ดึงมือเหอซ่างเซี่ยนให้ลุกขึ้นประคองแนบอกพาเดินออกไปทั้งๆ ที่เหอซ่างเซี่ยนหันหน้าหันหลังด้วยเป็นห่วงความรู้สึกของอู่หงถิง แต่หากจะมองให้ถ้วนถี่อู่หงถิงไม่ได้สนใจคำพูดมากกว่าอาหารตรงหน้าที่รสชาติดีและมีแต่ของดีดีที่ไม่เคยได้กินมาก่อน
ดอกไม้นานาพรรณงดงามสองข้างทางเดินที่ปูด้วยก้อนกรวดสีขาวสะอาดตา หวาเซียง กุมมือเหอซ่างเซี่ยนไว้ไม่ห่าง
“หวางเฟย หน้าหนาวปีนี้ข้าให้คนสร้างห้องพักให้เจ้าเสียใหม่ มิดชิดอบอุ่นกว่าเดิม อีกทั้งทำเตาพิงไว้ด้านในมีอ่างน้ำอุ่นกับห้องเครื่องเจ้าจะได้ไม่ต้องเดินเข้าออกมาเสวยกับข้าข้างนอกต้องไอเย็น”
“ท่านพี่ เช่นนั้นท่านพี่ต้องให้เจ้าหรูมาเสวยด้วยทุกเช้าทุกเย็น จะได้ทำความคุ้นเคยกันไว้”
หวาเซียงพยักหน้ายิ้มเศร้าๆ
“หากเจ้าพอใจเช่นนั้น ข้าพร้อมจะตามใจเจ้า หากมันทำให้เจ้าสบายใจ”
เหอซ่างเซี่ยนกลืนน้ำลายของคอยากเย็น จะสบายใจได้อย่างไรในเมื่อไม่มีหญิงคนไหนอยากให้สามีรักคนอื่นมากกว่า แต่ซ่างเซี่ยนรักหวาเซียงอ๋องเสียจนยอมได้ทุกอย่าง เมื่อคิดว่าวันใดที่เขาจะต้องโดดเดี่ยวลำพังเมื่อซ่างเซี่ยนไม่อยู่แล้ว
“ท่านพี่ แค่... มีคนคอยปรนนิบัติและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา เซี่ยนเซี่ยนก็สบายใจเกินพอแล้วเรื่องอื่นไม่ปรารถนา”
ฟางหลุนดึงแขนอู่หงถิงให้ลุกขึ้นจากโต๊ะเสวยเมื่อเห็นว่า ทำท่าทางกินไม่ยอมอิ่มเสียทีเหมือนถ่วงเวลา
“นายหญิงลุกขึ้นเจ้าค่ะตามไปที่สวนดอกไม้กัน”
อู่หงถิงส่ายหน้าเร็วรี่
“นายหญิง”
สายตาดุดุของฟางหลุน ทำเอาอู่หงถิงย่นจมูกทั้งลากทั้งจูงเหมือนเคย อู่หงถิงยืนนิ่งตะลึงกับภาพตรงหน้าดอกไม้นานาพันธ์บานสะพรั่งสวยสดจนเหมือนกับอยู่บนสรวงสวรรค์วิ่งเข้าไปที่ต้นดอกฉาฮวาที่งดงาม กลีบดอกเรียงซ้อนกันเป็นระเบียบ อีกทั้งสีแดงที่สะดุดตา อู่หงถิงก้มลงช้าๆสูดดมกลิ่นหอมรัญจวนใจ (ดอกคาร์มิเลียสีแดงกลิ่นจะหอมกว่าสีอื่น) ของฉาฮวา
หวาเซียงฮ๋องยืนตะลึงมองภาพอู่หงถิงที่กำลังดอมดมดอกฉาฮวาสีแดงสดใส รับกับอาภรณ์สีขาวขลิบแดงราวกับภาพฝันตรงหน้า เหอซ่างเซี่ยนดึงมือตัวเองออกช้าๆ เมื่อเห็นว่าหวาเซียงอ๋องไม่เกาะกุมมือของตัวเองไว้แน่นเหมือนเคย รอยยิ้มเศร้าๆปรากฏที่ริมฝีปากมองตามสายตาของหวาเซียงอ๋องที่พบว่า ความงดงามตรงหน้าแม้แต่เหอซ่างเซี่ยนที่เป็นหญิงด้วยกันยังยากจะปฏิเสธ
ดรุณีวัยแรกรุ่นงดงามผุดผาดริมฝีปากสีแดงกับปลายจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ข้างดอกฉาฮวาสีแดงสด อกอวบอิ่มกับอาภรณ์ที่อวดผิวเนียน อยากจะมองให้ลึกไปถึงประทุมถัน ใครกันจะสามารถละสายตาจากนางไปได้ อีกทั้งรอยยิ้มโลกสว่างยามเผลอไผลของอู่หงถิง เมื่อยามชื่นชมฉาฮวานั่นอีก ช่างงดงามติดตราตรึงใจ
มือใหญ่ของใครบางคนเด็ดดอกฉาฮวาดอกนั้นไปครอบครอง หวาซงอ๋องผู้องอาจนั่นเอง
“หากไม่ถือสา ฉาฮวาดอกนี้ข้าขอเด็ดไปเชยชม”
อู่หงถิงหุบยิ้มกว้างเหลือเพียงรอยยิ้มบางเบา
“เจ้าชอบดอกไม้ ตำหนักบูรพาของข้างดงามกว่านี้หลายเท่า หากเจ้าไม่รังเกียจ ตำหนักบูรพาไร้คู่ของข้าที่นั่น ยัง...ยินดีต้อนรับเสมอ”
หวาเซียงอ๋องคว้ามือเหอซ่างเซี่ยนเดินออกจากตรงนั้นไปทันที
อู่หงถิงส่งภาษามือ แสดงความขอบคุณแต่ก็เดินเลี่ยงออกมาเช่นกันหวาซง ตะโกนตามหลัง
“ข้ายังรออยู่ที่ตำหนักบูรพา หวังว่าชายารองน้องสามจะแวะไปที่นั่น”
อู่หงถิงเดินหลบออกไป ฟางหลุนรีบเข้าประคองไว้เหมือนดังแม่งูจงอางหวงไข่
