ตอนที่13.“กรี๊ดดด..” หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนกร่างเล็กเซเสียหลักไปทางเตียงกว้างในขณะที่แพทริกเองก็ตกใจกับเสียงร้องของเธอจึงเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงและกำลังจะก้าวลงจากเตียงจึงกลายเป็นว่าสองร่างชนกันอย่างจึงล้มแหมะกองกันอยู่ข้างเตียงซ้ำแพทริกยังหัวโขกกับขอบเตียงเสียงดังสนั่นโป๊ก...“โอ๊ยยย.. นี่เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย”ชายหนุ่มร้องลั่นลูบหัวป้อยๆ ทั้งยังดุหญิงสาวที่นั่งคร่อมทับร่างแกร่งของตนโดยลืมไปว่าตอนนี้เขาและเธอใกล้ชิดกันมากชนิดที่ว่าเนื้อแนบเนื้อ ภาวนาเองก็กอดเขาแน่นด้วยความตกใจ“ฉะ ฉัน เหยียบอะไรไม่รู้ มันต้องเป็นจิ้งจกแน่ๆ มันมาได้ยังไง” หญิงสาวละล่ำละลักบอก แม้จะดูเก่งกาจไปเสียทุกเรื่องแต่เธอกลัวจิ้งจกเป็นที่สุด“อย่างเธอนี่นะกลัวจิ้งจก ฉันว่าจิ้งจกมันต้องกลัวเธอมากว่า แล้วดูสิหัวฉันแตกไหมเนี่ย เจ็บเป็นบ้าเลย”“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไหนขอดูหน่อยสิคะ..”ภาวนาขอโทษเขาเบาๆ อย่างรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เขาเจ็บตัว หญิงเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าหล่อเหลาที่ดูยุ่งเหยิงหงิกงอด้วยความรู้สึกหวั่นไหวทั้งกลัวว่าเขาจะหัวแตกเพราะเสียงโป๊กเมื่อครู่นี้ดังมากจนเธอเองก็คิดว่าเขาอาจจะหัวแตก
ตอนที่14.ทางด้านภาวนาเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดก็ค่อยๆ เลื่อนผ้าห่มลงช้าๆ ใบหน้าเล็กๆ โผล่พ้นผ้าห่มหนามาเพียงดวงตากลมโศกสวย หญิงสาวถอนใจเบาๆ แล้วนอนตะแคงข้างมองไปนอกระเบียงกว้างด้วยใจไหวหวั่นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูออกมา เธอนอนฟังความเคลื่อนไหวของเขาด้วยหัวใจเต้นแรงและพยายามนอนให้นิ่งที่สุดเหมือนว่าเธอหลับแล้วความร้อนระอุที่เกิดขึ้นกายสาวและความแกร่งกระด้างของเขาที่เธอได้สัมผัสทำให้แก้มสาวร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง แล้วยิ่งคิดถึงรสสัมผัสจากเขาเมื่อครู่เธอก็ยิ่งรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งกาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอไม่ควรรู้สึกอย่างนั้น ไม่ควรรู้สึกเกินกว่าที่เป็นอยู่ เธอไม่คู่ควรกับเขาแม้แต่น้อยและไม่ควรหวั่นไหวไปกับเขา หญิงสาวเฝ้าบอกตัวเองอย่างนั้นจนหลับไปวันรุ่งขึ้นแพทริกตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน ถึงแม้ว่าภายนอกหรือสิ่งที่ใครๆ เห็นภาพลักษณ์ของเขาเป็นชายหนุ่มเจ้าสำราญเที่ยวเตร่เฮฮาและแวดล้อมด้วยหญิงสาวสวยมากมายข่าวคาวๆ ก็เยอะเป็นเงาตามตัวเป็นเจ้าพ่อปาร์ตี้อย่างที่ภาวนาค่อนแคะ แต่แพทริกคือชายหนุ่มที่เอาใจใส่มารดาของเขาอย่างที่สุด เพราะตลอดสิบปีที่ผ่านมาชีวิตของเขามีเพียงมารดาเท่านั้น
