“เธอนั่นแหละที่พูดไม่รู้เรื่อง! อยากให้ฉันใช้ภาษากายสื่อสารแทนไหมล่ะ บางทีมันอาจจะทำให้เธอเข้าใจอะไรๆ ง่ายขึ้น!”
“ไม่มีทางเด็ดขาด อ๊ะ! ปล่อยนะไอ้คนบ้า” มะลิฉัตรกรีดร้อง เสียงหลงเพราะถูกคนปากว่ามือถึงรวบตัวแล้วอุ้มลอยขึ้น
“เธอมีปัญหากับการสื่อสารนะรู้ตัวไหม?” เลโอนาดท์เอ่ยก่อน จะอุ้มสาวเจ้าเดินตรงไปยังอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
“ปล่อยเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นคุณเจ็บตัวแน่ๆ” มะลิฉัตรโกรธจนหน้าแดงก่ำที่ถูกลวนลาม ‘หึ! เจ้าของโรงแรมก็เจ้าของโรงแรมเถอะวะ ตายเป็นตาย!’ หญิงสาวเตรียมท่าพร้อมจะสู้
“หึ! เธอจะทำอะไรฉันเหรอ” เลโอนาดท์ยิ้มยั่วอย่างนึกสนุก
“ก็จะทำแบบนี้ไง” เธอบอกพร้อมกับฝังฟันซี่เล็กๆ ลงที่ต้นคอของอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้า
“อ๊ากกกกกก” เลโอนาดท์ร้องลั่น เจ็บจนเนื้อเต้น แต่ก็ยังอุ้มสาวเจ้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
เมดสาวถอนฟันซี่เล็กออกจากต้นคอหนา มองดูสิงโตหนุ่มแหกปากร้องคำรามอย่างสะใจ “ฉันเตือนคุณแล้วนะ”
“หึ! กลัวตายละ” เลโอนาดท์กะพริบตาไล่หยดน้ำที่ปริ่มๆ ดวงตา ก่อนจะอุ้มสาวเจ้าเดินตรงไปยังอ่างอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ! นี่คุณอยากเจ็บตัวอีกใช่ไหม?” เธอเริ่มกลัวขึ้นมานิดๆ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าขึงขัง
“เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าฝากรอยเอาไว้บนตัวฉัน พระเจ้า! ฉันจะทำยังไงกับเธอดี มะลิ!” ชายหนุ่มถามเสียงลอดไรฟัน
“กะ... ก็ปล่อยฉันไง” มะลิฉัตรหลบสายตาคมกล้าด้วยหัวใจสั่นๆ ‘พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยเถอะ’
ตู้ม!!
“กรี๊ดดดด” เมดสาวกรีดร้องเสียงดังอย่างตกใจ เมื่ออีกฝ่ายโยนเธอลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
“เธอบอกเองนะว่าให้ปล่อย!” เลโอนาดท์โยนเสื้อคลุมออกแล้วตามสาวเจ้าลงไปในอ่างอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ดดดดด” มะลิฉัตรกรีดร้องหลังจากที่เห็นขีปนาวุธขนาดเขื่องของอีกฝ่ายเข้าเต็มๆ ตาแบบไม่มีการเซ็นเซอร์ใดๆ
“หึ! ชอบใช่ไหมล่ะ?” ชายหนุ่มถามพร้อมกับขยิบตาให้
“อ๊ายยย ไอ้โรคจิต!” เธอรีบหันหลังให้คนหน้าไม่อายทันที
‘แม่เจ้า! อะไรจะใหญ่ยักษ์ขนาดนี้’ มะลิฉัตรหน้าแดงก่ำ ทั้งอาย ทั้งโกรธ และสั่นเหมือนเจ้าเข้าทรงขึ้นมาทันทีทันใด
“ใช่! จิตฉันกำลังหงุดเงี้ยวอยู่น่ะ เธอรู้ได้ไง?”
‘พระเจ้า ชักสนุกแล้วสิ!’ เลโอนาดท์ขยับเข้าไปใกล้คนที่ยืนสั่น หันหลังให้ตนอย่างชอบใจ
“จะ... จิต-หงุด-เงี้ยว” เมดสาวทวนคำอย่างงงๆ
“ใช่! ลองผวนคำดูสิ!” เขากระซิบข้างๆ ใบหูของสาวเจ้า
“กรี๊ดดดด ไอ้บ้ากาม” คนที่เพิ่งถึงบางอ้อกรีดร้องอย่างสติแตก คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะหื่นได้แม้กระทั่งกับ พนักงานที่ตัวเล็กๆ อย่างเธอ
“ฮ่าๆๆ โอเค! เอาเป็นว่าฉันยอมรับแล้วกัน!” ชายหนุ่มเอ่ยขณะจ้องมองหน้าอก 37 คัพซีผ่านเสื้อสีขาวที่แนบเนื้อ ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้น ‘ยัยนี่ตัวเล็กนิดเดียว แต่หน้าอกใหญ่เป็นบ้า!’
“ไม่นะ! อ๊ะ... นี่คุณจะทำอะไร” เมดสาวตกใจ เมื่อมือหนาๆ รวบเอวของเธอเข้ากกกอดจากด้านหลัง
“อาบน้ำกับเธอไง เบบี้!” สิงโตหนุ่มบอกพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงนในใจ ‘เอวเล็กขนาดนี้ ถ้าจับกระแทกแรงๆ จะแหลกคามือไหมนะ?’
