“ฟางหลุนตามนายหญิงของเจ้า”ฟางหลุนยิ้มก่อนจะรีบไปยังห้องของอู่หงถิง“นายหญิงท่านพ่อของนายหญิงมาแล้ว”อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นกลัวว่าท่านพ่อที่ฟางหลุนว่า จะรู้ว่าอู่หงถิงไม่ใช่กวงเจ้าหรู แต่จะเลี่ยงไม่ออกไปพบได้อย่างไร หากไม่ออกไปยิ่งมีพิรุธ อู่หงถิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างไรก็ต้องออกไปหากจะมีใครสักคนรู้ก็คงเป็นบิดาของกวงเจ้าหรูนี่แหละ ก็คงถึงคราวซวยของอู่หงถิงก็แล้วกัน ฟางหลุนพยุงอู่หงถิงให้ลุกขึ้นช้าๆก้าวขาด้วยความมั่นคง ไม่เกรงกลัวสิ่งใด“นายหญิง”ฟางหลุนบีบมือของอู่หงถิงเพื่อให้กำลังใจ อู่หงถิงยิ้มเป็นครั้งแรก หวาเซียงอ๋องยืนอยู่หน้าห้องมองรอยยิ้มเศร้าสร้อยนั้นใต้เท้ากวงเพ่งมองใบหน้าของอู่หงถิงเหมือนกับตัวประหลาดหวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังมองกิริยาของพ่อลูก“เจ้าหรู เจ้าผอมลงจนพ่อจำแทบไม่ได้”ในที่สุดก็เอ่ยปากออกมาหลังจากที่หายจากอาการตกตะลึง อู่หงถิงยิ้มย่อตัวลง“นางไม่พูดตั้งแต่เข้ามาอยู่ในจวนก็ไม่เคยพูดกับใคร”กวงเจ้าหลัวยิ้ม“ข้าน้อยขอใช้เวลาอยู่กับนางเพียงลำพัง”อู่หงถิงหันสบตากับฟางหลุนที่พยักหน้าช้าๆ“ไม่ได้ ข้ากับนางเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เรื่องขอ
อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง วันนี้ตั้งใจหาทางหนีไปที่กระท่อมร้างเพราะหลายวันมานี่ร้อนใจเรื่องน้องกับแม่ คนผู้นั้นเองคงไม่ใช่คนธรรมดาถึงได้รู้ว่าอู่หงถิงใช้แจกันทุบหัวหวาเซียงอ๋องอีกทั้งเขายังเข้านอกออกในได้สะดวก ต้องรู้ทางหนีทีไล่อย่างดี บางทีเขาอาจไม่กล้าเข้ามาเพราะเห็นว่าอู่หงถิงมีกัวเฉาคอยเฝ้าอยู่ แต่หน้าต่างเปิดออกได้สบายจากการที่ใครสักคนนำขนมและซาลาเปามาให้“นายหญิงลุกเจ้าค่ะวันนี้ต้องสวยที่สุด เพื่อท่านอ๋อง”อู่หงถิงส่ายหน้า ส่งภาษามือว่าช่างเขาข้าไม่สนใจ“ไม่ได้เจ้าค่ะท่านอ๋องใจดี วันนี้หรืออาจจะเป็นเพราะต้องเสวยคนเดียวในวันเกิดปีนี้เป็นปีแรกปกติ นายหญิงชายาเอกจะจัดเครื่องเสวยให้ด้วยตัวเองและนั่งเสวยเป็นเพื่อนตอนนี้เหลือแค่นายหญิงกับท่านอ๋อง นายหญิงต้องรีบทำคะแนน”อู่หงถิงอยากบอกว่าสมน้ำหน้า แต่ก็ยอมไปนั่งลงบนเก้าอี้ให้ฟางหลุนแต่งตัวให้“นายหญิงเจ้าขา อาภรณ์สีเลือดนกตัวนี้ ท่านอ๋องเลือกให้เองกับมือ บอกว่านายหญิงต้องใส่ไปให้ดู”อู่หงถิงแสร้งมองไปทางอื่นไม่สนใจอาภรณ์ที่วางตรงหน้าว่าจะสวยเพียงใดฟางหลุนหมุนตัวอู่หงถิงไปรอบๆ ยกนิ้วให้“งดงามเป็นที่หนึ่ง”อู่หงถิงย่นจมูกส่งภาษามือบอกว่าไม่อ
