แชร์

บทที่ 202

ผู้เขียน: เมิ่งซานเชียน
“นั่นสิ องค์ชายรอง ถึงพวกเราจะจน แต่พวกเราไม่ได้โง่นะ หรือว่าแม้แต่หัวหนูกับคอเป็ดยังจะแยกไม่ได้? นี่เห็นเราเป็นคนโง่หรือ? พวกเราชาวบ้านถึงจะเป็นชีวิตต่ำต้อย แต่ก็รังแกกันอย่างนี้ไม่ได้กระมัง?”

ชายร่างผอมเล็กผิวค่อนข้างขาวอีกคนหนึ่งร่ำไห้น้ำตาไหลพราก ๆ พลางพูดระบาย

“อะไรนะ? การบรรเทาภัยพิบัติคือเรื่องใหญ่ของต้าเฉียนเรา ทำไมถึงเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ได้? ใครกันริอ่านเหิมเกริมดูถูกกฎหมายต้าเฉียนเรา เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา?”

พอฉินอวิ๋นฮุยได้ฟังแล้วโมโหพลุ่งพล่าน ยืนอยู่จุดสูงสุดของคุณธรรม ตำหนิเรื่องนี้อย่างหนัก และทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของฉินอวิ๋นฟานจากที่ไกล ๆ ทั้งหมด

“รัชทายาท นี่ นี่มันยังไงกัน? หลายวันก่อนคนของค่ายทานหลวงมารายงานกับข้ายังว่าดีมากอยู่เลย ทำไมจู่ ๆ ถึงโกลาหลอีกแล้ว?”

หลัวเหิงถามด้วยใบหน้าฉงน

“หลัวเหิง เจ้าว่าคนพวกนั้นที่กำลังพูดอยู่ รูปร่างเป็นยังไง?” ฉินอวิ๋นฟานถามอย่างนึกสนุก

“เอ๋ ท่านไม่เตือนข้าน้อยยังไม่สังเกตเลย หกเจ็ดคนที่พูดอยู่นั่น กว่าครึ่งเป็นคนตัวใหญ่ร่างบึก ถ้าเป็นผู้ประสบเคราะห์ที่หิวโหยเกือบสองเดือน จะต้องผอมจนเหลือแต่ซี่โครงแล้ว ทำไมถึงล่ำอย่างนี้ได
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Pajonec Chaimoot
รออ่านครับ วันหล่ะตอน อ่านไม่จุใจเลย ออกหลายๆ ตอนต่อวันหน่อยนะครับ คนอ่านรอนาน....
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 203

    อารมณ์มวลชนฮึกเหิม องค์ชายรองมองฉินอวิ๋นฟาน เผยรอยยิ้มกระหยิ่มใจ เขาหัวเราะน้อย ๆ และพูด “น้องเจ็ด คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้ ภายนอกคือภาพลักษณ์ผดุงความเป็นธรรมมีความเมตตากรุณา รักประชาชนดั่งลูก แต่ความเป็นจริงกลับจอมปลอมเจ้าเล่ห์”“ที่ข้ามีสภาพเช่นตอนนี้ได้ มิต้องขอบคุณพี่รองที่ประทานให้หรือ?”ฉินอวิ๋นฟานใบหน้าเย็นชา ตาต่อตา ฟันต่อฟัน การที่องค์ชายรองใช้ผู้ประสบเคราะห์สร้างเรื่องอยู่เหนือความคาดหมายของฉินอวิ๋นฟานจริง ๆ เพราะเรื่องนี้ไท่ซั่งหวงเป็นผู้มอบอำนาจด้วยตนเอง ฉินอวิ๋นฮุยกลับยังกล้ายื่นมือกับเรื่องนี้“อ้อ? น้องเจ็ดอย่าได้ใส่ความคนอื่นนะ ทำอะไรต้องมีหลักฐาน เจ้ามาถึงก็โยนความผิดให้ข้า เกรงว่าจะไม่เหมาะกระมัง?”ฉินอวิ๋นฮุยยกยิ้มตรงมุมปาก แฝงความยั่วยุอยู่ในคำพูดเต็มประดา อดกลั้นอารมณ์มานานอย่างนั้น ในที่สุดก็ได้ระบาย กดฉินอวิ๋นฟานลงมาได้สักที ความรู้สึกเช่นนี้ปลอดโปร่งยิ่งนัก“ล้วนเป็นจิ้งจอกเฒ่าพันปี ยังแสร้งเป็นพ่อพระกับข้าทำไม?”ฉินอวิ๋นฟานไม่ได้ตามใจองค์ชายรองฉินอวิ๋นฮุย เรื่องที่รู้ดีอยู่แก่ใจไยต้องสวมหน้ากากเข้าหากัน? เขาฉินอวิ๋นฟานไม่สนใจเรื่องแค่นี้หรอก