“นายหญิงเจ้าขา อากาศยิ่งสายยิ่งหนาว ฟางหลุนไปยกชาอุ่นๆ ในห้องเครื่องมาให้ นายหญิงเข้าไปข้างในหาเสื้อคลุมใส่เสียให้เรียบร้อย”
ออกคำสั่งเสียเอง เมื่อเห็นว่าอู่หงถิงเอามือสองข้างถูกันไปมาด้วยความหนาว อู่หงถิงพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเข้าไปข้างใน
หวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังมองด้วยสายตาดุดัน
“ชู้รัก ไปแล้วหรือไร เหตุใดจึงไม่หาที่อื่นที่เหมาะกว่านี้ ทำไมต้องมาใช้จวนของข้าเป็นที่พบปะกัน”
อู่หงถิงเลิกคิ้วสูงไม่เข้าใจเรื่องที่หวาเซียงอ๋องพูด ถูมือสองข้างไปมาด้วยความหนาวเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาคลุมตัวตามคำสั่งของฟางหลุน ยังไม่ทันที่จะถึงราวแขวนเสื้อคลุมก็ถูกกระชากจนร่างเล็กเซเข้าซบอกกว้างของอีกคน
“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ที่เจ้าทำเป็นไม่พูดกับคนในจวนนี้ เพราะว่าเกรงว่าจะเผยความใน เรื่องที่แอบลักลอบพบปะกับหวาซงใช่ไหม”
อู่หงถิงส่ายหน้าไปมา ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น อู่หงถิงลุกขึ้นยืนวิ่งเข้าผลักร่างใหญ่ของหวาเซียงอ๋องเต็มแรงด้วยโทสะ ร่างสูงล้มลงบนแท่นนอนดึงเอาอู่หงถิงล้มลงบนอกกว้างของเขา หวาเซียงอ๋องกอดรัดเอวบางไว้แน่นยิ้มยียวน
“แรงเยอะนักใช่ไหม โมโหข้าที่พูดความจริง หรือว่าโมโหที่ไม่ได้พลอดรักกับชู้รักของเจ้า”
พลิกร่างบางลงใต้ร่างของเขา อู่หงถิงดิ้นรนสุดฤทธิ์แต่ก็ไม่อาจต้านทาน ได้ในเมื่อร่างสูงใหญ่ของอีกคนตรึงร่างบางไว้แน่น
“#_#”
ทั้งผลักทั้งยันก็ยังไม่ยอมปล่อย
“กับข้าแล้วทำห่วงตัว หวาซงอ๋องคงไปถึงไหนถึงไหนจึงกลัวว่าหากยอมข้า เขาจะตำหนิเอาได้ใช่ไหม”
มือใหญ่รวบเอวบางแนบชิดโน้มตัวลงอีกครั้ง ประตูห้องถูกเปิดออกฟางหลุนยืนถือถาดใส่กาน้ำชาตะลึงพึงเพริศอยู่อย่างนั้น หวาเซียงอ๋องรีบลุกพรวดพราดขยับเสื้อผ้าก่อนจะเดินออกไปกระแอมเบาๆ
ฟางหลุนอมยิ้ม วางถาดน้ำชาลง หันหน้ามองอู่หงถิงที่เขินอายแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“นายหญิงของฟางหลุน เสน่ห์แรงไม่เบา”อู่หงถิงส่งภาษามือบอกว่าเขากับอู่หงถิงไม่ได้ทำอะไรกันเสียหน่อย ฟางหลุนอมยิ้ม“แน่นะเจ้าคะ”อู่หงถิงพยักหน้ารัวเร็วค่ำคืนมืดมิดสวมเสื้อคลุมสีดำสนิท เร้นกายออกจากห้องไปยังห้องทำงานของหวาเซียงอ๋อง เปิดประตูอย่างเบามือก่อนจะเร้นกายเข้าไปในนั้น ความมืดทำให้มองไม่เห็นร่างใหญ่ของหวาเซียงอ๋องที่นั่งอยู่ตรงนั้นตรงไปที่หีบไม้ใหญ่ด้านล่างโต๊ะเขียนหนังสือ แต่ร่างบางกับถูกรวบไว้แน่นดิ้นไม่หลุด อู่หงถิงตกใจอย่างที่สุด ลมหายใจร้อนผะผ่าวคลอเคลียที่หลังใบหู ดิ้นรนปัดป้อง“อดใจไม่ไหวถึงกลับตามข้า เข้ามาเชียวหรือ”ยิ้มหยันในหน้าจุดเทียนจนสว่างมองอู่หงถิงที่ดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขน แต่ไร้ประโยชน์“เข้ามาถึงนี่ แต่ดิ้นรนเสแสร้ง”ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น“ออกไปเสีย อย่าได้เข้ามาในนี้อีกเป็นอันขาดข้าไม่มีทางที่จะหลงมารยาเจ้า”ตวาดเสียงดังลั่น อู่หงถิงเม้มริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บกับคำดูถูกนั้น อยากจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อเหลานั่นดูสักที แต่ในที่สุดก็รีบออกจากห้องไปทันทีกลับไปนั่งหน้าเศร้า อย่างไรจึงจะขโมยหลักฐานสำคัญได้ในเมื่ออุปสรรคใหญ่คือคนผู้นั้น“นายหญิงเป็นอะไรไปเจ้า
