คุณท่านยอร์กหัวเราะดังลั่น “เจ้าหนูอย่าได้เอาเรื่องวันนี้ไปพูดกับใครเชียวล่ะ”“ทำไมถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ คุณท่านยอร์ก…”คุณท่านยอร์กเอามือไขว้หลังและเดินอย่างสบาย ๆ ไปยังห้องสมุดในห้องสมุดตรงส่วน 48 นั้นดูเละเทะมาก บรรณารักษ์พยายามเก็บกวาดมานานมากและตอนนี้ก็กำลังหอบเพราะความเหนื่อยคุณท่านยอร์กพูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า “แค่มาขโมยหนังสือต้องทำให้ที่นี่เละเทะขนาดนี้เลยเหรอ? ดูสิว่าหมอนั่นทำให้ลูกศิษย์ของฉันต้องเหนื่อยแค่ไหน…”หลังจากแสร้งทำท่าเป็นห่วงเป็นใยเสร็จแล้ว คุณท่านยอร์กก็ถาม “มีอะไรหายไปบ้าง?”บรรณารักษ์ตอบอย่างสงบเสงี่ยม “สมุดบันทึกรายชื่อผู้อาศัยหายไปครับคุณท่าน”สีหน้าคุณท่านยอร์กเคร่งเครียดทันที “ดูเหมือนว่าเขาจะมาที่นี่เพราะองค์กรโลกาวินาศ”จากนั้นเขาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขณะเดียวกันเจย์ก็ตามมาอยู่กับเซย์นขณะที่เขากำลังขุดเม็ดต้นชุมเห็ดและรวบรวมดอกสายน้ำผึ้งก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับทันทีที่พวกเขามาถึงสวนสายลมสดชื่น เจย์กับเซย์นก็โดนพวกคอร์เวตต์ของป้อม 48 ล้อมไว้“โคลเป็นคนสั่งเหรอ?” เจย์ถามนิ่ง ๆคาร์สันเดินออกมาจากกลุ่มคอร์เวตต์โดยที่มีมือหนึ่งกุมท้องไว้
“เราหย่ากันเถอะ”ชายหนุ่มผู้สง่างามทว่าหยิ่งผยอง เขากำลังจ้องหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้าด้วยสายตาที่ไร้ซึ่งความรู้สึก“ฉันจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้” เขากล่าวโดยไม่แยแส “ถ้าเธอต้องการเงิน งาน หรือหมอดีๆสำหรับแม่ของเธอ ฉันก็จะเตรียมไว้ให้เช่นกัน”โรสหมดหวังจะต่อสู้กับน้ำตาที่ล้นเอ่ออยู่ในดวงตาของเธอในตอนที่คู่หมั้นของเจย์ อาเรส หนีหายไปหนึ่งวันก่อนวันแต่งงานของทั้งสอง พวกเขาถูกบังคับให้หาเจ้าสาวชั่วคราวเพื่อดับความหิวโหยของเหล่าปาปารัซซี่และสื่อทั้งหลายชายหนุ่มเชื่อว่าเธอตอบตกลงเล่นตามบทก็เพื่อชื่อเสียง เพื่อที่จะกลายเป็น คุณนายอาเรส ยังไงก็ตาม ตัวหญิงสาว โรส เธอรู้ดีว่าที่เธอตกลงไปก็เพื่อเติมเต็มความรักตลอดสองชั่วชีวิตที่มีให้เขาเขาไม่รู้เลยสักนิดว่าเธอรักเขาแค่ไหน“ฉันไม่ได้แต่งงานกับคุณเพื่อเงิน” เธอกระซิบอย่างแผ่วเบา ความรักอันเข้มข้นของเธอก่อให้เกิดปมในใจลึกลงไปในแววตาที่สงบของชายหนุ่มเกิดประกายของความฉงนถ้าคนแปลกหน้าสองคนแต่งงานกัน มันจะมีเหตุผลอะไรได้อีกนอกจากเรื่องเงิน?“ความอดทนของฉันกำลังจะหมดลง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะนัดทนายมาพบเธอพรุ่งนี้ พร้อมกับใบหย่า” ชายหนุ่มจิบกาแฟเป
