“อย่า! อื๊อ...” อินนัดดาร้องห้ามอีกครั้ง แต่ปัณณธรไม่อยากได้ยิน เขาผละจากอกนุ่มหยุ่นอย่างเสียดาย แต่เขารำคาญเสียงสะอื้นและถ้อยคำที่คอยแต่จะห้ามเขาอยู่ตลอดเวลามากกว่า ชายหนุ่มเลือกที่จะดูดซับเสียงนั้นไว้ทั้งหมดด้วยการมอบจูบที่เร่าร้อนให้หญิงสาวเนิ่นนาน
“เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน ร่างกายของเธอเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้อินนัดดา” ปัณณธรกระซิบเสียงเครียด บอกคนที่หอบหายใจแรงให้รับรู้
“หนูจะหย่า หนูไม่แต่งงานกับคุณแล้ว ปล่อยนะ ปล่อย”
“ฉันปล่อยเธอไปแน่ แต่ต้องหลังจากที่เธอสูญเสียทุกอย่าง!!”
ปัณณธรตะคอกเสียงดัง มือใหญ่จับบ่าบอบบางทั้งสองข้างบีบแน่น อินนัดดาเจ็บจนต้องนิ่วหน้า
“แต่ฉันจะปราณี...อย่างน้อย ฉันจะให้เธอได้เหลือลมหายใจกลับไป” ชายหนุ่มยิ้มร้ายกาจ จนอินนัดดารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
“คุณมันโรคจิต ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย”
“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกอินนัดดา แม้แต่ครอบครัวของเธอ พวกเขายังเต็มใจยกเธอให้ฉันเลย”
“ปล่อยนะ ไอ้โรคจิต อื๊อ!” ปัณณธรจูบปากเล็กช่างโวยวายอีกครั้ง เร่าร้อนและรุนแรงจนอินนัดดาแทบขาดใจ ชายหนุ่มดึงผ้าขนหนูให้พ้นจากร่างตนเอง ความแข็งแกร่งร้อนผ่าวแนบไปบนต้นขาเนียน และนั่นทำให้อินนัดดาเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ปัณณธรไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปแล้ว ร่างนุ่มนิ่มเนียนมือ กลิ่นกายสาวหอมกรุ่น และรสจูบไม่ประสาที่หวานล้ำ ทำให้ร่างใหญ่รุ่มร้อน กลางกายเหยียดขยายเคร่งครัด เขาจับต้นขาเนียนแยกกว้างแล้วกดทับไว้ด้วยต้นขาของตนเอง สะโพกสอบขยับถูไถความแกร่งแกร่งไปบนเนินเนื้อสาวนุ่มนิ่ม มือใหญ่ช้อนลงใต้สะโพกมนจับตรึงไว้รอรับการสอดแทรก
“อา...ร้อนเร็วดีมากอินนัดดา” เนื้อนุ่มเสียดสีกับความแข็งแกร่งซ้ำๆ ทำให้อินนัดดาปั่นป่วนวาบหวิวไปทั้งร่าง กลางกายสาวกลั่นน้ำหวานออกมามากมาย หญิงสาวไม่ได้ดิ้นรนหนีเขาอีกต่อไป มือที่คอยผลักไสกลับยกขึ้นกอดร่างใหญ่ไว้แน่น ขาเรียวแยกกว้างแอ่นสะโพกขึ้นรับการเสียดสี อยากได้มากกว่า
นี้อยากใกล้ชิดมากกว่านี้ ปัณณธรหัวเราะในลำคออย่างพอใจ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจ้องมองดวงหน้าเนียนแดงเรื่อ เธอหลับตาพริ้ม ปากเล็กบวมเจ่อเพราะถูกเขาจูบซ้ำๆเผยอเล็กน้อย เขายิ้มอย่างดูแคลน ก่อนจะยกสะโพกขึ้นค่อยๆกดส่วนปลายลงในร่องรักชุ่มฉ่ำ
“อ๊ะ!” อินนัดดาเบิกตากว้างเมื่อถูกรุกล้ำ ความคับแน่นของช่องทางรักที่ยังไม่เคยมีสิ่งใดกล้ำกราย ทำให้ความใหญ่โตของคนรุกรานไม่สามารถเข้าไปได้อย่างใจคิด ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ และพยายามที่จะแทรกตัวตนเข้าไปในร่างหญิงสาวให้ได้
“เจ็บนะ เอามันออกไป ฮึกๆ” ปัณณธรกำหมัดแน่นทุบลงบนโซฟา เขาทรมานต้องการปลดปล่อย แต่ความคับแน่นและอาการดิ้นรนของเจ้าสาวตัวเล็ก ทำให้เขาต้องหยุดการทุกอย่างไว้ก่อน เพราะหากขืนบุ่มบ่ามเดินหน้าต่อ อินนัดดาคงไม่สามารถไปร่วมงานเลี้ยงฉลองค่ำนี้ได้แน่ นี่แค่ส่วนปลายลำแกร่งเดินทางไปจดจ่ออยู่ทางเข้า คนตัวเล็กใต้ร่างยังดิ้นรนแทบเป็นแทบตาย
อินนัดดารีบหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง ถอยร่นไปจนชิดพนักวางแขนโซฟาอีกด้านทันที เมื่อเจ้าบ่าวที่เกือบปล้นพรหมจรรย์ของเธอลุกขึ้นนั่ง หญิงสาวงอเข่ากอดตัวเองมองหน้าชายหนุ่มอย่างหวาดกลัว ปัณณธรกระตุกยิ้มร้ายกาจ ขยับตัวเร็วรวบเอาร่างเล็กมานั่งบนตักตัวเอง
“ปล่อยนะ...”
