“ข้าเพียงแค่อยากนั่งอยู่ที่นี่อีกสักพัก”
แววตาเศร้าสร้อย ค่ำคืนนี้อีกยาวนานเขาจะข่มตาหลับได้อย่างไรยกสุราขึ้นกระดกจนหมดเหยือกก่อนจะปามันลงกับพื้น
“เสี่ยวกุนยกสุรามาอีก”
เสี่ยวกุนยกไหสุรามาวางตรงหน้า
“ท่านอ๋องท่านมีเรื่องใดเป็นกังวล”
โบกมือว่าเขายังอยากจะพูดถึงมัน
“ท่านอ่องอาการบาดเจ็บยังไม่หายดี”
“ช่างมัน ข้าอยากจะตายไปเสียตอนนี้เลยยิ่งดี”
ยกสุราขึ้นดื่ม
“ยกไหสุรามาอีกเสี่ยวกุน”
เสี่ยวกุนส่ายหน้าไปมา รีบไปยกสุรามาอีก
“บางอย่างทิ้งมันไว้ข้างหลังแล้วเดินหน้าต่อจึงจะดี บางอย่างหากจมอยู่กับมันยิ่งทำให้ทดท้อ”
ลุกขึ้นจากแท่นนั่งเดินโซเซ เสี่ยวกุนมาพยุงแต่เขากับปัดมือเสี่ยวกุนออกเดินไปที่ห้องของเหอซ่างเซี่ยน เปิดประตูออกยืนนิ่งมองใบหน้างดงามทว่าซีดขาวของเหอซ่างเซี่ยนที่หลับตานอนนิ่ง บางครั้งก็ไอถี่ๆสองสามครั้งบางครั้งก็หอบเหนื่อย หวาเซียงอ๋องสอดกายไปในผ้าห่ม นอนตะแคงกอดร่างบางเย็นชืดไว้แนบอก
“ท่านพี่ท่านไปหานางมาแล้วใช่ไหม”
หวาเซียงอ๋องพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะกอดรวบร่างบางแนบอกแน่นกว่าเดิม
“ข้าไม่ได้ต้องการนาง”
เหอซ่างเซี่ยนยิ้ม
“ท่านยังไม่ได้ให้นางอุ่นเตียงใช่ไหม ข้านึกแล้วเชียวท่านเอาเข้าจริงก็ไม่กล้า”
ยิ้มสว่างสดใส หวาเซียงอ๋องยิ้มตามทว่ากลับหันหน้าซ่อนหยาดน้ำตาไว้
“เจ้าต้องคอยช่วยข้า อย่าเพิ่งถอดใจเสียล่ะคงใช้เวลานานหน่อยกว่าข้า...จะชอบนาง”
กลืนก้อนแข็งๆ ลงคอช้าๆ
“ท่านอ๋องต้องเปิดใจ ข้าจะทำให้ดีที่สุดต่อจากนี้”
ไอถี่ๆ หวาเซียงอ๋องหลับตาไล่หยาดน้ำตา
ร่างสูง ก้าวเข้าไปในห้องของอู่หงถิงกระซากแขนให้ลุกขึ้นจากแท่นนอน
“ข้าให้โอกาสเจ้ามาหลายวันแล้วยังฆ่าหวาเซียงอ๋องไม่ได้อีกหรือ”
อู่หงถิงยกมือขึ้นประนมตรงหน้า ส่งภาษามือบอกว่าตัวเองพยายามแล้ว
“เจ้าใช้แจกันทุบหัวเขาบางทีเขาอาจตาย หากเจ้าออกมาแรงมากอีกหน่อยข้าจะถือว่าเจ้าพยายามแล้ว แม่กับน้องของเจ้าตอนนี้ปลอดภัยดี ข้าเบื่อจะดูแลแล้ว”
อู่หงถิงส่ายหน้าไปมาส่งภาษามือว่าอย่าเพิ่งทำอะไรพวกเขา
“อยู่ที่ความสามารถของเจ้า หาหลักฐานในมือของหวาเซียงอ๋องเรื่องหวาจิ้งอ๋องยักยอกเงินในคลัง มาให้ข้าอีกสามวันข้าจะมารับไป หากข้าไม่มาเจ้าออกไปที่นี่”
