“หวาเซียงอ๋องแต่เดิมก็ไม่เคยมีพวกพ้องอยู่แล้ว หุนหันไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าขุนนาง วันนี้ยังกล้าพูดว่าจะหย่ากับบุตรีของใต้เท้ากวง ขัดบัญชาฝ่าบาท คิดว่า เป็นเรื่องที่สมควรกระทำอีกหรือ”
เหอซ่างเซี่ยนคุกเข่าลงกับพื้น
“ไทเฮาโปรดอภัย ท่านอ๋องพูดไปเพราะอารมณ์ขุ่นมัว อีกสักพักให้ใจเย็นลงกว่านี้ซ่างเซี่ยนจะช่วยพูดให้”
ไทเฮาถอนหายใจ
“หย่าไม่ได้ อย่างไรก็หย่ากับกวงเจ้าหรูไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือทำอย่างไรให้คนอื่นเห็นว่าเจ้ากับนางปองดองกันเสียที”
ปองดองเขาคงต้องถูกนางฆ่าก่อน
“ออกรบมาก็มาก ไม่ว่าศึกเหนือศึกใต้ อีกทั้งยังขุนนางฉ้อฉล มีลับลมคมในแค่ไหนหวาเซียงอ๋องไม่เคยเกรงแต่กลับต้องมายอมแพ้กับหญิงงามอย่ากวงเจ้าหรู”
“หลานมองไม่เห็นวิธี คงมีวิธีเดียวที่จะทำได้ คือการหย่ากับนางส่งนางคืนตระกูลกวงเสีย”
“ปราบพยศนางง่ายดายเพียงเจ้าคิดไม่ได้เอง ซ่างเซี่ยนอย่าให้ย่าได้ยินว่าเจ้าไม่เคยบอกเรื่องนี้กับหวาเซียงอ๋อง”
“เสด็จย่า เซี่ยนเซี่ยนนางมีสิทธิ์ขาดทั้งหมดในจวนอ๋อง”
ถอนหายใจ
“ภรรยาที่ดีต้องส่งเสริมสามี ซ่างเซี่ยนเรื่องแบบนี้ อย่างบอกว่าเจ้าไม่เคยรู้ หากรู้จงเร่งบอกกับหวาเซียงเอ่อร์เสีย เขาจะได้มีวิธีจัดการกับนางอย่าให้ข้าต้องผิดหวังในตัวเจ้า”
เหอซ่างเซี่ยนประสานมือข้างเอวนอบน้อม ไทเฮาไปแล้วเหอซ่างเซี่ยนย่อกายลงข้างๆ หวาเซียงอ๋อง
“ท่านพี่”
“เสด็จย่าพูดจาตรงไปตรงมาเจ้าอย่าได้ถือสา อย่างไรเสียข้าก็ไม่มีทางตำหนิเจ้าอย่างแน่นอน”
“ท่านพี่แค่เพียงเป็นสามีภรรยากับนางเสีย เกรงว่าจึงจะปราบพยศเจ้าหรูได้อย่างที่เสด็จย่าบอก”
“ไหนเจ้าเคยบอกข้าว่าให้ข้าดีกับนางซึ่งข้าดีกับนางไม่ได้อย่างแน่นอน แล้วเจ้ายังบอกว่าไม่ให้ข้าหักหาญน้ำใจนาง”
ซ่างเซี่ยนถอนหายใจยาว
“ไว้พูดกันอีกทีข้าเบื่อที่จะเอ่ยถึงนางแล้ว ข้าอยู่กับเจ้าแบบนี้ก็มีความสุขไม่น้อย”เอื้อมมือจับมือบางของเหอซ่างเซี่ยนมาจุมพิตเบาๆ เหอซ่างเซี่ยนกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น
ก่อนหน้านั้น
“พระชายาท่านไอจนมีโลหิตไหลออกมาเพียงนี้ บ่าวตามหมอหลวงจะดีกว่า”
“ไม่ต้อง อาการของข้า แม้หมอเทวดาก็ไม่อาจรักษา หลายวันมานี้ข้าทนทุกข์ทรมานเพราะอาการหอบเหนื่อย เจ้าคิดว่าข้ายังจะอยู่อย่างทุกข์ทรมานไปอีกแสนนานหรือไร”
สาวใช้ปาดน้ำตา
“ยาที่ใช้อยู่ไม่ได้ผลหรือไร ข้าน้อยจะทูลท่านอ๋องกับฝ่าบาทให้เร่งหาหมอกับยาที่ดีกว่านี้”