“อย่าดิ้น! ไม่อย่างนั้นเธอได้เสียเลือดแน่” เสียงขู่ที่ดังอยู่แนบต้นคอด้านหลังทำให้อินนัดดาชะงักนั่งนิ่ง จมูกโด่งที่ซุกไซ้ดอมดมและความแข็งขึงที่ดุนดันอยู่ชิดสะโพก ทำให้หญิงสาวนั่งตัวเกร็งหลับตากัดฟันแน่น
“อุ๊ย!” เสียงหวานอุทานแผ่ว เมื่อปัณณธรเอนหลังกับพนักโซฟา จับพลิกร่างเล็กให้หันหน้ามาหาตนเองและนั่งคร่อมบนต้นขาแกร่ง อินนัดดาหลุบตามองความใหญ่โตที่อยู่กลางกายชายหนุ่ม แล้วรีบเงยหน้าขึ้นทันที แก้มสาวร้อนผ่าวแดงเรื่อซับสีเลือด
“เลือกเอาระหว่างที่จะให้มันเข้าไปอยู่ในตัวเธอ หรือเธอจะทำยังไงก็ได้ให้มันสงบลง” อินนัดดาสบตาคนพูด ด้วยแววตาที่อยากจะร้องไห้เหลือเกิน ถึงจะไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายใดมาก่อน แต่เธอก็ใช่ว่าจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ ปัณณธรเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามว่าเธอจะเลือกแบบไหน วงแขนแกร่งที่กอดเอวคอดของเธอไว้หลวมๆเริ่มกระชับแน่น อินนัดดาจึงเลือกที่จะเอื้อมมือออกไปเพื่อจะสัมผัสตัวตนของชายหนุ่ม อย่างน้อยมันก็ดีกว่าที่เธอจะต้องเสียเลือด เสียพรหมจรรย์ให้กับคนที่ไม่ได้รักกันไม่ใช่เหรอ หญิงสาวหลับตาลูบมือคลำผ่านกล้ามเนื้อหน้าท้องจนถึงสิ่งที่ร้อนผ่าวและแข็งกร้าว สองมือเล็กรวบไว้แน่น จนเจ้าของมันสะดุ้ง
“ขยับสิอิน อา...” อินนัดดาเพียงแค่จับแล้วปล่อยลูบไปมา เธอไม่รู้ว่าขยับของเขาเป็นแบบไหน มือนุ่มนิ่มที่ป่ายปัดลูบคลำสะเปะสะปะไม่ได้ดั่งใจ แต่ก็ก่อให้เกิดความเสียวซ่านนัก ปัณณธรจึงจับสองมือน้อยนำทางให้เธอรู้ว่าเขาต้องการเช่นไร ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะทรมานตายเพราะความอัดอั้นเสียก่อน เมื่อหญิงสาวจับจังหวะได้จึงปล่อยให้เธอเป็นคนควบคุมเอง ใบหน้าหล่อเข้มก้มลงซุกไซ้ที่อกอวบ ดูดดึงและขบเม้มสร้างรอยไว้เพื่อให้รู้ว่าเขาคือเจ้าของร่างนี้ มือใหญ่บีบเคล้นสะโพกเต่งตึงไล้วนขึ้นมาที่แผ่นหลังเนียน กดให้หญิงสาวแอ่นตัว เพื่อป้อนอกอวบเข้าปากของตนเองได้ถนัด อินนัดดายอมทุกอย่างไม่ดีดดิ้น เพราะกลัวเขาจะรุกรานในจุดที่เธอหวาดกลัวที่สุด
“อืม...เร็วอีกนิด” เขาสั่งขณะที่ซุกไซ้ดอมดมไปตามอกอวบที่ตอนนี้ปรากฏรอยอยู่หลายจุดแล้ว“อยากได้ไหม ตรงนี้” นิ้วเรียวใหญ่แทรกเข้าไปในร่องรักรวดเร็วจนหญิงสาวสะดุ้ง แต่คนถูกรุกรานไม่รู้สึกรังเกียจ กลับแหงนเงยหน้าครางเสียงหวานและเร่งจังหวะมือที่กอบกุมความแข็งแกร่งอยู่เร็วขึ้น“คุณปัณ...อ๊ะ!” นิ้วเรียวใหญ่ค่อยๆกดแทรกเข้าในความคับแน่นอุ่นลื่นจนสุด สะโพกสวยแอ่นหยัดรับท้าทาย ถึงจะเจ็บแต่ก็เต็มตื้นซ่านกระสันแทบขาดใจ คนช่ำชองหมุนควานบดบี้ติ่งเล็กสีสวยจนร่างเล็กดิ้นพล่านครางเสียงหลง แล้วขยับรัวดึงนิ้วเข้าออกรุนแรง จนคนที่ถูกกระทำกลัวน้อยหน้า เร่งรัวชักนำให้ชายหนุ่มเดินทางใกล้จุดหมายไปทุกที“อ๊ะ...คุณปัณ ช่วยด้วย หนูอื๊อ...อ๊า” อินนัดดาแหงนเงยหน้าส่ายสะบัด สะโพกสวยขยับรับการจุ่มจ้วงจากนิ้วเรียวใหญ่ มือเล็กขยับเร็วแรงให้เท่าเทียมกับจังหวะที่ตัวเองถูกรุกราน ปัณณธรจ้องมองท่าทางและสีหน้าของหญิงสาวอย่างสมใจ เขาใกล้จะแตะปลายทางของเกมรักแล้ว และก็รับรู้ได้ว่าอินนัดดาก็ไม่ต่างจากเขา เพราะร่องรักที่แสนจะคับแน่นของเธอกำลังตอดรัดนิ้วของเขาเป็นจังหวะ“ใกล้แล้วใช่ไหมอิน ชอบไหม”“อ๊า! ชอบค่ะ” อินนัดดาสูญสิ้นควา