“พอเลิกโอ้อวดได้แล้ว”หวาเซียงอ๋อง อดขำกับคำพูดของเสี่ยวกุนไม่ได้ สาวใช้ของเหอซ่างเซี่ยนวิ่งเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า“ท่านอ๋อง พระชายาออกไปตามหาชายรองข้างนอก”“ข้างนอก ชายารองนางไปไหน”“ไม่รู้เจ้าค่ะแต่ฟางหลุนบอกว่า หานางจนทั่วป่านนี้ยังไม่พบคาดว่าจะหนีไปตั้งแต่ กลางดึกเมื่อคืนพระชายาเป็นห่วงและร้อนใจมากจึงออกไปตามนางข้างนอก”หวาเซียงอ๋องก้าวขาออกจากห้องไปทันที เสี่ยวกุนกับกัวเฉาเร่งตามไปติดๆ“หยิบเสื้อคลุมแล้วตามข้ามา อากาศวันนี้เย็นมาก เจ้าให้พระชายาออกไปได้อย่างไร”พูดไปวิ่งไป“พระชายาบอกว่าร้อนใจว่านางจะหนีออกจากจวน จึงเร่งออกตามหาข้าน้อยห้ามก็ไม่ฟัง ไล่ให้ข้าน้อยมาแจ้งข่าวกับท่านอ๋อง”หวาเซียงอ๋องคิดว่าอู๋หงถิงคงน้อยใจเรื่องเมื่อคืนหรืออาจหนีไปหาหวาซงอ๋องชู้รักที่ตำหนักบูรพา“ข้าไปที่ตำหนักบูรพา กัวเฉาไปนอกวังหลวง ส่วนเสี่ยวกุนตามนางที่ตระกูลกวง”ต่างแยกย้ายกันออกไปตำหนักบูรพา“ไม่มีใครจากจวนหวาเซียงอ๋องมาที่นี่แม้แต่คนเดียว หวาเซียงอ๋องทำสิ่งใดหายไปกันแน่”“พี่ใหญ่ ไม่ต้องกังวลคนของข้า ข้าหาเองได้”ยิ้มหยันผุดขึ้นที่ริมฝีปาก “อย่าลืมไปหานางที่ตำหนักจันทราของเจ้ารองด้วยก็แล้วกัน”หว
อากาศหนาวเหน็บจนแทบทนไม่ไหว อู่หงถิงก้าวเดินช้าๆตั้งใจจะวิ่งแต่ด้วยไม่ใส่เสื้อคุลมและถุงมือในที่สุดก็หนาวสั่น จนต้องทิ้งตัวลงบนพื้นหิมะนอนขดตัว เป็นก้อนกลมเหมือนที่เคยทำตอนอยู่กับแม่กับน้องยามเหน็บหนาว กัวเฉาก้าวขายาวๆ ก่อนจะรวบร่างบางเย็นชืดไว้ในอ้อมแขนพาก้าวเดินออกมายกมือสั่นสะท้านขึ้นมาส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยเหอซ่างเซี่ยนทั้งๆที่ตัวเองกำลังจะหมดสติ กัวเฉาได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจภาษามือนั้นดิ้นรนออกจากอ้อมแขนหมายจะพากัวเฉาไปหาเหอซ่างเซี่ยนแต่กัวเฉากลับอุ้มอู่หงถิงไปจากตรงนั้น“กัวเฉา”หวาเซียงอ๋อง ถลาเข้าหากัวเฉาที่อุ้มอู่หงถิง ร่างเย็นชืดหมดสติในอ้อมแขนริมฝีปากและซีดขาวทว่าแก้มแดง ปลายนิ้วมือคล้ำจนเขียว“เจอนางที่ไหน”“ไม่ไกลจากตรงนี้แล้ว เซี่ยนเซี่ยนเล่านางอยู่ที่ไหน”หวาเซียงอ๋อง ไม่แม้แต่จะชายตามองอู่หงถิงถลาเข้าไปในป่า ที่พื้นหิมะหนาเตอะเดินย่ำไปมาตามรอยเท้าของอู่หงถิง จึงพบรอยเท้าอีกรอย มั่นใจในทันทีว่าเป็นของเหอซ่างเซี่ยน“เซี่ยนเซี่ยน”“เซี่ยนเซี่ยน”เงียบไร้ซึ่งสรรพเสียงมีเพียงเสียงลมพัดอื้ออึงก้าวข้าไปมาอย่างเร่งรีบแม้จะหนาวจะเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่สนใจ จนกระทั่งมองเห็นร่างข
อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง เมื่อฟางหลุนส่ายหน้าแต่สักพักก็ยิ้มส่งภาษามือบอกว่าเหอซ่างเซี่ยนปลอดภัยแล้วใช่ไหม นางพักรักษาตัวอยู่ใช่ไหม ฟางหลุนปาดน้ำตา“นายหญิงพักผ่อนเสีย” กัวเฉากลืนก้อนแข็งๆ ลงคอความสงสารแล่นเข้าสู่หัวใจหวาเซียงอ๋องก้าวเข้ามาในห้องด้วยสายตาดุดัน กัวเฉาประสานมือคารวะแต่เขากลับไม่สนใจ กระชากแขนของอู่หงถิงติดมือขึ้นมาทั้งลากทั้งดึงทั้งๆที่อู่หงถิงเดินไม่ค่อยถนัดเพราะแผลจากหิมะกัดที่นิ้วเท้า“เลิกนอนสบายได้แล้ว ฟางหลุนต่อไปไม่ต้องคอยดูแลนาง นางคือชายาทาสข้าต่อจากนี้ นางต้องทำทุกอย่างตามที่ข้าสั่ง และทำทุกอย่างที่สาวใช้ทำกัน”ฟางหลุนเบิกตากว้าง ถลาเข้ากอดอู่หงถิงไว้“ท่านอ๋องได้โปรดนายหญิงบาดเจ็บอยู่”รอยยิ้มเย้ยหยัน“เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรือ”ชักกระบี่ข้างกายของกัวเฉาอย่างรวดเร็ว จี้ไปที่คอหอยของอู่หงถิง“จะทำตามคำสั่งข้าหรืออยากให้นางตาย หากข้ารู้ว่าเจ้าแอบช่วยเหลือหรือแอบปรนนิบัติรับใช้นาง...ข้าจะฆ่านางเสีย”อู่หงถิงมองหวาเซียงอ๋องด้วยสายตาเคียดแค้น มือเล็กกำมัดแน่นก่อนจะกอดตอบฟางหลุนเบาๆ ส่งภาษามือให้ฟางหลุนถอยไป“ไม่ไม่ไม่ ท่านอ๋องหากจะฆ่านายหญิงท่านอ๋องฆ่าฟางหลุนเสียเถอะ