มือบางเล็กฟาดลงบนแก้มสาก ทันทีเช่นกันริมฝีปากใหญ่กดลงบนปากบางบดขยี้ด้วยอารมณ์โมโหจน อู่หงถิงรู้สึกเจ็บและลิ้มรสโลหิตอุ่นเค็มของตัวเองไม่ยอมเผยอริมฝีปากกับโดนฉกกัดอย่างบ้าคลั่ง อู่หงถิงกัดริมฝีปากใหญ่ ด้วยความโมโหแต่กลับถูกร่างใหญ่ถาโถมเข้าใส่เต็มตัว บดเบียดเอวหนา มือเล็กบางฟาดเข้าใส่ไม่ยั้งหวาเซียงอ๋องทาบทับกดตรึงก่อนจะรวบมือสองข้างไว้เหนือหัว ปลดสายรัดเอวของตัวเอง ดึงชั้นในสีขาวของอู่หงถิงออกให้พ้นตัวเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า สอดขาลงไปตรงกลางลำตัวของอู่หงถิงที่สะดุ้งเฮือก หวีดร้องสุดเสียงน้ำตาไหลพรากหวาเซียงอ๋องไม่กล้าขยับเอว จูบซับหยาดน้ำตาเขาทำอะไรลงไปของเหลวอุ่นๆ ที่หว่างขาทำให้อารมณ์ขุ่นมัวลดลงไปกดริมฝีปากจูบซอกซอนอ่อนหวาน“ปล่อย”อู่หงถิงขยับปากเปล่งเสียงบางเบา หวาเซียงอ๋องเลิกคิ้วสูงขยับเอวบดเบียด“ปล่อยเดี๋ยวนี้”ไม่อาจห้ามใจได้แล้ว หวาเซียงอ๋องขยับเอวไปมากับร่างบางที่ขยับโยกตัวหนียิ่งเพิ่มอารมณ์รัญจวน“ปล่อยข้าได้โปรด”กดริมฝีปากไม่ให้อีกคนพูด จูบหวานตั้งแต่หน้าผากเปลือกตา แก้มและริมฝีปากอ่อนนุ่ม ดูกลืนซอกซอนมือใหญ่ลูบไล้ให้ผ่อนคลาย อู่หงถิงยังบิดตัวหนีสัมผัสที่เหมือนจะเจ็บป
ชายารองที่อยู่ในจวนไม่ใช่กวงเจ้าหรู แต่คนที่มีใบหน้าเหมือนกันขนาดนั้นมีเพียงฝาแฝดเท่านั้นที่จะมีใบหน้าเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนยามอู๋ (11.00.12.59น) หวาเซียงอ๋องขยับตัวลืมตาตื่น ไขว่คว้าร่างอุ่นที่กอดก่ายทั้งคืนบัดนี้กลับพบเพียงความว่างเปล่า ชันกายลุกขึ้นนั่ง รอยหยดเลือดสีแดงบนแท่นนอนทำเอาเขาหงุดหงิดไม่น้อยกับความรู้สึกสงสารที่แล่นเข้าสู่หัวใจ ครั้งแรกของนางเป็นของเขา ยกมือใหญ่ขึ้นลูบไปบนเนื้อผ้ายับยู่ยี่ ความสุขสมเมื่อคืนยังไม่จางหายไป แล้วนางไปไหนเสีย ครึ่งหลับครึ่งตื่นเขากลับพร่ำเพ้อถึงเหอซ่างเซี่ยนทั้งๆที่กอดอีกคนนอนแนบกายหลับใหลสุขสม ถอนหายใจยาว“เสี่ยวกุน ชายารองไปไหนเสีย”เสี่ยวกุนเงอะงะเข้ามาประสานมือตรงหน้า มองรอบกายที่เป็นเหมือนดังสมรภูมิรบอาภรณ์ถูกถอดทิ้งเกลื่อนพื้น“ข้าน้อย ไม่เห็นว่าชายารองออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่”เหลือบตามอง ร่างเปลือยเปล่าที่เอาผ้าห่มมาคุลมของสงวนไว้ เสี่ยวกุนอดที่จะอมยิ้มไม่ได้“ตามนาง”ออกคำสั่ง ทว่าเสี่ยวกุนกลับรู้สึกว่า สมควรแล้วที่ชายารองจะหมางเมิน“เอ่อ หากจะเป็นแบบนี้เสี่ยวกุนว่า ท่านอ๋องไปตามเองดีกว่าพระชายาปิดประตูห้องแน่นหนา”ทุบกำปั้นลงกับที่นอนอย
