เจย์ขมวดคิ้ว เมื่อเขาเห็นท่าทางแข็งขืนของหล่อนเมื่อได้ยินเรื่องการตรวจ DNA เขาก็รู้ทันทีเลยว่าหล่อนต้องไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขาเบื้องลึกเบื้องหลังต้องมีเรื่องอะไรอีกแน่ด้วยสายตาคมกล้าของเจย์ที่มองมา คุณนายอาเรสจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ “ใช่แล้วลูก แม่เป็นแค่แม่เลี้ยง”เจย์นิ่งอึ้งและหันไปมองแองเจลีนเพื่อยืนยัน และเห็นว่าเธอก็ยอมรับอยู่ในทีเมื่อดูจากที่เธอไม่โวยวายอะไรเจย์พูด “ไม่ว่าเธอจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดผมหรือไม่ ผมก็ต้องมีความกตัญญูให้เธอเพราะว่าเธอก็เลี้ยงดูผมมา”คุณนายอาเรสตื้นตัน “แม่ดีใจมากเลยที่ลูกยอมรับแม่”แองเจลีนแค่นเสียง “ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่เลี้ยงของคุณ แต่ว่าแม่เลี้ยงในโลกนี้ก็มีทั้งที่ดีและเป็นนางมารนี่ อย่าเพิ่งผลีผลามมอบความรักให้ไปจะดีกว่านะ”คุณนายอาเรสโมโหมาก “นี่เธอหมายความว่ายังไงกัน แองเจลีน เซเวียร์? เธอบอกว่าฉันจะทำร้ายเขาเหรอ?”แองเจลีนพูด “แหม ก็ถ้าเขาเป็นลูกชายคุณ คุณก็คงจะไม่ทำอันตรายอะไรเขาหรอก แต่ไม่ว่าเขาจะใกล้ชิดกับคุณแค่ไหน เขาก็คงจะเทียบลูกแท้ ๆ ของคุณไม่ได้ ทีนี้คุณจะทำร้ายลูกเลี้ยงเพื่อลูกแท้ ๆ ของตัวเองหรือไม่ นั่นมันก็อี
”หลบไปเกรย์สัน” เจย์ว่าเกรย์สันเกรย์สันกำลังจะขยับหลบเมื่อแองเจลีนสั่ง “คุณอย่าคิดเชียวนะ เธอตบฉัน ฉันอยากให้คุณตบเธอคืน ชื่อเสียงในฐานะประธานแกรนด์เอเซียของฉันไม่ใช่ของที่ใครหน้าไหนจะมาเหยียบย่ำได้”ความดุร้ายฉายวาบผ่านดวงตาเกรย์สันและเขาก็ตบหน้าคุณนายอาเรสฉาดใหญ่เจย์โมโหแทบคลั่ง เขายกมือที่มีกุญแจขึ้นและตะคอก “ปล่อยผม แองเจลีน เซเวียร์”แองเจลีนหายใจแรง “กลับบ้านกับฉัน”เจย์คำราม “ผมอยากกลับบ้าน แต่ไม่ใช้บ้านคุณ บ้านแม่ผมต่างหาก”แองเจลีนไม่สนใจเขาและกระชากกุญแจมืออย่างแรง จนเจย์ต้องตามมาเธอลากเจย์มาตลอดทางและยัดเขาเข้าไปที่เบาะหลังของรถเฟอร์รารี่เจย์มองกุญแจมือด้วยดวงตามืดครึ้ม…“ปลดกุญแจ แองเจลีน”“ฉันจะปลดให้ก็ต่อเมื่อนายเริ่มเชื่อฟังคำพูดของฉัน”เชื่อฟังคำพูดของเธออย่างนั้นเหรอ?ริมฝีปากเย้ายวนของเจย์แค่นยิ้ม “คงจะชาติหน้ามั้ง”แองเจลีนแค่นเสียง “งั้นฉันก็จะปลดให้นายชาติหน้าแล้วกัน”เจย์ “...”เจย์ยังคงคอยหันหลังไปมองแม่เลี้ยงที่โดนลากตัวออกไป เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็รู้สึกเวทนาสงสารยิ่งคุณนายอาเรสดูน่าสงสารแค่ไหน แองเจลีนก็ยิ่งดูดุร้ายมากขึ้นเท่านั้น เจย์พูดด
