Share

บทที่ 2

Author: เมิ่งซานเชียน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ฉินอวิ๋นคัง “...”

ฉินอวิ๋นฮุย “...”

ทุกคน “...”

ครั้นถ้อยคำนี้โพล่งออกมา สถานที่แห่งนั้นก็เงียบกริบ!

นี่มันอะไรกัน?

ไม่ใช่ว่ารัชทายาทใช้กำลังลบหลู่หยางกุ้ยเฟยแล้วทุกคนพากันตำหนิการกระทำอันต่ำทรามของรัชทายาทหรือ?

เหตุไฉนคนที่ถูกกล่าวหาจึงกลายเป็นคนกล่าวหาเสียเล่า? ดำกลับกลายเป็นขาว?

หยางกุ้ยเฟยที่เป็นผู้เคราะห์ร้ายกลายเป็นตัวการ ส่วนรัชทายาทกลายเป็นผู้เคราะห์ร้าย?

แบบนี้ก็ได้ด้วยรึ?

“ล่อลวงรัชทายาท?”

ครั้นได้ยินวาจานี้ หยางกุ้ยเฟยก็ลนลานทันที นี่คือจะให้นางเป็นแพะรับบาปหรือ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง วันนี้นางต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย หรือว่าจะให้นางเป็นเครื่องสังเวยศึกชิงความเป็นใหญ่ขององค์ชาย?

“ข้าไม่ได้ล่อลวงรัชทายาทนะ ข้าไม่ได้ทำจริง ๆ องค์ชายใหญ่ ท่านต้องคืนความเป็นธรรมให้ข้านะ รัชทายาทให้ร้ายข้า”

องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองคือผู้กำกับเรื่องนี้และเป็นที่พึ่งของหยางกุ้ยเฟยด้วย จู่ ๆ รัชทายาททึ่มทื่อดันโยนความผิดทั้งหมดมาที่นาง นางก็ไม่ต้องยอมรับอยู่แล้ว

เวลานี้หัวใจขององค์ชายใหญ่และองค์ชายรองก็รัดแน่นเหมือนกัน...

“น้องเจ็ด นี่เจ้าจะไร้ยางอายเกินไปแล้วกระมัง?”

องค์ชายใหญ่ฉินอวิ๋นคังมุมปากสั่นระริก “หยางกุ้ยเฟยถูกเจ้าทำจนเป็นอย่างนี้แล้ว เจ้ากลับกล้าแว้งกัดหรือ? เจ้าคิดว่าพวกเราตาบอดหรือยังไง?”

“เฮอะ องค์รัชทายาท ที่นี่คือตำหนักจื่อหลัว ไม่ใช่ตำหนักรัชทายาท อีกทั้งทุกคนในที่นี้ยังจับได้คาหนังคาเขา หลักฐานมัดตัวแน่นหนา ท่านกลับกล้าแก้ต่าง เอากระบี่ชี้ผู้เคราะห์ร้าย? ไม่มีขื่อมีแป ไร้ซึ่งความละอายจริงหรือ?”

เจ้ากรมพิธีการหยางอี๋หัวเราะเสียงเย็น “ต้าเฉียนมีท่านที่เป็นผู้สืบทอดเช่นนี้ ช่างเป็นความโชคร้ายของต้าเฉียนเราโดยแท้!”

“แม้ข้าจะเคยเห็นคนที่ไร้ยางอาย แต่ที่ไร้ยางอายเช่นนี้กลับเห็นเป็นครั้งแรก”

“นั่นนะสิ! แม้จะเป็นถึงรัชทายาทแห่งแว่นแคว้น ฐานะสูงส่งเรืองอำนาจ แต่จะใช้อำนาจบาตรใหญ่ กลับดำเป็นขาวไม่ได้กระมัง?”

“เฮ้อ! ช่างน่าผิดหวังจริง ๆ เป็นคนไยไร้ยางอายเช่นนี้?”

......

ครั้นเผชิญหน้ากับการแก้ตัวและการใช้กระบี่ข่มขู่ของฉินอวิ๋นฟาน ทุกคนดูแคลนจากก้นบึ้งหัวใจ โจมตีกลับเดี๋ยวนั้น วิพากษ์วิจารณ์ฉินอวิ๋นฟานด้วยวาจาและตัวหนังสืออีกครั้งเพื่อกดดันเขา บีบให้เขายอมมอบตัว

ปัง!!!

เมื่อเผชิญหน้ากับการตำหนิติเตียนของทุกคน ฉินอวิ๋นฟานหน้าขรึม แผ่รังสีน่าเกรงขามไร้ลักษณ์ออกมาจากทั่วตัวบนล่าง คว้าถ้วยยาข้างเตียงแล้วปาลงพื้นแรง ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงกร้าว “แล้วนี่คืออะไร?”

ทุกคนสะดุ้งกับความแข็งกร้าวของฉินอวิ๋นฟานที่มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย นี่มันมีท่าทางของคนโง่งมเสียที่ไหน?

“ก็แค่กากยา เจ้าอยากพิสูจน์อะไร?”

องค์ชายรองเอื้อนเอ่ยลอย ๆ

“หมอหลวงอยู่ที่ไหน?”

ฉินอวิ๋นฟานไม่ได้สนใจองค์ชายรอง เขาตวาดเสียงดัง กวาดตามองรอบ ๆ ไม่ครั่นคร้ามต่อทุกคนที่บีบคั้น!

“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”

ตอนนี้เอง ชายชราเคราขาวอายุอานามประมาณหกสิบต้น ๆ เดินออกมาจากฝูงชน คนผู้นี้มีนามว่าหัวจิ่งซาน เป็นรองหัวหน้าโรงหมอหลวงของราชวงค์ต้าเฉียน และเป็นหนึ่งในสามหัวหน้าหมอหลวงของราชสำนักด้วย

“เจ้าวินิจฉัยยานี้ได้หรือไม่?”

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยถาม

“เออ นี่ นี่...”