“ใต้เท้า คุณหนูน่าสงสารไม่น้อย เป็นแผลพุพองทั่วร่างกายอีกทั้งยังป่วยไข้เพราะไอเย็น”“เจ้าหรูมิใช่คนอ่อนแอเช่นนั้น นางเข้าใจดีว่าต้องทำตัวเช่นไร เรื่องแบบนี้เจ้าหรูคงไม่อยากให้ข้าก้าวก่าย”กวงเจ้าหลัว จำได้ดีตอนที่รับเอาเจ้าหรูมาจากอนุของเขาในตอนนั้น ภายนอกเจ้าหรูเป็นคุณหนูผู้งดงามอ่อนหวาน ถูกเลี้ยงดังไข่ในหินแต่ภายในเขากับเลี้ยงนางเหมือนดังสาวใช้คนหนึ่ง เขามักพูดกับเจ้าหรูเสมอว่ามารดาทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็กทั้งๆที่เป็นเขายื้อแย่งนางมา เช่นนั้นเขาจึงพูดให้เจ้าหรูเข้าใจว่าต้องตอบแทนบุญคุณตระกูลกวงเสมอเมื่อมีโอกาสตำหนักฮ่องเต้“ซ่างเซี่ยน ไม่อยู่แล้วหวาเซียงอ๋องคงจะลดบทบาทลงไปไม่น้อย”ฮองเฮายิ้มหวาน“ฝ่าบาท ก็เห็นว่าทุกวันนี้หวาเซียงอ๋องเป็นที่รักของชาวบ้านแต่ในราชสำนักล้วนถูกจับตาอีกทั้งไม่มีใครอยากจะเป็นพวก”“เป็นข้าที่มอบตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรให้เขาคอยตรวจสอบ ขุนนางและราชวงศ์จนกลายเป็น ไม้เบื่อไม้เมากับคนในวังหลวง”“จะว่าไปหากไม่มีหวาเซียงอ๋องวังหลวงก็คงฟอนเฟะไม่น้อย”ฮ่องเต้ถอนหายใจยาว“ซ่างเซี่ยนอายุสั้นเสียจริง ข้าตอนนี้แม้อยากจะปรามหวาเซียงอ๋องเรื่องกวงเจ้าหรูเพียงใดก็ไม่อาจ
ฟางหลุนเปิดประตูเข้ามาในห้อง ดึงห่อหมั่นโถวยื่นวางไว้บนมือบางซีดเซียวของอู่หงถิง จับเสื้อผ้าที่ถูกโยนหลุดลุ่ยมาสวมทับให้อีกทีลูบหลังไหล่ให้ด้วยความสงสาร ใช้มือบิหมั่นโถวป้อนอู่หงถิง รสชาติของหมั่นโถวช่างปะแล่มๆด้วยปนกับรสของน้ำตา อู่หงถิงยิ้มหยันให้กับตัวเอง“อิ่มไหม”อู่หงถิงพยักหน้ายิ้มๆ“นายหญิงมีเรื่องอะไรจะคุยกับฟางหลุนหรือไม่”อู่หงถิงเลิกคิ้วสูงคิดว่าจะบอกกับฟางหลุนเรื่องที่ตัวเองไม่ใช่กวงเจ้าหรูทว่าไม่กล้าแม้แต่จะคิดกลัวว่าแม่กับน้องจะไม่ปลอดภัยเลือกที่จะส่ายหน้า“ฟางหลุนรู้สึกว่านายหญิงมีบางอย่างในใจ”ยิ้มบางๆ“ฟางหลุนอยากให้นางหญิงพูดเสียทีอย่างน้อยก็จะได้บอกกับท่านอ๋อง ขอร้องท่านอ๋องให้ปรานี”อู่หงถิงส่ายหน้าส่งภาษามือเหมือนจะบอกว่าเขาจะทำอะไรก็ช่างเขา“นายหญิงข้าส่งข่าวถึงท่านพ่อของนายหญิงแล้ว แต่ก็เงียบเฉยเกรงว่าจะไม่กล้าต่อกรกับท่านอ๋อง พรุ่งนี้รอให้สว่างฟางหลุนจะพบคนผู้หนึ่งขอความช่วยเหลือ”อู่หงถิงส่ายหน้าไปมา“ท่านอ๋องทำเกินไปแล้ว นายหญิงอายุยังน้อย เรื่องบางเรื่องไม่ถึงกับต้องลงทัณฑ์กันก็ได้ ฟางหลุนจะไม่ยอมนิ่งดูดายเด็ดขาด”กอดปลอบร่างเล็กของอู่หงถิงลูบหลังลูบไหล่ปล
“ท่านพ่อตา”หวาจิ้งอ๋องประสานมือตรงหน้าต่อหน้ากวงเจ้าหลัว“องค์ชายรองท่าน ล้อเล่นเช่นนี้ ข้าเกรงว่าผู้อื่นมาได้ยินเข้าจะไม่เหมาะนัก”“เจ้าหรูกับข้า ท่านก็รู้ว่าเราสองคนรักกัน มีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นที่ปิดหูปิดตาหากให้นางแต่งเข้าตำหนักข้าเสีย เกรงว่าไม่เป็นเช่นนี้”“หวาเซียงอ๋องเดิมไม่เคยลงรอยกับข้าอยู่แล้ว การประทานงานแต่งจากฮ่องเต้ยิ่ง ไม่เคยยินยอมแต่เป็นเพราะขัดฝ่าบาทไม่ได้”“ท่านพ่อตาข้าอยากให้ท่านแวะไปที่จวนหวาเซียงอ๋องดูเสียที