แชร์

บทที่ 204

ผู้เขียน: เมิ่งซานเชียน
การถามเสียงกร้าวของฉินอวิ๋นฟานทำให้ชายร่างกำยำตกตะลึงเดี๋ยวนั้น ก่อนหน้าเขาไม่เคยเตรียมปัญหานี้ จ้องแววตาลุ่มลึกนั้นของฉินอวิ๋นฟาน เผด็จการอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทันใดนั้นเขาลนลานแล้ว

“ขะ ข้า ข้าเคยมาเมืองหลวง โชคดีได้เจอกับท่านหนหนึ่ง” ชายร่างกำยำฝืนตอบแบบติด ๆ ขัด ๆ

ฉินอวิ๋นฟานเห็นดังนั้นจึงฉายรอยยิ้มมั่นใจน้อย ๆ และถามต่อ “เคย? เมื่อไร?”

“เอ่อ นานเกินไป ข้าจำไม่ได้แล้ว”

ชายร่างกำยำยังไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่อง ได้แต่พยายามพูดให้นานเข้าไว้ เพราะมีแต่อย่างนี้จึงดำน้ำผ่านไปได้ กลับไม่รู้ว่าเขาตกหลุมพรางของฉินอวิ๋นฟานเรียบร้อยแล้ว

“อ้อ? นานเกินไป ประมาณเมื่อไรอย่างไรต้องจำได้กระมัง?”

ฉินอวิ๋นฟานถามต่อ

กับการถามอย่างบีบคั้นของฉินอวิ๋นฟาน ฉินอวิ๋นฮุยขมวดคิ้วนิด ๆ มักรู้สึกถึงลางร้ายอย่างหนึ่ง แต่คิดว่าพวกคำถามที่ฉินอวิ๋นฟานถามไม่มีความหมายอะไร จึงไม่ได้พูดอะไร

“หนึ่ง หนึ่งปีก่อนกระมัง!”

ชายร่างกำยำผู้นั้นแข็งใจบอกเวลาหนึ่ง ยามนี้เขาทรมานใจนัก อยากแถให้จบเรื่องนี้ไว ๆ

“บังอาจ! หนึ่งปีก่อนข้ายังอยู่ในภาวะโง่งม ไม่เคยออกจากวัง อย่าว่าแต่เจ้า แม้จะเป็นพวกขุนนางในราชสำนักก็เจอข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
การัณย์ ผาณิตพิเชฐวงศ์
พักนี้จะลงน้อยตอน ทำไมละ สมัยแรกๆเริ่มอ่านจะมีหลายตอน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 205

    ที่อยู่ที่ชายร่างกำยำบอกไปอย่างนั้น ไม่นึกว่าจะเจอคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันจริง นั่นมิใช่ว่าเรื่องโกหกจะถูกเปิดโปงแล้วหรือ? จิตใจของชายร่างกำยำในยามนี้แตกตื่นอย่างหาที่เปรียบมิได้ สายตาล่อกแล่ก มองไปทางองค์ชายรองเป็นระยะ องค์ชายรองในตอนนี้สีหน้าดำทะมึนมากขึ้นทุกที สุดท้ายยังประเมินฉินอวิ๋นฟานต่ำเกินไป“พ่อล่ำนี่บอกว่าเป็นคนหมู่บ้านพวกเจ้า พวกเจ้ารู้จักเขาหรือไม่?”ฉินอวิ๋นฟานเอ่ยปากถามชายหนุ่มที่เป็นผู้นำมองสำรวจชายร่างกำยำครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าตอบ “ข้าน้อยเติบโตอยู่ที่หมู่บ้านตระกูลหวังแต่เล็ก รู้จักหมดทุกคน สหายตรงหน้าท่านนี้ไม่ใช่คนในหมู่บ้านข้าน้อยขอรับ!”“หา? เขาไม่ใช่คนหมู่บ้านตระกูลหวัง?”พอทุกคนได้ยินก็ฮือฮากันขึ้นมาทันที เพราะการก่อความวุ่นวายครั้งนี้เขานี่แหละเป็นหัวโจก ที่ทุกคนมาเมืองหลวงก็ด้วยการยุยงของเขา ถ้าฐานะของคนผู้นี้ไม่แน่ชัด เช่นนั้นพวกเขามิใช่ถูกหลอกใช้หรือ?คนจำนวนมากตระหนักถึงความผิดปกติแล้ว แต่เรื่องหัวหนูก็เป็นเรื่องจริง เวลานี้ทุกคนขึ้นหลังเสือลงยาก“พูด! เจ้าเป็นใครกันแน่? ทำไมต้องยุยงคนจากพื้นที่ภัยพิบัติมาหาเรื่องที่เมืองหลวง?”ฉินอวิ๋นฟานตะคอ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 206

