“อืม...เร็วอีกนิด” เขาสั่งขณะที่ซุกไซ้ดอมดมไปตามอกอวบที่ตอนนี้ปรากฏรอยอยู่หลายจุดแล้ว
“อยากได้ไหม ตรงนี้” นิ้วเรียวใหญ่แทรกเข้าไปในร่องรักรวดเร็วจนหญิงสาวสะดุ้ง แต่คนถูกรุกรานไม่รู้สึกรังเกียจ กลับแหงนเงยหน้าครางเสียงหวานและเร่งจังหวะมือที่กอบกุมความแข็งแกร่งอยู่เร็วขึ้น
“คุณปัณ...อ๊ะ!” นิ้วเรียวใหญ่ค่อยๆกดแทรกเข้าในความคับแน่นอุ่นลื่นจนสุด สะโพกสวยแอ่นหยัดรับท้าทาย ถึงจะเจ็บแต่ก็เต็มตื้นซ่านกระสันแทบขาดใจ คนช่ำชองหมุนควานบดบี้ติ่งเล็กสีสวยจนร่างเล็กดิ้นพล่านครางเสียงหลง แล้วขยับรัวดึงนิ้วเข้าออกรุนแรง จนคนที่ถูกกระทำกลัวน้อยหน้า เร่งรัวชักนำให้ชายหนุ่มเดินทางใกล้จุดหมายไปทุกที
“อ๊ะ...คุณปัณ ช่วยด้วย หนูอื๊อ...อ๊า” อินนัดดาแหงนเงยหน้าส่ายสะบัด สะโพกสวยขยับรับการจุ่มจ้วงจากนิ้วเรียวใหญ่ มือเล็กขยับเร็วแรงให้เท่าเทียมกับจังหวะที่ตัวเองถูกรุกราน ปัณณธรจ้องมองท่าทางและสีหน้าของหญิงสาวอย่างสมใจ เขาใกล้จะแตะปลายทางของเกมรักแล้ว และก็รับรู้ได้ว่าอินนัดดาก็ไม่ต่างจากเขา เพราะร่องรักที่แสนจะคับแน่นของเธอกำลังตอดรัดนิ้วของเขาเป็นจังหวะ
“ใกล้แล้วใช่ไหมอิน ชอบไหม”
“อ๊า! ชอบค่ะ” อินนัดดาสูญสิ้นความเป็นตัวของตัวเอง หญิงสาวถูกกระตุ้นจนอารมณ์เตลิดสุดกู่ปัณณธรพลิกร่างของอินนัดดาให้นอนราบไปบนโซฟาอย่างรวดเร็ว เขานั่งแทรกอยู่ระหว่างขาเรียว ตาคมจ้องมองนิ้วใหญ่ของตนขยับรัวเข้าออกร่องรักชุ่มฉ่ำ มือใหญ่อีกข้างฟอนเฟ้นอกอวบไม่เบามือ เจ้าสาวมือใหม่ส่ายสะบัดหน้า อ้าขาออกกว้างและดีดเด้งสะโพกไปตามจังหวะของคนคุมเกม หญิงสาวครวญครางเสียงหวานหลับตาพริ้ม ความเสียดเสียวค่อยๆก่อตัวขึ้น ขมวดเป็นเกลียวแน่นก่อนจะระเบิดพร่างอย่างรุนแรง
“กรี๊ดดด” ร่างเล็กเกร็งและแอ่นสะโพกค้างรองรับการกดแทรกซ้ำๆจนสาแก่ใจ น้ำหวานซ่านกระเซ็นปลดปล่อยทุกความรู้สึกโบยบินไปยังวิมานแสงดาววิบวับ อินนัดดาซึมซับห้วงเวลาของความสุขจากกามารมณ์อยู่ชั่วครู่ ก่อนจะถูกดึงกลับมาสู่โลกความเป็นจริง เมื่อร่างใหญ่โถมทับกายเธออีกครั้ง แต่หญิงสาวไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเขา เธอยังอ่อนเปลี้ยไปทั้งตัว
“อย่านะ” เธอเอ่ยปากห้ามเขาเบาหวิว ปัณณธรไม่ได้ใส่ใจ เขาแนบความแข็งแกร่งไปบนขาหนีบของหญิงสาว บดเบียดขยับสะโพกรัวเร็ว อินนัดดารู้สึกถึงความร้อนวูบวาบในขณะที่ชายหนุ่มเคลื่อนขยับ เธอนอนนิ่งหลับตาแน่น
ปล่อยให้เขาทำตามใจ
“อา....อื้มมม” ปัณณธรพาตัวเองไล่ตามหญิงสาวไปยังวิมานแสงดาว ชายหนุ่มกดลำรักแนบแน่นปลดปล่อยธารรักบนต้นขาเนียน ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้อกอวบแล้วดูดดึงรุนแรง เขากอดร่างเล็กไว้แน่นเกร็งกระตุกอยู่หลายครั้ง จนที่สุดแล้วทุกอย่างก็สงบนิ่งลง เหลือเพียงเสียงหอบหายใจของคนทั้งสอง
