“มีเรื่องอะไรอีกหรือคะ” มะลิฉัตรถามพลางมองดูรูปของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ยังคงดูสง่างามและภูมิฐาน แม้ว่าอายุน่าจะล่วงเลยเข้าวัยห้าหรือหกสิบไปแล้ว ‘นี่คงเป็นรูปเจ้าของโรงแรมสินะ!’
“ผมทราบเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ จากคุณสิรัน และก็เปิดดูกล้องมาแล้ว ผมไม่อยากให้พนักงานมีปัญหากันในที่ทำงาน เพราะมันจะทำให้งานพังและเดือดร้อนเพื่อนร่วมงานที่ออกเวรไปแล้ว ต้องกลับเข้ามาทำงานต่อแทนพวกคุณ ฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง ผมจะให้คุณทั้งสองคนมาเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ที่หน้าห้องแทน พวกคุณโอเคไหม?”
ผู้จัดการหนุ่มยื่นข้อเสนอ ตอนนี้พนักงานทั้งบริษัทกำลังลุ้นผลว่าการที่จันจิราออกโรงปกป้องหลานสาว และฉีกหน้าสิรันที่ห้องทำงาน จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวขอยื่นใบลาออกนั้น เขาจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง
“เอ่อ... แต่คุณจิราไล่พวกเราออกแล้วนะคะ” พิมาลาท้วงด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ผมเป็นผู้จัดการ คำสั่งของผมถือเป็นที่สุด โอเค้!” ธีรติยกยิ้มนิดเมื่อจ้องมองสาวแกร่ง ที่คอยปกป้องเพื่อนในเทปบันทึกภาพที่สิรันส่งมาให้อย่างขำๆ ‘ท่าทางตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันลิบเลยนะพิมาลา!’
“อะ... โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะที่ยังให้เราสองคนทำงานต่อ” พิมาลายิ้มกว้างอย่างดีใจ
“เอ่อ... มะลิขอไปทำหน้าที่เมดได้ไหมคะ พอดีคุยกับคุณธาริณีมาเมื่อครู่ เห็นว่ากำลังขาดคนอยู่ค่ะ” มะลิฉัตรเอ่ยขอ
“มะลิ!” พิมาลาหันมามองเพื่อนสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะขอไปเป็นแม่บ้านทำความสะอาดแทนการเป็นผู้ช่วยเลขาฯ
“เราอยากทำน่ะพิ” มะลิฉัตรหันไปบอกเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจัง
“คุณแน่ใจนะ” ธีรติถามย้ำพร้อมกับจ้องสาวตรงหน้าอย่างไม่เชื่อหู ‘อะไรกัน ให้ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม กลับอยากจะเป็นเมดของโรงแรม’
“ค่ะ” มะลิฉัตรพยักหน้ารับยิ้มๆ
“งั้นก็... ตามนั้นครับ!” ธีรติยิ้มกับท่าทางจริงจังของพนักงานสาว
“เอ่อ... แล้วเราต้องย้ายออกจากหอพักไหมคะ” พิมาลารีบถาม
“ไม่ต้องครับ คุณทั้งสองพักต่อเหมือนเดิม” ธีรติหันมายิ้ม ให้หญิงสาวที่ดูสวยหวาน แต่นิสัยกลับห้าวเกินกุลสตรี
“ขอบคุณค่ะผู้จัดการ” สองสาวยกมือไหว้พร้อมกันอย่างดีใจ
“ผมว่าคุณควรจะขอบคุณคุณสิรันมากกว่านะ เพราะเขาทนดู คุณสองคนโดนไล่ออกไม่ได้ เลยยื่นใบลาออกมาให้ผม ยังไงก็ช่วยเอากลับไปคืน แล้วบอกว่าพวกคุณได้ทำงานต่อด้วยนะครับ”
“ค่ะ” สองสาวน้ำตาคลออย่างซาบซึ้ง เมื่อนึกไปถึงสีหน้าของสิรันตอนที่พวกเธอเดินออกจากห้อง
