“ข้ากับท่านอ๋องหาใช่ความรักล้วนมีเพียงความผูกพันข้านับวันยิ่งห่าง ท่านอ๋องเอง หลายปีมานี้ไม่ปรากฏรอยยิ้ม ข้าจึงขอร้องฝ่าบาทประทานชายารองให้เขาเสียเพื่อแบ่งเบาข้า แต่เรื่องนี้ห้ามรู้ถึงหูท่านอ๋องเป็นอันขาด ว่าทั้งหมดเป็นความคิดของข้า ข้าเองร่างกายอ่อนแอ จะอยู่ปรนนิบัติได้สักกี่วันต่อจากนี้ ชายารองเป็นคนของฝ่าบาทจึงดี หากท่านอ๋องโปรดปรานจึงนับว่านางช่วยสมานรอยร้าวกับฝ่าบาทได้ดีไม่น้อย ข้าหวังเพียงแค่เสด็จพี่ไม่หวาดระแวงในตัวท่านอ๋องแม้ตายก็หมดห่วง แต่หากข้าตายไปท่านอ๋องกับฝ่าบาทร้าวฉานข้าเกรงว่าจะตายตาไม่หลับ ฝ่าบาท เชื่อในคำฑูดของใต้เท้ากวงจึงพลอยบึ้งตึงกับท่านอ๋องไปด้วย”
“โถ ...พระชายาท่านช่างดีกับท่านอ๋องเสียจริงไม่เสียแรงที่ท่านอ๋องรักเทิดทูนท่านเหนือใคร”
อู๋หงถิง มองสำรวจรอบๆห้อง สาวใช้ฟางหลุนเก็บพับผ้าไปมาไม่ได้สนใจว่าอู่หงถิงจะทำอะไร
“นายหญิง ท่านอายุเท่าไหร่”อยู่ๆนางก็ถามขึ้น อู่หงถิงส่งภาษามือ
“นายหญิงท่านไม่อยากพูด หรือว่าไม่เคยพูดหากไม่อยากพูดทำไมท่านถึงเก่งการใช้ภาษามือแต่เดิมข้าเคยได้ยินมาว่าคนเป็นใบ้มักจะพูดไม่ได้ เพราะไม่เคยได้ยินแต่บางคนได้ยินแต่ไม่ยอมพูดเพราะสั่งตัวเองไม่ให้พูด เป็นเพราะว่าเจอเหตุการณ์ร้ายๆ มาก่อนนายหญิงท่านไม่เคยพูดมาก่อนใช่ไหม”
อู่หงถิงพยักหน้า จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยพูดมาก่อนหรือไม่ ความจริงเคยหลายครั้งที่พยายามเปล่งเสียง แต่ก็รู้สึกไม่กล้า สุดท้ายก็เลิกล้มความตั้งใจอู่หงถิงได้ยินทุกอย่างเข้าใจความหมายของคำพูดแต่พูดไม่ได้ มารดาเองก็เคยสอนให้ออกเสียงแต่อู่หงถิงกับทำได้เพียงแต่ส่งภาษามือกลับไป
“ท่านอ๋องเป็นคนอารมณ์ร้อน หากท่านไม่พูดยิ่งเท่ากับยั่วโทสะท่านอ๋องเช่นนั้นบ่าวอยากจะบอกนายหญิงว่าหากท่านพูดได้ก็ให้พูดโต้ตอบท่านอ๋องไปเสียจึงดี”
อู่หงถิงส่งภาษามือบอกว่า อู่หงถิงหาสนใจไม่ว่าเขาจะมีโทสะหรือเปล่า สาวใช้ส่ายหน้าไม่มาหากเป็นเช่นนี้ ทำไมต้องแต่งเข้าจวนอ๋องด้วยทำไมไม่ปฏิเสธเสียตั้งแต่แรก
หวาจิ้งอ๋องสาวเท้าเข้ามา ในจวนหวาเซียงอ๋อง
“น้องสาม เพิ่งจะแต่งชายารอง ข้ามีเรื่องหารือจึงจะต้องมาถึงนี่ คาดว่าน้องสามคงไม่ไปไหนแน่”องค์ชายรองหวาจิ้งอ๋องทักขึ้น เมื่อเห็นหวาเซียงอ๋องนั่งอ่านตำราอยู่ ในศาลาริมน้ำ