“ปล่อยค่ะ” อินนัดดาเป็นผู้ทำลายความเงียบเสียเอง เธอละอายยิ่งนักที่เผลอไผลไปกับสัมผัสของเขา
“ไปอาบน้ำแล้วไปนอนพักผ่อน” ปัณณธรลุกขึ้นแล้วอุ้มเจ้าสาวของตนแนบอก อินนัดดาไม่ได้โวยวายอะไร เธอสำนึกแล้วว่าไม่มีทางสู้เขาได้
“หนูอาบเองได้ค่ะ” อินนัดดาจำเป็นต้องบอกคนตัวโต เมื่อเขาวางเธอลงบนพื้นห้องน้ำแล้ว แต่ยังไม่ยอมออกไปสักที ปัณณธรหัวเราะในลำคอ เชยคางเล็กขึ้นให้หญิงสาวสบตาตัวเอง เพราะเธอเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองหน้าเขา
“เธอเป็นของฉันอินนัดดา” ปัณณธรยิ้มเยาะคนตัวเล็ก ก่อนจะออกจากห้องน้ำไป อินนัดดารีบกดล็อกประตูห้องน้ำทันที หญิงสาวยืนมองสภาพร่างกายตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก น้ำตาพาลจะไหลเอาเสียให้ได้ ปัณณธรเป็นโรคจิตหรือเปล่า ทำไมเขาถึงทำรุนแรงกับเธออย่างนี้ ไหนอาเพ็ญบอกเธอว่า แต่งงานแล้วจะมีความสุขไง ไหนเพื่อนๆบอกว่าเธอโชคดีมากที่ได้แต่งงานกับปัณณธร เขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อฐานะมั่งคั่ง เป็นเจ้าของปัณณธรกรุ๊ปที่มีเครือข่ายธุรกิจมากมาย และควงผู้หญิงเคยซ้ำหน้า ซึ่งผู้หญิงที่เขาควงแต่ละคนมีทั้งสาวในสังคมชั้นสูง หรือไม่ก็ดารานางแบบ แต่ที่สุดแล้วเขาก็เลือกที่จะแต่งงานกับเธอ นี่เธอโชคดีจริงๆใช่ไหม...ทำไมถึงรู้สึกว่าเป็นความโชคดีที่ไม่อยากรับไว้เสียเลย
“ว้าย! คุณอินขาทำไมเป็นรอยเต็มไปหมดอย่างนี้ล่ะคะ เจ้อยากจะเป็นลม ชุดเจ้าสาวก็เป็นแบบเปิดไหล่เกาะอกซะด้วย ตายๆ นี่พวกหล่อนเอาคอนซีลเลอร์มาหน่อยสิยะ มาจัดการกับรอยพวกนี้เลยเร็วๆเข้า” เมคอัพอาร์ตติสชื่อดังซึ่งเป็นสาวประเภทสองบ่นอุบเมื่อเห็นรอยจ้ำแดงบนเนื้อนวลขาวผ่อง ซึ่งใครๆก็พอจะเดาได้ว่าเกิดจากอะไร แต่ก็พากันเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง
อินนัดดานั่งหน้าปั้นยาก เธอรู้สึกอับอายที่มีคนมาเห็นร่องรอยที่คนใจร้ายทำไว้บนตัวเธอ ปัณณธรไปไหนก็ไม่รู้ เพราะหลังจากออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นเขาแล้ว หญิงสาวจึงมีโอกาสได้พักผ่อน โดยที่ไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะโดนรังแก จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องแต่งตัวสำหรับงานเลี้ยงฉลองสมรสในตอนค่ำ เขาไม่ได้กลับมาที่ห้องอีกเลย ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกดีที่ไม่ต้องเจอหน้าเขา
“คุณปัณอ่ะ ไม่ถนอมเจ้าสาวเลย ดูซิผิวสวยๆเป็นรอยหมดเลย นี่พวกแกจำได้ไหมเดือนที่แล้วที่เราไปแต่งหน้าในงานแฟชั่นโชว์อ่ะ ยายลิซน่ะก็มีรอยอย่างนี้หนึ่งรอย หล่อนนะโม้ใหญ่เลยว่าเป็นรอยที่คุณปัณฝากไว้ เพื่อแสดงว่าเขาเป็นเจ้าของหล่อน ฉันล่ะอยากให้นางมาเห็นเสียจริง ว่าคนที่คุณปัณเขาแสดงความเป็นเจ้าของทุกตารางนิ้วน่ะ คือคุณอินเจ้าสาวคนสวยคนนี้เท่านั้น ใช่ไหมคะคุณอิน” อินนัดดาจ้องหน้าคนพูดนิ่ง อยากจะบอกเหลือเกินว่าเธอไม่ได้ภูมิใจกับร่องรอยที่เกิดจากฝีมือเขาสักนิดหรอก สาวประเภทสองอ้าปากค้างเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่ถูกแซวไม่มีท่าทางว่าจะรับมุขของตัวเอง“เอ่อ...