    หากเขาปราศจากหลักฐานชัดเจนล้างมลทินให้ตัวเอง เช่นนั้นก็ได้แต่ปฏิบัติตามกฎหมายต้าเฉียนแล้ว และเนื่องจากหลักการหลีกเลี่ยงการตกเป็นผู้ต้องสงสัย จะใช้กำลังสอดมือยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ นี่จึงทำให้เขาเครียดจัด“พี่รองร้ายนัก” ฉินอวิ๋นฟานพูดหน้าดำ“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดอะไร แต่ข้าจะบอกเจ้าเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ทุกคนสารภาพหมดแล้ว อีกทั้งหลักฐานแน่นหนา ลูกน้องมือดีของเจ้าพวกนั้นมะรืนก็ต้องถูกประหารแล้ว เหลือเวลาให้เจ้าไม่มากแล้วนะ”ฉินอวิ๋นฮุยกระซิบข้างหูฉินอวิ๋นฟาน “เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ? วันมะรืนพวกเขาก็จะถูกประหารแล้ว?”ฉินอวิ๋นฟานได้ยินเส้นสมองขาดผึง เพลิงโทสะไร้นามทับอยู่ตรงทรวงอกจนทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก ฉินอวิ๋นฮุยลงมือเร็วนัก ไม่ให้เวลาเขาตอบสนองถ้าหานซิ่ง มู่หรงโหลวและคนอื่น ๆ ถูกประหาร เช่นนั้นทุกอย่างที่เขาสั่งสมมาก็จะกลายเป็นเถ้าถ่าน นี่จะทำอย่างไรดี?“น้องเจ็ด เจ้าเก่งมากมิใช่รึ? สมควรแก้ไขเรื่องผู้ประสบภัยเหล่านี้ก่อนกระมัง? ชุมนุมกันตั้งเยอะตั้งแยะอย่างนี้ คงไม่เหมาะสม”ฉินอวิ๋นฮุยยิ้มชืดเดิมนึกว่าจะใช้เรื่องผู้ประสบภัยก่อจลาจลสั่งสอนฉินอวิ๋นฟานสักหน่อย ต่อให้ยัดความผิดใหญ่ไ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 207

    คำพูดของฉินอวิ๋นฟานทำให้ผู้ประสบภัยละอายใจอย่างยิ่ง พื้นที่ภัยพิบัติเมื่อสิบวันก่อนแทบจะเป็นนรกบนแดนดิน ข้างตัวจะมีคนตายเพราะความหิวโหยนับไม่ถ้วนทุกวัน ความสิ้นหวังนั้นมีแต่คนที่เจอกับตัวจึงจะรู้ตั้งแต่รัชทายาทรับช่วงพื้นที่ภัยพิบัติต่อ เกิดความเปลี่ยนแปลงกลับตาลปัตรไปหมด นอกจากจะแก้ไขเรื่องปากท้องของทุกคน โรคร้ายยิ่งได้รับการรักษา บ้านเรือนของทุกคนถูกสร้างขึ้นโดยมิต้องเสียเงิน เรื่องแบบนี้คือครั้งแรกในประวัติศาสตร์ต้าเฉียนทั้งพื้นที่ภัยพิบัติ ไม่มีใครไม่รู้คุณูปการใหญ่หลวงของรัชทายาท ที่พวกเขาสามารถมีชีวิตเช่นคนได้ ทั้งหมดเพราะเป็นสิ่งที่รัชทายาทมอบให้รัชทายาทผู้รักประชาชนดั่งบุตรเช่นนี้ พวกเขากลับไม่แยกแยะดีชั่ว หัวร้อนถูกคนหลอกกับอีแค่เรื่องหัวหนูเล็ก ๆ ทั้งยังยกโขยงมาเอาเรื่องรัชทายาทให้ตายอีก?พวกเขาทำแบบนี้ยังถือเป็นคนอยู่หรือไม่?ยังดีที่รัชทายาทไม่ถือสาเรื่องเก่าก่อน และไม่เอาเรื่องกับพวกเขา จึงทั้งโค้งตัวทั้งกล่าวขอโทษขอโพย การกระทำนี้ทำให้ทุกคนละอายใจจนโงหัวไม่ขึ้น“เอาละ ข้ารู้ว่าทุกคนถูกคนหลอกใช้ รีบกลับไปเถอะ การพัฒนาบ้านเกิดจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำ สำหรับเรื่อง