เจย์ถือดอกทานตะวันขึ้นมาด้วยสีหน้าสงสัย “ผมให้ดอกไม้นี่คุณเหรอ?”ดอกทานตะวันเพชรเป็นตัวแทนของความสุขชั่วนิรันดร์เขาคงจะรักเธอเขาก็เลยให้คำอวยพรที่แสนอบอุ่นแบบนี้กับเธอสินะ?แองเจลีนซึมและยังคงนั่งเงียบตลอดการเดินทางในเวลาเดียวกันนั้น…ทางด้านคุณนายอาเรส หลังจากที่เที่ยวตามหาเซร่าไปทั่ว หล่อนก็ได้พบเธอนั่งร้องไห้ปิ่มจะขาดใจอยู่ใต้สะพานเมื่อเซร่าเห็นคุณนายอาเรส สายตาเธอไม่มีทั้งความซาบซึ้งหรือความรู้ผูกพันฉันท์แม่ลูกอยู่เลย มีแค่เพียงความขมขื่นโศกเศร้าเท่านั้น เธอตะโกนต่อว่าคุณนายอาเรส“สรุปว่าที่คุณทำดีกับหนู ก็เพราะว่าคุณเป็นแม่หนู”“ในที่สุดหนูก็เข้าใจว่าทำไมถึงเอาชนะแองเจลีนไม่ได้สักเรื่อง เพราะว่าหนูแพ้มาตั้งแต่เกิด หนูมันเป็นแค่ลูกนอกสมรสที่คุณมีกับคนอื่น ด้วยสถานะแบบนี้หนูคงไม่มีทางจะเงยหน้ามองใครได้อีกแล้ว”“หนูเกลียดคุณ”คุณนายอาเรสน้ำตาอาบหน้า “ทำไมต้องด้อยค่าตัวเองแบบนั้นด้วยเซร่า? แม้ว่าหนูจะเป็นลูกนอกสมรส แต่พ่อของลูกก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงนะ”ดวงตาเซร่ามีความโหยหาอีกครั้ง “เขาเป็นใคร?”คุณนายอาเรสตอบ “เขาคืออดีตประธานของเบล เอนเตอร์ไพรส์ สตีเฟน เบล”เซร่าไม่เ
เจย์ชะงักไป อันที่จริงที่เธอพูดก็มีเหตุผลหลังจากทำธุระเสร็จแล้ว แองเจลีนก็ล่ามเขาไว้กับขาเตียงอีกรอบ เขานั้นนั่งอยู่ขณะที่เธอยืนค้ำเขาอยู่พร้อมจ้องมองเขา“เราเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ เหรอ?” เจย์ถามอย่างระแวงสงสัยแองเจลีนพยักหน้าเจย์ดูจะทำใจรับความจริงข้อนี้ได้ยาก “ทำไมผมถึงไม่รู้สึกใจเต้นวูบวาบอะไรเลยล่ะ เวลาที่มองคุณ”แองเจลีนตีหน้าเข้ม “ก็เพราะคุณตาบอดไงล่ะ”เจย์ “...”เจย์มองแองเจลีนใกล้ ๆ ด้วยอารมณ์สับสน ผู้หญิงอย่างมาริลินและเซร่านั้นหน้าบางมาก เขาแค่พูดอะไรที่เปิดเผยนิดหน่อย พวกเธอก็เขินอายแล้วส่วนแองเจลีนนั้นหน้าหนาเหมือนกับกำแพงปูนเลย ไม่ว่าเขาจะล้อเลียนเธอแค่ไหน เธอก็ยังคงตอบโต้ได้โดยไม่สะทกสะท้านสักนิดแม้ว่าเขาจะไม่ชอบที่เธอมักจะระเบิดอารมณ์ต่าง ๆ ท่วมท้น รวมถึงสีหน้าร้ายกาจบ้าอำนาจของเธอด้วย แต่เขาก็กลับไม่รู้สึกรังเกียจขยะแขยงตอนที่เธอจูบเขาบางทีพวกเขาอาจจะเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ก็ได้?เจย์นึกสนุกและคิดว่าจะทดลองดูว่าแองเจลีนจะทนได้แค่ไหน “ในเมื่อคุณบอกว่าเราเป็นสามีภรรยากัน ไหนล่ะหลักฐาน?”แองเจลีนเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเธอเจย์ตะลึงงัน “คุณจะทำอะไรเนี่ย?”