“ห้ามเจ้าแพร่งพรายออกไปโดยเฉพาะกับท่านอ๋อง ให้ต้องกังวลข้ารู้ดีว่าตัวเอง อยู่ได้อีกไม่นานเช่นนั้นทางที่ควรทำข้าจึงต้องเร่งทำเสีย”
ดวงตาเศร้าสร้อย สาวใช้ยังคงไม่ยอมแพ้ด้วยซ่างเซี่ยนเป็นที่รักของทุกคน
“แต่พระชายา”
“หมอหลวงบอกกับข้าแล้วอาการเจ็บไข้ของข้า ….ไม่มีทางรักษาให้หายได้มีแต่รอเวลา หมอหลวงยังบอกข้าอีกว่าข้าอยู่ได้ไม่พ้นสิ้นหิมะตกในปีนี้ เช่นนั้นคนที่ข้าห่วงที่สุดคือท่านอ๋อง เจ้าหากภักดีกับข้าอย่าได้ปริปากเรื่องนี้ให้ท่านอ๋องทุกข์ตรมทางที่ดีที่ทำได้คือช่วยข้าทำให้ท่านอ๋องพบกับความสุขก่อนที่ข้าจะจากไปข้าจะได้ตายตาหลับ อีกทั้งทำอย่างไรก็ได้ให้ข้าหมดห่วงว่าจะมีคนคอยปรนนิบัติท่านอ๋องเหมือนที่ข้าเคยทำ”
ค่ำคืนเหน็บหนาวหวาเซียงอ๋องกอดก่ายเหอซ่างเซี่ยนข้างกาย กดริมฝีปากกับปากบางเชิญชวนเรียกร้อง มืออุ่นสอดล้วงเข้าไปในอาภรณ์ลูบไล้ทั่วร่าง
“ท่านพี่ อย่าทำเช่นนี้เลย ท่านไปหานางเถิดข้าไม่อาจ...สนองตอบท่านได้”
น้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ข้าต้องการเจ้าเซี่ยนเซี่ยนหาใช่นาง”
“ท่านพี่ ท่านแค่ต้องการใครสักคนมิใช่ข้าเพียงคนเดียว ท่านไปหานางตอนนี้จึงดี อากาศเช่นนี้เอาใจนางหน่อยเกรงว่าจะสุขสมทั้งคืน”
หวาเซียงอ๋องยกมือก่ายหน้าผากถอนใจยาว ก่อนจะลุกจากแท่นนอนไปทันที เหอซ่างเซี่ยนปล่อยหยาดน้ำตาไหลริน
สาวใช้ของเหอซ่างเซี่ยน คุกเข่าข้วางทางไว้ หวาเซียงอ๋องขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ท่านอ๋อง ข้าน้อยมีเรื่องสำคัญที่นายหญิงชายาเอกไม่กล้าบอกกับท่าน”
หวาเซียงอ๋องทรุดกายลงกับเก้าอี้นั่งบัดนี้เขารู้แล้วว่าซ่างเซี่ยนรักเขาหวังดีกับเขาเพียงใดเมื่อฟังที่สาวใช้พูดจบลง
“เจ้ากลับไปดูแลพระชายาให้ดี ห่มผ้าให้นางอย่าให้ต้องไอเย็น”
“ท่านอ๋องอย่าบอกนะว่าท่านจะยังคงไปหาชายารองอีก”
“ข้าเพียงแค่อยากนั่งอยู่ที่นี่อีกสักพัก”แววตาเศร้าสร้อย ค่ำคืนนี้อีกยาวนานเขาจะข่มตาหลับได้อย่างไรยกสุราขึ้นกระดกจนหมดเหยือกก่อนจะปามันลงกับพื้น“เสี่ยวกุนยกสุรามาอีก”เสี่ยวกุนยกไหสุรามาวางตรงหน้า“ท่านอ๋องท่านมีเรื่องใดเป็นกังวล”โบกมือว่าเขายังอยากจะพูดถึงมัน“ท่านอ่องอาการบาดเจ็บยังไม่หายดี”“ช่างมัน ข้าอยากจะตายไปเสียตอนนี้เลยยิ่งดี”ยกสุราขึ้นดื่ม“ยกไหสุรามาอีกเสี่ยวกุน”เสี่ยวกุนส่ายหน้าไปมา รีบไปยกสุรามาอีก“บางอย่างทิ้งมันไว้ข้างหลังแล้วเดินหน้าต่อจึงจะดี