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 208

    ฉินอวิ๋นฟานขมวดคิ้วมุ่น กลับไม่ได้ปกปิดสักนิด เขารู้ว่าเรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว มิอาจปิดบังได้อีก ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อฉินอวิ๋นฮุย หากไม่เกินคาด คืนนี้ต้องมีประกาศประหารชีวิตแน่“อะไรนะ?! ร้ายมากกว่าดีหมายความว่ายังไง?”หัวใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ของมู่หรงจิ่นดิ่งลงเหวลึก นางคว้าแขนของฉินอวิ๋นฟาน น้ำตาไหลพราก ตั้งแต่เล็กจนโตพี่ใหญ่รักนางที่สุด บัดนี้ถูกจองจำ เป็นตายไม่แน่ชัด นี่ทำให้นางกินไม่ได้นอนไม่หลับ ราวกับมดบนกระทะร้อน“ถ้าวันมะรืนยังสืบหาความจริงไม่ได้ เกรงว่าพวกเขาต้องถูกประหารชีวิตแล้ว!”ฉินอวิ๋นฟานตอบ“ฮะ? ประหาร?!”พอได้ยินว่าพี่ชายต้องถูกประหารชีวิต มู่หรงจิ่นสองตามืดฉับพลัน หมดสติไปทันที ฉินอวิ๋นฟานเห็นดังนั้นพลันเปลี่ยนสีหน้า รีบกอดมู่หรงจิ่นไว้ในอ้อมอก“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป? ฟื้นสิ...”มู่หรงจิ่นหมดสติ ฉินอวิ๋นฟานปวดใจถึงที่สุด เขารีบเรียก แต่เรียกครึ่งค่อนวันแล้วมู่หรงจิ่นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น ยังดีที่แค่ตกใจเกินเหตุ หลังจากฉินอวิ๋นฟานจับชีพจรแล้วจึงวางใจ“เหอะ หรือว่าตระกูลมู่หรงข้าต้องสิ้นทายาทแล้ว?”ยามนี้ ใบหน้าของมู่หรงซื่อควานเต็มไปด้วยความสิ้

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 209

    “สุดท้ายฉินอวิ๋นฟานก็ยังเด็กเกินไป ทั้งยังมีอารมณ์ฉุนเฉียว หากจะสู้เรื่องอิทธิพล เรื่องกลอุบาย นั่นคือคนละระดับชั้นกับองค์ชายรอง พฤติกรรมของเขาราวกับเอาไข่มากระทบหิน ไม่ประมาณตน”ลิ่งหูชงโบกพัดในมือพลางยิ้มเล็กยิ้มน้อยพูด“ถึงจะอย่างนั้น แต่ก็ต้องขอบคุณแผนการของท่านลิ่งหู ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการสมบูรณ์แบบของท่าน ข้าจะกำน้องเจ็ดอยู่ในมือได้ง่าย ๆ ได้ยังไง?”องค์ชายรองเอ่ย “แต่จากเรื่องนี้ ฉินอวิ๋นฟานคิดจะพลิกสถานการณ์คงยากแล้ว ไม่พูดถึงว่าจะทำมันให้ตาย แต่ลอกหนังเขาชั้นหนึ่งคือไม่เป็นปัญหา!”นึกถึงภาพที่ฉินอวิ๋นฟานทำให้เขาพูดไม่ออก ฉินอวิ๋นฮุยโกรธจนควันออกหู บัดนี้ด้วยแผนการของท่านลิ่งหูซึ่งเป็นนักออกอุบายอันดับหนึ่ง ในที่สุดก็เหยียบฉินอวิ๋นฟานอยู่ใต้เท้าได้สักที สำหรับเขา นี่คือการตอบโต้ที่สะใจอย่างยิ่ง“องค์ชายรอง ก่อนที่ทุกอย่างจะยุติ พวกเราจะยังประมาทไม่ได้ อย่างไรเสีย ลูกโทนของตระกูลเซี่ยงเซี่ยงเทียนเวิ่นก็ติดตามอยู่ข้างหลังฉินอวิ๋นฟานตลอดเวลา พวกเราต้องระวังหน่อย ป้องกันให้มากหน่อย”ลิ่งหูชงเอ่ยเตือน“หึ นึกถึงเรื่องเมื่อวานแล้วข้าก็อารมณ์เสีย น้องแปดไปรักษาให้ท่านผู้เฒ่าเซี่ย