เจย์ อาเรส ได้รับของขวัญที่ไม่คาดคิด นั่นคือเด็กแรกเกิดเมื่อเขามองไปที่ทารกน้อยที่ถูกห่อไว้ด้วยผ้าซึ่งกำลังส่งเสียงร้องอยากอาหาร ชั้นน้ำแข็งหนาดูจะปกคลุมใบหน้าอันหล่อเหลาของเจย์“แม่ของเด็กอยู่ที่ไหน?” เขาถามผ่านฟันที่ขบแน่น ดวงตาฉายแววความอันตรายออกมาผู้หญิงคนนั้นกล้าดียังไงถึงได้เอาเมล็ดพันธุ์ของเขาไป แต่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่จะดูแลเด็ก?“ขออภัยด้วยครับท่าน” ผู้ส่งเด็กน้อยกล่าว “แม่ของเด็กคนนี้ตายที่โรงพยาบาล จากภาวะการคลอดลำบากครับ”เจย์พลันเคร่งเครียดขึ้นและรู้สึกพูดไม่ออก เขาใช้เวลาค่อนข้างนานในการประมวลผลสิ่งที่ได้ยิน ไฟในดวงตาของเขาผสมปนเปกับประกายความสงสัย “ตาย?”ชายคนนั้นพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเปิดรูปของโรสผู้สิ้นลมให้เจย์ดู“คุณอาเรส นี่คือรูปที่ระลึกของโรสที่เราถ่ายมา ผมสามารถส่งให้คุณได้ถ้าคุณต้องการ—”เจย์กวาดสายตามองจอโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว หญิงสาวในรูปมีร่างกายพองอืด ใบหน้าบวมของเธอซีดขาวเหมือนศพเบ้าตาของของเธอเบิกกว้าง จ้องมองผ่านหน้าจอเข้ามาจะเป็นใครไปได้อีกถ้าไม่ใช่โรส?เมื่อเจย์ ผู้เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำ เห็นรูปโรสที่ตายลงแล้ว ความ
ในขณะที่โรสกำลังเรียกรถแท็กซี่อยู่ริมถนน เจย์ก็เดินมาพร้อมกับหญิงสาวทรงเสน่ห์ข้างกายเขา“หลบไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มและนุ่มลึกราวกับเสียงเชลโลที่สามารถทำให้หญิงสาวใดก็ตามอ่อนระทวยแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่มันก็แฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่าของชายผู้มากเงินทองโรสรู้สึกตัวทันทีว่าเธอและลูกๆกำลังขวางทางเขาอยู่—พวกเขากำลังยืนอยู่หน้ารถโรลส์รอยส์พร้อมด้วยสปิริทออฟเอ็กสเตซี่บนฝากระโปรงรถโรสลากกระเป๋าเดินทางด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ดึงลูกๆของเธอ เมื่อโรสเห็นเจย์ เธอค่อนข้างรู้สึกตื่นตระหนก และพยายามจะหลบฉากออกไปช้าๆ—หญิงสาวผู้มีเสน่ห์เย้ายวนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยและเหน็บแนม “เธอต้องเป็นคนแบบไหนกันถึงได้ห่อตัวด้วยเสื้อผ้าแบบนั้น เอาเลย อยากจะใส่แว่นกันแดดก็แล้วแต่ แต่ทำไมต้องบังคับให้ลูกของเธอใส่มันเวลาเดินด้วย? นั่นมันอันตรายไม่ใช่รึไง เธอไม่ห่วงเหรอว่าพวกเขาจะล้มเข้าหรืออะไรทำนองนั้น?”โรสรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ‘ฉันก็คงไม่ต้องใส่เสื้อผ้าแบบนี้ถ้าไม่ต้องหลบซ่อนจากมารผจญแบบเธอหรอก’คำพูดของผู้หญิงคนนั้นทำให้เซ็ตตี้อารมณ์ไม่ดี—คุณแม่ของเธอพูดถูกมาตลอดเซ็ตตี้จะโก