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 204

    การถามเสียงกร้าวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ชายร่างกำยำตกตะลึงเดี๋ยวนั้น ก่อนหน้าเขาไม่เคยเตรียมปัญหานี้ จ้องแววตาลุ่มลึกนั้นของฉินอวิ๋นฟาน เผด็จการอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทันใดนั้นเขาลนลานแล้ว“ขะ ข้า ข้าเคยมาเมืองหลวง โชคดีได้เจอกับท่านหนหนึ่ง” ชายร่างกำยำฝืนตอบแบบติด ๆ ขัด ๆฉินอวิ๋นฟานเห็นดังนั้นจึงฉายรอยยิ้มมั่นใจน้อย ๆ และถามต่อ “เคย? เมื่อไร?”“เอ่อ นานเกินไป ข้าจำไม่ได้แล้ว”ชายร่างกำยำยังไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่อง ได้แต่พยายามพูดให้นานเข้าไว้ เพราะมีแต่อย่างนี้จึงดำน้ำผ่านไปได้ กลับไม่รู้ว่าเขาตกหลุมพรางของฉินอวิ๋นฟานเรียบร้อยแล้ว“อ้อ? นานเกินไป ประมาณเมื่อไรอย่างไรต้องจำได้กระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานถามต่อกับการถามอย่างบีบคั้นของฉินอวิ๋นฟาน ฉินอวิ๋นฮุยขมวดคิ้วนิด ๆ มักรู้สึกถึงลางร้ายอย่างหนึ่ง แต่คิดว่าพวกคำถามที่ฉินอวิ๋นฟานถามไม่มีความหมายอะไร จึงไม่ได้พูดอะไร“หนึ่ง หนึ่งปีก่อนกระมัง!”ชายร่างกำยำผู้นั้นแข็งใจบอกเวลาหนึ่ง ยามนี้เขาทรมานใจนัก อยากแถให้จบเรื่องนี้ไว ๆ“บังอาจ! หนึ่งปีก่อนข้ายังอยู่ในภาวะโง่งม ไม่เคยออกจากวัง อย่าว่าแต่เจ้า แม้จะเป็นพวกขุนนางในราชสำนักก็เจอข