อู่หงถิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งภาษามือว่าแล้วจะปล่อยแม่กับน้องไหม
“เจ้ายังฆ่าหวาเซียงอ๋องไม่ได้ ข้าก็คงปล่อยแม่กับน้องของเจ้าไม่ได้”
อู่หงถิงคุกเข่าลงกับพื้น ส่งภาษามือให้เขาเมตตาแม่กับน้อง
“555 ข้านะหรือใบหน้าข้าไม่เหมาะแก่การเมตตาผู้ใด..จำไว้ทำงานไม่สำเร็จเช่นไรจึงกล้ามาต่อรอง”
อู่หงถิงก้มศรีษะลงกับพื้นช้าๆ
“ข้ายังไม่ฆ่าพวกเขา รอดูผลงานของเจ้ามีเจ้าเป็นไส้ศึกอยู่ในนี้ก็ดีไม่น้อย”
ทะยานขึ้นไปบนหลังคาจากไปทันที
เช้าสดใสอากาศอุ่นขึ้นเล็กน้อย อู่หงถิงไม่ได้สวมเสื้อคลุมนั่งสางผมอยู่บนเก้าอี้
“นายหญิง นายหญิงชายาเอกให้ท่านร่วมเสวยกับท่านอ๋องที่ศาลาริมน้ำ”
อู่หงถิงส่ายหน้าไปมาปฏิเสธทันที
“ไปเถอะเจ้าค่ะ ท่านอ๋องคงหายโกรธแล้วหลายวันมานี้ไม่มายุ่งเกี่ยวกับนายหญิงคงไม่ถือสาเรื่องที่นายหญิงทำ”
อู่หงถิงยังส่ายหน้า ฟางหลุนยิ้มดึงมือให้นั่งลงเลือกอาภรณ์มาเปลี่ยนให้สีแดงกับขาวตัดกับผิวสีชมพูของอู่หงถิงไม่ว่าจะมองทางไหนก็งดงามจน ฟางหลุนอดที่จะยิ้มเสียไม่ได้
“นายหญิงสวยที่สุด นี่ขนาดเพิ่งจะโตเป็นสาวหากมีเนื้อมีหนังกว่านี้อีกหน่อย คงจะงามล่มเมืองแน่”
จูงมือให้เดินบนระเบียงทอดยาวสู่ศาลาริมน้ำ ที่นั่นเหอซ่างเซี่ยนกับหวาเซียงอ๋องนั่งอยู่ก่อนแล้ว สายตาคมกริบจ้องมองมาไม่วางตา เหอซ่างเซี่ยนมองตามสายตาของหวาเซียงอ๋อง ในเมื่อเห็นเหมือนกันว่าวันนี้อู่หงถิงช่างสง่างามเกินหญิงอายุ15
“น้องหญิงนั่งลงข้างๆ ท่านอ๋องเสีย”
เหอซ่างเซี่ยน พูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าอู่หงถิง
ส่ายหน้าไปมา
ซ่างเซี่ยนขยับกายลุกขึ้นอย่างอยากเย็น หวาเซียงอ๋องถอนหายใจยาวเมื่อเหอซ่างเซี่ยนจูงมืออู่หงถิงให้ไปข้างๆหวาเซียงอ๋องกดตัวให้นั่งลงข้างๆอย่างยากลำบาก
“ท่านพี่ น้องหญิงผอมบางไปหน่อยท่านพี่ตักเครื่องเสวยให้นางจะดีไหมนางจะได้กินเยอะๆ ”
หวาเซียงอ๋องเลือกตักเครื่องเสวยวางบนถ้วยข้าวให้กับอู่หงถิง อู่หงถิงเพียงแค่เหลือบตามอง
“น้องหญิงเจ้าต้องขอบคุณ”
อู่หงถิงนั่งนิ่ง หวาเซียงอ๋องวางตะเกียบสีหน้าขุ่นมัว
