ชลชล ก้มลงงับ ขาหมูในถาดใหญ่อย่างเอร็ดอร่อย
จ้านกง เดินออกมาจากห้องของ หลงตี้ หยุดยืนที่ชลชลกินขาหมูอยู่มือใหญ่ไวเท่าความคิดปัดถาดขาหมูร่วงกระจายลงพื้น
ตู้กังวิ่งเข้ามาทันที ชลชลอ้าปากค้างหูตกหางตก
“ใต้เท้าจ้านกง ใต้เท้าเสี่ยวเปาเกิดอะไรขึ้น”
“เจ้าหมานี่ กระโจนใส่ข้าจน ขาหมูในถาดหกเสียสิ้น”
หลงตี้ ก้าวขาออกมายืนมอง ชลชลที่ทำปากขมุบขมิบ
“ตอแหลปานระพีทำไมนายมันตอแหลอย่างนี้ ถ้าหากรู้ว่าเป็นฉันนายจะกล้าตอแหลไหม เดี๋ยวกัดเนื้อหลุดเลย”ไม่มีใครได้ยินนอกจากหลงตี้คนเดียว
“เสี่ยวเปา”หลงตี้ได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน ผิวปากพร้อมกับเรียกชลชล
“ฝ่าบาทเห็นไหมหมอนั่นตอแหล เขาเป็นคนปัดถาด ขาหมูของข้า”
“ตอแหล” พึมพำเบาๆ จ้านกงขมวดคิ้วสงสัยกับ สิ่งที่หลงตี้พูด
“โกหกคนอะไรโกหกเก่งที่สุด”
“เสี่ยวเปากลับเข้าไปในห้อง ตู้กังไปนำขาหมูมาให้เสี่ยวเปาในห้อง คงยังไม่ทันอิ่ม”
“ฝ่าบาท หมาแบบไหนกันที่มีโอกาสกินขาหมูเป็นถาดๆ แทนอาหารเหลือจากห้องเครื่อง”
จ้านกงพูดขึ้น ชลชลเบ้ปาก ปานระพี นิสัยแท้จริงของเขาก็แบบนี้ ชลชลไม่เข้าใจว่าคนที่ชอบวางท่ากับชอบบูลลี่คนอื่นทำไมชลชลถึงไปชอบเขาได้ ตอนนี้ยังนึกน้อยใจกับคำพูดของจ้านกงที่บังเอิญหน้าเหมือนปานระพี แต่คำพูดของจ้านกงกง ที่หน้าเหมือนปานระพีนี้ทำให้เกิด ความขุ่นเคืองได้ไม่น้อย
“อย่าเผลอเชียวจะกัดให้จมเขี้ยว”
“เสี่ยวเปา เข้าไปข้างใน”หลงตี้ตวาดลั่นชลชลกระโจนพลวดเลียหน้าของหลงตี้ เอาสิจะกล้าทำอะไรไหม เลียหน้าเลียปากกระดิกหาง ยิ้มที่หู หลงตี้ส่ายหน้าไปมา อุ้มชลชลไว้ในอ้อมแขน
“เจ้าหมาบ้า ลามเป็นอะไรเลย ฝ่าบาทคงตามใจมันจนเคยตัว”
“โฮ้ง โฮ้ง โฮ้ง โฮ้งโฮ้ง (ไม่ใช่กงการของเจ้า) ”หลงตี้ ยิ้มสดใสด้วยความลืมตัว
“ไม่เอาน่าเสี่ยวเปา ข้าไม่ดุแล้วเข้าไปข้างในก่อนเดี๋ยวตู้กังก็เอา ขาหมูมาให้เจ้าอีกถาด”
ชลชล กระโดดลงจากอ้อมแขนยืนสองขา ลิ้นห้อย หูตก หน้ายิ้ม หลงตี้ส่ายหน้ายิ้มๆ ชลชลวิ่งแน่บเข้าไปในห้องทันที
กินขาหมูไปก็ได้คิดไป
เดิมปานระพีเป็นหนุ่มฮอต สาวๆ รุมล้อมหนุ่มๆ รุมตอมเขาทำตัวไม่สนใจใครวันๆ เล่นแต่บาส เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่บางสายตาที่เขามองคนอื่น มีความเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด
“อิ่มแล้ว”ตู้กังหันมาเมื่อได้ยินเสียงแว่วๆ
“ตู้กัง”
“ขอรับ” หันหน้าหันหลัง ประมาณว่าใครกำลังเรียก ชลชลยิ้มแสดงว่าตู้กังได้ยินที่เขาพูดไม่ชัดเจนเท่าไหร่
“ตู้กัง”
“หูฝาดไปแน่เลย ใต้เท้าเสี่ยวเปาอย่าทำเสียงแปลกๆ แล้วทำไมไม่กินหรือว่าอิ่มแล้ว”