อู่หงถิง ลืมตาตื่นบนแท่นนอนสีแดง ยามเช้าที่ไร้ซึ่งสรรพเสียง ทำไมมาอยู่ตรงนี้ในเมื่อเมื่อคืนจำได้ว่าตัวเองกำลังจะกลับบ้านที่เชิงเขาเพื่อนำของที่ขอมาได้วันนี้โชคดีได้เงินพอซื้อไก่ ไปให้น้องๆ“พานางออกไป”สาวใช้ที่ไม่สาวสองคนจับแขนพาอู่หงถิงออกจากตรงนั้นไปชุดสีแดง ที่สวมใส่ยังใหม่และสวย แต่อู่หงถิงกับคิดถึงราคาของมันหากนำไปขายให้เถ้าแก่ที่เคยขโมยของไปขายอยู่เรื่อยๆว่าจะได้ราคาเท่าไหร่กัน ร่างซูบซีดในอาภรณ์สวยงาม ยืนมองอู่หงถิงด้วยสายตาสงสัย“ท่านพี่ทำไมทำกับนางเช่นนั้น”แววตาดุดันทว่าใบหน้าหล่อเหลาเฉยชา โอบแขนรอบไหล่บางของเหอซ่างเซี่ยน ชายาเอกที่งดงามด้วยรูปโฉมกุมมือบางไว้อย่างอ่อนโยน“หวางเฟยอากาศข้างนอกเย็น เข้าไปข้างในเสียเถอะ อย่ามาเสียเวลากับหญิงไร้ค่าผู้นี้”“ไร้ค่า”อู๋หงถิงยกมือขึ้นส่งภาษามือ ด้วยความไม่พอใจ หากมีเสียงก็จะเปล่งวาจาด่าทอแต่นี่อู่หงถิงเป็นใบ้ ไม่สามารถกล่าวคำใดได้ร่างสูงพยุงชายาเอกเข้าไปข้างในไม่สนใจภาษามือด่าทอนั้นหรือว่าไม่เข้าใจว่ากำลังถูกด่าทออู่หงถิงมอง ตัวเองในขณะนี้ทำไมถึง งดงามเพียงนี้แล้วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ถูกโยนเข้าไปในห้องเก็บของที่มี ทั้งธัญพืชตา
อู่หงถิงนอนขดตัวด้วยความหดหู่ในใจ สาวใช้เพิ่งจะนำอาหารมาวางไว้ อาหารในวันนี้ต่างจากเมื่อวานนิดหน่อย มีของกินเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง แสดงถึงความโกรธของเจ้าของบ้านลดลง หรือว่าแม่ครัวอาจสงสารอู่หงถิงหรือว่าบางที่อาจเป็นสาวใช้เองที่สงสาร จึงเพิ่มอาหารให้แต่อู่หงถิงไม่อยากคิดให้รกสมอง สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือฆ่าหวาเซียงอ๋อง ผู้ที่มีใบหน้าหล่อเหลาแต่สายตาเย็นชาผู้นั้นเสียให้เร็วที่สุดเพื่อแม่และน้องประตูเปิดออก ร่างสูงที่อยู่ในห้วงความคิดปรากฏตรงหน้า อู่หงถิงเพียงแค่ปรายตามองก่อนจะหลุบตาต่ำเหมือนเดิม“ออกมาข้างนอก”“ท่านอ๋องท่านไม่…..มัดชายารองไว้หรือไรหากว่านางคิดจะทำร้ายท่านอีก”บ่าวรับใช้คนสนิทนามเสี่ยวกุน เอ่ยปากเตือนกล้าๆกลัวๆรอยยิ้มหยันที่ริมฝีปากของหวาเซียงอ๋อง“ไม่..ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น หรือว่าจะให้เสี่ยวกุนลากเจ้าออกมา”อู่หงถิงไม่แม้แต่จะมองหน้าคนพูดขยับกายจากแท่นนอนชั่วคราวที่ทำจากไม้ไผ่โสโครกเอาไว้วางของเหลือใช้ ร่างสูงหันหลังก้าวออกไป“ตามข้ามา”อู๋หงถิงก้าวขาตามไปในทันที เสี่ยงกุนตามหลังไปอีกคนเดินนำมาจนถึงเรือนหลังใหญ่ ที่ทอดยาวกว้างขวางข้างหน้า มีทางขึ้นเป็นบันไดสา