ตอนที่15.ลิซ่าผู้ที่พกความเจ็บช้ำมาจากครั้งที่เจอกับภาวนานั้นกำลังนั่งครุ่นคิดถึงการเอาคืนหญิงสาวผู้มาเหนือเมฆด้วยตำแหน่งที่เธอใฝ่ฝัน เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้หญิงแสนธรรมดาหน้าตามอมแมมอย่างภาวนาจะมาเป็นภรรยาของแพทริก งานนี้เธอจะต้องสืบหาสาเหตุที่แท้จริงแล้วเอาคืนให้ได้ เธอไม่มีวันปล่อยแพทริกหลุดมือไปแน่นอน เพราะทุกอย่างที่เธอต้องการนั้นจะสมดังปรารถนาทันทีที่ได้แต่งงานกับเขา“วันนี้ไปช่วยเตี่ยที่ร้านหน่อยสิกิมฮวย” เสียงร้องบอกเมื่อเห็นเธอกำลังจะก้าวไปขึ้นรถ ลิซ่าหันไปมอง เสี่ยเล้ง ผู้เป็นพ่ออย่างไม่ชอบใจ“ฉันจะไปธุระข้างนอก น่ะเตี่ย ไม่ว่างหรอกอีกอย่างอย่าเรียกฉันกิมฮวยฉันไม่ชอบ”ครอบครัวของพวกเธอนับว่ามีฐานะระดับเศรษฐีจากการขายหมู จากเขียงหมูธรรมดามาเป็นกิจการแช่แข็งและห้องเย็น แต่เตี่ยของพวกเธอก็ยังชอบที่จะไปขายหมูในตลาดสดเหมือนเดิมเพราะเหมือนได้รำลึกถึงความหลังที่ยากลำบากกว่าจะได้เป็นเถ้าแก่มีเงินหลายสิบล้านเตี่ยกับม้ามีลูกสามคนซึ่งเธอเป็นคนเล็ก ส่วนพี่ๆ ออกเรือนไปแล้วและได้ดูแลกิจการของครอบครัวรับผิดชอบความเป็นอยู่ของทุกคนอย่างดีไม่มีบกพร่องเลยทีเดียวเหลือเพียงลิซ่าหรือกิมฮวยที่ยังค
ตอนที่16.ไม่กี่นาทีหลังจากที่คุยกับคุณเพทายภาวนาก็นั่งรถคันหรูมายังบริษัทของแพทริก เธอเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นวิศวกรและเป็นเจ้าของบริษัทยักใหญ่ที่รับสัมปทานโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการทั้งสร้างอาคาร บ้านเรือนรวมไปถึงระบบซ่อมบำรุงในโรงงานต่างๆ ด้วยและเขาก็เป็นหนึ่งในนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ใครๆ ก็กล่าวถึง ท่าทางเหมือนเจ้าพ่อปาร์ตี้อย่างเขาไม่น่าจะมีมุมที่เอาการเอางานแบบนี้เลย หญิงสาวคิดไปตามประสาเพราะเห็นกิริยาท่าทางหญิงสาวที่เขาควงก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเขาเป็นคนแบบไหนเพราะผู้หญิงเหล่านั้นจะบ่งบอกถึงรสนิยมของแพทริกได้เป็นอย่างดี แต่จะว่าไปแล้วเธอไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับแพทริกเลยนอกจากรู้ว่าเขาเป็นลูกของเพื่อนแม่อาภาและเห็นเขาเป็นข่าวคาวๆ กับหญิงสาวอยู่บ่อยๆ“คุณภาวนาใช่ไหมคะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาตามคำแนะนำของพนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พอลิฟต์เปิดออกมาก็มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยยืนยิ้มหวานอยู่หน้าลิฟต์เหมือนรอเธออยู่อย่างไรอย่างนั้น“ค่ะ”“เชิญทางนี้เลยค่ะ ดิฉัน นภา นะคะ เป็นเลขาของคุณแพท” นภาเดินนำหน้าเธอไปยังห้องหนึ่งที่อยู่มุมในสุดของชั้นผู้บริหาร เมื่อเข้ามาถึงเธอก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือห้อง แม่บ้า
ตอนที่17.“อืม.. ถอดก็ดี ฉันว่ามันน่าจะนวดได้ดีกว่าใส่เสื้อ ต้องถอดกางเกงด้วยมั้ย” เขาถามหน้าตาจริงจังภาวนาส่ายหน้าหวือใบหน้านวลใสแดงก่ำ“มะ ไม่ต้องค่ะ ถอดแค่เสื้อเชิ้ตตัวนอกก็ได้ค่ะไม่ต้องถอดทั้งหมด”“หึหึ.. นึกว่าจะต้องถอดด้วย หากจะให้ถอดก็บอกนะฉันยินดี แต่ฉันเป็นคนที่ถ้าจะถอดแล้วก็ต้องถอดให้หมดนะบอกไว้ก่อน”พูดจบเขาก็ถอดเสื้อเชิ้ตและเสื้อกล้ามเนื้อดีที่สวมอยู่ออกอย่างว่าง่ายภาวนาหน้าร้อนผ่าวกับร่างแกร่งที่เปลือยช่วงบน หญิงสาวแอบค้อนคนที่นอนหลับตาพริ้มอีกครั้งแล้วหยิบเอาน้ำมันนวดสูตรพิเศษที่ตนทำไว้ใช้เองและนำมันติดตัวไปด้วยเสมออกมาจากกระเป๋ากางเกงตัวหลวมของชุดยูนิฟอร์มแม่บ้านออกมาแล้วเทลงบนฝ่ามือแล้วค่อยๆ ลูบไปที่ต้นคอแกร่งช้าๆ แล้วออกแรงนวดหนักเบาตามแบบที่เคยทำ“นวดตรงหัวไหล่หนักๆ หน่อยนะ แล้วก็นวดแขนให้ด้วยปวดแขนเมื่อวานเขียนแบบซะเมื่อยไปหมด” เสียงคนตัวโตย้ำเมื่อเธอบีบหัวไหล่เขาเบาๆ“ค่ะ..” หญิงสาวตอบรับแล้วทำตามที่เขาบอกไปเรื่อยๆ สักพักเมื่อเห็นว่าเขาเงียบไปภาสวนาก็ชะโงกหน้าไปดูปรากฏว่าแพทริกหลับไปแล้วลมหายใจสม่ำเสมออย่างคนหลับสนิท หญิงสาวมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาอย่างอดชื่นชมไม่ได้ว
ตอนที่18.“แล้วทำอะไรได้บ้าง”“ก็ทำอาหารและใช้แรงงานค่ะ” หญิงสาวตอบกำปั้นทุบดินทำให้แพทริกสำลักน้ำไอแค่กๆ จนหน้าแดงก่ำ“นี่รวนกันใช่ไหม”“เปล่าค่ะ”เธอทำหน้าซื่อแพทริกนึกเคืองในใจ แต่ก่อนที่หนุ่มสาวจะได้พูดคุยกันต่อนภาก็โทรศัพท์มารายงานบางอย่างที่ทำให้ภาวนาลอบถอนใจ“บอกว่าฉันไม่ว่าง แต่จะให้แม่บ้านของฉันไปรับรองก็แล้วกัน”แพทริกถอนหายใจแรงๆ แล้วหันมามองภาวนาด้วยสีหน้ายิ้มๆ ซึ่งมันเป็นยิ้มที่ทำให้หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง“ลิซ่ากับโรซี่มา ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับรองแขก เธอช่วยไปดูแลทีนะ”“ค่ะ..” หญิงสาวรับคำด้วยความเจ็บปวดลึกๆ ไม่ใช่เพราะหึงหวงหรือขัดเคืองใจที่มีหญิงสาวมาหาเขาซึ่งเป็นสามีของเธอ แต่ภาวนาเจ็บปวดที่ต้องทนรับสภาพที่ต้องทนให้คนอื่นโขลกสับหรือเป็นที่รองรับอารมณ์ของใคร เมื่อไหร่เธอจะพ้นจากสภาพนี้เสียที.. นั่นคือสิ่งที่อยู่ในใจของเธอตลอดมาภาวนาลงมาที่ห้องรับรองก็พ