“ข้ากำลังจะชวนเจ้า เซี่ยนเซี่ยนไปชมดอกไม้สูดอากาศบริสุทธิ์เผื่อเจ้าจะหายจากอาการเจ็บป่วย เช่นนั้นให้นางนั่งกินอะไรรอที่นี่”
“ท่านพี่…รอให้เจ้าหรูกินเสร็จเราค่อยไปพร้อมกัน”
เอื้อมมือไปกุมมือเหอซ่างเซี่ยน
“ข้าอยากใช้เวลากับเจ้า กับนางข้าหาต้องการไม่ แค่เพียงทำตามใจเจ้าก็เท่านั้น หากเป็นสิ่งที่เจ้าต้องการและพอใจข้ายินดีทำ แต่ข้าพูดตามตรงว่าข้าอยากใช้เวลากับเจ้าเพียงผู้เดียว”
อู่หงถิงคีบเครื่องเสวยเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนไม่ได้ยินที่หวาเซียงอ๋องพูด
“ท่านพี่”
ดึงมือของเหอซ่างเซี่ยนขึ้นมาจุมพิตเบาๆ เหอซ่างเซี่ยนรีบดึงมือตัวเองออกจากมืออุ่น
“ไปกันเถอะ”
ดึงมือเหอซ่างเซี่ยนให้ลุกขึ้นประคองแนบอกพาเดินออกไปทั้งๆ ที่เหอซ่างเซี่ยนหันหน้าหันหลังด้วยเป็นห่วงความรู้สึกของอู่หงถิง แต่หากจะมองให้ถ้วนถี่อู่หงถิงไม่ได้สนใจคำพูดมากกว่าอาหารตรงหน้าที่รสชาติดีและมีแต่ของดีดีที่ไม่เคยได้กินมาก่อนดอกไม้นานาพรรณงดงามสองข้างทางเดินที่ปูด้วยก้อนกรวดสีขาวสะอาดตา หวาเซียง กุมมือเหอซ่างเซี่ยนไว้ไม่ห่าง“หวางเฟย หน้าหนาวปีนี้ข้าให้คนสร้างห้องพักให้เจ้าเสียใหม่ มิดชิดอบอุ่นกว่าเดิม อีกทั้งทำเตาพิงไว้ด้านในมีอ่างน้ำอุ่นกับห้องเครื่องเจ้าจะได้ไม่ต้องเดินเข้าออกมาเสวยกับข้าข้างนอกต้องไอเย็น”“ท่านพี่ เช่นนั้นท่านพี่ต้องให้เจ้าหรูมาเสวยด้วยทุกเช้าทุกเย็น จะได้ทำความคุ้นเคยกันไว้”หวาเซียงพยักหน้ายิ้มเศร้าๆ“หากเจ้าพอใจเช่นนั้น ข้าพร้อมจะตามใจเจ้า หากมันทำให้เจ้าสบายใจ”เหอซ่างเซี่ยนกลืนน้ำลายของคอยากเย็น จะสบายใจได้อย่างไรในเมื่อไม่มีหญิงคนไหนอยากให้สามีรักคนอื่นมากกว่า แต่ซ่างเซี่ยนรักหวาเซียงอ๋องเสียจนยอมได้ทุกอย่าง เมื่อคิดว่าวันใดที่เขาจะต้องโดดเดี่ยวลำพังเมื่อซ่างเซี่ยนไม่อยู่แล้ว“ท่านพี่ แค่... มีคนคอยปรนนิบัติและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา เซี่ยนเซี่ยนก็สบายใจ