“คุณปัณอ่ะ ไม่ถนอมเจ้าสาวเลย ดูซิผิวสวยๆเป็นรอยหมดเลย นี่พวกแกจำได้ไหมเดือนที่แล้วที่เราไปแต่งหน้าในงานแฟชั่นโชว์อ่ะ ยายลิซน่ะก็มีรอยอย่างนี้หนึ่งรอย หล่อนนะโม้ใหญ่เลยว่าเป็นรอยที่คุณปัณฝากไว้ เพื่อแสดงว่าเขาเป็นเจ้าของหล่อน ฉันล่ะอยากให้นางมาเห็นเสียจริง ว่าคนที่คุณปัณเขาแสดงความเป็นเจ้าของทุกตารางนิ้วน่ะ คือคุณอินเจ้าสาวคนสวยคนนี้เท่านั้น ใช่ไหมคะคุณอิน” อินนัดดาจ้องหน้าคนพูดนิ่ง อยากจะบอกเหลือเกินว่าเธอไม่ได้ภูมิใจกับร่องรอยที่เกิดจากฝีมือเขาสักนิดหรอก สาวประเภทสองอ้าปากค้างเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่ถูกแซวไม่มีท่าทางว่าจะรับมุขของตัวเอง“เอ่อ...คุณอินคะ เขาลือกันว่าคุณปัณน่ะ เอ่อ...” สาวประเภทสองอีกคนขยับเข้าใกล้เธอ กระซิบกระซาบถามเบาๆ“บิ๊กเบิ้มแล้วก็อึดมาก แถมยังท่ายากเยอะนะคะ เป็นอย่างนั้นจริงๆไหมคะ” คนถูกถามหน้าแดงเรื่อ หญิงสาวถอนหายใจหนักหน่วง ตีหน้าขรึมกวาดสายตามองทุกคนที่จ้องตัวเอง รอคำตอบกันอย่างใจจดจ่อ เธอเพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขาวันนี้นะ พวกนี้คิดว่าเธอมีอะไรกับเขาแล้วหรือยังไง“ไม่ทราบค่ะ” อินนัดดาตอบคำถามเสียงดังและห้วน บรรดาช่างแต่งหน้าทำผมต่างทำหน้าเลิกลั่ก แล้วต่
“นี่คุณแม่ฉัน” อินนัดดาเหวอไปชั่วขณะ รีบยกมือไหว้แทบไม่ทัน“สวัสดีค่ะ” มือเล็กกระพุ่มไหว้อย่างงดงาม ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มจริงใจและรู้สึกได้ถึงความกังวลใจที่อีกฝ่ายมองมาที่ตน“แม่ยินดีรับหนูมาเป็นลูกสะใภ้นะ ขอโทษด้วยที่เมื่อเช้าไม่ได้มาร่วมงาน พอดีคุณหมอนัดตรวจน้องปานน่ะจ้ะ” อินนัดดาพยักหน้ารับทราบ ก็เธอกับปัณณธรแต่งงานกันราวกับสายฟ้าแลบ มันเร็วจนเธอยังเองยังตั้งตัวไม่ทันเลย แล้วคนอื่นใครเขาจะไปเตรียมตัวทัน“ขอบคุณค่ะคุณผู้หญิง”“อุ๊ย! เรียกแม่เถอะจ้ะ อ้อ...นี่น้องปานเป็นน้องสาวของตาปัณ สุดรักสุดหวงของเขา เอ่อ...น้องมีปัญหาเรื่องสุขภาพนิดหน่อย”“พอแล้วครับคุณแม่ เดี๋ยวผมจะให้คนพาคุณแม่กับน้องไปพักผ่อนที่บ้านเรานะครับ” ปัณณธรตัดบทสนทนาของทั้งสอง ในขณะที่ปานรักยิ้มหวานมองหน้าคนนั้นคนนี้คุยกัน โดยที่หญิงสาวไม่พูดอะไร“คุณพ่อไม่ให้ค้างจ้ะปัณ เดี๋ยวแม่จะพาน้องกลับเลย น้องปานคิดถึงคุณพ่อใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ น้องปานคิดถึงคุณพ่อ พี่ปัณจะพาเจ้าสาวสวยๆไปอยู่กับน้องปานใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามขณะที่จ้องหน้าพี่สะใภ้ของตนเองอย่างชื่นชม“เอาไว้พี่จะพาคุ
“กลัวทำไม มันเป็นเรื่องปกติ ฉันจะสอนเธอให้รู้ทุกอย่าง ให้รับรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง ตำแหน่งเมียของเธอสำหรับฉันแล้ว มีหน้าที่แค่นอนแผ่บำเรอร่างกายให้ฉันเท่านั้น”“ไม่! อย่ามาทำแบบนี้กับหนูนะ” อินนัดดากลัวขึ้นมาจับใจ เขาเป็นบ้าอะไรกัน ดวงตาดุดันและหน้าตาเอาเรื่องนั่น ทำให้หญิงสาวหวาดกลัว"ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต" เสียงทุ้มแผดลั่น ขณะที่ร่างใหญ่โตก้าวย่างช้าๆเข้าหาร่างเล็กที่นั่งขดตัวอยู่บนเตียงกว้าง ซึ่งโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่ เตียงสำหรับคู่บ่าวสาวในคืนแต่งงานคืนแรก"แล้วหนูไปเกี่ยวอะไรด้วย หนูไม่เคยทำร้ายใคร คุณจะมาทำร้ายหนูทำไม" อินนัดดาตอบโต้ด้วยเสียงไม่เบานักเธอไม่ได้เป็นผู้หญิงหงอๆที่จะยอมใครไปเสียทุกเรื่องหรอกนะ ที่ยอมแต่งงานด้วยก็เพราะเหตุผลทางธุรกิจตามที่คุณอาขอร้อง ก็เหมือนคู่อื่นทั่วไปที่อยู่ในแวดวงธุรกิจ และต้องอาศัยเกื้อกูลกันเท่านั้นแหละ"เพราะเธอเป็นครอบครัวเดียวกับมัน" ปัณณธรหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนเขาจะคาดการณ์ผิดเล็กน้อย เพราะจากที่คิดว่าอินนัดดาจะพูดแล้วเข้าใจอะไรง่ายๆ แต่เธอกลับโวยวายไม่ยอมทำตามที่เ