ตอนที่19.“ช่วยเรียกรถพยาบาลหน่อยค่ะคุณนภา พอดีว่าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ” ภาวนาพูดเนิบๆ“กรี๊ด นังภาวนาแกทำร้ายพวกเราฉันจะแจ้งความเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด”“ใช่ฉันจะฟ้องแพทด้วยว่าแกทำร้ายร่างกายพวกฉัน ฮือออ เจ็บๆ อ๊าย แก้วบาดขาฉัน” โรซี่กับลิซ่ากรีดร้องล้มลุกคลุกคลานขึ้นจากพื้นใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด“เชิญเลยค่ะ อย่าลืมบอกด้วยล่ะว่าพวกคุณจะทำอะไรฉัน แล้วเคยได้ยินไหมคะว่า ให้ทุกข์แกท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวแค่นี้ยังน้อยไปนะคะ คนอย่างฉันก้มหัวให้เฉพาะบางคนเท่านั้น แต่กับคนที่พยายามจะทำร้ายฉัน ฉันสู้ไม่ถอย..”ภาวนาเชิดหน้าตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเด็ดขาดแล้วเดินออกไปโดยไม่หวั่นเกรงกับคำขู่ของทั้งสองสาวที่กรีดร้องจนแสบแก้วหูตามหลังมา นภามองภาวนากับสองสาวที่กรีดร้องเหมือนชะนีถูกเชือดสลับกันไปมาอย่างนึกทึ่งแล้วก็เห็นว่าตอนนี้โรซี่กับลิซ่าเหมือนชะนีถูกเชือดจริงๆ ถูกเชือดจนเลือดอาบเลยทีเดียว ที่สำคัญเธอมองภาวนาผิดไป ผิดมากแต่เป็นการมองผิดในทางที่ดี..ภาวนารีบออกจาก
ตอนที่20.ภายนอกทุกคนคงคิดว่าผู้หญิงอย่างภาวนาจะถูกรังแกเอาเปรียบได้ง่ายๆ แต่เมื่อเจอฤทธิ์เข้าจริงๆ ก็จะพบว่าภาวนาเป็น เสือซ่อนเล็บ ดีๆ นี่เอง โรซี่กับลิซ่าถึงกับพ่ายแพ้จมกองเลือดกันเลยทีเดียวตอนแรกเขาโกรธที่ภาวนาทำร้ายสองสาวถึงขนาดเลือดตกยางออกแต่เมื่อนภารายงานความจริงให้รับรู้และเขาก็ได้เปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบว่าสองคนนั้นตั้งใจจะกลั่นแกล้งภาวนาจริงๆ และพวกเจ้าหล่อนก็ทำตัวเองแต่ก็น่าแปลกถึงแม้ว่าภาวนาจะไม่ยอมใครแต่กับเขาและมารดาไม่ว่าจะโขลกสับใช้งานกลั่นแกล้งเธออย่างไรภาวนากลับไม่มีทีท่าจะคัดค้านอิดออดเลยสักครั้ง เธอจะรีบทำตามคำสั่งทันทีและไม่มีเกี่ยงงอนแม้ขนาดป้อนข้าวเขาก็ยังทำ แพทริกยิ้มบางๆ กับตัวเองโดยไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงใบหน้าใสๆ แดงก่ำอย่างขัดเขินของภาวนาตอนป้อนข้าวให้เขาพลางนึกถึงวันที่ได้จูบเธอครั้งแรกจิตใจของเขาก็มักวนเวียนคิดถึงเธออยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะพยายามปฏิเสธแค่ไหนขนาดว่าหมกมุ่นทำงานหนักมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาพอหัวสมองว่างก็มักจะวกกลับมาคิดถึงเรียวปากนุ่มๆ ของเธออยู่ร่ำไป จะว่าไป
