“ใต้เท้า คุณหนูน่าสงสารไม่น้อย เป็นแผลพุพองทั่วร่างกายอีกทั้งยังป่วยไข้เพราะไอเย็น”“เจ้าหรูมิใช่คนอ่อนแอเช่นนั้น นางเข้าใจดีว่าต้องทำตัวเช่นไร เรื่องแบบนี้เจ้าหรูคงไม่อยากให้ข้าก้าวก่าย”กวงเจ้าหลัว จำได้ดีตอนที่รับเอาเจ้าหรูมาจากอนุของเขาในตอนนั้น ภายนอกเจ้าหรูเป็นคุณหนูผู้งดงามอ่อนหวาน ถูกเลี้ยงดังไข่ในหินแต่ภายในเขากับเลี้ยงนางเหมือนดังสาวใช้คนหนึ่ง เขามักพูดกับเจ้าหรูเสมอว่ามารดาทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็กทั้งๆที่เป็นเขายื้อแย่งนางมา เช่นนั้นเขาจึงพูดให้เจ้าหรูเข้าใจว่าต้องตอบแทนบุญคุณตระกูลกวงเสมอเมื่อมีโอกาสตำหนักฮ่องเต้“ซ่างเซี่ยน ไม่อยู่แล้วหวาเซียงอ๋องคงจะลดบทบาทลงไปไม่น้อย”ฮองเฮายิ้มหวาน“ฝ่าบาท ก็เห็นว่าทุกวันนี้หวาเซียงอ๋องเป็นที่รักของชาวบ้านแต่ในราชสำนักล้วนถูกจับตาอีกทั้งไม่มีใครอยากจะเป็นพวก”“เป็นข้าที่มอบตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรให้เขาคอยตรวจสอบ ขุนนางและราชวงศ์จนกลายเป็น ไม้เบื่อไม้เมากับคนในวังหลวง”“จะว่าไปหากไม่มีหวาเซียงอ๋องวังหลวงก็คงฟอนเฟะไม่น้อย”ฮ่องเต้ถอนหายใจยาว“ซ่างเซี่ยนอายุสั้นเสียจริง ข้าตอนนี้แม้อยากจะปรามหวาเซียงอ๋องเรื่องกวงเจ้าหรูเพียงใดก็ไม่อาจ
ฟางหลุนเปิดประตูเข้ามาในห้อง ดึงห่อหมั่นโถวยื่นวางไว้บนมือบางซีดเซียวของอู่หงถิง จับเสื้อผ้าที่ถูกโยนหลุดลุ่ยมาสวมทับให้อีกทีลูบหลังไหล่ให้ด้วยความสงสาร ใช้มือบิหมั่นโถวป้อนอู่หงถิง รสชาติของหมั่นโถวช่างปะแล่มๆด้วยปนกับรสของน้ำตา อู่หงถิงยิ้มหยันให้กับตัวเอง“อิ่มไหม”อู่หงถิงพยักหน้ายิ้มๆ“นายหญิงมีเรื่องอะไรจะคุยกับฟางหลุนหรือไม่”อู่หงถิงเลิกคิ้วสูงคิดว่าจะบอกกับฟางหลุนเรื่องที่ตัวเองไม่ใช่กวงเจ้าหรูทว่าไม่กล้าแม้แต่จะคิดกลัวว่าแม่กับน้องจะไม่ปลอดภัยเลือกที่จะส่ายหน้า“ฟางหลุนรู้สึกว่านายหญิงมีบางอย่างในใจ”ยิ้มบางๆ“ฟางหลุนอยากให้นางหญิงพูดเสียทีอย่างน้อยก็จะได้บอกกับท่านอ๋อง ขอร้องท่านอ๋องให้ปรานี”อู่หงถิงส่ายหน้าส่งภาษามือเหมือนจะบอกว่าเขาจะทำอะไรก็ช่างเขา“นายหญิงข้าส่งข่าวถึงท่านพ่อของนายหญิงแล้ว แต่ก็เงียบเฉยเกรงว่าจะไม่กล้าต่อกรกับท่านอ๋อง พรุ่งนี้รอให้สว่างฟางหลุนจะพบคนผู้หนึ่งขอความช่วยเหลือ”อู่หงถิงส่ายหน้าไปมา“ท่านอ๋องทำเกินไปแล้ว นายหญิงอายุยังน้อย เรื่องบางเรื่องไม่ถึงกับต้องลงทัณฑ์กันก็ได้ ฟางหลุนจะไม่ยอมนิ่งดูดายเด็ดขาด”กอดปลอบร่างเล็กของอู่หงถิงลูบหลังลูบไหล่ปล
