ซ่างเซี่ยนทำสีหน้าตกใจไม่น้อย
“ตั้งแต่ ข้าน้อยอยู่กับนายหญิงนายหญิงก็ไม่เคยปริปาก ใช้แต่ภาษามือ”
“เจ้าไปตามหมอหลวงมาดูอาการของนาง”
หวาซงออกคำสั่ง อู่หงถิงส่ายหน้าไปมาเหมือนจะบอกว่าไม่ต้อง ทำให้ฟางหลุนลังเล
“รีบไปเดี๋ยวนี้เลย หากชายารองเป็นอะไรมากไปกว่านี้เกรงว่าเจ้านั่นล่ะที่จะมีความผิด”คราวนี้เป็น ฟางหลุนที่รีบวิ่งออกไปทันที
“ซ่างเซี่ยนรีบดึงแขน อู่หงถิงให้เข้าไปในห้องนั่งลงบนแท่นนอนหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ หวาซงได้แต่อยู่ด้านนอกมองเข้าไป
“เป็นอะไรไปท่านอ๋องทำอะไรเจ้า เจ้าจึงพูดไม่ได้เช่นนี้บอกข้ามาเถิด”
ช่างเซี่ยนสงสัยว่าจะเป็นหวาเซียงอ๋องที่ทำให้อู่หงถิงพูดไม่ได้ แต่อู่หงถิงไม่เข้าใจคำถามด้วยความห่วงใยของซ่างเซียน จึงส่ายหน้าไปมาเสีย
“บอกข้ามาข้ายินดีปกป้องเจ้า แต่อย่าได้บอกกับคนอื่นว่าท่านอ๋องกักขังและทำร้ายเจ้าเช่นนั้นเรื่องนี้หากแพร่ออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นการดีต่อท่านอ๋อง”
อู่หงถิงยังคงส่ายหน้าซ่างเซี่ยนถอนหายใจ ท่านหมอเข้ามาพอดี
“ท่านหมอตรวจดูให้ถ้วนถี่ทำไมชายารองจึงไม่ยอมปริปาก มีสิ่งใดผิดปกติกัน”หมอหลวงประสานมือ ทำการตรวจดูทั้งหูคอและปากก่อนจะถอยออกมาตรงหน้าเหอซ่างเซี่ยนและหวาซงที่ยืนรอข้างนอก
“พระชายา ชายารองไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ แต่กระหม่อมเกรงว่าจะมีเรื่องใดที่กระทบจิตใจนางอย่างมากจึงไม่ยอมปริปาก”
“กระทบจิตใจ”หวาซงอ๋องทวนคำช้าๆ แววตาครุ่นคิด
“หลังจากที่ตรวจดูแล้วการได้ยินก็ยังใช้ได้ อีกทั้งลิ้นไก่ของนางก็ปกติ แต่...ชายารองนางไม่ยอมเปล่งเสียง กระหม่อมเองก็จนปัญญา มีเพียงตัวชายารองเท้านั้นจึงจะรู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ยอมพูด และอีกวิธีคือหากข้าน้อยรู้สาเหตุอาจแก้ไขได้ในไม่ช้า”
ซ่างเซี่ยนได้แต่เพียงโบกมือให้หมอหลวงไปเสีย
“ชายาเอก ท่านคิดว่านางเป็นอะไร”
“ข้าคิดว่านางเพียงแค่ไม่อยากพูด อาจมีบางอย่างที่ทำให้นาง หวาดกลัวหรือตกใจ”
คิดไปถึงสิ่งที่หวาเซียงอ๋องทำกับ อู่หงถิง
เย็นมากแล้วหวาเซียงอ๋องเดินกลับเข้ามาที่พำนักพร้อมด้วยเสี่ยวกุน เหอซ่างเซี่ยนยืนรออยู่ที่หน้าห้อง พยุงซ่างเซี่ยนเข้าไปข้างใน
