“หึๆ...ฉันไม่รู้หรอกนะว่าครอบครัวเธอหมกเม็ดอะไรกันอยู่ เธอทำให้ฉัน
เสียเวลามากเกินไปแล้ว”
“อื๊อ!” เสียงหวานถูกดูดซับด้วยริมฝีปากหยักได้รูป จุมพิตเร่าร้อนรุนแรง ไม่อ่อนหวานซาบซ่านเหมือนอย่างที่เพื่อนๆแซวไว้สักนิด
ความช่ำชองและมากประสบการณ์ของอีกฝ่ายทำให้อินนัดดาพ่ายแพ้ กายสาวบิดเร่าแอ่นรับทุกสัมผัสจากเขา ทุกสัมผัสดุดันรุนแรง แต่กระนั้นก็ยังปลุกอารมณ์เร้นลับในกายสาวให้ลุกโชติได้
ปากร้อนลามเลียไปตามผิวเนื้อสาว ตีตรารอยราคีให้เด่นชัดทุกตารางนิ้วบนผิวเนื้อ ร่างเล็กสะดุ้งทุกครั้งที่ถูกขบเม้มด้วยฟันซี่สวย หากแต่อารมณ์หวามที่โหมกระพือรุนแรงทำให้อินนัดดาไม่ดิ้นรนผลักไส เธออยากได้บางอย่างจากปัณณธร อยากให้เขาปลดปล่อยเธอจากความทรมานที่แสนอึดอัด
“อื๊อ! คุณปัณ” เสียงกระเส่าของคนใต้ร่างทำให้คนที่ซุกไซ้อยู่กับอกอวบเหยียดยิ้ม ใบหน้าสากระคายเลื่อนต่ำลงสู่เนินเนื้อล่อตาล่อใจ ขาเรียวถูกจับแยกกว้างอวดความงามสีสดท้าทายสายตาคนมอง ปัณณธรไม่อ่อนโยนสักนิด ผิวเนื้อนิ่มถูกฉกชิมขบเม้มรุนแรงตามอารมณ์ร้อนและร้าย มือใหญ่จับตรึงสะโพกมนแน่น ปากและลิ้นของเขาทำให้กายสาวสั่นระริก สัมผัสรุนแรงจาบจ้วง ทำให้เธอเจ็บจนต้องจิกผ้าปูที่นอนแน่น ขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดอารมณ์เสียวซ่านแทบขาดใจ
“อ๊ะ อื๊อ กรี๊ดดด!” ใบหน้างามส่ายสะบัดก่อนจะแหงนเงยเกร็งค้าง เมื่อถูกส่งไปยังปลายทางของอารมณ์หวาม หยาดน้ำหวานกระเซ็นซ่าน ช่องทางรักตอดรัดลิ้นร้ายกาจที่สอดแทรกอยู่ภายในกาย
อินนัดดาหอบหายใจแรง เธอเหนื่อยและอ่อนเปลี้ยอย่างที่ไม่เคยเป็น ดวงตากลมโตปรือปรอยมองคนตัวโตผละจากตัวเอง เขากำลังจัดการปลดเปลื้อง
กางเกงออกจากตัวอย่างรวดเร็ว
“เธอเป็นของฉันอินนัดดา” เสียงทุ้มพร่าดังอยู่ชิดใบหูเล็ก อินนัดดาปรือตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาที่ชะโงกอยู่เหนือกายตน แววตาคมดุดัน สะกดให้หญิงสาวนอนนิ่ง มือใหญ่จับต้นขาขาวแยกกว้าง กดแนบไปกับที่นอนนุ่ม หมดเวลาล้อเล่นแล้ว แค่นี้ก็นับว่าเขาใจดีมากพอแล้ว มากเกินไปด้วยซ้ำ
“กรี๊ดดด” อินนัดดากรีดร้องสุดเสียง เมื่อความแข็งแกร่งกดแทรกลงกลางร่างรุนแรง ผ่านเยื่อปราการบางเบา ปัณณธรชะงักอยู่เพียงครู่เดียว เขาไม่ใส่ใจกับความบริสุทธิ์ของเธอสักนิด หญิงสาวเจ็บปวดราวกับว่าร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง น้ำตาไหลรินลงที่หางตา ยกมือขึ้นจับท่อนแขนแกร่งและจิกเล็บฝังลงในเนื้อแน่น ปัณณธรไม่ปล่อยให้เธอปรับตัวเข้ากับความใหญ่โตของเขา สะโพกสอบโหมรัวเร็วและหนักแน่น
“หนูเจ็บ ออกไปจากตัวหนู คนใจร้าย ใจร้าย ฮึกๆ” เสียงตัดพ้อและเสียงสะอื้นดังก้องห้องนอนกว้าง หากแต่ไม่สามารทะลุเข้าไปในหัวใจที่เคียดแค้นของอีกฝ่ายได้ ดวงตาที่มีน้ำเต็มหน่วย สีหน้าเจ็บปวดปานจะขาดใจนั้น คนกระทำรุนแรงไม่อยากเห็น ทำให้ปัณณธรเลือกที่จะซุกใบหน้ากับอกอวบ ขบเม้มดูดดึงเอาแต่ใจ เขาแตะต้องผิวเนียนทั่วร่างลูบไล้ฟอนเฟ้นด้วยอารมณ์ร้อน ไม่คิดจะผ่อนปรนสักนิด ถึงแม้จะรู้ว่าคนที่อยู่ใต้ร่างไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อนก็ตาม