ข้าเองห่วงนางมากแต่จะไปก็เกรงว่าไม่เหมาะ”“หวาเซียงอ๋องมิได้ระแวงองค์ชายรอง หากแต่ระแวงองค์ชายใหญ่หวาซงว่ามีแอบมีความสัมพันธ์กับเจ้าหรู”หวาจิ้งอ๋องยิ้ม“เจ้าหรูงดงามอ่อนหวานใครกันไม่หมายปองนาง อีกทั้งความงามของนางล่มเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย หวาเซียงอ๋องข้าแปลกใจเสียจริงว่าเหตุใดถึงได้ทำท่าทีรังเกียจเจ้าหรูเสียเหลือเกินทั้งๆ ที่ไม่ว่าใครหากพบหน้าและพูดคุยกับเจ้าหรูแล้วเกรงว่าจะอดใจหลงรักนางไม่ได้” กวงเจ้าหลัวถอนหายใจ“มีเพียงหวาเซียงอ๋องที่มองเจ้าหรูเป็นเพียงชายาทาส ข้าเห็นทีจะต้องแวะไปที่จวนหวาเซียงอ๋องอย่างที่องค์ชายพูดมา หากไม่แวะเวียนไปเสียบ้าง คงไม่พ้นข้อ
“ฟางหลุนตามนายหญิงของเจ้า”ฟางหลุนยิ้มก่อนจะรีบไปยังห้องของอู่หงถิง“นายหญิงท่านพ่อของนายหญิงมาแล้ว”อู่หงถิงเลิกคิ้วสูง ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นกลัวว่าท่านพ่อที่ฟางหลุนว่า จะรู้ว่าอู่หงถิงไม่ใช่กวงเจ้าหรู แต่จะเลี่ยงไม่ออกไปพบได้อย่างไร หากไม่ออกไปยิ่งมีพิรุธ อู่หงถิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างไรก็ต้องออกไปหากจะมีใครสักคนรู้ก็คงเป็นบิดาของกวงเจ้าหรูนี่แหละ ก็คงถึงคราวซวยของอู่หงถิงก็แล้วกัน ฟางหลุนพยุงอู่หงถิงให้ลุกขึ้นช้าๆก้าวขาด้วยความมั่นคง ไม่เกรงกลัวสิ่งใด“นายหญิง”ฟางหลุนบีบมือของอู่หงถิงเพื่อให้กำลังใจ อู่หงถิงยิ้มเป็นครั้งแรก หวาเซียงอ๋องยืนอยู่หน้าห้องมองรอยยิ้มเศร้าสร้อยนั้นใต้เท้ากวงเพ่งมองใบหน้าของอู่หงถิงเหมือนกับตัวประหลาดหวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังมองกิริยาของพ่อลูก“เจ้าหรู เจ้าผอมลงจนพ่อจำแทบไม่ได้”ในที่สุดก็เอ่ยปากออกมาหลังจากที่หายจากอาการตกตะลึง อู่หงถิงยิ้มย่อตัวลง“นางไม่พูดตั้งแต่เข้ามาอยู่ในจวนก็ไม่เคยพูดกับใคร”กวงเจ้าหลัวยิ้ม“ข้าน้อยขอใช้เวลาอยู่กับนางเพียงลำพัง”อู่หงถิงหันสบตากับฟางหลุนที่พยักหน้าช้าๆ“ไม่ได้ ข้ากับนางเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เรื่องขอ
ผลไม้รสเปรี้ยวรสชาติดีไม่น้อยหงถิงคิดหวาเซียงอ๋องได้มาจากที่แห่งใด คนอย่างเขาเช่นไรจึงเสาะแสวงหาของแบบนี้มาได้หรือสั่งให้ใครไปเก้บมากันแน่แต่ก้ไม่ได้ถามไถ่“นายหญิง ไม่เสวยอะไร กินได้เพียงผลไม้รสเปรี้ยวเจ้าค่ะ”เสียงฟางหลุนคุยกับหวาเซียงอ๋องด้านนอกห้องโดยที่อีกคนไม่กล้าเข้ามาในเมื่อรู้ว่าหงถิงแพ้ท้องและแพ้ลามมาถึงเขาด้วยหลังจากที่รู้จึงทำได้เพียงอยุ่ห่างๆวันๆก็แค่แวะเวียนมาไม่กล้าเข้าไปหาเหมือนเคย“ยาบำรุง ข้าให้ท่านหมอจัดยาบำรุงที่ดีที่สุดในแคว้นฉานให้นายหญิงของเจ้า อย่าลืมเคี่ยวให้หงถิงดื่มเช้าเย็น ยานี้ยังช่วยเรื่องอาการแพ้ท้อง กว่าข้าจะได้มันมาต้องอาสาไปช่วยท่านหมอที่ไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขาห่างออกไปหลายลี้”ฟางหลุนยิ้มไม่อยากเชื่อว่าความรักเปลี่ยนคนได้เพียงนี้ท่านอ๋องเดิมเฉยชาไม่ใส่ใจผู้ใดมาบัดนี้กลับเปลี่ยนจากคนเฉยชาเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นยิ่งนัก"เจ้าค่ะท่านอ๋อง"ย่อกายลงรับบัญชา“นางผอมลงหรือไม่”น้ำเสียงห่วงใยไม่เปลี่ยน"เจ้าค่ะก็กินได้แค่ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างอื่นไม่อาจแตะต้องเครื่องหอมยังต้องโยนทิ้ง"เสียงฟางหลุนตอบเบาๆ"นางลำบากเพียงนี้เชียวหรือข้าจะแบ่งเบานางได้เช่นไรกัน"น้ำเสียง