บางอย่างหากจมอยู่กับมันยิ่งทำให้ทดท้อ”ลุกขึ้นจากแท่นนั่งเดินโซเซ เสี่ยวกุนมาพยุงแต่เขากับปัดมือเสี่ยวกุนออกเดินไปที่ห้องของเหอซ่างเซี่ยน เปิดประตูออกยืนนิ่งมองใบหน้างดงามทว่าซีดขาวของเหอซ่างเซี่ยนที่หลับตานอนนิ่ง บางครั้งก็ไอถี่ๆสองสามครั้งบางครั้งก็หอบเหนื่อย หวาเซียงอ๋องสอดกายไปในผ้าห่ม นอนตะแคงกอดร่างบางเย็นชืดไว้แนบอก“ท่านพี่ท่านไปหานางมาแล้วใช่ไหม”หวาเซียงอ๋องพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะกอดรวบร่างบางแนบอกแน่นกว่าเดิม“ข้าไม่ได้ต้องการนาง”เหอซ่างเซี่ยนยิ้ม“ท่านยังไม่ได้ให้นางอุ่นเตียงใช่ไหม ข้านึกแล้วเชียวท่านเอาเข้าจริงก
ดึงมือเหอซ่างเซี่ยนให้ลุกขึ้นประคองแนบอกพาเดินออกไปทั้งๆ ที่เหอซ่างเซี่ยนหันหน้าหันหลังด้วยเป็นห่วงความรู้สึกของอู่หงถิง แต่หากจะมองให้ถ้วนถี่อู่หงถิงไม่ได้สนใจคำพูดมากกว่าอาหารตรงหน้าที่รสชาติดีและมีแต่ของดีดีที่ไม่เคยได้กินมาก่อนดอกไม้นานาพรรณงดงามสองข้างทางเดินที่ปูด้วยก้อนกรวดสีขาวสะอาดตา หวาเซียง กุมมือเหอซ่างเซี่ยนไว้ไม่ห่าง“หวางเฟย หน้าหนาวปีนี้ข้าให้คนสร้างห้องพักให้เจ้าเสียใหม่ มิดชิดอบอุ่นกว่าเดิม อีกทั้งทำเตาพิงไว้ด้านในมีอ่างน้ำอุ่นกับห้องเครื่องเจ้าจะได้ไม่ต้องเดินเข้าออกมาเสวยกับข้าข้างนอกต้องไอเย็น”“ท่านพี่ เช่นนั้นท่านพี่ต้องให้เจ้าหรูมาเสวยด้วยทุกเช้าทุกเย็น จะได้ทำความคุ้นเคยกันไว้”หวาเซียงพยักหน้ายิ้มเศร้าๆ“หากเจ้าพอใจเช่นนั้น ข้าพร้อมจะตามใจเจ้า หากมันทำให้เจ้าสบายใจ”เหอซ่างเซี่ยนกลืนน้ำลายของคอยากเย็น จะสบายใจได้อย่างไรในเมื่อไม่มีหญิงคนไหนอยากให้สามีรักคนอื่นมากกว่า แต่ซ่างเซี่ยนรักหวาเซียงอ๋องเสียจนยอมได้ทุกอย่าง เมื่อคิดว่าวันใดที่เขาจะต้องโดดเดี่ยวลำพังเมื่อซ่างเซี่ยนไม่อยู่แล้ว“ท่านพี่ แค่... มีคนคอยปรนนิบัติและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา เซี่ยนเซี่ยนก็สบายใจ
“นายหญิงของฟางหลุน เสน่ห์แรงไม่เบา”อู่หงถิงส่งภาษามือบอกว่าเขากับอู่หงถิงไม่ได้ทำอะไรกันเสียหน่อย ฟางหลุนอมยิ้ม“แน่นะเจ้าคะ”อู่หงถิงพยักหน้ารัวเร็วค่ำคืนมืดมิดสวมเสื้อคลุมสีดำสนิท เร้นกายออกจากห้องไปยังห้องทำงานของหวาเซียงอ๋อง เปิดประตูอย่างเบามือก่อนจะเร้นกายเข้าไปในนั้น ความมืดทำให้มองไม่เห็นร่างใหญ่ของหวาเซียงอ๋องที่นั่งอยู่ตรงนั้นตรงไปที่หีบไม้ใหญ่ด้านล่างโต๊ะเขียนหนังสือ แต่ร่างบางกับถูกรวบไว้แน่นดิ้นไม่หลุด อู่หงถิงตกใจอย่างที่สุด ลมหายใจร้อนผะผ่าวคลอเคลียที่หลังใบหู ดิ้นรนปัดป้อง“อดใจไม่ไหวถึงกลับตามข้า เข้ามาเชียวหรือ”ยิ้มหยันในหน้าจุดเทียนจนสว่างมองอู่หงถิงที่ดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขน แต่ไร้ประโยชน์“เข้ามาถึงนี่ แต่ดิ้นรนเสแสร้ง”ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น“ออกไปเสีย อย่าได้เข้ามาในนี้อีกเป็นอันขาดข้าไม่มีทางที่จะหลงมารยาเจ้า”ตวาดเสียงดังลั่น อู่หงถิงเม้มริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บกับคำดูถูกนั้น อยากจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อเหลานั่นดูสักที แต่ในที่สุดก็รีบออกจากห้องไปทันทีกลับไปนั่งหน้าเศร้า อย่างไรจึงจะขโมยหลักฐานสำคัญได้ในเมื่ออุปสรรคใหญ่คือคนผู้นั้น“นายหญิงเป็นอะไรไปเจ้า
“พอเลิกโอ้อวดได้แล้ว”หวาเซียงอ๋อง อดขำกับคำพูดของเสี่ยวกุนไม่ได้ สาวใช้ของเหอซ่างเซี่ยนวิ่งเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า“ท่านอ๋อง พระชายาออกไปตามหาชายรองข้างนอก”“ข้างนอก ชายารองนางไปไหน”“ไม่รู้เจ้าค่ะแต่ฟางหลุนบอกว่า หานางจนทั่วป่านนี้ยังไม่พบคาดว่าจะหนีไปตั้งแต่ กลางดึกเมื่อคืนพระชายาเป็นห่วงและร้อนใจมากจึงออกไปตามนางข้างนอก”หวาเซียงอ๋องก้าวขาออกจากห้องไปทันที เสี่ยวกุนกับกัวเฉาเร่งตามไปติดๆ“หยิบเสื้อคลุมแล้วตามข้ามา อากาศวันนี้เย็นมาก เจ้าให้พระชายาออกไปได้อย่างไร”พูดไปวิ่งไป“พระชายาบอกว่าร้อนใจว่านางจะหนีออกจากจวน จึงเร่งออกตามหาข้าน้อยห้ามก็ไม่ฟัง ไล่ให้ข้าน้อยมาแจ้งข่าวกับท่านอ๋อง”หวาเซียงอ๋องคิดว่าอู๋หงถิงคงน้อยใจเรื่องเมื่อคืนหรืออาจหนีไปหาหวาซงอ๋องชู้รักที่ตำหนักบูรพา“ข้าไปที่ตำหนักบูรพา กัวเฉาไปนอกวังหลวง ส่วนเสี่ยวกุนตามนางที่ตระกูลกวง”ต่างแยกย้ายกันออกไปตำหนักบูรพา“ไม่มีใครจากจวนหวาเซียงอ๋องมาที่นี่แม้แต่คนเดียว หวาเซียงอ๋องทำสิ่งใดหายไปกันแน่”“พี่ใหญ่ ไม่ต้องกังวลคนของข้า ข้าหาเองได้”ยิ้มหยันผุดขึ้นที่ริมฝีปาก “อย่าลืมไปหานางที่ตำหนักจันทราของเจ้ารองด้วยก็แล้วกัน”หว