มือที่จิกข่วนและยันอกกว้างหมดแรงร่วงลงข้างลำตัว อินนัดดาหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา เธอเลิกสะอื้นร่ำร้องขอให้เขาหยุด หญิงสาวกัดริมฝีปากล่างแน่นจนห้อเลือด ร่างเล็กขยับโยกไปตามแรงขับเคลื่อนของคนเอาแต่ใจ ทุกจังหวะรัวเร็วนั้นสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส แต่เพียงไม่นานอารมณ์หวามไหวกลับก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง ซ่านเสียวจนหัวใจดวงน้อยหวิวไหว ไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ร่างกายไม่รักดีมันร่ำร้องให้เธอตอบสนองเขา
“อ๊ะ!” สะโพกสวยส่ายร่อนรับทุกจังหวะของคนบนร่าง ถึงแม้เจ็บระบมจนน้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย หากแต่มีบางความรู้สึกดึงให้เธอไขว่คว้าเขาไว้ เขาจะเป็นผู้นำทางพาเธอไปยังจุดหมาย อินนัดดาไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันจะสิ้นสุดตรงไหน รู้เพียงแต่อยากไปให้ถึงตรงนั้น และมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะนำพาเธอไป
ปัณณธรขยับกายนั่งคุกเข่า สองร่างยังสอดประสานล้ำลึก ลำแขนแกร่งสอดลงใต้ขาพับรั้งสะโพกขึ้นเหนือที่นอน ก่อนจะโหมสะโพกใส่ร่องรักคับแน่นอีกครั้ง ดวงตาคมกล้าจ้องมองใบหน้าหวานที่ส่ายสะบัดบนที่นอน อินนัดดาไขว่คว้าวาดมือบนอากาศ ก่อนจะปล่อยลงข้างลำตัว แล้วจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น ร่างเล็กบิดส่ายและเขยื้อนไปตามแรงถาโถม รอยปื้นแดงตามเนื้อเนียนขาวผ่องทำให้ปัณณธรเหยียดยิ้ม ร่องรอยแค่นี้ยังน้อยไป เขาจะฝากฝังรอยราคีไว้บนร่างงดงามนี้ ให้มันลึกลงไปถึงก้นบึ้งหัวใจของเธอ ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต หัวใจต้องชดใช้ด้วยหัวใจเช่นกัน
“คุณปัณ คุณปัณ” หญิงสาวหลับตาแน่น ใบหน้าบิดเบ้ ครวญครางเสียงพร่า ความซ่านกระสันบิดเป็นเกลียวแน่น ก่อนจะระเบิดพร่างรุนแรง สะโพกสวยแอ่นหยัดค้าง ปัณณธรตอกย้ำความเป็นเจ้าของเธอด้วยการกระแทกลำกายแกร่งซ้ำๆอย่างรุนแรง เร่งนำพาตัวเองไปยังจุดหมายเดียวกับหญิงสาว
“อินนัดดา...อ๊ากกก” เสียงทุ้มคำรามก้อง ชายหนุ่มกดแช่กายแกร่งอยู่ในช่องทางรักบอบช้ำ ร่างใหญ่ทิ้งตัวลงทาบทับคนใต้ร่าง ไม่สนใจว่าคนร่างเล็กจะอึดอัดหรือหนักหรือเปล่า
“ออกไป!” คนพูดไม่รู้หรอกว่าเสียงของเธอนั้นเบานัก
“คนใจร้าย หนูเกลียดคุณ” อินนัดดาพยายามเหลือเกินที่จะไม่ร้องไห้ ที่เขาทำไปไม่ได้อ่อนโยนสักนิด เขาไม่ได้ทำกับเธอเหมือนคู่สามีภรรยา ทุกสัมผัสรุนแรงสร้างความร้าวระบมไปทั่วร่าง เขาทำราวกับว่าโกรธแค้นเธอนักหนา ทั้งๆที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าไปทำอะไรให้เขาเคียดแค้น
“คิดว่าฉันไม่เกลียดเธอหรือไง” ปัณณธรตะคอกเสียงดัง เขาถอดถอนตัวเองออกจากความอุ่นนุ่ม ไม่มีการปลอบประโลม ไม่มีสัมผัสออดอ้อนเอาใจ ชายหนุ่มผละจากร่างบอบช้ำ ลุกขึ้นไปยืนข้างเตียง อินนัดดาพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้เขาทันที หญิงสาวขดตัวกอดตัวเองไว้แน่น แผ่นหลังเนียนสะท้านไหวบอกให้รู้ว่าเจ้าของมันกำลังสะอื้นไห้ ดวงตาคมเหลือบเห็นร่องรอยความบริสุทธิ์ของเธอ เขาเมินหนีรอยด่างดวงสีแดงนั่น บอกตัวเองว่าอย่าไปสนใจอย่าสงสาร แต่หัวใจกลับกระตุกวูบไหวปัณณธรเสยผมแรงๆสองสามครั้ง แล้วเดินหนีเข้าห้องน้ำไปทันที ความหวานหอมของร่างแน่งน้อยบนเตียงทำให้เขาอยากกระโจนเข้าหาเธออีก หัวใจที่คิดว่าเคียดแค้นนักหนาทำไมถึงได้อ่อนยวบลงได้ ชายหนุ่มเลือกที่จะเดินหนีไป ก่อนที่กำแพงที่เขาสร้างขึ้นมากางกั้นระหว่างเขาและเธอจะสั่นคลอนประตูห้องน้ำที่ปิดเสียงดัง ทำให้อินนัดดาสะดุ้ง ทำนบน้ำตาพังทลายไหลบ่าเป็นสายอีกครั้ง บริษัทของพ่อกำลังจะตกเป็นของคนอื่น เธอไม่ได้เสียดายมูลค่าของมัน แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมอาแท้ๆถึงได้ปิดบังเธอ แล้วยังผลักไสให้เธอมาแต่งงานกับผู้ชายโหดร้ายคนนี้ ไหนใครๆก็บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดใ
“อื้อ คุณปัณอย่าค่ะ” ร่างเปล่าเปลือยพยายามดิ้นรนหนีจากการรุกราน หากแต่อารมณ์บางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นภายในทำให้อินนัดดาเริ่มคล้อยตามสัมผัสจาบจ้วงของเขา ทรวงอกอวบถูกครอบครองดูดกลืนขบเม้ม อีกข้างถูกบีบเคล้นราวกับต้องการให้แหลกคามือ“หนูกลัว” ร่างเล็กสั่นสะท้าน บอกความรู้สึกจริงๆออกไป หวังเพียงให้เขาปราณีไม่ข่มเหงเอาแต่ใจเหมือนคืนแรกของการเข้าหอ“นั่นเป็นสิ่งที่ฉันอยากให้เธอรู้สึก” ปัณณธรกดเสียงต่ำรอดไรฟัน เขาผละจากเธอไปครู่เดียวเพื่อจัดการกับเสื้อผ้าของตน ก่อนจะโถมร่างมาทับเธอไว้อีกครั้ง“คุณบ้าไปแล้วแน่ๆ ปล่อยหนูนะ กรี๊ด!!!” ความใหญ่โตแข็งแกร่งที่แทรกลึกเข้ามากลางร่างทั้งที่เพิ่งถูกโหมโรงไปเพียงนิด ทำให้อินนัดดากรีดร้องเสียงหลง หญิงสาวจิกข่วนแผ่นหลังกว้างจนเป็นรอยยาว ปัณณธรไม่รั้งรอที่จะเร่งสะโพก โหมแรงถาโถมใส่ร่างเล็ก ชายหนุ่มไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าที่ทำอยู่เพราะอยากทำร้าย หรือเพราะต้องการเธอจนแทบจะลงแดงตายกันแน่ความเจ็บแปลบกลางกายค่อยๆเลือนหายไป ความวาบหวิวก่อตัวขึ้นทีละนิด จนที่สุดแล้วอินนัดดาเริ่มขยับสะโพกรับทุกจังหวะการกดแทรกลงมากลางกายตน ความคั
“หยุดโวยวายได้แล้วอินนัดดา เธอไม่มีสิทธิ์มาตะโกนด่าผัวปาวๆแบบนี้ ถ้าฉันคึกอยากลงโทษขึ้นมาเธอจะเดือดร้อน” คนขับรถตัวโตตะคอกกลับเสียงดัง หญิงสาวตัวเล็กจึงได้แต่นั่งขดตัวกระชับเสื้อตัวใหญ่คลุมร่างเปลือยของตัวเองไว้แน่น น้ำตาคลอหน่วยด้วยความน้อยใจคนรอบข้าง อาเพ็ญให้เธอมาแต่งงานกับคนโรคจิตแบบนี้ได้ยังไง หัวใจดวงน้อยคิดถึงพี่ชายต่างสายเลือดที่เคยช่วยเหลือ และอยู่เคียงข้างเสมอเวลาเธอเดือดร้อน พี่ก้องอยู่ไหนมาช่วยน้องด้วย คนใจร้ายจะพาน้องไปทำร้าย อินนัดดากลืนก้อนสะอื้นลงในลำคอ พลิกกายหันหลังให้คนขับรถใจร้าย ร่างบางสั่นสะท้านเป็นระยะ หากแต่คนที่เหลือบตามองกลับยักไหล่แบบไม่ใส่ใจ แล้วความเพลียจากการถูกรังแกเมื่อคืน ทั้งยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้าจึงทำให้หญิงสาวผล็อยหลับไปอินนัดดาตื่นมาอีกครั้ง เมื่อรับรู้ว่าแรงสั่นสะเทือนของยานพาหนะที่เธอนั่งมันเริ่มรุนแรง ประกอบกับหน้าผากของเธอไปชนกับประตูรถเข้าอย่างจัง“โอ๊ย! คนบ้า ขับให้มันดีๆหน่อยสิ” ปัณณธรปรายตามองคนที่ตวาดเขาแว้ดๆครู่เดียว แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ ทางเข้า ‘บ้านสวนปานรัก’ ค่อนข้างกันดารเป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะเป็นความตั้งใจ
“ปล่อยนะปล่อย อื้อๆ” ริมฝีปากบางถูกลงทัณฑ์ข้อหาดื้อดึงไม่ทำตามคำสั่ง แรงกดจนเจ็บทำให้เธอเผยอริมฝีปากออก จึงถูกรุกล้ำเกี่ยวกระหวัดจนคนอ่อนประสบการณ์แทบขาดใจ กว่าปัณณธรจะยอมถอนจุมพิต ร่างบางก็อ่อนระทวยแทบทรุดหากไม่ได้ร่างคนตัวใหญ่บดเบียดแนบไว้กับต้นไม้ หญิงสาวหอบหายใจแรง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองคนตัวโตนิ่ง อยากดิ้นรนสะบัดตัวหนีเขา แต่รสจูบซาบซ่านทำให้เธอนิ่งรอคอยโดยไม่รู้ตัว ปัณณธรโน้มใบหน้าเข้าหาอีกครั้ง ดูดดึงริมฝีปากที่บวมเจ่อเล็กน้อย ละเลียดชิมขบเม้ม