วันต่อมา เวลา 10:27 น. Rocasander Grand Hotel
ที่ห้องรับรองของโรงแรมหนาแน่นไปด้วยนักข่าวจากหลากหลายสำนัก ที่มารอทำข่าวของหัวเรือใหญ่ โรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น คนปัจจุบัน ที่เป็นข่าวฮ็อตหน้าหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน
“ได้ข่าวว่าครอบครัวของคุณเลโอนาดท์ กับครอบครัวของคุณโดมินิกเดินทางมาถึงไทยเมื่อวานใช่ไหมครับ” นักข่าวเปิดคำถามแรกอย่างไม่รอช้า
“ครับ! พวกท่านเดินทางมาสู่ขอเจ้าสาวให้กับโดมินิก” เลโอนาดท์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“คุณโดมินิกกับคุณพราวดารามีกำหนดจะหมั้นหมายกัน ในอีกห้าวันข้างหน้าใช่ไหมครับ?”
“ครับ! ที่เชียงใหม่ โรงแรมเอื้องลานนา”
“แล้วคุณเลโอนาดท์ล่ะครับ ใกล้จะมีข่าวดีหรือยัง?”
“ก็น่าจะไล่ๆ กันครับ” เลโอนาดท์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“พอจะเปิดเผยได้ไหมครับว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใคร ใช่นางเอกดังหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ใช่ครับ!”
“แต่จากรูปที่เห็นวันก่อนในไนต์คลับ ทำให้ใครๆ ต่างคิดว่าคุณเลโอนาดท์กับคุณเชอร์รี่กำลังคบกันอยู่นะครับ”
“เธอเข้ามานั่งคุยกับผมครับ มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาทีก่อนที่ผมจะลุกออกไป”
<“เอ่อ... เรื่องนี้ดิฉันไม่ทราบค่ะ ยังรอมะลิติดต่อกลับมาบอกเช่นกัน” จันทร์ฉายบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ“ทำไมถึงเกิดเรื่องบ้าๆ แบบขึ้นได้ฮะ” เมลิซ่าหันไปเล่นงานบุตรชาย“ผมทะเลาะกับมะลิก็เลยลงไปนั่งดื่มที่คลับชั้นล่างของโรงแรม แล้วอยู่ๆ นางแบบนั่นก็เข้ามานั่งด้วย” เลโอนาดท์ถอนหายใจอย่างเพลียๆ เมื่อถูกซักไซ้ถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นอีกครั้ง“แล้ว...” เมลิซ่าเลิกคิ้วถามอย่างต้องการรายละเอียด“แล้วผมก็ลุกเดินหนีขึ้นไปที่ชั้นบนไงครับ” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ หลังจากถูกมารดาถามเหมือนกับคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน“ตอนนั้นหนูมะลิอยู่ที่ไหน?” เอเดนถามอย่างสงสัย“ที่ห้องนอนของผมครับ”“แล้วเธอหายไปได้ยังไงโดยที่ลูกไม่รู้” เมลิซ่ายิงคำถามต่อ“โธ่! นี่มัมไม่เชื่อใจผมใช่ไหม ถึงถามเหมือนจับผิดผมแบบนี้น่ะ” เลโอนาดท์ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ“แม่ไม่ได้จับผิด แต่อยากจะรู้ทุกๆ อย่าง คุณจันทร์เองก็คงอยากจะรู้ใช่ไหมคะ?” เมลิซ่าบอกพลางหันไปขอความเห็นจากอีกฝ่าย“เอ่อ... ค่ะ” จันทร์ฉายตอบไม่เต็มเสียง“งั้นฟังนี่แล้วช่วยตัดสินผมใหม่ด้วยนะ
Bangkok 14:30 น. Rocasander Grand Hotel...หลังจากที่ลงเครื่องเสร็จโดมินิกก็พาพราวดาราตรงไปยังโรงแรมของเพื่อนรัก เพื่อเอาของสำคัญที่เก็บไว้ในเซฟห้องนอนตนเลโอนาดท์ที่เพิ่งกลับจากชลบุรีมาถึงโรงแรมทันได้เห็นหลังของเพื่อนรักไวๆ จึงรีบวิ่งตาม“ซาเก้! ซาเก้!”