อากาศหนาวเหน็บจนแทบทนไม่ไหว อู่หงถิงก้าวเดินช้าๆตั้งใจจะวิ่งแต่ด้วยไม่ใส่เสื้อคุลมและถุงมือในที่สุดก็หนาวสั่น จนต้องทิ้งตัวลงบนพื้นหิมะนอนขดตัว เป็นก้อนกลมเหมือนที่เคยทำตอนอยู่กับแม่กับน้องยามเหน็บหนาว กัวเฉาก้าวขายาวๆ ก่อนจะรวบร่างบางเย็นชืดไว้ในอ้อมแขนพาก้าวเดินออกมายกมือสั่นสะท้านขึ้นมาส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยเหอซ่างเซี่ยนทั้งๆที่ตัวเองกำลังจะหมดสติ กัวเฉาได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจภาษามือนั้นดิ้นรนออกจากอ้อมแขนหมายจะพากัวเฉาไปหาเหอซ่างเซี่ยนแต่กัวเฉากลับอุ้มอู่หงถิงไปจากตรงนั้น“กัวเฉา”หวาเซียงอ๋อง ถลาเข้าหากัวเฉาที่อุ้มอู่หงถิง ร่างเย็นชืดหมดสติในอ้อมแขนริมฝีปากและซีดขาวทว่าแก้มแดง ปลายนิ้วมือคล้ำจนเขียว“เจอนางที่ไหน”“ไม่ไกลจากตรงนี้แล้ว เซี่ยนเซี่ยนเล่านางอยู่ที่ไหน”หวาเซียงอ๋อง ไม่แม้แต่จะชายตามองอู่หงถิงถลาเข้าไปในป่า ที่พื้นหิมะหนาเตอะเดินย่ำไปมาตามรอยเท้าของอู่หงถิง จึงพบรอยเท้าอีกรอย มั่นใจในทันทีว่าเป็นของเหอซ่างเซี่ยน“เซี่ยนเซี่ยน”“เซี่ยนเซี่ยน”เงียบไร้ซึ่งสรรพเสียงมีเพียงเสียงลมพัดอื้ออึงก้าวข้าไปมาอย่างเร่งรีบแม้จะหนาวจะเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่สนใจ จนกระทั่งมองเห็นร่างข
อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฟางหลุนส่ายหน้าแต่สักพักก็ยิ้มส่งภาษามือบอกว่าเหอซ่างเซี่ยนปลอดภัยแล้วใช่ไหม นางพักรักษาตัวอยู่ใช่ไหม ฟางหลุนปาดน้ำตา“นายหญิงพักผ่อนเสีย” กัวเฉากลืนก้อนแข็งๆ ลงคอความสงสารแล่นเข้าสู่หัวใจหวาเซียงอ๋องก้าวเข้ามาในห้องด้วยสายตาดุดัน กัวเฉาประสานมือคารวะแต่เขากลับไม่สนใจ กระชากแขนของอู่หงถิงติดมือขึ้นมาทั้งลากทั้งดึงทั้งๆที่อู่หงถิงเดินไม่ค่อยถนัดเพราะแผลจากหิมะกัดที่นิ้วเท้า“เลิกนอนสบายได้แล้ว ฟางหลุนต่อไปไม่ต้องคอยดูแลนาง นางคือชายาทาสข้าต่อจากนี้ นางต้องทำทุกอย่างตามที่ข้าสั่ง และทำทุกอย่างที่สาวใช้ทำกัน”ฟางหลุนเบิกตากว้าง ถลาเข้ากอดอู่หงถิงไว้“ท่านอ๋องได้โปรดนายหญิงบาดเจ็บอยู่”รอยยิ้มเย้ยหยัน“เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรือ”ชักกระบี่ข้างกายของกัวเฉาอย่างรวดเร็ว จี้ไปที่คอหอยของอู่หงถิง“จะทำตามคำสั่งข้าหรืออยากให้นางตาย หากข้ารู้ว่าเจ้าแอบช่วยเหลือหรือแอบปรนนิบัติรับใช้นาง...ข้าจะฆ่านางเสีย”อู่หงถิงมองหวาเซียงอ๋องด้วยสายตาเคียดแค้น มือเล็กกำมัดแน่นก่อนจะกอดตอบฟางหลุนเบาๆ ส่งภาษามือให้ฟางหลุนถอยไป“ไม่ไม่ไม่ ท่านอ๋องหากจะฆ่านายหญิงท่านอ๋องฆ่าฟางหลุนเสียเถอะ