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 205

    ที่อยู่ที่ชายร่างกำยำบอกไปอย่างนั้น ไม่นึกว่าจะเจอคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันจริง นั่นมิใช่ว่าเรื่องโกหกจะถูกเปิดโปงแล้วหรือ? จิตใจของชายร่างกำยำในยามนี้แตกตื่นอย่างหาที่เปรียบมิได้ สายตาล่อกแล่ก มองไปทางองค์ชายรองเป็นระยะ องค์ชายรองในตอนนี้สีหน้าดำทะมึนมากขึ้นทุกที สุดท้ายยังประเมินฉินอวิ๋นฟานต่ำเกินไป“พ่อล่ำนี่บอกว่าเป็นคนหมู่บ้านพวกเจ้า พวกเจ้ารู้จักเขาหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยปากถามชายหนุ่มที่เป็นผู้นำมองสำรวจชายร่างกำยำครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าตอบ “ข้าน้อยเติบโตอยู่ที่หมู่บ้านตระกูลหวังแต่เล็ก รู้จักหมดทุกคน สหายตรงหน้าท่านนี้ไม่ใช่คนในหมู่บ้านข้าน้อยขอรับ!”“หา? เขาไม่ใช่คนหมู่บ้านตระกูลหวัง?”พอทุกคนได้ยินก็ฮือฮากันขึ้นมาทันที เพราะการก่อความวุ่นวายครั้งนี้เขานี่แหละเป็นหัวโจก ที่ทุกคนมาเมืองหลวงก็ด้วยการยุยงของเขา ถ้าฐานะของคนผู้นี้ไม่แน่ชัด เช่นนั้นพวกเขามิใช่ถูกหลอกใช้หรือ?คนจำนวนมากตระหนักถึงความผิดปกติแล้ว แต่เรื่องหัวหนูก็เป็นเรื่องจริง เวลานี้ทุกคนขึ้นหลังเสือลงยาก“พูด! เจ้าเป็นใครกันแน่? ทำไมต้องยุยงคนจากพื้นที่ภัยพิบัติมาหาเรื่องที่เมืองหลวง?”ฉินอวิ๋นฟานตะคอ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 206

    หากเขาปราศจากหลักฐานชัดเจนล้างมลทินให้ตัวเอง เช่นนั้นก็ได้แต่ปฏิบัติตามกฎหมายต้าเฉียนแล้ว และเนื่องจากหลักการหลีกเลี่ยงการตกเป็นผู้ต้องสงสัย จะใช้กำลังสอดมือยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ นี่จึงทำให้เขาเครียดจัด“พี่รองร้ายนัก” ฉินอวิ๋นฟานพูดหน้าดำ“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร แต่ข้าจะบอกเจ้าเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ทุกคนสารภาพหมดแล้ว อีกทั้งหลักฐานแน่นหนา ลูกน้องมือดีของเจ้าพวกนั้นมะรืนก็ต้องถูกประหารแล้ว เหลือเวลาให้เจ้าไม่มากแล้วนะ”ฉินอวิ๋นฮุยกระซิบข้างหูฉินอวิ๋นฟาน “เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ? วันมะรืนพวกเขาก็จะถูกประหารแล้ว?”ฉินอวิ๋นฟานได้ยินเส้นสมองขาดผึง เพลิงโทสะไร้นามทับอยู่ตรงทรวงอกจนทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก ฉินอวิ๋นฮุยลงมือเร็วนัก ไม่ให้เวลาเขาตอบสนองถ้าหานซิ่ง มู่หรงโหลวและคนอื่น ๆ ถูกประหาร เช่นนั้นทุกอย่างที่เขาสั่งสมมาก็จะกลายเป็นเถ้าถ่าน นี่จะทำอย่างไรดี?“น้องเจ็ด เจ้าเก่งมากมิใช่รึ? สมควรแก้ไขเรื่องผู้ประสบภัยเหล่านี้ก่อนกระมัง? ชุมนุมกันตั้งเยอะตั้งแยะอย่างนี้ คงไม่เหมาะสม”ฉินอวิ๋นฮุยยิ้มชืดเดิมนึกว่าจะใช้เรื่องผู้ประสบภัยก่อจลาจลสั่งสอนฉินอวิ๋นฟานสักหน่อย ต่อให้ยัดความผิดใหญ่ไ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 207