คุณอินคะ เขาลือกันว่าคุณปัณน่ะ เอ่อ...” สาวประเภทสองอีกคนขยับเข้าใกล้เธอ กระซิบกระซาบถามเบาๆ“บิ๊กเบิ้มแล้วก็อึดมาก แถมยังท่ายากเยอะนะคะ เป็นอย่างนั้นจริงๆไหมคะ” คนถูกถามหน้าแดงเรื่อ หญิงสาวถอนหายใจหนักหน่วง ตีหน้าขรึมกวาดสายตามองทุกคนที่จ้องตัวเอง รอคำตอบกันอย่างใจจดจ่อ เธอเพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขาวันนี้นะ พวกนี้คิดว่าเธอมีอะไรกับเขาแล้วหรือยังไง“ไม่ทราบค่ะ” อินนัดดาตอบคำถามเสียงดังและห้วน บรรดาช่างแต่งหน้าทำผมต่างทำหน้าเลิกลั่ก แล้วต่
“นี่คุณแม่ฉัน” อินนัดดาเหวอไปชั่วขณะ รีบยกมือไหว้แทบไม่ทัน“สวัสดีค่ะ” มือเล็กกระพุ่มไหว้อย่างงดงาม ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มจริงใจและรู้สึกได้ถึงความกังวลใจที่อีกฝ่ายมองมาที่ตน“แม่ยินดีรับหนูมาเป็นลูกสะใภ้นะ ขอโทษด้วยที่เมื่อเช้าไม่ได้มาร่วมงาน พอดีคุณหมอนัดตรวจน้องปานน่ะจ้ะ” อินนัดดาพยักหน้ารับทราบ ก็เธอกับปัณณธรแต่งงานกันราวกับสายฟ้าแลบ มันเร็วจนเธอยังเองยังตั้งตัวไม่ทันเลย แล้วคนอื่นใครเขาจะไปเตรียมตัวทัน“ขอบคุณค่ะคุณผู้หญิง”“อุ๊ย! เรียกแม่เถอะจ้ะ อ้อ...นี่น้องปานเป็นน้องสาวของตาปัณ สุดรักสุดหวงของเขา เอ่อ...น้องมีปัญหาเรื่องสุขภาพนิดหน่อย”“พอแล้วครับคุณแม่ เดี๋ยวผมจะให้คนพาคุณแม่กับน้องไปพักผ่อนที่บ้านเรานะครับ” ปัณณธรตัดบทสนทนาของทั้งสอง ในขณะที่ปานรักยิ้มหวานมองหน้าคนนั้นคนนี้คุยกัน โดยที่หญิงสาวไม่พูดอะไร“คุณพ่อไม่ให้ค้างจ้ะปัณ เดี๋ยวแม่จะพาน้องกลับเลย น้องปานคิดถึงคุณพ่อใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ น้องปานคิดถึงคุณพ่อ พี่ปัณจะพาเจ้าสาวสวยๆไปอยู่กับน้องปานใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามขณะที่จ้องหน้าพี่สะใภ้ของตนเองอย่างชื่นชม“เอาไว้พี่จะพาคุ
“กลัวทำไม มันเป็นเรื่องปกติ ฉันจะสอนเธอให้รู้ทุกอย่าง ให้รับรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง ตำแหน่งเมียของเธอสำหรับฉันแล้ว มีหน้าที่แค่นอนแผ่บำเรอร่างกายให้ฉันเท่านั้น”“ไม่! อย่ามาทำแบบนี้กับหนูนะ” อินนัดดากลัวขึ้นมาจับใจ เขาเป็นบ้าอะไรกัน ดวงตาดุดันและหน้าตาเอาเรื่องนั่น ทำให้หญิงสาวหวาดกลัว"ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต" เสียงทุ้มแผดลั่น ขณะที่ร่างใหญ่โตก้าวย่างช้าๆเข้าหาร่างเล็กที่นั่งขดตัวอยู่บนเตียงกว้าง ซึ่งโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่ เตียงสำหรับคู่บ่าวสาวในคืนแต่งงานคืนแรก"แล้วหนูไปเกี่ยวอะไรด้วย หนูไม่เคยทำร้ายใคร