ้โห.. สวยจัง” เป็นเอกยิ้มกว้างเมื่อเห็นหญิงสาวสวยสดใสเปล่งปลั่งผิดหูผิดตา“อุ๊ย ลืมแนะนำไปค่ะ นี่พี่เมนี่ พี่เมนี่คะ พี่เอกค่ะ พี่เอกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพราวเลยค่ะ” เป็นเอกหันไปมองหญิงสาวสวยที่นั่งดอกอกเชิดหน้าอย่างไว้ตัวข้างๆ ภาวนา“คุณนั่นเอง”“อ้าวรู้จักกันเหรอคะ”“ไม่..” หนุ่มสาวพูดขึ้นพร้อมกันแล้วก็ต่างมองหน้ากันอย่างขุ่นเคือง ภาวนามองทั้งสองสลับกันไปมา“เราไปกันเถอะน้องพราว” เมทินีตัดบทแล้วลุกขึ้นดึงมือภาวนาจะเดินออกจากร้านไป แต่เป็นเอกขัดขึ้นเสยก่อน“คุณติดค่าข้าวผมนะคุณหมอ” เมทินีชะงักแล้วหันมามอ
ตอนที่40.ลิซ่านั่งลงข้างๆ ภาวนาแต่ท่าทางของหญิงสาวสมัยใหม่ที่ชอบเที่ยวเตร่อย่างลิซ่านั้นดูขัดตา ขาดๆ เกินๆ และดูหยิบโหย่งจนคุณเพทายนึกดีใจที่แพทริกไม่ได้คิดจริงจังกับลิซ่า แม้ลิซ่าจะสวยและร่ำรวยพอสมควรแต่นิสัยใจคอไม่เอาการเอางานทำให้คุณเพทายไม่อาจจะรับได้ นางอยากได้ลูกสะใภ้ที่เก่งงานบ้านงานเรือนมีใจคอหนักแน่นและหนักเอาเบาสู้ ไม่ใช่จะแต่งตัวสวยไปวันๆ อย่างลิซ่า แล้วใจของคุณเพทายก็กระตุกหันไปมองภาวนาอย่างพินิจพิเคราะห์ หัวใจของนางไหววูบด้วยความรู้สึกประหลาดและยอมรับกับตัวเองว่า ภาวนาคือคนที่ใช่ในคุณสมบัติที่นางต้องการ แต่เพราะภาวนาเป็นลูกสาวของอาภานั้นคือข้อจำกัดอันร้ายแรงที่ไม่อาจจะยอมรับได้นางไม่เคยรังเกียจหากแพทริกจะรักชอบพอกับหญิงสาวต่างฐานะหรือเป็นเพียงลูกสาวคนทำงานหาเช้ากินค่ำ หากผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีและรักแพทริกจริงๆ นางก็พร้อมจะอ้าแขนรับเข้ามาร่วมใช้นามสกุล คุณเพทายถอนหายใจเบาๆ แล้วบอกให้ลิซ่าลองร้อยมาลัยกรดูบ้าง“ลิซ่าไม่ชอบงานพวกนี้เลยค่ะ รู้สึกเหมือนร้อยมาลัยขายตามสี่แยกไฟแดงเลยนะคะ”“การร้อยมาลัย
ตอนที่39.“อื้มม..” หญิงสาวครางเบาๆ เมื่อลิ้นร้อนร้ายกาจกำลังร่ายมนต์สวาทจนเธอหลงเพริดไปกับเขา ความคิดที่ว่าจะไม่ยอมและจะขัดขืนหายไปตั้งแต่เขาจูบเธอ แม้จะบอกตัวเองว่าอย่าหลงไปกับสิ่งที่เขาปรนเปรอ แต่สุดท้ายภาวนาก็พ่ายแพ้ให้กับคนแก่ประสบการณ์ แพทริก ครางออกมาอย่างถูกใจเมื่อหญิงสาวตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนอย่างน่ารัก“อื้มมม พราวจ๋า น่ารักที่สุดเลย ที่รัก...”