“หึๆ...ฉันไม่รู้หรอกนะว่าครอบครัวเธอหมกเม็ดอะไรกันอยู่ เธอทำให้ฉันเสียเวลามากเกินไปแล้ว”“อื๊อ!” เสียงหวานถูกดูดซับด้วยริมฝีปากหยักได้รูป จุมพิตเร่าร้อนรุนแรง ไม่อ่อนหวานซาบซ่านเหมือนอย่างที่เพื่อนๆแซวไว้สักนิดความช่ำชองและมากประสบการณ์ของอีกฝ่ายทำให้อินนัดดาพ่ายแพ้ กายสาวบิดเร่าแอ่นรับทุกสัมผัสจากเขา ทุกสัมผัสดุดันรุนแรง แต่กระนั้นก็ยังปลุกอารมณ์เร้นลับในกายสาวให้ลุกโชติได้ปากร้อนลามเลียไปตามผิวเนื้อสาว ตีตรารอยราคีให้เด่นชัดทุกตารางนิ้วบนผิวเนื้อ ร่างเล็กสะดุ้งทุกครั้งที่ถูกขบเม้มด้วยฟันซี่สวย หากแต่อารมณ์หวามที่โหมกระพือรุนแรงทำให้อินนัดดาไม่ดิ้นรนผลักไส เธออยากได้บางอย่างจากปัณณธร อยากให้เขาปลดปล่อยเธอจากความทรมานที่แสนอึดอัด“อื๊อ! คุณปัณ” เสียงกระเส่าของคนใต้ร่างทำให้คนที่ซุกไซ้อยู่กับอกอวบเหยียดยิ้ม ใบหน้าสากระคายเลื่อนต่ำลงสู่เนินเนื้อล่อตาล่อใจ ขาเรียวถูกจับแยกกว้างอวดความงามสีสดท้าทายสายตาคนมอง ปัณณธรไม่อ่อนโยนสักนิด ผิวเนื้อนิ่มถูกฉกชิมขบเม้มรุนแรงตามอารมณ์ร้อนและร้าย มือใหญ่จับตรึงสะโพกมนแน่น ปากและลิ้นของเขาทำให้กายสาวสั่นระริก สัมผ
“คิดว่าฉันไม่เกลียดเธอหรือไง” ปัณณธรตะคอกเสียงดัง เขาถอดถอนตัวเองออกจากความอุ่นนุ่ม ไม่มีการปลอบประโลม ไม่มีสัมผัสออดอ้อนเอาใจ ชายหนุ่มผละจากร่างบอบช้ำ ลุกขึ้นไปยืนข้างเตียง อินนัดดาพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้เขาทันที หญิงสาวขดตัวกอดตัวเองไว้แน่น แผ่นหลังเนียนสะท้านไหวบอกให้รู้ว่าเจ้าของมันกำลังสะอื้นไห้ ดวงตาคมเหลือบเห็นร่องรอยความบริสุทธิ์ของเธอ เขาเมินหนีรอยด่างดวงสีแดงนั่น บอกตัวเองว่าอย่าไปสนใจอย่าสงสาร แต่หัวใจกลับกระตุกวูบไหวปัณณธรเสยผมแรงๆสองสามครั้ง แล้วเดินหนีเข้าห้องน้ำไปทันที ความหวานหอมของร่างแน่งน้อยบนเตียงทำให้เขาอยากกระโจนเข้าหาเธออีก หัวใจที่คิดว่าเคียดแค้นนักหนาทำไมถึงได้อ่อนยวบลงได้ ชายหนุ่มเลือกที่จะเดินหนีไป ก่อนที่กำแพงที่เขาสร้างขึ้นมากางกั้นระหว่างเขาและเธอจะสั่นคลอนประตูห้องน้ำที่ปิดเสียงดัง ทำให้อินนัดดาสะดุ้ง ทำนบน้ำตาพังทลายไหลบ่าเป็นสายอีกครั้ง บริษัทของพ่อกำลังจะตกเป็นของคนอื่น เธอไม่ได้เสียดายมูลค่าของมัน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมอาแท้ๆถึงได้ปิดบังเธอ แล้วยังผลักไสให้เธอมาแต่งงานกับผู้ชายโหดร้ายคนนี้ ไหนใครๆก็บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดใ
“อื้อ คุณปัณอย่าค่ะ” ร่างเปล่าเปลือยพยายามดิ้นรนหนีจากการรุกราน หากแต่อารมณ์บางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในทำให้อินนัดดาเริ่มคล้อยตามสัมผัสจาบจ้วงของเขา ทรวงอกอวบถูกครอบครองดูดกลืนขบเม้ม อีกข้างถูกบีบเคล้นราวกับต้องการให้แหลกคามือ“หนูกลัว” ร่างเล็กสั่นสะท้าน บอกความรู้สึกจริงๆออกไป หวังเพียงให้เขาปราณีไม่ข่มเหงเอาแต่ใจเหมือนคืนแรกของการเข้าหอ“นั่นเป็นสิ่งที่ฉันอยากให้เธอรู้สึก” ปัณณธรกดเสียงต่ำรอดไรฟัน