หัวจิ่งซานได้กลิ่นของสิ่งนี้ฉับพลัน เผยความลำบากใจทันที หันไปมองพวกองค์ชายใหญ่และองค์ชายรอง อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่พูด

ชิ้ง…

คมกระบี่ฉินอวิ๋นฟานหมุนกลับ ในตำหนักเกิดเสียงกระบี่ดังเคล้าอายเย็นยะเยือก มือที่ถือกระบี่ตวัดขึ้นลงสำเร็จในรวดเดียว ไม่ชักช้าลังเลแม้แต่น้อย ปราศจากคำพูดไร้สาระ

ฉินอวิ๋นฟานที่เป็นหน่วยรบพิเศษ เป็นคนที่เดินออกมาจากท่ามกลางภูเขาศพทะเลเพลิง แต่ไหนมาเด็ดขาดรวดเร็ว ไม่เคยชักช้าร่ำไร ผู้รอบรู้ทักษะการแพทย์เช่นหัวจิ่งซานกลับสมคบคิด วางแผนชั่วร้ายกับพวกเขา?

ขณะที่ทุกคนคืนสติ หัวจิ่งซานเบิกตาโพลงและล้มกายลงกับพื้นแล้ว กลิ่นคาวเลือดฉุนคละคลุ้งทั่วห้อง...

ซี้ด...

“ฆ่าคน รัชทายาทฆ่าคนแล้ว!”

พอทุกคนเห็นดังนั้นก็จ้าละหวั่น ต่างสูดลมเย็น ตกใจกับความแข็งกร้าวของฉินอวิ๋นฟาน ต่างพากันถอยหลังเนือง ๆ มองฉินอวิ๋นฟานผู้เป็นรัชทายาทหาญกล้าตรงหน้าด้วยความสะพรึง

นี่ยังใช่รัชทายาทโง่เง่าเต่าตุ่นที่ทุกคนพูดหรือไม่?

หลายปีที่ผ่านมาเขาคงไม่ได้แกล้งทำหรอกนะ?

คนทั่วไปอาจแกล้งทำโง่ได้สักสองสามปี แต่อย่างไรก็ต้องเผยพิรุธ ทว่าฉินอวิ๋นฟานเป็นโง่ได้สิบกว่าปีเต็ม ๆ ไม่มีใครสังเกตเห็นสักคน ถ้าเป็นเช่นนี้ คนผู้นี้จะน่ากลัวเกินไปแล้ว

“น้องเจ็ด เจ้า เจ้ากล้าสังหารหมอหลวงหัวต่อหน้าทุกคนเชียวหรือ?”

องค์ชายรองตะลึงงัน ใบหน้าหวาดกลัว อย่างไรก็คิดไม่ถึง แค่พูดจาไม่เข้าหูคำเดียว ฉินอวิ๋นฟานจะชักกระบี่ฆ่าคนเลย?

เขามีความกล้าอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไร?

แถมอุปนิสัยยังเปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมืออีก อย่างกับคนละคน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

“หึ!”

ฉินอวิ๋นฟานแค่นฮึเสียงเย็น “เป็นถึงหนึ่งในสามหัวหน้าหมอหลวงของราชสำนัก แม้แต่ผงหยินเหอฮวน[footnoteRef:1]ก็ยังดูไม่ออก เก็บเขาไว้มีประโยชน์อันใด?” [1: ยาปลุกกำหนัดชนิดหนึ่ง]

“อะไรนะ? ผงหยินเหอฮวนหรือ?”

ทุกคนมองหน้ากัน ทั้งราชวงศ์ ผงหยินเหอฮวนเป็นยาที่ใช้กันมากที่สุดจริง ๆ และเป็นของที่เหล่าองค์ชายราชนิกุลนิยมมากที่สุดด้วย

ทุกคนต่างใช้ของสิ่งนี้กันอย่างลับ ๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนใช้กับรัชทายาท?

องค์ชายใหญ่เห็นดังนั้นจึงหรี่ดวงตาทั้งสองเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นชา “น้องเจ็ด ท่านหมอหลวงยังไม่ได้เปิดปากเจ้าก็ฆ่าเขาเสียแล้ว เจ้าบอกว่านี่คือผงหยินเหอฮวน ใครจะกล้าเชื่อ?”

ผงหยินเหอฮวนเป็นยาต้องห้ามในวังหลวง ผู้ซื้อต้องลงบันทึก แต่เจ้าโง่ฉินอวิ๋นฟานกลับรู้ว่าเป็นของสิ่งนี้ได้ ทำให้ฉินอวิ๋นคังนึกไม่ถึงโดยแท้ แต่คนตายไม่สามารถให้การได้ เขาก็ต้องไม่ยอมรับอยู่แล้ว

“รัชทายาท บ้านมีกฎบ้าน แคว้นมีกฎแคว้น ท่านไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดีสังหารคนต่อหน้าธารกำนัลตามอำเภอใจ ไม่เห็นกฎหมายต้าเฉียนเราอยู่ในสายตาเลย นี่จะกำแหงมากไปแล้วกระมัง?”

หูหมิงชิงหน้าขมึงทึง

“พวกเจ้าอย่ามาเล่นอุบายกับข้าเลย ใส่ความข้ามีเพียงผลลัพธ์เดียว นั่นก็คือตาย ไม่ว่ามันจะเป็นผู้ใดก็ตาม!”

ความเผด็จการของฉินอวิ๋นฟานคงเดิม แข็งกร้าวมิมีเทียบเทียม!

เป็นถึงรัชทายาทแห่งต้าเฉียน พรุ่งนี้ก็เป็นวันสถาปนาขึ้นครองราชย์แล้ว อยู่ตำแหน่งสูงสุด คิดไม่ถึงว่าจะถูกวางยาตอนกลางคืน เอาตัวไปอยู่บนเตียงของหยางกุ้ยเฟย แถมยังถูกคนจับได้คาหนังคาเขาอีก

ถ้าบอกว่าไม่ได้เตรียมการมา ผียังไม่เชื่อเลย

วิธีการสกปรกเช่นนี้น่าขายหน้าจริง ๆ เขาฉินอวิ๋นฟานหรือจะรับความอยุติธรรมทุเรศ ๆ อย่างนี้ได้

ไม่ยอมก็มาสิ ใครกลัวใคร!

หยางกุ้ยเฟยตกใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของฉินอวิ๋นฟานไม่น้อย ยามนี้นางตระหนักถึงวิกฤตใหญ่หลวงแล้ว จึงปล่อยโฮออกมาทันที

“ฮือ ๆ ๆ... รัชทายาทวิปลาสไปแล้ว ไม่แยกแยะดีชั่วเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ใช้กระบี่ชี้ข้า นี่จะให้ข้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง ถ้าฝ่าบาทยังพลานามัยแข็งแรง ข้าหรือต้องรับกับความไม่เป็นธรรมเช่นนี้?”