มือใหญ่บีบคลึงเต้าอวบที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อตัวใหญ่ แล้วค่อยๆเลื่อนขึ้นไปรูดซิปลงจนสุดทาง อินนัดดาอ้าปากจะประท้วงกลับโดนจู่โจมด้วยจุมพิตเร่าร้อนอีกครั้ง อกอวบถูกมือใหญ่บีบคลึง นิ้วเรียวป่ายปัดไล้วนจนยอดอกหดเป็นตุ่มไต ร่างสาวแอ่นเบียดเชื้อเชิญ ลิ้นเล็กที่พยายามเกี่ยวกระหวัดตอบสนองทำให้ปัณณธรหมดความยับยั้งชั่งใจ เขาแค่ต้องการสั่งสอนหญิงสาวให้รู้ว่าต้องเชื่อฟังเขา แต่ตอนนี้อารมณ์เขากลับเตลิด ลำกายแกร่งแข็งขืนเรียกร้องอยากจะเข้าไปอยู่ในร่างสาวปัณณธรปล่อยปากจิ้มลิ้มให้เป็นอิสระ เขาเคลื่อนใบหน้าลงต่ำเพื่อครอบครองความนุ่มหยุ่น ปากร้อนด
“จัดเสื้อผ้าเก็บให้ฉันด้วย จะออกไปดูสวนหน่อย” อินนัดดาเดินตามเขามาจนถึงในห้อง ห้องนอนกว้าง เครื่องเรือนน้อยชิ้น สะดุดตาที่สุดคงจะเป็นเตียงไม้สักขนาดใหญ่กลางห้อง ที่มีเสาอยู่มุมเตียงสี่เสาและมีชายมุ้งสีขาวซึ่งครอบเหนือเตียงนอนกว้างถูกรวบมัดอยู่กับเสาทั้งสี่ ตู้ไม้สักขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับโต๊ะเครื่องแป้ง โทนสีเข้มๆของเฟอร์นิเจอร์ไม้ทำให้อินนัดดารู้สึกไม่ค่อยชอบห้องนี้สักเท่าไร“หนูขอนอนห้องอื่นได้ไหมคะ” เสียงสั่นๆของเธอทำให้ปัณณธรรำคาญอย่างเห็นได้ชัด“เราเป็นผัวเมียกันอินนัดดา กรุณาอย่าเรื่องมาก” ปัณณธรออกจากห้องทันทีที่พูดจบ อินนัดดาถอนหายใจแรง ลากกระเป๋าของตัวเองและของชายหนุ่มไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วจัดการเก็บมันไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆเธอก็จัดการเก็บให้ทั้งเขาเละของตัวเอง ไม่มีถ้อยคำพร่ำบ่นใดๆออกจากปากบางจิ้มลิ้ม มีเพียงแววตาเศร้าและเหนื่อยล้า ไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากอยู่กับคนใจร้ายอินนัดดาใช้เวลาไม่นานก็จัดของทุกอย่างเรียบร้อย หญิงสาวอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เธออยู่ในชุดนี้ ไม่ใช่สิเรียกว่าชุดไม่ได้ด้วยซ้ำ เธออยู่ในสภาพหม
เสียงหัวเราะเบาๆของคนที่นั่งแช่ตัวอยู่ในน้ำทำให้คนที่มาตามไปรับประทานข้าวเที่ยงหยุดชะงัก ปัณณธรนั่งรอทานอาหารมื้อเที่ยงนานเกือบสิบนาที สิบนาทีก็มากพอสำหรับการต้องรอใครที่เขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องรอสักนิด“ที่บ้านไม่สอนเรื่องมารยาทหรือไง ปล่อยให้คนอื่นหิ้วท้องรอกินข้าว ตัวเองมานั่งเล่นน้ำสบายใจอยู่ได้” อินนัดดาหันหน้ากลับแล้วแหงนมองเจ้าของเสียงทันที ยอมรับว่าเธอเล่นน้ำจนเพลิน แต่ถ้าเขาหิวก็กินไปก่อนก็ได้นี่ ไม่จำเป็นต้องมารอเธอก็ได้ และไม่จำเป็นต้องมาต่อว่าถึงครอบครัวเธอด้วย หญิงสาวสะบัดหน้ากลับ ไม่ยอมพูดจากับคนหาเรื่อง“ถ้าคิดจะนั่งอ่อยรอผู้ชายมาพาออกไปจากที่นี่ล่ะก็ ล้มเลิกความตั้งใจไปได้เลย เพราะแถวนี้ไม่มีผู้ชายให้เธออ่อย” วาจาดูถูกดูแคลนของปัณณธรทำให้อินนัดดากัดริมฝีปากแน่น ทำไมผู้ชายที่เป็นสามีถึงชอบพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจเธออย่างนี้นะ ความน้อยใจบวกกับความโกรธคนไม่มีเหตุผล ทำให้อินนัดดาลุกขึ้นยืนหันหน้ากลับมาแหงนเงยสบตาเขาตรงๆ“นี่คุณปัณ หนูไม่รู้หรอกนะว่าหนูไปทำอะไรให้คุณโกรธแค้น คุณถึงได้ทำร้ายหนูอย่างนี้ ถ้าจะกรุณาบอกให้ทราบจะเป็นพระคุณมาก หนูจะได้แก้ไขปรับปร