“ท่านพ่อตา”หวาจิ้งอ๋องประสานมือตรงหน้าต่อหน้ากวงเจ้าหลัว“องค์ชายรองท่าน ล้อเล่นเช่นนี้ ข้าเกรงว่าผู้อื่นมาได้ยินเข้าจะไม่เหมาะนัก”“เจ้าหรูกับข้า ท่านก็รู้ว่าเราสองคนรักกัน มีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นที่ปิดหูปิดตาหากให้นางแต่งเข้าตำหนักข้าเสีย เกรงว่าไม่เป็นเช่นนี้”“หวาเซียงอ๋องเดิมไม่เคยลงรอยกับข้าอยู่แล้ว การประทานงานแต่งจากฮ่องเต้ยิ่ง ไม่เคยยินยอมแต่เป็นเพราะขัดฝ่าบาทไม่ได้”“ท่านพ่อตาข้าอยากให้ท่านแวะไปที่จวนหวาเซียงอ๋องดูเสียที ข้าเองห่วงนางมากแต่จะไปก็เกรงว่าไม่เหมาะ”“หวาเซียงอ๋องมิได้ระแวงองค์ชายรอง หากแต่ระแวงองค์ชายใหญ่หวาซงว่ามีแอบมีความสัมพันธ์กับเจ้าหรู”หวาจิ้งอ๋องยิ้ม“เจ้าหรูงดงามอ่อนหวานใครกันไม่หมายปองนาง อีกทั้งความงามของนางล่มเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย หวาเซียงอ๋องข้าแปลกใจเสียจริงว่าเหตุใดถึงได้ทำท่าทีรังเกียจเจ้าหรูเสียเหลือเกินทั้งๆ ที่ไม่ว่าใครหากพบหน้าและพูดคุยกับเจ้าหรูแล้วเกรงว่าจะอดใจหลงรักนางไม่ได้” กวงเจ้าหลัวถอนหายใจ“มีเพียงหวาเซียงอ๋องที่มองเจ้าหรูเป็นเพียงชายาทาส ข้าเห็นทีจะต้องแวะไปที่จวนหวาเซียงอ๋องอย่างที่องค์ชายพูดมา หากไม่แวะเวียนไปเสียบ้าง คงไม่พ้นข้อ
“ฟางหลุนตามนายหญิงของเจ้า”ฟางหลุนยิ้มก่อนจะรีบไปยังห้องของอู่หงถิง“นายหญิงท่านพ่อของนายหญิงมาแล้ว”อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นกลัวว่าท่านพ่อที่ฟางหลุนว่า จะรู้ว่าอู่หงถิงไม่ใช่กวงเจ้าหรู แต่จะเลี่ยงไม่ออกไปพบได้อย่างไร หากไม่ออกไปยิ่งมีพิรุธ อู่หงถิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างไรก็ต้องออกไปหากจะมีใครสักคนรู้ก็คงเป็นบิดาของกวงเจ้าหรูนี่แหละ ก็คงถึงคราวซวยของอู่หงถิงก็แล้วกัน ฟางหลุนพยุงอู่หงถิงให้ลุกขึ้นช้าๆก้าวขาด้วยความมั่นคง ไม่เกรงกลัวสิ่งใด“นายหญิง”ฟางหลุนบีบมือของอู่หงถิงเพื่อให้กำลังใจ อู่หงถิงยิ้มเป็นครั้งแรก หวาเซียงอ๋องยืนอยู่หน้าห้องมองรอยยิ้มเศร้าสร้อยนั้นใต้เท้ากวงเพ่งมองใบหน้าของอู่หงถิงเหมือนกับตัวประหลาดหวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังมองกิริยาของพ่อลูก“เจ้าหรู เจ้าผอมลงจนพ่อจำแทบไม่ได้”ในที่สุดก็เอ่ยปากออกมาหลังจากที่หายจากอาการตกตะลึง อู่หงถิงยิ้มย่อตัวลง“นางไม่พูดตั้งแต่เข้ามาอยู่ในจวนก็ไม่เคยพูดกับใคร”กวงเจ้าหลัวยิ้ม“ข้าน้อยขอใช้เวลาอยู่กับนางเพียงลำพัง”อู่หงถิงหันสบตากับฟางหลุนที่พยักหน้าช้าๆ“ไม่ได้ ข้ากับนางเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เรื่องขอ
อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง วันนี้ตั้งใจหาทางหนีไปที่กระท่อมร้างเพราะหลายวันมานี่ร้อนใจเรื่องน้องกับแม่ คนผู้นั้นเองคงไม่ใช่คนธรรมดาถึงได้รู้ว่าอู่หงถิงใช้แจกันทุบหัวหวาเซียงอ๋องอีกทั้งเขายังเข้านอกออกในได้สะดวก ต้องรู้ทางหนีทีไล่อย่างดี บางทีเขาอาจไม่กล้าเข้ามาเพราะเห็นว่าอู่หงถิงมีกัวเฉาคอยเฝ้าอยู่ แต่หน้าต่างเปิดออกได้สบายจากการที่ใครสักคนนำขนมและซาลาเปามาให้“นายหญิงลุกเจ้าค่ะวันนี้ต้องสวยที่สุด เพื่อท่านอ๋อง”อู่หงถิงส่ายหน้า ส่งภาษามือว่าช่างเขาข้าไม่สนใจ“ไม่ได้เจ้าค่ะท่านอ๋องใจดี วันนี้หรืออาจจะเป็นเพราะต้องเสวยคนเดียวในวันเกิดปีนี้เป็นปีแรกปกติ นายหญิงชายาเอกจะจัดเครื่องเสวยให้ด้วยตัวเองและนั่งเสวยเป็นเพื่อนตอนนี้เหลือแค่นายหญิงกับท่านอ๋อง นายหญิงต้องรีบทำคะแนน”อู่หงถิงอยากบอกว่าสมน้ำหน้า แต่ก็ยอมไปนั่งลงบนเก้าอี้ให้ฟางหลุนแต่งตัวให้“นายหญิงเจ้าขา อาภรณ์สีเลือดนกตัวนี้ ท่านอ๋องเลือกให้เองกับมือ บอกว่านายหญิงต้องใส่ไปให้ดู”อู่หงถิงแสร้งมองไปทางอื่นไม่สนใจอาภรณ์ที่วางตรงหน้าว่าจะสวยเพียงใดฟางหลุนหมุนตัวอู่หงถิงไปรอบๆ ยกนิ้วให้“งดงามเป็นที่หนึ่ง”อู่หงถิงย่นจมูกส่งภาษามือบอกว่าไม่อ
มือบางเล็กฟาดลงบนแก้มสาก ทันทีเช่นกันริมฝีปากใหญ่กดลงบนปากบางบดขยี้ด้วยอารมณ์โมโหจน อู่หงถิงรู้สึกเจ็บและลิ้มรสโลหิตอุ่นเค็มของตัวเองไม่ยอมเผยอริมฝีปากกับโดนฉกกัดอย่างบ้าคลั่ง อู่หงถิงกัดริมฝีปากใหญ่ ด้วยความโมโหแต่กลับถูกร่างใหญ่ถาโถมเข้าใส่เต็มตัว บดเบียดเอวหนา มือเล็กบางฟาดเข้าใส่ไม่ยั้งหวาเซียงอ๋องทาบทับกดตรึงก่อนจะรวบมือสองข้างไว้เหนือหัว ปลดสายรัดเอวของตัวเอง ดึงชั้นในสีขาวของอู่หงถิงออกให้พ้นตัวเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า สอดขาลงไปตรงกลางลำตัวของอู่หงถิงที่สะดุ้งเฮือก หวีดร้องสุดเสียงน้ำตาไหลพรากหวาเซียงอ๋องไม่กล้าขยับเอว จูบซับหยาดน้ำตาเขาทำอะไรลงไปของเหลวอุ่นๆ ที่หว่างขาทำให้อารมณ์ขุ่นมัวลดลงไปกดริมฝีปากจูบซอกซอนอ่อนหวาน“ปล่อย”อู่หงถิงขยับปากเปล่งเสียงบางเบา หวาเซียงอ๋องเลิกคิ้วสูงขยับเอวบดเบียด“ปล่อยเดี๋ยวนี้”ไม่อาจห้ามใจได้แล้ว หวาเซียงอ๋องขยับเอวไปมากับร่างบางที่ขยับโยกตัวหนียิ่งเพิ่มอารมณ์รัญจวน“ปล่อยข้าได้โปรด”กดริมฝีปากไม่ให้อีกคนพูด จูบหวานตั้งแต่หน้าผากเปลือกตา แก้มและริมฝีปากอ่อนนุ่ม ดูกลืนซอกซอนมือใหญ่ลูบไล้ให้ผ่อนคลาย อู่หงถิงยังบิดตัวหนีสัมผัสที่เหมือนจะเจ็บป
ชายารองที่อยู่ในจวนไม่ใช่กวงเจ้าหรู แต่คนที่มีใบหน้าเหมือนกันขนาดนั้นมีเพียงฝาแฝดเท่านั้นที่จะมีใบหน้าเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนยามอู๋ (11.00.12.59น) หวาเซียงอ๋องขยับตัวลืมตาตื่น ไขว่คว้าร่างอุ่นที่กอดก่ายทั้งคืนบัดนี้กลับพบเพียงความว่างเปล่า ชันกายลุกขึ้นนั่ง รอยหยดเลือดสีแดงบนแท่นนอนทำเอาเขาหงุดหงิดไม่น้อยกับความรู้สึกสงสารที่แล่นเข้าสู่หัวใจ ครั้งแรกของนางเป็นของเขา ยกมือใหญ่ขึ้นลูบไปบนเนื้อผ้ายับยู่ยี่ ความสุขสมเมื่อคืนยังไม่จางหายไป แล้วนางไปไหนเสีย