    คำพูดของฉินอวิ๋นฟานทำให้ผู้ประสบภัยละอายใจอย่างยิ่ง พื้นที่ภัยพิบัติเมื่อสิบวันก่อนแทบจะเป็นนรกบนแดนดิน ข้างตัวจะมีคนตายเพราะความหิวโหยนับไม่ถ้วนทุกวัน ความสิ้นหวังนั้นมีแต่คนที่เจอกับตัวจึงจะรู้ตั้งแต่รัชทายาทรับช่วงพื้นที่ภัยพิบัติต่อ เกิดความเปลี่ยนแปลงกลับตาลปัตรไปหมด นอกจากจะแก้ไขเรื่องปากท้องของทุกคน โรคร้ายยิ่งได้รับการรักษา บ้านเรือนของทุกคนถูกสร้างขึ้นโดยมิต้องเสียเงิน เรื่องแบบนี้คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ต้าเฉียนทั้งพื้นที่ภัยพิบัติ ไม่มีใครไม่รู้คุณูปการใหญ่หลวงของรัชทายาท ที่พวกเขาสามารถมีชีวิตเช่นคนได้ ทั้งหมดเพราะเป็นสิ่งที่รัชทายาทมอบให้รัชทายาทผู้รักประชาชนดั่งบุตรเช่นนี้ พวกเขากลับไม่แยกแยะดีชั่ว หัวร้อนถูกคนหลอกกับอีแค่เรื่องหัวหนูเล็ก ๆ ทั้งยังยกโขยงมาเอาเรื่องรัชทายาทให้ตายอีก?พวกเขาทำแบบนี้ยังถือเป็นคนอยู่หรือไม่?ยังดีที่รัชทายาทไม่ถือสาเรื่องเก่าก่อน และไม่เอาเรื่องกับพวกเขา จึงทั้งโค้งตัวทั้งกล่าวขอโทษขอโพย การกระทำนี้ทำให้ทุกคนละอายใจจนโงหัวไม่ขึ้น“เอาละ ข้ารู้ว่าทุกคนถูกคนหลอกใช้ รีบกลับไปเถอะ การพัฒนาบ้านเกิดจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำ สำหรับเรื่อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 208

    ฉินอวิ๋นฟานขมวดคิ้วมุ่น กลับไม่ได้ปกปิดสักนิด เขารู้ว่าเรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว มิอาจปิดบังได้อีก ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อฉินอวิ๋นฮุย หากไม่เกินคาด คืนนี้ต้องมีประกาศประหารชีวิตแน่“อะไรนะ?! ร้ายมากกว่าดีหมายความว่ายังไง?”หัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของมู่หรงจิ่นดิ่งลงเหวลึก นางคว้าแขนของฉินอวิ๋นฟาน น้ำตาไหลพราก ตั้งแต่เล็กจนโตพี่ใหญ่รักนางที่สุด บัดนี้ถูกจองจำ เป็นตายไม่แน่ชัด นี่ทำให้นางกินไม่ได้นอนไม่หลับ ราวกับมดบนกระทะร้อน“ถ้าวันมะรืนยังสืบหาความจริงไม่ได้ เกรงว่าพวกเขาต้องถูกประหารชีวิตแล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานตอบ“ฮะ? ประหาร?!”พอได้ยินว่าพี่ชายต้องถูกประหารชีวิต มู่หรงจิ่นสองตามืดฉับพลัน หมดสติไปทันที ฉินอวิ๋นฟานเห็นดังนั้นพลันเปลี่ยนสีหน้า รีบกอดมู่หรงจิ่นไว้ในอ้อมอก“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป? ฟื้นสิ...”มู่หรงจิ่นหมดสติ ฉินอวิ๋นฟานปวดใจถึงที่สุด เขารีบเรียก แต่เรียกครึ่งค่อนวันแล้วมู่หรงจิ่นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น ยังดีที่แค่ตกใจเกินเหตุ หลังจากฉินอวิ๋นฟานจับชีพจรแล้วจึงวางใจ“เหอะ หรือว่าตระกูลมู่หรงข้าต้องสิ้นทายาทแล้ว?”ยามนี้ ใบหน้าของมู่หรงซื่อควานเต็มไปด้วยความสิ้