“การแก้แค้นไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นหรอกคุณหนู ทำไปแล้วได้อะไร ยังไงคุณหนูปายก็ไม่มีทางกลับมาหาพวกเราอีกแล้ว เธอไปสบายแล้ว สู้เรารักษาถนอมคนที่ยังมีลมหายใจอยู่ให้มีความสุขไม่ดีกว่าหรือ อีกอย่างหนึ่ง หากคุณหนูปานรู้ว่าพี่ชายทำตัวเกเร แก้แค้นพี่สะใภ้คนโปรดของเธอ รายนั้นจะงอนเอาได้นา” ป้านวลพยายามหว่านล้อมชายหนุ่ม ผู้ที่ไม่ได้มีจิตใจเลวร้ายสักนิด เพียงแต่ตอนนี้ปัณณธรกำลังตกอยู่ในวังวนความแค้นเท่านั้น“เห็นคุณปรางบอกว่าคุณหนูปานชอบคุณหนูอินมากนี่คะ ทำไมคุณหนูไม่พาเธอไปพักผ่อนที่ ‘บ้านณปาย’ ล่ะคะ บรรยากาศที่นั่นดีกว่าที่นี่ตั้งเยอะ” ป้านวลเอ่ยถึงบ้านของครอบครัวปัณณธรที่ตั้งอยู่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณบ้านที่ครอบคลุมพื้นที่เกือบยี่สิบไร่ บนเนินเขา มีบ้านอยู่สองหลัง หลังใหญ่เป็นที่อยู่ของบิดา มารดาและปานรักน้องสาวผู้ที่มีอาการทางจิตแต่ไม่ร้ายแรงนัก เนื่องจากพบเจอเหตุการณ์สะเทือนจิตใจรุนแรง ส่วนอีกหลังเป็นของปัณณธร เป็นบ้านที่ปลูกอยู่ห่างจากบ้านหลังใหญ่ไม่ไกลเท่าไรนัก“คนในครอบครัวของไอ้ชัชชัยไม่สมควรจะได้ไปเหยียบที่นั่นหรอกครับป้านวล” น้ำเสียงดุดันของปัณณธรทำให้ผู้สูงวัย
“จะลืมตาก็ได้นะ” อินนัดดาค่อยๆปรือตามองคนตัวโตที่นั่งอยู่บนเตียงชิดร่างของเธอ“พอแล้วค่ะ หนูอยากนอน” หญิงสาวเบี่ยงหน้าหนีหลบสายตาคมวาวที่กำลังลามเลียผิวเนื้อของเธอทั่วร่าง“ก็นอนไปสิ เธอต้องเช็ดตัวลดไข้” มือใหญ่ยังคงใช้ผ้าขนหนูเช็ดไปตามต้นแขนแผ่วเบา เลยมาถึงอกอวบ มือเล็กจับข้อมือใหญ่ไว้มั่น เธอสบตากับเขาขอความเห็นใจ“ต้องเช็ดให้ทั่วตัว อย่าเรื่องมากน่าอินนัดดา ฉันแค่เป็นห่วงว่าเธอจะตายไปง่ายๆ แบบนี้มันยังไม่สะใจเท่าไร” คนเพลียทั้งร่างกายและจิตใจปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง ลำแขนเรียวสองข้างวางลงแนบลำตัว อยากจะทำอะไรก็เชิญ เธอจะไม่ต่อสู้ดิ้นรนอีกต่อไปแล้ว ความน้อยเนื้อต่ำใจกลบความรู้สึกสะเทิ้นอายจนมิด ปัณณธรมองดูอาการนิ่งของหญิงสาวแล้วหัวเราะในลำคอ มือใหญ่มีเพียงผ้าขนหนูเปียกผืนเล็กกั้นไว้ไม่ให้สัมผัสอกอวบโดยตรง เขาเช็ดร่างงามอย่างจงใจกระตุ้นเร้าอารมณ์ แต่เจ้าของร่างกลับนอนนิ่งจนเขารู้สึกหมั่นไส้ ทำให้ปัณณธรนึกอยากแกล้ง ชายหนุ่มคลี่ผ้าขนหนูออกวางทาบปิดบนเนินอกสองข้าง มือหนาทั้งสองตะโบมเคล้นคลึงผ่านผ้าอย่างไม่เบามือเท่าไรนัก นิ้วเรียวบีบบี้ตุ่มไตที่หดแข็งสู้มือใต้ผ้าเปีย
“อืม...พี่ก้อง พี่ก้อง” ปานรักเงยหน้าครวญครางเรียกชื่อสามีแผ่วเบา ด้วยความซ่านเสียวไปทั้งร่าง ริมฝีปากหยักได้รูป ดูดกลืนยอดอกที่อยู่ตรงหน้าอย่างตะกรุมตะกราม มือใหญ่ขยับสะโพกมนให้เข้ากับจังหวะที่ตนเองแอ่นสะโพกสอดเสยขึ้น จนเมื่อปานรักเริ่มเรียนรู้ที่จะรุกรับอย่างคนหัวไว ก้องภพจึงเคลื่อนมือขึ้นบีบเคล้นอกอวบนุ่มหยุ่นมือ จับฐานอกอวบบีบป้อนเข้าปากตัวเองดูดกลืนขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนไล้วนตวัดรอบเม็ดทับทิมสีหวาน รวบดูดรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลากดแนบไปกับอกอวบ ซุกไซ้อย่างหลงใหล“อื้อ...พี่ก้อง” ปานรักโหมสะโพกแรงตามอารมณ์หวามที่ทะยานจนใกล้ถึงปลายทาง หญิงสาวครางแว่วหวาน สลับการการเรียกชื่อสามี ใบหน้างามส่ายสะบัดจนผมยาวสยายเต็มหลัง ก้องภพละมือจากอกอวบ รวบเอวคอดไว้แน่น ขณะที่ทั้งเขาและภรรยาขยับโยกในจังหวะรุกรับรุนแรง ชายหนุ่มซุกใบหน้าลงคลุกเคล้ากับอกอวบดีดเด้งตรงหน้า สูดดมและขบเม้มเบาๆ เพิ่มความเสียวปลาบให้ร่างเล็กจนต้องครวญครางซ้ำ บทเพลงรักบรรเลงไปตามท่วงทำนองร้อนเร่า ต่างเติมเต็มให้กันและกันด้วยไฟปรารถนา“ปานน่ารักที่สุด ที่รักของพี่...อา” ก้องภพเกร็งสะโพกรับการโห