ครึ่งหลับครึ่งตื่นเขากลับพร่ำเพ้อถึงเหอซ่างเซี่ยนทั้งๆที่กอดอีกคนนอนแนบกายหลับใหลสุขสม ถอนหายใจยาว“เสี่ยวกุน ชายารองไปไหนเสีย”เสี่ยวกุนเงอะงะเข้ามาประสานมือตรงหน้า มองรอบกายที่เป็นเหมือนดังสมรภูมิรบอาภรณ์ถูกถอดทิ้งเกลื่อนพื้น“ข้าน้อย ไม่เห็นว่าชายารองออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่”เหลือบตามอง ร่างเปลือยเปล่าที่เอาผ้าห่มมาคุลมของสงวนไว้ เสี่ยวกุนอดที่จะอมยิ้มไม่ได้“ตามนาง”ออกคำสั่ง ทว่าเสี่ยวกุนกลับรู้สึกว่า สมควรแล้วที่ชายารองจะหมางเมิน“เอ่อ หากจะเป็นแบบนี้เสี่ยวกุนว่า ท่านอ๋องไปตามเองดีกว่าพระชายาปิดประตูห้องแน่นหนา”ทุบกำปั้นลงกับที่นอนอย
“ฟางหลุนออกไป”“ท่านอ๋องอย่าใจร้ายกับนายหญิงนักเลยเจ็บทั้งกายทั้งใจ ใครกันจะทนได้”“ข้าบอกให้ออกไป”กางแขนกั้นอู่งถิงไว้ อู่หงถิงจับมือฟางหลุนออกก่อนจะพยักหน้าให้ฟางหลุนออกไปก่อน ฟางหลุนหันหน้าหันหลังห่วงใยอู่หงถิงเหลือเกืน“ปิดประตูด้วย”ฟางหลุนขยับตัว อย่างที่คิดว่าช้าที่สุดเพื่อถ่วงเวลา“ข้า...ข้า เจ้ากินอะไรหรือยัง”เหลือบตามองถ้วยข้าวต้มบนโต๊ะอู่หงถิงไม่พูด เดินหนีไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งแกะผมที่เกล้าออกทำทีเป็นสางผม“เจ้าโกรธข้าเกลียดข้าเถอะข้ายอมแต่อย่าทำเฉยชาแบบนี้”อู่หงถิงยังนั่งนิ่ง“ข้ารู้แล้วว่าผิดต่อเจ้า แต่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วและในตอนนี้ข้าก็มีเจ้าแค่คนเดียว ไม่ได้มีชายาเอกอย่างไรเสียเจ้าก็ยังเป็นเมียคนเดียวของข้า”อู่หงถิงโมโหอย่างที่สุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตรงเข้าผลักร่างใหญ่ทั้งสองมือจนล้มลงกับพื้นเหมือนที่เคยทำ แต่คนโดนผลักคว้าข้อมือของอู่หงถิงดึงร่างบางให้ล้มลงไปบนตัวเขา“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าถูกบังคับให้เขามาในจวนอ๋องหรือว่ามีแผนการอะไรแต่ข้ารู้ว่า...ว่าเจ้าไม่ใช่กวงเจ้าหรู ข้าจึง....รู้สึกผิดที่ข่มเหงรังแกเจ้าเมื่อคืน ข้าจริงใจมาขอให้เจ้าอภัยให้ข้า เจ้าช่างใจร้ายไม่เห
ผลไม้รสเปรี้ยวรสชาติดีไม่น้อยหงถิงคิดหวาเซียงอ๋องได้มาจากที่แห่งใด คนอย่างเขาเช่นไรจึงเสาะแสวงหาของแบบนี้มาได้หรือสั่งให้ใครไปเก้บมากันแน่แต่ก้ไม่ได้ถามไถ่“นายหญิง ไม่เสวยอะไร กินได้เพียงผลไม้รสเปรี้ยวเจ้าค่ะ”เสียงฟางหลุนคุยกับหวาเซียงอ๋องด้านนอกห้องโดยที่อีกคนไม่กล้าเข้ามาในเมื่อรู้ว่าหงถิงแพ้ท้องและแพ้ลามมาถึงเขาด้วยหลังจากที่รู้จึงทำได้เพียงอยุ่ห่างๆวันๆก็แค่แวะเวียนมาไม่กล้าเข้าไปหาเหมือนเคย“ยาบำรุง ข้าให้ท่านหมอจัดยาบำรุงที่ดีที่สุดในแคว้นฉานให้นายหญิงของเจ้า อย่าลืมเคี่ยวให้หงถิงดื่มเช้าเย็น ยานี้ยังช่วยเรื่องอาการแพ้ท้อง