“พี่รอง มาถึงนี่ต้องมีเรื่องสำคัญ”
รอฟังคำตอบ
“ไม่ไม่ไม่ แค่อยากจะมาดูว่าชายารองของเจ้าอยู่สบายดีไหม”
หวาเซียงอ๋องขมวดคิ้วนึกโมโหอู่หงถิง คิดว่านางปากโป้งเล่าเรื่องเมื่อคืนวันเข้าหอให้คนอื่นฟัง
“ทำไมพี่รองถามแบบนั้น”
“555ชายารอง งามล่มเมืองอีกทั้งหวาเซียงอ๋องของเรารู้ๆ กันอยู่ชายาเอกล้มป่วยเสียนานขาดการปรนนิบัติ พี่รองเลยอยากรู้ว่าชายารอง... ป่านนี้มิโดนสูบลมปราณจนหมดตัวแล้วหรือ555”
อารมณ์ขันของหวาจิ้งอ๋องมีมากมายจนบางที คนที่เขาคุยด้วยตามไม่ทัน หวาเซียงอ๋องได้แต่ยิ้มบางๆ
“นางยังอยู่เรี่ยวแรงยังเหลือเฟือ ข้ายังไม่ได้แตะต้องนาง”
องค์ชายรองเลิกคิ้วสูง
“ไม่ดีแน่แบบนี้ เจ้าปล่อยตัวเองเสียนาน มิใช่จะตายด้านไปแล้วหรือข้ามียาดี หลายขนาน ไว้จะแบ่งมาให้เจ้าหรือว่าจะให้เสี่ยวกุนไปรับมาเคี่ยวให้เจ้าดื่มเสียทันทีทิ้งไว้นานอาการย่อมกำเริบ”
หวาเซียงอ๋องส่ายหน้าไปมา
“พี่รองไม่ต้องกังวลข้ากับนาง ยังต้องใช้เวลานางเองไม่ได้เต็มใจแต่งเป็นเมียข้าอย่างที่รู้ๆกัน ส่วนข้าเองไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าก็ยังมีซ่างเซี่ยนในใจเสมอ”
“เฮ้อ เป็นสามีภรรยากัน แต่เจ้ากับพูดแบบนี้เกรงว่าหากชายารองของเจ้ามาได้ยินนางคงเสียใจไม่น้อย”
หวาเซียงอ๋องได้แต่ยิ้มหยัน อยากจะบอกเหลือเกินว่านางถึงกับจะสังหารเขานางคงไม่มีสักนิดที่จะเสียใจในคำพูดของเขา
องค์ชายใหญ่หวาซงอ๋องก้าวข้าเข้ามาในตำหนักท่าทีองอาจ แต่แทนที่เขาจะเข้าไปหาหวาเซียงอ๋องเขากลับเดินลัดเลาะไปเมียงมองยังที่พำนักของอู่หงถิง
“ท่านอ๋องลมอะไรหอบมาถึงนี่”
ซ่างเซี่ยนเอ่ยปากทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ชายาเอกหวาเซียงอ๋องวันนี้หน้าตาสดชื่น อาการป่วยคาดว่าจะเป็นปกติแล้วใช่หรือไม่”
ยิ้มด้วยสีหน้าเป็นมิตร
“ท่านอ๋องอยู่ที่ห้องทำงาน เชิญท่านที่นั่นจะดีกว่าที่นี่เป็นที่พำนักของข้ากับท่านอ๋อง”
“แล้วชายารองของหวาซียงอ๋องเล่าพำนักที่ใด”
“อ๋อนางอยู่ห้องทางซ้ายมือ ไม่ทราบว่าหวาซงอยากพบนางใช่หรือไม่”