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 210

    ฮั่วเจิ้นหลงหรือจะไม่รู้หลักการนี้? แต่ในฐานะที่เป็นจิ้งจอกเฒ่า ย่อมมีเรื่องที่คำนึงในแบบที่ต่างจากแนวคิดปกติทั่วไปเขาพิจารณาครู่หนึ่ง “เกรงว่ารัชทายาทจะไม่ถูกโค่นง่าย ๆ เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงส่วนรวม พวกเราเตรียมตัวไว้ก่อน รอดูอยู่เฉย ๆ”ในเรือนเล็กลับมุมหลังหนึ่งของต้าเฉียน ฉินอ้าวยังคงนอนเอ้อระเหยอยู่บนเก้าอี้เหมือนเดิม สบายใจเฉิบ ตรงหน้าเขามีคนยืนอยู่สองคน คนหนึ่งคือองค์ชายหกฉินอวิ๋นกว่างที่กำลังกระวนกระวาย อีกคนคือแม่ทัพฝ่ายขวาถังเจิ้นไห่“เสด็จอา เกรงว่าฟ้าของต้าเฉียนจะเปลี่ยนแล้ว” ฉินอวิ๋นกว่างพูดอย่างตระหนกเล็กน้อย“นั่นสิ ท่านอ๋อง แค่แผนเดียวองค์ชายรองก็จัดการรัชทายาทฉินอวิ๋นฟานได้ หากไม่เกิดเหตุอะไร วันมะรืนฉินอวิ๋นฟานต้องจบเห่แล้ว พวกเราจะลงมือเตรียมตัวหรือไม่ขอรับ? อย่างไรเสีย ทันทีที่ตำแหน่งรัชทายาทของฉินอวิ๋นฟานถูกปลด ต้าเฉียนต้องเกิดพายุอีกแน่ นี่คือโอกาส”ถังเจิ้นไห่รีบกล่าวสมทบเฮ่อชินอ๋องฉินอ้าวยังคงผ่อนคลายเป็นตัวของตัวเอง กับการรายงานอย่างร้อนรนขององค์ชายหกและแม่ทัพฝ่ายขวาถังเจิ้นไห่ เขาเหมือนไม่ได้ยิน ผ่านไปนานจึงหยุดการเคลื่อนไหวมือและค่อย ๆ ลุกขึ้น“ด้วยสถา

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 211

    ในเวลาเดียวกัน ไท่ซั่งหวงกำลังขมวดคิ้วฟังการรายงานจากเฉาเจิ้งฉุนอยู่“ครั้งนี้องค์ชายรองลงมือไวปานสายฟ้า ไม่ให้โอกาสรัชทายาททันรู้ตัวสักนิด เวลานี้บรรดาคนที่รัชทายาทกำลังบ่มเพาะถูกจับกุมตัวหมดแล้ว ตามกฎหมายของต้าเฉียน เกรงว่าจะรอดยากพ่ะย่ะค่ะ”เฉาเจิ้งฉุนเอ่ยปาก“เรื่องนี้เจ้ามีความเห็นยังไง?” ไท่ซั่งหวงถามเฉาเจิ้งฉุนเอ่ยปากช้า ๆ “กระหม่อมคิดว่าหากพูดจากเนื้อเรื่อง รัชทายาททำได้สมบูรณ์แบบมากจริง ๆ กระทั่งพลิกโฉมกฤษฎีกาทั้งหมดที่แล้วมา และทำคำมั่นสัญญาให้เป็นจริงอย่างต่อเนื่อง”“ไม่เพียงทำให้พสกนิกรที่ประสบภัยอิ่มท้อง ยังปรับปรุงชลประทานให้พวกเขา นอกจากนั้น เขายังช่วยผู้ประสบภัยบุกเบิกที่ดินเนินเขา เพิ่มพื้นที่ทางการเกษตร งดเก็บภาษีนาของเมืองจัวสามปี ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยจำนวนมากคืนสู่เหย้า” “เวลานี้ประชาชนเมืองจัวขยันขันแข็ง เรียกได้ว่ามุ่งสู่ความเจริญเป็นลำดับ หากมองระยะยาว นี่คือการนำไปสู่ความรุ่งโรจน์แห่งยุค นโยบายพัฒนาบ้านเมือง”“หากไม่มีเรื่องหัวหนูที่องค์ชายรองสร้างขึ้น ด้วยสติปัญญาของรัชทายาท เกรงว่าไม่เกินหนึ่งปี เมืองจัวต้องเจริญไม่แพ้ไปกว่าเมืองหลวง ถึงตอนนั้น นอกจากจะมอ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 212

    กลับไม่รู้ว่าเฮ่อชินอ๋องฉินอ้าวคาดการณ์ทั้งหมดเอาไว้แล้ว เขาเลือกที่จะกบดานต่อแบบไม่ลังเล ส่วนฉินอวิ๋นฟานกลับไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาประสบในคราวนี้ คือสิ่งที่เคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ ในวังหลวงมาช้านานแล้วม่านรัตติกาลมาถึง อู่จ้านรีบมาภัตตาคารต้าเฉียนด้วยความร้อนรน ครั้งเห็นอู่จ้านมาถึง ฉินอวิ๋นฟานก็รีบถาม “อาจ้าน สืบได้ความอะไรบ้าง?”“สถานการณ์แย่กว่าที่พวกเราคิดมากนัก”อู่จ้านหน้าเครียด “หลังจากข้าตรวจสอบอย่างละเอียด มีพ่อครัวที่เข้าร่วมเรื่องครั้งนี้ทั้งหมดหกคน เนื่องจากเกิดเหตุกะทันหัน กรมอาญาลงมือเร็วมาก จับทุกคนที่เกี่ยวข้องหมด พูดง่าย ๆ ก็คือป้องกันการตรวจสอบจากเรา”“บ้าเอ๊ย!”ฉินอวิ๋นฟานเดือดดาลถึงที่สุด หนึ่งหมัดชกลงบนโต๊ะ พอได้ข่าวเขาก็ให้อู่จ้านซึ่งเป็นคนสนิทที่สุดไปตรวจสอบทันที ไม่นึกว่าข้อมูลทั้งหมดจะถูกปิดผนึกหมดแล้ว อู่จ้านสืบจากทางไหนไม่ได้เลย“ไม่แค่นี้นะ ครอบครัวของพ่อครัวหกคนนั้นก็ถูกฆ่าหมดแล้วด้วย รอให้เรื่องนี้กลายเป็นหลักฐานชี้ชัดโค่นเจ้าได้แล้ว พ่อครัวหกคนนั้นก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ข้าว่าโอกาสพลิกสถานการณ์ริบหรี่ลงทุกทีแล้ว”อู่จ้านพูดพลางทำหน้าเศร้า“พี่อวิ