“ไม่เหนื่อยสักนิดครับ แต่คิดถึงเมียแทบขาดใจ” แก้มสาวแดงเรื่อท่ามกลางแสงไฟสลัวภายในห้อง ปานรักจึงพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้ หนีแววตาคมปลาบที่จ้องมองไม่วางตานั้น ก้องภพเอนตัวลงสอดกายลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกับภรรยา เขาวาดวงแขนไปโอบกอดร่างเล็กที่นอนหันหลังให้“น้องปานบอกว่าจะตามใจพี่ทุกอย่าง” ปฏิบัติการทวงสัญญาขาหื่นเริ่มขึ้น พูดจบก็เป่าลมร้อนใส่หูเล็ก พร้อมทั้งขบเม้มเบาๆสร้างความปั่นป่วนให้คนที่นอนใจเต้นแรงอยู่อย่างห้ามไม่ได้ ปานรักหดคอเล็กน้อย“ใครสัญญาอะไรหรือคะ ปานไม่เห็นรู้เรื่อง” หญิงสาวอมยิ้มขณะที่ตอบกลับมา“หืมมม...จำไม่ได้จริงๆเหรอ” ก้องภพพลิกกายขึ้นทาบทับภรรยา สบตายตาถามเอาคำตอบ“จำไม่ได้ค่ะ” ปานรักเบี่ยงหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา กายสาววูบวาบ แก้มนวลร้อนผ่าว“แน่ใจเหรอว่าจำไม่ได้” ขาแกร่งบดเบียดขาเรียวจนแยกกว้าง ก้องภพแทรกตัวเองไปอยู่ระหว่างขาเรียวนั้น บดเบียดความแข็งขึงกับกลางร่างสาว ในนาทีนั้นเองที่ปานรักเพิ่งสังเกตว่าสามีของเธออยู่ในสภาพเปลือยกาย เขาถอดกางเกงออกตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย หญิงสาวทุบบ่ากว้างเบาๆ หันมาสบสาย
เมื่อถึงฤกษ์ส่งตัวเข้าหอ บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พากันกล่าวคำอวยพร และคำอวยพรที่เจ้าสาวต้องหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก เห็นจะหนีไม่พ้น ขอให้มีลูกเร็วๆ และขอให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนั่นแหละ“พ่อฝากน้องด้วยนะก้อง พ่อเชื่อว่าป้องจะดูแลปานแทนพวกเราได้ ขอบใจมากที่ช่วยทำให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขอีกครั้ง” อานนท์ตบบ่าลูกเขยที่นั่งคู่กับลูกสาวอยู่บนพื้นห้องเบาๆ“ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องปานด้วยชีวิตของผมครับ” ก้องภพสบตาผู้สูงวัยกว่าด้วยแววตาแน่วแน่“หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก” ปรางทิพย์เอ่ยสำทับ คู่บ่าวสาวก้มลงกราบผู้สูงวัยทั้งสองที่ออกจากห้องหอทีหลังสุด ถึงแม้จะเคยอวยพรเคยกล่าวคำฝากฝังลูกสาวมาแล้วในพิธีการครั้งแรก แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังอยากย้ำอีกครั้ง ด้วยความที่ลูกสาวเจอะเจอเรื่องราวร้ายแรงมา จนแทบไม่ยอมรับรู้เรื่องราวอะไรรอบกาย แต่เพราะผู้ชายใจดีตรงหน้าเฝ้าถนอมและดูแลกันมาจนปานรักหายขาดจากอาการป่วย อานนท์และปรางทิพย์จึงไม่ลังเลสักนิดที่จะยกลูกสาวให้ชายหนุ่มดูแลสองหนุ่มสาวนั่งสบตากันบนพื้นห้องสวีตชั้นสูงสุดของโรงแรม ซึ่งถูกจัดแต่งเป็นห้องหอ อบอ
ก้องภพจับมือนุ่มของภรรยาเดินกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน ปานรักยิ้มเขินเมื่อถูกเอ่ยแซวจากญาติสนิท แก้มสาวแดงเรื่อแววตาเขินอายสบสายตาสามีเป็นระยะ เขาและเธอเข้าพิธีแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากวันที่ก้องภพคุกเข่าขอแต่งงานเพียงสองเดือนเท่านั้น พิธีแต่งงานแบบไทยที่เรียบง่ายถูกจัดขึ้นที่บ้านณปาย ตามความประสงค์ของบิดาและมารดาของฝ่ายเจ้าสาว หากแต่มารดาของเจ้าบ่าวอยากจัดพิธีฉลองสมรสที่โรงแรมของตนด้วย