เขาผละจากเธอไปครู่เดียวเพื่อจัดการกับเสื้อผ้าของตน ก่อนจะโถมร่างมาทับเธอไว้อีกครั้ง“คุณบ้าไปแล้วแน่ๆ ปล่อยหนูนะ กรี๊ด!!!” ความใหญ่โตแข็งแกร่งที่แทรกลึกเข้ามากลางร่างทั้งที่เพิ่งถูกโหมโรงไปเพียงนิด ทำให้อินนัดดากรีดร้องเสียงหลง หญิงสาวจิกข่วนแผ่นหลังกว้างจนเป็นรอยยาว ปัณณธรไม่รั้งรอที่จะเร่งสะโพก โหมแรงถาโถมใส่ร่างเล็ก ชายหนุ่มไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าที่ทำอยู่เพราะอยากทำร้าย หรือเพราะต้องการเธอจนแทบจะลงแดงตายกันแน่ความเจ็บแปลบกลางกายค่อยๆเลือนหายไป ความวาบหวิวก่อตัวขึ้นทีละนิด จนที่สุดแล้วอินนัดดาเริ่มขยับสะโพกรับทุกจังหวะการกดแทรกลงมากลางกายตน ความคั
“หยุดโวยวายได้แล้วอินนัดดา เธอไม่มีสิทธิ์มาตะโกนด่าผัวปาวๆแบบนี้ ถ้าฉันคึกอยากลงโทษขึ้นมาเธอจะเดือดร้อน” คนขับรถตัวโตตะคอกกลับเสียงดัง หญิงสาวตัวเล็กจึงได้แต่นั่งขดตัวกระชับเสื้อตัวใหญ่คลุมร่างเปลือยของตัวเองไว้แน่น น้ำตาคลอหน่วยด้วยความน้อยใจคนรอบข้าง อาเพ็ญให้เธอมาแต่งงานกับคนโรคจิตแบบนี้ได้ยังไง หัวใจดวงน้อยคิดถึงพี่ชายต่างสายเลือดที่เคยช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างเสมอเวลาเธอเดือดร้อน พี่ก้องอยู่ไหนมาช่วยน้องด้วย คนใจร้ายจะพาน้องไปทำร้าย อินนัดดากลืนก้อนสะอื้นลงในลำคอ พลิกกายหันหลังให้คนขับรถใจร้าย ร่างบางสั่นสะท้านเป็นระยะ หากแต่คนที่เหลือบตามองกลับยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ แล้วความเพลียจากการถูกรังแกเมื่อคืน ทั้งยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้าจึงทำให้หญิงสาวผล็อยหลับไปอินนัดดาตื่นมาอีกครั้ง เมื่อรับรู้ว่าแรงสั่นสะเทือนของยานพาหนะที่เธอนั่งมันเริ่มรุนแรง ประกอบกับหน้าผากของเธอไปชนกับประตูรถเข้าอย่างจัง“โอ๊ย! คนบ้า ขับให้มันดีๆหน่อยสิ” ปัณณธรปรายตามองคนที่ตวาดเขาแว้ดๆครู่เดียว แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ ทางเข้า ‘บ้านสวนปานรัก’ ค่อนข้างกันดารเป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะเป็นความตั้งใจ
“อืม...พี่ก้อง พี่ก้อง” ปานรักเงยหน้าครวญครางเรียกชื่อสามีแผ่วเบา ด้วยความซ่านเสียวไปทั้งร่าง ริมฝีปากหยักได้รูป ดูดกลืนยอดอกที่อยู่ตรงหน้าอย่างตะกรุมตะกราม มือใหญ่ขยับสะโพกมนให้เข้ากับจังหวะที่ตนเองแอ่นสะโพกสอดเสยขึ้น จนเมื่อปานรักเริ่มเรียนรู้ที่จะรุกรับอย่างคนหัวไว ก้องภพจึงเคลื่อนมือขึ้นบีบเคล้นอกอวบนุ่มหยุ่นมือ จับฐานอกอวบบีบป้อนเข้าปากตัวเองดูดกลืนขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนไล้วนตวัดรอบเม็ดทับทิมสีหวาน รวบดูดรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลากดแนบไปกับอกอวบ ซุกไซ้อย่างหลงใหล“อื้อ...พี่ก้อง” ปานรักโหมสะโพกแรงตามอารมณ์หวามที่ทะยานจนใกล้ถึงปลายทาง หญิงสาวครางแว่วหวาน สลับการการเรียกชื่อสามี ใบหน้างามส่ายสะบัดจนผมยาวสยายเต็มหลัง ก้องภพละมือจากอกอวบ รวบเอวคอดไว้แน่น ขณะที่ทั้งเขาและภรรยาขยับโยกในจังหวะรุกรับรุนแรง ชายหนุ่มซุกใบหน้าลงคลุกเคล้ากับอกอวบดีดเด้งตรงหน้า สูดดมและขบเม้มเบาๆ เพิ่มความเสียวปลาบให้ร่างเล็กจนต้องครวญครางซ้ำ บทเพลงรักบรรเลงไปตามท่วงทำนองร้อนเร่า ต่างเติมเต็มให้กันและกันด้วยไฟปรารถนา“ปานน่ารักที่สุด ที่รักของพี่...อา” ก้องภพเกร็งสะโพกรับการโห