“นายหญิงของฟางหลุน เสน่ห์แรงไม่เบา”อู่หงถิงส่งภาษามือบอกว่าเขากับอู่หงถิงไม่ได้ทำอะไรกันเสียหน่อย ฟางหลุนอมยิ้ม“แน่นะเจ้าคะ”อู่หงถิงพยักหน้ารัวเร็วค่ำคืนมืดมิดสวมเสื้อคลุมสีดำสนิท เร้นกายออกจากห้องไปยังห้องทำงานของหวาเซียงอ๋อง เปิดประตูอย่างเบามือก่อนจะเร้นกายเข้าไปในนั้น ความมืดทำให้มองไม่เห็นร่างใหญ่ของหวาเซียงอ๋องที่นั่งอยู่ตรงนั้นตรงไปที่หีบไม้ใหญ่ด้านล่างโต๊ะเขียนหนังสือ แต่ร่างบางกับถูกรวบไว้แน่นดิ้นไม่หลุด อู่หงถิงตกใจอย่างที่สุด ลมหายใจร้อนผะผ่าวคลอเคลียที่หลังใบหู ดิ้นรนปัดป้อง“อดใจไม่ไหวถึงกลับตามข้า เข้ามาเชียวหรือ”ยิ้มหยันในหน้าจุดเทียนจนสว่างมองอู่หงถิงที่ดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขน แต่ไร้ประโยชน์“เข้ามาถึงนี่ แต่ดิ้นรนเสแสร้ง”ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น“ออกไปเสีย อย่าได้เข้ามาในนี้อีกเป็นอันขาดข้าไม่มีทางที่จะหลงมารยาเจ้า”ตวาดเสียงดังลั่น อู่หงถิงเม้มริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บกับคำดูถูกนั้น อยากจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อเหลานั่นดูสักที แต่ในที่สุดก็รีบออกจากห้องไปทันทีกลับไปนั่งหน้าเศร้า อย่างไรจึงจะขโมยหลักฐานสำคัญได้ในเมื่ออุปสรรคใหญ่คือคนผู้นั้น“นายหญิงเป็นอะไรไปเจ้า
“พอเลิกโอ้อวดได้แล้ว”หวาเซียงอ๋อง อดขำกับคำพูดของเสี่ยวกุนไม่ได้ สาวใช้ของเหอซ่างเซี่ยนวิ่งเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า“ท่านอ๋อง พระชายาออกไปตามหาชายรองข้างนอก”“ข้างนอก ชายารองนางไปไหน”“ไม่รู้เจ้าค่ะแต่ฟางหลุนบอกว่า หานางจนทั่วป่านนี้ยังไม่พบคาดว่าจะหนีไปตั้งแต่ กลางดึกเมื่อคืนพระชายาเป็นห่วงและร้อนใจมากจึงออกไปตามนางข้างนอก”หวาเซียงอ๋องก้าวขาออกจากห้องไปทันที เสี่ยวกุนกับกัวเฉาเร่งตามไปติดๆ“หยิบเสื้อคลุมแล้วตามข้ามา อากาศวันนี้เย็นมาก เจ้าให้พระชายาออกไปได้อย่างไร”พูดไปวิ่งไป“พระชายาบอกว่าร้อนใจว่านางจะหนีออกจากจวน จึงเร่งออกตามหาข้าน้อยห้ามก็ไม่ฟัง ไล่ให้ข้าน้อยมาแจ้งข่าวกับท่านอ๋อง”หวาเซียงอ๋องคิดว่าอู๋หงถิงคงน้อยใจเรื่องเมื่อคืนหรืออาจหนีไปหาหวาซงอ๋องชู้รักที่ตำหนักบูรพา“ข้าไปที่ตำหนักบูรพา กัวเฉาไปนอกวังหลวง ส่วนเสี่ยวกุนตามนางที่ตระกูลกวง”ต่างแยกย้ายกันออกไปตำหนักบูรพา“ไม่มีใครจากจวนหวาเซียงอ๋องมาที่นี่แม้แต่คนเดียว หวาเซียงอ๋องทำสิ่งใดหายไปกันแน่”“พี่ใหญ่ ไม่ต้องกังวลคนของข้า ข้าหาเองได้”ยิ้มหยันผุดขึ้นที่ริมฝีปาก “อย่าลืมไปหานางที่ตำหนักจันทราของเจ้ารองด้วยก็แล้วกัน”หว