“ไม่! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” หญิงสาวดิ้นพล่าน
“อยู่นิ่งๆ สิ!” เลโอนาดท์เอ่ยเสียงดุ ขณะพยายามดึงเสื้อของหญิงสาวออกอย่างรู้สึกรำคาญสายตา
“ห้ามถอดเสื้อฉันออกนะ”
แควก!
“กรี๊ดดดดด” มะลิฉัตรกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เมื่อคนหื่นจับตัวเธอให้หันมาเผชิญหน้า แล้วดึงเสื้อฉีกขาดออกจากตัว จนเหลือเพียงบราลายลูกไม้สีฟ้าอ่อนๆ ที่โอบอุ้มหน้าอกเอาไว้เท่านั้น
“ก็เธอบอกว่าไม่ให้ถอด ฉันก็ไม่ได้ถอดนี่! ฉีกเอาง่ายกว่าเยอะเลย หึๆ” คนที่เอาแต่จ้องดอกไม้งาม บอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
มะลิฉัตรน้ำตาคลอขึ้นมาทันทีทันใด ตวัดฝ่ามือลงที่ใบหน้าหนาอย่างเต็มๆ แรง ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด หลังจากที่ถูกอีกฝ่ายลวนลามและเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ
เพียะ!
“พระเจ้า! นี่เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ” เลโอนาดท์หันกลับมามองด้วยสายตาเดือดดาล ‘ให้ตาย! ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน กล้าลองดีขนาดนี้มาก่อน!’ คนที่โกรธจนหน้าแดงก่ำ คว้าร่างบางเข้ามาบดขยี้ริมฝีปากอย่างต้องการจะสั่งสอน
“อ๊ะ... อื้อ” มะลิฉัตรดิ้นและทุบหน้าอกกว้าง ขณะที่มือไม้ของอีกฝ่ายนั้น กำลังลูบไล้ไปทั่วส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างถือดี!
“อืม...” ชายหนุ่มครางในลำคออย่างถูกใจกับความหวานของ ริมฝีปากบาง ก่อนจะสะดุดกับน้ำอุ่นๆ ที่ไหลล้นออกจากหางตาของสาวเจ้า จึงตัดใจถอนจูบออกอย่างแสนเสียดาย
“ฮึก! ฮือๆๆๆ” เธอปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“พระเจ้า!”
คนที่อารมณ์กำลังเตลิดจนแทบจะลุกเป็นไฟ จำต้องหยุดชะงักการกระทำทั้งหมด เพราะสาวตรงหน้ากำลังร้องไห้จนตัวสั่น
“ฮึก! ได้โปรด... อย่าทำมะลิเลยค่ะ ฮือๆๆ” เธอรีบยกมือไม้ขึ้นไหว้อย่างหวาดกลัว
“ให้ตายสิ!” เลโอนาดท์สบถเสียงดังอย่างหงุดหงิด ก่อนจะดันสาวเจ้าให้หันกลับไป แล้วสวมกอดเธอจากด้านหลังแทน
“ฮือๆๆ ได้โปรด...” เมดสาวสะอื้นไห้ น้ำตานองหน้า
“โอเค! หยุดร้องไห้ก่อน แล้วเรามาคุยกัน” เขาเอ่ยก่อนจะเอาคางวางลงที่ไหล่เล็กของเธอ พร้อมกับโก่งตัวให้ช่วงล่างที่แข็งจนปวดออกห่างแผ่นหลังบางอย่างห้ามใจ
“ฮึก! มะลิแค่มาทำงาน มะ... ไม่ใช่ผู้หญิง...” มะลิฉัตรพยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังยอมหยุดและฟังเธอ
‘พระเจ้า! ปวดอะไรอย่างนี้วะ’ คนที่กำลังต่อสู้กับความต้องการของร่างกาย กัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มๆ
“ฉันรู้! ฉันขอโทษ ฉันก็แค่หงุดหงิดที่เธอดื้อ”
“แต่เมื่อกี้คุณทำท่าทางเหมือนกับจะข่มขืนฉัน ฮือๆๆ”
“ฉันแค่อยากให้เธอถูหลังแล้วก็สระผมให้เท่านั้น! ไม่ได้จะ...” คนปากไม่ตรงกับใจรีบแก้ตัว
“ไม่จริง! เมื่อกี้คุณจะข่มขืนฉัน”
“โอเค! ใช่ก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันไม่ทำแล้ว” คนหื่นกลอกตาก่อนจะเอ่ยรับอย่างแกนๆ
“ฉันจะเชื่อคุณได้ไหม?” มะลิฉัตรหยุดร้องไห้ แล้วเอ่ยขอคำมั่น
“ได้! ถ้าเธอรับปากว่าจะอาบน้ำและสระผมให้ฉัน ฉันก็รับปากว่าจะไม่ล่วงเกินเธอ!” เลโอนาดท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
‘หึ! ขุดหลุมฝังตัวเองเข้าไปลีโอ’
เมดสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งอีกครั้ง ก่อนจะบอกอีกฝ่ายที่เอาคางมาเกยไหล่เธอราวกับเป็นคนที่สนิทชิดเชื้อกันมานาน ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันได้ไม่ถึงชั่วโมง! “ฮึก... โอเค! งั้นคุณก็หันหลังไปสิ”
“สระผมก่อนนะ” ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อสาวเจ้ายอมว่าง่าย
“ค่ะ” มะลิฉัตรตอบรับอย่างมึนๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องยอมทำตามที่อีกฝ่ายขอ ทั้งๆ ที่สถานการณ์ก่อนหน้ามันเกือบจะทำให้เธอสติแตกไปแล้ว
ฟองสบู่ที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้บดบังขีปนาวุธขนาดเขื่องที่กำลังพร้อมรบเอาไว้ได้ เลโอนาดท์รีบจัดระเบียบช่วงล่างให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะหันไปบอกเมดสาว“หันมาได้”“เอ่อ... มะลิขอไปใส่เสื้อก่อนได้ไหมคะ” คนที่เหลือแต่บราและกระโปรงตัวเดียวบอกอย่างรู้สึกอาย กลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ้าเล่ห์แอบหันมามองหน้าอกของเธอ“ไม่ต้อง! ฉันนั่งเครื่องมานาน ฉันอยากอาบน้ำ ทานข้าว แล้วก็นอนพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องเข้าประชุมใหญ่ และถ้าเธอยังประวิงเวลาออกไปเรื่อยๆ บางทีฉันอาจจะเปลี่ยนใจแล้วทำเหมือนเมื่อกี้กับเธออีก! และครั้งนี้มันคงจะหยุดไม่ได้ เข้าใจใช่ไหม?” เลโอนาดท์เอ่ยเตือนคนที่ทำท่าจะยึกยัก ขณะเดียวกันก็แอบท้วงตัวเองในใจอย่างหงุดหงิด‘นี่เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่อยากให้ยัยนี่อาบน้ำและสระผมให้’“ขะ... เข้าใจแล้วค่ะ” มะลิฉัตรตอบก่อนจะค่อยๆ หันกลับ ก็เห็นแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นของอีกฝ่ายชัดๆ‘พระเจ้า! คนหรือยักษ์เนี่ย’“รีบลงมือเร็วๆ สิ! เดี๋ยวเธอยังต้องทำอาหารให้ฉันทานอีก” คนที่เพิ่งจะข่มอารมณ์หื่นให้สงบ ต่อว่าด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“ค่ะท่าน” มะลิฉัตรเอ่ยรับเบาๆ อย่างทำใจ“หึ! เรียกท่านได้แล้
พรึ่บ!“กรี๊ดดดดดด” เมดสาวกรีดร้องขึ้นสุดเสียงเมื่อรู้ว่ากระโปรงของเธอลงไปกองที่ผิวน้ำ จึงหันกลับไปตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้าเพียะ!เลโอนาดท์ที่หน้าหันไปตามแรงตบ ค่อยๆ หันกลับมามองหญิงสาวด้วยสายตาแดงก่ำ ขณะที่รอยนิ้วแดงๆ เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาจางๆ“พระเจ้า! ฉันเตือนเธอแล้วนะ!”“ไปตายซะไอ้คนสารเลว! อ๊ะ... อื้อ...” เธอตะโกนด่ายังไม่ทันขาดคำก็ถูกสิงโตหื่นบดขยี้จูบที่เร่าร้อนและเนิ่นนานเข้าอีกครั้ง‘เธอไม่น่าไว้ใจคนอย่างเขาเลย’ มะลิฉัตรต่อว่าตัวเอง ขณะที่ฝ่ามือหนาๆ ลูบไล้ไปทั่วทุกสัดส่วนอย่างถือดีเลโอนาดท์อุ้มสาวเจ้าลอยขึ้น แล้วรีบเดินตรงไปยังเตียงขนาด คิงไซส์ที่อยู่ด้านนอก“ฮึก! คะ... คุณจะทำอะไรฉัน”เธอเอ่ยทั้งน้ำตา เมื่อร่างหนาวางเธอลงบนเตียง แล้วตามขึ้นมาทาบทับไม่ให้เธอขยับดิ้นหนีไปไหนได้“ก็ทำให้เธอเลิกดื้อยังไงล่ะ!” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับดึงบรา ที่โอบอุ้มดอกบัวงามออก“อ๊ะ! กรี๊ดดดดด” เมดสาวร้องเสียงดัง เมื่อริมฝีปากหนาสัมผัสลงยังปลายถันและดูดกลืนราวกับคนที่หิวกระหาย“อื้อ...” เลโอนาดท์ครางอย่างขัดใจเมื่อข้อมือบางพยายามจะผลักใบหน้าของตนออก“ฮือๆๆ ฉะ... ฉันจะ
“งั้นไปหาแหวนมาคุกเข่าขอฉันแต่งงานสิ! บางทีฉันอาจจะยอมคุณ!” มะลิฉัตรบอกข้อแลกเปลี่ยนที่ไม่มีทางเป็นไปได้“หึ! ฉันให้สิบล้านค่าตัวเธอ” เลโอนาดท์ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับจ้องมองสาวตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว“คนอย่างคุณคงไม่มีทางรู้จักคำว่ารักหรอก! รู้อะไรไหม? ต่อให้คนที่คุกเข่าขอฉันแต่งงาน จะเป็นแค่ยามหน้าโรงแรม เงินเดือนแค่หมื่นกว่าๆ ฉันก็ยินดีจะแต่งกับเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีแหวนแต่งงานมาขอก็ตาม”มะลิฉัตรเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด เมื่อถูกอีกฝ่ายประเมินค่าเป็นเงินตรา“ฉันไม่ใช่ยาม โอเค้! และฉันสามารถซื้อแหวนเพชรเป็นร้อยๆ วงให้เธอได้” เลโอนาดท์บอกต่ออย่างหน้ามึน ‘พระเจ้า! ให้ขนาดนี้ยังไม่พอเหรอวะ’“นี่ฉันอธิบายไม่ชัดตรงไหน! มันไม่ได้เกี่ยวกับแหวน แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกต่างหาก! ให้ตายสิ! คุณเคยรักผู้หญิงสักคนไหม”“ไม่! ไม่เคยถามชื่อเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าพวกเธออายุเท่าไหร่ อยู่ประเทศไหน แค่เซ็กส์ร้อนๆ แล้วจบที่ค่าตัว!” เลโอนาดท์บอกด้วยท่าทีสบายๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยมาตลอดชีวิต“งั้นคุณก็ไปเรียกหาพวกเธอสิ! จะมายุ่งกับพนักงานทำความสะอาดอย่างฉั