บทล่าสุด

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1062

    ในที่สุดเหมิงฉาก็รับไม่ไหว ร้องตะโกนคำที่แทบจะเป็นความอัปยศนั้นการแข่งขันทางบู๊นี้ก็ปิดฉากลงท่ามกลางความตกตะลึงพรึงเพริดของทุกคน...เรื่องหักเหจากการคาดหมายของทุกคนเหลียงจ้านอิงและเหลียงเทียนจื้อต่างคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้จะล้วงปืนสั้นออกมาพลิกสถานการณ์ในการแข่งขันด้านบู๊นี้กระทั่งว่าเหลียงเทียนจื้อไม่มีโอกาสจะได้ออกโรงเลย...เช่นละครอย่างไรอย่างนั้น เนื่องจากเหมิงฉากลัวสุดขีดจึงยกมือยอมแพ้ดังนั้นเหลียงเทียนอี้จึงคว้าชัยชนะการแข่งขันรอบนี้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่เปลืองแรงภาพมหัศจรรย์เกิดให้แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุ้นระทึกและไม่มีเลือดร้อนพลุ่งพล่านที่ใครคาดหวัง!ถึงขั้นว่าลวงตามากแต่ผลลัพธ์เป็นของจริงแท้แน่นอน เหลียงเทียนอี้ชนะแล้ว......“ดูท่าครั้งนี้ฟานเอ๋อร์จะช่วยข้าได้มากอีกแล้ว”เหลียงเทียนอี้กลับมาถึงด้านในก็คืนปืนสั้นให้ฉินอวิ๋นฟานและพรูลมหนัก ๆ“เหอะ ๆ เสด็จน้าชมเกินไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของท่านทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับข้าสักหน่อย”ฉินอวิ๋นฟานยักไหล่ มิได้กล่าวอะไรอีกถ้าจะบอกว่าเขาทำอะไรเพื่อเหลียงเทียนอี้ นั่นก็แค่บอกเขาว่าความจริงการแข่งขันนี้สามาร

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1061

    การกระทำของเหลียงเทียนอี้ทำให้ทุกคนในนั้นตกตะลึงแม้แต่เหลียงจ้านอิงที่อยู่บนปะรำก็ยังหยุดการดื่มน้ำชาไม่ได้ มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?”เหลียงเทียนจื้อมองเหลียงเทียนอี้ที่ปราศจากเครื่องป้องกันใด ๆ ด้านข้าง ใบหน้าแปลกใจนี่คือการแข่งขันบู๊นะ คือสถานที่ตีรันฟันแทง ถ้าไม่ระวังอาจต้องคมศาสตราได้จริง ๆ ศีรษะย้ายที่อยู่ หากไม่ใช่เพราะมั่นใจกับฝีมือของตัวเองมาก กอปรกับวางแผนร่วมกับทางซยงหนูดีแล้วเขาคงต้องสวมชุดเกราะหนักมารับมือกับการแข่งขันด้านบู๊วันนี้เหมือนกันทว่าการกระทำเช่นนี้ของเหลียงเทียนอี้ต่างจากการรนหาที่ตายอย่างไร?ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแปลก เหลียงเทียนจื้อหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย...ทั้งที่เขาควรดีใจกับเวลานี้ ถ้าเหลียงเทียนอี้เกิดอุบัติเหตุในการแข่งขันรอบนี้ เช่นนั้นบัลลังก์ต้องเป็นของเขาแน่แล้วแต่ใจกับกระวนกระวาย อย่างไรก็ไม่เป็นสุข“หรือว่าเขาแอบวางแผนอะไร?”ทันใดนั้นเหมิงฉาเริ่มบุกโจมตีก่อนแล้วร่างสูงใหญ่นั้นหวดขวานใหญ่หนักร้อยชั่งพลางเข้าใกล้เหลียงเทียนอี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แสงสุริยา คมมีดนั้นน่ากลัวเช่นนี้ ราวกับแค่ถากเถือเบา ๆ ก็เฉือนศีรษ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1060