คุณจะมาทำร้ายหนูทำไม" อินนัดดาตอบโต้ด้วยเสียงไม่เบานักเธอไม่ได้เป็นผู้หญิงหงอๆที่จะยอมใครไปเสียทุกเรื่องหรอกนะ ที่ยอมแต่งงานด้วยก็เพราะเหตุผลทางธุรกิจตามที่คุณอาขอร้อง ก็เหมือนคู่อื่นทั่วไปที่อยู่ในแวดวงธุรกิจ และต้องอาศัยเกื้อกูลกันเท่านั้นแหละ"เพราะเธอเป็นครอบครัวเดียวกับมัน" ปัณณธรหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนเขาจะคาดการณ์ผิดเล็กน้อย เพราะจากที่คิดว่าอินนัดดาจะพูดแล้วเข้าใจอะไรง่ายๆ แต่เธอกลับโวยวายไม่ยอมทำตามที่เ
“ดิฉันฝากยายอินด้วยนะคะคุณปัณ น้องยังเด็กนัก อาจจะยังไม่ประสาในหลายๆเรื่อง ค่อยๆบอกค่อยๆสอนกันไปนะคะ อิน...ต่อไปนี้ชีวิตของหนูอยู่ในความดูแลของคุณปัณแล้วนะ ทำตัวดีๆนะลูก ขอให้อยู่กันไปนานๆ ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองนะ” เพียงเพ็ญกล่าวอวยพรและฝากฝังหลานสาวกับผู้ชายที่เธอเป็นคนเลือกให้มาเป็นหลานเขยเองกับมือ“ขอบคุณครับ” เจ้าบ่าวซึ่งนั่งรับน้ำสังข์อยู่เคียงข้างเจ้าสาวที่เพิ่งเห็นหน้ากันวันนี้เป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เจอกันครั้งแรกในตอนถ่ายพรีเวดดิ้งกล่าวขอบคุณเบาๆ“ขอบคุณค่ะอาเพ็ญ” อินนัดดายิ้มฝืนๆ กล่าวขอบคุณอย่างเสียไม่ได้ เธอรู้สึกว่างานแต่งงานในวันนี้เป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น เพียงเพ็ญน้องสาวแท้ๆของบิดาเธอ แจ้งให้เธอรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับชายหนุ่มที่ชื่อปัณณธรเพื่อความอยู่รอดของบริษัท ในวันที่เธอบอกข่าวดีกับผู้เป็นอาว่าเธอกำลังจะได้เป็นบัณฑิตใหม่ ทั้งที่เธออยากให้อาที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่บิดาและมารดาเสียชีวิตเมื่อเจ็ดปีที่แล้วได้ภูมิใจ แต่สิ่งที่ผู้เป็นอาตอบกลับมาในวันนั้นทำเอาเธอช็อกไปอยู่พักใหญ่“เรียนจบสักที ไม่ต้องต่อโทหรอกนะ อินต้องแต่งงานกับคุ
“ฉันไม่ชอบคนแก่ ฉันชอบเด็กสาว มันทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยมากกว่า” รอยยิ้มร้ายกาจของปัณณธรทำให้หญิงสาวเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง“ไปอาบน้ำสิ” อินนัดดาสะบัดหน้าหนีคนออกคำสั่ง แล้วนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม เชิดหน้าไม่มองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า“ว้าย!” หญิงสาวกรีดร้องโวยวาย เมื่อถูกจู่โจมไม่ทันตั้งตัว เขาจับถอดโน่นนี่รวดเร็ว มือเล็กพยายามจับมือใหญ่ไว้แน่น เพื่อรั้งไม่ให้เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวเอง“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ปล่อยสิ”“เธอรู้ไหมว่าฉันต้องจ่ายค่าตัวเธอไปเท่าไร ทำตัวให้มันสมราคาหน่อย ไม่ใช่มาเถียงผัวฉอดๆแบบนี้ บอกให้ทำอะไรก็ต้องทำ ฉันไม่ชอบเด็กช่างเถียงดื้อรั้น” ปัณณธรรู้สึกหมั่นไส้ภรรยาตัวน้อยของตัวเองขึ้นมาดื้อๆ ใบหน้าเนียนสวยหวานและจมูกรั้นๆ บวกกับแววตาไม่ยอมใครของเธอทำให้เขาอยากจะกำราบสักหน่อย“ไม่ชอบก็หย่าสิ ไปหย่ากันตอนนี้เลยก็ได้ แล้วก็ยกเลิกงานเลี้ยงไปเลย หนูก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณนักหรอก”“ปากดี! เธอควรคิดให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกมา”“นี่แหละคิดดีแล้ว เอามือคุณออกไปจากตัวหนูเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาฉวยโอกาส”“ฉวยโอกาสเหรอ ฉันว่าครอบครัวเธอมากกว่าที่เป็นพวกชอบฉวยโอกาส” อินนัดดาไม่เข้าใจในส
“อย่า! อื๊อ...” อินนัดดาร้องห้ามอีกครั้ง แต่ปัณณธรไม่อยากได้ยิน เขาผละจากอกนุ่มหยุ่นอย่างเสียดาย แต่เขารำคาญเสียงสะอื้นและถ้อยคำที่คอยแต่จะห้ามเขาอยู่ตลอดเวลามากกว่า ชายหนุ่มเลือกที่จะดูดซับเสียงนั้นไว้ทั้งหมดด้วยการมอบจูบที่เร่าร้อนให้หญิงสาวเนิ่นนาน“เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน ร่างกายของเธอเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้อินนัดดา” ปัณณธรกระซิบเสียงเครียด บอกคนที่หอบหายใจแรงให้รับรู้“หนูจะหย่า หนูไม่แต่งงานกับคุณแล้ว ปล่อยนะ ปล่อย”“ฉันปล่อยเธอไปแน่ แต่ต้องหลังจากที่เธอสูญเสียทุกอย่าง!!”ปัณณธรตะคอกเสียงดัง มือใหญ่จับบ่าบอบบางทั้งสองข้างบีบแน่น อินนัดดาเจ็บจนต้องนิ่วหน้า“แต่ฉันจะปราณี...อย่างน้อย ฉันจะให้เธอได้เหลือลมหายใจกลับไป” ชายหนุ่มยิ้มร้ายกาจ จนอินนัดดารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ“คุณมันโรคจิต ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย”“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกอินนัดดา แม้แต่ครอบครัวของเธอ พวกเขายังเต็มใจยกเธอให้ฉันเลย”“ปล่อยนะ ไอ้โรคจิต อื๊อ!” ปัณณธรจูบปากเล็กช่างโวยวายอีกครั้ง เร่าร้อนและรุนแรงจนอินนัดดาแทบขาดใจ ชายหนุ่มดึงผ้าขนหนูให้พ้นจากร่างตนเอง ความแข็งแกร่งร้อนผ่าวแนบไปบนต้นขาเนียน และ
“กลัวทำไม มันเป็นเรื่องปกติ ฉันจะสอนเธอให้รู้ทุกอย่าง ให้รับรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง ตำแหน่งเมียของเธอสำหรับฉันแล้ว มีหน้าที่แค่นอนแผ่บำเรอร่างกายให้ฉันเท่านั้น”“ไม่! อย่ามาทำแบบนี้กับหนูนะ” อินนัดดากลัวขึ้นมาจับใจ เขาเป็นบ้าอะไรกัน ดวงตาดุดันและหน้าตาเอาเรื่องนั่น ทำให้หญิงสาวหวาดกลัว"ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต" เสียงทุ้มแผดลั่น ขณะที่ร่างใหญ่โตก้าวย่างช้าๆเข้าหาร่างเล็กที่นั่งขดตัวอยู่บนเตียงกว้าง ซึ่งโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่ เตียงสำหรับคู่บ่าวสาวในคืนแต่งงานคืนแรก"แล้วหนูไปเกี่ยวอะไรด้วย หนูไม่เคยทำร้ายใคร