“มะลิเดี๋ยว! หยุดก่อน มะลิ!” เลโอนาดท์ตะโกนบอกคนที่วิ่งหน้าตั้งให้หยุด“กรี๊ดดด อย่าตามนะไอ้โรคจิต”เมดสาววิ่งเร็วขึ้นทันทีที่เห็นอีกฝ่ายวิ่งตาม อารมณ์และสถานการณ์ต่างๆ มันดูคล้ายกับเหยื่อสาวบริสุทธิ์ที่กำลังวิ่งหนีฆาตกรโรคจิตอย่างไรอย่างนั้น“ให้ตายเถอะ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” สิงโตหนุ่มเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น“ฉะ... ฉันลาออก! ฉะ... ฉันจะไม่ทำงานที่นี่อีกแล้ว” สาวเจ้าวิ่งไปตะโกนไปอย่างเริ่มจะสับสนว่าประตูทางออกอยู่ตรงไหน เพราะเธอวิ่งวนกลับมาที่หน้าห้องของอีกฝ่ายเป็นรอบที่สองแล้ว“ใจเย็นๆ สิ ฉันก็แค่ปลดปล่อยความต้องการที่อัดอั้นและค้างคามาจากเธอ ก็แค่นั้น!” ลีโอนาดท์บอกหลังจากที่คว้าร่างบางเข้ากอดไว้ได้“อ๊ะ ปล่อยฉันนะ!” สาวเจ้าร้องเสียงหลงเมื่อถูกจับได้“เราต้องคุยกัน” เขาบอกเสียงจริงจัง พร้อมกับหมุนร่างบางให้ หันมาเผชิญหน้า“กะ... ก็เรื่องของคุณสิ! แต่ฉันกลัว ฉันรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้คะ... คุณทำให้ฉันสติแตก”“เธอก็ทำฉันส
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” มะลิฉัตรหน้าแดงขึ้นมาทันใด เมื่ออยู่ๆ ภาพของเธอกับเขาที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง ก็ผุดขึ้นมาให้ระลึกถึงอีกครั้ง!“ฮ่าๆๆๆ” ชายหนุ่มหัวเราะอย่างขบขันกับท่าทางของสาวเจ้า‘ให้ตายสิ! เขาไม่เคยอยู่กับผู้หญิงคนไหนแล้วมีความสุขขนาดนี้มาก่อน!’“คุณสนุกนักหรือไงที่ได้แกล้งฉันน่ะ ฮึก!” มะลิฉัตรต่อว่าทั้งน้ำตา“เฮ้! ฉันแค่หยอกเล่นเฉยๆ” คนที่กำลังหัวเราะถึงกับหยุดชะงักไปทันทีทันใดที่เห็นสาวเจ้ามีน้ำตา“แล้วคุณเห็นฉันหัวเราะไหม! ฮือๆๆ” เธอปล่อยโฮออกมาเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่เลโอนาดท์รู้สึกผิดขึ้นมาทันที ‘พระเจ้า! เขารู้สึกเหมือนตัวเอง เป็นเด็กเกเร ที่ชอบกลั่นแกล้งเด็กผู้หญิงให้ร้องไห้ยังไงยังงั้น!’“มะ... มะลิ เงียบก่อน ฉะ... ฉันขอโทษ”“ฮึก! คุณเห็นฉันเป็นคนที่ต้อยต่ำกว่า คุณจึงคิดว่าจะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ คุณมันไอ้คน...” เมดสาวจับมีดหั่นสเต๊กเอาไว้มั่น“เฮ้! ใจเย็นๆ มะลิ! อย่าเล่นมีดสิ” เลโอนาดท์รีบดึงมีดในมือของสาวเจ้ามาเก็บ เพราะเธอทำท่าเหมือนจะลุกขึ้น แล้วเอามันมาเสียบที่ไหนสักแห่งบนตัวเขา“ฮือๆๆ
สิบนาทีต่อมา... หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ มะลิฉัตรก็เดินตรงไป ที่เตียงนอน เธอเห็นชุดเสื้อผ้าสตรีของแบรนด์ Adidas วางอยู่บนเตียงหลายชุด จึงหยิบกางเกงเลกกิ้งขายาวสีดำกับเสื้อยืดแขนยาวสีขาวแถบ สีดำ ตรงไปยังห้องแต่งตัวทันทีที่เข้าไปด้านในก็เจอชุดชั้นในวางเรียงอยู่เต็ม จึงหยิบขึ้นมาดูด้วยมือสั่นๆ เพราะขนาดบราและแพนตี้พอดีกับขนาดที่เธอใส่อยู่เป๊ะ!“ว้าว! วิกตอเรียซีเคร็ตซะด้วย!” มะลิฉัตรเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยอารมณ์เบิกบาน เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคุณหนูที่ฐานะทางบ้านร่ำรวย ไม่มีผิดสาวเจ้ายืนหมุนซ้ายหมุนขวาที่หน้ากระจกบานใหญ่ สำรวจความเรียบร้อยอยู่ครู่หนึ่ง ก็เดินออกไปหาอีกฝ่ายที่ด้านนอกขณะที่เลโอนาดท์นั่งเลือกรองเท้าให้หญิงสาวฆ่าเวลาอยู่นั้น ทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง เขาก็รีบหันไปมอง“ว้าว! อย่างกับเด็กสาวอายุ 16-17 แน่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยทักพร้อมกับจ้องมองเรือนร่างบอบบางอย่างสำรวจ“Adidas!” มะลิฉัตรไม่สนใจกับคำพูดของอีกฝ่าย เพราะกำลังตื่นเต้นกับรองเท้าที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะนับสิบคู่“ใช่ ของเธอทั้งหมดเลย วันนี้ใส่คู่นี้นะ”