    “ข้าเอง!”ทันใดนั้นเหลียงเทียนอี้ก็ก้าวออกมาช้า ๆโง่อย่างที่คิด...เหลียงเทียนจื้อยืนยิ้มเยาะอยู่ในใจข้างหลังเขารู้นิสัยของพี่ชายดี และรู้ว่าเหลียงเทียนอี้เป็นคนดื้อรั้นมากเมื่อเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ก็มักจะดาหน้าออกไปทันทีแม้เผชิญหน้ากับพันขุนศึกหมื่นอาชาก็ยังปราศจากความกลัวเกรง พลีตนจนตัวตาย...แต่พฤติกรรมวู่วามเช่นนี้ กลัวแต่ต้องจบอย่างอนาถในท้ายที่สุด“ฮ่า ๆ ๆ รัชทายาทกล้าหาญดังคาด!” เหมิงฉาหัวเราะเสียงดัง “ปกติยังนึกว่าท่านเป็นแต่สะบัดพู่กันขีดเขียน วันนี้ข้าอยากลองดูสิว่าฝีมือดาบกระบี่ของท่านจะล้ำลึกหรือไม่?”เพิ่งกล่าวจบ เหมิงฉาก็กวัดแกว่งขวานใหญ่พลางเดินประชิดไปทางเหลียงเทียนอี้ทีละก้าวรูปร่างใหญ่นั้น ร่างกายแข็งแรงนั้น แค่ยืนอยู่ก็สร้างแรงกดดันที่มองไม่เห็นแล้วทำให้หลาย ๆ คนเห็นแล้วอดเกิดใจกลัวอย่างหนึ่งขึ้นมาไม่ได้“อุ๊ย ท่านพี่จะเอาชนะสัตว์ประหลาดตัวนี้ยังไง?”เหลียงจื่อฝูที่อยู่บนปะรำหน้าทุกข์ร้อน สองมือบีบผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าซีดไปเล็กน้อยนางจ้องเหลียงเทียนอี้กลางลานฝึกซ้อม“ท่านพี่ไม่มีความสามารถด้านนี้เท่าไร ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมิงฉา!”ผู้เป็นน้องสาว

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1059

    เหลียงเทียนอี้ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าราบเรียบ มองอารมณ์ไม่ออกแต่ในใจเขารู้ดี การต่อสู้ครั้งนี้ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการตั้งแต่เหมิงฉาเริ่มพูดแล้วนี่คือการหยามหน้า คือการหยามเหยียดอย่างชัดเจนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย“เป็นยังไง? องค์ชายสาม?”เหมิงฉาเมินเหลียงเทียนอี้ที่อยู่อีกทางหนึ่ง แล้วใช้สายตาท้าทายมองไปทางเหลียงเทียนจื้อ ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ได้ยินว่าฝีมือการใช้ดาบกระบี่ขององค์ชายสามค่อนข้างร้ายกาจ วันนี้ข้าขอท้าทายสักหน่อยเถิด”“มิเป็นไร” เหลียงเทียนจื้อฉีกยิ้ม ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความกระหยิ่มใจจากนั้นก็ชักกระบี่ล้ำค่าคู่กายออกมาจากตรงเอวช้า ๆการต่อสู้ครั้งนี้ คือของเขาเท่านั้น!และเป็นเขาได้เท่านั้น!เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเหลียงเทียนจื้อต่างหากที่เป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดคนนั้น คือคนที่สามารถเอาชนะซยงหนูได้อย่างแท้จริง!......“ดูท่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนนะ”เหลียงจ้านอิงดื่มน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่บนปะรำมองผลสะท้อนกลับอย่างอบอุ่นของเหล่าผู้ชม จิตใจยิ่งฮึกเหิมตื่นเต้นไม่พูดไม่ได้เลย ถ้อยคำนั้นของเหมิงฉาทำให้เกิดผลดีเยี่ยม สามารถชักจูงอารมณ์ของทุกคนได้ในพริบตาเขาเช