โดมินิกที่กำลังรอลิฟต์หันไปมองตามเสียง “อ้าว! ลีโอ”“นายมาเมื่อไหร่?” เลโอนาดท์ถาม“เพิ่งมาถึง! จะพาพราวมาเปิดตัวคืนนี้ พรุ่งนี้จะพาไปลองชุดไทย ที่ห้องเสื้อ” โดมินิกบอกพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามาแนบกาย“สวัสดีครับคุณพราว” เลโอนาดท์เอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มๆ“สะ... สวัสดีค่ะ” พราวดารายกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย ทำหน้าไม่ถูกเมื่อนึกไปถึงวันแรกที่เจอกับเขาที่โรงแรมเอื้องลานนา“ยินดีด้วยนะครับ” เลโอนาดท์บอก“เอ่อ... ค่ะ” พราวดาราเอ่ยรับไม่เต็มเสียง“ฉันว่าจะไปตามหามะลิที่เชียงใหม่น่ะ” เลโอนาดท์หันไปบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มตึงนิดๆ“ผู้หญิงคนนั้น?” โดมินิกถามพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด“ใช่! เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าววันนั้น” เลโอนาดท์ตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“เห็นแต่ข้างหลังเนี่ยนะ?” เจซีว่าก่อนจะก้มลงมองมือถือต่ออย่างไม่สนใจ“สวยมากจริงๆ นะพี่ เสียดายที่บอสไม่มาด้วย แหม! อยากให้ได้เห็นจริงๆ”“มึงก็ถ่ายรูปพวกเธอส่งไปให้บอสสิวะ!” เจซีบอกอย่างเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมานิดๆ“เป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยพี่” จอห์นบอกก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋าขึ้นมาเตรียมเก็บภาพของสองสาว“ฮ่าๆๆ เอาที่มึงสบายใจนะ กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” เจซีส่ายหน้าอย่างเพลียๆ กับท่าทางซื่อแกมโง่ของลูกน้อง ‘หึ! ลองส่งไปดูสิ!เดี๋ยวมึงจะรู้สึก’“เดินดีๆ นะพี่” จอห์นตะโกนตาม ก่อนจะหันมาสนใจสองสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เพื่อดักรอถ่ายรูปส่งให้ผู้เป็นนายดูสิบนาทีต่อมา... ขณะที่เจซีเดินออกจากห้องน้ำมาได้เพียงสองก้าว มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้น เขาจึงล้วงมันออกมาดู ก็เห็นสายของผู้เป็นนายโทร. เข้า จึงรีบเดินแกมวิ่งออกไปที่ด้านนอกร้าน เพื่อกดรับสาย“แกอยู่ไหน?” เลโอนาดท์ถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ“อยู่ที่หน้าร้านครับ!” เจซีบอก“ผู้หญิงที่ไอ้จอห์นมันถ่ายรูปส่งมาคือมะลิ! แกเฝ้าเธอให้ดีๆ จนกว่าฉันจะไปถึง!” เลโอนาดท์บอ
“โอเค! นายไปพักเถอะ” คนที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืนบอกเสียงเรียบๆ“บอสก็พักบ้างนะครับ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานเราจะต้องเจอคุณมะลิ” เจซีบอกอย่างรู้สึกเป็นห่วง“อืม!” เลโอนาดท์ตอบก่อนจะลุกเดินกลับเข้าไปในห้องนอนด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเวลา 09:40 น. อรินขับรถกระบะพามะลิฉัตรออกเดินทางขึ้นดอยด้วยกันแต่เช้า ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงบ้านบนดอยที่มะลิฉัตรเคยมาพักเมื่อปีก่อนกับพิมาลา“ว้าว! ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ” มะลิฉัตรมองไปรอบๆ ก่อนจะยิ้มกว้างที่เห็นมารดาของเพื่อนเดินออกมาต้อนรับ“ห้องเดิมที่เธอพักก็ยังว่างจ้า” อรินหันมาบอกยิ้มๆ“มากันแล้วเหรอสาวๆ” วลีเอ่ยทักทาย สีหน้าตื่นเต้นระคนดีใจ“สวัสดีค่ะคุณแม่ สบายดีไหมคะ” มะลิฉัตรลงจากรถพร้อมกับ ยกมือไหว้ผู้ใหญ่“สบายดีจ้ะมะลิ แล้วหนูพิไม่ด้วยเหรอ?” วลีถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่สวยขึ้นกว่าครั้งก่อนที่เจอ“พิติดงานค่ะเลยอดมาเที่ยว แล้วคุณพ่อล่ะคะ อยู่ไหม?” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่อง“พ่อเขาไปประชุมที่กรุงเทพฯ อีกสองวันถึงจะกลับจ้ะ” วลีบอก“ว้า! อดเจอคุณพ่อเลย” มะลิฉัตรบอกอย่างเสียดาย“แม่ทำอะไรกินเหรอ?” อรินถามเพราะรู้สึกหิวขึ้นมานิดๆ“เข้าไปดูเองดีกว่า
(ลีโอ) เลโอนาดท์ โรคาซานเดอร์ หนุ่มหล่อเลือดผสมอิตาลี ตุรกี รัสเซีย และไทย เขาเป็นชายหนุ่มที่ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ของโลก ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานใหญ่ ผู้กุมบังเหียนของโรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ลอนดอน ด้วยวัยเพียง 36 ปี สืบทอดตำแหน่งจากผู้เป็นบิดา ‘เอเดน’ ที่วางมือแล้วไปใช้ชีวิตอยู่อิตาลีกับภรรยา ‘เมลิซ่า’ (มารดาของเลโอนาดท์)เขาถูกจัดอันดับให้เป็นหนุ่มฮ็อตที่หล่อรวยแห่งปี ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหน ก็มีสาวข้างกายไม่ว่างเว้น ทั้งดารานางแบบที่ผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันมาเป็นของเล่นชั่วคราวไม่หยุดหย่อน แต่เลโอนาดท์ก็ไม่เคยให้สาวคนไหนอยู่เคียงข้างกายข้ามคืนเลยสักครั้ง! เพราะสำหรับเขาแล้ว พวกเธอไม่มีค่าพอที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อมองแสงอาทิตย์ของวันใหม่ พร้อมกันกับเขา!เธอก็แค่ผู้หญิงที่ต้อยต่ำ! มิอาจเทียบกับความสูงศักดิ์ ในชาติตระกูล และความร่ำรวยของเขาได้แม้แต่นิด แต่ไยถึงได้ปฏิเสธที่จะเป็นของเขา ยิ่งเธอดิ้นหนีและหวาดกลัว มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะขย้ำและกลืนกิน กลิ่นสาปของเด็กสาว...ที่บริสุทธิ์ มันช่างหอมหวานและเย้ายวนใจ จนทำให้เขาแทบคลั่ง แล้วแบบนี้จะให้เขาปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ?
“โธ่! นึกว่าจะแน่” สายไหมยิ้มเหยียดๆ ใส่สองสาว ทั้งที่ในใจก็กลัวว่าพิมาลาจะเอากาแฟสาดใส่ตนกับเพื่อน“แกอยู่ยากแล้วนังมะลิ ระวังตัวให้ดีๆ” กุ๊กไก่บอกพร้อมกับชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ“เป็นแค่เด็กกำพร้าน่ะ! หัดเจียมตัวเอาไว้ซะบ้างสิ คุณคเชนทร์เขาคงไม่บ้าเอาเธอไปเป็นคุณนายผู้กำกับฯ หรอก หึ!”สายไหมรีบดึงแขนของเพื่อนสาวเดินออกไป เพราะใกล้เวลาที่หัวหน้าแผนกจะมาตรวจงาน“เด็กกำพร้าแล้วมันหนักส่วนไหนไม่ทราบฮะ! อีไหมขัดฟัน!” พิมาลาตะโกนตามหลังด้วยสีหน้าเดือดดาล“ช่างเถอะพิ!” มะลิฉัตรปราม กลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไปด้านนอกให้คนอื่นได้ยิน“พวกมันทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้วฮะมะลิ” พิมาลาหันมาถามคนข้างๆ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวมะลิฉัตรถอนหายใจอย่างเพลียๆ ก่อนจะตอบ “ก็หลายครั้งอยู่ เราอยากจะลุกขึ้นสู้นะ อยากลองต่อยปากเสียๆ นั่นดูสักครั้ง! แต่พอนึกไปถึงหน้าน้องกับแม่แล้ว เราทำไม่ได้ เพราะที่นี่ให้เงินเดือนเยอะกว่าที่อื่นแถมสวัสดิการต่างๆ ก็ดี อะไรที่ทนได้ก็ทนไปก่อน”“แต่เธอก็รู้ว่ามันไม่จบอยู่แค่นี้แน่ๆ”“เอาน่า! ถ้าวันไหนที่มันไม่ไหวแล้วจริงๆ เราจะสู้ให้สุดใจขาดดิ้นไปเลยดีมะ”“เฮ้อ... ก็เป็นซะแบบนี้!” พิมาลาบอกก