อากาศหนาวเหน็บจนแทบทนไม่ไหว อู่หงถิงก้าวเดินช้าๆตั้งใจจะวิ่งแต่ด้วยไม่ใส่เสื้อคุลมและถุงมือในที่สุดก็หนาวสั่น จนต้องทิ้งตัวลงบนพื้นหิมะนอนขดตัว เป็นก้อนกลมเหมือนที่เคยทำตอนอยู่กับแม่กับน้องยามเหน็บหนาว กัวเฉาก้าวขายาวๆ ก่อนจะรวบร่างบางเย็นชืดไว้ในอ้อมแขนพาก้าวเดินออกมายกมือสั่นสะท้านขึ้นมาส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยเหอซ่างเซี่ยนทั้งๆที่ตัวเองกำลังจะหมดสติ กัวเฉาได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจภาษามือนั้นดิ้นรนออกจากอ้อมแขนหมายจะพากัวเฉาไปหาเหอซ่างเซี่ยนแต่กัวเฉากลับอุ้มอู่หงถิงไปจากตรงนั้น“กัวเฉา”หวาเซียงอ๋อง ถลาเข้าหากัวเฉาที่อุ้มอู่หงถิง ร่างเย็นชืดหมดสติในอ้อมแขนริมฝีปากและซีดขาวทว่าแก้มแดง ปลายนิ้วมือคล้ำจนเขียว“เจอนางที่ไหน”“ไม่ไกลจากตรงนี้แล้ว เซี่ยนเซี่ยนเล่านางอยู่ที่ไหน”หวาเซียงอ๋อง ไม่แม้แต่จะชายตามองอู่หงถิงถลาเข้าไปในป่า ที่พื้นหิมะหนาเตอะเดินย่ำไปมาตามรอยเท้าของอู่หงถิง จึงพบรอยเท้าอีกรอย มั่นใจในทันทีว่าเป็นของเหอซ่างเซี่ยน“เซี่ยนเซี่ยน”“เซี่ยนเซี่ยน”เงียบไร้ซึ่งสรรพเสียงมีเพียงเสียงลมพัดอื้ออึงก้าวข้าไปมาอย่างเร่งรีบแม้จะหนาวจะเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่สนใจ จนกระทั่งมองเห็นร่างข
อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฟางหลุนส่ายหน้าแต่สักพักก็ยิ้มส่งภาษามือบอกว่าเหอซ่างเซี่ยนปลอดภัยแล้วใช่ไหม นางพักรักษาตัวอยู่ใช่ไหม ฟางหลุนปาดน้ำตา“นายหญิงพักผ่อนเสีย” กัวเฉากลืนก้อนแข็งๆ ลงคอความสงสารแล่นเข้าสู่หัวใจหวาเซียงอ๋องก้าวเข้ามาในห้องด้วยสายตาดุดัน กัวเฉาประสานมือคารวะแต่เขากลับไม่สนใจ กระชากแขนของอู่หงถิงติดมือขึ้นมาทั้งลากทั้งดึงทั้งๆที่อู่หงถิงเดินไม่ค่อยถนัดเพราะแผลจากหิมะกัดที่นิ้วเท้า“เลิกนอนสบายได้แล้ว ฟางหลุนต่อไปไม่ต้องคอยดูแลนาง นางคือชายาทาสข้าต่อจากนี้ นางต้องทำทุกอย่างตามที่ข้าสั่ง และทำทุกอย่างที่สาวใช้ทำกัน”ฟางหลุนเบิกตากว้าง