หวาเซียงอ๋องก้าวเท้ายาวๆยังห้องของหงถิง ข้างหน้านั่นกลับเงียบจนน่าในหาย นางจะเป็นอย่างบ้าง อาการบาดเจ็บที่เขาเห็นรุนแรงไม่น้อย แต่ใจกลับกระหวัดคิดไปถึงเหอซ่างเซี่ยน ความครุกรุ่นบังเกิดขึ้นในใจก้าวขาออกไปจากตรงนั้นทันที“ท่านอ๋อง ชายารองบาดเจ็บถึงเพียงนั้นท่านยังใจร้ายกับนาง”กัวเฉา ประสานมือตัดสินใจอยู่นานกว่าจะกล้าพูด“นางทำให้เซี่ยนเซี่ยนตาย”“ท่านอ๋อง พระชายาเอกนางรู้ว่าตัวเองไม่แข็งแรงจึงนับว่าตัดสินใจไปแล้วด้วยความเด็ดเดี่ยวออกไปตามพระชายารองด้วยความเป็นห่วง ตอนที่กัวเฉาเจอพระชายารองนั้น นางพยายามส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยพระชายาเหอซ่างเซี่ยนแต่ว่ากัวเฉาไม่อาจรู้ว่านางต้องการจะบอกอะไรหากท่านอ๋องจะโกรธใครสักคนขอให้เป็น กัวเฉาเถิด ที่โง่งมไม่สามารถเข้าใจภาษามือ”“เจ้าจงใจพูดแทนนาง มีความหมายใดหรือไม่”“ท่านอ่องนางอาภัพ พูดไม่ได้อีกทั้งแต่งเข้ามาในจวนอ๋องหวังว่าท่านอ๋องจะดีกับนาง แค่แต่งมาเป็นชายารองก็นับว่ารันทดพอแล้วยิ่งเป็นชายารองของท่านอ๋องที่มีสายตามองแต่เพียง ชายาเอกยิ่งทำให้นางน่าสงสาร”“กัวเฉา”ตวาดลั่น“ท่านอ๋องหากกัวเฉา เป็นคนอื่นจึงมิกล้าพูดกับท่านอ่องแบบนี้ ท่านอ๋องเคยสงสั
กระท่อมกลางป่า“พระชายา เอ่อ ๆๆ ไท่จือเฟย ไท่จือเชิญท่านที่ตำหนักบูรพา”เสี่ยวกุน ประสานมือท่าทีนอบน้อม“ไท่จือ”หงถิงเลิกคิ้วสูง“ไท่จือ..เอ่อ..ไท่จือหวาเซียง ท่านอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือให้พระชายาเอ่อพูดผิดตลอด ให้ไท่จือเฟยเตรียมตัวย้ายเข้าไปที่ตำหนักบูรพา”หงถิงยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น“อย่างไรก็ต้องเข้าตำหนักบูรพาในวันนี้ในวันฤกษ์งามยามดี แต่ผิดกันที่ ….สามีเป็นข้า”กอดหงถิงจากด้านหลังไว้แน่น“ท่านพี่ ไหนบอกหงถิงว่าเราสองคนจะเร้นกาย”หงถิงทวงสัญญา“ข้าอยากไปแต่ตอนนี้เสด็จพ่อยังไร้คนที่วางใจได้”“ท่านพี่ ท่านก็เลยไม่วางใจ”“ข้า เกรงใจเจ้าไม่น้อย เจ้ายินดีเป็นไท่จือเฟยของข้าไหมไม่ว่าจะภูเขาดาบทะเลเพลิงเจ้ายังจะอยู่ข้างข้าอีกไหม”ก้มลงกระซิบข้างหู“ไม่ว่า ท่านพี่จะเป็นยาจกหรือฮ่องเต้ หงถิงยังจะเคียงข้าง บอกแล้วมิใช่หรือว่าแม้จะเร้นกายหงถิงก็จะเคียงข้างในเมื่อตอนนี้ท่านพี่เลือกที่จะกตัญญูต่อฝ่าบาทหงถิงจึงไม่อาจคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยยังพร้อมเคียงข้างเสมอ”“ขอบใจเจ้าอย่างไรจึงจะพอกับสิ่งที่เจ้าทำให้ข้า เจ้ายอมเคียงข้างข้าคนที่... เคยร้ายกับเจ้ามาก่อน”“แค่ได้อยู่ข้างกันหงถิงก็พอแล้วไม่ต้อ
“เจ้าเลิกพูดจาให้ร้ายข้า แล้วหาหลักฐานมายืนยันความผิดของข้า”“ข้านี่อย่างไรเล่าหลักฐานท่านพูดเองว่าข้าสมควรตายยาพิษที่ท่านใส่มันลงในอาหารแต่เป็นเพราะสวรรค์มีตา สาวใช้ของข้านางจึงยอมตายแทนเพื่อให้ข้าได้หนีมาเปิดโปงความผิดของท่านเป็นเช่นนี้ข้าจึงทำลายใบหน้าตัวเองเสีย สวรรค์มีตามือสังหารผู้นั้น ได้ลงชื่อสารภาพทุกอย่างไม่อย่างนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่า เขาทำงานผิดพลาดแล้วท่านเป็นคนสั่งให้เขาวางเพลิง ข้าแม้อยากให้นางตายเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น ท่านอาศัยคำขู่ของข้าเพื่อใส่ความข้า”ยื่นร่างคำสารภาพไปมาตรงหน้า หวาเซียงอ๋อง รับมันก่อนจะก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ ์ส่งถึงมือฮ่องเต้“กวงเจ้าหลัว ชั่วช้าเกินไปแล้ว แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขท่านยังใช้เป็นเครื่องมือ ทหารนำตัวไปคุมขังรอวันประหาร”“ฝ่าบาทกวงเจ้าหลัวขอความเป็นธรรม เจ้าหรูข้าก็มิได้บังคับให้นางต้องตายแต่เป็นเพราะหวาจิ้งอ๋อง เห็นว่านางกำลังตั้งครรภ์เกรงว่าหากหวาเซียงอ๋องรู้ว่านางตั้งครรภ์กับใคร เขาจะถูกลงทัณฑ์อีกทั้งคดียักยอกเงินในคลังหลวงในตอนนั้นเป็นหวาจิ้งอ๋องที่อยู่เบื้องหลัง จึงวางแผนให้เจ้าหรูเข้าไปขโมย หลักฐานจากจวนหวาเซียงอ๋องมาเจ้าห