กว่าข้าจะได้มันมาต้องอาสาไปช่วยท่านหมอที่ไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขาห่างออกไปหลายลี้”ฟางหลุนยิ้มไม่อยากเชื่อว่าความรักเปลี่ยนคนได้เพียงนี้ท่านอ๋องเดิมเฉยชาไม่ใส่ใจผู้ใดมาบัดนี้กลับเปลี่ยนจากคนเฉยชาเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นยิ่งนัก"เจ้าค่ะท่านอ๋อง"ย่อกายลงรับบัญชา“นางผอมลงหรือไม่”น้ำเสียงห่วงใยไม่เปลี่ยน"เจ้าค่ะก็กินได้แค่ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างอื่นไม่อาจแตะต้องเครื่องหอมยังต้องโยนทิ้ง"เสียงฟางหลุนตอบเบาๆ"นางลำบากเพียงนี้เชียวหรือข้าจะแบ่งเบานางได้เช่นไรกัน"น้ำเสียง
หวาเซียงอ๋องก้าวเท้ายาวๆยังห้องของหงถิง ข้างหน้านั่นกลับเงียบจนน่าในหาย นางจะเป็นอย่างบ้าง อาการบาดเจ็บที่เขาเห็นรุนแรงไม่น้อย แต่ใจกลับกระหวัดคิดไปถึงเหอซ่างเซี่ยน ความครุกรุ่นบังเกิดขึ้นในใจก้าวขาออกไปจากตรงนั้นทันที“ท่านอ๋อง ชายารองบาดเจ็บถึงเพียงนั้นท่านยังใจร้ายกับนาง”กัวเฉา ประสานมือตัดสินใจอยู่นานกว่าจะกล้าพูด“นางทำให้เซี่ยนเซี่ยนตาย”“ท่านอ๋อง พระชายาเอกนางรู้ว่าตัวเองไม่แข็งแรงจึงนับว่าตัดสินใจไปแล้วด้วยความเด็ดเดี่ยวออกไปตามพระชายารองด้วยความเป็นห่วง ตอนที่กัวเฉาเจอพระชายารองนั้น นางพยายามส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยพระชายาเหอซ่างเซี่ยนแต่ว่ากัวเฉาไม่อาจรู้ว่านางต้องการจะบอกอะไรหากท่านอ๋องจะโกรธใครสักคนขอให้เป็น กัวเฉาเถิด ที่โง่งมไม่สามารถเข้าใจภาษามือ”“เจ้าจงใจพูดแทนนาง มีความหมายใดหรือไม่”“ท่านอ่องนางอาภัพ พูดไม่ได้อีกทั้งแต่งเข้ามาในจวนอ๋องหวังว่าท่านอ๋องจะดีกับนาง แค่แต่งมาเป็นชายารองก็นับว่ารันทดพอแล้วยิ่งเป็นชายารองของท่านอ๋องที่มีสายตามองแต่เพียง ชายาเอกยิ่งทำให้นางน่าสงสาร”“กัวเฉา”ตวาดลั่น“ท่านอ๋องหากกัวเฉา เป็นคนอื่นจึงมิกล้าพูดกับท่านอ่องแบบนี้ ท่านอ๋องเคยสงสั
กระท่อมกลางป่า“พระชายา เอ่อ ๆๆ ไท่จือเฟย ไท่จือเชิญท่านที่ตำหนักบูรพา”เสี่ยวกุน ประสานมือท่าทีนอบน้อม“ไท่จือ”หงถิงเลิกคิ้วสูง“ไท่จือ..เอ่อ..ไท่จือหวาเซียง ท่านอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือให้พระชายาเอ่อพูดผิดตลอด ให้ไท่จือเฟยเตรียมตัวย้ายเข้าไปที่ตำหนักบูรพา”หงถิงยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น“อย่างไรก็ต้องเข้าตำหนักบูรพาในวันนี้ในวันฤกษ์งามยามดี แต่ผิดกันที่ ….