พอใส่ปุ๋ยต้นไม้ให้กับ แม่สามี แล้วภาวนาก็ต้องรีบล้างไม้ล้างมือเดินไปยังห้องครัวด้วยความรีบร้อน ทำให้ชนกับหญิงสาวแต่งตัวสวยปราดเปรียวคนหนึ่งจนตัวเธอเองกระเด็นล้มไม่เป็นท่าอยู่กับพื้นหญ้า
“ว้าย เดินยังไงกันยะไม่ดูรึไงว่าฉันเดินอยู่ตรงนี้”
หญิงสาวคนนั้นหันมาเท้าสะเอวยืนค้ำหัวเธอน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ใบหน้าที่แต่งมาอย่างดีบิดเบ้จนน่าขันแต่ภาวนาไม่มีอารมณ์ขัน
“คุณต่างหากที่เดินไม่ดูคนที่นี่บ้านคนนะคะไม่ใช่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ภาวนาลุกขึ้นปัดเศษดินออกจากตัวแล้วจะเดินผ่านไป หากหญิงสาวคนนั้นไม่เรียกจิกเธอไว้เสียก่อน
“หยุดนะนังขี้ข้า ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลยนะยะ”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมฉันต้องขอโทษด้วย หากจะขอโทษเราก็ต้องขอโทษซึ่งกันและกัน” ภาวนาไม่ยอมแพ้ แม้ภายนอกเธอจะดูเงียบๆ หงอๆ แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครรังแกได้ง่ายๆ หากเธอจะยอมเธอก็ยอมให้กับแค่บางคนและบางครั้งเท่านั้น
“แต่แกเป็นขี้ข้าแกต้องขอโทษฉัน ฉันเป็นเมียเจ้าของบ้านนี้นะรู้เอาไว้ด้วย”
คำพูดนี้ทำให้ภาวนายิ้มบางๆ กอดอกมองหญิงสาวที่แต่งตัวได้ไร้รสนิยมใจความคิดของตน เพราะนอกจากจะไม่สวยแล้วยังเหมือนว่าเจ้าหล่อนเอาเศษผ้าขาดๆ มาพันไว้บนร่างกายเฉพาะส่วนสงวนเท่านั้น หากไปเดินแถวๆ ซอยบ้านเธอมีหวังหมาข้างถนนวิ่งไล่ฟัดแน่ๆ
“จะบอกอะไรให้นะคะคุณเมียเจ้าของบ้าน ฉันไม่ใช่ขี้ข้าค่ะ และจะบอกอะไรให้อีกอย่างที่สำคัญมากๆ นะคะ ลองไปถามคนในบ้านนี้ดูนะว่าฉันเป็นใคร..”
พูดจบภาวนาก็เดินเร็วๆ จากไปโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องของคนที่กระทืบเท้าเร่าๆ เหมือนโดนตบจนซิลิโคนเสริมจมูกทะลัก และเสียงกรีดร้องของเจ้าหล่อนก็ทำให้คุณเพทายที่กำลังจะเดินกลับเรือนใหญ่ต้องเดินมาดูด้วยความสงสัยว่ามีใครเป็นอะไร
“เกิดอะไรขึ้น ใครเอาชะนีมาเชือดในบ้านฉัน”
“คุณแม่ขา ช่วย ลิซ่า ด้วยคะ เมื่อกี้ลิซ่าถูกเด็กรับใช้ทำร้าย มันเดินชนลิซ่าจนล้มก้นกระแทกเลยนะคะ แล้วยังไม่ขอโทษแถมยังท้าตบท้าตีกับลิซ่าด้วย ไม่พอนะคะมันยังท้าทายลิซ่าให้ถามคนในบ้านว่ามันเป็นใคร”
ลิซ่าปรี่มาหาคุณเพทายแล้วฉอเลาะด้วยท่าทางน่าสงสารซ้ำยังเรียกคุณเพทายว่าคุณแม่อย่างไม่กระดากปาก คุณเพทายปรายตามองนึกเยาะในใจว่าลูกชายนางช่างไร้รสนิยมในการคบผู้หญิงเสียจริงๆ ยายลิซ่านี่เป็นนางแบบดังและยังเป็นลูกสาวเจ้าของธุรกิจส่งออกผลิตภัณฑ์แช่แข็งก็จริงแต่การแต่งเนื้อแต่งตัวไม่ถูกกาลเทศะและไร้รสนิยมมาก เน้นแค่โชว์นั่นเปิดนี่จนไม่เหลืออะไรให้น่ามอง ซ้ำการวางตัวก็ไม่มีสัมมาคารวะเรียกได้ว่าไม่มีความเป็นผู้ดีเลยแม้แต่น้อย
“แล้วยังไงละจ๊ะจะให้ฉันช่วยยังไง” คุณเพทายพอนึกออกว่าคนที่ลิซ่าพูดถึงนั้นเป็นใครเพราะคนที่เพิ่งเดินมาก่อนหน้านางก็คือภาวนา
“คุณแม่ต้องเรียกมันมาขอโทษลิซ่านะคะหรือไม่ก็ให้ลิซ่าตบมันเพื่อเป็นการลงโทษที่บังอาจมาอวดดีกับลิซ่า”
“แล้วเธอจะให้ฉันเรียกคนของฉันมาให้เธอลงโทษในข้อหาหรือโทษฐานอะไร แล้วเธอเป็นใครถึงจะมาทำร้ายคนในบ้านฉันล่ะจ๊ะ อ้อ.. อีกอย่างไม่ต้องเรียกฉันว่าแม่นะจ๊ะฉันไม่เคยมีลูกสาวและไม่อยากมี หากมีแล้วเป็นเหมือนเธอ และข้อสุดท้ายนะจ๊ะ หากคนที่เดินชนกับเธอเมื่อครู่ตัวเล็กๆ ผมสั้นๆ น่ะ คนนั้นน่ะคือเมียของตาแพทเพิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านนี้เมื่อเช้านี้เอง”
“อะ อะไรนะคะ..” ลิซ่ายืนเซ่ออยู่กับที่อย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน และเป็นอีกครั้งที่เธอถูกเดินหนีไปอย่างไม่ไยดี...