“เสด็จพ่อ”หวาซงอ๋องพยายามเร่งรัดให้มอบเสื้อคลุมมังกรกับเขา“ลูกถูกหวาซง และมือสังหารของเขาล้อมกรอบแต่เป็นเพราะคมกระบี่ของหวาซงที่ทำให้ลูกเสียหลักตกลงไปที่หน้าผาสูง”“ฝ่าบาท ข้าเคยบอกแล้วว่ามือสังหารเหล่านั้นไม่ใช่ของข้า”หวาจิ้งอ๋องได้ที“หุบปากเจ้าเสียน้องรองไหนว่าจะจะอยู่ข้างข้า หากข้าช่วยให้เจ้าพ้นผิดเรื่องที่ฆ่ากวงเจ้าหรู”หวาซงอ๋องหันไปเล่นงานหวาจิ้งอ๋อง“พี่ใหญ่แผนของท่านรัดกุมก็จริง แต่หารู้ไม่ว่าข้าที่รอดมาได้ เพราะท่านไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่มือสังหารที่ทำงานให้ท่าน ท่านยังกำจัดพวกเขาเสียจนสิ้นข้าจึงได้โอกาสสวมรอยอาศัยศพของพวกเขาในการเร้นกายเพื่อรักษาตัว”“ไม่จริงเสด็จพ่อสิ่งที่หวาเซียงอ๋องพูดมาไม่เป็นความจริง”“เสด็จพ่อลูกอาศัยเปลี่ยนอาภรณ์และห้อยป้ายหยกให้กับศพของมือสังหารนายหนึ่งที่ใบหน้าแหลกเหลวจากการตกจากหน้าผา หนีรอดมาได้ เพราะรู้ดีว่าคนของหวาซงอ๋องจะต้องถูกส่งมาให้ค้นหาศพลูก”“หวาซงจริงหรือไม่”“เสด็จพ่อไม่เป็นความจริง หวาเซียงอ๋องพลัดตกจากเหวเอง ลูกไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขากัวเฉา ลากเอามือสังหารที่รอดชีวิตในวันเดียวกับหวาเซียงอ๋องเข้ามา“พูด”“ฝ่าบาท กระหม่อมเป็นมือสังห
“ก็…”กดริมฝีปากปิดปากบางไว้“ไม่ต้องพูดแล้ว แค่เจ้าไม่ยอมเป็นของหวาซง ข้าก็รู้ว่าเจ้ารักข้าเพียงใด ต้องขอบคุณคำพูดของหวาซง ที่บอกว่าจะดูแลชายารองของข้าตอนนั้นเองที่ทำให้ข้าคิดว่าข้าจะตายไม่ได้ทั้งที่เจ็บเจียนตาย เพื่อสิ่งที่เขาคิดจะได้ไม่มีทางเป็นจริงสิ่งเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อคือการที่ได้กลับมากอดเจ้าแบบนี้ แต่ก็กลัวเหลือเกินว่า เจ้าจะเห็นแก่ลาภยศยอมแต่งเข้าตำหนักบูรพา”“ไม่ ไม่ ไม่หงถิงยอมตาย”ตอบเร็วรี่“ ข้ารู้ ว่าเจ้าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าจะต้องเป็นของข้า และให้ข้าได้รักเจ้าแบบนี้ตลอดไปข้าเองต่อจากนี้จะมีมีสายตาไว้มองใคร”หงถิงหน้าเศร้า เมื่อคิดถึงเหอซ่างเซี่ยน“ชายาเอกของท่านเล่า”หวาเซียงอ๋องยิ้มกว้าง“หงถิงหึงข้า ข้าดีใจที่สุด เซี่ยนเซี่ยนนางเป็นดั่งเพื่อนที่คอยหวังดี และเข้าใจข้ามาตลอด ป่านนี้นางก็คงดีใจที่ข้ารักเจ้าได้มากขนาดนี้ แม้เจ้าไม่ใช่เจ้าหรูเพราะความผิดพลาดแต่ความผิดพลาดน้้นกลับทำให้ข้ามีความสุขเพียงนี้"จุมพิตเบาๆ ที่หน้าผาก“คิดถึงหงถิง แล้วก้อนแป้งน้อยในท้องของพ่อเป็นอย่างไรบ้างโก้งโค้งจุมพิตที่หน้าท้องเปลือยเปล่า ที่มองเห็นมาป๋องนูนออกมาเพียงนิด“เจ้