ถลาเข้ากอดอู่หงถิงไว้“ท่านอ๋องได้โปรดนายหญิงบาดเจ็บอยู่”รอยยิ้มเย้ยหยัน“เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรือ”ชักกระบี่ข้างกายของกัวเฉาอย่างรวดเร็ว จี้ไปที่คอหอยของอู่หงถิง“จะทำตามคำสั่งข้าหรืออยากให้นางตาย หากข้ารู้ว่าเจ้าแอบช่วยเหลือหรือแอบปรนนิบัติรับใช้นาง...ข้าจะฆ่านางเสีย”อู่หงถิงมองหวาเซียงอ๋องด้วยสายตาเคียดแค้น มือเล็กกำมัดแน่นก่อนจะกอดตอบฟางหลุนเบาๆ ส่งภาษามือให้ฟางหลุนถอยไป“ไม่ไม่ไม่ ท่านอ๋องหากจะฆ่านายหญิงท่านอ๋องฆ่าฟางหลุนเสียเถอะ
“ใต้เท้า คุณหนูน่าสงสารไม่น้อย เป็นแผลพุพองทั่วร่างกายอีกทั้งยังป่วยไข้เพราะไอเย็น”“เจ้าหรูมิใช่คนอ่อนแอเช่นนั้น นางเข้าใจดีว่าต้องทำตัวเช่นไร เรื่องแบบนี้เจ้าหรูคงไม่อยากให้ข้าก้าวก่าย”กวงเจ้าหลัว จำได้ดีตอนที่รับเอาเจ้าหรูมาจากอนุของเขาในตอนนั้น ภายนอกเจ้าหรูเป็นคุณหนูผู้งดงามอ่อนหวาน ถูกเลี้ยงดังไข่ในหินแต่ภายในเขากับเลี้ยงนางเหมือนดังสาวใช้คนหนึ่ง เขามักพูดกับเจ้าหรูเสมอว่ามารดาทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็กทั้งๆที่เป็นเขายื้อแย่งนางมา เช่นนั้นเขาจึงพูดให้เจ้าหรูเข้าใจว่าต้องตอบแทนบุญคุณตระกูลกวงเสมอเมื่อมีโอกาสตำหนักฮ่องเต้“ซ่างเซี่ยน ไม่อยู่แล้วหวาเซียงอ๋องคงจะลดบทบาทลงไปไม่น้อย”ฮองเฮายิ้มหวาน“ฝ่าบาท ก็เห็นว่าทุกวันนี้หวาเซียงอ๋องเป็นที่รักของชาวบ้านแต่ในราชสำนักล้วนถูกจับตาอีกทั้งไม่มีใครอยากจะเป็นพวก”“เป็นข้าที่มอบตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรให้เขาคอยตรวจสอบ ขุนนางและราชวงศ์จนกลายเป็น ไม้เบื่อไม้เมากับคนในวังหลวง”“จะว่าไปหากไม่มีหวาเซียงอ๋องวังหลวงก็คงฟอนเฟะไม่น้อย”ฮ่องเต้ถอนหายใจยาว“ซ่างเซี่ยนอายุสั้นเสียจริง ข้าตอนนี้แม้อยากจะปรามหวาเซียงอ๋องเรื่องกวงเจ้าหรูเพียงใดก็ไม่อาจ