หยางกุ้ยเฟยบิดผ้าเช็ดหน้า ปิดหน้าร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าทุกคนด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “องค์ชายใหญ่ องค์ชายรอง พวกท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้านะ พระอัฐิของอดีตฮ่องเต้ยังไม่ทันเย็น รัชทายาทก็เหยียบย่ำตามอำเภอใจ ลบหลู่นางสนมของอดีตฮ่องเต้ นี่จะเอาเกียรติของราชวงศ์ไปไว้ที่ไหน”

การร้องไห้ฟ้องร้องของหยางกุ้ยเฟยเรียกความรู้สึกร่วมและความเห็นใจจากทุกคนทันที แต่ไม่รอให้ทุกคนเอ่ยปาก ฉินอวิ๋นฟานก็ลงมือแล้ว!

“นังแพศยา เจ้ามดเท็จหลอกให้คนเชื่อ แล้วมิวายยังจะทำร้ายข้าอีก เป็นอสรพิษร้ายชัด ๆ สมควรฆ่า!!!”

ฉินอวิ๋นฟานท่วงทำนองน่าเกรงขาม ชักกระบี่ออกมาอีกครั้ง ลำแสงเย็นพุ่งออกมา ชั่วขณะที่ปาดลำคอของหยางกุ้ยเฟย เสียงร่ำไห้หยุดชะงัก ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสะพรึง กลัวและกลิ่นอายแห่งความตายที่คละคลุ้ง

จากนั้นเลือดสดก็ไหลออกมาจากลำคอของนาง กุ้ยเฟยแห่งยุคดับในบัดดล...

Related chapters

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 3

    อะไรนะ...การที่หยางกุ้ยเฟยถูกสังหารทำให้คนทั้งหมดในที่นั้นร้องอุทานขึ้นมา ใบหน้าของทุกคนมีแต่ความครั่นคร้าม เขาคือรัชทายาท สังหารหัวหน้าหมอหลวงก็ช่างเถอะ แต่กระทั่งนางสนมที่อดีตฮ่องเต้โปรดปรานที่สุดก็กล้าฆ่าแกงตามอำเภอใจหรือ?“น้องเจ็ด เจ้า เจ้าจะเหิมเกริมไปแล้วนะ แม้แต่หยางกุ้ยเฟยก็ยังฆ่าหรือ?”องค์ชายใหญ่ก็ตกตะลึงกับการกระทำที่เด็ดขาดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของฉินอวิ๋นฟานเหมือนกันผิดหูคำเดียวก็ฆ่า แววตาหนักแน่นและท่าทางที่ไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใด กลับทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนราชันมาถึง“น้องเจ็ด เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”เวลานี้องค์ชายรองหน้าตามืดมนจนจะจับตัวเป็นน้ำหยดติ๋งได้อยู่แล้ว เดิมนึกว่าพวกเขาจะจัดการรัชทายาทโง่ได้ตามปรารถนา คิดไม่ถึง ในช่วงเวลาสำคัญกลับกลายเป็นเขาเล่นเด่นอยู่คนเดียวท่าทางเด็ดขาดฉับไว ท่วงทำนองแลมองเบื้องล่างและแววตาดูแคลนใต้หล้านั้นกลับทำให้เขาชักจะหวั่น ท่วงทำนองนี้ เขาเคยเห็นจากเสด็จพ่อผู้เป็นอดีตฮ่องเต้เท่านั้น“ข้าเคยบอกแล้ว ผู้ที่ป้ายมลทินให้ข้า ตายไม่เว้น!”ต่อหน้าเหล่าขุนนางและองค์ชายทั้งหลาย ฉินอวิ๋นฟานใจเย็นเป็นธรรมชาติ ความเผด็จการเ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 4

    คำพูดเดียวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ฝูงชนแตกตื่นทันที ทุกคนมองหน้ากัน เดาะลิ้นอยู่ในใจ เจ้านี่เป็นพวกหัวร้อนกระมัง?เวลานี้ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่คือไท่ซั่งหวง แล้วยังริอ่านล่วงเกินต่อหน้าอีก? ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะรนหาที่ตาย ทุกคนย่อมชมอย่างยินดีปรีดาไท่ซั่งหวงเงยหน้าขึ้นน้อย ๆ มองไปตามเสียง เห็นเพียงชายหนุ่มรูปงามกำลังสบตาเขาอยู่ แววตาใสสะอาดแน่วแน่ แผ่กลิ่นอายทระนงออกมาจากทั้งตัว ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย“เจ้าคือ?”พินิจอยู่ค่อนวัน ไท่ซั่งหวงกลับไม่รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้คือใครออกห่างจากราชสำนักเกือบยี่สิบกว่าปี ฮ่องเต้จะพาองค์ชายที่ค่อนข้างสำคัญไปเยี่ยมเขาในช่วงเทศกาลเท่านั้น มีความทรงจำกับองค์ชายอยู่ไม่กี่องค์ ทว่าจากท่วงท่าและการแต่งตัวของชายหนุ่มตรงหน้า น่าจะเป็นองค์ชายอย่างไม่ต้องสงสัย“รัชทายาทแห่งต้าเฉียนฉินอวิ๋นฟานพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินอวิ๋นฟานตอบด้วยกิริยาเหมาะสม“อ้อ?”ไท่ซั่งหวงมองฉินอวิ๋นฟานแบบเหนือคาดเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยปากถาม “ดูท่าทาง เจ้าดูไม่โง่นี่?”“เสด็จปู่ หลายปีที่ผ่านมาน้องเจ็ดไม่ได้เบาปัญญาสักหน่อย เขาเสแสร้ง เขาหลอกทุกคนพ่ะย่ะค่ะ”องค์ชายรองเสริมอีกดอก พูดตี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 5