“คุณทั้งสองคนเริ่มงานได้พรุ่งนี้ใช่ไหมครับ” ผู้จัดการหนุ่มถาม
“ค่ะ/ค่ะ” สองสาวตอบพร้อมกับยกมือไหว้ผู้จัดการหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะพากันเอาใบลาออกไปส่งคืนให้กับหัวหน้าแผนกที่เอ็นดูพวกเธอตั้งแต่ตอนที่มาฝึกงาน กระทั่งได้เข้าทำงานต่อหลังจากที่เรียนจบ จนถึงวันนี้ความรู้สึกที่ศรัทธาในตัวของสิรันยังคงอยู่เสมอ
แผนกต้อนรับ... สิรันที่กำลังเก็บของใช้และเอกสารบางอย่าง ลงกล่องเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องที่เป็นกระจกใส ก็เห็นสองสาวยืนน้ำตาคลอหน่วยอยู่ พลันก็ทำให้รู้สึกจุกที่หน้าอกขึ้นมาอีกครั้ง
“ลืมอะไรเหรอ?” สิรันถามพลางฝืนส่งยิ้มบางๆ ไปให้
“หัวหน้า... ฮือๆๆ” มะลิฉัตรกับพิมาลาโผเข้ากอดหัวหน้าของ พวกเธอ พร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไม่อยู่
“อะไรกัน พวกเธอร้องไห้ทำไมกันเนี่ย” สิรันถามขณะที่น้ำตาของตัวเองก็ไหลอาบแก้มไม่แพ้สองสาว
“ผะ... ผู้จัดการฝากใบนี้มาคืนค่ะ” มะลิฉัตรบอกพลางส่งกระดาษแผ่นสีขาวให้
‘บ้าจริง! เด็กสองคนนี้รู้เรื่องลาออกงั้นเหรอ’ สิรันถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
“หนูได้ย้ายไปเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ค่ะหัวหน้า” พิมาลารีบบอก
“จริงเหรอ!” สิรันยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง แล้วหันมายิ้มให้อย่างดีใจแทน
“จริงค่ะ” พิมาลาพยักหน้ารับทั้งน้ำตา
“แล้วมะลิล่ะ? ได้ทำเหมือนกันใช่ไหม?”
“ค่ะ แต่หนูขอย้ายไปเป็นเมดทำความสะอาดห้องพักค่ะ” มะลิฉัตรบอกก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง
“ทำไมเหรอ? เกิดอะไรขึ้นมะลิ?” สิรันถามต่ออย่างสงสัย
“พอดีได้คุยกับคุณธาริณีตอนที่นั่งอยู่ฝ่ายบุคคล เลยสนใจอยากจะลองทำดูค่ะ” มะลิฉัตรบอกให้อีกฝ่ายคลายกังวล
“คุณณีใจดีจ้ะ ฉันขอให้เธอสองคนตั้งใจทำงานให้เต็มที่นะ”
“ขอบคุณค่ะหัวหน้า ขอบคุณทุกๆ อย่าง ขอบคุณที่ช่วยพวกหนูค่ะ ฮึก!” มะลิฉัตรบอกพลางน้ำตาไหลทะลักขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้ช่วยหรือเข้าข้างใคร แต่ฉันแค่ทำในสิ่งที่ฉันควรทำเท่านั้น เอาละ! ไปล้างหน้าล้างตาแล้วไปเตรียมตัวสำหรับงานใหม่พรุ่งนี้เถอะ” สิรันบอกพลางหันไปหยิบกระดาษทิชชูส่งให้สองสาว
“ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรกับพิมาลาเอ่ยก่อนจะรับมาซับน้ำตา ที่ยังคงไหลอยู่
“อ้อ! แล้วเดือนนี้จะกลับบ้านที่ชลบุรีไหม?” สิรันรีบเปลี่ยนเรื่อง
“กลับค่ะ” สองสาวพยักหน้ายิ้มๆ
“ก่อนกลับแวะมาเอาของฝากหน่อยนะ พอดีญาติๆ ของฉันเขาจะฝากขนมกับของใช้ไปให้เด็กๆ น่ะจ้ะ”
“ค่ะหัวหน้า” พิมาลาบอกเสียงสั่น
“ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรยกมือขึ้นไหว้หัวหน้า ที่แม้บางครั้งในเรื่องงานสิรันจะเนี้ยบทุกๆ อย่างตามขั้นตอน แต่อีกฝ่ายไม่เคยพูดจาค่อนขอด หรือบั่นทอนกำลังใจในการทำงานเลยสักครั้ง
“พวกเธอสองคนเป็นเด็กดี ฉันภาวนาให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับพวกเธอ” สิรันบอกพร้อมกับยกมือขึ้นปาดน้ำที่ไหลรินจากหางตาทิ้ง
“ขอให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับหัวหน้าและครอบครัวเช่นกันค่ะ” พิมาลาบอกก่อนจะเข้าไปกอด
“หนูรักหัวหน้านะคะ” มะลิฉัตรโผเข้ากอดตามเพื่อน
สิรันยิ้มให้เด็กสาวทั้งสองและพูดคุยต่ออีกครู่ ก็ขอตัวออกไปดูแลความเรียบร้อยของงานที่ล็อบบี
สองเดือนต่อมา... หอพักของพนักงานหญิง
ติ๊ดๆๆ
เสียงมือถือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร่างบางอ้อนแอ้นในชุดเมดของโรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์ ที่กำลังเดินลงบันใดของหอพักหญิงต้องหยุดชะงัก! แล้วหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดู
ทันทีที่เห็นสายเรียกเข้าของหัวหน้าแผนก เธอจึงรีบกดรับพลางก้มมองนาฬิกาที่ข้อมืออย่างสงสัย เพราะยังไม่ถึงเวลาเข้างาน
“สวัสดีค่ะหัวหน้า”
“มะลิ! อยู่ไหน?” ธาริณีเอ่ยถามด้วยเสียงลนๆ
“กำลังออกจากหอพักค่ะ” มะลิฉัตรตอบ
“เธอรีบขึ้นไปทำความสะอาดที่ห้องบนสุดของโรงแรมด่วนเลยนะ!” ปลายสายบอก
“ห้องบนสุดเหรอคะ?” หญิงสาวถามย้ำอย่างไม่มั่นใจ เพราะชั้นบนสุดคือชั้นต้องห้ามสำหรับพนักงานทุกคน เว้นแต่ธาริณีกับธีรติเท่านั้นที่จะสามารถขึ้นไปได้
“ใช่! ทำความสะอาดห้องนอนทางปีกขวาก่อนเลยนะ ฉันกำลังจะไปถึงที่ทำงานในสามสิบนาที!”
“เอ่อ... แต่ว่า...”
“รีบไปทำตามที่บอก! อ้อ! แล้วรหัสที่หน้าห้องคือ XXXX นะ!” ธาริณีบอกก่อนจะกดวางสาย
มะลิฉัตรยืนนิ่งอยู่สามวินาที! ก่อนจะเก็บมือถือใส่กระเป๋า แล้วก้าวเท้าออกวิ่งไปยังโรงแรมที่อยู่ถัดไปอีกหนึ่งช่วงตึก ด้วยสีหน้าตื่นๆ
‘ใครจะมากันนะ?’ คนที่ไม่เคยเจอเจ้าของโรงแรมมาก่อน แอบนึกไปถึงชายวัยหกสิบกับหญิงวัยห้าสิบกว่าที่อยู่ในรูปบนผนังห้องของผู้จัดการขึ้นมาทันใด
โรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ลอนดอน เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีทั้งโรงแรมหรูในหลายสิบประเทศทั่วโลก รวมถึงสายการบินโรคาซานเดอร์แอร์ไลน์ และอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย ที่ดูแลบริหารงานโดยหัวเรือใหญ่อย่าง เลโอนาดท์ โรคาซานเดอร์ ชายหนุ่มที่ถูกจัดอันดับให้เป็นหนุ่มฮ็อตหล่อรวยแห่งปี
ไม่เขาว่าจะขยับตัวไปทางไหน ก็มีสาวข้างกายไม่ว่างเว้น ทั้งดารานางแบบที่ผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันมาเป็นของเล่นชั่วคราวไม่หยุดหย่อน แต่ทว่าเขากลับไม่เคยให้สาวคนไหนได้อยู่เคียงข้างกายข้ามคืนเลยสักครั้ง!
ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย หันออกไปนอกหน้าต่างของเครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่ เพื่อมองดูแสงแรกของวันใหม่ตรงเส้นตัดของขอบฟ้าแสงสีส้มอ่อนและเข้มสลับกัน ท่ามกลางหมู่เมฆบนท้องฟ้ากว้าง
จากความมืดมิดที่เยือกเย็นแปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่น และค่อยๆ ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็อ่อนแสงลงแล้วกลับกลายเป็นความอ่อนโยน ก่อนจะเข้าสู่ความมืดมิดของค่ำคืนที่เยือกเย็นและเงียบสงบ ทุกอย่างวนเวียนซ้ำๆ ไปมาเหมือนเช่นเคย
“บอสครับ! เครื่องกำลังจะลงจอดในอีกยี่สิบนาทีครับ!” เจซีมือขวาคนสนิทที่เพิ่งเดินออกจากห้องนักบิน รีบตรงมารายงานผู้เป็นนาย
เลโอนาดท์พยักหน้ารับก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา จากนั้นก็หันไปดึงเข็มขัดที่ด้านข้างขึ้นมารัด ในขณะที่นักบินกำลังลดระดับการบินลงสู่รันเวย์
Rocasander Grand Hotelมะลิฉัตรวิ่งเข้าประตูด้านหลังของโรงแรมดั่งเช่นทุกครั้ง ก่อนจะตรงไปที่ลิฟต์และกดขึ้นไปยังชั้นบนสุดอย่างเร่งรีบติ๊ง!ทันทีที่มาถึงยังสถานที่ต้องห้าม เธอก็ตรงไปยังประตูบานใหญ่ พร้อมกับกดรหัสที่ธาริณีบอกลงยังแป้นพิมพ์ และเพียงเสี้ยวนาทีที่ประตูบานใหญ่เปิดออก เธอถึงกับอึ้งและตกตะลึงในความงดงามภายในห้อง ที่ตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิก โดยผสมผสานความหรูหราเอาไว้ได้อย่างลงตัว ในแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน“ว้าว! อย่างกับสวรรค์แน่ะ!” เมดสาวอุทานออกมาราวกับคนกำลังละเมอ ขณะที่เดินไปยังห้องนอนใหญ่ทางด้านปีกขวาตามที่หัวหน้าแผนกได้บอกเอาไว้ ด้วยหัวใจสั่นๆ“แม่เจ้า! เตียงใหญ่ขนาดนี้ คนหรือว่ายักษ์นอนกันนะ!” เธอเอ่ยเสียงดังอย่างตื่นเต้น ก่อนจะหลับตาแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง อย่างหลงลืมตัวไปชั่วขณะ“กรี๊ดดดด” หญิงสาวถูไถใบหน้าไปมากับที่นอนแสนนุ่ม ก่อนจะหัวเราะคิกคักออกมาอย่างชอบใจ กับความยืดหยุ่นที่ทำให้ตัวของเธอเด้งไปมาเหมือนได้เล่นสไลเดอร์ของเด็กๆเอี๊ยดดดดดเสียงเบรกรถที่ดังอยู่ด้านหน้าของโรงแรม ทำให้พนักงานต่างพากันหันมามองตามเสียงกันเป็นแถว“เอารถไปเก็บเร็ว!” ธีรติบอกก่อนจะ
“พูดบ้าอะไรมะลิ! นี่คุณเลโอนาดท์ โรคาซานเดอร์ เจ้าของโรงแรมนี้นะ!” ธาริณีสะบัดแขนจากการจับกุมของเด็กสาว แล้วรีบเดินเข้าไปหาบอสใหญ่ที่กำลังยันตัวลุกขึ้น“จะ... เจ้าของโรงแรม” มะลิฉัตรอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง! รู้สึกตัวชาวาบตั้งแต่ศีรษะยันปลายเท้าขึ้นมาทันใด“ใช่! แล้วนี่ก็ห้องพักของฉัน” เลโอนาดท์เสริมต่อด้วยน้ำเสียงเข้มๆ พลางจ้องมองใบหน้างามที่ซีดลงไปถนัดตาอย่างรู้สึกสะใจขึ้นมานิดๆ“เอ่อ... คือว่า... คือว่า...” สาวเจ้าอึกอักขึ้นมาทันใด“ณีกราบขอโทษท่านด้วยนะคะ ที่เด็กใหม่ เอ่อ... เสียมารยาท”ธาริณีรีบขอโทษอย่างร้อนใจ!“หึ! แต่เมื่อกี้ตอนที่ผมเข้ามา ผมเห็นเธอกำลังกระ... โดด”“ทะ... ทำความสะอาดค่ะ คือไอ้สิง เอ๊ย! ท่าน ขะ... เข้ามาตอน ที่มะลิกำลังทำความสะอาดน่ะค่ะ” มะลิฉัตรรีบแก้ตัว ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มด้วยสายตาวิงวอน!“พระเจ้า! เมื่อกี้เธอกำลังทำความสะอาดอยู่อย่างนั้นเหรอ?”เลโอนาดท์เดาอาการของสาวเจ้าอย่างรู้ทันว่าอีกฝ่ายคงกลัวหัวหน้าจะรู้เรื่องที่ขึ้นไปกระโดดเล่นเหยงๆ บนเตียง“ชะ... ใช่ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยรับเสียงสั่น“ปกติคุณทำความสะอาดที่นี่แค่คนเดียวไม่ใช่เหรอธาริณี!” เลโอนาดท์หันไปถามคน
“เธอนั่นแหละที่พูดไม่รู้เรื่อง! อยากให้ฉันใช้ภาษากายสื่อสารแทนไหมล่ะ บางทีมันอาจจะทำให้เธอเข้าใจอะไรๆ ง่ายขึ้น!”“ไม่มีทางเด็ดขาด อ๊ะ! ปล่อยนะไอ้คนบ้า” มะลิฉัตรกรีดร้อง เสียงหลงเพราะถูกคนปากว่ามือถึงรวบตัวแล้วอุ้มลอยขึ้น“เธอมีปัญหากับการสื่อสารนะรู้ตัวไหม?” เลโอนาดท์เอ่ยก่อน จะอุ้มสาวเจ้าเดินตรงไปยังอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่“ปล่อยเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นคุณเจ็บตัวแน่ๆ” มะลิฉัตรโกรธจนหน้าแดงก่ำที่ถูกลวนลาม ‘หึ! เจ้าของโรงแรมก็เจ้าของโรงแรมเถอะวะ ตายเป็นตาย!’ หญิงสาวเตรียมท่าพร้อมจะสู้“หึ! เธอจะทำอะไรฉันเหรอ” เลโอนาดท์ยิ้มยั่วอย่างนึกสนุก“ก็จะทำแบบนี้ไง” เธอบอกพร้อมกับฝังฟันซี่เล็กๆ ลงที่ต้นคอของอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้า“อ๊ากกกกกก” เลโอนาดท์ร้องลั่น เจ็บจนเนื้อเต้น แต่ก็ยังอุ้มสาวเจ้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเมดสาวถอนฟันซี่เล็กออกจากต้นคอหนา มองดูสิงโตหนุ่มแหกปากร้องคำรามอย่างสะใจ “ฉันเตือนคุณแล้วนะ”“หึ! กลัวตายละ” เลโอนาดท์กะพริบตาไล่หยดน้ำที่ปริ่มๆ ดวงตา ก่อนจะอุ้มสาวเจ้าเดินตรงไปยังอ่างอาบน้ำอย่างรวดเร็ว“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ! นี่คุณอยากเจ็บตัวอีกใช่ไหม?” เธอเริ่มกลัวขึ้นมานิดๆ หลังจากที่เห็นอีกฝ่าย
ฟองสบู่ที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้บดบังขีปนาวุธขนาดเขื่องที่กำลังพร้อมรบเอาไว้ได้ เลโอนาดท์รีบจัดระเบียบช่วงล่างให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะหันไปบอกเมดสาว“หันมาได้”“เอ่อ... มะลิขอไปใส่เสื้อก่อนได้ไหมคะ” คนที่เหลือแต่บราและกระโปรงตัวเดียวบอกอย่างรู้สึกอาย กลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ้าเล่ห์แอบหันมามองหน้าอกของเธอ“ไม่ต้อง! ฉันนั่งเครื่องมานาน ฉันอยากอาบน้ำ ทานข้าว แล้วก็นอนพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องเข้าประชุมใหญ่ และถ้าเธอยังประวิงเวลาออกไปเรื่อยๆ บางทีฉันอาจจะเปลี่ยนใจแล้วทำเหมือนเมื่อกี้กับเธออีก! และครั้งนี้มันคงจะหยุดไม่ได้ เข้าใจใช่ไหม?” เลโอนาดท์เอ่ยเตือนคนที่ทำท่าจะยึกยัก ขณะเดียวกันก็แอบท้วงตัวเองในใจอย่างหงุดหงิด‘นี่เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่อยากให้ยัยนี่อาบน้ำและสระผมให้’“ขะ... เข้าใจแล้วค่ะ” มะลิฉัตรตอบก่อนจะค่อยๆ หันกลับ ก็เห็นแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นของอีกฝ่ายชัดๆ‘พระเจ้า! คนหรือยักษ์เนี่ย’“รีบลงมือเร็วๆ สิ! เดี๋ยวเธอยังต้องทำอาหารให้ฉันทานอีก” คนที่เพิ่งจะข่มอารมณ์หื่นให้สงบ ต่อว่าด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“ค่ะท่าน” มะลิฉัตรเอ่ยรับเบาๆ อย่างทำใจ“หึ! เรียกท่านได้แล้
พรึ่บ!“กรี๊ดดดดดด” เมดสาวกรีดร้องขึ้นสุดเสียงเมื่อรู้ว่ากระโปรงของเธอลงไปกองที่ผิวน้ำ จึงหันกลับไปตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้าเพียะ!เลโอนาดท์ที่หน้าหันไปตามแรงตบ ค่อยๆ หันกลับมามองหญิงสาวด้วยสายตาแดงก่ำ ขณะที่รอยนิ้วแดงๆ เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาจางๆ“พระเจ้า! ฉันเตือนเธอแล้วนะ!”“ไปตายซะไอ้คนสารเลว! อ๊ะ... อื้อ...” เธอตะโกนด่ายังไม่ทันขาดคำก็ถูกสิงโตหื่นบดขยี้จูบที่เร่าร้อนและเนิ่นนานเข้าอีกครั้ง‘เธอไม่น่าไว้ใจคนอย่างเขาเลย’ มะลิฉัตรต่อว่าตัวเอง ขณะที่ฝ่ามือหนาๆ ลูบไล้ไปทั่วทุกสัดส่วนอย่างถือดีเลโอนาดท์อุ้มสาวเจ้าลอยขึ้น แล้วรีบเดินตรงไปยังเตียงขนาด คิงไซส์ที่อยู่ด้านนอก“ฮึก! คะ... คุณจะทำอะไรฉัน”เธอเอ่ยทั้งน้ำตา เมื่อร่างหนาวางเธอลงบนเตียง แล้วตามขึ้นมาทาบทับไม่ให้เธอขยับดิ้นหนีไปไหนได้“ก็ทำให้เธอเลิกดื้อยังไงล่ะ!” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับดึงบรา ที่โอบอุ้มดอกบัวงามออก“อ๊ะ! กรี๊ดดดดด” เมดสาวร้องเสียงดัง เมื่อริมฝีปากหนาสัมผัสลงยังปลายถันและดูดกลืนราวกับคนที่หิวกระหาย“อื้อ...” เลโอนาดท์ครางอย่างขัดใจเมื่อข้อมือบางพยายามจะผลักใบหน้าของตนออก“ฮือๆๆ ฉะ... ฉันจะ
“งั้นไปหาแหวนมาคุกเข่าขอฉันแต่งงานสิ! บางทีฉันอาจจะยอมคุณ!” มะลิฉัตรบอกข้อแลกเปลี่ยนที่ไม่มีทางเป็นไปได้“หึ! ฉันให้สิบล้านค่าตัวเธอ” เลโอนาดท์ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับจ้องมองสาวตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว“คนอย่างคุณคงไม่มีทางรู้จักคำว่ารักหรอก! รู้อะไรไหม? ต่อให้คนที่คุกเข่าขอฉันแต่งงาน จะเป็นแค่ยามหน้าโรงแรม เงินเดือนแค่หมื่นกว่าๆ ฉันก็ยินดีจะแต่งกับเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีแหวนแต่งงานมาขอก็ตาม”มะลิฉัตรเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด เมื่อถูกอีกฝ่ายประเมินค่าเป็นเงินตรา“ฉันไม่ใช่ยาม โอเค้! และฉันสามารถซื้อแหวนเพชรเป็นร้อยๆ วงให้เธอได้” เลโอนาดท์บอกต่ออย่างหน้ามึน ‘พระเจ้า! ให้ขนาดนี้ยังไม่พอเหรอวะ’“นี่ฉันอธิบายไม่ชัดตรงไหน! มันไม่ได้เกี่ยวกับแหวน แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกต่างหาก! ให้ตายสิ! คุณเคยรักผู้หญิงสักคนไหม”“ไม่! ไม่เคยถามชื่อเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าพวกเธออายุเท่าไหร่ อยู่ประเทศไหน แค่เซ็กส์ร้อนๆ แล้วจบที่ค่าตัว!” เลโอนาดท์บอกด้วยท่าทีสบายๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยมาตลอดชีวิต“งั้นคุณก็ไปเรียกหาพวกเธอสิ! จะมายุ่งกับพนักงานทำความสะอาดอย่างฉั
“มะลิเดี๋ยว! หยุดก่อน มะลิ!” เลโอนาดท์ตะโกนบอกคนที่วิ่งหน้าตั้งให้หยุด“กรี๊ดดด อย่าตามนะไอ้โรคจิต”เมดสาววิ่งเร็วขึ้นทันทีที่เห็นอีกฝ่ายวิ่งตาม อารมณ์และสถานการณ์ต่างๆ มันดูคล้ายกับเหยื่อสาวบริสุทธิ์ที่กำลังวิ่งหนีฆาตกรโรคจิตอย่างไรอย่างนั้น“ให้ตายเถอะ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” สิงโตหนุ่มเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น“ฉะ... ฉันลาออก! ฉะ... ฉันจะไม่ทำงานที่นี่อีกแล้ว” สาวเจ้าวิ่งไปตะโกนไปอย่างเริ่มจะสับสนว่าประตูทางออกอยู่ตรงไหน เพราะเธอวิ่งวนกลับมาที่หน้าห้องของอีกฝ่ายเป็นรอบที่สองแล้ว“ใจเย็นๆ สิ ฉันก็แค่ปลดปล่อยความต้องการที่อัดอั้นและค้างคามาจากเธอ ก็แค่นั้น!” ลีโอนาดท์บอกหลังจากที่คว้าร่างบางเข้ากอดไว้ได้“อ๊ะ ปล่อยฉันนะ!” สาวเจ้าร้องเสียงหลงเมื่อถูกจับได้“เราต้องคุยกัน” เขาบอกเสียงจริงจัง พร้อมกับหมุนร่างบางให้ หันมาเผชิญหน้า“กะ... ก็เรื่องของคุณสิ! แต่ฉันกลัว ฉันรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้คะ... คุณทำให้ฉันสติแตก”“เธอก็ทำฉันส
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” มะลิฉัตรหน้าแดงขึ้นมาทันใด เมื่ออยู่ๆ ภาพของเธอกับเขาที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง ก็ผุดขึ้นมาให้ระลึกถึงอีกครั้ง!“ฮ่าๆๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะอย่างขบขันกับท่าทางของสาวเจ้า‘ให้ตายสิ! เขาไม่เคยอยู่กับผู้หญิงคนไหนแล้วมีความสุขขนาดนี้มาก่อน!’“คุณสนุกนักหรือไงที่ได้แกล้งฉันน่ะ ฮึก!” มะลิฉัตรต่อว่าทั้งน้ำตา“เฮ้! ฉันแค่หยอกเล่นเฉยๆ” คนที่กำลังหัวเราะถึงกับหยุดชะงักไปทันทีทันใดที่เห็นสาวเจ้ามีน้ำตา“แล้วคุณเห็นฉันหัวเราะไหม! ฮือๆๆ” เธอปล่อยโฮออกมาเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่เลโอนาดท์รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ‘พระเจ้า! เขารู้สึกเหมือนตัวเอง เป็นเด็กเกเร ที่ชอบกลั่นแกล้งเด็กผู้หญิงให้ร้องไห้ยังไงยังงั้น!’“มะ... มะลิ เงียบก่อน ฉะ... ฉันขอโทษ”“ฮึก! คุณเห็นฉันเป็นคนที่ต้อยต่ำกว่า คุณจึงคิดว่าจะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ คุณมันไอ้คน...” เมดสาวจับมีดหั่นสเต๊กเอาไว้มั่น“เฮ้! ใจเย็นๆ มะลิ! อย่าเล่นมีดสิ” เลโอนาดท์รีบดึงมีดในมือของสาวเจ้ามาเก็บ เพราะเธอทำท่าเหมือนจะลุกขึ้น แล้วเอามันมาเสียบที่ไหนสักแห่งบนตัวเขา“ฮือๆๆ