คุณจะมาทำร้ายหนูทำไม" อินนัดดาตอบโต้ด้วยเสียงไม่เบานักเธอไม่ได้เป็นผู้หญิงหงอๆที่จะยอมใครไปเสียทุกเรื่องหรอกนะ ที่ยอมแต่งงานด้วยก็เพราะเหตุผลทางธุรกิจตามที่คุณอาขอร้อง ก็เหมือนคู่อื่นทั่วไปที่อยู่ในแวดวงธุรกิจ และต้องอาศัยเกื้อกูลกันเท่านั้นแหละ"เพราะเธอเป็นครอบครัวเดียวกับมัน" ปัณณธรหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนเขาจะคาดการณ์ผิดเล็กน้อย เพราะจากที่คิดว่าอินนัดดาจะพูดแล้วเข้าใจอะไรง่ายๆ แต่เธอกลับโวยวายไม่ยอมทำตามที่เ
“นี่คุณแม่ฉัน” อินนัดดาเหวอไปชั่วขณะ รีบยกมือไหว้แทบไม่ทัน“สวัสดีค่ะ” มือเล็กกระพุ่มไหว้อย่างงดงาม ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มจริงใจและรู้สึกได้ถึงความกังวลใจที่อีกฝ่ายมองมาที่ตน“แม่ยินดีรับหนูมาเป็นลูกสะใภ้นะ ขอโทษด้วยที่เมื่อเช้าไม่ได้มาร่วมงาน พอดีคุณหมอนัดตรวจน้องปานน่ะจ้ะ” อินนัดดาพยักหน้ารับทราบ ก็เธอกับปัณณธรแต่งงานกันราวกับสายฟ้าแลบ มันเร็วจนเธอยังเองยังตั้งตัวไม่ทันเลย แล้วคนอื่นใครเขาจะไปเตรียมตัวทัน“ขอบคุณค่ะคุณผู้หญิง”“อุ๊ย! เรียกแม่เถอะจ้ะ อ้อ...นี่น้องปานเป็นน้องสาวของตาปัณ สุดรักสุดหวงของเขา เอ่อ...น้องมีปัญหาเรื่องสุขภาพนิดหน่อย”“พอแล้วครับคุณแม่ เดี๋ยวผมจะให้คนพาคุณแม่กับน้องไปพักผ่อนที่บ้านเรานะครับ” ปัณณธรตัดบทสนทนาของทั้งสอง ในขณะที่ปานรักยิ้มหวานมองหน้าคนนั้นคนนี้คุยกัน โดยที่หญิงสาวไม่พูดอะไร“คุณพ่อไม่ให้ค้างจ้ะปัณ เดี๋ยวแม่จะพาน้องกลับเลย น้องปานคิดถึงคุณพ่อใช่ไหมคะ”“ใช่ค่ะ น้องปานคิดถึงคุณพ่อ พี่ปัณจะพาเจ้าสาวสวยๆไปอยู่กับน้องปานใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามขณะที่จ้องหน้าพี่สะใภ้ของตนเองอย่างชื่นชม“เอาไว้พี่จะพาคุ
“คุณปัณอ่ะ ไม่ถนอมเจ้าสาวเลย ดูซิผิวสวยๆเป็นรอยหมดเลย นี่พวกแกจำได้ไหมเดือนที่แล้วที่เราไปแต่งหน้าในงานแฟชั่นโชว์อ่ะ ยายลิซน่ะก็มีรอยอย่างนี้หนึ่งรอย หล่อนนะโม้ใหญ่เลยว่าเป็นรอยที่คุณปัณฝากไว้ เพื่อแสดงว่าเขาเป็นเจ้าของหล่อน ฉันล่ะอยากให้นางมาเห็นเสียจริง ว่าคนที่คุณปัณเขาแสดงความเป็นเจ้าของทุกตารางนิ้วน่ะ คือคุณอินเจ้าสาวคนสวยคนนี้เท่านั้น ใช่ไหมคะคุณอิน” อินนัดดาจ้องหน้าคนพูดนิ่ง อยากจะบอกเหลือเกินว่าเธอไม่ได้ภูมิใจกับร่องรอยที่เกิดจากฝีมือเขาสักนิดหรอก สาวประเภทสองอ้าปากค้างเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่ถูกแซวไม่มีท่าทางว่าจะรับมุขของตัวเอง“เอ่อ...คุณอินคะ เขาลือกันว่าคุณปัณน่ะ เอ่อ...” สาวประเภทสองอีกคนขยับเข้าใกล้เธอ กระซิบกระซาบถามเบาๆ“บิ๊กเบิ้มแล้วก็อึดมาก แถมยังท่ายากเยอะนะคะ เป็นอย่างนั้นจริงๆไหมคะ” คนถูกถามหน้าแดงเรื่อ หญิงสาวถอนหายใจหนักหน่วง ตีหน้าขรึมกวาดสายตามองทุกคนที่จ้องตัวเอง รอคำตอบกันอย่างใจจดจ่อ เธอเพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขาวันนี้นะ พวกนี้คิดว่าเธอมีอะไรกับเขาแล้วหรือยังไง“ไม่ทราบค่ะ” อินนัดดาตอบคำถามเสียงดังและห้วน บรรดาช่างแต่งหน้าทำผมต่างทำหน้าเลิกลั่ก แล้วต่