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1058

    ตกลงไว้แต่แรกว่าเป็นการแข่งขันรูปแบบปิด และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร นอกจากราชวงศ์จะมิมีผู้ใดล่วงรู้ทว่าตอนนี้กลับแข่งขันในลานกว้างต่อหน้าธารกำนัล?หากท่านพี่แพ้มิต้องเป็นที่หัวเราะไปทั่วหรือ?“นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ทางเหลียงชินอ๋องต้องการกระมัง?”ฉินอวิ๋นฟานนั่งลงด้านข้าง ยิ้มพูดอย่างเฉยชา “ในฐานะที่เป็นละครฉายซ้ำของวันนี้ พวกเขาแค่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นความประดักประเดิดของเสด็จน้าเท่านั้น”แต่แพ้จากการต่อสู้เช่นนั้นผลลัพธ์ต้องเทข้างแน่โอรสสวรรค์ของต้าเหลียงที่กล่าวขานกลับแพ้ให้กับคนป่าเถื่อน ทั้งความสามารถยังมิสู้องค์ชายสามเหลียงเทียนจื้อขอเพียงมีการพูดประเภทนี้ต่อไป ไม่นานอัตราการสนับสนุนเหลียงเทียนจื้อก็จะพุ่งสูงลูกไม้พรรค์นี้ช่างโหดเหี้ยมนัก“น่ารังเกียจจริง ๆ...” คิ้วงามเหลียงจื่อฝูย่นยู่เล็กน้อย อดกระตุกมุมปากไม่ได้ “ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้”“เมื่อวานท่านพี่ชนะการแข่งขันด้านบุ๋นกับซยงหนูในท้องพระโรง พวกเขาไม่เห็นจะพูดกันเลย เลวทรามจริง ๆ!”ฉินอวิ๋นฟานหัวเราะอย่างไม่ออกความเห็นเขากลับไม่ใส่ใจว่าเมื่อวานจะชนะหรือแพ้ วันนี้ต่างหากที่เป็นส่วนสำค

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1057

    สำหรับเหลียงเทียนอี้ การแข่งขันในวันนี้ค่อนข้างน่าตกใจแต่ยังดีที่สุดท้ายเขาสามารถคลี่คลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้พวกซยงหนูหน้าบึ้งตึง โจมตีจนพวกเขารับมือไม่ทันดูท่าปกติว่างเว้นจากการงานอ่านหนังสือให้มากจะมีประโยชน์...หลังประชุมเช้า เหลียงเทียนอี้ก็อดรนทนไม่ไหวบอกข่าวดีกับฉินอวิ๋นฟาน อยากแบ่งปันความสุขและความเปรมปรีดิ์ของตนแต่พอได้ยินฉินอวิ๋นฟานตอบกลับ เขาจึงตระหนักว่าเรื่องราวไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เขาคิดอย่างนั้น“การแข่งขันทางบู๊ในวันพรุ่งนี้จึงจะเป็นส่วนสำคัญอย่างแท้จริง”คำพูดราบเรียบประโยคหนึ่งของฉินอวิ๋นฟานทำให้ความยินดีปรีดาของเหลียงเทียนอี้ในแต่เดิมสูญสิ้น สีหน้าอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ“ข้าย่อมรู้ดี...แต่ปกติ คนที่จะชนะในการแข่งขันทางบู๊คงจะเป็นน้องสาม”เกี่ยวกับจุดนี้แทบไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเหลียงเทียนจื้อร่ำเรียนกับเหลียงจ้านอิงแต่เล็ก อีกทั้งยังเคยเข้าสนามรบฟาดฟันกับศัตรู ด้านประสบการณ์การรบ จึงมีความคล่องมากกว่าเป็นธรรมดาเช่นนี้ หากคิดจะชิงคะแนนหนึ่งมาจากมือของเหลียงเทียนจื้อ คาดว่าต้องยากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเหลียงเทียนอี้มีท่าทางปราศจากใจฮึดสู้ ฉินอวิ

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1056

    “พันทุบหมื่นเจาะจึงได้แผ่นดิน ไฟโหมเผาไหม้เป็นอาจิณ ร่างแหลกกายเหลวมิหวั่น คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ในโลกา”ฝุ่นหินหนึ่งบททำให้หลิ่วเหวินเซี่ยมั่นใจมากขึ้นไม่น้อยครั้งนี้เขาไม่ออมมืออีก ทั้งยังท่องออกมาจนจบ ไม่เปิดโอกาสใด ๆ ให้กับเหลียงเทียนอี้เช่นเดียวกัน เขาทำนอกเหนือแผนเดิม ไม่คิดสนใจความรู้สึกของเหลียงเทียนจื้ออีก“นี่ นี่มันกลอนอะไร?”เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ด้านหลังเหงื่อตก ในหัวถึงขั้นว่าไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับกลอนบทนี้แน่นอน ด้วยความทึ่มทื่อของเขาจะต่อกลอนได้อย่างไร ได้แต่เกาหลังศีรษะยิก ๆทว่าเหลียงเทียนอี้ยังใจเย็นเหมือนเดิม เพียงครู่เดียวก็ตอบ“หวงคะนึงความทุกข์เข็ญในการสอบ บัดนี้ไฟสงครามสงบผ่านพ้นสี่ปี”“บ้างเมืองไหวเอนดังกิ่งหลิว ใครเล่ามิใช่ผิวน้ำฝนซัดสาด”“หวงข่งทานปราชัยพรั่นพรึงถึงวันนี้ หลิงติงหยางอ้างว้างถอนหายใจ”“นับแต่โบราณใครบ้างมิดับสูญ เหลือใจรักชาติในพงศาวดาร”ครั้นกล่าวออกมาก็ได้รีบเสียงปรบมือดังสนั่นขุนนางบุ๋นบู๊ที่ชมละครฉากเด็ดในแต่เดิม ยามนี้ยอมสยบกับความสามารถทางวรรณกรรมของเหลียงเทียนอี้แล้วไม่ว่าจะเป็นกลอนในสมัยใด เหลียงเทียนอี้ก็เหมือน

