แชร์

บทที่ 8

ผู้แต่ง: เมิ่งซานเชียน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เฮ่อชินอ๋องฉินอ้าว? เสด็จอาของข้าหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานต้องมีความทรงจำเกี่ยวกับคนผู้นี้อยู่แล้ว เขาคืออนุชาลำดับที่สิบสามของอดีตฮ่องเต้ คือผู้ที่ทำตัวไม่โดดเด่นที่สุด แทบจะไม่ยุ่งงานราชกิจเลย ขณะอดีตฮ่องเต้ชิงบัลลังก์ เขาคือผู้พิทักษ์ที่ภักดีที่สุดของอดีตฮ่องเต้

หลังจากอดีตฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ เขาถอยไปอยู่เบื้องหลัง ใช้ชีวิตปลดเกษียณ

“ถ้าข้าจำไม่ผิด ยี่สิบปีก่อนถังเจิ้นไห่น่าจะเป็นรองแม่ทัพคนหนึ่งในกระโจมของเฮ่อชินอ๋อง ถ้าบอกว่าระหว่างพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ข้าไม่เชื่อหรอก”

อู่จ้านกล่าวอย่างหนักแน่น

“อื่ม! เป็นข้า ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน!”

คงเพราะการจัดระเบียบขั้วอิทธิพลในเวลานี้ หัวของฉินอวิ๋นฟานจึงแทบจะระเบิด ทางแจ้งมีสองใหญ่ ทางลับยังมีผู้แข็งแกร่งน่ากลัวอีกคนหนึ่ง

ฉินอวิ๋นฟานถาม “แล้วพวกเราเล่า?”

“หือ...พวกเรา?”

อู่จ้านส่ายหน้าด้วยความจนใจ เอ่ย “พวกเราไม่มีอะไรเลย ไร้รากฐาน ไร้ความสามารถ ได้แต่พึ่งพาตัวเองแล้ว”

“แย่ แย่เช่นนี้เชียวหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานมุมปากกระตุก นี่มันจะทุเรศไปแล้วมั้ง? เป็นถึงรัชทายาทในรัชกาลปัจจุบัน แต่ไม่มีคนสนับสนุนเลยเนี่ยนะ?

“ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า?”

อู่จ้านกล่าวอย่างจนปัญญา “ก่อนที่อดีตฮ่องเต้จะชิงบัลลังก์เคยทำการแลกเปลี่ยนกับต้าเหลียง ต้าเหลียงจะส่งทหารมาช่วยเสด็จพ่อของท่าน ถ้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้วจะต้องแต่งตั้งมารดาของท่านเป็นฮองเฮา และแต่งตั้งท่านเป็นรัชทายาท มิเช่นนั้นด้วยสภาพการณ์ของท่านในตอนนี้จะถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาทได้ยังไง?”

ฉินอวิ๋นฟานทำหน้าจนใจ สถานการณ์ลำบากกว่าที่คิดมาก

“ฉิบหาย เปิดเกมมาก็เป็นโหมดนรกแล้วเหรอะ!”

ฉินอวิ๋นฟานสีหน้าปั้นยาก หน้าดำคร่ำเครียดถาม “ในราชสำนักมีคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือไม่?”

“ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด...ก็มีอยู่คนหนึ่งเหมือนกัน ไท่เว่ย[footnoteRef:1]ระดับหนึ่งชั้นเอก หนึ่งในซันกง[footnoteRef:2] เขาไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องศึกระหว่างองค์ชายเลย อ้างป่วยอยู่บ้านครึ่งปีกว่าแล้ว” [1: เทียบกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดหรือสมุหกลาโหมในปัจจุบัน] [2: ขุนนางตำแหน่งสูงสุดในราชสำนักซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย]

อู่จ้านส่ายหน้าเอ่ย “ท่านคิดจะดึงเขามาเป็นพวกหรือ มันไม่มีความหวังหรอก เลิกคิดให้เร็วเถิด!”

“เช่นนั้นหรือ? ทำไมเล่า?”

“เขาแหนงหน่ายศึกในราชสำนักมานานแล้ว อีกอย่าง เขาปฏิเสธพวกองค์ชายใหญ่ องค์ชายรองอย่างชัดเจน แทบจะไม่มีท่าทีว่าจะหวนคืนสักนิด ท่านคิดว่าท่านมีคุณสมบัติ มีข้อได้เปรียบอะไรให้เขากลับราชสำนัก อยู่ฝ่ายของท่านได้เล่า?”

“แล้วเขาไม่มีจุดอ่อนอะไรเลยหรือ?”

“มี จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวก็คือลูกสาวของเขา ลูกสาวแทบจะเป็นชีวิตของเขา”

“อ้อ? นี่ยังไม่ง่ายหรือ!”

ฉินอวิ๋นฟานกระหยิ่มใจยิ้มพูด

“เอ่อ รัชทายาท จะวางแผนกับลูกสาวไท่เว่ยไม่ได้นะขอรับ ไม่อย่างนั้นเขาอาจเอาชีวิตท่านได้”

อู่จ้านเห็นท่าทีจะเอาให้ได้ของฉินอวิ๋นฟาน บ่งบอกว่าเขามีแผนการชัดเจน แต่เขาไม่รู้ว่าไท่เว่ยรักและปกป้องบุตรสาวอย่างไร ใครกล้าแตะต้องนาง เขาจะสู้ตายกับคนผู้นั้นแน่นอน

“เฮ้ย! โหดอย่างนั้นเลยหรือ?”

ฉินอวิ๋นฟานกระตุกเล็กน้อย ตาแก่นี่กล้าหาญอย่างนี้เลย? เพื่อลูกสาวสละได้แม้แต่ชีวิต? นี่ชักจะยุ่งแล้วสิ...ดีไม่ดีจะเสียหลักได้

“ให้ตายเถอะ สงสัยพวกเราจะมาถึงขั้นจนตรอกแล้วสิ”

ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยใจร้อนรุ่ม

“แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นเสียทีเดียวขอรับ”

ราวกับอู่จ้านคิดอะไรขึ้นมาได้ “ข้าเคยเป็นหัวหน้าค่ายทานหลางมาก่อน พี่น้องที่นั่นไม่เลวทีเดียว ตั้งแต่ข้าถูกย้าย พี่น้องข้าก็ขึ้นเป็นหัวหน้าค่ายแทน เวลานี้ถูกองค์ชายใหญ่ทำจนไม่เป็นท่า ถ้าข้าไปเจรจาดี ๆ สักหน่อย พวกเขาอาจเข้าพวกกับรัชทายาทก็ได้”

“อ้อ?”