“ไม่เหนื่อยสักนิดครับ แต่คิดถึงเมียแทบขาดใจ” แก้มสาวแดงเรื่อท่ามกลางแสงไฟสลัวภายในห้อง ปานรักจึงพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้ หนีแววตาคมปลาบที่จ้องมองไม่วางตานั้น ก้องภพเอนตัวลงสอดกายลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกับภรรยา เขาวาดวงแขนไปโอบกอดร่างเล็กที่นอนหันหลังให้“น้องปานบอกว่าจะตามใจพี่ทุกอย่าง” ปฏิบัติการทวงสัญญาขาหื่นเริ่มขึ้น พูดจบก็เป่าลมร้อนใส่หูเล็ก พร้อมทั้งขบเม้มเบาๆสร้างความปั่นป่วนให้คนที่นอนใจเต้นแรงอยู่อย่างห้ามไม่ได้ ปานรักหดคอเล็กน้อย“ใครสัญญาอะไรหรือคะ ปานไม่เห็นรู้เรื่อง” หญิงสาวอมยิ้มขณะที่ตอบกลับมา“หืมมม...จำไม่ได้จริงๆเหรอ” ก้องภพพลิกกายขึ้นทาบทับภรรยา สบตายตาถามเอาคำตอบ“จำไม่ได้ค่ะ” ปานรักเบี่ยงหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา กายสาววูบวาบ แก้มนวลร้อนผ่าว“แน่ใจเหรอว่าจำไม่ได้” ขาแกร่งบดเบียดขาเรียวจนแยกกว้าง ก้องภพแทรกตัวเองไปอยู่ระหว่างขาเรียวนั้น บดเบียดความแข็งขึงกับกลางร่างสาว ในนาทีนั้นเองที่ปานรักเพิ่งสังเกตว่าสามีของเธออยู่ในสภาพเปลือยกาย เขาถอดกางเกงออกตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย หญิงสาวทุบบ่ากว้างเบาๆ หันมาสบสาย
เมื่อถึงฤกษ์ส่งตัวเข้าหอ บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พากันกล่าวคำอวยพร และคำอวยพรที่เจ้าสาวต้องหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก เห็นจะหนีไม่พ้น ขอให้มีลูกเร็วๆ และขอให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนั่นแหละ“พ่อฝากน้องด้วยนะก้อง พ่อเชื่อว่าป้องจะดูแลปานแทนพวกเราได้ ขอบใจมากที่ช่วยทำให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขอีกครั้ง” อานนท์ตบบ่าลูกเขยที่นั่งคู่กับลูกสาวอยู่บนพื้นห้องเบาๆ“ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องปานด้วยชีวิตของผมครับ” ก้องภพสบตาผู้สูงวัยกว่าด้วยแววตาแน่วแน่“หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก” ปรางทิพย์เอ่ยสำทับ คู่บ่าวสาวก้มลงกราบผู้สูงวัยทั้งสองที่ออกจากห้องหอทีหลังสุด ถึงแม้จะเคยอวยพรเคยกล่าวคำฝากฝังลูกสาวมาแล้วในพิธีการครั้งแรก แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังอยากย้ำอีกครั้ง ด้วยความที่ลูกสาวเจอะเจอเรื่องราวร้ายแรงมา จนแทบไม่ยอมรับรู้เรื่องราวอะไรรอบกาย แต่เพราะผู้ชายใจดีตรงหน้าเฝ้าถนอมและดูแลกันมาจนปานรักหายขาดจากอาการป่วย อานนท์และปรางทิพย์จึงไม่ลังเลสักนิดที่จะยกลูกสาวให้ชายหนุ่มดูแลสองหนุ่มสาวนั่งสบตากันบนพื้นห้องสวีตชั้นสูงสุดของโรงแรม ซึ่งถูกจัดแต่งเป็นห้องหอ อบอ
ก้องภพจับมือนุ่มของภรรยาเดินกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน ปานรักยิ้มเขินเมื่อถูกเอ่ยแซวจากญาติสนิท แก้มสาวแดงเรื่อแววตาเขินอายสบสายตาสามีเป็นระยะ เขาและเธอเข้าพิธีแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากวันที่ก้องภพคุกเข่าขอแต่งงานเพียงสองเดือนเท่านั้น พิธีแต่งงานแบบไทยที่เรียบง่ายถูกจัดขึ้นที่บ้านณปาย ตามความประสงค์ของบิดาและมารดาของฝ่ายเจ้าสาว หากแต่มารดาของเจ้าบ่าวอยากจัดพิธีฉลองสมรสที่โรงแรมของตนด้วย สามีภรรยาป้ายแดงจึงต้องทำตามความประสงค์ของมารดาอย่างเลี่ยงไม่ได้“เหนื่อยไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างห่วงใย เจ้าสาวยิ้มหวานส่ายหน้าแทนคำตอบ“คุณแม่เตรียมห้องสวีตไว้ให้ใช้เป็นห้องหอ เมื่อไหร่จะถึงเวลาส่งตัวเข้าหอสักทีนะ” นิ้วเรียวเล็กบิดเบาๆที่เอวของคนถามหาเวลาเข้าหอ สีหน้าเจ็บเกินจริงของเขาช่างหน้าหมั่นไส้นัก“ใจร้าย ทำร้ายร่างกายสามี” ก้องภพโอดเบาๆ“จะมาพูดถึงเวลาเข้าหออะไรตอนนี้ งานเพิ่งเริ่มเองนะคะ”“ก็พี่อยากเข้าหอกับน้องปานแล้วนี่”“บ้า ไม่ใช่เข้าหอครั้งแรกสักหน่อย” แก้มสาวแดงเรื่ออุบอิบเถียงสามี“จะครั้งไหนพี