“ข้าหาต้องการพบนาง แค่เพียงสงสัยเพราะชายาท่านบอกว่าเป็นที่พำนักของหวาเซียงอ๋องกับเจ้า เกรงว่านางเป็นชายารองอาจมีที่พำนักอยู่ที่อื่นเป็นแน่”
อู่หงถิงก้าวขาออกมาข้างนอกพร้อมด้วยฟางหลุน หวาซงอ๋องชายาตามองอู่หงถิงเพียงแว็บเดียว ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก้มหัวลงช้าๆ อู่หงถิงเองก็ย่อตัวให้ด้วยความเกรงใจ
“สบายดีไหม”
อู่หงถิงเลิกคิ้วก่อนจะส่งภาษามือหวาซงขมวดคิ้ว
“นายหญิง พูดไม่ได้เจ้าค่ะ”ฟางฟลุนตอบแทน
“ตามหมอหลวงหรือยังมีสิ่งใดผิดปกติกันน้องหญิงถึงไม่พูด”
ซ่างเซี่ยนทำสีหน้าตกใจไม่น้อย“ตั้งแต่ ข้าน้อยอยู่กับนายหญิงนายหญิงก็ไม่เคยปริปาก ใช้แต่ภาษามือ”“เจ้าไปตามหมอหลวงมาดูอาการของนาง”หวาซงออกคำสั่ง อู่หงถิงส่ายหน้าไปมาเหมือนจะบอกว่าไม่ต้อง ทำให้ฟางหลุนลังเล“รีบไปเดี๋ยวนี้เลย หากชายารองเป็นอะไรมากไปกว่านี้เกรงว่าเจ้านั่นล่ะที่จะมีความผิด”คราวนี้เป็น ฟางหลุนที่รีบวิ่งออกไปทันที“ซ่างเซี่ยนรีบดึงแขน อู่หงถิงให้เข้าไปในห้องนั่งลงบนแท่นนอนหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ หวาซงได้แต่อยู่ด้านนอกมองเข้าไป“เป็นอะไรไปท่านอ๋องทำอะไรเจ้า เจ้าจึงพูดไม่ได้เช่นนี้บอกข้ามาเถิด”ช่างเซี่ยนสงสัยว่าจะเป็นหวาเซียงอ๋องที่ทำให้อู่หงถิงพูดไม่ได้ แต่อู่หงถิงไม่เข้าใจคำถามด้วยความห่วงใยของซ่างเซียน จึงส่ายหน้าไปมาเสีย“บอกข้ามาข้ายินดีปกป้องเจ้า แต่อย่าได้บอกกับคนอื่นว่าท่านอ๋องกักขังและทำร้ายเจ้าเช่นนั้นเรื่องนี้หากแพร่ออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นการดีต่อท่านอ๋อง”อู่หงถิงยังคงส่ายหน้าซ่างเซี่ยนถอนหายใจ ท่านหมอเข้ามาพอดี“ท่านหมอตรวจดูให้ถ้วนถี่ทำไมชายารองจึงไม่ยอมปริปาก มีสิ่งใดผิดปกติกัน”หมอหลวงประสานมือ ทำการตรวจดูทั้งหูคอและปากก่อนจะถอยออกมาตรงหน้าเหอซ่างเซี่ยนและหวาซงที่ย
“ท่านอ๋องยังไม่ตายหรอกเจ้าค่ะนายหญิง”ฟางหลุนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอู่หงถิงยืนนิ่งกำลังกังวลใจ“#_#” (ต่อไปนี้จะแทนความรู้สึกของอู่หงถิงเป็นสัญลักษณ์นะคะ)“แต่อาการสาหัสไม่น้อย แต่งเข้าจวนอ๋องไม่ทันไรนายหญิงทำให้ท่านอ๋องเลือดตกยางออกถึงสองครั้งนายหญิงกำลังคิดอะไรอยู่ ฟางหลุนไม่อาจทราบได้ แต่..