ฉินอวิ๋นฟานดวงตาเป็นประกาย “ไม่ต้องหรอก ข้าจะไปโน้มน้าวพวกเขาด้วยตัวเอง!”

“แต่ภารกิจสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการรับมือกับการประลองในสามวันให้หลัง ข้าต้องชนะการประลองรอบนี้และแต่งงานกับฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวจึงจะดี ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่ว่ามาก็คือเสียเปล่า!

ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยถาม “ท่านรู้จักช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดในต้าเฉียนว่าเป็นใครหรือไม่?”

“ช่างตีเหล็กหรือ? ตอนนี้เป็นช่วงสงคราม ช่างตีเหล็กจึงเป็นอาชีพที่มีอยู่น้อยมาก พวกที่ขึ้นชื่อหน่อยจะถูกขั้วอิทธิพลใหญ่ดึงเข้าพวกไปหมด ช่างตีเหล็กดี ๆ ไม่ตกมาถึงพวกเราหรอก”

อู่จ้านส่ายหน้าพูด “แต่ข้ากลับรู้จักคนหนึ่งที่ฝีมือดีมาก เชี่ยวชาญงานไม้กับการทำเครื่องสำริดจำนวนหนึ่ง แถมยังมีอาจารย์ดีอีก เป็นหนึ่งในสิบศิษย์เด่นล้ำของหลู่กง”

“แต่คนผู้นี้ยโสดื้อรั้น ขนาดพวกองค์ชายใหญ่ไปเชื้อเชิญให้เขาเข้าร่วมด้วยไมตรีเองยังถูกปฏิเสธหมด ไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติใคร ถ้าท่านสนใจข้าจะพาท่านไปลองดูก็ได้”

“หลู่กง? ใช่คนที่ชื่อว่ากงซูปันหรือเรียกว่าหลู่ปัน[footnoteRef:3]ไหม?” [3: ช่างฝีมือสมัยจั้งกว๋อ]

ฉินอวิ๋นฟานถามด้วยความฉงนเล็กน้อย

ในความทรงจำของเขา คนที่สามารถทำของพวกนี้ มีชื่อเสียงมากและแซ่หลู่มีแค่หลู่ปันเท่านั้น เป็นตัวตนที่ระดับตำนานในสมัยโบราณเลยทีเดียว

“เอ่อ ถูกต้อง ท่าน ท่านรู้จักคนผู้นี้หรือ?”

อู่จ้านอึ้งเหมือนกัน หลู่กงมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วแผ่นดิน แต่คนที่รู้จักชื่อจริงของเขามีไม่มาก อีกทั้งรัชทายาทอยู่ในวัง น่าจะไม่รู้เรื่องราวภายนอกจึงจะถูก

“เคยได้ยินมานิดหน่อยน่ะ!”

ฉินอวิ๋นฟานตกตะลึงสุดขีด คิดไม่ถึงว่าหลู่ปันในโลกคู่ขนานนี้จะเหมือนกับหลู่ปันในประวัติศาสตร์เกือบหมด ฝีมือประณีตเยี่ยมยอด ชวนให้คนถอดถอนใจเมื่อพบเห็น

“ได้เวลาแล้ว อาจ้าน พวกท่านไปเจอคนผู้นี้กับข้าหน่อยเถอะ”

ฉินอวิ๋นฟานมุ่งหน้าออกจากวังพร้อมอู่จ้านและเฉินม่อ!

หน้าประตูร้านแกะสลักเจี้ยงซิน ชายคนหนึ่งเล่นของเล่นอยู่ในมือผ่อนคลายสบายใจ ติดพันไม่อยากวาง อู่จ้านเดินเข้าไปคำนับและทักทายขึ้นว่า “ท่านหลู่หนี ไม่ทราบว่าพอมีเวลาหรือไม่?”

ชายผู้มีนามว่าหลู่หนีชายตามองมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบอย่างไม่แยแส “มีอะไร? ไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังยุ่ง?”

“เอ่อ...”

อู่จ้านรู้สึกพูดไม่ออกทันที มองฉินอวิ๋นฟานด้วยสีหน้าอีหลักอีเหลื่อ

ฉินอวิ๋นฟานโบกมือเป็นการบอกให้เขาออกไปก่อน เห็นเพียงเขาเดินขึ้นหน้าสองก้าว ยกมือแล้วตบผัวะเข้าให้!

ซี้ด...

เสียงดังชัดแจ๋วแว๋ว แถมยังออกแรงเต็มกำลัง ตบหลู่หนีหงายหลังนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นไปเลย

หลู่หนีเดือดดาลเดี๋ยวนั้น เป่าหนวดถลึงตาตะคอก “เจ้ามารดามันเป็นใครถ้ากล้าตบคนไปเรื่อยอย่างนี้? อยากตายหรือ?”

“รัชทายาทต้าเฉียนผู้ว่าราชการแผ่นดินฉินอวิ๋นฟาน!”

ฉินอวิ๋นฟานเผยชื่อเสียงเรียงนามของตัวเองออกมาโดยตรง

“รัชทายาทโง่งมของต้าเฉียนนั่นน่ะนะ?”

หลู่หนีทำหน้าทึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยความฉุนเฉียว “เป็นรัชทายาทแล้วยังไง? เป็นรัชทายาทก็ตบคนตามอำเภอใจต่อหน้าสาธารณชนได้หรือ? ยังมีกฎหมายอยู่ไหม?”

อู่จ้านอยู่ข้าง ๆ อึ้งไปเลย หลู่หนีคือศิษย์ของคนมีชื่อเสียงนะ แถมยังโด่งดังระดับหนึ่งในต้าเฉียนด้วย นี่รัชทายาทมอบฝ่ามือให้เขาเลยหรือ?

นี่จะมาไม้ไหนเนี่ย?

“ที่ข้าตบเจ้าก็เพราะเจ้าสมควรโดนแล้ว ท่านกงซูปันมีลูกศิษย์อย่างเจ้าได้ ข้าล่ะเสียใจแทนเขาจริง ๆ!”

ครั้นฉินอวิ๋นฟานกล่าวออกมาก็ทำเอาหลู่หนีงงงวยไปเลย นี่เขาทำอะไรผิดหรือ ทำไมต้องยกอาจารย์ของเขาออกมาอ้างด้วย? เขาไม่เข้าใจเลยว่ารัชทายาทตรงหน้าจะมาไม้ไหนกันแน่

“ข้า ข้า ข้าทำไม?”

หลู่หนีชักหวั่น ๆ อย่างไม่มีเหตุผล ถามด้วยหน้าฉงน

“อาจารย์ของเจ้าตรากตรำตั้งใจศึกษา พัฒนางานฝีมือและทักษะการหลอมเครื่องสำริดไม่หยุดหย่อน สร้างความอัศจรรย์ให้กับคนรุ่นหลัง เป็นผู้ที่เป็นดั่งเทพนิยายในใจคน”

ฉินอวิ๋นฟานตวาด “แล้วเจ้าล่ะ? วัน ๆ เอาแต่อ้างชื่อของท่านกงซูหากินรอวันตาย ย่ำอยู่กับที่ ไม่คิดก้าวหน้า แล้วยังทำเป็นเก่งทั้งวัน เจ้าคิดว่าเจ้าสมควรโดนตบหรือไม่?”

“ข้า ข้าเป็นเช่นนั้นหรือ?”

หลังจากตวาดตำหนิไปคำรบหนึ่ง หลู่หนีมึนอย่างสมบูรณ์ หากเทียบกับผลงานของอาจารย์ เขารู้สึกว่าตัวเองสู้ไม่ได้จริง ฝีมือทั้งหมดล้วนเป็นมาจากพื้นฐานของอาจารย์

ย่ำอยู่กับที่...หากินรอวันตาย...ข้าเป็นเช่นนั้นหรือ?

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 9

    “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดอาจารย์ของเจ้าจึงตั้งชื่อนี้ให้?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“หือ? ชื่อก็เป็นแค่สิ่งเรียกแทนไม่ใช่หรือ? ข้าติดตามอาจารย์สามสิบกว่าปี ไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงมาก่อน หรือว่าเจ้าจะรู้เหตุผลของชื่อ?”หลู่หนีถามอย่างไม่เข้าใจในฐานะที่เป็นหนึ่งในสิบศิษย์เด่นล้ำของหลู่กง หลู่หนีย่อมมีคุณสมบัติสามารถผยองได้ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวหรือว่าชื่อเสียงของอาจารย์ มันทำให้เขาเดินเบ่งในแคว้นใหญ่ ๆ ได้แบบไม่เป็นปัญหาแต่เขาย่อมไม่กล้าโอหังกับเรื่องที่เกี่ยวกับอาจารย์“หนีก็คือดิน บ่งบอกว่าหลู่กงคาดหวังกับเจ้ามาก หวังว่าต่อไปเจ้าจะยืนได้อย่างมั่นคง พยายามสร้างสรรค์ แล้วเจ้าเล่า?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยเสียงหนัก “งานฝีมือ เครื่องสำริดและกระบี่พกมากมายเหล่านี้ มีชิ้นไหนบ้างที่ไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากอาจารย์เจ้า? มีชิ้นไหนบ้างที่เจ้าประดิษฐ์ขึ้นเอง? มีหรือไม่?”ถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานทำเอาหลู่หนีใบ้รับประทาน งานฝีมืออันประณีตคือคุณสมบัติที่เขาภูมิใจ ทว่าถ้อยคำของฉินอวิ๋นฟานแทงใจดำเขาโดยตรงหลู่หนีมองการจัดวางในร้าน ดวงตาหมองไปอย่างไม่มีสาเหตุเฉินม่อกับอู่จ้านเห็นดังนั้นตกตะลึงถึงที่สุด รัชท

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 10

    “รัชทายาท นี่ก็คือหน้าไม้ที่ให้ข้าทำหรือ? เสียเวลาข้าจริง ๆ เลย!”ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหลู่หนีก็เดินออกมาจากห้องทำงานแล้ว ในมือถือหน้าไม้ประณีตที่เพิ่งทำเสร็จ เขามองดูรอบ ๆ ไม่เห็นว่าเจ้าของสิ่งนี้จะมีความวิเศษวิโสอันใด“งั้น ๆ หรือ? ลองดูก็รู้แล้วนี่? เห็นป้ายภัตตาคารต้าเฉียนประมาณสองร้อยเมตรนั่นหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานชี้ไปที่ป้ายร้านไกล ๆ พลางยิ้มพูดราบเรียบเขารับหน้าไม้มา วางลูกศรที่พกติดตัวมาแต่แรกไว้ตรงแล่ง มันแนบสนิทกับร่อง ต้องยอมรับแล้วว่าฝีมือของหลู่หนีละเอียดมากจริง ๆ“รัชทายาท นี่ นี่จะยิงป้ายร้านนั่นหรือ?”เฉินม่อถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ”ฉินอวิ๋นฟานยกยิ้มตรงมุมปาก สีหน้ามั่นใจ ในความทรงจำเดิม การยิงธนูในสมัยโบราณปกติแล้วจะยิงได้ในระยะประมาณร้อยยี่สิบเมตร ถ้าเป็นธนูชั้นดีและเป็นผู้ที่มีกำลังมาก จะยิงได้ประมาณร้อยเจ็ดสิบแปดสิบเมตรแต่ธนูมีจุดอ่อนที่แย่มากอย่างหนึ่ง ยิ่งระยะทางไกล พลังการโจมตีก็จะยิ่งลดลง ดังนั้นระยะสองร้อยเมตรอยู่เหนือระยะการโจมตีสูงสุดแล้ว“รัชทายาทจะวู่วามไม่ได้นะขอรับ เวลานี้เป็นช่วงที่คนพลุกพล่านที่สุด ภัตตาคารต้าเฉียนไกลเกิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 11