ทางด้านภาวนาที่เดินเข้ามาในห้องครัว หญิงต่างวัยสี่คนก็หันมามองเธอเป็นตาเดียว เธอเดาได้ว่าหญิงร่างท้วมผิวค่อนข้างขาวมวยผมไว้กลางศีรษะน่าจะเป็นแม่ครัวใหญ่และหญิงสาวอีกสามคนก็ต้องเป็นลูกมือ
“เอ่อคือ..” ภาวนาไม่รู้จะแนะนำตัวอย่างไรดีและไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน
“คุณคือคุณพราวใช่มั้ยคะ มาทางนี้เลยค่ะ มานั่งข้างกระจิบเลยค่ะ” หญิงสาวน่าจะวัยใกล้เคียงกันกับเธอใบหน้ากลมแป้นแร้นผิวสองสีพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรพร้อมทั้งมาดึงมือเธอให้ไปนั่งข้างๆ
“พี่ชื่อกระจิบนะคะ พี่น่าจะเป็นพี่ ส่วนนี่นัง ผักบุ้ง นี่นัง ผักหวาน มันเป็นพี่น้องกันค่ะ บ้านเกิดอยู่บึงกาฬ ส่วนพี่อยู่บึงบอระเพชร แล้วก็นั่น ป้าอร่อย แม่ครัวของเรา แกทำอาหารอร่อยสมชื่อเลยนะคะ”
“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ พราวฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
“วุ้ยทำเป็นมาฝากเนื้อฝากตัว ถามจริงๆ เถอะ ไม่รู้ตัวรึไงว่ามาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร” ผักหวานลุกขึ้นเท้าสะเอวลอยหน้าลอยตาพูดแววตาของเธอเต็มไปด้วยความริษยาอย่างปิดไม่มิด
“นี่นังผักหวาน เอ็งนั่งลงทำงานของตัวเองไปเลย” ป้าอร่อยใช้ตะบวยตักแกงชี้หน้าผักหวานอย่างฉุนเฉียวแต่ผักหวานไม่ใส่ใจ ไหวไหล่ยียวน
“ป้าอย่ามาทำเป็นพูดดีเลย ใครๆ ก็รู้กันทั้งบ้านว่ายายคนนี้อยู่ในฐานะอะไร มันก็ขี้ข้าเหมือนกันนั่นแหละโว้ย จะดีหน่อยก็แค่มีตำแหน่ง เมีย พ่วงมาเท่านั้นล่ะ แต่สถานะก็ขี้ข้าเหมือนเดิม”
“นังผักหวาน มันจะมากไปแล้วนะ แกพูดอะไรของแก” ผักบุ้งผู้เป็นพี่สาวหน้าซีดรีบดุน้อง
“ฉันพูดจริงนี่ แล้วฉันยังรู้มาอีกว่า ที่ยายพราวได้มาอยู่ที่นี่ก็เพราะถูกขายมาเป็นขี้ข้า หรือจะพูดอีกทีก็คือขายตัว ที่สำคัญที่คุณเพทายให้มันอยู่ในฐานะนี้ก็เพราะต้องการ แก้ แค้น..”
ผักหวานหันมายิ้มเยาะและพูดเน้นในประโยคสุดท้ายด้วยความสะใจที่เห็นใบหน้าของภาวนาซีดขาวตื่นตะลึงในสิ่งที่ตนพูดออกไป
“นังผักหวาน” ทั้งป้าอร่อย พี่กระจิบและผักบุ้งร้องขึ้นพร้อมกันมองผักหวานตาเขียวปัด
“อะไรวะ พูดความจริงแค่นี้รับไม่ได้ ฉันไปดีกว่า เพราะมีขี้ข้าคนใหม่มาทำหน้าที่แทนแล้ว ฮ่าๆๆ”
ว่าแล้วร่างผอมบางของผักหวานก็สะบัดหน้าเดินออกไปพร้อมทั้งฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเหมือนจะยั่วให้คนฟังประสาทเสีย
“อย่าไปฟังมันเลยค่ะคุณพราว นังนี่มันขี้อิจฉา ใครดีกว่า สวยกว่ามันอิจฉาหมดล่ะ” ป้าอร่อยยิ้มปลอบ
“แต่พราวไม่ได้สวยนี่คะ”
ภาวนายังคงติดใจในคำพูดของผักหวานอยู่ไม่น้อย เกี่ยวกับเรื่องการ แก้แค้น ของคุณเพทาย ส่วนป้าอร่อยนึกขันคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองสวย
“อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ มันก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย คุณพราวทำอาหารเป็นไหมคะ มาช่วยป้าทางนี้ดีกว่า” ป้าอร่อยตัดบททำให้ภาวนาจำต้องเดินไปหานาง