    ไท่ซั่งหวงเคาะโต๊ะลงมติ ไม่มีผู้ใดเห็นต่างอีกฉินอวิ๋นฟานเอ่ย “เสด็จปู่ ไม่ทราบว่าแค่แต่งงานกับฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวก็สืบทอดบัลลังก์ได้แล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ถูกต้อง ไม่ว่าใครที่สามารถแต่งกับฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวได้ ไม่ว่าต้องแลกกับอะไร ข้าก็จะคุ้มครองให้เขาได้ขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น!”ไท่ซั่งหวงเด็ดขาดมีพลัง แฝงความเผด็จการและความแข็งแกร่งเยี่ยงจักรพรรดิในวาที“เสด็จปู่ ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวคัดเลือกราชบุตรเขยมีกติกาอะไรหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เพิ่งทะลุมิติมาได้ไม่นาน ฉินอวิ๋นฟานไม่เข้าใจรูปแบบการเลือกราชบุตรเขยในสมัยโบราณ ในภาพจำของเขายังหยุดอยู่ที่ขั้นตอนการโยนบอลผ้า หรือไม่ก็หาคู่โดยการประลองยุทธ์ฉินอวิ๋นฟานรู้สึกว่าการเลือกราชบุตรเขยของฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวไม่น่าจะธรรมดาอย่างนั้น“ย่อมมีกติกา ทั้งหมดแบ่งออกเป็นประลองด้านบุ๋นและประลองด้านบู๊ โดยจะประลองสามด้านละสามรอบ”ไท่ซั่งหวงอธิบาย “ประลองด้านบุ๋นแบ่งออกเป็นกลอนคู่ การเขียนและดนตรี ประลองด้านบู๊แบ่งออกเป็นยิงธนู ประลองกำลังและประลองกำลังยุทธ์ ผู้ที่คว้าชัยทั้งสองการประลองก็คือผู้ชนะ แต่ในการประลองบุ๋นบู๊สามารถเชิญผู

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 6

    ในผ้าม่านผืนบาง ไอหมอกคละคลุ้งหญิงนางหนึ่งนอนอยู่ในถังอาบน้ำ เผยไหล่นวลเนียนชวนหลงใหล ขาวสะอาดและเรียบเนียน หยดน้ำแต่ละหยดใสแวววาวดังไข่มุก ใช้สองมือวักน้ำเนือง ๆภาพนี้ทำให้ฉินอวิ๋นฟานหัวใจสั่นระรัว เลือดร้อนพลุ่งพล่าน ท้องน้อยเร่าร้อนอย่างหาที่เปรียบมิได้อึก!ฉินอวิ๋นฟานลำคอแห้งผาก กลืนน้ำลายลงทีหนึ่ง สืบเท้าเข้าหาช้า ๆ“ถึงคุณมู่หรงจิ่นจะไม่ชอบฉัน แต่ต้องยอมรับเลย รูปร่างกับหน้าตาของมู่หรงจิ่นสุดยอดจริง ๆ สองปีแล้ว มาจนถึงขั้นนี้ ถ้าไม่เผด็จศึกอีกจะเสียทีกับจิตใต้สำนึกเกินไป”ฉินอวิ๋นฟานพูดในใจฉินอวิ๋นฟานยื่นมือออกมาบีบไหล่ของมู่หรงจิ่นเบา ๆ เนื่องจากควบคุมแรงไม่ดี มือหนักไปหน่อย มู่หรงจิ่นจึงร้อง ‘อ๊า’ ขึ้นมาทันที น้ำเสียงหวานฉ่ำทำให้ฉินอวิ๋นฟานหัวใจสะท้าน“เสี่ยวจวี๋ เจ้าเบามือหน่อยไม่ได้หรือ? ข้าบอกเจ้าตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้ว”มู่หรงจิ่นยังไม่รู้ว่าที่อยู่เบื้องหลังคือฉินอวิ๋นฟานจึงพูดด้วยความขุ่นเคืองผิวเนียนนุ่มปานเด็กทารก บอบบางน่าถนอม รวมถึงกลิ่นหอมจาง ๆ จากตัวนางยิ่งทำให้คนลุ่มหลงภาพจากบนลงล่างอยู่ในคลองจักษุทั้งหมด ภาพขาวหิมะวับ ๆ แวม ๆ ที่ช่วยให้คนเลือดกำเดาไ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 7

    “รัชทายาท ท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ ข้ากับคุณหนูยังไม่ได้เตรียมพร้อมเลย!”เสี่ยวจวี๋ปกป้องนายโดยไม่สนใจเนื้อตัวเปียกปอนของตัวเอง ขวางอยู่หน้ามู่หรงจิ่นโดยตรงเดิมถังอาบน้ำทำขึ้นสำหรับสองคน ยามนี้อยู่ในนั้นสามคนจึงดูคับแคบทันที เสี่ยวจวี๋ที่อยู่ตรงกลางแทบจะตัวติดกับฉินอวิ๋นฟานแล้วครั้นเสี่ยวจวี๋แช่ตัวอยู่ในนั้น ชุดกระโปรงผ้าโปร่งแนบตัว กล้ามหน้าอกอวบอั๋นฟูขึ้นมาเรื่อย ๆ จนจะทิ่มหน้าฉินอวิ๋นฟานอยู่แล้ว เช่นนี้ใครจะไปอดใจไหว?“เรื่องนี้ยังมีอะไรต้องเตรียมตัวอีก? ยิ่งคาดไม่ถึงยิ่งเร้าใจ”ฉินอวิ๋นฟานคว้ากระโปรงของเสี่ยวจวี๋แล้วกระชากแรง ๆ เรือนร่างขาวสะอาดดังหยกปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาในบัดดล เนื่องจากตื่นเต้นเกินไป หัวใจของสองนางจึงเต้นเร็วมากขึ้น หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงชัดเจนกว่าเดิมเวลานี้อะดรีนาลีนที่ไตของฉินอวิ๋นฟานพุ่งปรี๊ด ท้องน้อยร้อนรุ่มหนัก ความต้องการปราบพยศอันแรงกล้ากำลังกระตุ้นสมองของเขา“ไม่ อย่านะ!”เสี่ยวจวี๋หวีดร้องและขัดขืนอย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงหน้ามู่หรงจิ่น ยิ่งนางร้องมากเท่าไร ฉินอวิ๋นฟานก็ยิ่งคึก ภายใต้มืออันมีกำลังพละกำลังของเขา สองนางมิอาจขัดขืนได้เลย ต้องปล่อ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 8