ตอนที่48.“พี่ว่าพราวควรให้โอกาสตัวเองบ้าง”เป็นเอกพูดเบาๆ เมื่อสังเกตเห็นรอยครุ่นคิดบนใบหน้านวลผ่องใส แต่แววตาที่เต็มไปด้วยความครุ่นคิดนี่ล่ะมันน่าเป็นห่วง“พี่เอกเข้าข้างเขาเหรอคะ”“เปล่า.. พี่เข้าข้างหลานพี่ต่างหาก”“เขาเคยทำไม่ดีกับพราว รังแกพราว” หญิงสาวยังคงแย้งเสียงแข็ง“คนอย่างพราวไม่ใช่จะยอมใครง่ายๆ แต่ที่ยอมให้เขารังแกก็เพราะพราวรักเขา..”“ไม่จริง..” ภาวนารีบแย้งแล้วหลบตา เป็นเอกถอนหายใจหนักๆ“ความรักมันอธิบายยาก แต่เข้าใจได้ง่าย เอาเป็นว่าพราวก็คิดถึงลูกให้มากๆ ก็แล้วกันที่พูดนี่ก็เพราะเป็นห่วงทั้งพราวและลูกที่จะเกิดมา พราวก็เห็นแล้วว่าการคิดแค้นและถือเอาทิฐิเป็นใหญ่มันเป็นยังไงและพราวเองก็ได้รับผลกระทบของมันมากับตัว พราวอยากให้ลูกเกิดมาเป็นเหมือนพราวรึเปล่า”เป็นเอกเดินออกไปแล้วภาวนาค่อยๆ หันไปมองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มที่ตนนับถือเสมือนพี่ชาย เป็นเอกรู้เรื่องราวของเธอทุกอย่างมาตลอด มีเพียงเขากับค
ตอนที่47.“ก็ผู้หญิงคนนั้นไง ภาวนา คือเมียผมและเธอก็กำลังอุ้มท้องลูกของผมด้วย แต่บังเอิญเรามีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อยเธอเลยโกรธผม” น้ำเสียงแสนมั่นใจและรอยยิ้มกว้างของเขาทำให้คนที่ใจเย็นและเก็บอารมณ์ได้ดีเช่นภาวนาถึงกับสติแตกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน“คนบ้า ฉันไม่ได้เป็นเมียใคร ไม่ได้อุ้มท้องลูกคุณและไม่ได้มีเรื่องค้างคาใจอะไรกับคุณด้วย”“จริงเหรอ.. พราวจะให้พี่บอกใครๆ ทั้งบางนี้เลยมั้ยล่ะว่าเราเป็นอะไรกัน” แพทริกรุกเข้าไปอีกขั้น“คุณมันก็พวกกินในที่ลับขับในที่แจ้ง ทุเรศที่สุด ออกไปจากร้านของฉันจะดีกว่า ฉันไม่อยากซวยแต่เช้า พี่เอกคะ รบกวนไล่พวกก่อกวนออกจากร้านด้วยนะคะ” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินหนีไปหลังร้าน เป็นเอกหันมายิ้มเยาะแล้วผายมือไปที่ประตูเป็นการบอกว่าให้แพทริกออกไป“ผมจะง้อเมีย คุณจะขัดขวางพรากพ่อแม่ลูกเขาเหรอ”“โอ๊ย.. อยากหัวเราะ นี่คุณแพทริกคุณคงลืมอะไรไปนะครับ คุณไม่ได้แต่งงานกับพราว และคุณก็ไม่เคยให้เกียรติพราวในฐานะนี้มาก่อน พวกค