ตอนที่6.ภาวนายังคงติดใจในคำพูดของผักหวานอยู่ไม่น้อย เกี่ยวกับเรื่องการ แก้แค้น ของคุณเพทาย ส่วนป้าอร่อยนึกขันคนไม่รู้ตัวว่าตัวเองสวย“อย่าไปสนใจมันเลยค่ะ มันก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย คุณพราวทำอาหารเป็นไหมคะ มาช่วยป้าทางนี้ดีกว่า” ป้าอร่อยตัดบททำให้ภาวนาจำต้องเดินไปหานาง“พราวทำอาหารเป็นค่ะและชอบทำมาก พราวอยากเป็นเชฟในโรงแรมหรือร้านอาหารใหญ่ๆ ค่ะ” หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อได้พูดถึงความฝันของตนเองและวางเรื่องที่ผักหวานพูดไปชั่วคราว“ดีเลยค่ะ วันนี้เราจะทำอะไรกันดีคะ มีปลากะพง ผักบุ้ง กะทิแล้วก็ผักอีกสองสามอย่าง”“คุณเพทายชอบกินอะไรคะ”“คุณท่านชอบอาหารไทยๆ โดยเฉพาะเมนูปลาค่ะ อาหารที่ไม่มีกะทิ แต่คุณแพทชอบแกงกะทิแต่ไม่ชอบกินหวานและในบ้านไม่มีใครกินเนื้อวัวหรือสัตว์ใหญ่ค่ะ” พี่กระจิบบอก“อ้อ.. ค่ะ” ภาวนารับรู้แล้วหันไปคุยกับป้าอร่อยเรื่องอาหารอย่างถูกคอหลังจากที่ทำอาหารเย็นเสร็จแล้วก็เป็นเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาเศษๆ ภาวนารู้สึกเหนียวตัวและอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะวันนี้ตั้งแต่มาถึงเธอก็ได้ทำงานตลอดทั้งวันจนเหงื่อท่วมตัวแต่เธอไม่รู้จะบอกใคร หรือทำอย่างไรในเมื่อสิ่งที่ค้างคาใจอยู่นั้นมันทำให้เธอนั่งหงอ
ตอนที่7.“หยุด.. อย่าคิดแม้แต่จะเข้ามาทำอะไรที่ไม่เข้าท่า ถ้าไม่อยากเจอดี”น้ำเสียงและแววของภาวนาเข้มจัด ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่ก็ทำให้ผักหวานไม่กล้าเข้ามามีเพียงลิซ่าเท่านั้นที่กรีดร้องโวยวายด้วยความเจ็บปวดและเจ็บใจ“กรี๊ดนังบ้า แกปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บนะ”“ปล่อยน่ะปล่อยแน่” พูดจบภาวนาก็ผลักลิซ่าเต็มแรงจนหน้าไถลไปกับพื้นดีที่เจ้าหล่อนเอามือยันพื้นได้ทันก่อนที่ใบหน้าสวยเพราะศัลยกรรมจะแหกเพราะกระแทกกับพื้นปูอิฐหยาบๆ“ไปกันเถอะค่ะพี่ยี่สุ่น” ภาวนาเดินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยี่สุ่นจึงรีบก้าวตามไป ปล่อยให้ลิซ่ากับผักหวานนั่งมองด้วยความเดือดดาล“เจ็บใจนัก ฉันจะฟ้องแพทคอยดู”“ฟ้องเลยค่ะคุณลิซ่ามันมาทีหลังคุณนะคะ คุณแพทไม่มองมันหรอกค่ะ คุณแพทต้องเชื่อคุณลิซ่าและลงโทษมัน” ผักหวานยุส่งแล้วประคองลิซ่าขึ้นมาจากพื้นภาพการปะทะกันระหว่างลิซ่ากับภาวนานั้นอยู่ในสายตาของคุณเพทายตลอด นางมองดูตั้งแต่ภาวนาเดินคุยกันไปตามทางแล้วเจอกับลิซ่าที่ดักรออยู่ จริงๆ แล้วนางเองก็คิดว่าภาวนาจะถูกลิซ่ากับผักหวานรุมแน่นอน แต่แล้วก็กลายเป็นว่ามันผิดคาด และการกระทำของภาวนาทำให้คุณแพทายยิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยๆ
ตอนที่8.น้ำเสียงหาเรื่องอย่างเห็นได้ชัด ภาวนาลอบถอนใจเบาๆ ด้วยความเอือมระอา เธอเคยได้ยินเสียงแบบนี้ของบิดายามที่เรียกจิกมารดานี่เธอจะต้องมาเจอคนแบบเดียวกันกับคนที่เกลียดแสนเกลียดอย่างนั้นหรือ“ขอโทษค่ะ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วไม่คิดว่าเธอจะเอ่ยปากขอโทษเขาง่ายๆ แบบนี้ แต่มันยังไม่พอสำหรับเขา“เอ่ยปากขอโทษเฉยๆ แค่นี้เหรอ”ภาวนากัดริมฝีปากด้านในจนรู้สึกเจ็บ หญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาว่างเปล่าไม่ตอบโต้และไม่สนใจว่าเขาจะเป็นอย่างไรร่างเล็กเดินเร็วๆ ลงบันไดไปโดยไม่เหลียวหลังสร้างความขุ่นเคืองให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก“ยายเด็กบ้าเอ๊ย”แพทริกสบถตามหลังไปแล้วเดินกลับเข้าห้องปิดประตูอย่างแรง ป้าอร่อยซึ่งยืนรอภาวนาอยู่สะดุ้งตกใจมองตามร่างเล็กที่เดินลิ่วๆ ลงบันไดมาอย่างเห็นใจ“ขอโทษที่ให้รอนะคะป้า” หญิงสาวยิ้มให้บางๆ“ไม่เป็นไรค่ะ เราไปกันเถอะค่ะ”ทางด้านแพทริกที่เข้ามาในห้องก็ยังคงหัวเสียอยู่ไม่หาย ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มมองไปที่เตียงกว้างที่มันดูเรียบตึงเหมือนไม่มีใครใช้งานมันแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ“แล้วเมื่อคืนยายมอมแมมนั่นนอนที่ไหน อย่าบอกนะว่านอนบนพื้น” ชายหนุ่มมองเตียงกว้างแล้วกวาดตามองไปรอ