    “เฮ่อชินอ๋องฉินอ้าว? เสด็จอาของข้าหรือ?” ฉินอวิ๋นฟานต้องมีความทรงจำเกี่ยวกับคนผู้นี้อยู่แล้ว เขาคืออนุชาลำดับที่สิบสามของอดีตฮ่องเต้ คือผู้ที่ทำตัวไม่โดดเด่นที่สุด แทบจะไม่ยุ่งงานราชกิจเลย ขณะอดีตฮ่องเต้ชิงบัลลังก์ เขาคือผู้พิทักษ์ที่ภักดีที่สุดของอดีตฮ่องเต้หลังจากอดีตฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ เขาถอยไปอยู่เบื้องหลัง ใช้ชีวิตปลดเกษียณ“ถ้าข้าจำไม่ผิด ยี่สิบปีก่อนถังเจิ้นไห่น่าจะเป็นรองแม่ทัพคนหนึ่งในกระโจมของเฮ่อชินอ๋อง ถ้าบอกว่าระหว่างพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ข้าไม่เชื่อหรอก”อู่จ้านกล่าวอย่างหนักแน่น“อื่ม! เป็นข้า ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน!”คงเพราะการจัดระเบียบขั้วอิทธิพลในเวลานี้ หัวของฉินอวิ๋นฟานจึงแทบจะระเบิด ทางแจ้งมีสองใหญ่ ทางลับยังมีผู้แข็งแกร่งน่ากลัวอีกคนหนึ่งฉินอวิ๋นฟานถาม “แล้วพวกเราเล่า?”“หือ...พวกเรา?”อู่จ้านส่ายหน้าด้วยความจนใจ เอ่ย “พวกเราไม่มีอะไรเลย ไร้รากฐาน ไร้ความสามารถ ได้แต่พึ่งพาตัวเองแล้ว”“แย่ แย่เช่นนี้เชียวหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานมุมปากกระตุก นี่มันจะทุเรศไปแล้วมั้ง? เป็นถึงรัชทายาทในรัชกาลปัจจุบัน แต่ไม่มีคนสนับสนุนเลยเนี่ยนะ?“ท่านคิดว่าอย่างไรเล

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 9

    “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดอาจารย์ของเจ้าจึงตั้งชื่อนี้ให้?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“หือ? ชื่อก็เป็นแค่สิ่งเรียกแทนไม่ใช่หรือ? ข้าติดตามอาจารย์สามสิบกว่าปี ไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงมาก่อน หรือว่าเจ้าจะรู้เหตุผลของชื่อ?”หลู่หนีถามอย่างไม่เข้าใจในฐานะที่เป็นหนึ่งในสิบศิษย์เด่นล้ำของหลู่กง หลู่หนีย่อมมีคุณสมบัติสามารถผยองได้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวหรือว่าชื่อเสียงของอาจารย์ มันทำให้เขาเดินเบ่งในแคว้นใหญ่ ๆ ได้แบบไม่เป็นปัญหาแต่เขาย่อมไม่กล้าโอหังกับเรื่องที่เกี่ยวกับอาจารย์“หนีก็คือดิน บ่งบอกว่าหลู่กงคาดหวังกับเจ้ามาก หวังว่าต่อไปเจ้าจะยืนได้อย่างมั่นคง พยายามสร้างสรรค์ แล้วเจ้าเล่า?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “งานฝีมือ เครื่องสำริดและกระบี่พกมากมายเหล่านี้ มีชิ้นไหนบ้างที่ไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากอาจารย์เจ้า? มีชิ้นไหนบ้างที่เจ้าประดิษฐ์ขึ้นเอง? มีหรือไม่?”ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานทำเอาหลู่หนีใบ้รับประทาน งานฝีมืออันประณีตคือคุณสมบัติที่เขาภูมิใจ ทว่าถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานแทงใจดำเขาโดยตรงหลู่หนีมองการจัดวางในร้าน ดวงตาหมองไปอย่างไม่มีสาเหตุเฉินม่อกับอู่จ้านเห็นดังนั้นตกตะลึงถึงที่สุด รัชท

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 10

    “รัชทายาท นี่ก็คือหน้าไม้ที่ให้ข้าทำหรือ? เสียเวลาข้าจริง ๆ เลย!”ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหลู่หนีก็เดินออกมาจากห้องทำงานแล้ว ในมือถือหน้าไม้ประณีตที่เพิ่งทำเสร็จ เขามองดูรอบ ๆ ไม่เห็นว่าเจ้าของสิ่งนี้จะมีความวิเศษวิโสอันใด“งั้น ๆ หรือ? ลองดูก็รู้แล้วนี่? เห็นป้ายภัตตาคารต้าเฉียนประมาณสองร้อยเมตรนั่นหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานชี้ไปที่ป้ายร้านไกล ๆ พลางยิ้มพูดราบเรียบเขารับหน้าไม้มา วางลูกศรที่พกติดตัวมาแต่แรกไว้ตรงแล่ง มันแนบสนิทกับร่อง ต้องยอมรับแล้วว่าฝีมือของหลู่หนีละเอียดมากจริง ๆ“รัชทายาท นี่ นี่จะยิงป้ายร้านนั่นหรือ?”เฉินม่อถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ”ฉินอวิ๋นฟานยกยิ้มตรงมุมปาก สีหน้ามั่นใจ ในความทรงจำเดิม การยิงธนูในสมัยโบราณปกติแล้วจะยิงได้ในระยะประมาณร้อยยี่สิบเมตร ถ้าเป็นธนูชั้นดีและเป็นผู้ที่มีกำลังมาก จะยิงได้ประมาณร้อยเจ็ดสิบแปดสิบเมตรแต่ธนูมีจุดอ่อนที่แย่มากอย่างหนึ่ง ยิ่งระยะทางไกล พลังการโจมตีก็จะยิ่งลดลง ดังนั้นระยะสองร้อยเมตรอยู่เหนือระยะการโจมตีสูงสุดแล้ว“รัชทายาทจะวู่วามไม่ได้นะขอรับ เวลานี้เป็นช่วงที่คนพลุกพล่านที่สุด ภัตตาคารต้าเฉียนไกลเกิ