รอนมองตามรถที่แล่นออกไปอย่างรู้สึกมึนๆ ไม่รู้ว่าผู้เป็นนาย ไปพาสาวเจ้ามาจากไหน แถมยังพาออกมาทางลิฟต์ส่วนตัวโดยไม่ห่วงความปลอดภัย ว่าเรื่องที่เป็นความลับนี้จะถูกแพร่งพรายให้คนนอกรู้“รอน! บอสออกไปรับคุณซาเก้เหรอ?” แดนที่เพิ่งไปเข้าห้องน้ำมาถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นรถของผู้เป็นนายขับออกไป“ไม่! นายกับฉันต่างหากที่ต้องไปรับคุณซาเก้แทน” รอนหันไปบอก“อ้าว! แล้วบอสไปไหน ทำไมไม่มีคนคุ้มกัน” แดนถามอย่างร้อนใจ เพราะกลัวว่าเจซีที่กำลังเตรียมเอกสารการประชุมอยู่ จะรู้เรื่องนี้เข้า“บอสพาสาวไปเที่ยว สั่งห้ามติดตาม” รอนย้ำก่อนเดินไปบอก บอดี้การ์ดอีกสองคนที่นั่งจิบกาแฟอยู่ในห้อง ให้เตรียมตัวไปรับเพื่อนเจ้านายที่สนามบิน“หวังว่าเรื่องคงไม่แย่นะ” แดนบอกด้วยสีหน้าหวั่นๆ“แย่อะไรล่ะ! บอสยิ้มให้สาวคนนั้นอย่างกับคนเป็นบ้าแน่ะ ไปๆ ไปเตรียมตัวเถอะ อีกชั่วโมงหนึ่งคุณซาเก้ก็มาถึงแล้ว” รอนบอกก่อนจะดึงแขนของแดนให้ออกเดินตามปรื้น! ปรื้น! ปรื้นนนนนเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ราคาแพงดังก้องไปทั่วบริเวณที่รถแล่นผ่าน มะลิฉัตรนั่งตัวตรง จ้องมองท้อง
“หึๆ ไม่เมาก็เสียตัวได้นะมะลิ” เลโอนาดท์บอกพลางขยิบตาให้สาวเจ้าอย่างต้องการจะหยอกเย้า“บ้า!” มะลิฉัตรมองค้อน ก่อนจะก้มลงเลือกเมนูที่ต้องการต่อ“ฉันดื่มคนเดียวจะสนุกอะไรล่ะ” เขาตื๊อต่อ“จ้างให้แก้วละพันก็ไม่ดื่มหรอกค่ะ” มะลิฉัตรบอกอย่างไม่สนใจ‘อีตาบ้านี่ยิ่งหื่นๆ อยู่ด้วย’“ฮ่าๆๆ งั้นให้แก้วละหมื่นแล้วกัน” เลโอนาดท์บอกพลางหัวเราะชอบใจกับท่าทางของสาวเจ้า ที่เหมือนจะรู้ทันความคิดของตน“อะ... อะไรนะคะ” มะลิฉัตรเงยหน้าขึ้นถามอย่างไม่เชื่อหู“ฉันให้แก้วละหมื่น พอจะดื่มเป็นเพื่อนฉันสักแก้วได้ไหม” เลโอนาดท์เอ่ยก่อนจะส่งยิ้มยียวนไปให้อย่างท้าทาย“สัญญานะว่าถ้าฉันเมาแล้วคุณจะไม่ลวนลามเหมือนตอนกลางวัน” คนที่ปฏิเสธในตอนแรก รีบขอคำมั่นด้วยหัวใจสั่น‘แม่เจ้า! แก้วละหมื่น รวยอย่างเดียวพูดไม่ได้นะเนี่ย’“ฉันสัญญา! เอาเลขบัญชีเธอมาได้เลย ฉันจะโอนเข้าให้ทุกครั้ง ที่เธอดื่มหมดแก้ว โอเคไหม?”“สิบแก้วก็หนึ่งแสน!” มะลิฉัตรตาโตขึ้นมาทันใดเมื่อนึกไปถึงเงินแสน เธอรีบหยิบมือถือออกมาเปิดหารูปหน้าบัญชีที่เคยถ่ายเอาไว้ แล้วส่งให
“เห็นแต่ข้างหลังเนี่ยนะ?” เจซีว่าก่อนจะก้มลงมองมือถือต่ออย่างไม่สนใจ“สวยมากจริงๆ นะพี่ เสียดายที่บอสไม่มาด้วย แหม! อยากให้ได้เห็นจริงๆ”“มึงก็ถ่ายรูปพวกเธอส่งไปให้บอสสิวะ!” เจซีบอกอย่างเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมานิดๆ“เป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยพี่” จอห์นบอกก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋าขึ้นมาเตรียมเก็บภาพของสองสาว“ฮ่าๆๆ เอาที่มึงสบายใจนะ กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” เจซีส่ายหน้าอย่างเพลียๆ กับท่าทางซื่อแกมโง่ของลูกน้อง ‘หึ! ลองส่งไปดูสิ!เดี๋ยวมึงจะรู้สึก’“เดินดีๆ นะพี่” จอห์นตะโกนตาม ก่อนจะหันมาสนใจสองสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เพื่อดักรอถ่ายรูปส่งให้ผู้เป็นนายดูสิบนาทีต่อมา... ขณะที่เจซีเดินออกจากห้องน้ำมาได้เพียงสองก้าว มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้น เขาจึงล้วงมันออกมาดู ก็เห็นสายของผู้เป็นนายโทร. เข้า จึงรีบเดินแกมวิ่งออกไปที่ด้านนอกร้าน เพื่อกดรับสาย“แกอยู่ไหน?” เลโอนาดท์ถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ“อยู่ที่หน้าร้านครับ!” เจซีบอก“ผู้หญิงที่ไอ้จอห์นมันถ่ายรูปส่งมาคือมะลิ! แกเฝ้าเธอให้ดีๆ จนกว่าฉันจะไปถึง!” เลโอนาดท์บอ