ตอนที่9.“ก็ใช่ไง งานแต่งที่ไม่ใช่งานแต่ง แต่ให้ทุกคนรู้ว่าเธอเป็นเมียลูกแค่นั้น คิดเหรอว่าแม่จะให้ผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างแม่ภาวนามาเป็นสะใภ้หรือให้ใช้นามสกุลเรา ไม่ใช่แค่ภาวนานะ แต่หมายถึงผู้หญิงที่ลูกควงๆ อยู่ทุกคนไม่มีสิทธิ์ด้วย”คุณเพทายน้ำเสียงจริงจังแพทริกจึงยกกาแฟขึ้นจิบเพื่อกลบเกลื่อนไป สองแม่ลูกคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นระหว่างรออาหารเช้าซึ่งทุกวันคุณเพทายจะต้องมานั่งที่นี่เพื่ออ่านหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็เดินออกไปที่สวนดูต้นไม้ใบหญ้า หรือบางครั้งก็จะเก็บดอกมะลิมาร้อยมาลัย แม้คุณเพทายจะไปใช้ชีวิตอยู่สวิสเซอร์แลนด์และอังกฤษตามสามี แต่นางก็ยังคงรักความเป็นไทยและใช้ชีวิตแบบวิถีไทยและสอนให้แพทริกรักในสายเลือดไทยด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่ชายหนุ่มจะพูดภาษาแม่ได้ชัดเจน“คุณแม่ต้องการอะไรครับถึงได้ให้ภาวนาเข้ามาเป็น เอ่อ เป็นเมียผม คุณแม่ก็น่าจะรู้ว่าเธอไม่ใช่รสนิยมผมเลย”“แม่แค่ทำตามความต้องการของตัวเองเท่านั้นล่ะ ลูกจะไม่รักไม่อะไรกับแม่ภาวนาก็ไม่เป็นไรนี่ จะโขลกสับจะด่าว่าอะไรก็แล้วแต่ลูก ภาวนาเป็นสมบัติของลูก แพทจะทำอะไรกับเธอก็ได้..” พูดโดยไม่มองหน้าแพทริกส่ายหน้ายิ้มๆ“ผมไม่เข้าใจ.. แต
ตอนที่10.“รีบทำงานให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมงนี้นะ เพราะฉันมีงานให้เธอทำต่อ..”พูดจบร่างสูงก็เดินออกไป ภาวนาถอนหายใจเฮือกใหญ่มองกระดาษที่ปลิวออกจากกล่องที่ล้มเอียงกะเท่เร่อยู่กับพื้นพรมอย่างเศร้าสร้อยหญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ วันนี้เธอจะต้องทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดไม่ให้มีงานค้างเพราะเธอจะต้องไปเยี่ยมแม่ โชคดีที่คุณเพทายยังพอมีเมตตาต่อเธอบ้างด้วยการอนุญาตให้เธอไปเยี่ยมแม่ได้ทุกเย็นหลังจากทำอาหารเย็นแล้ว เธอจะอยู่กินข้าวหรือไม่พวกเขาไม่เคยสนใจอยู่แล้ว นั่นคือสิ่งที่เธอเองก็ต้องการ ยิ่งไม่สนใจเธอเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะมันทำให้เธอได้มีเวลาของตัวเองบ้างหลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันภาวนารีบยกกล่องลงมาที่ห้องเก็บของใต้บันไดด้านหลังตึกใหญ่ห้องเก็บของที่แพทริกพูดถึงนั้นใหญ่กว่าบ้านหลังเล็กของเธอที่อยู่ก่อนหน้านี้อีก มีชั้นเก็บของมั่นคงแข็งแรงและยังสะอาดสะอ้านอีกด้วย นี่ละนะบ้านมหาเศรษฐีจะทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมด ภาวนารีบจัดการเอกสารตามที่เขาสั่งโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างแต่แล้วก็มีสิ่งมาดึงดูดความสนใจเธอเสียก่อน“นี่หล่อน..” เสียงเรียกแบบจิกหัวดังขึ้นเป็นช่วงเวลาพอดีที่เธอเก็บเอกสารเข้าแฟ้มเก็บอั
ตอนที่11.“คุณท่านคะ ช่วยผักหวานด้วยค่ะ นัง เอ่อ คุณพราวน่ะสิคะ ทำร้ายแขกคุณแพทแล้วยังขังพวกเราไว้ในห้องเก็บของด้วยค่ะ”“ก็ถ้าแกไม่ไปยุ่งกับเขาก่อน เขาจะยุ่งกับแกเหรอนังผักหวาน”“นี่พี่ผักบุ้ง น้องตัวเองโดนรังแกนะ ยังจะไปปกป้องคนอื่นอีก” ผักหวานแหวใส่พี่สาวอย่างลืมตัว“พอทั้งสองคนนั่นล่ะ แล้วนี่หล่อนมาได้ยังไงกันแม่โรซี่”คุณเพทายกอดอกมองโรซี่อย่างไม่ชอบใจพลางปรายตามองลูกชายตัวดีซึ่งหันมายิ้มแหยๆ ให้มารดา“แม่ไม่ชอบเลยนะแพทที่ผู้หญิงของลูกมาวุ่นวายที่บ้าน