“หวางเฟยอากาศเริ่มเย็นออกมายืนรอข้า จะไม่สบายเอาได้”
“ท่านอ๋องเจ้าหรู นางๆๆ ”
หวาเซียงอ๋องขมวดคิ้ว
“นางแผลงฤทธิ์กับเจ้าหรือไร ข้าเห็นจะต้องลงทัณฑ์นางอีกแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างที่ท่านอ๋องคิด แต่นางตอนนี้ไม่ยอมปริปากวันๆส่งภาษามือเหมือนคนเป็นใบ้ เกรงว่าใต้เท้ากวงรู้เข้าอาจไม่พอใจที่ท่านอ๋องแต่งนางเข้ามาไม่ทันไรนางกลับป่วยไข้”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรนาง มีแต่นางที่คิดสังหารข้า”
“ท่านพี่ ท่านดีกับนางมากหน่อย ข้าคิดว่าไม่นานนางจะพูดได้วันนี้ข้าให้หมอหลวงมาตรวจดูอาการของนางหวาซงอ๋องก็อยู่ที่นี่”
มือใหญ่กำมัดแน่น
“หวาซงอ๋อง นึกแล้วไม่ผิดข่าวลือนั่น”
“ข่าวลือใดกัน เซี่ยนเซี่ยนไม่เคยได้ยิน”
“ข่าวรือเรื่องความสัมพันธ์ของ หวาซงกับกวงเจ้าหรูก่อนหน้านั้น นี่คงอดอยากได้ไม่นานจึงคิดมาเริงรักกันให้หายคิดถึงไม่น่าเชื่อว่าจะกล้ามาถึงจวนของข้า”
“ท่านพี่ข้ามองนางไม่ผิด นางยังพิสุทธิ์เช่นไรท่านถึงคิดว่านาง…”
“เซี่ยนเซี่ยนเจ้าเป็นคนจิตใจดีเพียงนี้ คงยังไม่รู้ว่าในวังหลวงล้วนมีเรื่องคาวโลกีย์มากมาย”
“ท่านอ๋อง หากจะปรักปรำนางคงไม่เหมาะ”
ยิ้มหยันที่ใบหน้า
“เจ้ารอดูว่าสิ่งที่ข้าพูดจะจริงเท็จแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่ต้องเชื่อช้าก็ได้”
เหอซ่างเซี่ยนถอนหายใจหากเป็นเช่นที่หวาเซียงอ๋องพูดแสดงว่าซ่างเซี่ยนมองคนผิดไป หวาเซียงอ๋องก้าวขายาวๆ ตรงไปยังห้องของอู่หงถิงผลักประตูเข้าไป โบกมือไล่ฟางหลุน อู่หงถิงกับนอนขดตัวนิ่งบนแท่นนอน เมื่อเห้นว่าคนที่มาเป็นใครก็ใช้มือสองข้างกอดรอบเข่าไว้แน่นไม่แม้แต่จะหันมอง ในเมื่อตอนนี้กำลังวางแผนและกำลังหาทางที่จะหลุดพ้นความคิดของตัวเองที่ห่วงใยมารดาและน้องไหนจะเรื่องที่ต้องลงมือฆ่าหวาเซียงอ๋องจึงรู้สึกว่าตัวเองเศร้าสร้อยอย่างประหลาด
“ลุกขึ้น”
น้ำเสียงเต็มไปด้วยโทสะ อู่หงถิงยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นงอตัวให้คุ้ดคู้กว่าเดิม
"ข้าบอกให้ลุกขึ้น"
กระชากแขนที่กอดหัวเข่าไว้แน่น ร่างบางบัดนี้เป็นเพียงก้อนเนื้อกลมๆ ที่มองเพียงแว๊บแรกเหมือนไร้ซึ่งชีวิตหากไม่ติดที่ใบหน้างดงามนั้น