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 209

    “สุดท้ายฉินอวิ๋นฟานก็ยังเด็กเกินไป ทั้งยังมีอารมณ์ฉุนเฉียว หากจะสู้เรื่องอิทธิพล เรื่องกลอุบาย นั่นคือคนละระดับชั้นกับองค์ชายรอง พฤติกรรมของเขาราวกับเอาไข่มากระทบหิน ไม่ประมาณตน”ลิ่งหูชงโบกพัดในมือพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อยพูด“ถึงจะอย่างนั้น แต่ก็ต้องขอบคุณแผนการของท่านลิ่งหู ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการสมบูรณ์แบบของท่าน ข้าจะกำน้องเจ็ดอยู่ในมือได้ง่าย ๆ ได้ยังไง?”องค์ชายรองเอ่ย “แต่จากเรื่องนี้ ฉินอวิ๋นฟานคิดจะพลิกสถานการณ์คงยากแล้ว ไม่พูดถึงว่าจะทำมันให้ตาย แต่ลอกหนังเขาชั้นหนึ่งคือไม่เป็นปัญหา!”นึกถึงภาพที่ฉินอวิ๋นฟานทำให้เขาพูดไม่ออก ฉินอวิ๋นฮุยโกรธจนควันออกหู บัดนี้ด้วยแผนการของท่านลิ่งหูซึ่งเป็นนักออกอุบายอันดับหนึ่ง ในที่สุดก็เหยียบฉินอวิ๋นฟานอยู่ใต้เท้าได้สักที สำหรับเขา นี่คือการตอบโต้ที่สะใจอย่างยิ่ง“องค์ชายรอง ก่อนที่ทุกอย่างจะยุติ พวกเราจะยังประมาทไม่ได้ อย่างไรเสีย ลูกโทนของตระกูลเซี่ยงเซี่ยงเทียนเวิ่นก็ติดตามอยู่ข้างหลังฉินอวิ๋นฟานตลอดเวลา พวกเราต้องระวังหน่อย ป้องกันให้มากหน่อย”ลิ่งหูชงเอ่ยเตือน“หึ นึกถึงเรื่องเมื่อวานแล้วข้าก็อารมณ์เสีย น้องแปดไปรักษาให้ท่านผู้เฒ่าเซี่ย

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 210

    ฮั่วเจิ้นหลงหรือจะไม่รู้หลักการนี้? แต่ในฐานะที่เป็นจิ้งจอกเฒ่า ย่อมมีเรื่องที่คำนึงในแบบที่ต่างจากแนวคิดปกติทั่วไปเขาพิจารณาครู่หนึ่ง “เกรงว่ารัชทายาทจะไม่ถูกโค่นง่าย ๆ เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงส่วนรวม พวกเราเตรียมตัวไว้ก่อน รอดูอยู่เฉย ๆ”ในเรือนเล็กลับมุมหลังหนึ่งของต้าเฉียน ฉินอ้าวยังคงนอนเอ้อระเหยอยู่บนเก้าอี้เหมือนเดิม สบายใจเฉิบ ตรงหน้าเขามีคนยืนอยู่สองคน คนหนึ่งคือองค์ชายหกฉินอวิ๋นกว่างที่กำลังกระวนกระวาย อีกคนคือแม่ทัพฝ่ายขวาถังเจิ้นไห่“เสด็จอา เกรงว่าฟ้าของต้าเฉียนจะเปลี่ยนแล้ว” ฉินอวิ๋นกว่างพูดอย่างตระหนกเล็กน้อย“นั่นสิ ท่านอ๋อง แค่แผนเดียวองค์ชายรองก็จัดการรัชทายาทฉินอวิ๋นฟานได้ หากไม่เกิดเหตุอะไร วันมะรืนฉินอวิ๋นฟานต้องจบเห่แล้ว พวกเราจะลงมือเตรียมตัวหรือไม่ขอรับ? อย่างไรเสีย ทันทีที่ตำแหน่งรัชทายาทของฉินอวิ๋นฟานถูกปลด ต้าเฉียนต้องเกิดพายุอีกแน่ นี่คือโอกาส”ถังเจิ้นไห่รีบกล่าวสมทบเฮ่อชินอ๋องฉินอ้าวยังคงผ่อนคลายเป็นตัวของตัวเอง กับการรายงานอย่างร้อนรนขององค์ชายหกและแม่ทัพฝ่ายขวาถังเจิ้นไห่ เขาเหมือนไม่ได้ยิน ผ่านไปนานจึงหยุดการเคลื่อนไหวมือและค่อย ๆ ลุกขึ้น“ด้วยสถา

บทล่าสุด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status