นี่ไปก่อเรื่องที่บริษัทไม่พอใช่ไหม นี่ยังเห็นหัวแม่กันอยู่รึเปล่า”คุณเพทายถามเสียงเขียวไม่พอใจรุนแรงที่ผู้หญิงของลูกชายเริ่มล้ำเส้นมากเกินไป“โธ่.. คุณแม่ครับ ผมไม่ได้ให้เธอมาหาผมเลยนะครับ อีกอย่างผมก็ไม่เคยคิดจริงจังกับพวกเธอเลย คุณแม่ก็รู้”“ใช่.. แม่รู้ แต่ผู้หญิงพวกนั้นเขาไม่ได้คิดเหมือนลูกนี่นา เขาคิดตรงกันข้ามบอกไว้เลยนะอย่าให้มีเหตุการณ์แบบวันนี้อีก และหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้หญิงของลูกมาวุ่นวายที่นี่ หากยายพวกนั้นจะตบตีแย่งชิงลูกก็บอกให้พวกหล่อนไปไกลๆ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่ของเทเลอร์” คุณเพทายพูดอย่างจริงจังทั้งน้
ตอนที่12.“พราวกำลังจะไปหาพี่เอกนะคะ รอแป๊บเดียวค่ะ”“ครับ พี่รอพราวมาตั้งแต่สองวันที่แล้วแล้วครับ” ทางปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า ภาวนาหัวเราะเบาๆ รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยกับเขา“ค่ะ อีกยี่สิบนาทีพราวไปถึงประตูบ้านนะคะ”พูดจบหญิงสาวก็โบกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วบอกให้ไปยังจุดหมายของเอทันที ยี่สิบนาทีพอดิบพอดีกับที่เธอบอกไว้ภาวนาก็มายืนหน้าบ้านหลังใหญ่ที่เจ้าของบ้านเปิดประตูต้อนรับทันทีเช่นกัน“โอ้โห.. นี่ยี่สิบนาทีเป๊ะเลย” เป็นเอกชายหนุ่มวัยสามสิบเอ็ดปี รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาไม่เป็นรองใครซ้ำยังโสดมั่นคงทั้งฐานะการเงินและการงาน การศึกษาระดับมหาบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่หล่อเหลาครบสูตรแบบนี้เขาก็ยังไม่มีคนรักเสียทีจนใครๆ ต่างก็คิดว่าเขาชอบไม้ป่าเดียวกันแต่เป็นเอกไม่เคยใส่ใจคำนินทาของใคร“ก็บอกแล้วพราวไม่เคยพลาดเรื่องเวลา”“จ้ะแม่คุณมาเถอะ มาฝึกมือกันได้แล้ว หายหน้าไปสองวันมือตกแล้วมั้ง..” แล้วหนุ่มสาวก็เดินคุยกันอย่างเริงร่าเข้าบ้านไป..เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ภาวนารู้สึกอึดอัดจนคิดว่าอากาศบนโลกนี้มันน้อยนิดเสียเหลือเกิน หญิงสาวค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดไปช
ตอนที่13.“กรี๊ดดด..” หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนกร่างเล็กเซเสียหลักไปทางเตียงกว้างในขณะที่แพทริกเองก็ตกใจกับเสียงร้องของเธอจึงเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงและกำลังจะก้าวลงจากเตียงจึงกลายเป็นว่าสองร่างชนกันอย่างจึงล้มแหมะกองกันอยู่ข้างเตียงซ้ำแพทริกยังหัวโขกกับขอบเตียงเสียงดังสนั่นโป๊ก...“โอ๊ยยย.. นี่เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย”ชายหนุ่มร้องลั่นลูบหัวป้อยๆ ทั้งยังดุหญิงสาวที่นั่งคร่อมทับร่างแกร่งของตนโดยลืมไปว่าตอนนี้เขาและเธอใกล้ชิดกันมากชนิดที่ว่าเนื้อแนบเนื้อ ภาวนาเองก็กอดเขาแน่นด้วยความตกใจ“ฉะ ฉัน เหยียบอะไรไม่รู้ มันต้องเป็นจิ้งจกแน่ๆ มันมาได้ยังไง” หญิงสาวละล่ำละลักบอก แม้จะดูเก่งกาจไปเสียทุกเรื่องแต่เธอกลัวจิ้งจกเป็นที่สุด“อย่างเธอนี่นะกลัวจิ้งจก ฉันว่าจิ้งจกมันต้องกลัวเธอมากว่า แล้วดูสิหัวฉันแตกไหมเนี่ย เจ็บเป็นบ้าเลย”“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไหนขอดูหน่อยสิคะ..”ภาวนาขอโทษเขาเบาๆ อย่างรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เขาเจ็บตัว หญิงเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าหล่อเหลาที่ดูยุ่งเหยิงหงิกงอด้วยความรู้สึกหวั่นไหวทั้งกลัวว่าเขาจะหัวแตกเพราะเสียงโป๊กเมื่อครู่นี้ดังมากจนเธอเองก็คิดว่าเขาอาจจะหัวแตก