    “หานซิ่น? น่าสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแฮะ!”ฉินอวิ๋นฟานยกมุมปากเล็กน้อย แสดงสีหน้าเหนือคาด หานซิ่นในโลกคู่ขนานกับหานซิ่นในประวัติศาสตร์คล้ายกันจนน่าทึ่ง แต่ไม่รู้ว่าหานซิ่นคนนี้จะต่างกับเทพนักรบหานซิ่นในประวัติศาสตร์มากหรือไม่แต่ในสมัยที่เกียรติสำคัญกว่าชีวิต คนที่รับความอัปยศใต้หว่างขาได้คงมีอยู่แค่คนเดียวแล้ว“เสี่ยวฟาน เจ้าสนใจคนผู้นี้หรือ?”อู่จ้านถามอย่างประหลาดใจเล็กน้อย“ยังไง ท่านรู้จักคนที่ชื่อหานซิ่นหรือ?”ฉินอวิ๋นฟานถาม“หานซิ่นผู้นี้ยากจนข้นแค้น เจอกับอุปสรรคทั้งชีวิต แต่เขามีจุดเด่นที่สุดคือชอบตำราทหาร เขาอดข้าวสามวันเพื่อเอาเงินมาซื้อตำราทหารได้ แล้วยังถึงขั้นว่าคลั่งไคล้เอามาก ๆ ด้วย”อู่จ้านกล่าวทันที “เพราะอย่างนี้คนผู้นี้จึงมีนิสัยอ่อนเปียก ทั้งยังรักการอ่านตำราทหาร ดังนั้นทุกคนจึงชอบรังแกเขา แต่เขามักยิ้มน้อย ๆ ตอบเสมอ วันนี้ที่ถูกคนขายเนื้อหาเรื่องก็คงเพราะผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ นั่นแหละ”“ไม่เลว ข้าชอบเขา!”ไม่ว่าจะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือไม่ ฉินอวิ๋นฟานประทับใจต่อหานซิ่นมากด้วยความรู้สึก หานซิ่นในสมัยโบราณคือเทพนักรบแห่งยุคที่ฝังลึกอยู่ในใจคน แต่ที่น่า

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 12

    คำพูดเดียวของฉินอวิ๋นฟานราวกับมีสายฟ้าฟาดผ่ากลางมวลชน!หลัวเหิงมองฉินอวิ๋นฟานด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เห็นเขาไม่เหมือนล้อเล่นจึงเอ่ยปากถาม “ค่ายทานหลางมีทหารทั้งหมดสามพันคน เบี้ยหวัดครึ่งปีไม่ใช่น้อย ๆ นะ”“ถึงท่านจะเป็นรัชทายาทก็คงไม่มีอำนาจก้าวก่ายกรมคลังให้จ่ายเบี้ยหวัดกระมัง? เพราะกรมคลังอยู่ในการดูแลขององค์ชายใหญ่กับองค์ชายรอง”“ไป ตามข้าเข้าวัง รับเบี้ยหวัด!”ฉินอวิ๋นฟานไม่พูดไร้สาระอีก ถ้าอยากดึงค่ายทานหลางเข้าพวกจะต้องแก้ไขปัญหาปากท้องของพวกเขาก่อน สำหรับเรื่องอื่น คงได้แต่รอให้จบเรื่องนี้แล้วค่อยว่ากัน“เอ่อ...”หลัวเหิงตะลึงงัน มองอู่จ้านแบบประหลาดใจเล็ก ๆ เพราะอู่จ้านไม่เพียงแต่เคยเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของเขา ยังเป็นคนที่เขาเชื่อที่สุดด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอดีตหัวหน้าของเขา“ไป ไปเอาเบี้ยหวัด!”อู่จ้านตบบ่าของหลัวเหิง ทั้งสองตามไปเดี๋ยวนั้น!ไม่น่าพวกเขาก็มาถึงกรมคลัง สถานที่ดูเรื่องเงินของต้าเฉียน“เอ๋ นี่ไม่ใช่รัชทายาทฉินอวิ๋นฟานของต้าเฉียนเราหรือ? ลมอะไรหอบท่านมาได้เนี่ย?”พอเห็นพวกฉินอวิ๋นฟานมา ชายอ้วนตุ๊ต๊ะอายุสามสิบกว่าและมีไฝอยู่เหนือปากก็รีบมาต้อนรับ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 13

    “ยังไม่รีบขอบคุณรัชทายาทอีก!”อู่จ้านเห็นหลัวเหิงยังอึ้งอยู่จึงรีบเตือน“ขอบคุณพระคุณยิ่งใหญ่ของรัชทายาทมากขอรับ ข้าน้อยหลัวเหิงตัวแทนค่ายทานหลาง ขอสวามิภักดิ์แด่รัชทายาท จะจงรักภักดีจนตัวตาย!”ครั้นหลัวเหิงได้สติกลับคืนมาก็คุกเข่าลงทันที คำนับฉินอวิ๋นฟานแรง ๆ!ฉินอวิ๋นฟานประคองหลัวเหิงขึ้นมาและบอกว่า “คนที่ติดตามข้า ต่อไปก็คือพี่น้องบ้านเดียวกัน ขอเพียงข้าฉินอวิ๋นฟานยังมีหนึ่งเฮือกลมหายใจจะต้องไม่ให้เหล่าพี่น้องได้รับความอยุติธรรม ใครรังแกพวกเจ้าก็คือเป็นศัตรูกับข้าฉินอวิ๋นฟาน ข้าจะให้มันชดใช้อย่างแสนสาหัส”หลัวเหิงในเวลานี้ถูกมนต์เสน่ห์ของฉินอวิ๋นฟานสยบโดยสิ้นเชิงแล้ว เวลานี้เขาเข้าใจสักที นานหลายปีอย่างนี้แล้วทำไมอู่จ้านยังคงจงรักภักดีต่อรัชทายาทรัชทายาทเช่นนี้ คู่ควรให้เหล่าพี่น้องทุ่มเทเพื่อเขา!“หานซิ่นเป็นทหารอัจฉริยะที่ข้ารับมาใหม่ ตอนนี้ข้าจะให้เขาเป็นกุนซือ พวกเจ้าร่วมมือกันดี ๆ พยายามทำให้ค่ายทานหลางแข็งแกร่ง เตรียมตัวทำงานใหญ่”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“น้อมรับคำสั่งรัชทายาท!”ตอนนี้หลัวเหิงเลื่อมใสฉินอวิ๋นฟานชนิดหมอบราบคาบแก้วแล้ว ย่อมทำตามคำสั่งเขาทุกอย่าง!“รัชทายาท..