“เสี่ยวกุนปิดประตู”
หันไปสั่งเสี่ยวกุน อู๋หงถิงยังนอนนิ่งไม่ไหวติงคิดว่าจะขู่ได้แต่ไม่เป็นผล
“แสร้งป่วยไข้เรียกร้องความสนใจ ข้าจะดูว่าเจ้าจะไม่ยอมปริปากได้นานแค่ไหน”ลากร่างบางลงไปกองกับพื้นอ้อมแขนเล็กหลุดออกจากหัวเข่า เจ็บจนจุกแต่ก็ยังไม่เปล่งเสียง ยิ่งยั่วโทสะของอีกคน
“ซ่างเซี่ยนบอกให้ดีกับเจ้าหน่อย แต่ข้าว่าคงไม่เป็นผล”
ขึ้นคร่อมร่างบาง มือแข็งแรงจับมือบางทั้งสองข้างให้กางออกขาแกร่งกดทับหน้าขาของอู๋หงถิงจนเจ็บ อู๋หงถิงดิ้นรนกระเสือกกระสนแต่ถูกรวบลงไปนอนใต้ร่างของหวาเซียง
“จะทนได้กี่น้ำ”
มือใหญ่อีกข้างดึงทึ้งเสื้อผ้าออกจนออกเกือบจะเปล่าเปลือย อู่หงถิงแม้จะมีแววตาตื่นตระหนกแต่กับไม่มีเสียงร้อง ขยับตัวหนีความกักขฬะของอีกคน หวาเซียงกดเอวแนบกับเอวของอู๋หงถิงยิ้มหยันเมื่ออู่หงถิงไม่อาจขยับตัวได้ แต่หันหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าเขา เขาจ้องมองเนินเนื้ออวบอิ่มตรงหน้าที่เขาเพิ่งจะดึงอาภรณ์ออกไป กลืนน้ำลายลงคอ
“ช่างเก่งเสียจริง ข้าน่ารังเกียจมากถึงกลับอยากให้ตายเลยหรือไร”
ดวงตาของอู่หงถิงเป็นประกายวาววับ หากฆ่าเขาตอนนี้ก็จะมีคนเป็นพยานทั้งเสี่ยวคุนและฟางหลุนที่อยู่ด้านอกคงได้ยินว่าหวาเซียงอ๋องข่มเหงอู่หงถิง
ตาเหลือบมองแจกันบนโต๊ะข้างแท่นนอนอันไม่เล็กนักหยุดดิ้นพักเอาแรงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับอีกคนที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้วตากลมเปล่งประกายวาวโรจน์ กับตาคมของหวาเซียงอ๋องที่มองอู่หงถิง
“หมดฤทธิ์แล้วหรือไร”
ตาจ้องมองริมฝีปากสีชมพูระเรื่อตาไม่กะพริบ บางอย่างในกายที่ห่างหายมานานเริ่มตื่นตัว พยายามหักห้ามใจแต่ไม่เป็นอย่างที่ใจต้องการร่างกายหาบังคับได้ไม่ หวาเซียงอ๋องขยับเอวกดกระแทกทั้งๆ ที่ยังมีอาภรณ์เหมือนตั้งใจแกล้งอู่หงถิง ยิ้มหยันที่อู่หงถิงไม่อยากเห็น ลอยอยู่ตรงหน้า
“จะดูว่าจะไม่พูดได้นานแค่ไหน ร้องสิหากไม่ชอบก็ร้องหากเจ้าไม่ร้องข้าจะถือว่าเจ้าเต็มใจและชอบที่ข้าทำแบบนี้”
อู่หงถิงใช้เท้าถีบพื้น เอาศีรษะชนกับโต๊ะที่ข้างแท่นนอน แจกันใบใหญ่ร่วงลงบนพื้น หวาเซียงอ๋องซบหน้าลงกับอกอุ่นนุ่ม มือเล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระอู่หงถิงคว้าแจกัน ด้วยมือเดียวทุบเข้าไปที่ศีรษะของหวาเซียงอ๋องอย่างจัง