Bangkok 14:30 น. Rocasander Grand Hotel...หลังจากที่ลงเครื่องเสร็จโดมินิกก็พาพราวดาราตรงไปยังโรงแรมของเพื่อนรัก เพื่อเอาของสำคัญที่เก็บไว้ในเซฟห้องนอนตนเลโอนาดท์ที่เพิ่งกลับจากชลบุรีมาถึงโรงแรมทันได้เห็นหลังของเพื่อนรักไวๆ จึงรีบวิ่งตาม“ซาเก้! ซาเก้!”โดมินิกที่กำลังรอลิฟต์หันไปมองตามเสียง “อ้าว! ลีโอ”“นายมาเมื่อไหร่?” เลโอนาดท์ถาม“เพิ่งมาถึง! จะพาพราวมาเปิดตัวคืนนี้ พรุ่งนี้จะพาไปลองชุดไทย ที่ห้องเสื้อ” โดมินิกบอกพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามาแนบกาย“สวัสดีครับคุณพราว” เลโอนาดท์เอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มๆ“สะ... สวัสดีค่ะ” พราวดารายกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย ทำหน้าไม่ถูกเมื่อนึกไปถึงวันแรกที่เจอกับเขาที่โรงแรมเอื้องลานนา“ยินดีด้วยนะครับ” เลโอนาดท์บอก“เอ่อ... ค่ะ” พราวดาราเอ่ยรับไม่เต็มเสียง“ฉันว่าจะไปตามหามะลิที่เชียงใหม่น่ะ” เลโอนาดท์หันไปบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มตึงนิดๆ“ผู้หญิงคนนั้น?” โดมินิกถามพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด“ใช่! เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าววันนั้น” เลโอนาดท์ตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“เอ่อ... เรื่องนี้ดิฉันไม่ทราบค่ะ ยังรอมะลิติดต่อกลับมาบอกเช่นกัน” จันทร์ฉายบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ“ทำไมถึงเกิดเรื่องบ้าๆ แบบขึ้นได้ฮะ” เมลิซ่าหันไปเล่นงานบุตรชาย“ผมทะเลาะกับมะลิก็เลยลงไปนั่งดื่มที่คลับชั้นล่างของโรงแรม แล้วอยู่ๆ นางแบบนั่นก็เข้ามานั่งด้วย” เลโอนาดท์ถอนหายใจอย่างเพลียๆ เมื่อถูกซักไซ้ถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นอีกครั้ง“แล้ว...” เมลิซ่าเลิกคิ้วถามอย่างต้องการรายละเอียด“แล้วผมก็ลุกเดินหนีขึ้นไปที่ชั้นบนไงครับ” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ หลังจากถูกมารดาถามเหมือนกับคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน“ตอนนั้นหนูมะลิอยู่ที่ไหน?” เอเดนถามอย่างสงสัย“ที่ห้องนอนของผมครับ”“แล้วเธอหายไปได้ยังไงโดยที่ลูกไม่รู้” เมลิซ่ายิงคำถามต่อ“โธ่! นี่มัมไม่เชื่อใจผมใช่ไหม ถึงถามเหมือนจับผิดผมแบบนี้น่ะ” เลโอนาดท์ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ“แม่ไม่ได้จับผิด แต่อยากจะรู้ทุกๆ อย่าง คุณจันทร์เองก็คงอยากจะรู้ใช่ไหมคะ?” เมลิซ่าบอกพลางหันไปขอความเห็นจากอีกฝ่าย“เอ่อ... ค่ะ” จันทร์ฉายตอบไม่เต็มเสียง“งั้นฟังนี่แล้วช่วยตัดสินผมใหม่ด้วยนะ
วันต่อมา เวลา 10:27 น. Rocasander Grand Hotelที่ห้องรับรองของโรงแรมหนาแน่นไปด้วยนักข่าวจากหลากหลายสำนัก ที่มารอทำข่าวของหัวเรือใหญ่ โรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น คนปัจจุบัน ที่เป็นข่าวฮ็อตหน้าหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน“ได้ข่าวว่าครอบครัวของคุณเลโอนาดท์ กับครอบครัวของคุณโดมินิกเดินทางมาถึงไทยเมื่อวานใช่ไหมครับ” นักข่าวเปิดคำถามแรกอย่างไม่รอช้า“ครับ! พวกท่านเดินทางมาสู่ขอเจ้าสาวให้กับโดมินิก” เลโอนาดท์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“คุณโดมินิกกับคุณพราวดารามีกำหนดจะหมั้นหมายกัน ในอีกห้าวันข้างหน้าใช่ไหมครับ?”“ครับ! ที่เชียงใหม่ โรงแรมเอื้องลานนา”“แล้วคุณเลโอนาดท์ล่ะครับ ใกล้จะมีข่าวดีหรือยัง?”“ก็น่าจะไล่ๆ กันครับ” เลโอนาดท์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ“พอจะเปิดเผยได้ไหมครับว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใคร ใช่นางเอกดังหรือเปล่าครับ?”“ไม่ใช่ครับ!”“แต่จากรูปที่เห็นวันก่อนในไนต์คลับ ทำให้ใครๆ ต่างคิดว่าคุณเลโอนาดท์กับคุณเชอร์รี่กำลังคบกันอยู่นะครับ”“เธอเข้ามานั่งคุยกับผมครับ มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาทีก่อนที่ผมจะลุกออกไป”