ชายหนุ่มครางออกมาอย่างถูกใจจูบซับแก้มนวลเรื่อยลงมาที่ลำคอระหงต่ำลงมาตามรอยแยกของสาบเสื้อนอนแบบเชิ้ตแขนสั้น มือหนาปลดกระดุมไปทีละเม็ดๆ จนสาบเสื้อแยกออกจากกันเผยปทุมถันอวบอิ่มซึ่งถูกซ่อนอยู่ภายใต้บราแบบเต็มตัวที่เธอมักชอบสวมใส่ แต่แพทริกไม่คิดจะให้มันมาขัดขวางเพลิงพิศวาสที่กำลังลุกไหม้ของเขาได้ ไม่นานเขาก็กำจัดมันให้พ้นทางเรือนร่างอรชรที่มีทรวงอกอวบอิ่มล้นมือก็ปรากกฎอยู่ตรงหน้าหญิงสาวหลบตาคมพรายพราวด้วยความปรารถนายกแขนโอบรอบตัวเองไว้อย่างขัดเขิน แต่ไม่นานแขนเล็กก็ถูกปัดให้พ้นทางด้วยลิ้นร้อนที่จูบไซ้ไล้เลียอย่างเร่าร้อนจนเธอต้องคลายแขนออกแล้วโอบรัดร่างแกร
ตอนที่38.“กรี๊ดๆ นังบ้าแก แก ทำร้ายฉัน ฉันจะฟ้องคุณท่าน”“เชิญฟ้องเลยจ้ะแล้วอย่าลืมบอกคุณเพทายด้วยนะว่าขยะพวกนี้มาจากไหน อ้อ.. ขยะที่น่าเกลียดที่สุดก็คือตัวเธอนั่นล่ะ อ้าว.. เธอเปื้อนไปหมดแล้วเดี๋ยวฉันช่วยล้างนะ”พูดจบภาวนาก็เดินไปหยิบสายยางแล้วเปิดน้ำฉีดใส่ร่างที่มอมแมมของผักหวานด้วยรอยยิ้มสะใจส่วนผักหวานก็ดีดดิ้นกรีดร้องโวยวายอย่างไม่สามารถทำอะไรได้เพราะพื้นที่เปื้อนด้วยโคลนซึ่งตัวเองนั้นเอามาเทไว้เพื่อกลั่นแกล้งภาวนาตามที่ลิซ่าสั่งนั้นทั้งเปียกและลื่น“อะไรเกิดอะไรขึ้นเสียงดังไปถึงเรือนใหญ่”ป้าอร่อยกับผักบุ้งเดินเร็วๆ มาหาตามด้วยคุณเพทาย ลิซ่าและแพทริก และเมื่อมาเจอสภาพของผักหวานที่คลานออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพดูไม่ได้แล้วก็หันไปมองภาวนาที่ยืนถือสายยางอยู่สลับกันไปมา“คุณท่านขา ช่วยผักหวานด้วย” ผักหวานคลานมาหาคุณเพทายทั้งร้องห่มร้องไห้ดูน่าสงสารที่สุด ในขณะที่ภาวนายืนนิ่ง“แกทำอะไรผักหวานน่ะ นี่แค่คุณแม่ใช้ให้หล่อนมาทำความสะอาดห้องน้ำเท่านั้นนะยะ ไม
ตอนที่37.แพทริกเดินไปทันภาวนาที่ประตูหน้าบ้านพอดี มือใหญ่คว้าข้อมือเธอไว้ก่อนที่หญิงสาวจะเปิดประตูออกไป ภาวนาหันมามองเขาตาเขียวและพยายามจะดึงมือหนี“ไม่ต้องมาจับฉันเดินเองได้”“ไม่ได้อยากจะจับหรอก แค่จะบอกว่าเธอจะต้องกลับกับฉัน”“ฉันนัดลุงวินมอเตอร์ไซค์ไว้แล้ว คุณไม่ต้องลำบากหรอก”“ไม่ได้เพราะรถมาแล้ว ฉันบอกลุงไปแล้วว่าไม่ต้องมารับเธอตอนขากลับและฉันก็จ่ายเงินค่าจ้างให้แกไปแล้วด้วย” แพทริกปล่อยมือเล็กแล้วไหวไหล่อย่างกวนๆ ภาวนาได้แต่กัดฟันมองเขาอย่างไม่พอใจ“ไปเถอะ ฉันให้คนขับรถมารอแล้ว” ไม่สนใจท่าทางฮึดฮัดของคนตัวเล็กแพทริกจูงมือเธอออกไปจากบ้านของเป็นเอกทันทีแล้วพอออกมารถของเขาก็มาจอดเทียบหน้าบ้านพอดี“คุณวางแผนไว้หมดเลยสินะ” เมื่อเข้ามานั่งในรถกับเขาแล้วภาวนาก็ถามขึ้นอย่างเหลืออด“ก็ฉันเป็นนักธุรกิจจะทำอะไรก็ต้องมีการวางแผนสิ”ตอบแบบสบายๆ เอนหลังพิงเบาะหนังเงาวับ