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 14

    “ฉินอวิ๋นฟาน เจ้า เจ้าปล่อยข้านะ!”เห็นฉินอวิ๋นฟานใช้อำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้แล้ว มู่หรงจิ่นก็ลนลาน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบุรุษที่แผ่ออกมาจากตัวเขา มู่หรงจิ่นค่อนข้างขี้อาย ร่างกายอ่อนเปียกอยู่ในอ้อมอกของฉินอวิ๋นฟานแบบไม่รู้ตัว“ปล่อยเจ้าหรือ? เจ้าเห็นข้ายังเป็นไอ้โง่คนเมื่อก่อนที่เจ้าพูดอะไรก็ต้องเชื่อฟังหรือยังไง?”ฉินอวิ๋นฟานไม่สนใจ หันไปมองเสี่ยวจวี๋ที่ยังอึ้งอยู่ข้าง ๆ “ยังยืนทื่อทำอะไรอีก? รีบกลับตำหนักนอนสิ ข้าต้องการสนุกด้วยกัน!”ถึงเสี่ยวจวี๋จะไม่โดดเด่นเท่ามู่หรงจิ่น แต่ก็เป็นดรุณีวัยแรกแย้ม ผอมเพรียวสะโอดสะอง หน้าตาคมสัน เนื่องจากนางเกิดมาก็มีชะตาต้องรับใช้นาย แต่เล็กจนโตถูกกรอกความคิดที่ต้องทำตามเท่านั้นต่อหน้าฉินอวิ๋นฟาน ไม่ว่านางจะน้อยเนื้อต่ำใจอย่างไรก็ได้แต่อดทน เพราะผู้ชายตรงหน้าคือรัชทายาทผู้อยู่ใต้หนึ่งคนเหนือหมื่นคน แถมยังเป็นไปได้มากว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ลำดับต่อไปของต้าเฉียน นางที่เป็นสาวใช้เช่นนี้ได้แต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น“หา อ้อ!”เสี่ยวจวี๋ตระหนักได้แล้วว่าถัดจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ในฐานะที่เป็นสาวใช้ นางไม่มีสิทธิ์เลือก รัชทายาทแข็งกร้าว นางได้แต่ยอมปรนนิบัต

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 15

    นัดหมายสามวันพริบตาเดียวก็มาถึง เรื่องเกี่ยวพันถึงตัวเลือกผู้จะได้เป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของต้าเฉียน และคล้ายเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิตของทุกคน บรรดาขุนนางใหญ่ทั้งหมดในต้าเฉียนมาชุมนุมกันอยู่ที่ตำหนักว่านฉงแต่เช้าแล้วไท่เว่ยจางเต้าหลินที่พักครึ่งปีเต็ม ๆ ก็ปรากฏตัวอยู่ในราชสำนักแบบมหัศจรรย์ด้วย แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของประลองคราวนี้ในใจทุกคนเมื่อฉินอวิ๋นฟานย่างเท้าเข้าตำหนักใหญ่ก็ถูกภาพเบื้องหน้าทำให้ตกตะลึงพรึงเพริด เสายักษ์สูงชะลูดแปดต้นอลังการอย่างยิ่ง บนนั้นแกะสลักมังกรสีทองคำตัวมหึมาที่ราวกับมีชีวิตแปดตัว สง่างามน่าเกรงขาม ให้คนรู้สึกเหมือนมีความกดดันจากทวยเทพอย่างยิ่งตำหนักใหญ่มาก บรรจุได้สามร้อยกว่าคน ภาพแกะสลักวิจิตรทองอร่ามอยู่ถ้วนทั่ว หรูหราปานวิมานเซียน!ครั้นดึงสติกลับมา ฉินอวิ๋นฟานกวาดสายตามองรอบหนึ่ง ตรงกลางตำหนักใหญ่มีขุนนางใหญ่สำคัญยืนอยู่สองฟากฝั่งร้อยกว่าคน เช่นเดียวกัน ทุกสายตาต่างจับจดอยู่ที่ตัวของเขาด้วย“อ้าว นี่น้องเจ็ดไม่ใช่หรือ? หลายปีขนาดนี้ ในที่สุดเจ้าก็หวนคืนราชสำนักเป็นปกติสักที ไม่รู้ว่าวันนี้เจ้าจะนำการแสดงตลกอะไรมาให้พวกเราสิน่า? ชวนให้คนอยากรู้จริง ๆ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 16

    เห็นเพียงสตรีนางหนึ่งในชุดกระโปรงผ้าไหมสีแดงสดสะดุดตา คอเสื้อต่ำมาก หน้าอกอวบอั๋นอุดมสมบูรณ์โดดเด่นที่สุด เนื่องจากสวมเครื่องประดับเงินอยู่ตรงคอหลายเส้น จึงทำให้ร่องลึกวับ ๆ แวม ๆ ชวนให้คนมองจนหลงใหลนางสวมผ้าปิดหน้าสีขาวผืนบาง คิ้วโก่งดังใบหลิว ดวงตาที่มีเสน่ห์ยิ่งกว่าดอกท้อล่อลวงหัวใจคนอย่างยิ่ง ผิวพรรณขาวสะอาดเนียนนุ่มปานหิมะ แบ่งผมดำเกล้าสูงทรงหญิงงาม สวมกวานหงส์และผ้าคลุมไหล่ โดดเด่นชวนมอง งามวิไลพาลให้ใจคนหวั่นเหมือนเซียนบนสรวงสวรรค์ลงมาจุติ!ตลอดทางที่ผ่าน กลิ่นหอมขจรขจาย สายตาเฒ่าหัวงูมิอาจเคลื่อนออกจากร่างฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวได้เลย บางคนยังถึงขึ้นน้ำลายไหลแบบไม่รู้ตัว“สุดยอดดังคาด!”ทันทีที่ฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวปรากฏ ฉินอวิ๋นฟานก็ถูกบรรยากาศน่าทึ่งรอบตัว รูปร่างสมบูรณ์แบบและการแต่งหน้าประณีตของนางดึงดูดอย่างหนักเหมือนกัน เป็นตัวตนที่ไม่ว่าจะอยู่งานไหนก็งามหยาดเยิ้มสะกดข่มมวลชนหากเทียบกับความงามของมู่หรงจิ่น ความงามของฮ่องเต้หญิงแคว้นเหมียวกลับพกพาความเย็นชา หยิ่งและอำนาจมาด้วย มีความเป็นผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์ยั่วยวนแผ่ออกมาจากตัว คุณลักษณะสมบูรณ์แบบเช่นนี้รวมอยู่ในตัวฮ่อ