สามีเป็นข้า”กอดหงถิงจากด้านหลังไว้แน่น“ท่านพี่ ไหนบอกหงถิงว่าเราสองคนจะเร้นกาย”หงถิงทวงสัญญา“ข้าอยากไปแต่ตอนนี้เสด็จพ่อยังไร้คนที่วางใจได้”“ท่านพี่ ท่านก็เลยไม่วางใจ”“ข้า เกรงใจเจ้าไม่น้อย เจ้ายินดีเป็นไท่จือเฟยของข้าไหมไม่ว่าจะภูเขาดาบทะเลเพลิงเจ้ายังจะอยู่ข้างข้าอีกไหม”ก้มลงกระซิบข้างหู“ไม่ว่า ท่านพี่จะเป็นยาจกหรือฮ่องเต้ หงถิงยังจะเคียงข้าง บอกแล้วมิใช่หรือว่าแม้จะเร้นกายหงถิงก็จะเคียงข้างในเมื่อตอนนี้ท่านพี่เลือกที่จะกตัญญูต่อฝ่าบาทหงถิงจึงไม่อาจคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยยังพร้อมเคียงข้างเสมอ”“ขอบใจเจ้าอย่างไรจึงจะพอกับสิ่งที่เจ้าทำให้ข้า เจ้ายอมเคียงข้างข้าคนที่... เคยร้ายกับเจ้ามาก่อน”“แค่ได้อยู่ข้างกันหงถิงก็พอแล้วไม่ต้อ
“เจ้าเลิกพูดจาให้ร้ายข้า แล้วหาหลักฐานมายืนยันความผิดของข้า”“ข้านี่อย่างไรเล่าหลักฐานท่านพูดเองว่าข้าสมควรตายยาพิษที่ท่านใส่มันลงในอาหารแต่เป็นเพราะสวรรค์มีตา สาวใช้ของข้านางจึงยอมตายแทนเพื่อให้ข้าได้หนีมาเปิดโปงความผิดของท่านเป็นเช่นนี้ข้าจึงทำลายใบหน้าตัวเองเสีย สวรรค์มีตามือสังหารผู้นั้น ได้ลงชื่อสารภาพทุกอย่างไม่อย่างนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่า เขาทำงานผิดพลาดแล้วท่านเป็นคนสั่งให้เขาวางเพลิง ข้าแม้อยากให้นางตายเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น ท่านอาศัยคำขู่ของข้าเพื่อใส่ความข้า”ยื่นร่างคำสารภาพไปมาตรงหน้า หวาเซียงอ๋อง รับมันก่อนจะก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ ์ส่งถึงมือฮ่องเต้“กวงเจ้าหลัว ชั่วช้าเกินไปแล้ว แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขท่านยังใช้เป็นเครื่องมือ ทหารนำตัวไปคุมขังรอวันประหาร”“ฝ่าบาทกวงเจ้าหลัวขอความเป็นธรรม เจ้าหรูข้าก็มิได้บังคับให้นางต้องตายแต่เป็นเพราะหวาจิ้งอ๋อง เห็นว่านางกำลังตั้งครรภ์เกรงว่าหากหวาเซียงอ๋องรู้ว่านางตั้งครรภ์กับใคร เขาจะถูกลงทัณฑ์อีกทั้งคดียักยอกเงินในคลังหลวงในตอนนั้นเป็นหวาจิ้งอ๋องที่อยู่เบื้องหลัง จึงวางแผนให้เจ้าหรูเข้าไปขโมย หลักฐานจากจวนหวาเซียงอ๋องมาเจ้าห
“เสด็จพ่อ”หวาซงอ๋องพยายามเร่งรัดให้มอบเสื้อคลุมมังกรกับเขา“ลูกถูกหวาซง และมือสังหารของเขาล้อมกรอบแต่เป็นเพราะคมกระบี่ของหวาซงที่ทำให้ลูกเสียหลักตกลงไปที่หน้าผาสูง”“ฝ่าบาท ข้าเคยบอกแล้วว่ามือสังหารเหล่านั้นไม่ใช่ของข้า”หวาจิ้งอ๋องได้ที“หุบปากเจ้าเสียน้องรองไหนว่าจะจะอยู่ข้างข้า หากข้าช่วยให้เจ้าพ้นผิดเรื่องที่ฆ่ากวงเจ้าหรู”หวาซงอ๋องหันไปเล่นงานหวาจิ้งอ๋อง“พี่ใหญ่แผนของท่านรัดกุมก็จริง แต่หารู้ไม่ว่าข้าที่รอดมาได้ เพราะท่านไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่มือสังหารที่ทำงานให้ท่าน ท่านยังกำจัดพวกเขาเสียจนสิ้นข้าจึงได้โอกาสสวมรอยอาศัยศพของพวกเขาในการเร้นกายเพื่อรักษาตัว”“ไม่จริงเสด็จพ่อสิ่งที่หวาเซียงอ๋องพูดมาไม่เป็นความจริง”“เสด็จพ่อลูกอาศัยเปลี่ยนอาภรณ์และห้อยป้ายหยกให้กับศพของมือสังหารนายหนึ่งที่ใบหน้าแหลกเหลวจากการตกจากหน้าผา หนีรอดมาได้ เพราะรู้ดีว่าคนของหวาซงอ๋องจะต้องถูกส่งมาให้ค้นหาศพลูก”“หวาซงจริงหรือไม่”“เสด็จพ่อไม่เป็นความจริง หวาเซียงอ๋องพลัดตกจากเหวเอง ลูกไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขากัวเฉา ลากเอามือสังหารที่รอดชีวิตในวันเดียวกับหวาเซียงอ๋องเข้ามา“พูด”“ฝ่าบาท กระหม่อมเป็นมือสังห