Latest chapter

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 823

    “ฮ่า ๆ ๆ...มา ชนแก้ว!”ภายใต้แสงขมุกขมัว ทั้งสี่จรดสุราหมดจอก ฉินอวิ๋นฟานที่หิวไส่กิ่วสวาปามราวกับพายุ ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็กวาดอาหารโอชาบนโต๊ะไปกว่าครึ่งเวลานี้มู่หรงจิ่น หลู่เซียงหลิงและเสี่ยวจวี๋ก็ดื่มจนแก้มแดงก่ำแล้ว งดงามอ้อนแอ้นจนอยากจะเด็ดมาดอมดม พวกนางกระดากใจยิ่งหนัก หลังจากอิ่มเอมกับสุราอาหารแล้ว ฉินอวิ๋นฟานก็ไม่สะกดอารมณ์พลุ่งพล่านอีกต่อไป โอบสองดรุณีไปยังเตียงทันที“สุดที่รักของข้า ข้าคิดถึงพวกเจ้าจะตายอยู่แล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย กระโจนใส่พวกนางโดยตรง สองดรุณีราวกับกระต่ายน้อยตื่นตกใจ ส่งเสียงร้อง “อ๊ะ” ออกมาทีหนึ่งจึงรีบมุดเข้าไปอยู่ด้านในของเตียง ยิ่งพวกนางเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานก็ยิ่งคึก“แหะ ๆ ร้องใช่ไหม คืนนี้จะให้พวกเจ้าร้องไห้เสียงแหบเสียงแห้งไปเลย!”ฉินอวิ๋นฟานเลียริมฝีปาก ความปรารถนาปะทุขึ้นโดยสิ้นเชิง เบื้องล่างท้องน้อยเร่าร้อนยากจะทานทนนานแล้ว ‘แควก’ ทีหนึ่ง เครื่องนุ่งห่มบนตัวฉีกขาด เผยกล้ามเนื้อแข็งแรงทั่วร่าง กลิ่นอายบุรุษเข้มข้นทำให้ลมหายใจของสามดรุณีกระชั้น กระนั้นกลับมิอาจสะกด ฉินอวิ๋นฟานเสือตะครุบอีกหน คว้าเท้าเล็กของหลู่เซียงหลิงเอาไว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 822

    ฉินอวิ๋นฟานตบบ่าหวังอันสือเบา ๆ แล้วกล่าวคำพูดจากใจ “ขุนนางในอนาคตของต้าเฉียนจะกระจ่างใสได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”“รัชทายาทโปรดวางใจ ข้าน้อยจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอนขอรับ!”หวังอันสือตื้นตันจนน้ำตานองหน้า ถ้อยคำสวยงามใดก็มิอาจบรรยายความรู้สึกในขณะนี้ของเขา ในที่สุดก็มีเวทีแสดงปณิธานซึ่งมีอยู่เต็มอกของเขาแล้ว ในโลกอันขุ่นมัวนี้ ในที่สุดเขาก็ได้แสดงฝีมือสักทีและสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกโชคดีคือ เขาได้พบกับป๋อเล่อ ผู้มีจุดมุ่งหมายและทิศทางปณิธานเดียวกับเขา มอบโอกาสพลิกชะตาให้กับเขาครั้งหนึ่งเมื่อได้รับคำตอบยืนยันของหวังอันสือ ฉินอวิ๋นฟานคลี่ยิ้มพึงพอใจ จึงออกไปจากห้องและตรงไปยังตำหนักรัชทายาท...“พี่อวิ๋นฟาน ท่านคงหิวแย่แล้วกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานเพิ่งกลับมาถึงตำหนักที่พัก จิ่นเอ๋อร์ก็รีบเดินมาต้อนรับ ส่วนเสี่ยวจวี๋และเซียงหลิงต่างประกบอยู่ทางซ้ายและทางขวาจู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็รู้สึกว่าตำหนักที่พักต่างออกไปจากปกติ ปกติจะมีนางกำนัลรับใช้อยู่ในจวนอย่างน้อยสี่คน ทว่าวันนี้กลับไม่มีแม้แต่คนเดียว ทั้งตำหนักมีเพียงผู้หญิงสามคนเท่านั้น คือจิ่นเอ๋อร์ เซียงหล

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 821

    “รัชทายาท ท่านจะหารือเรื่องใหญ่กับข้าน้อยหรือขอรับ?!”เห็นท่าทางจริงใจของฉินอวิ๋นฟาน หวังอันสือร่างสะท้านเล็กน้อย ฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินต้าเฉียนผู้สูงส่ง กลับมีเรื่องจะหารือกับเขา? มันมิควรเป็นคำสั่งหรือ?ฉินอวิ๋นฟานเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ทำให้หวังอันสือสงบใจไม่ได้อยู่นาน ท่าทางเข้าหาได้ง่ายของฉินอวิ๋นฟานกับรัชทายาทผู้แข็งกร้าวราวกับเทพสังหารสถิตร่างที่เขาเพิ่งพบเมื่อครู่ต่างกันโดยสิ้นเชิงฉินอวิ๋นฟานพูดเป็นการเป็นงาน “ถูกต้อง หากจะพูดกันจริง ๆ ก็คือข้ามีเรื่องจะขอร้องเจ้า!”“มี มีเรื่องขอร้องข้าน้อย?”หวังอันสือสับสนมากกว่าเดิม เขาเป็นแค่ขุนนางระดับหก อาจารย์ต่ำต้อยคนหนึ่ง ไม่ว่าคนใดในเมืองหลวงที่ถูกบีบตายได้ง่าย ๆ น่ากลัวว่าจะมีอิทธิพลและฐานะเหนือเขา ฉินอวิ๋นฟานจะมีเรื่องขอร้องเขาได้อย่างไร?“หวังอันสือ ข้าได้ตรวจสอบเรื่องเกี่ยวกับเจ้ามาคร่าว ๆ ทั้งหมดแล้ว เจ้าคือผู้มีความสามารถที่ข้าต้องการจริง”ฉินอวิ๋นฟานเข้าประเด็นทันที “เจ้าน่าจะรู้ดีว่าตอนนี้ต้าเฉียนเป็นยังไง ถึงภายนอกดูสงบ แต่ความจริงคือคลื่นใต้น้ำ บรรดาองค์ชายและขั้วอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังต่อสู้กันจน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 820