สามีภรรยาป้ายแดงจึงต้องทำตามความประสงค์ของมารดาอย่างเลี่ยงไม่ได้“เหนื่อยไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างห่วงใย เจ้าสาวยิ้มหวานส่ายหน้าแทนคำตอบ“คุณแม่เตรียมห้องสวีตไว้ให้ใช้เป็นห้องหอ เมื่อไหร่จะถึงเวลาส่งตัวเข้าหอสักทีนะ” นิ้วเรียวเล็กบิดเบาๆที่เอวของคนถามหาเวลาเข้าหอ สีหน้าเจ็บเกินจริงของเขาช่างหน้าหมั่นไส้นัก“ใจร้าย ทำร้ายร่างกายสามี” ก้องภพโอดเบาๆ“จะมาพูดถึงเวลาเข้าหออะไรตอนนี้ งานเพิ่งเริ่มเองนะคะ”“ก็พี่อยากเข้าหอกับน้องปานแล้วนี่”“บ้า ไม่ใช่เข้าหอครั้งแรกสักหน่อย” แก้มสาวแดงเรื่ออุบอิบเถียงสามี“จะครั้งไหนพี
“พี่รักม่อน พี่รักม่อน” ต้นตะวันถอดถอนกายออกแล้วพลิกร่างภรรยากลับมากอดไว้แน่น บอกรักขณะที่ริมฝีปากทั้งสองอยู่ชิดกัน มุทิตาโอบรอบลำคอหนา ก้มหน้าหนีริมฝีปากช่างจูบเอาแต่ใจนั้น หญิงสาวซุกหน้ากับอกกว้าง รอยยิ้มเปื้อนเต็มดวงหน้าหวาน“ม่อนก็รักพี่หมอค่ะ” มุทิตาบอกรักสามีเสียงหวานคืนนั้นที่เธอตกเป็นของเขา มันไม่ใช่การพลาดพลั้ง แต่มันคือพรหมลิขิตต่างหาก พรหมลิขิตที่ชักนำให้สองหัวใจผูกพัน จนกลายเป็นความรักที่สวยงาม“หลับหรือยังครับที่รัก” ปัณณธรเอนตัวลงนอนเคียงข้างภรรยา แล้วกระซิบถาม อินนัดดาพลิกตัวกลับมายิ้มให้สามี“หลับแล้วค่ะ” นิ้วเรียวดีดหน้าผากมนเบาๆ แต่กระนั้นก็เรียกเสียงโอดโอยจากคนโดนกระทำได้“โอ๊ย! พี่ปัณอ่ะ หนูเจ็บนะ” ปัณณธรยิ้มแล้วจูบหน้าผากมนแผ่วเบา“ก็อินกวนนี่นา” วงแขนแกร่งกอดร่างเล็กแน่น อินนัดดาดิ้นรน เพราะเธอสัมผัสได้ว่าสามีกำลังจะทำมิดีร้ายกับตัวเอง“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวน้องโปรดตื่น” ปัณณธรหัวเราะเบาๆ“นิดเดียวนะ พี่ใจจะขาด” ชายหนุ่มผละจากร่างนุ่มนิ่ม ลงไปยืนข้างเตียง แล้วดึงผ้าห่มลงไปปูที่พื้นหน้าตาเฉย“พี่ปัณ!” อิ
“ที่จริงบ้านสวนมึงก็มีนะ วันหลังเชิญไปพักที่บ้านตัวเองเลย” ปัณณธรยังไม่วายจิกกัดเพื่อต่อ จึงโดนภรรยาตีที่แขนเบาๆ“พี่ปัณพอแล้วค่ะ คุยกันดีๆไม่เป็นหรือไง”“ใช่ค่ะ เจอกันทีไรก็อย่างนี้ตลอด ทีหลังม่อนจะไม่มาด้วยแล้ว” ต้นตะวันกอดร่างภรรยาแน่นขึ้น โยกตัวช้าๆราวกับจะปลอบใจ“โอ๋ๆ ไม่กัดกันแล้วครับ อย่างอนนะที่รัก” มุทิตาถอนหายใจกับท่าทางเอาใจของสามี เขาไม่เคยอายที่จะสาดความหวานใส่เธอ แต่คนโดนปฏิบัตินี่สิ อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วหนุ่มสาวสองคู่นั่งคุยกันเรื่อยๆ จนก้องภพและปานรักขึ้นมาสมทบ หนุ่มสาวคู่ใหม่ที่ร่วมโต๊ะ ดูกระอักกระอ่วนใจที่ต้องมานั่งมอง ภาพคู่สามีภรรยาสวีตกันแบบไม่เกรงใจฟ้าดิน อินนัดดากับมุทิตาเกรงใจและหน้าไม่หนาพอเท่าสามี จึงพากันขอตัวเลี่ยงไปดูลูกที่นอนหลับอยู่ในห้อง ก้องภพและปานรักนั่งร่วมโต๊ะอยู่ครู่เดียวก็พากันขอตัวแยกย้ายไปนอน“ไม่น่าเชื่อว่ะ” ต้นตะวันยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นจิบแล้ววางลงที่โต๊ะ“อะไรไม่น่าเชื่อ”“อ้าว...ก็มึงกับอินไง กูเห็นขึ้นต้นแค้นแทบตาย แต่มาลงท้ายว่ารักหมดใจเนี่ย” ปัณณธรหัวเราะชอบใจกับคำพูดของเพื่อน