ตอนที่62. อวสานภาวนามองลูกน้อยที่หลับไปแล้วอย่างเป็นสุขใจ มือบางลูบหน้าท้องที่ยังแบนราบของตนเองเบาๆ เมื่อกำลังจะมีอีกชีวิตกำเนิดขึ้นมา“แม่กลับมาอยู่กับพราวอีกนะคะ” หญิงสาวภาวนานึกถึงมารดาเมื่อเธอสังหรณ์ใจว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกสาว“อ้วก..” เสียงโอ้กอ้ากของสามีที่อยู่ในห้องน้ำทำให้เธอหันไปมองแล้วรีบเดินเข้าไปหาคนที่ก้มหน้าก้มตาอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย“พี่แพทยังไม่หายอีกเหรอคะ พราวว่าเรียกพี่เมนี่มาดูดีกว่ามั้ยคะว่าเป็นอะไร”“ไม่ต้อง พี่ไม่เป็นไรมาก” บอกด้วยเสียงแหบโหยร่างใหญ่นั่งแหมะอยู่กับพื้นด้วยท่าทางอ่อนแรงน่าสงสาร ภาวนาเช็ดหน้าเช็ดตาให้สามีแล้วประคองพาร่างสูงมายังเตียงกว้าง แพทริกล้มตัวลงนอนพลางเกี่ยวร่างเล็กของเธอตามลงไปด้วย“อุ้ย พี่แพท พี่ไม่สบายอยู่นะคะ ซนจริงเชียว” ดุสามีไม่จริงจังนักก๊อกๆ “พี่ยี่สุ่นเองนะคะ เอายาหอมมาให้ค่ะ” ภาวนามองสามีดุๆ แล้วเดินไปเปิดประตูให้พี่ยี่สุ่นที่ยืนอยู่กับคุณเพทาย“คุณแพทดีขึ้นรึยังหนูพราว”“ยังเลยค่ะคุณแม่ไม่รู้เป็นอะไรมากไหมจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป จะเรียกพี่เมนี่มาก็ไม่เอา คนอะไรยังกับเด็กๆ ดื้อกว่าน้องพีทอีกค่ะ”ภาวนาบ่นสามีแล้วเดินไปนั่งข้
ตอนที่61.หญิงสาวแย้งแล้วสูดปากด้วยความเสียวซ่านเมื่อนิ้วแกร่งสะกิดปุ่มเกสรสาวแล้วนำพานิ้วเล็กของเธอไล้วนสอดไซ้เข้าออกในกลีบกายนุ่มเบาๆ เหมือนให้เธอหยอกเย้ากับตัวเอง ทั้งมือหนาก็นำพามือเล็กอีกข้างฟอนเฟ้นอกอวบไปด้วย ภาวนามองภาพสะท้อนในกระจกอย่างซ่านรัญจวนใจภาพในกระจกที่สะท้อนภาพร่างอรชรขาวกระจ่างของเธอตัดกับผิวสีน้ำตาลเข้มคร้ามงดงามของเขาอย่างเห็นได้ชัด ภาวนาครางเบาๆ ในลำคอหญิงสาวมองสบตาคมเข้มด้วยไฟปรารถนาในกระจกอย่างเอียงอายในขณะที่มือน้อยค่อยๆ ทำตามที่แพทริกกระซิบบอก หญิงสาวเคล้นคลึงอกอวบของตนไปตามจังหวะที่เขานำพาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจกับบทรักใหม่ที่น่าลิ้มลองและเมื่อเขาละมือออกไปเธอก็บีบเฟ้นอกอวบของตนด้วยจังหวะที่กำหนดเอง ส่วนมือเล็กที่กำลังสอดไซ้ในกลีบดอกไม้ของตนก็เช่นกัน ภาวนาสอดนิ้วเข้าออกและฟอนเฟ้นร่างของตนอย่างเสียวซ่านสุดใจกับจังหวะที่ตนปรารถนา ในขณะที่แพทริกจูบไซ้ผิวกายละมุนอย่างหลงใหลมองเธอช่วยตัวเองอย่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน“อะ พี่แพทขา...” หญิงสาวครางดังเมื่อชายหนุ่มยกเรียวขางามข้าง
ตอนที่60.“อา โอ้ววว พราวจ๋า ดีเหลือเกิน...”แพทริกครางออกมาอย่างซ่านใจแล้วดันแก่นกายเข้าไปลึกๆ เพียงครั้งเดียวจนสุดลำแกร่ง หนุ่มสาวครางออกมาพร้อมกันเสียงดัง ก่อนจะโยกโย้สะโพกเข้าหากันด้วยจังหวะเร่าร้อน เสียงเนื้อกระทบกันผสานกับเสียงครางระงมของหนุ่มสาวดังก้องไปทั่วห้องทำงานโอ่อ่า โต๊ะที่ว่าแข็งแรงยังลั่นเอี๊ยดอ๊าดๆ ยามที่เขากระแทกกายเข้าหาร่างสาวอย่างเมามันยิ่งสร้างอารมณ์เร่าร้อนให้กับคนทั้งสองมากขึ้นภาวนาครางพลิ้วหลับตาแน่นเด้งสะโพกรับแรงกระแทกของเขาอย่างเมามันเร่าร้อน ทรวงสาวกระเพื่อมไหวตามแรงโยกคลึง แพทริกยื่นมือไปบีบเคล้นมันอย่างมันมือ พร้อมทั้งสอดเสยแก่นกายเข้าหาร่างเล็กแรงเร็วขึ้นๆ“โอ้ววว พราวจ๋าชอบมั้ยครับที่รัก อา มันสุดๆ เลยเมียจ๋า ไม่ไหวแล้ว.” แพทริกครางกระหึ่มกระหน่ำแรงโรมรันอย่างแรงร้อน“พราวก็ไม่ไหวแล้วค่ะ พี่แพทขา อ๊ะ อ้ายยยย... / โอ้วววว...”เสียงครางของหนุ่มสาวกับเสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องแพทริก กระแทกแก่นกายจนลึกล้ำก่อนจะพ่นลาวารักร้อนๆ เข้าส