นายหญิงเจ้าขาท่านอ๋องเป็นสามีนายหญิงไม่อยากแต่ง ตั้งแต่แรกทำไมไม่ปฏิเสธเสีย”“๑_๑”ฟางหลุนคงคิดว่าอู่หงถิงไม่อยากแต่งกับหวาเซียงอ๋อง แต่หารู้ไม่ว่าอู่หงถิงไม่มีสิทธิ์เลือกเพราะอู่หงถิงไม่ใช่เจ้าหรู แล้วที่แน่ๆอู่หงถิงก็ไม่รู้ว่ากวงเจ้าหรูคนนั้นเต็มใจแต่งเข้าจวนอ๋องหรือไม่ตระกูลกวงกวงเจ้าหลัวนั่งบนเก้าอี้หยิบองุ่นในพวงมาเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย“ให้เจ้าหรูกลับมาเยี่ยมข้าที่นี่วันพรุ่งนี้”“ใต้เท้าแม้จะพูดแบบนั้น แต่หวาเซียงอ๋องลงทัณฑ์คุณหนูโดยการกักขังไว้ในห้อง”“หวาเซียงอ๋อง อาการดีขึ้นหรือยัง”ใบหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้าย“ท่านอ๋องฟื้นจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่หมอหลวงยังบอกว่าต้องพักฟื้นอีกหลายวัน”“เจ้าหรู แต่เดิมมิใช่ผู้ที่นิยมใช้กำลัง อาจมีบางอย่างที่ผิดพลาดไป แม้จะไม่เต็มใจแต่งแต่ก็ไม่เคยขัดคำส
ฟางหลุนทั้งลากทั้งดึงอู่หงถิงออกไปหน้าห้องของหวาเซียงอ๋องก่อนจะเปิดประตูผลักร่างเล็กอ้อนแอ้นเข้าไปข้างในยืนนิ่งในห้องกว้าง เช่นไรจะไม่เข้าใจ เข้าใจดีทุกอย่างเขาคิดจะรวบหัวรวบหางอู่หงถิงเป็นเมียเขา ก็ในเมื่อเขาคิดว่าอู่หงถิงคือเจ้าหรูอะไรนั่น ในเมื่อแต่งเข้ามาแล้วก็น่าจะถูกเขาจัดการไปตั้งแต่คืนแรกอู่หงถิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นเขาจึงตีสีหน้าแบบนี้ ไม่แน่อู่หงถิงอาจพลั้งมือทำอะไรเขาไป หรือเจ้าหรูนางอาจทำอะไรสักอย่างให้เขาไม่พอใจ แต่จะอย่างไรก็ช่างใครกันจะสนใจอู่หงถิงไม่ได้หวังให้เขาชอบพอหรือรักอู่หงถิง ตอนนี้ยิ่งจมกับความคิดวนเวียนที่จะช่วยแม่กับน้อง“เจ้าไปเสีย”น้ำเสียงเกรี้ยวกราดคงจะกลัวว่าอยู่ลำพังสองคนอู่หงถิงจะฆ่าเขาอีกเช่นนั้นหรือก้าวขากำลังจะออกไปทว่าประตูกับปิดล็อกจากด้านนอกตกใจไม่น้อยเขย่าประตูอย่างแรง“เรียกสิ เรียกให้เสี่ยวกุนมาเปิดประตูให้หรือไม่ก็ใครก็ได้”อู่หงถิงเขย่าประตูแรงขึ้นกว่าเดิม“หยุดเขย่าเสียที เจ้าคิดจะกลัวข้าก็กลัว ทีเวลาทำไม่คิดกลัวหรือไร ตอนนี้บอกตามตรงข้าเองมิใช่หรือต้องเป็นฝ่ายกลัวว่าเจ้าจะฆ่าข้า เสี่ยวกุน เสี่ยวกุน ใครก็ได้มาเปิดประตูให้นาง”“..