บทล่าสุด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 823

    “ฮ่า ๆ ๆ...มา ชนแก้ว!”ภายใต้แสงขมุกขมัว ทั้งสี่จรดสุราหมดจอก ฉินอวิ๋นฟานที่หิวไส่กิ่วสวาปามราวกับพายุ ไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็กวาดอาหารโอชาบนโต๊ะไปกว่าครึ่งเวลานี้มู่หรงจิ่น หลู่เซียงหลิงและเสี่ยวจวี๋ก็ดื่มจนแก้มแดงก่ำแล้ว งดงามอ้อนแอ้นจนอยากจะเด็ดมาดอมดม พวกนางกระดากใจยิ่งหนัก หลังจากอิ่มเอมกับสุราอาหารแล้ว ฉินอวิ๋นฟานก็ไม่สะกดอารมณ์พลุ่งพล่านอีกต่อไป โอบสองดรุณีไปยังเตียงทันที“สุดที่รักของข้า ข้าคิดถึงพวกเจ้าจะตายอยู่แล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย กระโจนใส่พวกนางโดยตรง สองดรุณีราวกับกระต่ายน้อยตื่นตกใจ ส่งเสียงร้อง “อ๊ะ” ออกมาทีหนึ่งจึงรีบมุดเข้าไปอยู่ด้านในของเตียง ยิ่งพวกนางเป็นเช่นนี้ ฉินอวิ๋นฟานก็ยิ่งคึก“แหะ ๆ ร้องใช่ไหม คืนนี้จะให้พวกเจ้าร้องไห้เสียงแหบเสียงแห้งไปเลย!”ฉินอวิ๋นฟานเลียริมฝีปาก ความปรารถนาปะทุขึ้นโดยสิ้นเชิง เบื้องล่างท้องน้อยเร่าร้อนยากจะทานทนนานแล้ว ‘แควก’ ทีหนึ่ง เครื่องนุ่งห่มบนตัวฉีกขาด เผยกล้ามเนื้อแข็งแรงทั่วร่าง กลิ่นอายบุรุษเข้มข้นทำให้ลมหายใจของสามดรุณีกระชั้น กระนั้นกลับมิอาจสะกด ฉินอวิ๋นฟานเสือตะครุบอีกหน คว้าเท้าเล็กของหลู่เซียงหลิงเอาไว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 822

    ฉินอวิ๋นฟานตบบ่าหวังอันสือเบา ๆ แล้วกล่าวคำพูดจากใจ “ขุนนางในอนาคตของต้าเฉียนจะกระจ่างใสได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”“รัชทายาทโปรดวางใจ ข้าน้อยจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอนขอรับ!”หวังอันสือตื้นตันจนน้ำตานองหน้า ถ้อยคำสวยงามใดก็มิอาจบรรยายความรู้สึกในขณะนี้ของเขา ในที่สุดก็มีเวทีแสดงปณิธานซึ่งมีอยู่เต็มอกของเขาแล้ว ในโลกอันขุ่นมัวนี้ ในที่สุดเขาก็ได้แสดงฝีมือสักทีและสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกโชคดีคือ เขาได้พบกับป๋อเล่อ ผู้มีจุดมุ่งหมายและทิศทางปณิธานเดียวกับเขา มอบโอกาสพลิกชะตาให้กับเขาครั้งหนึ่งเมื่อได้รับคำตอบยืนยันของหวังอันสือ ฉินอวิ๋นฟานคลี่ยิ้มพึงพอใจ จึงออกไปจากห้องและตรงไปยังตำหนักรัชทายาท...“พี่อวิ๋นฟาน ท่านคงหิวแย่แล้วกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานเพิ่งกลับมาถึงตำหนักที่พัก จิ่นเอ๋อร์ก็รีบเดินมาต้อนรับ ส่วนเสี่ยวจวี๋และเซียงหลิงต่างประกบอยู่ทางซ้ายและทางขวาจู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็รู้สึกว่าตำหนักที่พักต่างออกไปจากปกติ ปกติจะมีนางกำนัลรับใช้อยู่ในจวนอย่างน้อยสี่คน ทว่าวันนี้กลับไม่มีแม้แต่คนเดียว ทั้งตำหนักมีเพียงผู้หญิงสามคนเท่านั้น คือจิ่นเอ๋อร์ เซียงหล

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 821

    “รัชทายาท ท่านจะหารือเรื่องใหญ่กับข้าน้อยหรือขอรับ?!”เห็นท่าทางจริงใจของฉินอวิ๋นฟาน หวังอันสือร่างสะท้านเล็กน้อย ฉินอวิ๋นฟานคือรัชทายาทผู้ว่าราชการแผ่นดินต้าเฉียนผู้สูงส่ง กลับมีเรื่องจะหารือกับเขา? มันมิควรเป็นคำสั่งหรือ?ฉินอวิ๋นฟานเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ทำให้หวังอันสือสงบใจไม่ได้อยู่นาน ท่าทางเข้าหาได้ง่ายของฉินอวิ๋นฟานกับรัชทายาทผู้แข็งกร้าวราวกับเทพสังหารสถิตร่างที่เขาเพิ่งพบเมื่อครู่ต่างกันโดยสิ้นเชิงฉินอวิ๋นฟานพูดเป็นการเป็นงาน “ถูกต้อง หากจะพูดกันจริง ๆ ก็คือข้ามีเรื่องจะขอร้องเจ้า!”“มี มีเรื่องขอร้องข้าน้อย?”หวังอันสือสับสนมากกว่าเดิม เขาเป็นแค่ขุนนางระดับหก อาจารย์ต่ำต้อยคนหนึ่ง ไม่ว่าคนใดในเมืองหลวงที่ถูกบีบตายได้ง่าย ๆ น่ากลัวว่าจะมีอิทธิพลและฐานะเหนือเขา ฉินอวิ๋นฟานจะมีเรื่องขอร้องเขาได้อย่างไร?“หวังอันสือ ข้าได้ตรวจสอบเรื่องเกี่ยวกับเจ้ามาคร่าว ๆ ทั้งหมดแล้ว เจ้าคือผู้มีความสามารถที่ข้าต้องการจริง”ฉินอวิ๋นฟานเข้าประเด็นทันที “เจ้าน่าจะรู้ดีว่าตอนนี้ต้าเฉียนเป็นยังไง ถึงภายนอกดูสงบ แต่ความจริงคือคลื่นใต้น้ำ บรรดาองค์ชายและขั้วอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังต่อสู้กันจน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 820