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1055

    ชั่วขณะ ท้องพระโรงเงียบกริบ สายตาของทุกคนรวมศูนย์อยู่กับตัวของเหลียงเทียนอี้แทบทั้งหมดในดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความยินดีหลังจากหลิ่วเหวินเซี่ยร่ายกลอนท่อนแรกออกมา เหลียงเทียนอี้กลับสามารถตอบสนองทันควันพร้อมต่อท่อนหลังความเร็วเช่นนี้เรียกว่าเร็วยิ่ง!“อวิ๋นเฉ่าสาทรฤดูมีเขียวแห่งวสันต์ของกวีราชวงศ์ซ่ง คือยอดบทกวีโดยแท้!”เหลียงเทียนอี้พยักหน้าอย่างสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มมั่นใจงานนี้ทำให้เหลียงเทียนจื้อที่อยู่ข้างล่างหน้าตึงฉับพลันเหลียงจ้านอิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยิ่งหนักกว่า สายตาที่มองมาราวกับมีไฟพุ่งออกมาได้“บ้าเอ๊ย...ถูกชิงตัดหน้าไปก่อน!”เหลียงเทียนจื้อกัดฟันกรอด ในใจกรุ่นโกรธไม่หยุดทั้งที่เขาทำการบ้านมาล่วงหน้า ไม่ว่าหลิ่วเหวินเซี่ยจะท่องกลอนบทใดเขาก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วแต่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขากลับเร็วสู้เหลียงเทียนอี้ไม่ได้!และไม่รู้ว่าตัวเองโง่เขลาหรือเหลียงเทียนอี้เก่งจริงกันแน่!“รัชทายาททรงภูมิแท้ ข้าน้อยเลื่อมใส!”หลิ่วเหวินเซี่ยพยักหน้าด้วยสีหน้าคงเดิมทว่าในใจกลับไม่พอใจเล็กน้อยแล้วคิดไม่ถึงว่าเหลียงเทียนอี้ผู้นี้จะมีฝีมือ เขาจงใจเลือกบทกวี

  • รัชทายาทชะตาฟ้า   บทที่ 1054

    การกระทำเช่นนี้คือการแสดงความยโสหยิ่งผยองของซยงหนูอย่างมิต้องสงสัย“เหมิงฉา คารวะรัชทายาท”“หลิ่วเหวินเซี่ย คารวะรัชทายาท”คนอื่น ๆ ก็ทักทายตามด้วยเหมือนกัน เมื่อนั้นเหลียงเทียนอี้จึงรู้ฐานะของพวกเขาดูแล้วหนึ่งคนในนั้นก็คือบุตรชายของเหมิงเก๋อเอ่อร์ หรือก็คือคนที่มาท้าทายเขาในครั้งนี้อย่างที่เหลียงจ้านอิงบอก การมาครั้งนี้ของเหมิงเก๋อเอ่อร์ก็เพื่อหยั่งเชิงเขาโดยอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนฮ่องเต้ต้าเหลียง ดังนั้นเรื่องที่เริ่มสนทนาในท้องพระโรงจึงเกี่ยวกับสุขภาพของฮ่องเต้ต้าเหลียงแทบจะทั้งหมดทว่าทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี จุดประสงค์ของผู้นิยมสุรามิได้อยู่ที่สุรานี่อย่างไร ครั้นเปลี่ยนเรื่อง เหมิงเก๋อเอ่อร์ก็กล่าวถึงการแข่งขันเลย“ได้ยินว่ารัชทายาทและองค์ชายสามเก่งทั้งบุ๋นแล้วบู๊มานาน คืออัจฉริยะของต้าเหลียง การมาเยือนต้าเหลียงครั้งนี้ นอกจากจะเยี่ยมฮ่องเต้ต้าเหลียงสหายเก่าท่านนี้ ก็อยากให้บุตรชายได้ประมือกับรัชทายาทและองค์ชายสักหน่อย”เหมิงเก๋อเอ่อร์สีหน้าขึงขัง ในที่สุดก็เข้าประเด็นชั่วขณะ ทุกคนในท้องพระโรงหัวใจจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ต่างสังเกตสีหน้าเหลียงเทียนอี้อย่างแนบเนียนทว่าเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status