“ก็…”กดริมฝีปากปิดปากบางไว้“ไม่ต้องพูดแล้ว แค่เจ้าไม่ยอมเป็นของหวาซง ข้าก็รู้ว่าเจ้ารักข้าเพียงใด ต้องขอบคุณคำพูดของหวาซง ที่บอกว่าจะดูแลชายารองของข้าตอนนั้นเองที่ทำให้ข้าคิดว่าข้าจะตายไม่ได้ทั้งที่เจ็บเจียนตาย เพื่อสิ่งที่เขาคิดจะได้ไม่มีทางเป็นจริงสิ่งเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อคือการที่ได้กลับมากอดเจ้าแบบนี้ แต่ก็กลัวเหลือเกินว่า เจ้าจะเห็นแก่ลาภยศยอมแต่งเข้าตำหนักบูรพา”“ไม่ ไม่ ไม่หงถิงยอมตาย”ตอบเร็วรี่“ ข้ารู้ ว่าเจ้าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าจะต้องเป็นของข้า และให้ข้าได้รักเจ้าแบบนี้ตลอดไปข้าเองต่อจากนี้จะมีมีสายตาไว้มองใคร”หงถิงหน้าเศร้า เมื่อคิดถึงเหอซ่างเซี่ยน“ชายาเอกของท่านเล่า”หวาเซียงอ๋องยิ้มกว้าง“หงถิงหึงข้า ข้าดีใจที่สุด เซี่ยนเซี่ยนนางเป็นดั่งเพื่อนที่คอยหวังดี และเข้าใจข้ามาตลอด ป่านนี้นางก็คงดีใจที่ข้ารักเจ้าได้มากขนาดนี้ แม้เจ้าไม่ใช่เจ้าหรูเพราะความผิดพลาดแต่ความผิดพลาดน้้นกลับทำให้ข้ามีความสุขเพียงนี้"จุมพิตเบาๆ ที่หน้าผาก“คิดถึงหงถิง แล้วก้อนแป้งน้อยในท้องของพ่อเป็นอย่างไรบ้างโก้งโค้งจุมพิตที่หน้าท้องเปลือยเปล่า ที่มองเห็นมาป๋องนูนออกมาเพียงนิด“เจ้
หวาเซียงอ๋องแต่เดิมเป็นที่รักใคร่และเคารพขององครักษ์เสื้อแพร แม้เขาไม่อยู่แล้วแต่ทุกคนยังระลึกถึงแม้แต่เขา หวาซงอ๋องภายนอกอ่อนโยนแต่การแสดงออกกลับคนผู้น้อยล้วนอาศัยอำนาจ จนทำให้หวาดกลัวกัวเฉาเก็บกระบี่เข้าฝักเร่งนำทางยังกระท่อมกลางป่าที่รกเรื้อและยากลำบาก“พระชายา เข้าไปข้างในเถิด”ฟางหลุนขยับตัวตามแต่กัวเฉามองสบตาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา หงถิงมองคนทั้งหมด“เราทั้งสามอารักขาอยู่ด้านนอกจึงดี”กัวเฉาพูดขึ้น หงถิงเปิดประตูเข้าไปด้านใน หวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังในอาภรณ์สีทึมทึบ หันหน้ากลับมาเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก หงถิงยืนนิ่งกับที่น้ำตาไหลริน กัวเฉาปิดประตูก่อนจะพยักหน้าให้ฟางหลุนกับเสี่ยวกุนออกมาจากตรงนั้น“ท่านพี่”หวาเซียงอ๋องกอดรวบร่างบางที่วิ่งเข้าหาเขาทันที“ท่านพี่ท่านยังไม่ได้ทิ้งข้าไปใช่ไหม”ริมฝีปากอุ่นกดปิดริมฝีปากบางไว้ไม่ให้เอ่ยคำใดมีเพียงภาษากายและสัมผัสอ่อนนุ่มอบอุ่นเท่านั้นที่จะอธิบายทุกอย่าง จูบเนิ่นนานที่ทำเอาหงถิงอ่อนระทวยในอ้อมแขน จนหวาเซียงอ๋องต้องพยุงไว้ ถอนริมฝีปากออกช้าๆก่อนจะกดมันลงอีกครั้ง บดเบียดอ่อนหวานซ้อนร่างบางไปที่แคร่ไม้ไผ่ ทาบทับเสียเต็มตัวแบบไม่อาจ