ตอนที่46.คุณเพทายนั่งลงข้างๆ ลูกชายที่ขยับตัวนั่งแต่แผ่นหลังกว้างกลับคู่ลงข้อศอกทั้งสองข้างชันบนเข่า ท่าทางตอนนี้ของแพทริกไม่เหลือคราบนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่เก่งฉกาจทั้งเรื่องงานและเรื่องรักเลยแม้แต่น้อย มีเพียงชายหนุ่มขี้เมามอซอเท่านั้น..“คุณแม่มีอะไรหรือครับ”“แม่มีความจริงจะบอก..” แล้วคุณเพทายก็ตัดสินใจพูดในสิ่งที่นางเองก็ยังไม่กล้าที่จะพูดกับหญิงสาวคนนั้น คนที่ทำให้นางกับลูกชายต้องมานั่งทุกข์เพราะทิฐิในใจ เพราะตั้งแต่สิ้นสุดงานศพของนางอาภา ภาวนาก็หายหน้าไปไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมาและไม่มาขอความช่วยเหลือใดๆ จากพวกตนเลย ภาวนาทำเหมือนว่าได้ตายจากไปอีกคน ซึ่งคุณเพทายเองก็ยังคงรู้สึกประดักประเดิด คิดอยู่ว่าจะขอโทษภาวนาที่เคยทำอะไรๆ ที่ไม่ดีด้วย แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ยอมรับและเมินเฉยต่อการปรากฏตัวของนาง เย็นชา.. นั่นคือสิ่งที่นางได้รับจากภาวนา ซึ่งนับว่าภาวนาเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งและหยิ่งทระนงมากทีเดียว...“พราวท้องหรือครับ ท้องกับใคร..” เป็นคำถามที่โง่ที่สุดเท่าที่แพทริกถามออกมา และค
ตอนที่45.ดวงตาที่หลับลงเมื่อครู่ลืมขึ้น ดวงตากรอกไปมาเหมือนมองหาแต่ฝ้าขาวบดบังการมองเห็น ภาวนาปิดปากกลั้นสะอื้นด้วยความสงสารมารดา คุณเพทายเดินไปใกล้ๆ แล้วจับมือผอมๆ ของเพื่อนรักในอดีตขึ้นมาแล้วก้มลงพูดใกล้ๆ“ฉันรู้ความจริงหมดแล้วภา ฉันขอโทษที่ทำร้ายเธอฉันมันโง่เองที่ให้ความโกรธความงี่เง่าของฉันมันทำร้ายเธอกับลูก ยกโทษให้กับความโง่เขลาของฉันนะภา”“ดีใจจัง.. ขอบคุณ.. ฉันไม่เคยโกรธเธอเลย”นางอาภายิ้มทั้งน้ำตา เสียงแหบพร่าเบาแสนเบาแต่คุณเพทายกับภาวนาก็ได้ยิน“ขอบคุณที่เธอทำเพื่อฉัน อโหสิให้ฉันนะภา”นางอาภาหายใจหอบขาดห้วงแต่ก็พยักหน้าช้าๆ ให้ ใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้นเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม สิ่งที่ค้างคาในใจมาตลอดกว่าสามสิบปีมันได้มลายหายไปในบัดดล และความกังวลใดๆ ในใจก็ไม่มีติดค้างแล้ว ภาวนาได้ในสิ่งที่ปรารถนาซึ่งคนเป็นแม่ย่อมรู้ดีว่าลูกของตนจะสามารถดูแลตัวเองได้“ฝากพราวด้วยนะ พราวแม่รักพราวนะลูก”“พราวก็รักแม่ค่ะ แม่หลับให้สบายนะคะ