    หลู่หนีสีหน้าเคร่งขรึม แสดงท่าทีอีกครั้ง เขารู้ว่าฉินอวิ๋นฟานเป็นคนเด็ดขาดฉับไว ในเมื่อฉินอวิ๋นฟานมอบงานนี้เขาก็ต้องเชื่อใจเขาหมดหัวใจอยู่แล้วอีกทั้งเรื่องนี้ยังสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อฉินอวิ๋นฟาน เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก นั่นก็คือทำงานนี้ให้สำเร็จ สิ่งของเงินทองฉินอวิ๋นฟานทุ่มทุนมาก“เวลากระชั้นชิด พรุ่งนี้พวกท่านก็ออกเดินทางไปเมืองจัวเถอะ เรื่องนี้ต้องทำที่เมืองจัว หลิวเป้ยจะให้ความช่วยเหลือมอบความสะดวกทั้งหมดกับพวกท่านเอง ต้องการอะไรก็บอกได้เต็มที่ พวกท่านแค่ทุ่มเทกายใจทำงานก็พอ”ฉินอวิ๋นฟานกล่าวเสียงหนัก“เมีองจัว?”หลู่หนีลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ก็ดี เมืองจัวเป็นคนของรัชทายาทเกือบทั้งหมด พวกเราแค่ทุ่มเทกายใจกับการผลิตก็พอ เช่นนี้จะลดอุปสรรคลงด้วย”......หลังจากกำชับทุกเรื่องเสร็จก็ดึกมาแล้ว ฉินอวิ๋นฟานลากร่างอันอ่อนล้ามายังที่รักษาตัวของพวกหวังอันสือ หลังจากทำความเข้าใจ ฉินอวิ๋นฟานพบว่าหวังอันสือคนนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับหวังอันสือในสมัยซ่งเหนือบางส่วนดังนั้นฉินอวิ๋นฟานจึงรู้สึกเห็นใจขึ้นมาเพราะเวลานี้เขากำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการคน หากหวังอันสือเป็นเหมือนกับหวังอันสือในประวัต

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 819

    “ข้าเข้าใจความรู้สึกของพวกท่านในตอนนี้ดี”ฉินอวิ๋นฟานพูดด้วยท่าทางมั่นใจ “ความจริงไม่ว่าข้าจะอธิบายกับพวกท่านยังไงก็เข้าใจยากอยู่ดี เพราะนี่คือการปฏิรูปอุตสาหกรรมล้ำยุค ในอดีตทุกคนต่างเรียกมันว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก”หลู่หนีถามด้วยใบหน้างุนงง “ปฏิวัติอุตสาหกรรม? นั่นคือสิ่งใดหรือขอรับ?”“อื่ม! จะว่ายังไงดีล่ะ?”ฉินอวิ๋นฟานลูบคางพิจารณาครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “ข้าจะยกตัวอย่างง่าย ๆ ให้พวกท่านฟังก็แล้วกัน ในสังคมศักดินาที่ทำการเกษตรเป็นหลัก ในตอนที่ชาวบ้านรดน้ำ ส่วนมากแล้วจะใช้กำลังคนเป็นสำคัญ ไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพต่ำ หนำซ้ำยังต้องใช้แรงงานเยอะมาก”“ทว่านับจากท่านหลู่ปันคิดค้นกังหันน้ำและระหัดวิดน้ำขึ้นมาก็เพิ่มประสิทธิภาพในการรดน้ำสูงขึ้น ทั้งยังประหยัดแรงงานไปเยอะ นี่ก็คือการพัฒนาทักษะในการเพาะปลูก และสามารถเรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติทางเกษตรกรรม”“ดังนั้นเครื่องจักรนี้ของข้าซับซ้อนกว่าระหัดวิดน้ำมากกว่า แต่ปริมาณบรรจุขนส่งและแรงขับเคลื่อนของมันมีมากกว่ารถม้ามหาศาล ทำให้ประสิทธิภาพในการทำการค้าสูงขึ้น นี่ก็คือการปฏิวัติอย่างหนึ่งของการค้าและการเดินทาง ข้าเรียกมันว่าการปฏิวัติ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 818

    “ปืนใหญ่สนามอิตาลี? ชื่อช่างน่ามหัศจรรย์นัก!” หลู่หนีพูดด้วยใบหน้าสับสน!ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้อธิบายมาก เขามองไปทางหลู่หนีแล้วพูดขึ้นอีก “ช่างใหญ่หลู่หนี ท่านทำเจ้าเหล็กนี้เถอะ ต้องระวังให้มาก จะดูแคลนอานุภาพของมันไม่ได้”“อ้อ? นี่คือสิ่งใดหรือ?”หลู่หนีรับภาพที่ฉินอวิ๋นฟานส่งมา ภาพนี้ไม่ใหญ่ ในนั้นมีแต่วัตถุทรงกลม ข้างบนมีแหวนอันหนึ่ง หลู่หนีเห็นแล้วทำหน้าฉงน“เจ้าสิ่งนี้เรียกว่าระเบิดมือ เอาไว้ใช้ป้องกันตัวในยามคับขันจะดีที่สุด ตอนท่านทำต้องป้องกันความปลอดภัย หากไม่เข้าใจอะไรก็มาถามข้าทันที”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ย“ขอรับ! ข้าน้อยต้องตั้งใจทำแน่นอน!”ติดตามฉินอวิ๋นฟานมานานอย่างนี้ หลู่หนีรู้ดี หากฉินอวิ๋นฟานกำชับเช่นนี้ นั่นแสดงว่ามันต้องไม่ธรรมดา แม้มีขนาดเล็ก แต่จะมองข้ามไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่กล้าประมาทสักนิด!“เอาละ ตอนนี้เหลือเรื่องที่สำคัญที่สุดอีกหนึ่งเรื่อง จำเป็นต้องให้พวกท่านสามคนทำให้สำเร็จ!”จู่ ๆ ฉินอวิ๋นฟานก็ขึงขังขึ้นมา เขาหยิบภาพเจ็ดแปดภาพมากองอยู่ตรงหน้าทุกคน ฉินอวิ๋นฟานวาดภาพพวกนี้เสร็จตั้งแต่อยู่ที่เมืองอู่โจว และสิ่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในแผนการของเขาซึ่งมีค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 817