“อืม...เร็วอีกนิด” เขาสั่งขณะที่ซุกไซ้ดอมดมไปตามอกอวบที่ตอนนี้ปรากฏรอยอยู่หลายจุดแล้ว“อยากได้ไหม ตรงนี้” นิ้วเรียวใหญ่แทรกเข้าไปในร่องรักรวดเร็วจนหญิงสาวสะดุ้ง แต่คนถูกรุกรานไม่รู้สึกรังเกียจ กลับแหงนเงยหน้าครางเสียงหวานและเร่งจังหวะมือที่กอบกุมความแข็งแกร่งอยู่เร็วขึ้น“คุณปัณ...อ๊ะ!” นิ้วเรียวใหญ่ค่อยๆกดแทรกเข้าในความคับแน่นอุ่นลื่นจนสุด สะโพกสวยแอ่นหยัดรับท้าทาย ถึงจะเจ็บแต่ก็เต็มตื้นซ่านกระสันแทบขาดใจ คนช่ำชองหมุนควานบดบี้ติ่งเล็กสีสวยจนร่างเล็กดิ้นพล่านครางเสียงหลง แล้วขยับรัวดึงนิ้วเข้าออกรุนแรง จนคนที่ถูกกระทำกลัวน้อยหน้า เร่งรัวชักนำให้ชายหนุ่มเดินทางใกล้จุดหมายไปทุกที“อ๊ะ...คุณปัณ ช่วยด้วย หนูอื๊อ...อ๊า” อินนัดดาแหงนเงยหน้าส่ายสะบัด สะโพกสวยขยับรับการจุ่มจ้วงจากนิ้วเรียวใหญ่ มือเล็กขยับเร็วแรงให้เท่าเทียมกับจังหวะที่ตัวเองถูกรุกราน ปัณณธรจ้องมองท่าทางและสีหน้าของหญิงสาวอย่างสมใจ เขาใกล้จะแตะปลายทางของเกมรักแล้ว และก็รับรู้ได้ว่าอินนัดดาก็ไม่ต่างจากเขา เพราะร่องรักที่แสนจะคับแน่นของเธอกำลังตอดรัดนิ้วของเขาเป็นจังหวะ“ใกล้แล้วใช่ไหมอิน ชอบไหม”“อ๊า! ชอบค่ะ” อินนัดดาสูญสิ้นควา
“อย่า! อื๊อ...” อินนัดดาร้องห้ามอีกครั้ง แต่ปัณณธรไม่อยากได้ยิน เขาผละจากอกนุ่มหยุ่นอย่างเสียดาย แต่เขารำคาญเสียงสะอื้นและถ้อยคำที่คอยแต่จะห้ามเขาอยู่ตลอดเวลามากกว่า ชายหนุ่มเลือกที่จะดูดซับเสียงนั้นไว้ทั้งหมดด้วยการมอบจูบที่เร่าร้อนให้หญิงสาวเนิ่นนาน“เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธฉัน ร่างกายของเธอเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้อินนัดดา” ปัณณธรกระซิบเสียงเครียด บอกคนที่หอบหายใจแรงให้รับรู้“หนูจะหย่า หนูไม่แต่งงานกับคุณแล้ว ปล่อยนะ ปล่อย”“ฉันปล่อยเธอไปแน่ แต่ต้องหลังจากที่เธอสูญเสียทุกอย่าง!!”ปัณณธรตะคอกเสียงดัง มือใหญ่จับบ่าบอบบางทั้งสองข้างบีบแน่น อินนัดดาเจ็บจนต้องนิ่วหน้า“แต่ฉันจะปราณี...อย่างน้อย ฉันจะให้เธอได้เหลือลมหายใจกลับไป” ชายหนุ่มยิ้มร้ายกาจ จนอินนัดดารู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ“คุณมันโรคจิต ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยหนูด้วย”“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกอินนัดดา แม้แต่ครอบครัวของเธอ พวกเขายังเต็มใจยกเธอให้ฉันเลย”“ปล่อยนะ ไอ้โรคจิต อื๊อ!” ปัณณธรจูบปากเล็กช่างโวยวายอีกครั้ง เร่าร้อนและรุนแรงจนอินนัดดาแทบขาดใจ ชายหนุ่มดึงผ้าขนหนูให้พ้นจากร่างตนเอง ความแข็งแกร่งร้อนผ่าวแนบไปบนต้นขาเนียน และ