ชั้นบนสุด... โรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์“บอสครับ! บอส!” เจซีเอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อให้รู้สึกตัว“มีอะไร?” เลโอนาดท์หันมามองคนสนิทแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองทางเดิม“ผมสั่งอาหารเอาไว้! บอสลุกมาทานก่อนเถอะครับ”“ฉันยังไม่หิว!”“แต่บอสต้องทานอะไรบ้างนะครับ”“ฉันบอกว่าไม่...” เลโอนาดท์กำลังจะหันไปต่อว่า แต่ก็ตกใจที่เห็นบิดากับมารดาเดินเข้ามาด้านหลังของคนสนิท “แด๊ด! มัม”“เกิดอะไรขึ้น? เธอคนนี้ใช่ไหมที่ทำให้ลูกเปลี่ยนไป”เมลิซ่าถามพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้บุตรชาย ที่มีสภาพเหมือนสิงโตที่ตายซากมานับเดือน“ไม่ใช่ครับ” เลโอนาดท์รับหนังสือพิมพ์มาดูก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะใกล้ๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิด“งั้นคนไหน?” เมลิซ่าถามอย่างสงสัย“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”“หมายความว่า...” เอเดนถามพลางจ้องมองบุตรชายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะโทรมไปได้ถนัดตา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน“เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าวนั่นครับ” เลโอนาดท์บอก“ก็สมควรนะ” เมลิซ่าบอกลูกชายตัวดี ด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน“โธ่! มัมครับ!”
13: 20 น. หน้าหอพักของอริน... (เชียงใหม่)“มะลิ!” อรินเอ่ยทักทายเพื่อนด้วยน้ำเสียงสดใส หลังจากที่รับสายของอีกฝ่ายเมื่อครู่ว่าใกล้จะมาถึง เธอจึงรีบวิ่งลงมารอที่หน้าหอ“ริน!” มะลิฉัตรลงจากรถเสร็จก็โผเข้าไปกอดเพื่อนอย่างดีใจ“ไม่เจอแค่สองเดือนสวยขึ้นเยอะเลยนะนี่” อรินเอ่ยแซวยิ้มๆ“บ้า! เธอสบายดีไหม?” มะลิฉัตรถามก่อนจะดันเพื่อนสาวออกมามองอย่างสำรวจ“สบายดีจ้ะ ว่าแต่พาแฟนมาด้วยเหรอ?” อรินมองเลยไปยังหนุ่มร่างสูงมาดเท่ที่ยืนด้านหลังอย่างสนใจ“ไม่ใช่สักหน่อย!” มะลิฉัตรส่งสายตาดุๆ ให้เพื่อนสาว ก่อนจะหันไปแนะนำคนที่มาด้วย “นี่ผู้กำกับฯ คเชนทร์จ้ะ พอดีเจอกันโดยบังเอิญ คุณคเชนทร์เลยอาสามาส่ง”“สวัสดีค่ะผู้กำกับฯ” อรินรีบยกมือไหว้ ‘แม่เจ้า! ผู้ชายอะไรหุ่นเพอร์เฟ็กต์สุดๆ ไปเลย’“สวัสดีครับคุณริน!” คเชนทร์ทักทายสาวร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดพนักงานต้อนรับของโรงแรมเอื้องลานนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผู้กำกับการหนุ่มพูดกับสองสาวต่ออีกครู่ก็ขอตัวกลับ อรินจึงพามะลิฉัตรหิ้วของเดินขึ้นห้องพักอย่างไม่รอช้าทันทีที่เข้ามาในห้องพัก มะลิฉัตรถึงกับยิ้มกว้างอย่างชอบใจ กับการตกแต่งห้องพักของเพื่อนสาว“ว้าว! ห้องสวยจัง” ม
เช้าวันต่อมา... (ไร่สิรันยากรณ์)ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูห้องนอนรัวๆ ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่ลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปยังประตูด้วยท่าทางที่งัวเงีย“คุณเป็นคนให้ข่าวนี่ใช่ไหม?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ ‘ไอ้บ้านี่ไปขุดรูปของเธอเมื่อสามปีก่อนมาจากไหนนะ!’