มีเสียงดังบี๊ปขึ้นสองครั้ง มือถือถูกปลดล็อกแล้วเจย์ลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นตระหนก “เอามือถือผมมา”แองเจลีนยกมือถือขึ้นและกระโดดลงจากเตียง และเพราะว่าเขายังถูกล่ามกุญแจมือ เจย์จึงทำได้แค่เพียงมองเธออย่างกระวนกระวายแองเจลีนกดเข้าไปที่อัลบั้มรูปและเห็นรูปที่อยู่ในนั้น จังหวะที่เธอได้เห็นก็ทำให้อึ้งงันไปภาพนั้นคือภาพเธอที่ไม่ได้แต่งหน้า มีคิ้วที่ดูอ่อนโยนและสายตาเปี่ยมรัก ท่าทางไร้กังวลและเรียบง่ายทำให้เธอดูใสบริสุทธิ์ราวกับเด็ก ชัดเจนว่านี่คือรูปวาดของเธอสมัยที่ยังเป็นเด็กแม้ว่าเจย์บี้จะความจำเสื่อม แต่เขาก็ยังจำได้ว่าเธอเคยหน้าตาแบบไหนความอบอุ่นท่วมท้นหัวใจของแองเจลีน…ริมฝีปากบางของเจย์เม้มแน่น เมื่อเขาเห็นแองเจลีนสีหน้าแข็งทื่อ เขาก็ยิ่งตระหนก“นี่ เอาโทรศัพท์ผมคืนมา แองเจลีน”แองเจลีนยกมือถือขึ้นสูง “นายชอบเธอเหรอ?”เจย์เงียบไม่พูดอะไรแองเจลีนปกปิดแววตายินดีเอาไว้ไม่ได้เธอหยิบม้านั่งมาแล้วก็นั่งลงตรงหน้าเขา ก่อนเริ่มสอบสวน “ความซื่อสัตย์เป็นเรื่องสำคัญมากระหว่างสามีภรรยา ถ้านายยอมร่วมมือและตอบคำถามฉันดี ๆ ฉันก็ไม่ว่าอะไรที่นายนอกใจ”เจย์ดูสิ้นหวังมาก ชายหนุ่มตัวสูงแบบเ
แองเจลีนพูดด้วยน้ำเสียงมีอำนาจ “คำว่า ‘หย่าร้าง’ ไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของฉัน ถ้านายต้องการจะหย่า ก็คงต้องรอชาติหน้า”เธอยกมือสัมผัสใบหน้าและมองรองพื้นหนาที่ติดปลายนิ้ว คิดว่าอาจจะถึงเวลาที่เธอต้องลบเครื่องสำอางแล้วแองเจลีนหลุดยิ้ม “ฉันจะไปอาบน้ำก่อนนะ รอฉันด้วยล่ะ” จากนั้นเธอก็หยิบชุดนอนและเดินเข้าห้องน้ำไปเมื่อเธอเดินไปถึงประตูห้องน้ำ เธอหันกลับมาและยิ้มให้เจย์อย่างมีความหมาย “รอเซอร์ไพรส์จากฉันนะเจย์บี้”เมื่อเจย์มองเห็นชุดผ้าบางเบาในอ้อมแขนเธอ เขารู้สึกราวกับว่าจะมีไดโนเสาร์ใส่ชุดนอนนั่นออกมากระโจนใส่เขา เจย์ขนลุกไปทั่วร่าง“ผมเป็นคนขี้ขลาดนะแองเจลีน อย่าทำให้ผมกลัวสิ” เจย์พูดรอยยิ้มแองเจลีนยิ่งลึกซึ้งและมีความหมายยิ่งขึ้น จากนั้นเธอก็เดินเข้าห้องน้ำและล็อกประตูเมื่อเจย์ได้ยินเสียงน้ำดังลอดออกมา สีหน้าเขาก็ยิ่งดำทะมึนขึ้นทุกทีเขาเริ่มที่จะศึกษาดูกุญแจมือที่ใส่อยู่เขาเป็นคนที่ออกแบบกุญแจมือพวกนี้แล้วก็กลไกของมันด้วย เหมือนว่าพระเจ้ายังเข้าข้างเขา ดังนั้นเขาจึงปลดกุญแจออกได้ในชั่วพริบตาเมื่อเจย์เป็นอิสระ เขาก็มองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอยู่ด้วยสีหน้าเย้ยหยันพร้อมสบถเบา ๆ