ตอนที่44.“ต่อไปนี้ก็จะถึงคราวที่เราต้องเปิดร้านจริงๆ แล้วสินะ” ภาวนายิ้มกับความฝันที่จะมีร้านขนมของตัวเองซึ่งเธอกับเป็นเอกร่วมหุ้นกันและร้านก็สร้างเสร็จแล้ว แค่รอฤกษ์เปิดบริการเท่านั้นเอง“ยินดีด้วยนะภาวนา” เสียงคุ้นหูดังขึ้นทำให้ภาวนาที่กำลังยืนคุยกับทีมงานหันขวับไปมองแล้วตาโตอย่างไม่อยากเชื่อสายตาว่าแพทริกมายืนอยู่ตรงหน้าในขณะเดียวกันเป็นเอกก็รับโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“คุณมาทำไมคะ” เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรเธอก็จึงถามออกไปแบบนั้นทำให้ชายหนุ่มหน้าหงิกไปเลยทีเดียว“ผัวจะมาหาเมียนี่ต้องมีคำว่ามาทำไมด้วยเหรอ”“พูดให้มันดีๆ นะคะ”ภาวนาหน้าแดงก่ำเมื่อเสียงของเขาไม่เบาเลยทำให้หลายๆ คนหันมามองเธออย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ก่อนที่ภาวนากับแพทริกจะได้ตอบโต้กันเป็นเอกก็เข้ามากระซิบอะไรบางอย่างกับเธอ“งั้นเราไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวไม่ทัน”หญิงสาวหน้าตาเป็นกังวลแล้วรีบเก็บข้าวของใส่กล่อง เป็นเอกหันไปสั
ตอนที่43.“ฉันทำผิดกับเพื่อนรักของฉันเหลือเกิน.. และที่สำคัญฉันก็ทำผิดกับคนบริสุทธิ์อีกสองคน..” แล้วคุณเพทายก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ยี่สุ่นฟังซึ่งยี่สุ่นเองก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาเพราะสงสารในชะตากรรมของสองแม่ลูกที่ได้พบเจอ“มันไม่ใช่ความผิดของคุณท่านนะคะ ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่ผิด สุ่นว่าป่านนี้คงตายไปแล้วล่ะค่ะ”“ยี่สุ่นแล้วหลานของฉันล่ะ”“เรื่องนี้สุ่นไม่กล้าที่จะพูดอะไรหรอกค่ะ คุณท่านต้องติดสินใจเอง หากว่าคุณท่านอยากจะชดเชยให้กับพวกเขาคุณท่านก็ควรบอกความจริงและยกเลิกสัญญานั้นเสีย”“ฉัน.. ขี้ขลาดเหลือเกินยี่สุ่น”“นี่ก็ดึกแล้วคุณท่านพักผ่อนเถอะค่ะ อย่างไรเสีย คุณพราวก็ยังอยู่กับเรา..”ยี่สุ่นยิ้มบางๆ ให้ผู้เป็นนายก่อนจะดูแลความเรียบร้อยในห้องแล้วกลับไป แต่คุณเพทายยังคงคิดไม่ตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นคุณเพทายเฝ้ามองอาการของภาวนาอย่างพิจารณา
ตอนที่42.“ขอบคุณนะคะ” ภาวนาเดินเข้ามาหยุดมองมารดาของตนแล้วรู้สึกใจหายกว่าทุกวัน เธอรู้ดีว่าเวลาของมารดานั้นน้อยลงทุกที“แม่คะพราวมาเยี่ยมนะคะ”หญิงสาวนั่งลงข้างเตียงแล้วเรียกมารดาเบาๆ ดวงตาโศกซึ้งมองร่างที่นอนแบบอยู่บนเตียงด้วยความหดหู่ รู้ดีว่าอีกไม่นานมารดาก็จะจากไป แม้จะทำใจไว้แล้ว แต่ก็อดที่จะขอบตาร้อนผ่าวไม่ได้เมื่อคิดถึงวันที่ตนต้องอยู่คนเดียวจริงๆ“แม่คะ.. พราวอยากบอกข่าวดีแม่จังค่ะ และพราวอยากจะบอกแม่ว่าพราวขอบคุณแม่ในทุกๆ สิ่งที่แม่เสียสละเพื่อพราว อีกไม่นานพราวก็คงหมดภาระหน้าที่ทดแทนบุญคุณแทนแม่กับคนพวกนั้นแล้ว พราวดีใจนะคะที่อย่างน้อยๆ พราวก็ทำในสิ่งที่แม่ไม่สามารถทำได้สำเร็จ แม่คะพราวจะเข้มแข็ง แม่ไม่ต้องห่วงพราวนะคะว่าพราวจะอยู่ตัวคนเดียว พราวมีเพื่อนแล้วค่ะ พราวมีพี่เอก และพราวกำลังจะมีลูก มีหลานให้แม่”ภาวนายิ้มบางๆ แล้วลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบของตนอย่างมีความสุขในขณะที่คนซึ่งแอบฟังอยู่นั้นรู้สึกตกใจจนต้องยกมือขึ้นปิดปากกั้นเสียงอุทานไว้ในลำคอ หัวใจของคุณ
ตอนที่41.“พราว พราวจริงๆ ด้วย พี่มองอยู่นานนึกว่าใคร” เสียงนุ่มของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นทั้งสองสาวจึงเงยหน้ามอง“พี่เอก มาได้ยังไงคะเนี่ย” ภาวนายิ้มกว้างดีใจที่เจอเป็นเอก“พอดีพี่มาซื้อของไปเตรียมงานน่ะ ว่าแต่พราวเถอะมายังไง แล้วนี่ โอ้โห.. สวยจัง” เป็นเอกยิ้มกว้างเมื่อเห็นหญิงสาวสวยสดใสเปล่งปลั่งผิดหูผิดตา“อุ๊ย ลืมแนะนำไปค่ะ นี่พี่เมนี่ พี่เมนี่คะ พี่เอกค่ะ พี่เอกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพราวเลยค่ะ” เป็นเอกหันไปมองหญิงสาวสวยที่นั่งดอกอกเชิดหน้าอย่างไว้ตัวข้างๆ ภาวนา“คุณนั่นเอง”“อ้าวรู้จักกันเหรอคะ”“ไม่..” หนุ่มสาวพูดขึ้นพร้อมกันแล้วก็ต่างมองหน้ากันอย่างขุ่นเคือง ภาวนามองทั้งสองสลับกันไปมา“เราไปกันเถอะน้องพราว” เมทินีตัดบทแล้วลุกขึ้นดึงมือภาวนาจะเดินออกจากร้านไป แต่เป็นเอกขัดขึ้นเสยก่อน“คุณติดค่าข้าวผมนะคุณหมอ” เมทินีชะงักแล้วหันมามอ
ตอนที่40.ลิซ่านั่งลงข้างๆ ภาวนาแต่ท่าทางของหญิงสาวสมัยใหม่ที่ชอบเที่ยวเตร่อย่างลิซ่านั้นดูขัดตา ขาดๆ เกินๆ และดูหยิบโหย่งจนคุณเพทายนึกดีใจที่แพทริกไม่ได้คิดจริงจังกับลิซ่า แม้ลิซ่าจะสวยและร่ำรวยพอสมควรแต่นิสัยใจคอไม่เอาการเอางานทำให้คุณเพทายไม่อาจจะรับได้ นางอยากได้ลูกสะใภ้ที่เก่งงานบ้านงานเรือนมีใจคอหนักแน่นและหนักเอาเบาสู้ ไม่ใช่จะแต่งตัวสวยไปวันๆ อย่างลิซ่า แล้วใจของคุณเพทายก็กระตุกหันไปมองภาวนาอย่างพินิจพิเคราะห์ หัวใจของนางไหววูบด้วยความรู้สึกประหลาดและยอมรับกับตัวเองว่า ภาวนาคือคนที่ใช่ในคุณสมบัติที่นางต้องการ แต่เพราะภาวนาเป็นลูกสาวของอาภานั้นคือข้อจำกัดอันร้ายแรงที่ไม่อาจจะยอมรับได้นางไม่เคยรังเกียจหากแพทริกจะรักชอบพอกับหญิงสาวต่างฐานะหรือเป็นเพียงลูกสาวคนทำงานหาเช้ากินค่ำ หากผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีและรักแพทริกจริงๆ นางก็พร้อมจะอ้าแขนรับเข้ามาร่วมใช้นามสกุล คุณเพทายถอนหายใจเบาๆ แล้วบอกให้ลิซ่าลองร้อยมาลัยกรดูบ้าง“ลิซ่าไม่ชอบงานพวกนี้เลยค่ะ รู้สึกเหมือนร้อยมาลัยขายตามสี่แยกไฟแดงเลยนะคะ”“การร้อยมาลัย