“พี่รักม่อน พี่รักม่อน” ต้นตะวันถอดถอนกายออกแล้วพลิกร่างภรรยากลับมากอดไว้แน่น บอกรักขณะที่ริมฝีปากทั้งสองอยู่ชิดกัน มุทิตาโอบรอบลำคอหนา ก้มหน้าหนีริมฝีปากช่างจูบเอาแต่ใจนั้น หญิงสาวซุกหน้ากับอกกว้าง รอยยิ้มเปื้อนเต็มดวงหน้าหวาน“ม่อนก็รักพี่หมอค่ะ” มุทิตาบอกรักสามีเสียงหวานคืนนั้นที่เธอตกเป็นของเขา มันไม่ใช่การพลาดพลั้ง แต่มันคือพรหมลิขิตต่างหาก พรหมลิขิตที่ชักนำให้สองหัวใจผูกพัน จนกลายเป็นความรักที่สวยงาม“หลับหรือยังครับที่รัก” ปัณณธรเอนตัวลงนอนเคียงข้างภรรยา แล้วกระซิบถาม อินนัดดาพลิกตัวกลับมายิ้มให้สามี“หลับแล้วค่ะ” นิ้วเรียวดีดหน้าผากมนเบาๆ แต่กระนั้นก็เรียกเสียงโอดโอยจากคนโดนกระทำได้“โอ๊ย! พี่ปัณอ่ะ หนูเจ็บนะ” ปัณณธรยิ้มแล้วจูบหน้าผากมนแผ่วเบา“ก็อินกวนนี่นา” วงแขนแกร่งกอดร่างเล็กแน่น อินนัดดาดิ้นรน เพราะเธอสัมผัสได้ว่าสามีกำลังจะทำมิดีร้ายกับตัวเอง“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวน้องโปรดตื่น” ปัณณธรหัวเราะเบาๆ“นิดเดียวนะ พี่ใจจะขาด” ชายหนุ่มผละจากร่างนุ่มนิ่ม ลงไปยืนข้างเตียง แล้วดึงผ้าห่มลงไปปูที่พื้นหน้าตาเฉย“พี่ปัณ!” อิ
“ที่จริงบ้านสวนมึงก็มีนะ วันหลังเชิญไปพักที่บ้านตัวเองเลย” ปัณณธรยังไม่วายจิกกัดเพื่อต่อ จึงโดนภรรยาตีที่แขนเบาๆ“พี่ปัณพอแล้วค่ะ คุยกันดีๆไม่เป็นหรือไง”“ใช่ค่ะ เจอกันทีไรก็อย่างนี้ตลอด ทีหลังม่อนจะไม่มาด้วยแล้ว” ต้นตะวันกอดร่างภรรยาแน่นขึ้น โยกตัวช้าๆราวกับจะปลอบใจ“โอ๋ๆ ไม่กัดกันแล้วครับ อย่างอนนะที่รัก” มุทิตาถอนหายใจกับท่าทางเอาใจของสามี เขาไม่เคยอายที่จะสาดความหวานใส่เธอ แต่คนโดนปฏิบัตินี่สิ อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วหนุ่มสาวสองคู่นั่งคุยกันเรื่อยๆ จนก้องภพและปานรักขึ้นมาสมทบ หนุ่มสาวคู่ใหม่ที่ร่วมโต๊ะ ดูกระอักกระอ่วนใจที่ต้องมานั่งมอง ภาพคู่สามีภรรยาสวีตกันแบบไม่เกรงใจฟ้าดิน อินนัดดากับมุทิตาเกรงใจและหน้าไม่หนาพอเท่าสามี จึงพากันขอตัวเลี่ยงไปดูลูกที่นอนหลับอยู่ในห้อง ก้องภพและปานรักนั่งร่วมโต๊ะอยู่ครู่เดียวก็พากันขอตัวแยกย้ายไปนอน“ไม่น่าเชื่อว่ะ” ต้นตะวันยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นจิบแล้ววางลงที่โต๊ะ“อะไรไม่น่าเชื่อ”“อ้าว...ก็มึงกับอินไง กูเห็นขึ้นต้นแค้นแทบตาย แต่มาลงท้ายว่ารักหมดใจเนี่ย” ปัณณธรหัวเราะชอบใจกับคำพูดของเพื่อน