ฟางหลุนเปิดประตูเข้ามาในห้อง ดึงห่อหมั่นโถวยื่นวางไว้บนมือบางซีดเซียวของอู่หงถิง จับเสื้อผ้าที่ถูกโยนหลุดลุ่ยมาสวมทับให้อีกทีลูบหลังไหล่ให้ด้วยความสงสาร ใช้มือบิหมั่นโถวป้อนอู่หงถิง รสชาติของหมั่นโถวช่างปะแล่มๆด้วยปนกับรสของน้ำตา อู่หงถิงยิ้มหยันให้กับตัวเอง“อิ่มไหม”อู่หงถิงพยักหน้ายิ้มๆ“นายหญิงมีเรื่องอะไรจะคุยกับฟางหลุนหรือไม่”อู่หงถิงเลิกคิ้วสูงคิดว่าจะบอกกับฟางหลุนเรื่องที่ตัวเองไม่ใช่กวงเจ้าหรูทว่าไม่กล้าแม้แต่จะคิดกลัวว่าแม่กับน้องจะไม่ปลอดภัยเลือกที่จะส่ายหน้า“ฟางหลุนรู้สึกว่านายหญิงมีบางอย่างในใจ”ยิ้มบางๆ“ฟางหลุนอยากให้นางหญิงพูดเสียทีอย่างน้อยก็จะได้บอกกับท่านอ๋อง ขอร้องท่านอ๋องให้ปรานี”อู่หงถิงส่ายหน้าส่งภาษามือเหมือนจะบอกว่าเขาจะทำอะไรก็ช่างเขา“นายหญิงข้าส่งข่าวถึงท่านพ่อของนายหญิงแล้ว แต่ก็เงียบเฉยเกรงว่าจะไม่กล้าต่อกรกับท่านอ๋อง พรุ่งนี้รอให้สว่างฟางหลุนจะพบคนผู้หนึ่งขอความช่วยเหลือ”อู่หงถิงส่ายหน้าไปมา“ท่านอ๋องทำเกินไปแล้ว นายหญิงอายุยังน้อย เรื่องบางเรื่องไม่ถึงกับต้องลงทัณฑ์กันก็ได้ ฟางหลุนจะไม่ยอมนิ่งดูดายเด็ดขาด”กอดปลอบร่างเล็กของอู่หงถิงลูบหลังลูบไหล่ปล
“ท่านพ่อตา”หวาจิ้งอ๋องประสานมือตรงหน้าต่อหน้ากวงเจ้าหลัว“องค์ชายรองท่าน ล้อเล่นเช่นนี้ ข้าเกรงว่าผู้อื่นมาได้ยินเข้าจะไม่เหมาะนัก”“เจ้าหรูกับข้า ท่านก็รู้ว่าเราสองคนรักกัน มีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นที่ปิดหูปิดตาหากให้นางแต่งเข้าตำหนักข้าเสีย เกรงว่าไม่เป็นเช่นนี้”“หวาเซียงอ๋องเดิมไม่เคยลงรอยกับข้าอยู่แล้ว การประทานงานแต่งจากฮ่องเต้ยิ่ง ไม่เคยยินยอมแต่เป็นเพราะขัดฝ่าบาทไม่ได้”“ท่านพ่อตาข้าอยากให้ท่านแวะไปที่จวนหวาเซียงอ๋องดูเสียที ข้าเองห่วงนางมากแต่จะไปก็เกรงว่าไม่เหมาะ”“หวาเซียงอ๋องมิได้ระแวงองค์ชายรอง หากแต่ระแวงองค์ชายใหญ่หวาซงว่ามีแอบมีความสัมพันธ์กับเจ้าหรู”หวาจิ้งอ๋องยิ้ม“เจ้าหรูงดงามอ่อนหวานใครกันไม่หมายปองนาง อีกทั้งความงามของนางล่มเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย หวาเซียงอ๋องข้าแปลกใจเสียจริงว่าเหตุใดถึงได้ทำท่าทีรังเกียจเจ้าหรูเสียเหลือเกินทั้งๆ ที่ไม่ว่าใครหากพบหน้าและพูดคุยกับเจ้าหรูแล้วเกรงว่าจะอดใจหลงรักนางไม่ได้” กวงเจ้าหลัวถอนหายใจ“มีเพียงหวาเซียงอ๋องที่มองเจ้าหรูเป็นเพียงชายาทาส ข้าเห็นทีจะต้องแวะไปที่จวนหวาเซียงอ๋องอย่างที่องค์ชายพูดมา หากไม่แวะเวียนไปเสียบ้าง คงไม่พ้นข้อ