“ฉันไม่ชอบคนแก่ ฉันชอบเด็กสาว มันทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยมากกว่า” รอยยิ้มร้ายกาจของปัณณธรทำให้หญิงสาวเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง“ไปอาบน้ำสิ” อินนัดดาสะบัดหน้าหนีคนออกคำสั่ง แล้วนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม เชิดหน้าไม่มองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า“ว้าย!” หญิงสาวกรีดร้องโวยวาย เมื่อถูกจู่โจมไม่ทันตั้งตัว เขาจับถอดโน่นนี่รวดเร็ว มือเล็กพยายามจับมือใหญ่ไว้แน่น เพื่อรั้งไม่ให้เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวเอง“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ปล่อยสิ”“เธอรู้ไหมว่าฉันต้องจ่ายค่าตัวเธอไปเท่าไร ทำตัวให้มันสมราคาหน่อย ไม่ใช่มาเถียงผัวฉอดๆแบบนี้ บอกให้ทำอะไรก็ต้องทำ ฉันไม่ชอบเด็กช่างเถียงดื้อรั้น” ปัณณธรรู้สึกหมั่นไส้ภรรยาตัวน้อยของตัวเองขึ้นมาดื้อๆ ใบหน้าเนียนสวยหวานและจมูกรั้นๆ บวกกับแววตาไม่ยอมใครของเธอทำให้เขาอยากจะกำราบสักหน่อย“ไม่ชอบก็หย่าสิ ไปหย่ากันตอนนี้เลยก็ได้ แล้วก็ยกเลิกงานเลี้ยงไปเลย หนูก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณนักหรอก”“ปากดี! เธอควรคิดให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกมา”“นี่แหละคิดดีแล้ว เอามือคุณออกไปจากตัวหนูเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาฉวยโอกาส”“ฉวยโอกาสเหรอ ฉันว่าครอบครัวเธอมากกว่าที่เป็นพวกชอบฉวยโอกาส” อินนัดดาไม่เข้าใจในส
“ดิฉันฝากยายอินด้วยนะคะคุณปัณ น้องยังเด็กนัก อาจจะยังไม่ประสาในหลายๆเรื่อง ค่อยๆบอกค่อยๆสอนกันไปนะคะ อิน...ต่อไปนี้ชีวิตของหนูอยู่ในความดูแลของคุณปัณแล้วนะ ทำตัวดีๆนะลูก ขอให้อยู่กันไปนานๆ ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองนะ” เพียงเพ็ญกล่าวอวยพรและฝากฝังหลานสาวกับผู้ชายที่เธอเป็นคนเลือกให้มาเป็นหลานเขยเองกับมือ“ขอบคุณครับ” เจ้าบ่าวซึ่งนั่งรับน้ำสังข์อยู่เคียงข้างเจ้าสาวที่เพิ่งเห็นหน้ากันวันนี้เป็นครั้งที่สอง หลังจากที่เจอกันครั้งแรกในตอนถ่ายพรีเวดดิ้งกล่าวขอบคุณเบาๆ“ขอบคุณค่ะอาเพ็ญ” อินนัดดายิ้มฝืนๆ กล่าวขอบคุณอย่างเสียไม่ได้ เธอรู้สึกว่างานแต่งงานในวันนี้เป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น เพียงเพ็ญน้องสาวแท้ๆของบิดาเธอ แจ้งให้เธอรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับชายหนุ่มที่ชื่อปัณณธรเพื่อความอยู่รอดของบริษัท ในวันที่เธอบอกข่าวดีกับผู้เป็นอาว่าเธอกำลังจะได้เป็นบัณฑิตใหม่ ทั้งที่เธออยากให้อาที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่บิดาและมารดาเสียชีวิตเมื่อเจ็ดปีที่แล้วได้ภูมิใจ แต่สิ่งที่ผู้เป็นอาตอบกลับมาในวันนั้นทำเอาเธอช็อกไปอยู่พักใหญ่“เรียนจบสักที ไม่ต้องต่อโทหรอกนะ อินต้องแต่งงานกับคุ