“เพล้ง”
หวาเซียงอ๋องผุดลุกขึ้นคลำที่กลางศีรษะของเหลวอุ่นๆไหลออกจากบาดแผลที่เจ็บจี้ดถึงหัวใจ อู่หงถิงยืนตัวสั่นงันงก
เสี่ยวกุนกับฟางหลุนวิ่งเข้ามาพร้อมกัน ฟางหลุนถลาเข้าไปกอดรวบร่างเล็กของอู่หงถิงไว้แน่นตั้งใจปกป้องเพราะรู้ว่าหวาเซียงอ๋องโมโหเพียงใดในตอนนี้ เหอซ่างเซี่ยนเดินแกมวิ่งจากห้องของนาง มองคนนู้นทีคนนี้ที
หวาเซียงอ๋องจ้องมองมาที่อู่หงถิงสายตาแค้นเคือง แต่เพียงครู่ก็ยิ้มหยัน ยิ้มหยันที่ริมฝีปาก
“ขังนางห้ามส่งข้าวส่งน้ำ จนกว่าข้าจะสั่ง”
เหอซ่างเซี่ยนถลาเข้าหาหวาเซียงอ๋องที่ล้มทั้งยืนด้วยเสียเลือดมาก เลือดสดๆไหลนองพื้นสีแดงฉาน ฟางหลุนกอดอู่หงถิงแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อปลอบใจ เมื่อเห็นว่าใบหน้าบางซีดเผือด
“ท่านอ๋องยังไม่ตายหรอกเจ้าค่ะนายหญิง”ฟางหลุนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอู่หงถิงยืนนิ่งกำลังกังวลใจ“#_#” (ต่อไปนี้จะแทนความรู้สึกของอู่หงถิงเป็นสัญลักษณ์นะคะ)“แต่อาการสาหัสไม่น้อย แต่งเข้าจวนอ๋องไม่ทันไรนายหญิงทำให้ท่านอ๋องเลือดตกยางออกถึงสองครั้งนายหญิงกำลังคิดอะไรอยู่ ฟางหลุนไม่อาจทราบได้ แต่..นายหญิงเจ้าขาท่านอ๋องเป็นสามีนายหญิงไม่อยากแต่ง ตั้งแต่แรกทำไมไม่ปฏิเสธเสีย”“๑_๑”ฟางหลุนคงคิดว่าอู่หงถิงไม่อยากแต่งกับหวาเซียงอ๋อง แต่หารู้ไม่ว่าอู่หงถิงไม่มีสิทธิ์เลือกเพราะอู่หงถิงไม่ใช่เจ้าหรู แล้วที่แน่ๆอู่หงถิงก็ไม่รู้ว่ากวงเจ้าหรูคนนั้นเต็มใจแต่งเข้าจวนอ๋องหรือไม่ตระกูลกวงกวงเจ้าหลัวนั่งบนเก้าอี้หยิบองุ่นในพวงมาเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย“ให้เจ้าหรูกลับมาเยี่ยมข้าที่นี่วันพรุ่งนี้”“ใต้เท้าแม้จะพูดแบบนั้น แต่หวาเซียงอ๋องลงทัณฑ์คุณหนูโดยการกักขังไว้ในห้อง”“หวาเซียงอ๋อง อาการดีขึ้นหรือยัง”ใบหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้าย“ท่านอ๋องฟื้นจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่หมอหลวงยังบอกว่าต้องพักฟื้นอีกหลายวัน”“เจ้าหรู แต่เดิมมิใช่ผู้ที่นิยมใช้กำลัง อาจมีบางอย่างที่ผิดพลาดไป แม้จะไม่เต็มใจแต่งแต่ก็ไม่เคยขัดคำส