    หลู่หนีสีหน้าเคร่งขรึม แสดงท่าทีอีกครั้ง เขารู้ว่าฉินอวิ๋นฟานเป็นคนเด็ดขาดฉับไว ในเมื่อฉินอวิ๋นฟานมอบงานนี้เขาก็ต้องเชื่อใจเขาหมดหัวใจอยู่แล้วอีกทั้งเรื่องนี้ยังสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อฉินอวิ๋นฟาน เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก นั่นก็คือทำงานนี้ให้สำเร็จ สิ่งของเงินทองฉินอวิ๋นฟานทุ่มทุนมาก“เวลากระชั้นชิด พรุ่งนี้พวกท่านก็ออกเดินทางไปเมืองจัวเถอะ เรื่องนี้ต้องทำที่เมืองจัว หลิวเป้ยจะให้ความช่วยเหลือมอบความสะดวกทั้งหมดกับพวกท่านเอง ต้องการอะไรก็บอกได้เต็มที่ พวกท่านแค่ทุ่มเทกายใจทำงานก็พอ”ฉินอวิ๋นฟานกล่าวเสียงหนัก“เมีองจัว?”หลู่หนีลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ก็ดี เมืองจัวเป็นคนของรัชทายาทเกือบทั้งหมด พวกเราแค่ทุ่มเทกายใจกับการผลิตก็พอ เช่นนี้จะลดอุปสรรคลงด้วย”......หลังจากกำชับทุกเรื่องเสร็จก็ดึกมาแล้ว ฉินอวิ๋นฟานลากร่างอันอ่อนล้ามายังที่รักษาตัวของพวกหวังอันสือ หลังจากทำความเข้าใจ ฉินอวิ๋นฟานพบว่าหวังอันสือคนนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับหวังอันสือในสมัยซ่งเหนือบางส่วนดังนั้นฉินอวิ๋นฟานจึงรู้สึกเห็นใจขึ้นมาเพราะเวลานี้เขากำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการคน หากหวังอันสือเป็นเหมือนกับหวังอันสือในประวัต

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 819

    “ข้าเข้าใจความรู้สึกของพวกท่านในตอนนี้ดี”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยท่าทางมั่นใจ “ความจริงไม่ว่าข้าจะอธิบายกับพวกท่านยังไงก็เข้าใจยากอยู่ดี เพราะนี่คือการปฏิรูปอุตสาหกรรมล้ำยุค ในอดีตทุกคนต่างเรียกมันว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก”หลู่หนีถามด้วยใบหน้างุนงง “ปฏิวัติอุตสาหกรรม? นั่นคือสิ่งใดหรือขอรับ?”“อื่ม! จะว่ายังไงดีล่ะ?”ฉินอวิ๋นฟานลูบคางพิจารณาครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “ข้าจะยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้พวกท่านฟังก็แล้วกัน ในสังคมศักดินาที่ทำการเกษตรเป็นหลัก ในตอนที่ชาวบ้านรดน้ำ ส่วนมากแล้วจะใช้กำลังคนเป็นสำคัญ ไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพต่ำ หนำซ้ำยังต้องใช้แรงงานเยอะมาก”“ทว่านับจากท่านหลู่ปันคิดค้นกังหันน้ำและระหัดวิดน้ำขึ้นมาก็เพิ่มประสิทธิภาพในการรดน้ำสูงขึ้น ทั้งยังประหยัดแรงงานไปเยอะ นี่ก็คือการพัฒนาทักษะในการเพาะปลูก และสามารถเรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติทางเกษตรกรรม”“ดังนั้นเครื่องจักรนี้ของข้าซับซ้อนกว่าระหัดวิดน้ำมากกว่า แต่ปริมาณบรรจุขนส่งและแรงขับเคลื่อนของมันมีมากกว่ารถม้ามหาศาล ทำให้ประสิทธิภาพในการทำการค้าสูงขึ้น นี่ก็คือการปฏิวัติอย่างหนึ่งของการค้าและการเดินทาง ข้าเรียกมันว่าการปฏิวัติ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 818

    “ปืนใหญ่สนามอิตาลี? ชื่อช่างน่ามหัศจรรย์นัก!” หลู่หนีพูดด้วยใบหน้าสับสน!ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้อธิบายมาก เขามองไปทางหลู่หนีแล้วพูดขึ้นอีก “ช่างใหญ่หลู่หนี ท่านทำเจ้าเหล็กนี้เถอะ ต้องระวังให้มาก จะดูแคลนอานุภาพของมันไม่ได้”“อ้อ? นี่คือสิ่งใดหรือ?”หลู่หนีรับภาพที่ฉินอวิ๋นฟานส่งมา ภาพนี้ไม่ใหญ่ ในนั้นมีแต่วัตถุทรงกลม ข้างบนมีแหวนอันหนึ่ง หลู่หนีเห็นแล้วทำหน้าฉงน“เจ้าสิ่งนี้เรียกว่าระเบิดมือ เอาไว้ใช้ป้องกันตัวในยามคับขันจะดีที่สุด ตอนท่านทำต้องป้องกันความปลอดภัย หากไม่เข้าใจอะไรก็มาถามข้าทันที”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“ขอรับ! ข้าน้อยต้องตั้งใจทำแน่นอน!”ติดตามฉินอวิ๋นฟานมานานอย่างนี้ หลู่หนีรู้ดี หากฉินอวิ๋นฟานกำชับเช่นนี้ นั่นแสดงว่ามันต้องไม่ธรรมดา แม้มีขนาดเล็ก แต่จะมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่กล้าประมาทสักนิด!“เอาละ ตอนนี้เหลือเรื่องที่สำคัญที่สุดอีกหนึ่งเรื่อง จำเป็นต้องให้พวกท่านสามคนทำให้สำเร็จ!”จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็ขึงขังขึ้นมา เขาหยิบภาพเจ็ดแปดภาพมากองอยู่ตรงหน้าทุกคน ฉินอวิ๋นฟานวาดภาพพวกนี้เสร็จตั้งแต่อยู่ที่เมืองอู่โจว และสิ่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของเขาซึ่งมีค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 817