ตอนที่59.“น้องพีทหลับแล้วเหรอครับ” แพทริกมองภรรยาที่กำลังเก็บของเล่นน้องพีทเข้ากล่องหลังจากที่เจ้าตัวเล็กเล่นซนจนห้องทำงานของเขาเกลื่อนกลาดด้วยของเล่นนานาชนิด“ค่ะ กว่าจะหลับได้พราวแทบแย่ซนเหลือเกิน”ภาวนาหันมายิ้มหวานให้ขณะมือเล็กเก็บตุ๊กตาไดโนเสาร์เข้ากล่องร่างเล็กก้มๆ เงยๆ อยู่กับกล่องของเล่นลูกชายจอมซนที่ผู้เป็นพ่อจัดแจงแต่งห้องทำงานโอ่อ่าของตนที่สำนักงานใหญ่ให้มีมุมเด็กเล่นสำหรับลูกชายซึ่งน้องพีทก็ดูจะชื่นชอบเสียด้วย“อืม.. แบบนี้พราวก็น่าจะพักผ่อนได้แล้วนะ ให้พี่นวดให้ไหมครับ”ปากถามแต่แววตาที่เฝ้ามองร่างเล็กในชุดเดรสสายเดี่ยวชีฟองสีหวานลายดอกไม้เล็กๆ สั้นเสมอเข่ามนที่เปิดเผยผิวเนื้อเนียนสวยเปล่งปลั่งน่ามอง ซึ่งหากออกไปข้างนอกเขาจะให้ภาวนาสวมเสื้อคลุมเพราะไม่อยากให้ใครมองผิวสวยๆ ของเธอ แต่เมื่ออยู่กันสามคนพ่อแม่ลูกเขาอยากจะจับเธอถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเสียด้วยซ้ำ คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ซ่อนยิ้มเจ้าเล่ห์วางเอกสารที่ถือออกมาจากห้องประชุมไว้บนโต๊ะทำงาน
ตอนที่58.“พราวไม่ได้จะหนีไปไหนคะ พี่แพทเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าคะ”หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยสรรพนามที่ทำให้คนฟังใจชื้นขึ้นมาแต่เขาก็ยังคงคุกเข่าอยู่และกอดขาเธอไว้เพราะกลัวเธอหนีไป“แต่พราวกำลังจะไป.. กำลังจะหนีพี่ไป”“พราวเปล่าเสียหน่อย พราวกำลังจะกลับบ้านค่ะ บ้านของพ่อน้องพีท..”“บ้าน บ้านที่ไหน.. บ้านพ่อน้องพีท..”แพทริกขมวดคิ้วทวนคำพูดเธออย่างงุนงง แล้วใบหน้าหล่อเหลาที่หมองคล้ำด้วยความเศร้าโศกมากว่าสามเดือนสว่างไสวขึ้นทันตา“โอ.. พราว.. ขอบคุณ ที่รัก ขอบคุณเหลือเกิน..” แพทริกกอดเธอแน่นทั้งที่ยังคุกเข่าอยู่“พี่แพทลุกขึ้นเถอะค่ะ พราวเขินนะคะ” หญิงสาวบอกเขายิ้มๆ ใบหน้านวลแดงก่ำเมื่อป้าสินกับพี่น้อยเดินมาเยี่ยมๆ มองๆ อยู่หน้าบ้าน“เอ่อ.. หนูพราวจะให้พี่น้อยไปส่งที่ไหนคะ”ในที่สุดพี่น้อยซึ่งยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าบ้านก็ร้องถามทั้งป้าสินก็อยากรู้ว่าชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าภาวนาคือใครจึงสะกิด
ตอนที่57.ในขณะเดียวกันลิซ่าที่บอกว่าไปเอาน้ำมาให้คุณเพทายนั้นกำลังยืนมองแผ่นหลังงองุ้มด้วยความเศร้าสร้อยของคุณเพทายด้วยความชิงชัง เธอไม่ได้หวังดีขนาดจะตามหาตัวภาวนาขนาดนั้น ที่เธอเลือกที่นี่ก็เพราะมันเหมาะที่สุดสำหรับแผนการบางอย่าง...จริงๆ แล้วลิซ่ากำลังวางแผนจะกำจัดคุณเพทายออกไปให้พ้นทางต่างหาก เธอรู้ดีว่าแพทริกนั้นรักและเชื่อฟังมารดาของเขาแค่ไหน และหากคุณเพทายบอกอะไรเขาก็พร้อมจะทำตาม ซึ่งหากไม่มีคุณเพทายแล้วแพทริกก็ต้องการใครสักคนมาปลอบใจและเมื่อเขายังตามหาภาวนากับลูกไม่เจอ เธอก็จะใช้โอกาสนี้ล่ะเข้ามาในชีวิตของแพทริกและจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาสนใจเธอ ไม่ใช่ว่าลิซ่าจะรักแพทริกมากขนาดทำเพื่อเขาได้ทุกอย่าง แต่เพราะเธออยากเอาชนะและอยากจะแก้แค้นเอาคืนคุณเพทายที่เคยหลอกใช้เธอต่างหากนังแก่นั่นจะต้องได้รับบทเรียนที่แสนแพง.. หญิงสาวมองคนที่นั่งบนวีลแชร์ด้วยแววตากร้าวกระด้างส่วนคุณเพทายนั้นกำลังมองหาภาวนาอย่างมีความหวัง แม้นางจะไม่ค่อยสบายแต่เพราะอยากเจอภาวนาจึงออกมากับลิซ่าด้วยความหวังแรงกล้า โดยไม่รู้ว่าบัดนี้ล้อรถวีลแช