ตอนที่36.หญิงสาวเชิดหน้าใส่เขาอย่างไม่กริ่งเกรงและคำพูดแสนแก่กร้านก็ทำให้แพทริกอยากจับร่างเล็กนั้นมาเขย่าแล้วตีก้นงามงอนสักสองสามที แต่เพราะอยู่ในโรงพยาบาลและเขาไม่อาจจะใช้เสียงดังได้ ภาวนาจึงรอดตัวไป แต่คืนนี้รับรองได้ว่าเธอจะไม่มีแรงแม้แต่จะพูดเลยคอยดูเถอะ“เธอนี่มัน ฉันไม่รู้จะพูดยังไง แต่เอาเถอะในเมื่อเธอคิดแบบนั้นมันก็ไม่ผิด และถ้าฉันจะร่วมรักกับเธอก็ไม่ผิดเหมือนกัน..” ได้ผลคราวนี้ใบหน้าเล็กแดงก่ำแล้วสะบัดหน้าหนี“แล้วก็ไม่ต้องมาเดินตามฉันด้วย ฉันอายคนอื่นเขา”เป็นอีกครั้งที่แพทริกต้องถึงกับหน้าหงาย เธอบอกว่าอายคนที่เดินกับเขา คุณพระ... นี่เจ้าหล่อนช่างอวดดีเหลือเกิน แล้วยิ่งเห็นร่างเล็กเดินลิ่วๆ ไปอย่างไม่สนใจตนด้วยแล้วแพทริกยิ่งอยากจะจับเจ้าหล่อนมาทำโทษเสียให้เข็ดจะได้ไม่อวดดีกับเขา ชายหนุ่มถอนหายใจหนักๆ แล้วเดินตามเธอไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจท่าทางหงุดหงิดของเธอ“ตามมาทำไมคะ”“จะไปด้วย”“ฉันจะนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไป คุณอย่าตามไปเลยค่ะ
ตอนที่35.“ร้ายนักนะพราว..” แพทริกครางหนักๆ ในลำคออย่างยอมแพ้เมื่อสะโพกสาวเสียดส่ายเร่าร้อนขึ้น มือเล็กโอบรอบแผ่นหลังกว้างแล้วจิกลงมาอย่างขัดใจที่เขาไม่มอบความสุขสมมากกว่านี้ให้เธอเสียทีมือหนารวบขาเรียวของเธอทั้งสองข้างไว้ด้วยกันแล้วพาดเบี่ยงไปที่บ่ากว้างข้างของเขาพร้อมกับพลิกกายบางให้ตะแคงเล็กน้อยก่อนจะแทรกแก่นกายเข้าหาความอ่อนนุ่มที่ปรารถนา เข่าแข็งแรงวางลงบนที่นอนหนึ่งข้างในขณะที่ขาอีกข้างยืนบนพื้นอย่างมั่นคง มือหนาก็เอื้อมไปฟอนเฟ้นทรวงอกอวบอิ่มอย่างเมามันพร้อมทั้งเริ่มขยับโยกคลึงสะโพกสอบช้าๆ ถอดถอนออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปหนักๆ ทั้งหมุนวนทั้งสอดเสย จนหญิงสาวใต้ร่างครางระงม ก่อนที่จะเร่งจังหวะเร็วระรัว“อ๊า โอ้ว คุ คุณ แพท..” ภาวนาครางกระเส่าปรือตามองคนที่กำลังแสดงความเป็นเจ้าของเรือนร่างของตนด้วยความรัญจวนใจ ความร้อนระอุในร่างกายพุ่งสูงขึ้นรู้สึกเหมือนว่ามันจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ แต่สะโพกกลมกลึงก็ส่ายร่อนรับแรงโหมโถมกระหน่ำจากสะโพกแกร่งอย่างร้อนแรงไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ภาวนาไ