    “นายช่างใหญ่ทั้งสองเกรงใจแล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานรีบสองก้าวรวบเป็นหนึ่งไปข้างหน้า คว้ามือของพวกเขาเอาไว้ก่อนจะกล่าวอย่างไมตรีจิต “เป็นพี่น้องบ้านเดียวกัน ไยต้องยึดติดกับขนบธรรมเนียมพื้น ๆ พวกนี้ด้วย? รีบเชิญข้างในเถอะ!”ฉินอวิ๋นฟานมีไมตรีเช่นนี้ทำให้หลู่เซินและหลู่เหมี่ยวต่างตกใจอย่างไม่เคยประสบ ประทับใจอย่างยิ่ง ส่วนหลู่หนีที่อยู่ด้านข้างเห็นแล้วตาค้างไปเลย พลางตะลึงถอนใจในใจ ‘เจ้าหมอนี่ ไม่เห็นเหมือนเมื่อกี้นี้เลยนี่!’ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องหนังสือ หลังจากสนทนากันอย่างเรียบง่ายประมาณหนึ่งแล้ว การสนทนาของพวกเขาก็เข้าสู่ประเด็นหลัก และนี่ก็คือจุดประสงค์ที่ฉินอวิ๋นฟานเรียกหลู่หนีมาฉินอวิ๋นฟานกล่าวเสียงหนัก “ช่างใหญ่หลู่หนี ที่ข้าตามพวกท่านมาเพราะมีงานสำคัญมากงานหนึ่ง และเป็นภารกิจยากเย็นแสนเข็ญจะมอบให้พวกท่าน หวังว่าพวกท่านจะทำสำเร็จได้”“ภารกิจยากเย็นแสนเข็ญ?”เมื่อทั้งสามได้ยินก็พลันเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขึ้นมา ที่พวกเขามาก็เพื่อทำงาน สามารถมีภารกิจสำคัญได้ย่อมเป็นเรื่องดี!“หลังจากดัดแปลงหน้าไม้ของเราแล้ว รูปโฉมก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เอเคสี่สิบแปดพัฒนาอานุภาพได้น่ากลัวถึงขีดสุดแ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 816

    ฉินอวิ๋นฟานขมวดคิ้วถาม “ท่านก็รู้ ของที่พวกเราสร้างกันขึ้นมาล้วนเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำ ทันทีที่เล็ดลอดออกไปจะเป็นการโจมตีพวกเราถึงตาย ดังนั้นข้ายอมให้ช้าลงหน่อยก็ไม่กล้าให้คนที่ไม่คุ้นเคยสอดมือยุ่งเรื่องนี้”ฉินอวิ๋นฟานย่อมเชื่อถือหลู่หนีเต็มร้อยอยู่แล้ว เพราะพวกเขาร่วมมือกันหลายเดือนเต็ม ๆ อีกอย่างลูกสาวของหลู่หนีก็กลายเป็นภรรยาของเขาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่หลู่หนีจะหักหลังแต่คนนอกไม่เหมือนกัน ทันทีที่พวกเขาขโมยเทคโนโลยีหลักของเขาไป นั่นได้เดือดร้อนแล้ว เมื่อเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างเอเคสี่สิบแปดผลิตในบ้านเมืองอื่น เช่นนั้นโลกใบนี้จะบังเกิดกลียุคแล้ว “รัชทายาทวางใจได้ พวกเขาสองคนคือศิษย์พี่หกและศิษย์พี่เจ็ดของข้าน้อย พวกเราสามคนโตมาด้วยกันแต่เล็ก สนิทกันมาก เชื่อได้แน่นอน และฝีมือของพวกเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าข้าน้อยด้วย”หลู่หนีทุบอกรับประกัน “อันที่จริงที่อาจารย์ส่งพวกเขามาก็เป็นเพราะข้าน้อยเอ่ยปาก อย่างไรเสีย ลำพังข้าน้อยคนเดียวมีความจำกัดเรื่องความเร็ว ถ้าได้คนที่มีฝีมือดีมาช่วยเหลือ ต้องสำเร็จแบบทุ่นแรงได้มากแน่นอน”“อีกอย่าง อาจารย์ของข้าน้อยจัดเป็นขั้วอิทธิพลยุทธภพ ยึดมั่นกับการประดิษฐ์คิด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 815

    “นั่นสิ จุดยืนของฟานเอ๋อร์ในเวลานี้ไม่สู้ดีนัก ข้าก็สนับสนุนเขาโจ่งแจ้งไม่ได้ ไม่รู้ว่าต่อจากนี้เขาจะต้องเจอกับอะไรสิน่า?”ไท่ซั่งหวงพูดอย่างกังวลเล็กน้อย “หวังว่าในตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่จะได้เห็นภาพต้าเฉียนสงบสุขร่มเย็น รุ่งเรืองแข็งแกร่ง ถึงตอนนั้นข้าก็วางใจหลับตาได้แล้ว!”......หลังจากสะสางงานเสร็จ หวังอันสือและคนอื่น ๆ ก็ถูกฉินอวิ๋นฟานเชิญที่ไปจวนรัชทายาท ทั้งเชิญหมอหลวงมาตรวจอาการรักษาพวกเขาโดยเฉพาะ“รัชทายาท ขอบคุณท่านอีกครั้งที่ช่วยเซียงหลิง...”หลู่หนีเพิ่งตามฉินอวิ๋นฟานเข้าห้องหนังสือมาก็อ้าปากพูดในฐานะที่เป็นคนซึ่งปราศจากตำแหน่งพิเศษ การต่อต้านหน่วยงานใหญ่อย่างสำนักศึกษาหลวงคือการรนหาที่ตายอย่างมิต้องสงสัย ฉินอวิ๋นฟานปรากฏตัวทันเวลา ทั้งยังทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยบุตรสาว นี่ทำให้หลู่หนีทราบซึ้งใจยิ่งนักในอดีต เขาถูกการประดิษฐ์ของฉินอวิ๋นฟานสยบ ดังนั้นจึงเข้าร่วมกับฉินอวิ๋นฟาน กระนั้นเขาไม่อยากให้บุตรสาวกลายเป็นผู้หญิงของอีกฝ่าย ทว่าความจริงได้พิสูจน์แล้ว ฉินอวิ๋นฟานคือคนที่ควรค่าแก่การฝากฝังเพิ่งจัดการขุนนางทุจริตที่ปกป้องพวกพ้องเดียวกันฝูงหนึ่งเสร็จ ฉินอวิ๋นฟานยังต

DMCA.com Protection Status