“ข้าพร้อมแล้ว ท่านองครักษ์พร้อมหรือยัง”“พระชายาระยะทางไปจากนี่ไม่ไกลนักมีกระท่อมหลังหนึ่งซุกซ่อนอยู่กลางป่า มิดชิดไร้ผู้คนย่างกราย เราทั้งหมดเร้นกายที่นั่นก่อนมืด แล้วพรุ่งนี้ค่อยหาทางอีกที”“ไม่กลัวว่าพวกเขาจะพบเรา”“ที่นั่นปลอดภัย กัวเฉาเร้นกายมานานวันแต่ระหว่างทางค่อนข้ารกเรื้อ”“ไม่เป็นไรข้าทนได้”สัมผัสอบอุ่นเมื่อคืนทำให้หงถิงรู้ว่าจะไม่มีทางยอมตกเป็นของคนอื่นแม้จะลำบากเพียงใดก็ตาม“กัวเฉา อาสาพาไป ที่นั่นจะพบคนผู้หนึ่งที่จะนำทางพระชายาอย่างปลอดภัย”หงถิงขมวดคิ้ว“ยังมีผู้ใดที่ไว้ใจได้อีกเล่า”“คนผู้นี้ กัวเฉาไว้ใจเขาเฉกเช่นเดียวกับท่านอ๋อง เมื่อถึงเวลานั้นพระชายาก็จะ ต้องพูดเช่นเดียวกับกัวเฉา”หงถิงยิ้ม“พระชายาเหตุใดจึงไม่เร้นกายในตอนมืดค่ำ”ฟางหลุนสงสัย“ออกไปตอนนี้ไร้คนสงสัย หากมีคนถามก็ให้ตอบว่าพาข้าเดินเที่ยวชมตลาดเพื่อหาของใช้จำเป็นสำหรับวันพรุ่งนี้ สบโอกาสเราจึงเร้นกายระหว่างนี้ กัวเฉาท่านต้องใช้ความสามารถในการสังเกตุคนว่ามีคนของหวาซงบ้างหรือไม่”“พระชายารอบคอบยิ่งนัก หากเป็นฟางหลุนคงคิดไม่ถึงไท่จือและคนของไท่จือเองก็คงคิดไม่ถึง ว่าพระชายาจะเร้นกายไปตอนกลางวันแสกๆ ”กัวเ
“ข้าช่วยอะไรพวกท่านไม่ได้ อีกทั้งยังทำให้พวกท่านต้องพลอยลำบากไปด้วยกัน”“นายหญิง นายหญิงเป็นสิ่งเดียวที่ท่านอ๋องเหลือไว้ให้พวกเรา เพื่อระลึกถึงสิ่งที่ท่านอ๋องเคยทำให้พวกเราทั้งหมด ท่านอ๋องเดิมทีใจดีที่สุดแต่เมื่อแต่งชายาเอกและนายหญิงชายาเอกป่วย ท่านอ๋องก็เปลี่ยนไปเราทั้งหมดรักและเคารพท่านอ๋องเช่นไรความรักและเคารพทั้งหมดส่งมาถึงนายหญิงเพียงคนเดียว”หงถิงยิ้มบางๆ รู้สึกขอบคุณฟางหลุน เสี่ยวกุน และกัวเฉาที่เคียงข้างยามยากเช่นนี้โรงเตี้ยมกลางป่าหวาเซียงอ๋องลืมตาตื่นมาอีกครั้งท่านหมอกำลังจับชีพจรอยู่กัวเฉายืนกอดอกมองไม่ไกลนัก“อาการ นายท่านดีขึ้นมาก คาดว่าอีกไม่กี่วันจึงจะหายดีตอนนี้ร่างกายฟื้นตัวรวดเร็ว”หยิบถุงเงินส่งให้ท่านหมอที่วางห่อยาลงข้างแท่นนอน“กัวเฉา”“ท่านอ๋อง ท่านฟื้นแล้ว”“หงถิง หงถิงเป็นอย่างไรบ้าง”กัวเฉายิ้ม“พระชายา ยังโศกเศร้าคิดถึงท่านอ๋องไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีบางอย่างที่กัวเฉาเกรงว่าหากท่านอ๋องรู้ จะไม่ยอมนอนรักษาตัวจนหายเสียก่อน”“บอกข้ามา”“หวาซงอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือ จะมีพิธีแต่งตั้งไท่จือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และในวันนั้นไท่จือจะแต่งชายารองของท่านอ๋อง เข้าตำหนั