“ใต้เท้า คุณหนูน่าสงสารไม่น้อย เป็นแผลพุพองทั่วร่างกายอีกทั้งยังป่วยไข้เพราะไอเย็น”“เจ้าหรูมิใช่คนอ่อนแอเช่นนั้น นางเข้าใจดีว่าต้องทำตัวเช่นไร เรื่องแบบนี้เจ้าหรูคงไม่อยากให้ข้าก้าวก่าย”กวงเจ้าหลัว จำได้ดีตอนที่รับเอาเจ้าหรูมาจากอนุของเขาในตอนนั้น ภายนอกเจ้าหรูเป็นคุณหนูผู้งดงามอ่อนหวาน ถูกเลี้ยงดังไข่ในหินแต่ภายในเขากับเลี้ยงนางเหมือนดังสาวใช้คนหนึ่ง เขามักพูดกับเจ้าหรูเสมอว่ามารดาทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็กทั้งๆที่เป็นเขายื้อแย่งนางมา เช่นนั้นเขาจึงพูดให้เจ้าหรูเข้าใจว่าต้องตอบแทนบุญคุณตระกูลกวงเสมอเมื่อมีโอกาสตำหนักฮ่องเต้“ซ่างเซี่ยน ไม่อยู่แล้วหวาเซียงอ๋องคงจะลดบทบาทลงไปไม่น้อย”ฮองเฮายิ้มหวาน“ฝ่าบาท ก็เห็นว่าทุกวันนี้หวาเซียงอ๋องเป็นที่รักของชาวบ้านแต่ในราชสำนักล้วนถูกจับตาอีกทั้งไม่มีใครอยากจะเป็นพวก”“เป็นข้าที่มอบตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรให้เขาคอยตรวจสอบ ขุนนางและราชวงศ์จนกลายเป็น ไม้เบื่อไม้เมากับคนในวังหลวง”“จะว่าไปหากไม่มีหวาเซียงอ๋องวังหลวงก็คงฟอนเฟะไม่น้อย”ฮ่องเต้ถอนหายใจยาว“ซ่างเซี่ยนอายุสั้นเสียจริง ข้าตอนนี้แม้อยากจะปรามหวาเซียงอ๋องเรื่องกวงเจ้าหรูเพียงใดก็ไม่อาจ
อู่หงถิง ลืมตาตื่นบนแท่นนอนสีแดง ยามเช้าที่ไร้ซึ่งสรรพเสียง ทำไมมาอยู่ตรงนี้ในเมื่อเมื่อคืนจำได้ว่าตัวเองกำลังจะกลับบ้านที่เชิงเขาเพื่อนำของที่ขอมาได้วันนี้โชคดีได้เงินพอซื้อไก่ ไปให้น้องๆ“พานางออกไป”สาวใช้ที่ไม่สาวสองคนจับแขนพาอู่หงถิงออกจากตรงนั้นไปชุดสีแดง ที่สวมใส่ยังใหม่และสวย แต่อู่หงถิงกับคิดถึงราคาของมันหากนำไปขายให้เถ้าแก่ที่เคยขโมยของไปขายอยู่เรื่อยๆว่าจะได้ราคาเท่าไหร่กัน ร่างซูบซีดในอาภรณ์สวยงาม ยืนมองอู่หงถิงด้วยสายตาสงสัย“ท่านพี่ทำไมทำกับนางเช่นนั้น”แววตาดุดันทว่าใบหน้าหล่อเหลาเฉยชา โอบแขนรอบไหล่บางของเหอซ่างเซี่ยน ชายาเอกที่งดงามด้วยรูปโฉมกุมมือบางไว้อย่างอ่อนโยน“หวางเฟยอากาศข้างนอกเย็น เข้าไปข้างในเสียเถอะ อย่ามาเสียเวลากับหญิงไร้ค่าผู้นี้”“ไร้ค่า”อู๋หงถิงยกมือขึ้นส่งภาษามือ ด้วยความไม่พอใจ หากมีเสียงก็จะเปล่งวาจาด่าทอแต่นี่อู่หงถิงเป็นใบ้ ไม่สามารถกล่าวคำใดได้ร่างสูงพยุงชายาเอกเข้าไปข้างในไม่สนใจภาษามือด่าทอนั้นหรือว่าไม่เข้าใจว่ากำลังถูกด่าทออู่หงถิงมอง ตัวเองในขณะนี้ทำไมถึง งดงามเพียงนี้แล้วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ถูกโยนเข้าไปในห้องเก็บของที่มี ทั้งธัญพืชตา