“เดี๋ยวนะ! ใครบอกเธอว่าห้องสแกนนิ้วไม่มีกล้องวงจรปิด”สิรันถามพร้อมกับมองหน้าสองสาวนิ่งผลัวะ!จันจิราที่ผลักประตูห้องเข้ามาเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ หลังจากที่ทราบว่าหลานสาวของตนถูกเพื่อนในแผนกเดียวกันสาดกาแฟใส่“เธอสองคนใช่ไหมที่ทำหลานฉัน”“ค่ะ! หนูเป็นคนเอากาแฟสาดใส่กุ๊กเอง” มะลิฉัตรยอมรับ“ไล่ออก! ให้สองคนนี้ออกจากงานเลยนะคุณสิรัน” จันจิราบอกเสียงดังอย่างเอาเรื่อง“เอ่อ... สิเข้าใจนะคะว่ากุ๊กเป็นหลานของคุณจิรา แต่เราควรให้ความเป็นธรรมกับทุกคนค่ะ” สิรันบอกอีกฝ่ายอย่างใจเย็น“หลานฉันโดนขนาดนี้ ฉันจะเอาเรื่องเด็กนั่นให้ถึงที่สุด” จันจิราบอกเสียงดังจนเล็ดลอดออกไปด้านนอกห้อง“แจ้งความเลยไหมคะ? พอดีหนูมีเบอร์ผู้กำกับฯ อยู่ เดี๋ยวโทร.ให้เลยค่ะ” พิมาลาบอกพลางทำท่าจะล้วงมือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ“พิมาลา!” สิรันเอ่ยปรามก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกันใหญ่“ขอโทษค่ะหัวหน้า หนูแค่ทนฟังคนที่ตัดสินคนอื่นจากความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ คุณเห็นว่าหลานสาวของตัวเองเปียกไปด้วยน้ำกาแฟ แล้วคุณก็โกรธและตัดสินว่าพวกหนูผิด ประทานโทษนะคะคุณมองเห็นไหม? ว่าเพื่อนของหนูก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำแดงตั้งแต่หัวจดเท้าเหมือนกัน”
“มีเรื่องอะไรอีกหรือคะ” มะลิฉัตรถามพลางมองดูรูปของชายหญิงคู่หนึ่ง ที่ยังคงดูสง่างามและภูมิฐาน แม้ว่าอายุน่าจะล่วงเลยเข้าวัยห้าหรือหกสิบไปแล้ว ‘นี่คงเป็นรูปเจ้าของโรงแรมสินะ!’“ผมทราบเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ จากคุณสิรัน และก็เปิดดูกล้องมาแล้ว ผมไม่อยากให้พนักงานมีปัญหากันในที่ทำงาน เพราะมันจะทำให้งานพังและเดือดร้อนเพื่อนร่วมงานที่ออกเวรไปแล้ว ต้องกลับเข้ามาทำงานต่อแทนพวกคุณ ฉะนั้นเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง ผมจะให้คุณทั้งสองคนมาเป็นผู้ช่วยเลขาฯ ที่หน้าห้องแทน พวกคุณโอเคไหม?”ผู้จัดการหนุ่มยื่นข้อเสนอ ตอนนี้พนักงานทั้งบริษัทกำลังลุ้นผลว่าการที่จันจิราออกโรงปกป้องหลานสาว และฉีกหน้าสิรันที่ห้องทำงาน จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวขอยื่นใบลาออกนั้น เขาจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง“เอ่อ... แต่คุณจิราไล่พวกเราออกแล้วนะคะ” พิมาลาท้วงด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ“ผมเป็นผู้จัดการ คำสั่งของผมถือเป็นที่สุด โอเค้!” ธีรติยกยิ้มนิดเมื่อจ้องมองสาวแกร่ง ที่คอยปกป้องเพื่อนในเทปบันทึกภาพที่สิรันส่งมาให้อย่างขำๆ ‘ท่าทางตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันลิบเลยนะพิมาลา!’“อะ... โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะที่ยังให้เราสองคนทำงานต่อ” พิมาลายิ้มกว้างอย่างดีใจ“เ