ครึ่งชั่วโมงให้หลังโรลส์รอยส์จอด ณ ทางเข้าของสุสานภูเขาสามง่ามโจเซฟินอ่านตัวหนังสือขนาดใหญ่สามคำผ่านทางหน้าต่างรถ สุสาน ภูเขา สามง่าม ใบหน้าสวยหยดย้อยของเธอพลันซีดเผือก เหตุผลของการเดินทางกลับบ้านครั้งนี้ก็เพื่อมาเยี่ยมคุณย่า หรือว่าคุณย่า…“คุณย่าอยู่ที่นี่?” โจเซฟินอ้ำอึ้ง“โรสต่างหาก” เจย์แก้ไขความเข้าใจผิดของเธอ“โรส? เธอถูกฝังที่นี่เหรอ?”โจเซฟินถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้น เธอก็ถามขึ้นมาอย่างประหลาดๆ “นี่ไม่ใช่เทศกาลเชงเม้งสักหน่อย ทำไมเราถึงมาที่นี่กัน?” ทันใดนั้นโจเซฟินพลันร้องออกมาเสียงหลงด้วยความตื่นเต้น “นายยังหลงเหลือความรู้สึกให้โรส ฉันว่าแล้ว! ฉันหมายถึง ไม่งั้นจะมีอะไรอธิบายเรื่องเจ้าเด็กอัจฉริยะตัวแสบอย่างเจนสันได้?”เจย์ก้าวขายาวไปสู่ขั้นต่อไป ต้นสนไซเปรสขนาดใหญ่โตถูกปลูกไว้ตลอดสองข้างทางของขั้นบันไดด้วยคำพูดของโจเซฟิน ชายหนุ่มหยุดเดินลง เขาถอนหายใจอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ “เจนสันเกิดจากผิดพลาด เขาไม่ได้เกิดมาจากความรัก!”โจเซฟินจุ๊ปากแล้วกล่าวอย่างมีเลศนัย “งั้นทำไมนายไม่ผิดพลาดบ่อยๆซะล่ะ? ในเมื่อยีนของนายมันดีนัก มันจะเสียของถ้าไม่ใช้มันให้เกิดประโยชน์ส
โรงพยาบาลแกรนด์เอเซียเจย์ไปที่ห้องมอนิเตอร์ ทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ทำความเคารพเขาแล้วยื่นเอกสารรายงานให้“ท่านอาเรส ข้อมูลของคนไข้ได้เข้ามาในระบบของเราเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว ทางเราได้ติดเครื่องติดตามตัวแก่คนที่ส่งข้อมูลของเธอตามที่ท่านได้สั่งไว้แล้วครับ แต่ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างแตกต่างจากคนในรูปที่ท่านให้มามากทีเดียว…”สายตาของเจย์จ้องเขม็งไปที่หน้าจอ ชายหนุ่มคนนั้นเลื่อนเมาส์ ก่อนที่ภาพของหญิงสาวในชุดแนวพังค์จะปรากฏขึ้นเจย์ขมวดคิ้วและพิจารณาหญิงสาวทรงผมเดรดร็อกอย่างตั้งใจ ปากที่ถูกทาไว้ด้วยลิปสติกและการแต่งตาอันโฉบเฉี่ยว เจย์พยายามระงับความรู้สึกไม่สบายใจที่เขากำลังรู้สึก“ซูมภาพเข้าไป!” เจย์ตะคอกใบหน้าของโรสถูกขยายจากหน้าจอ นั่นทำให้ภาพอันคมชัดของใบหน้าเธอถูกแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเธอยังดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน…เจย์หรี่ตาลงโรสรอดจากการตามจับตัวอันยอดเยี่ยมของเขาไปได้ยังไง?เขาไม่เข้าใจเลยว่าเธอใช้วิธีไหนในการหลบซ่อนตัวอย่างมิดชิด ทั้งๆที่ทั้งโลกกำลังตามหาเธออยู่ แต่การลงมือครั้งสุดท้ายในการแกล้งตายของเธอ ต้องยอมรับว่ามันค่อนข้างฉลาดมากเมื่อเจย์คิดว่าเข