ตอนที่34.“อ๊ะ... อุ๊ย...” หญิงสาวครางลั่นเมื่อเขากระแทกกายใหญ่โตเข้าโรมรันเธออย่างเร่าร้อนรัวเร็วจนตั้งรับไม่ทัน ใบหน้านวลบิดเบ้ด้วยความเสียวซ่านทั้งเจ็บแปลบที่แผ่นหลังที่ครูดไปกับผนังห้องแพทริกจึงรั้งเรียวขาเล็กโอบรัดรอบเอวสอบ ช้อนก้นงามงอนไว้แล้วเดินช้าๆ วนไปรอบๆ ห้อง ภาวนาจำต้องโอบแขนเรียวรอบลำคอหนา ในขณะที่แพทริกช้อนสะโพกมนให้ขยับเข้าหากายแกร่งของเขาไปด้วยชายหนุ่มเดินไปรอบๆ ห้องโดยที่มีร่างน้อยขยับโยกอยู่กับกายแกร่งด้วยจังหวะเร่าร้อนที่เขากำหนดมันขึ้นมา แรงเสียดสียามเขาขยับเดินสร้างความเสียวซ่านมากขึ้น จนในที่สุดแพทริกก็ทานทนความรู้สึกรุ่มร้อนรัญจวนไม่ไหว เขาพาร่างงามไปยังเก้าอี้นั่งเล่นตัวใหญ่แล้วเลื่อนมันให้ชิดผนังก่อนจะผ่อนร่างบางลงไปช้าๆ จับร่างบางหมุนช้าๆ โดยไม่ถอดถอนกายแกร่งออกจากโพรงดอกไม้ฉ่ำหวาน เขาจัดท่วงท่าให้เธอหันหลังโดยให้เท้าเล็กทั้งสองข้างของเธอเหยียบบนที่วางแขนมือบางจับมั่นที่พนักเก้าอี้ด้านข้าง ภาวนาหน้าแดงก่ำรู้สึกซ่านกระสันรู้สึกตื่นเต้นและขัดเขินกับลีลาแปลกใหม่ของเขาแต่ก็อยากลองอยากรู้ มือหนาช้อนสะโพกม
ตอนที่33.“คุณรู้เรื่องของฉันมากไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครล่ะ”“แน่นอนฉันรู้ว่ามันเป็นใคร แต่ฉันอยากรู้จากปากเธอว่ากับมันไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วฉันจะได้ฆ่าคนไม่ผิดตัว”“นี่คุณ..” หญิงสาวหน้าซีดเมื่อเขาพูดเหมือนจะไปฆ่าแกงเป็นเอก“อย่ายุ่งกับพี่เอก เขาเป็นคนดีไม่เหมือนคุณ คนเอาแต่ใจชอบรังแกคนไม่มีทางสู้ ใจร้าย”“ก็บอกมาว่าเธอกับมันสนิทกันแค่ไหน”“เราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ไม่เคยมีอะไรมากกว่านั้นพอใจรึยัง” หญิงสาวค้อนเขาตาเขียว“แน่ใจนะว่าที่พูดมาแค่หลอกให้ฉันตายใจหรือเพื่อปกป้องชู้รัก”รู้ทั้งรู้ว่าเธอพูดจริงและเขาก็เป็นคนแรกที่ได้ครอบครองเธอแต่แพทริกก็อยากจะได้ยินจากปากเธอว่าไม่มีมีอะไรกับเป็นเอก“ฉันกับพี่เอกไม่เคยเป็นชู้รักและไม่เคยทำอะไรน่าละอายแบบนั้น พี่เอกเป็นสุภาพบุรุษไม่เหมือนคุณหรอก จอมวายร้าย..”หญิงสาวเถียงเขาอย่างไม่ลดละแตกต่างจากหญิงสา