“หวาเซียงอ๋องแต่เดิมก็ไม่เคยมีพวกพ้องอยู่แล้ว หุนหันไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าขุนนาง วันนี้ยังกล้าพูดว่าจะหย่ากับบุตรีของใต้เท้ากวง ขัดบัญชาฝ่าบาท คิดว่า เป็นเรื่องที่สมควรกระทำอีกหรือ”เหอซ่างเซี่ยนคุกเข่าลงกับพื้น“ไทเฮาโปรดอภัย ท่านอ๋องพูดไปเพราะอารมณ์ขุ่นมัว อีกสักพักให้ใจเย็นลงกว่านี้ซ่างเซี่ยนจะช่วยพูดให้”ไทเฮาถอนหายใจ“หย่าไม่ได้ อย่างไรก็หย่ากับกวงเจ้าหรูไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือทำอย่างไรให้คนอื่นเห็นว่าเจ้ากับนางปองดองกันเสียที”ปองดองเขาคงต้องถูกนางฆ่าก่อน“ออกรบมาก็มาก ไม่ว่าศึกเหนือศึกใต้ อีกทั้งยังขุนนางฉ้อฉล มีลับลมคมในแค่ไหนหวาเซียงอ๋องไม่เคยเกรงแต่กลับต้องมายอมแพ้กับหญิงงามอย่ากวงเจ้าหรู”“หลานมองไม่เห็นวิธี คงมีวิธีเดียวที่จะทำได้ คือการหย่ากับนางส่งนางคืนตระกูลกวงเสีย”“ปราบพยศนางง่ายดายเพียงเจ้าคิดไม่ได้เอง ซ่างเซี่ยนอย่าให้ย่าได้ยินว่าเจ้าไม่เคยบอกเรื่องนี้กับหวาเซียงอ๋อง”“เสด็จย่า เซี่ยนเซี่ยนนางมีสิทธิ์ขาดทั้งหมดในจวนอ๋อง”ถอนหายใจ“ภรรยาที่ดีต้องส่งเสริมสามี ซ่างเซี่ยนเรื่องแบบนี้ อย่างบอกว่าเจ้าไม่เคยรู้ หากรู้จงเร่งบอกกับหวาเซียงเอ่อร์เสีย เขาจะได้มีวิธีจ
“ข้าเพียงแค่อยากนั่งอยู่ที่นี่อีกสักพัก”แววตาเศร้าสร้อย ค่ำคืนนี้อีกยาวนานเขาจะข่มตาหลับได้อย่างไรยกสุราขึ้นกระดกจนหมดเหยือกก่อนจะปามันลงกับพื้น“เสี่ยวกุนยกสุรามาอีก”เสี่ยวกุนยกไหสุรามาวางตรงหน้า“ท่านอ๋องท่านมีเรื่องใดเป็นกังวล”โบกมือว่าเขายังอยากจะพูดถึงมัน“ท่านอ่องอาการบาดเจ็บยังไม่หายดี”“ช่างมัน ข้าอยากจะตายไปเสียตอนนี้เลยยิ่งดี”ยกสุราขึ้นดื่ม“ยกไหสุรามาอีกเสี่ยวกุน”เสี่ยวกุนส่ายหน้าไปมา รีบไปยกสุรามาอีก“บางอย่างทิ้งมันไว้ข้างหลังแล้วเดินหน้าต่อจึงจะดี บางอย่างหากจมอยู่กับมันยิ่งทำให้ทดท้อ”ลุกขึ้นจากแท่นนั่งเดินโซเซ เสี่ยวกุนมาพยุงแต่เขากับปัดมือเสี่ยวกุนออกเดินไปที่ห้องของเหอซ่างเซี่ยน เปิดประตูออกยืนนิ่งมองใบหน้างดงามทว่าซีดขาวของเหอซ่างเซี่ยนที่หลับตานอนนิ่ง