“น้องปานจะกลับบ้านณปายเลยจริงๆเหรอครับ” ก้องภพได้มีโอกาสคุยกันสองต่อสองกับหญิงสาว หลังจากอาหารมือค่ำจบลง สองหนุ่มสาวเดินลงจากเรือนมานั่งคุยกันที่ศาลาริมน้ำ“ก็คงกลับเลยค่ะพี่ก้อง ปานไปอยู่กระบี่ตั้งเกือบสามเดือนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ท่านเป็นห่วง” ปานรักยิ้มให้กับคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ยาวตรงข้ามกับตน“ไม่เห็นต้องเป็นห่วงอะไรเลย พี่ดูแลน้องปานได้” ก้องภพจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง เขาอกจะแตกตายอยู่แล้ว รอมาตั้งเกือบสามปี จนหญิงสาวเรียนจบ แล้วไปฝึกงานที่โรงแรมของพ่อเลี้ยงที่ยกให้เขาดูแลบริหารกิจการทั้งหมดแล้ว นี่ปานรักไม่เห็นใจเขาบ้างเลยเหรอ“เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย พี่ก้องจะมาดูแลปานได้ยังไง” แก้มนวลแดงเรื่อ ก้มหน้าซ่อนความอาย“โธ่ น้องปาน พี่รักน้องปานนะครับ แล้วก็รอมานานแล้วด้วย ไม่รู้ล่ะ ถ้าปานจะไปเปิดรีสอร์ตที่ปายจริงๆ พี่ก็จะตามไปอยู่ด้วย” ปานรักเงยหน้ามองผู้ชายที่เคยมาดนิ่ง แล้วอยู่ดีๆจะงอแงเอาแต่ใจกับเธอ“แล้วโรงแรมพี่ก้องล่ะคะ ใครจะดูแลให้”“ก็...ให้คุณแม่กลับมาดูแลเหมือนเดิม” เขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลย“บ้า...คุณแม่พี่ก้องอายุเยอะแล้
“พี่ปัณขี้โกง อื๊อ!” ปากเล็กถูกประกบจูบดูดดื่ม ขาเรียวถูกท่อนขาแกร่งแทรกลงตรงกลาง ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องใดๆ เพราะร่องรักของภรรยาชุ่มฉ่ำรอเขาอยู่แล้ว ปัณณธรกดแทรกลึกในคราเดียว สะโพกสอบโหมแรงอย่างเอาแต่ใจ ทั้งลูบไล้เคล้นคลึงไปทั่วร่างเนียนนุ่ม อินนัดดาบิดเร่าไปกับสัมผัสร้อนแรงของสามี อยากจะท้วงเหลือเกินว่าสองเดือนที่ผ่านมาเขาน่าจะทะลุเป้าแล้วนะ ถ้านับรวมบทรักด่วนที่เขาจัดอยู่บ่อยๆ แม้ในช่วงเวลาเร่งรีบเขาก็สามารถส่งเธอไปยังวิมานแสนหวานได้ และนำพาตัวเองตามไปติดๆทุกครั้ง แต่ก็เอาเถอะ...เธอยอม ยอมทุกอย่างที่ปัณณธรต้องการ เพราะถึงแม้เขาจะเรียกร้องเอาแต่ใจ แต่ทุกครั้งทุกสัมผัสหวามไหวจากสามี เธอเองก็รู้สึกชอบ และเริ่มจะหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้วการเริ่มต้นระหว่างปัณณธรกับเธออาจจะไม่งดงาม ออกจะโหดร้ายด้วยซ้ำ แต่ด้วยความผูกพันและรู้จักการให้อภัย จากไฟแค้นที่พร้อมจะแผดเผาหัวใจให้มอดไหม้ กลับหลอมรวมหัวใจเธอกับเขาให้เป็นหนึ่งเดียวได้ นับจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หัวใจสองดวงที่กลายเป็นหนึ่งเดียวกันนี้จะคงมั่นต่อกันตลอดไป“คุณหนูโปรดขาระวังค่า” เสี
“อินจ๋า ขยับหน่อยสิ รัดแน่นอย่างนี้พี่จะทนไม่ไหวแล้ว” อินนัดดาพ่นลมออกจากปากเบาๆ หญิงสาวเริ่มควบขับสามีเริ่มจากจังหวะช้าเนิบนาบ มือหนาของปัณณธรจิกลงบนที่นอนแน่น สะโพกสอบแอ่นรับทุกจังหวะที่ภรรยากดกระแทกลงมา“อื้อ! พี่ปัณขา” อินนัดดาเริ่มควบส่ายสะบัดสะโพกเร็วขึ้น ความเสียดเสียวก่อตัวขึ้นอยู่กลางร่าง ยิ่งบดเบียดแนบชิด ยิ่งซ่านกระสัน เร่งโหมสะโพกเข้าหาเพื่อไขว่คว้าความสุขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม จนคนที่ถูกควบขี่อยู่ก็เข้าใกล้เส้นชัยแล้วเหมือนกัน มือหนาจึงเลื่อนมากอบกุมสะโพกมนบังคับจังหวะเอาแต่ใจ อินนัดนาจึงตีสุดแรง พร้อมกับเสียงตวาดว่าสามี“พี่ปัณ อยู่เฉยๆ” คนอยู่ด้านบนโหมแรงทั้งหมดที่มีกดสะโพกลงเต็มแรงแล้วยกขึ้นรวดเร็ว เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงครวญครางของสองร่าง“พี่ปัณ พี่ปัณ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ” อินนัดดาบอกเสียงกระเส่า“พร้อมกันนะครับอิน พี่รักอิน พี่รักอิน” ปัณณณธรแอ่นสะโพกค้างรอรับการกดกระแทกจากคนบนร่าง มือหนาจิกที่นอนแน่น สายตาจับจ้องใบหน้างามของภรรยาที่ส่ายสะบัดเริงร่าอยู่บนตัวเขา สะโพกสวยเร่งรัวอีกไม่กี่ครั้งสองร่างก็ระเบิดพร่าง ไขว่คว้าดาว