“โอเค! นายไปพักเถอะ” คนที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืนบอกเสียงเรียบๆ“บอสก็พักบ้างนะครับ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานเราจะต้องเจอคุณมะลิ” เจซีบอกอย่างรู้สึกเป็นห่วง“อืม!” เลโอนาดท์ตอบก่อนจะลุกเดินกลับเข้าไปในห้องนอนด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเวลา 09:40 น. อรินขับรถกระบะพามะลิฉัตรออกเดินทางขึ้นดอยด้วยกันแต่เช้า ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงบ้านบนดอยที่มะลิฉัตรเคยมาพักเมื่อปีก่อนกับพิมาลา“ว้าว! ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ” มะลิฉัตรมองไปรอบๆ ก่อนจะยิ้มกว้างที่เห็นมารดาของเพื่อนเดินออกมาต้อนรับ“ห้องเดิมที่เธอพักก็ยังว่างจ้า” อรินหันมาบอกยิ้มๆ“มากันแล้วเหรอสาวๆ” วลีเอ่ยทักทาย สีหน้าตื่นเต้นระคนดีใจ“สวัสดีค่ะคุณแม่ สบายดีไหมคะ” มะลิฉัตรลงจากรถพร้อมกับ ยกมือไหว้ผู้ใหญ่“สบายดีจ้ะมะลิ แล้วหนูพิไม่ด้วยเหรอ?” วลีถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่สวยขึ้นกว่าครั้งก่อนที่เจอ“พิติดงานค่ะเลยอดมาเที่ยว แล้วคุณพ่อล่ะคะ อยู่ไหม?” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่อง“พ่อเขาไปประชุมที่กรุงเทพฯ อีกสองวันถึงจะกลับจ้ะ” วลีบอก“ว้า! อดเจอคุณพ่อเลย” มะลิฉัตรบอกอย่างเสียดาย“แม่ทำอะไรกินเหรอ?” อรินถามเพราะรู้สึกหิวขึ้นมานิดๆ“เข้าไปดูเองดีกว่า
“เห็นแต่ข้างหลังเนี่ยนะ?” เจซีว่าก่อนจะก้มลงมองมือถือต่ออย่างไม่สนใจ“สวยมากจริงๆ นะพี่ เสียดายที่บอสไม่มาด้วย แหม! อยากให้ได้เห็นจริงๆ”“มึงก็ถ่ายรูปพวกเธอส่งไปให้บอสสิวะ!” เจซีบอกอย่างเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมานิดๆ“เป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยพี่” จอห์นบอกก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋าขึ้นมาเตรียมเก็บภาพของสองสาว“ฮ่าๆๆ เอาที่มึงสบายใจนะ กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” เจซีส่ายหน้าอย่างเพลียๆ กับท่าทางซื่อแกมโง่ของลูกน้อง ‘หึ! ลองส่งไปดูสิ!เดี๋ยวมึงจะรู้สึก’“เดินดีๆ นะพี่” จอห์นตะโกนตาม ก่อนจะหันมาสนใจสองสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เพื่อดักรอถ่ายรูปส่งให้ผู้เป็นนายดูสิบนาทีต่อมา... ขณะที่เจซีเดินออกจากห้องน้ำมาได้เพียงสองก้าว มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้น เขาจึงล้วงมันออกมาดู ก็เห็นสายของผู้เป็นนายโทร. เข้า จึงรีบเดินแกมวิ่งออกไปที่ด้านนอกร้าน เพื่อกดรับสาย“แกอยู่ไหน?” เลโอนาดท์ถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ“อยู่ที่หน้าร้านครับ!” เจซีบอก“ผู้หญิงที่ไอ้จอห์นมันถ่ายรูปส่งมาคือมะลิ! แกเฝ้าเธอให้ดีๆ จนกว่าฉันจะไปถึง!” เลโอนาดท์บอ