หวาเซียงอ๋องแต่เดิมเป็นที่รักใคร่และเคารพขององครักษ์เสื้อแพร แม้เขาไม่อยู่แล้วแต่ทุกคนยังระลึกถึงแม้แต่เขา หวาซงอ๋องภายนอกอ่อนโยนแต่การแสดงออกกลับคนผู้น้อยล้วนอาศัยอำนาจ จนทำให้หวาดกลัวกัวเฉาเก็บกระบี่เข้าฝักเร่งนำทางยังกระท่อมกลางป่าที่รกเรื้อและยากลำบาก“พระชายา เข้าไปข้างในเถิด”ฟางหลุนขยับตัวตามแต่กัวเฉามองสบตาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา หงถิงมองคนทั้งหมด“เราทั้งสามอารักขาอยู่ด้านนอกจึงดี”กัวเฉาพูดขึ้น หงถิงเปิดประตูเข้าไปด้านใน หวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังในอาภรณ์สีทึมทึบ หันหน้ากลับมาเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก หงถิงยืนนิ่งกับที่น้ำตาไหลริน กัวเฉาปิดประตูก่อนจะพยักหน้าให้ฟางหลุนกับเสี่ยวกุนออกมาจากตรงนั้น“ท่านพี่”หวาเซียงอ๋องกอดรวบร่างบางที่วิ่งเข้าหาเขาทันที“ท่านพี่ท่านยังไม่ได้ทิ้งข้าไปใช่ไหม”ริมฝีปากอุ่นกดปิดริมฝีปากบางไว้ไม่ให้เอ่ยคำใดมีเพียงภาษากายและสัมผัสอ่อนนุ่มอบอุ่นเท่านั้นที่จะอธิบายทุกอย่าง จูบเนิ่นนานที่ทำเอาหงถิงอ่อนระทวยในอ้อมแขน จนหวาเซียงอ๋องต้องพยุงไว้ ถอนริมฝีปากออกช้าๆก่อนจะกดมันลงอีกครั้ง บดเบียดอ่อนหวานซ้อนร่างบางไปที่แคร่ไม้ไผ่ ทาบทับเสียเต็มตัวแบบไม่อาจ
“ข้าพร้อมแล้ว ท่านองครักษ์พร้อมหรือยัง”“พระชายาระยะทางไปจากนี่ไม่ไกลนักมีกระท่อมหลังหนึ่งซุกซ่อนอยู่กลางป่า มิดชิดไร้ผู้คนย่างกราย เราทั้งหมดเร้นกายที่นั่นก่อนมืด แล้วพรุ่งนี้ค่อยหาทางอีกที”“ไม่กลัวว่าพวกเขาจะพบเรา”“ที่นั่นปลอดภัย กัวเฉาเร้นกายมานานวันแต่ระหว่างทางค่อนข้ารกเรื้อ”“ไม่เป็นไรข้าทนได้”สัมผัสอบอุ่นเมื่อคืนทำให้หงถิงรู้ว่าจะไม่มีทางยอมตกเป็นของคนอื่นแม้จะลำบากเพียงใดก็ตาม“กัวเฉา อาสาพาไป ที่นั่นจะพบคนผู้หนึ่งที่จะนำทางพระชายาอย่างปลอดภัย”หงถิงขมวดคิ้ว“ยังมีผู้ใดที่ไว้ใจได้อีกเล่า”“คนผู้นี้ กัวเฉาไว้ใจเขาเฉกเช่นเดียวกับท่านอ๋อง เมื่อถึงเวลานั้นพระชายาก็จะ ต้องพูดเช่นเดียวกับกัวเฉา”หงถิงยิ้ม“พระชายาเหตุใดจึงไม่เร้นกายในตอนมืดค่ำ”ฟางหลุนสงสัย“ออกไปตอนนี้ไร้คนสงสัย หากมีคนถามก็ให้ตอบว่าพาข้าเดินเที่ยวชมตลาดเพื่อหาของใช้จำเป็นสำหรับวันพรุ่งนี้ สบโอกาสเราจึงเร้นกายระหว่างนี้ กัวเฉาท่านต้องใช้ความสามารถในการสังเกตุคนว่ามีคนของหวาซงบ้างหรือไม่”“พระชายารอบคอบยิ่งนัก หากเป็นฟางหลุนคงคิดไม่ถึงไท่จือและคนของไท่จือเองก็คงคิดไม่ถึง ว่าพระชายาจะเร้นกายไปตอนกลางวันแสกๆ ”กัวเ
“ข้าช่วยอะไรพวกท่านไม่ได้ อีกทั้งยังทำให้พวกท่านต้องพลอยลำบากไปด้วยกัน”“นายหญิง นายหญิงเป็นสิ่งเดียวที่ท่านอ๋องเหลือไว้ให้พวกเรา เพื่อระลึกถึงสิ่งที่ท่านอ๋องเคยทำให้พวกเราทั้งหมด ท่านอ๋องเดิมทีใจดีที่สุดแต่เมื่อแต่งชายาเอกและนายหญิงชายาเอกป่วย ท่านอ๋องก็เปลี่ยนไปเราทั้งหมดรักและเคารพท่านอ๋องเช่นไรความรักและเคารพทั้งหมดส่งมาถึงนายหญิงเพียงคนเดียว”หงถิงยิ้มบางๆ รู้สึกขอบคุณฟางหลุน เสี่ยวกุน และกัวเฉาที่เคียงข้างยามยากเช่นนี้โรงเตี้ยมกลางป่าหวาเซียงอ๋องลืมตาตื่นมาอีกครั้งท่านหมอกำลังจับชีพจรอยู่กัวเฉายืนกอดอกมองไม่ไกลนัก“อาการ นายท่านดีขึ้นมาก คาดว่าอีกไม่กี่วันจึงจะหายดีตอนนี้ร่างกายฟื้นตัวรวดเร็ว”หยิบถุงเงินส่งให้ท่านหมอที่วางห่อยาลงข้างแท่นนอน“กัวเฉา”“ท่านอ๋อง ท่านฟื้นแล้ว”“หงถิง หงถิงเป็นอย่างไรบ้าง”กัวเฉายิ้ม“พระชายา ยังโศกเศร้าคิดถึงท่านอ๋องไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีบางอย่างที่กัวเฉาเกรงว่าหากท่านอ๋องรู้ จะไม่ยอมนอนรักษาตัวจนหายเสียก่อน”“บอกข้ามา”“หวาซงอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือ จะมีพิธีแต่งตั้งไท่จือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และในวันนั้นไท่จือจะแต่งชายารองของท่านอ๋อง เข้าตำหนั