ตอนที่56.“ก็แล้วแต่จะคิด เพราะฉันเองก็แค่หวังดีเห็นว่าแพทกำลังลำบาก ในฐานะเคยเป็นเพื่อน สนิท กันมาก ก็อดห่วงไม่ได้นี่นา”ลิซ่ายังคงพูดด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้และยังเหยียดยิ้มอย่างเหนือกว่าเมทินีกัดฟันกรอดใบหน้าสวยแดงก่ำ“เราไปกันเถอะค่ะคุณเมนี่”ยี่สุ่นซึ่งเดินตามหลังมารีบบอกแล้วดึงแขนเมทินีผ่านหน้าลิซ่าไปเพราะไม่อยากให้เกิดการทะเลาะอะไรกันมากกว่านี้“ทำเป็นพูดดีกันไปเถอะ พวกผู้ดีจอมปลอมแล้วจะรู้สึก” ลิซ่าพูดตามหลังอย่างชิงชังแววตาวาววับภาวนาวางลูกน้อยลงบนเปลสี่เหลี่ยมสีฟ้าสดใสแล้วแกว่งเบาๆ ให้เจ้าตัวน้อยหลับสบายแล้วจึงละมือจากเปลไปจัดขนมใส่ถุงตามที่ลูกค้าสั่งไว้ สามเดือนมานี้เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบในหมู่บ้านเล็กๆ แถบชานเมืองซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ไปไหนไกลเลยและก็เชื่อว่าแพทริกจะมองข้ามตรงนี้ไป ซึ่งมันก็จริงดังที่คิด ภาวนารู้ดีว่าเขาออกตามหาเธอกับลูกทุกวัน เธอเองก็แอบมองเขาอยู่ทุกวันด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน หลายครั้งที่อยากจะกลับไปหาเขากับทุกๆ
ตอนที่55.“น่าสงสารพราวนะคะ หนีไปแบบนี้ไม่รู้จะไปอยู่อย่างไร”“พี่เชื่อว่าพราวเอาตัวรอดได้ แต่คนที่นี่น่ะสิ จะรอดไหมหากไม่กินไม่นอน..”เป็นเอกถอนใจเมื่อเข้ามาในห้องรับแขกซึ่งแพทริกกำลังคร่ำเคร่งอยู่กับเอกสารและจอโน้ตบุ๊กเพื่อหาข้อมูลข่าวสารของภาวนากับลูก ยี่สุ่นบอกว่าแพทริกจะอยู่แบบนี้ทุกวันพอดูข้อมูลต่างๆ จากเอกสารที่นักสืบให้มาแล้วก็จะออกไปตามหาภาวนากับลูกและจะกลับเข้าบ้านก็เป็นเวลาดึกๆ บางวันก็กลับมาตอนสว่างและไม่ค่อยกินอะไร“สวัสดีค่ะพี่แพท พักบ้างรึยังคะเนี่ย”“อ้าวเมนี่ เอก.. มาแต่เช้าเลย” แพทริกลูบหน้าของตนเบาๆ ท่าทางดูอ่อนระโหยโรยแรงเหลือเกิน“ใช่เรามาแต่เช้าแล้วคุณล่ะ เช้านี้กินอะไรรึยัง”เป็นเอกถามอย่างเป็นห่วงแล้วเอากล่องอาหารที่เขาทำเองมาวางตรงหน้าแพทริกซึ่งมันเป็นอาหารที่ภาวนามักทำให้เขารับประทานเสมอตอนอยู่ที่ร้าน มันเป็นของโปรดแพทริกที่ภาวนาคิดคำนวณแล้วว่าคนที่มีเวลาน้อยและทำแต่งานอย่างเขากินแล้วจะได้รับสารอาหารครบถ้วน
ตอนที่54.เป็นเอกมองภาวนาอย่างหนักใจ แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อคำพูดของลิซ่าตามที่ภาวนาเล่าให้ฟังนักแต่การกระทำหลายๆ อย่างที่ผ่านมาของคุณเพทายก็ทำให้เขาสับสนไม่แพ้กัน แต่เมื่อทุกอย่างกระจ่างแล้ว คุณเพทายก็รู้แล้วว่าสาเหตุที่แม่ของภาวนาแย่งคู่หมั้นของตัวเองไปนั้นเพราะอะไรและวันที่แม่ของภาวนาเสียชีวิตทุกอย่างมันก็จบลงแล้วเขาไม่คิดว่าสิ่งที่คุณเพทายกับแพทริกทำจะแอบแฝงแผนการอะไร“พราวคิดมากไปรึเปล่า เรื่องมันกระจ่างแล้วไม่มีใครติดค้างใคร พราวก็เห็นนี่ว่าคุณเพทายดูเสียใจมากแค่ไหนที่พราวพูดแบบนั้น”“แล้วใจพราวละคะ มีใครคิดถึงใจของพราวบ้าง มีใครเห็นใจพราวบ้าง แม้ว่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดแต่พราวก็คือคนที่สูญเสีย พราวไร้บ้าน แม่ก็ตายพ่อก็ติดเหล้าไม่เป็นผู้เป็นคน พราวไร้ญาติขาดมิตร หากพราวไม่มีพี่เอกไม่ได้ชนะการประกวดพราวก็ไม่มีอะไรเลย พี่เอกคิดว่าพวกเขาอยากจะได้ผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างพราวไปร่วมใช้นามสกุลเขาเหรอคะ คุณเพทายเคยพูดกับพราวเรื่องนี้มาก่อนค่ะ ว่าพราวไม่ใช่คนที่เขาเลือกและพราวไม่มีทางได้ใช้นามสกุลหรือร่วมวงศ์ตระกู