บางครั้งก็ไอถี่ๆสองสามครั้งบางครั้งก็หอบเหนื่อย หวาเซียงอ๋องสอดกายไปในผ้าห่ม นอนตะแคงกอดร่างบางเย็นชืดไว้แนบอก“ท่านพี่ท่านไปหานางมาแล้วใช่ไหม”หวาเซียงอ๋องพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะกอดรวบร่างบางแนบอกแน่นกว่าเดิม“ข้าไม่ได้ต้องการนาง”เหอซ่างเซี่ยนยิ้ม“ท่านยังไม่ได้ให้นางอุ่นเตียงใช่ไหม ข้านึกแล้วเชียวท่านเอาเข้าจริงก
ดึงมือเหอซ่างเซี่ยนให้ลุกขึ้นประคองแนบอกพาเดินออกไปทั้งๆ ที่เหอซ่างเซี่ยนหันหน้าหันหลังด้วยเป็นห่วงความรู้สึกของอู่หงถิง แต่หากจะมองให้ถ้วนถี่อู่หงถิงไม่ได้สนใจคำพูดมากกว่าอาหารตรงหน้าที่รสชาติดีและมีแต่ของดีดีที่ไม่เคยได้กินมาก่อนดอกไม้นานาพรรณงดงามสองข้างทางเดินที่ปูด้วยก้อนกรวดสีขาวสะอาดตา หวาเซียง กุมมือเหอซ่างเซี่ยนไว้ไม่ห่าง“หวางเฟย หน้าหนาวปีนี้ข้าให้คนสร้างห้องพักให้เจ้าเสียใหม่ มิดชิดอบอุ่นกว่าเดิม อีกทั้งทำเตาพิงไว้ด้านในมีอ่างน้ำอุ่นกับห้องเครื่องเจ้าจะได้ไม่ต้องเดินเข้าออกมาเสวยกับข้าข้างนอกต้องไอเย็น”“ท่านพี่ เช่นนั้นท่านพี่ต้องให้เจ้าหรูมาเสวยด้วยทุกเช้าทุกเย็น จะได้ทำความคุ้นเคยกันไว้”หวาเซียงพยักหน้ายิ้มเศร้าๆ“หากเจ้าพอใจเช่นนั้น ข้าพร้อมจะตามใจเจ้า หากมันทำให้เจ้าสบายใจ”เหอซ่างเซี่ยนกลืนน้ำลายของคอยากเย็น จะสบายใจได้อย่างไรในเมื่อไม่มีหญิงคนไหนอยากให้สามีรักคนอื่นมากกว่า แต่ซ่างเซี่ยนรักหวาเซียงอ๋องเสียจนยอมได้ทุกอย่าง เมื่อคิดว่าวันใดที่เขาจะต้องโดดเดี่ยวลำพังเมื่อซ่างเซี่ยนไม่อยู่แล้ว“ท่านพี่ แค่... มีคนคอยปรนนิบัติและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา เซี่ยนเซี่ยนก็สบายใจ
“นายหญิงของฟางหลุน เสน่ห์แรงไม่เบา”อู่หงถิงส่งภาษามือบอกว่าเขากับอู่หงถิงไม่ได้ทำอะไรกันเสียหน่อย ฟางหลุนอมยิ้ม“แน่นะเจ้าคะ”อู่หงถิงพยักหน้ารัวเร็วค่ำคืนมืดมิดสวมเสื้อคลุมสีดำสนิท เร้นกายออกจากห้องไปยังห้องทำงานของหวาเซียงอ๋อง เปิดประตูอย่างเบามือก่อนจะเร้นกายเข้าไปในนั้น ความมืดทำให้มองไม่เห็นร่างใหญ่ของหวาเซียงอ๋องที่นั่งอยู่ตรงนั้นตรงไปที่หีบไม้ใหญ่ด้านล่างโต๊ะเขียนหนังสือ แต่ร่างบางกับถูกรวบไว้แน่นดิ้นไม่หลุด อู่หงถิงตกใจอย่างที่สุด ลมหายใจร้อนผะผ่าวคลอเคลียที่หลังใบหู ดิ้นรนปัดป้อง“อดใจไม่ไหวถึงกลับตามข้า เข้ามาเชียวหรือ”ยิ้มหยันในหน้าจุดเทียนจนสว่างมองอู่หงถิงที่ดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขน แต่ไร้ประโยชน์“เข้ามาถึงนี่ แต่ดิ้นรนเสแสร้ง”ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น“ออกไปเสีย อย่าได้เข้ามาในนี้อีกเป็นอันขาดข้าไม่มีทางที่จะหลงมารยาเจ้า”ตวาดเสียงดังลั่น อู่หงถิงเม้มริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บกับคำดูถูกนั้น อยากจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อเหลานั่นดูสักที แต่ในที่สุดก็รีบออกจากห้องไปทันทีกลับไปนั่งหน้าเศร้า อย่างไรจึงจะขโมยหลักฐานสำคัญได้ในเมื่ออุปสรรคใหญ่คือคนผู้นั้น“นายหญิงเป็นอะไรไปเจ้า
“พอเลิกโอ้อวดได้แล้ว”หวาเซียงอ๋อง อดขำกับคำพูดของเสี่ยวกุนไม่ได้ สาวใช้ของเหอซ่างเซี่ยนวิ่งเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า“ท่านอ๋อง พระชายาออกไปตามหาชายรองข้างนอก”“ข้างนอก ชายารองนางไปไหน”“ไม่รู้เจ้าค่ะแต่ฟางหลุนบอกว่า หานางจนทั่วป่านนี้ยังไม่พบคาดว่าจะหนีไปตั้งแต่ กลางดึกเมื่อคืนพระชายาเป็นห่วงและร้อนใจมากจึงออกไปตามนางข้างนอก”หวาเซียงอ๋องก้าวขาออกจากห้องไปทันที เสี่ยวกุนกับกัวเฉาเร่งตามไปติดๆ“หยิบเสื้อคลุมแล้วตามข้ามา อากาศวันนี้เย็นมาก เจ้าให้พระชายาออกไปได้อย่างไร”พูดไปวิ่งไป“พระชายาบอกว่าร้อนใจว่านางจะหนีออกจากจวน จึงเร่งออกตามหาข้าน้อยห้ามก็ไม่ฟัง ไล่ให้ข้าน้อยมาแจ้งข่าวกับท่านอ๋อง”หวาเซียงอ๋องคิดว่าอู๋หงถิงคงน้อยใจเรื่องเมื่อคืนหรืออาจหนีไปหาหวาซงอ๋องชู้รักที่ตำหนักบูรพา“ข้าไปที่ตำหนักบูรพา กัวเฉาไปนอกวังหลวง ส่วนเสี่ยวกุนตามนางที่ตระกูลกวง”ต่างแยกย้ายกันออกไปตำหนักบูรพา“ไม่มีใครจากจวนหวาเซียงอ๋องมาที่นี่แม้แต่คนเดียว หวาเซียงอ๋องทำสิ่งใดหายไปกันแน่”“พี่ใหญ่ ไม่ต้องกังวลคนของข้า ข้าหาเองได้”ยิ้มหยันผุดขึ้นที่ริมฝีปาก “อย่าลืมไปหานางที่ตำหนักจันทราของเจ้ารองด้วยก็แล้วกัน”หว