“น้องปานจะกลับบ้านณปายเลยจริงๆเหรอครับ” ก้องภพได้มีโอกาสคุยกันสองต่อสองกับหญิงสาว หลังจากอาหารมือค่ำจบลง สองหนุ่มสาวเดินลงจากเรือนมานั่งคุยกันที่ศาลาริมน้ำ“ก็คงกลับเลยค่ะพี่ก้อง ปานไปอยู่กระบี่ตั้งเกือบสามเดือนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ท่านเป็นห่วง” ปานรักยิ้มให้กับคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ยาวตรงข้ามกับตน“ไม่เห็นต้องเป็นห่วงอะไรเลย พี่ดูแลน้องปานได้” ก้องภพจ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง เขาอกจะแตกตายอยู่แล้ว รอมาตั้งเกือบสามปี จนหญิงสาวเรียนจบ แล้วไปฝึกงานที่โรงแรมของพ่อเลี้ยงที่ยกให้เขาดูแลบริหารกิจการทั้งหมดแล้ว นี่ปานรักไม่เห็นใจเขาบ้างเลยเหรอ“เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย พี่ก้องจะมาดูแลปานได้ยังไง” แก้มนวลแดงเรื่อ ก้มหน้าซ่อนความอาย“โธ่ น้องปาน พี่รักน้องปานนะครับ แล้วก็รอมานานแล้วด้วย ไม่รู้ล่ะ ถ้าปานจะไปเปิดรีสอร์ตที่ปายจริงๆ พี่ก็จะตามไปอยู่ด้วย” ปานรักเงยหน้ามองผู้ชายที่เคยมาดนิ่ง แล้วอยู่ดีๆจะงอแงเอาแต่ใจกับเธอ“แล้วโรงแรมพี่ก้องล่ะคะ ใครจะดูแลให้”“ก็...ให้คุณแม่กลับมาดูแลเหมือนเดิม” เขาตอบแบบไม่ต้องคิดเลย“บ้า...คุณแม่พี่ก้องอายุเยอะแล้
“พี่ปัณขี้โกง อื๊อ!” ปากเล็กถูกประกบจูบดูดดื่ม ขาเรียวถูกท่อนขาแกร่งแทรกลงตรงกลาง ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องใดๆ เพราะร่องรักของภรรยาชุ่มฉ่ำรอเขาอยู่แล้ว ปัณณธรกดแทรกลึกในคราเดียว สะโพกสอบโหมแรงอย่างเอาแต่ใจ ทั้งลูบไล้เคล้นคลึงไปทั่วร่างเนียนนุ่ม อินนัดดาบิดเร่าไปกับสัมผัสร้อนแรงของสามี อยากจะท้วงเหลือเกินว่าสองเดือนที่ผ่านมาเขาน่าจะทะลุเป้าแล้วนะ ถ้านับรวมบทรักด่วนที่เขาจัดอยู่บ่อยๆ แม้ในช่วงเวลาเร่งรีบเขาก็สามารถส่งเธอไปยังวิมานแสนหวานได้ และนำพาตัวเองตามไปติดๆทุกครั้ง แต่ก็เอาเถอะ...เธอยอม ยอมทุกอย่างที่ปัณณธรต้องการ เพราะถึงแม้เขาจะเรียกร้องเอาแต่ใจ แต่ทุกครั้งทุกสัมผัสหวามไหวจากสามี เธอเองก็รู้สึกชอบ และเริ่มจะหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้วการเริ่มต้นระหว่างปัณณธรกับเธออาจจะไม่งดงาม ออกจะโหดร้ายด้วยซ้ำ แต่ด้วยความผูกพันและรู้จักการให้อภัย จากไฟแค้นที่พร้อมจะแผดเผาหัวใจให้มอดไหม้ กลับหลอมรวมหัวใจเธอกับเขาให้เป็นหนึ่งเดียวได้ นับจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หัวใจสองดวงที่กลายเป็นหนึ่งเดียวกันนี้จะคงมั่นต่อกันตลอดไป“คุณหนูโปรดขาระวังค่า” เสี
“อินจ๋า ขยับหน่อยสิ รัดแน่นอย่างนี้พี่จะทนไม่ไหวแล้ว” อินนัดดาพ่นลมออกจากปากเบาๆ หญิงสาวเริ่มควบขับสามีเริ่มจากจังหวะช้าเนิบนาบ มือหนาของปัณณธรจิกลงบนที่นอนแน่น สะโพกสอบแอ่นรับทุกจังหวะที่ภรรยากดกระแทกลงมา“อื้อ! พี่ปัณขา” อินนัดดาเริ่มควบส่ายสะบัดสะโพกเร็วขึ้น ความเสียดเสียวก่อตัวขึ้นอยู่กลางร่าง ยิ่งบดเบียดแนบชิด ยิ่งซ่านกระสัน เร่งโหมสะโพกเข้าหาเพื่อไขว่คว้าความสุขที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม จนคนที่ถูกควบขี่อยู่ก็เข้าใกล้เส้นชัยแล้วเหมือนกัน มือหนาจึงเลื่อนมากอบกุมสะโพกมนบังคับจังหวะเอาแต่ใจ อินนัดนาจึงตีสุดแรง พร้อมกับเสียงตวาดว่าสามี“พี่ปัณ อยู่เฉยๆ” คนอยู่ด้านบนโหมแรงทั้งหมดที่มีกดสะโพกลงเต็มแรงแล้วยกขึ้นรวดเร็ว เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงครวญครางของสองร่าง“พี่ปัณ พี่ปัณ หนูไม่ไหวแล้วค่ะ” อินนัดดาบอกเสียงกระเส่า“พร้อมกันนะครับอิน พี่รักอิน พี่รักอิน” ปัณณณธรแอ่นสะโพกค้างรอรับการกดกระแทกจากคนบนร่าง มือหนาจิกที่นอนแน่น สายตาจับจ้องใบหน้างามของภรรยาที่ส่ายสะบัดเริงร่าอยู่บนตัวเขา สะโพกสวยเร่งรัวอีกไม่กี่ครั้งสองร่างก็ระเบิดพร่าง ไขว่คว้าดาว