Bangkok 14:30 น. Rocasander Grand Hotel...หลังจากที่ลงเครื่องเสร็จโดมินิกก็พาพราวดาราตรงไปยังโรงแรมของเพื่อนรัก เพื่อเอาของสำคัญที่เก็บไว้ในเซฟห้องนอนตนเลโอนาดท์ที่เพิ่งกลับจากชลบุรีมาถึงโรงแรมทันได้เห็นหลังของเพื่อนรักไวๆ จึงรีบวิ่งตาม“ซาเก้! ซาเก้!”โดมินิกที่กำลังรอลิฟต์หันไปมองตามเสียง “อ้าว! ลีโอ”“นายมาเมื่อไหร่?” เลโอนาดท์ถาม“เพิ่งมาถึง! จะพาพราวมาเปิดตัวคืนนี้ พรุ่งนี้จะพาไปลองชุดไทย ที่ห้องเสื้อ” โดมินิกบอกพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามาแนบกาย“สวัสดีครับคุณพราว” เลโอนาดท์เอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มๆ“สะ... สวัสดีค่ะ” พราวดารายกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย ทำหน้าไม่ถูกเมื่อนึกไปถึงวันแรกที่เจอกับเขาที่โรงแรมเอื้องลานนา“ยินดีด้วยนะครับ” เลโอนาดท์บอก“เอ่อ... ค่ะ” พราวดาราเอ่ยรับไม่เต็มเสียง“ฉันว่าจะไปตามหามะลิที่เชียงใหม่น่ะ” เลโอนาดท์หันไปบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มตึงนิดๆ“ผู้หญิงคนนั้น?” โดมินิกถามพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด“ใช่! เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าววันนั้น” เลโอนาดท์ตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“เอ่อ... เรื่องนี้ดิฉันไม่ทราบค่ะ ยังรอมะลิติดต่อกลับมาบอกเช่นกัน” จันทร์ฉายบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ“ทำไมถึงเกิดเรื่องบ้าๆ แบบขึ้นได้ฮะ” เมลิซ่าหันไปเล่นงานบุตรชาย“ผมทะเลาะกับมะลิก็เลยลงไปนั่งดื่มที่คลับชั้นล่างของโรงแรม แล้วอยู่ๆ นางแบบนั่นก็เข้ามานั่งด้วย” เลโอนาดท์ถอนหายใจอย่างเพลียๆ เมื่อถูกซักไซ้ถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นอีกครั้ง“แล้ว...” เมลิซ่าเลิกคิ้วถามอย่างต้องการรายละเอียด“แล้วผมก็ลุกเดินหนีขึ้นไปที่ชั้นบนไงครับ” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ หลังจากถูกมารดาถามเหมือนกับคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน“ตอนนั้นหนูมะลิอยู่ที่ไหน?” เอเดนถามอย่างสงสัย“ที่ห้องนอนของผมครับ”“แล้วเธอหายไปได้ยังไงโดยที่ลูกไม่รู้” เมลิซ่ายิงคำถามต่อ“โธ่! นี่มัมไม่เชื่อใจผมใช่ไหม ถึงถามเหมือนจับผิดผมแบบนี้น่ะ” เลโอนาดท์ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ“แม่ไม่ได้จับผิด แต่อยากจะรู้ทุกๆ อย่าง คุณจันทร์เองก็คงอยากจะรู้ใช่ไหมคะ?” เมลิซ่าบอกพลางหันไปขอความเห็นจากอีกฝ่าย“เอ่อ... ค่ะ” จันทร์ฉายตอบไม่เต็มเสียง“งั้นฟังนี่แล้วช่วยตัดสินผมใหม่ด้วยนะ
วันต่อมา เวลา 10:27 น. Rocasander Grand Hotelที่ห้องรับรองของโรงแรมหนาแน่นไปด้วยนักข่าวจากหลากหลายสำนัก ที่มารอทำข่าวของหัวเรือใหญ่ โรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น คนปัจจุบัน ที่เป็นข่าวฮ็อตหน้าหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน“ได้ข่าวว่าครอบครัวของคุณเลโอนาดท์ กับครอบครัวของคุณโดมินิกเดินทางมาถึงไทยเมื่อวานใช่ไหมครับ” นักข่าวเปิดคำถามแรกอย่างไม่รอช้า“ครับ! พวกท่านเดินทางมาสู่ขอเจ้าสาวให้กับโดมินิก” เลโอนาดท์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“คุณโดมินิกกับคุณพราวดารามีกำหนดจะหมั้นหมายกัน ในอีกห้าวันข้างหน้าใช่ไหมครับ?”“ครับ! ที่เชียงใหม่ โรงแรมเอื้องลานนา”“แล้วคุณเลโอนาดท์ล่ะครับ ใกล้จะมีข่าวดีหรือยัง?”