“ข้ากับท่านอ๋องหาใช่ความรักล้วนมีเพียงความผูกพันข้านับวันยิ่งห่าง ท่านอ๋องเอง หลายปีมานี้ไม่ปรากฏรอยยิ้ม ข้าจึงขอร้องฝ่าบาทประทานชายารองให้เขาเสียเพื่อแบ่งเบาข้า แต่เรื่องนี้ห้ามรู้ถึงหูท่านอ๋องเป็นอันขาด ว่าทั้งหมดเป็นความคิดของข้า ข้าเองร่างกายอ่อนแอ จะอยู่ปรนนิบัติได้สักกี่วันต่อจากนี้ ชายารองเป็นคนของฝ่าบาทจึงดี หากท่านอ๋องโปรดปรานจึงนับว่านางช่วยสมานรอยร้าวกับฝ่าบาทได้ดีไม่น้อย ข้าหวังเพียงแค่เสด็จพี่ไม่หวาดระแวงในตัวท่านอ๋องแม้ตายก็หมดห่วง แต่หากข้าตายไปท่านอ๋องกับฝ่าบาทร้าวฉานข้าเกรงว่าจะตายตาไม่หลับ ฝ่าบาท เชื่อในคำฑูดของใต้เท้ากวงจึงพลอยบึ้งตึงกับท่านอ๋องไปด้วย”“โถ ...พระชายาท่านช่างดีกับท่านอ๋องเสียจริงไม่เสียแรงที่ท่านอ๋องรักเทิดทูนท่านเหนือใคร”อู๋หงถิง มองสำรวจรอบๆห้อง สาวใช้ฟางหลุนเก็บพับผ้าไปมาไม่ได้สนใจว่าอู่หงถิงจะทำอะไร“นายหญิง ท่านอายุเท่าไหร่”อยู่ๆนางก็ถามขึ้น อู่หงถิงส่งภาษามือ“นายหญิงท่านไม่อยากพูด หรือว่าไม่เคยพูดหากไม่อยากพูดทำไมท่านถึงเก่งการใช้ภาษามือแต่เดิมข้าเคยได้ยินมาว่าคนเป็นใบ้มักจะพูดไม่ได้ เพราะไม่เคยได้ยินแต่บางคนได้ยินแต่ไม่ยอมพูดเพราะสั่งตัวเองไ
ซ่างเซี่ยนทำสีหน้าตกใจไม่น้อย“ตั้งแต่ ข้าน้อยอยู่กับนายหญิงนายหญิงก็ไม่เคยปริปาก ใช้แต่ภาษามือ”“เจ้าไปตามหมอหลวงมาดูอาการของนาง”หวาซงออกคำสั่ง อู่หงถิงส่ายหน้าไปมาเหมือนจะบอกว่าไม่ต้อง ทำให้ฟางหลุนลังเล“รีบไปเดี๋ยวนี้เลย หากชายารองเป็นอะไรมากไปกว่านี้เกรงว่าเจ้านั่นล่ะที่จะมีความผิด”คราวนี้เป็น ฟางหลุนที่รีบวิ่งออกไปทันที“ซ่างเซี่ยนรีบดึงแขน อู่หงถิงให้เข้าไปในห้องนั่งลงบนแท่นนอนหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ หวาซงได้แต่อยู่ด้านนอกมองเข้าไป“เป็นอะไรไปท่านอ๋องทำอะไรเจ้า เจ้าจึงพูดไม่ได้เช่นนี้บอกข้ามาเถิด”ช่างเซี่ยนสงสัยว่าจะเป็นหวาเซียงอ๋องที่ทำให้อู่หงถิงพูดไม่ได้ แต่อู่หงถิงไม่เข้าใจคำถามด้วยความห่วงใยของซ่างเซียน จึงส่ายหน้าไปมาเสีย“บอกข้ามาข้ายินดีปกป้องเจ้า แต่อย่าได้บอกกับคนอื่นว่าท่านอ๋องกักขังและทำร้ายเจ้าเช่นนั้นเรื่องนี้หากแพร่ออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นการดีต่อท่านอ๋อง”อู่หงถิงยังคงส่ายหน้าซ่างเซี่ยนถอนหายใจ ท่านหมอเข้ามาพอดี“ท่านหมอตรวจดูให้ถ้วนถี่ทำไมชายารองจึงไม่ยอมปริปาก มีสิ่งใดผิดปกติกัน”หมอหลวงประสานมือ ทำการตรวจดูทั้งหูคอและปากก่อนจะถอยออกมาตรงหน้าเหอซ่างเซี่ยนและหวาซงที่ย