ฟางหลุนทั้งลากทั้งดึงอู่หงถิงออกไปหน้าห้องของหวาเซียงอ๋องก่อนจะเปิดประตูผลักร่างเล็กอ้อนแอ้นเข้าไปข้างในยืนนิ่งในห้องกว้าง เช่นไรจะไม่เข้าใจ เข้าใจดีทุกอย่างเขาคิดจะรวบหัวรวบหางอู่หงถิงเป็นเมียเขา ก็ในเมื่อเขาคิดว่าอู่หงถิงคือเจ้าหรูอะไรนั่น ในเมื่อแต่งเข้ามาแล้วก็น่าจะถูกเขาจัดการไปตั้งแต่คืนแรกอู่หงถิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นเขาจึงตีสีหน้าแบบนี้ ไม่แน่อู่หงถิงอาจพลั้งมือทำอะไรเขาไป หรือเจ้าหรูนางอาจทำอะไรสักอย่างให้เขาไม่พอใจ แต่จะอย่างไรก็ช่างใครกันจะสนใจอู่หงถิงไม่ได้หวังให้เขาชอบพอหรือรักอู่หงถิง ตอนนี้ยิ่งจมกับความคิดวนเวียนที่จะช่วยแม่กับน้อง“เจ้าไปเสีย”น้ำเสียงเกรี้ยวกราดคงจะกลัวว่าอยู่ลำพังสองคนอู่หงถิงจะฆ่าเขาอีกเช่นนั้นหรือก้าวขากำลังจะออกไปทว่าประตูกับปิดล็อกจากด้านนอกตกใจไม่น้อยเขย่าประตูอย่างแรง“เรียกสิ เรียกให้เสี่ยวกุนมาเปิดประตูให้หรือไม่ก็ใครก็ได้”อู่หงถิงเขย่าประตูแรงขึ้นกว่าเดิม“หยุดเขย่าเสียที เจ้าคิดจะกลัวข้าก็กลัว ทีเวลาทำไม่คิดกลัวหรือไร ตอนนี้บอกตามตรงข้าเองมิใช่หรือต้องเป็นฝ่ายกลัวว่าเจ้าจะฆ่าข้า เสี่ยวกุน เสี่ยวกุน ใครก็ได้มาเปิดประตูให้นาง”“..
“หวาเซียงอ๋องแต่เดิมก็ไม่เคยมีพวกพ้องอยู่แล้ว หุนหันไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าขุนนาง วันนี้ยังกล้าพูดว่าจะหย่ากับบุตรีของใต้เท้ากวง ขัดบัญชาฝ่าบาท คิดว่า เป็นเรื่องที่สมควรกระทำอีกหรือ”เหอซ่างเซี่ยนคุกเข่าลงกับพื้น“ไทเฮาโปรดอภัย ท่านอ๋องพูดไปเพราะอารมณ์ขุ่นมัว อีกสักพักให้ใจเย็นลงกว่านี้ซ่างเซี่ยนจะช่วยพูดให้”ไทเฮาถอนหายใจ“หย่าไม่ได้ อย่างไรก็หย่ากับกวงเจ้าหรูไม่ได้ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือทำอย่างไรให้คนอื่นเห็นว่าเจ้ากับนางปองดองกันเสียที”ปองดองเขาคงต้องถูกนางฆ่าก่อน“ออกรบมาก็มาก ไม่ว่าศึกเหนือศึกใต้ อีกทั้งยังขุนนางฉ้อฉล มีลับลมคมในแค่ไหนหวาเซียงอ๋องไม่เคยเกรงแต่กลับต้องมายอมแพ้กับหญิงงามอย่ากวงเจ้าหรู”“หลานมองไม่เห็นวิธี คงมีวิธีเดียวที่จะทำได้ คือการหย่ากับนางส่งนางคืนตระกูลกวงเสีย”“ปราบพยศนางง่ายดายเพียงเจ้าคิดไม่ได้เอง ซ่างเซี่ยนอย่าให้ย่าได้ยินว่าเจ้าไม่เคยบอกเรื่องนี้กับหวาเซียงอ๋อง”“เสด็จย่า เซี่ยนเซี่ยนนางมีสิทธิ์ขาดทั้งหมดในจวนอ๋อง”ถอนหายใจ“ภรรยาที่ดีต้องส่งเสริมสามี ซ่างเซี่ยนเรื่องแบบนี้ อย่างบอกว่าเจ้าไม่เคยรู้ หากรู้จงเร่งบอกกับหวาเซียงเอ่อร์เสีย เขาจะได้มีวิธีจ