“ข่าวอะไรเหรอพราว!” โดมินิกถามก่อนจะสะบัดหัวไปมาอย่างมึนๆ“ก็ข่าวนี่ไงล่ะไอ้คนบ้า!” พราวดาราบอกพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้กับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตึงๆ“โอ้พระเจ้า!” โดมินิกตกใจนิดๆ ที่เห็นรูปของตนกับรูปของสาวเจ้าขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ‘ข่าวรั่วไปได้ยังไงวะ’“อย่ามาทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องนะ” หญิงสาวต่อว่าคนที่ทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวายไปหมดตั้งแต่ที่ได้เจอกับอีกฝ่าย“ผม...”“คุณควรจะส่งฉันลงที่ไหนก็ได้สักที่ แต่คุณกลับพาฉันมาส่งที่บ้าน แล้วก็สร้างเรื่องขึ้นมากมายจนพ่อและแม่ของฉันเชื่อซะสนิทใจ ฮึก! แล้วคุณยังทำลายชีวิตฉันด้วยการลงข่าวบ้าๆ นี่อีก ฮึก! คุณมันเลวสุดๆ เลยรู้ตัวไหม!” พราวดาราต่อว่าไปยกมือขึ้นปาดน้ำตาไปอย่างรู้สึกเจ็บปวด“เฮ้! พราว ข่าวนี้มันเรื่องเล็กมากเลยนะคนดี”“คุณบอกว่าเรื่องเล็กอย่างนั้นเหรอ ไอ้คนบ้า ฮือๆๆ” พราวดาราต่อว่าพลางร
ตู๊ดๆๆๆ“ปิดเครื่อง!” เธอบอกพร้อมกับส่งมือถือให้อีกฝ่ายดู“บ้าจริง!” ธีรติเผลอสบถออกมาอย่างหัวเสีย“เกิดอะไรขึ้นบอกฉันมานะ เพื่อนฉันเป็นอะไร!” พิมาลาถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“โทร. หาแม่คุณ! แล้วถามว่ามะลิฉัตรอยู่ที่ชลบุรีไหม”“มันเกิดอะไรขึ้น!” พิมาลาถามอีกครั้งอย่างทนไม่ไหว“ทำตามที่ผมบอกพิ!” เขาบอกด้วยสีหน้าตึงๆพิมาลาเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รีบกดโทร. หามารดาตามที่อีกฝ่ายบอก เสียงรอสายดังขึ้นเพียงสองครั้ง ปลายสายก็กดรับ“แม่คะ! มะลิอยู่กับแม่ไหม”“ไม่! มะลิจะมาหาแม่งั้นเหรอ?”ปลายสายแกล้งถาม และเดาสถานการณ์ออกว่าตอนนี้ทางนั้นคงกำลังตามหาตัวของบุตรสาวอยู่“อะ...โอเคค่ะ เดี๋ยวพิโทร. กลับ!” พิมาลาบอกก่อนจะกดวางสายแล้วหันมาถามคนตรงหน้า ที่เอาแต่ถามและสั่งนู่นสั่งนี่ แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลใดๆ กับเธอ“มะลิไม่ได้อยู่ที่ชลบุรี! ทีนี้คุณช่วยบอกฉันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น”“มะลิหนีไป” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเพลียๆ กับสายตาของสาวเจ้าที่จ้องมองมายังตน“หนี! ทำไมมะลิต้องหนีด้วยล่ะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ“เรื่องมันซับซ้อนน่ะพิ! คุณไปใส่เสื้อผ้าแล้วมากับผม!”“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าคุณไม่บอกมาว
“บ้าจริง! มะลิเห็นข่าวนี่ไหม?” เลโอนาดท์จ้องมองรูปของตนกับนางเอกดังเมื่อคืนอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะหันไปถามธาริณีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“ดิฉันไม่ทราบค่ะ”“เพราะนี่ใช่ไหมที่ทำให้มะลิลาออก” เลโอนาดท์ถามอีกครั้งเพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้เรื่องนี้ดี“ท่านน่าจะถามตัวเองมากกว่านะคะ ว่าทำไม?” ธาริณีย้อนพร้อมกับยิ้มให้ผู้เป็นนายอย่างท้าทาย“อย่ามากวนผม! ไปตามมะลิมาเดี๋ยวนี้!” เลโอนาดท์ตวาดเสียงดังลั่นอย่างหัวเสีย เมื่อถูกแม่บ้านที่ดูแลตนเป็นประจำใช้สายตาและน้ำเสียงที่แปลกไปจากเดิม“ดิฉันเสียใจค่ะท่าน ดิฉันไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหน” ธาริณีบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน“อย่ามาโกหก! คุณรู้ว่ามะลิอยู่ที่ไหน บอกมา! ไม่งั้นผมจะไล่คุณออก”“ท่านไม่ต้องไล่ค่ะ ดิฉันขอลาออกเอง” ธาริณีบอกพร้อมกับดึงป้ายชื่อหัวหน้าแผนกทำความสะอาดวางลงบนโต๊ะอย่างไม่แยแส“คุณณี!” ธีรติเรียกอย่างตกใจ มองสถานการณ์อย่างมึนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมธาริณีถึงแสดงท่าทีไม่พอใจผู้เป็นนายอย่างเห็นได้ชัด“นี่เธอ...” เลโอนาดท์กำลังจะพูดแต่กลับถูกอีกฝ่ายขัดขึ้น“ดิฉันหลงคิดว่าท่านรักมะลิจริงๆ ซะอีก ที่ไหนได้! ที่แท้ท่านมัน ก็แค่ผู้ชายเห็นแก่ตัว