“กัดเธอ? ฉันไม่มีทางเอาปากของฉันไปใกล้อะไรก็ตามที่โสโครกแบบเธอหรอกนะ” เจย์ยักคิ้วอย่างยียวนเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้หมุนที่บุด้วยหนังสีดำและเดินเข้าใกล้โรสทีละก้าวๆ เขาเหยียดตามองโรสด้วยความยะโสจากความสูง185ซม.ของเขา“เอาล่ะ โรส เธอจะชดใช้สิ่งที่เธอทำกับฉันเมื่อห้าปีก่อนยังไงดีล่ะ?” เจย์กล่าวอย่างน่าขนลุกความทรงจำของคืนนั้นยังคงแจ่มชัดในหัวของโรส ห้าปีที่แล้ว ด้วยความกล้าหาญบางส่วนที่มาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้เธอ…เธอวางยาเขา จากนั้นเธอก็…“ฉ-ฉันจ่ายค่าชดเชยให้นายไปแล้ว!” โรสพยายามแบบสุด ๆ ที่จะโน้มน้าวเศรษฐีผู้นี้กลิ่นอายของความหงุดหงิดเริ่มปรากฏขึ้นบนสีหน้าอันมืดมนของเจย์“เอาเป็นฉันจ่ายคืนให้เธอสิบเท่าเลย แต่เธอต้องไปนอนกับผู้ชายคนอื่นเป็นไง หืม?” เจย์เอื้อมมือออกไปคว้าแก้มน้อยๆของเธอ ความโกรธของเขาเป็นเหมือนราชสีห์ที่ยังไม่ถูกปลุก มันพร้อมที่จะเข้าตะครุบเหยื่อได้ตลอดเวลาโรสสังเกตเห็นประกายสีแดงฉานในตาของเขา ชายคนนี้ดูเหมือนนักล่าที่ทำให้เธอตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว“นายต้องการอะไร?” มือของเจย์เลื่อลงไปที่คอเสื้อของเธอไปก่อนที่เขาจะกระชากเดรสที่ทำจากผ้าฝ้ายลินินอย่างแรง เ
เจย์ฉุดโรสให้ลุกขึ้นแล้วโยนเธอลงไปใต้โต๊ะ เขาดึงไทด์สีน้ำเงินของเขาออกแล้วใช้มันมัดแขนของเธอไว้กับขาโต๊ะจากนั้นเขาก็คว้าผ้าขี้ริ้วบนโต๊ะขึ้นมา และใช้มันอุดปากของโรสสิ่งที่โรสพอจะทำได้คือการใช้สองเท้าของเธอถีบเจย์อย่างต่อเนื่องโชคไม่ดีเท่าไหร่ การดิ้นรนของเธอไม่ค่อยมีประโยชน์นัก จากความแตกต่างด้านความแข็งแรงของทั้งสองที่มากเกินไปด้วยความที่เหยื่อของเขาถูกพันธนาการไว้แล้ว เจย์แสยะยิ้มขึ้น “โรส เธอควรจะซื่อสัตย์กับฉันนะ” เขาเตะเข้าที่ขาสั้น ๆ ที่สั่นระริกของเธออย่างป่าเถื่อนหลังจากสะใจจนพอหอมปากหอมคอแล้ว เขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างสบายใจแล้วโทรหาเจ้าหนุ่มน้อยของเขาโรสถูกทิ้งไว้พร้อมกับผมเผ้าที่กระเซอะกระเซิง ชุดที่ฉีกขาด และท่อนขาที่เคยขาวเนียนก็ถูกแทนที่ด้วยรอยฟกช้ำเธอจ้องมองไปที่เจย์ด้วยความไม่พอใจ และส่งเสียงครวญครางแสนอู้อี้จากปากที่ถูกอุดไว้ของเธอ ยังไงก็ตาม เธอไม่ได้ร้องไห้หรืออะไรทำนองนั้นเลยเสียงโหยหวนที่ฟังไม่รู้เรื่องของเธอ ความจริงแล้วมันคือสารพัดคำด่าที่มอบให้เจย์ อย่างการสาปแช่งให้เขาถูกรถชนตอนอยู่ที่ถนน หรือถูกคลื่นสึนามิกลืนหายไปเมื่อเขาอยู่ที่ทะเล และแม้แ