สตีเฟนมองเซร่าด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนหัวเราะอย่างชั่วร้าย “เธอพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นลูกสาวฉันจริง ๆ เธอนั้นทั้งอาฆาต เลือดร้อน บ้าคลั่ง แล้วก็ชั่วร้ายพอ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะรับเธอเป็นลูกสาว”เซร่าอึ้งไป นี่มันเป็นตอนจบหักมุมแบบคาดไม่ถึงจริง ๆสตีเฟนบอก “ตระกูลเบลโดนพวกอาเรส เอนเตอร์ไพรส์กดหัวมานานหลายปีแล้ว แต่เราจะมีปัญญาทำอะไรได้ในเมื่อคนรุ่นหลังของตระกูลมีแต่พวกมือสมัครเล่น? เซร่า เธอมั่นใจไหมว่าจะสามารถล้มแกรนด์ เอเซียแล้วก็สร้างเบล เอนเตอร์ไพรส์ขึ้นมาใหม่กับฉันได้?”มีความมุ่งมั่นทะเยอทะยานในดวงตาของเซร่า “ตลอดชีวิตของฉัน ฉันอยู่เพียงเพื่ออย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือล้มแองเจลีนค่ะ คุณพ่อ”สตีเฟนมองเห็นแววตามมุ่งมั่นที่ผุดขึ้นในดวงตาของเซร่าก่อนพูด “ฉันเคยได้ยินเรื่องเธอมาหมดแล้ว เธอพยายามจะเอาชนะแองเจลีน แล้วก็ต้องเสียพรหมจรรย์ไปอย่างไม่ตั้งใจตอนนั้น ฉันไม่โทษเธอหรอก ก่อนนี้ฉันก็แค่ทดสอบเธอ หวังว่าจะไม่ถือสา”เซร่ายิ้ม “ไม่ค่ะ”สตีเฟนพูด “ฉันได้ยินมาว่าแองเจลีนนั้นต้องทรมานจากอาการวิตกกังวลอย่างหนัก ถ้าเธอมีเรื่องสะเทือนอารมค์อาจจะส่งผลให้ตาบอดหรือเป็นอัมพาตได้”“ส่วนเจย์น
เมื่อคุณหญิงเซเวียร์และนายท่านเซเวียร์ได้ยินเสียงร้องของเชอร์ลีย์ดังเข้ามาในห้องนั่งเลย พวกเขาก็ตกใจจนรีบวิ่งผลุนผลันออกไปด้านนอกเซร่ารีบหลบอยู่ในครัวและทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น เธอวิ่งออกไปที่ระเบียงครัวพร้อมกับคุณเซเวียร์และคนอื่น ๆ“นี่? เกิดอะไรขึ้นคะ?” เซร่าทำเป็นไม่รู้เรื่องเชอร์ลีย์นอนอยู่ที่ด้านล่างของบันได สลบไม่ได้สติคุณหญิงเซเวียร์นั้นตกใจมากจนเป็นลมไปทันทีนายท่านเซเวียร์สั่งให้คนรับใช้ในบ้านรีบพาเซอร์ลีย์ที่หมดสติอยู่ไปส่งที่โรงพยาบาลแกรนด์เอเซียในทันทีเมื่อเซร่าเห็นว่าครอบครัวเซเวียร์ปั่นป่วนกันแค่ไหน รอยยิ้มอย่างผู้ชนะก็ฉายในดวงตาเธอในเมื่อแองเจลีนและเชอร์ลีย์ต่างก็สนิทกันมาก แองเจลีนต้องใจสลายอย่างแน่นอนเมื่อได้รู้เรื่องอุบัติเหตุของเชอร์ลีย์ยิ่งเธอใจสลายมากเท่าไร เซร่าก็ยิ่งสบายใจมากเท่านั้นที่ตึกสำนักงานแกรนด์เอเซียในเมืองอิมพีเรียลการประชุมสรุปประจำเดือนของแกรนด์เอเซียกำลังเข้มข้นอยู่ แต่ละแผนกต่างก็ส่งตัวแทนของตนขึ้นไปรายงานผลการทำงานของเดือนที่ผ่านมา เมื่อถึงตาของแผนกการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เกรย์สันก็ขึ้นไปด้วยหน้าหม่นเศร้า“ผมเ