“ข้าเพียงแค่อยากนั่งอยู่ที่นี่อีกสักพัก”แววตาเศร้าสร้อย ค่ำคืนนี้อีกยาวนานเขาจะข่มตาหลับได้อย่างไรยกสุราขึ้นกระดกจนหมดเหยือกก่อนจะปามันลงกับพื้น“เสี่ยวกุนยกสุรามาอีก”เสี่ยวกุนยกไหสุรามาวางตรงหน้า“ท่านอ๋องท่านมีเรื่องใดเป็นกังวล”โบกมือว่าเขายังอยากจะพูดถึงมัน“ท่านอ่องอาการบาดเจ็บยังไม่หายดี”“ช่างมัน ข้าอยากจะตายไปเสียตอนนี้เลยยิ่งดี”ยกสุราขึ้นดื่ม“ยกไหสุรามาอีกเสี่ยวกุน”เสี่ยวกุนส่ายหน้าไปมา รีบไปยกสุรามาอีก“บางอย่างทิ้งมันไว้ข้างหลังแล้วเดินหน้าต่อจึงจะดี บางอย่างหากจมอยู่กับมันยิ่งทำให้ทดท้อ”ลุกขึ้นจากแท่นนั่งเดินโซเซ เสี่ยวกุนมาพยุงแต่เขากับปัดมือเสี่ยวกุนออกเดินไปที่ห้องของเหอซ่างเซี่ยน เปิดประตูออกยืนนิ่งมองใบหน้างดงามทว่าซีดขาวของเหอซ่างเซี่ยนที่หลับตานอนนิ่ง บางครั้งก็ไอถี่ๆสองสามครั้งบางครั้งก็หอบเหนื่อย หวาเซียงอ๋องสอดกายไปในผ้าห่ม นอนตะแคงกอดร่างบางเย็นชืดไว้แนบอก“ท่านพี่ท่านไปหานางมาแล้วใช่ไหม”หวาเซียงอ๋องพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะกอดรวบร่างบางแนบอกแน่นกว่าเดิม“ข้าไม่ได้ต้องการนาง”เหอซ่างเซี่ยนยิ้ม“ท่านยังไม่ได้ให้นางอุ่นเตียงใช่ไหม ข้านึกแล้วเชียวท่านเอาเข้าจริงก
ดึงมือเหอซ่างเซี่ยนให้ลุกขึ้นประคองแนบอกพาเดินออกไปทั้งๆ ที่เหอซ่างเซี่ยนหันหน้าหันหลังด้วยเป็นห่วงความรู้สึกของอู่หงถิง แต่หากจะมองให้ถ้วนถี่อู่หงถิงไม่ได้สนใจคำพูดมากกว่าอาหารตรงหน้าที่รสชาติดีและมีแต่ของดีดีที่ไม่เคยได้กินมาก่อนดอกไม้นานาพรรณงดงามสองข้างทางเดินที่ปูด้วยก้อนกรวดสีขาวสะอาดตา หวาเซียง กุมมือเหอซ่างเซี่ยนไว้ไม่ห่าง“หวางเฟย หน้าหนาวปีนี้ข้าให้คนสร้างห้องพักให้เจ้าเสียใหม่ มิดชิดอบอุ่นกว่าเดิม อีกทั้งทำเตาพิงไว้ด้านในมีอ่างน้ำอุ่นกับห้องเครื่องเจ้าจะได้ไม่ต้องเดินเข้าออกมาเสวยกับข้าข้างนอกต้องไอเย็น”“ท่านพี่ เช่นนั้นท่านพี่ต้องให้เจ้าหรูมาเสวยด้วยทุกเช้าทุกเย็น