“ก็น่าจะไล่ๆ กันครับ” เลโอนาดท์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ“พอจะเปิดเผยได้ไหมครับว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใคร ใช่นางเอกดังหรือเปล่าครับ?”“ไม่ใช่ครับ!”“แต่จากรูปที่เห็นวันก่อนในไนต์คลับ ทำให้ใครๆ ต่างคิดว่าคุณเลโอนาดท์กับคุณเชอร์รี่กำลังคบกันอยู่นะครับ”“เธอเข้ามานั่งคุยกับผมครับ มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาทีก่อนที่ผมจะลุกออกไป”
ชั้นบนสุด... โรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์“บอสครับ! บอส!” เจซีเอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อให้รู้สึกตัว“มีอะไร?” เลโอนาดท์หันมามองคนสนิทแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองทางเดิม“ผมสั่งอาหารเอาไว้! บอสลุกมาทานก่อนเถอะครับ”“ฉันยังไม่หิว!”“แต่บอสต้องทานอะไรบ้างนะครับ”“ฉันบอกว่าไม่...” เลโอนาดท์กำลังจะหันไปต่อว่า แต่ก็ตกใจที่เห็นบิดากับมารดาเดินเข้ามาด้านหลังของคนสนิท “แด๊ด! มัม”“เกิดอะไรขึ้น? เธอคนนี้ใช่ไหมที่ทำให้ลูกเปลี่ยนไป”เมลิซ่าถามพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้บุตรชาย ที่มีสภาพเหมือนสิงโตที่ตายซากมานับเดือน“ไม่ใช่ครับ” เลโอนาดท์รับหนังสือพิมพ์มาดูก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะใกล้ๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิด“งั้นคนไหน?” เมลิซ่าถามอย่างสงสัย“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”“หมายความว่า...” เอเดนถามพลางจ้องมองบุตรชายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะโทรมไปได้ถนัดตา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน“เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าวนั่นครับ” เลโอนาดท์บอก“ก็สมควรนะ” เมลิซ่าบอกลูกชายตัวดี ด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน“โธ่! มัมครับ!”
13: 20 น. หน้าหอพักของอริน... (เชียงใหม่)“มะลิ!” อรินเอ่ยทักทายเพื่อนด้วยน้ำเสียงสดใส หลังจากที่รับสายของอีกฝ่ายเมื่อครู่ว่าใกล้จะมาถึง เธอจึงรีบวิ่งลงมารอที่หน้าหอ“ริน!” มะลิฉัตรลงจากรถเสร็จก็โผเข้าไปกอดเพื่อนอย่างดีใจ“ไม่เจอแค่สองเดือนสวยขึ้นเยอะเลยนะนี่” อรินเอ่ยแซวยิ้มๆ“บ้า! เธอสบายดีไหม?” มะลิฉัตรถามก่อนจะดันเพื่อนสาวออกมามองอย่างสำรวจ“สบายดีจ้ะ ว่าแต่พาแฟนมาด้วยเหรอ?” อรินมองเลยไปยังหนุ่มร่างสูงมาดเท่ที่ยืนด้านหลังอย่างสนใจ“ไม่ใช่สักหน่อย!” มะลิฉัตรส่งสายตาดุๆ ให้เพื่อนสาว ก่อนจะหันไปแนะนำคนที่มาด้วย “นี่ผู้กำกับฯ คเชนทร์จ้ะ พอดีเจอกันโดยบังเอิญ คุณคเชนทร์เลยอาสามาส่ง”“สวัสดีค่ะผู้กำกับฯ” อรินรีบยกมือไหว้ ‘แม่เจ้า! ผู้ชายอะไรหุ่นเพอร์เฟ็กต์สุดๆ ไปเลย’“สวัสดีครับคุณริน!” คเชนทร์ทักทายสาวร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดพนักงานต้อนรับของโรงแรมเอื้องลานนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผู้กำกับการหนุ่มพูดกับสองสาวต่ออีกครู่ก็ขอตัวกลับ อรินจึงพามะลิฉัตรหิ้วของเดินขึ้นห้องพักอย่างไม่รอช้าทันทีที่เข้ามาในห้องพัก มะลิฉัตรถึงกับยิ้มกว้างอย่างชอบใจ กับการตกแต่งห้องพักของเพื่อนสาว“ว้าว! ห้องสวยจัง” ม