    “นายช่างใหญ่ทั้งสองเกรงใจแล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานรีบสองก้าวรวบเป็นหนึ่งไปข้างหน้า คว้ามือของพวกเขาเอาไว้ก่อนจะกล่าวอย่างไมตรีจิต “เป็นพี่น้องบ้านเดียวกัน ไยต้องยึดติดกับขนบธรรมเนียมพื้น ๆ พวกนี้ด้วย? รีบเชิญข้างในเถอะ!”ฉินอวิ๋นฟานมีไมตรีเช่นนี้ทำให้หลู่เซินและหลู่เหมี่ยวต่างตกใจอย่างไม่เคยประสบ ประทับใจอย่างยิ่ง ส่วนหลู่หนีที่อยู่ด้านข้างเห็นแล้วตาค้างไปเลย พลางตะลึงถอนใจในใจ ‘เจ้าหมอนี่ ไม่เห็นเหมือนเมื่อกี้นี้เลยนี่!’ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องหนังสือ หลังจากสนทนากันอย่างเรียบง่ายประมาณหนึ่งแล้ว การสนทนาของพวกเขาก็เข้าสู่ประเด็นหลัก และนี่ก็คือจุดประสงค์ที่ฉินอวิ๋นฟานเรียกหลู่หนีมาฉินอวิ๋นฟานกล่าวเสียงหนัก “ช่างใหญ่หลู่หนี ที่ข้าตามพวกท่านมาเพราะมีงานสำคัญมากงานหนึ่ง และเป็นภารกิจยากเย็นแสนเข็ญจะมอบให้พวกท่าน หวังว่าพวกท่านจะทำสำเร็จได้”“ภารกิจยากเย็นแสนเข็ญ?”เมื่อทั้งสามได้ยินก็พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขึ้นมา ที่พวกเขามาก็เพื่อทำงาน สามารถมีภารกิจสำคัญได้ย่อมเป็นเรื่องดี!“หลังจากดัดแปลงหน้าไม้ของเราแล้ว รูปโฉมก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เอเคสี่สิบแปดพัฒนาอานุภาพได้น่ากลัวถึงขีดสุดแ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 816

    ฉินอวิ๋นฟานขมวดคิ้วถาม “ท่านก็รู้ ของที่พวกเราสร้างกันขึ้นมาล้วนเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำ ทันทีที่เล็ดลอดออกไปจะเป็นการโจมตีพวกเราถึงตาย ดังนั้นข้ายอมให้ช้าลงหน่อยก็ไม่กล้าให้คนที่ไม่คุ้นเคยสอดมือยุ่งเรื่องนี้”ฉินอวิ๋นฟานย่อมเชื่อถือหลู่หนีเต็มร้อยอยู่แล้ว เพราะพวกเขาร่วมมือกันหลายเดือนเต็ม ๆ อีกอย่างลูกสาวของหลู่หนีก็กลายเป็นภรรยาของเขาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่หลู่หนีจะหักหลังแต่คนนอกไม่เหมือนกัน ทันทีที่พวกเขาขโมยเทคโนโลยีหลักของเขาไป นั่นได้เดือดร้อนแล้ว เมื่อเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างเอเคสี่สิบแปดผลิตในบ้านเมืองอื่น เช่นนั้นโลกใบนี้จะบังเกิดกลียุคแล้ว “รัชทายาทวางใจได้ พวกเขาสองคนคือศิษย์พี่หกและศิษย์พี่เจ็ดของข้าน้อย พวกเราสามคนโตมาด้วยกันแต่เล็ก สนิทกันมาก เชื่อได้แน่นอน และฝีมือของพวกเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าข้าน้อยด้วย”หลู่หนีทุบอกรับประกัน “อันที่จริงที่อาจารย์ส่งพวกเขามาก็เป็นเพราะข้าน้อยเอ่ยปาก อย่างไรเสีย ลำพังข้าน้อยคนเดียวมีความจำกัดเรื่องความเร็ว ถ้าได้คนที่มีฝีมือดีมาช่วยเหลือ ต้องสำเร็จแบบทุ่นแรงได้มากแน่นอน”“อีกอย่าง อาจารย์ของข้าน้อยจัดเป็นขั้วอิทธิพลยุทธภพ ยึดมั่นกับการประดิษฐ์คิด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 815

    “นั่นสิ จุดยืนของฟานเอ๋อร์ในเวลานี้ไม่สู้ดีนัก ข้าก็สนับสนุนเขาโจ่งแจ้งไม่ได้ ไม่รู้ว่าต่อจากนี้เขาจะต้องเจอกับอะไรสิน่า?”ไท่ซั่งหวงพูดอย่างกังวลเล็กน้อย “หวังว่าในตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่จะได้เห็นภาพต้าเฉียนสงบสุขร่มเย็น รุ่งเรืองแข็งแกร่ง ถึงตอนนั้นข้าก็วางใจหลับตาได้แล้ว!”......หลังจากสะสางงานเสร็จ หวังอันสือและคนอื่น ๆ ก็ถูกฉินอวิ๋นฟานเชิญที่ไปจวนรัชทายาท ทั้งเชิญหมอหลวงมาตรวจอาการรักษาพวกเขาโดยเฉพาะ“รัชทายาท ขอบคุณท่านอีกครั้งที่ช่วยเซียงหลิง...”หลู่หนีเพิ่งตามฉินอวิ๋นฟานเข้าห้องหนังสือมาก็อ้าปากพูดในฐานะที่เป็นคนซึ่งปราศจากตำแหน่งพิเศษ การต่อต้านหน่วยงานใหญ่อย่างสำนักศึกษาหลวงคือการรนหาที่ตายอย่างมิต้องสงสัย ฉินอวิ๋นฟานปรากฏตัวทันเวลา ทั้งยังทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยบุตรสาว นี่ทำให้หลู่หนีทราบซึ้งใจยิ่งนักในอดีต เขาถูกการประดิษฐ์ของฉินอวิ๋นฟานสยบ ดังนั้นจึงเข้าร่วมกับฉินอวิ๋นฟาน กระนั้นเขาไม่อยากให้บุตรสาวกลายเป็นผู้หญิงของอีกฝ่าย ทว่าความจริงได้พิสูจน์แล้ว ฉินอวิ๋นฟานคือคนที่ควรค่าแก่การฝากฝังเพิ่งจัดการขุนนางทุจริตที่ปกป้องพวกพ้องเดียวกันฝูงหนึ่งเสร็จ ฉินอวิ๋นฟานยังต

DMCA.com Protection Status