จะได้ทำความคุ้นเคยกันไว้”หวาเซียงพยักหน้ายิ้มเศร้าๆ“หากเจ้าพอใจเช่นนั้น ข้าพร้อมจะตามใจเจ้า หากมันทำให้เจ้าสบายใจ”เหอซ่างเซี่ยนกลืนน้ำลายของคอยากเย็น จะสบายใจได้อย่างไรในเมื่อไม่มีหญิงคนไหนอยากให้สามีรักคนอื่นมากกว่า แต่ซ่างเซี่ยนรักหวาเซียงอ๋องเสียจนยอมได้ทุกอย่าง เมื่อคิดว่าวันใดที่เขาจะต้องโดดเดี่ยวลำพังเมื่อซ่างเซี่ยนไม่อยู่แล้ว“ท่านพี่ แค่... มีคนคอยปรนนิบัติและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา เซี่ยนเซี่ยนก็สบายใจ
“นายหญิงของฟางหลุน เสน่ห์แรงไม่เบา”อู่หงถิงส่งภาษามือบอกว่าเขากับอู่หงถิงไม่ได้ทำอะไรกันเสียหน่อย ฟางหลุนอมยิ้ม“แน่นะเจ้าคะ”อู่หงถิงพยักหน้ารัวเร็วค่ำคืนมืดมิดสวมเสื้อคลุมสีดำสนิท เร้นกายออกจากห้องไปยังห้องทำงานของหวาเซียงอ๋อง เปิดประตูอย่างเบามือก่อนจะเร้นกายเข้าไปในนั้น ความมืดทำให้มองไม่เห็นร่างใหญ่ของหวาเซียงอ๋องที่นั่งอยู่ตรงนั้นตรงไปที่หีบไม้ใหญ่ด้านล่างโต๊ะเขียนหนังสือ แต่ร่างบางกับถูกรวบไว้แน่นดิ้นไม่หลุด อู่หงถิงตกใจอย่างที่สุด ลมหายใจร้อนผะผ่าวคลอเคลียที่หลังใบหู ดิ้นรนปัดป้อง“อดใจไม่ไหวถึงกลับตามข้า เข้ามาเชียวหรือ”ยิ้มหยันในหน้าจุดเทียนจนสว่างมองอู่หงถิงที่ดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขน แต่ไร้ประโยชน์“เข้ามาถึงนี่ แต่ดิ้นรนเสแสร้ง”ผลักร่างบางลงไปกองกับพื้น“ออกไปเสีย อย่าได้เข้ามาในนี้อีกเป็นอันขาดข้าไม่มีทางที่จะหลงมารยาเจ้า”ตวาดเสียงดังลั่น อู่หงถิงเม้มริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บกับคำดูถูกนั้น อยากจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าหล่อเหลานั่นดูสักที แต่ในที่สุดก็รีบออกจากห้องไปทันทีกลับไปนั่งหน้าเศร้า อย่างไรจึงจะขโมยหลักฐานสำคัญได้ในเมื่ออุปสรรคใหญ่คือคนผู้นั้น“นายหญิงเป็นอะไรไปเจ้า
“พอเลิกโอ้อวดได้แล้ว”หวาเซียงอ๋อง อดขำกับคำพูดของเสี่ยวกุนไม่ได้ สาวใช้ของเหอซ่างเซี่ยนวิ่งเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า“ท่านอ๋อง พระชายาออกไปตามหาชายรองข้างนอก”“ข้างนอก ชายารองนางไปไหน”“ไม่รู้เจ้าค่ะแต่ฟางหลุนบอกว่า หานางจนทั่วป่านนี้ยังไม่พบคาดว่าจะหนีไปตั้งแต่ กลางดึกเมื่อคืนพระชายาเป็นห่วงและร้อนใจมากจึงออกไปตามนางข้างนอก”หวาเซียงอ๋องก้าวขาออกจากห้องไปทันที เสี่ยวกุนกับกัวเฉาเร่งตามไปติดๆ“หยิบเสื้อคลุมแล้วตามข้ามา อากาศวันนี้เย็นมาก เจ้าให้พระชายาออกไปได้อย่างไร”พูดไปวิ่งไป“พระชายาบอกว่าร้อนใจว่านางจะหนีออกจากจวน จึงเร่งออกตามหาข้าน้อยห้ามก็ไม่ฟัง ไล่ให้ข้าน้อยมาแจ้งข่าวกับท่านอ๋อง”หวาเซียงอ๋องคิดว่าอู๋หงถิงคงน้อยใจเรื่องเมื่อคืนหรืออาจหนีไปหาหวาซงอ๋องชู้รักที่ตำหนักบูรพา“ข้าไปที่ตำหนักบูรพา กัวเฉาไปนอกวังหลวง ส่วนเสี่ยวกุนตามนางที่ตระกูลกวง”ต่างแยกย้ายกันออกไปตำหนักบูรพา“ไม่มีใครจากจวนหวาเซียงอ๋องมาที่นี่แม้แต่คนเดียว หวาเซียงอ๋องทำสิ่งใดหายไปกันแน่”“พี่ใหญ่ ไม่ต้องกังวลคนของข้า ข้าหาเองได้”ยิ้มหยันผุดขึ้นที่ริมฝีปาก “อย่าลืมไปหานางที่ตำหนักจันทราของเจ้ารองด้วยก็แล้วกัน”หว
อากาศหนาวเหน็บจนแทบทนไม่ไหว อู่หงถิงก้าวเดินช้าๆตั้งใจจะวิ่งแต่ด้วยไม่ใส่เสื้อคุลมและถุงมือในที่สุดก็หนาวสั่น จนต้องทิ้งตัวลงบนพื้นหิมะนอนขดตัว เป็นก้อนกลมเหมือนที่เคยทำตอนอยู่กับแม่กับน้องยามเหน็บหนาว กัวเฉาก้าวขายาวๆ ก่อนจะรวบร่างบางเย็นชืดไว้ในอ้อมแขนพาก้าวเดินออกมายกมือสั่นสะท้านขึ้นมาส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยเหอซ่างเซี่ยนทั้งๆที่ตัวเองกำลังจะหมดสติ กัวเฉาได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจภาษามือนั้นดิ้นรนออกจากอ้อมแขนหมายจะพากัวเฉาไปหาเหอซ่างเซี่ยนแต่กัวเฉากลับอุ้มอู่หงถิงไปจากตรงนั้น“กัวเฉา”หวาเซียงอ๋อง ถลาเข้าหากัวเฉาที่อุ้มอู่หงถิง ร่างเย็นชืดหมดสติในอ้อมแขนริมฝีปากและซีดขาวทว่าแก้มแดง ปลายนิ้วมือคล้ำจนเขียว“เจอนางที่ไหน”“ไม่ไกลจากตรงนี้แล้ว เซี่ยนเซี่ยนเล่านางอยู่ที่ไหน”หวาเซียงอ๋อง ไม่แม้แต่จะชายตามองอู่หงถิงถลาเข้าไปในป่า ที่พื้นหิมะหนาเตอะเดินย่ำไปมาตามรอยเท้าของอู่หงถิง จึงพบรอยเท้าอีกรอย มั่นใจในทันทีว่าเป็นของเหอซ่างเซี่ยน“เซี่ยนเซี่ยน”“เซี่ยนเซี่ยน”เงียบไร้ซึ่งสรรพเสียงมีเพียงเสียงลมพัดอื้ออึงก้าวข้าไปมาอย่างเร่งรีบแม้จะหนาวจะเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่สนใจ จนกระทั่งมองเห็นร่างข