เช้าวันต่อมา... (ไร่สิรันยากรณ์)ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูห้องนอนรัวๆ ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่ลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปยังประตูด้วยท่าทางที่งัวเงีย“คุณเป็นคนให้ข่าวนี่ใช่ไหม?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ ‘ไอ้บ้านี่ไปขุดรูปของเธอเมื่อสามปีก่อนมาจากไหนนะ!’“ข่าวอะไรเหรอพราว!” โดมินิกถามก่อนจะสะบัดหัวไปมาอย่างมึนๆ“ก็ข่าวนี่ไงล่ะไอ้คนบ้า!” พราวดาราบอกพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้กับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตึงๆ“โอ้พระเจ้า!” โดมินิกตกใจนิดๆ ที่เห็นรูปของตนกับรูปของสาวเจ้าขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ‘ข่าวรั่วไปได้ยังไงวะ’“อย่ามาทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องนะ” หญิงสาวต่อว่าคนที่ทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวายไปหมดตั้งแต่ที่ได้เจอกับอีกฝ่าย“ผม...”“คุณควรจะส่งฉันลงที่ไหนก็ได้สักที่ แต่คุณกลับพาฉันมาส่งที่บ้าน แล้วก็สร้างเรื่องขึ้นมากมายจนพ่อและแม่ของฉันเชื่อซะสนิทใจ ฮึก! แล้วคุณยังทำลายชีวิตฉันด้วยการลงข่าวบ้าๆ นี่อีก ฮึก! คุณมันเลวสุดๆ เลยรู้ตัวไหม!” พราวดาราต่อว่าไปยกมือขึ้นปาดน้ำตาไปอย่างรู้สึกเจ็บปวด“เฮ้! พราว ข่าวนี้มันเรื่องเล็กมากเลยนะคนดี”“คุณบอกว่าเรื่องเล็กอย่างนั้นเหรอ ไอ้คนบ้า ฮือๆๆ” พราวดาราต่อว่าพลางร
ตู๊ดๆๆๆ“ปิดเครื่อง!” เธอบอกพร้อมกับส่งมือถือให้อีกฝ่ายดู“บ้าจริง!” ธีรติเผลอสบถออกมาอย่างหัวเสีย“เกิดอะไรขึ้นบอกฉันมานะ เพื่อนฉันเป็นอะไร!” พิมาลาถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“โทร. หาแม่คุณ! แล้วถามว่ามะลิฉัตรอยู่ที่ชลบุรีไหม”“มันเกิดอะไรขึ้น!” พิมาลาถามอีกครั้งอย่างทนไม่ไหว“ทำตามที่ผมบอกพิ!” เขาบอกด้วยสีหน้าตึงๆพิมาลาเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รีบกดโทร. หามารดาตามที่อีกฝ่ายบอก เสียงรอสายดังขึ้นเพียงสองครั้ง ปลายสายก็กดรับ“แม่คะ! มะลิอยู่กับแม่ไหม”“ไม่! มะลิจะมาหาแม่งั้นเหรอ?”ปลายสายแกล้งถาม และเดาสถานการณ์ออกว่าตอนนี้ทางนั้นคงกำลังตามหาตัวของบุตรสาวอยู่“อะ...โอเคค่ะ เดี๋ยวพิโทร. กลับ!” พิมาลาบอกก่อนจะกดวางสายแล้วหันมาถามคนตรงหน้า ที่เอาแต่ถามและสั่งนู่นสั่งนี่ แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลใดๆ กับเธอ“มะลิไม่ได้อยู่ที่ชลบุรี! ทีนี้คุณช่วยบอกฉันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น”“มะลิหนีไป” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเพลียๆ กับสายตาของสาวเจ้าที่จ้องมองมายังตน“หนี! ทำไมมะลิต้องหนีด้วยล่ะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ“เรื่องมันซับซ้อนน่ะพิ! คุณไปใส่เสื้อผ้าแล้วมากับผม!”“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าคุณไม่บอกมาว