ก็อิ่มแล้วดิ ก่อนหน้านั้นก็ถาดหนึ่ง กินเกือบจะหมดถ้าคนตอแหลคนนั้นไม่มาผลักถาดร่วงกับพื้นเสียก่อน
คนตอแหล นี่ชลชลโมโหอะไร จ้านกงหนักหนาหรือว่าเพราะจ้านกงมีใบหน้าเหมือนกับปานระพีเลยส่งผลให้ชลชลงอนเขาไม่พอใจเขา ไม่สิ หลงตี้ที่อบอุ่นอ่อนโยนต่างกันลิบลับกับปานระพี แต่ทำไมชลชลกลับไปชอบปานระพีได้ ทั้งๆที่หลายคนที่สนิทสนมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปานระพีนิสัยแย่ หรืออาจเป็นเพราะความรักบังตาเหมือนเขาว่า ..ความรักทำให้คนตาบอด
ไปสอดแนมอิ่มแล้วออกไปสอดแนม สอดแนม ชลชลเริ่มรู้สึกขัดแย้งในใจ ใจหนึ่งรู้สึกว่าจ้านกงมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลแต่อีกใจกลับอยากเห็นหน้าเขา ไม่สิเขามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลนั่นล่ะสิ่งที่ ชลชลจะต้องไปสอดแนม เพื่อ ..เพื่อ หลงตี้ ผู้ใสซื่อและอบอุ่นคนนั้น
แล้วจะต้องไปตรงไหน สูดดมกลิ่นของจ้านกง แต่ได้กลิ่นแปลกๆ ลอยลมมาไม่ไกลนัก หางชี้หูตั้ง วิ่งแน่บไปยังต้นตอของกลิ่น
“จ้านกงกลับมาแล้ว ข้าสงสัยแต่แรกแล้วว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา การตายของเขาช่างง่ายดายจนข้าสงสัย ปกติจ้านกงเป็นคนที่ มีอุปนิสัยดุดันเฉียบขาดแต่นี่กลับอ่อนปวกเปียก"ใต้เท้าหลัว พูดขึ้นเบาๆ กับคนใกล้ชิด
“ใต้เท้าแล้วจะจัดการอย่างไรกับ จ้านกงผู้นั้น”
ชลชลเดินหนีไม่สนใจจะฟัง ไม่ได้จัดการกับหลงตี้เสียหน่อยจะจัดการกับจ้านกงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับชลชล ที่พึ่งสุดท้ายแบบหลงตี้ก็จะปลอดภัย….แต่ๆ เดี๋ยวก่อน“จัดการ หลงตี้เสียก่อน จ้านกงผู้มุทะลุนั่นหากไม่มีหลงตี้หนุนหลังก็คงเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งเหมือนเจ้าหมาเสี่ยวเปาตัวนั้นไม่อาจทำอะไรพวกเราได้”นี่ชลชลเป็นอะไรไปทำไมรู้สึกสงสารหลงตี้ ทำไมรู้สึกสมน้ำหน้าจ้านกง“ส่งมือสังหารไปอีกครั้ง ไม่ว่าจะกี่ครั้งหลงตี้ก็ไม่มีทางสืบหาหรือไต่สวน”ทำไม ทำไมไม่ไต่สวน น่าสงสัย ต้องสืบ“แปลกใจเหตุใดหลงตี้ไม่ยอมไต่สวนเรื่องมือสังหาร”คนสนิทถามเหมือนรู้ใจชลชล"หลงตี้ เดิมเป็นคนที่ไร้ปากเสียงไม่นิยมความยุ่งยากมารดาที่เป็นสนมเลี้ยงดูด้วยความรักและอ่อนโยนเขาจึงกลายเป็นคนที่ไม่ชอบมีปัญหากับใคร""ใต้เท้า"เจ้าหมานั่นแอบฟังเรา"ฉิบหายแล้ว เ_ือกเห็น วิ่งแน่บหางจุกตูดด้วยความไวกว่าแสง ชนเข้ากับร่างสูงของ จ้านกง"ไอ้หมา เ_ร"เงื้อมือขึ้นตั้งใจจะฟาดมือลงบนแผ่นหลังปุกปุยของชลชล""หวีดหวิววว"หลงตี้ผิวปากชลชลกระโจนพรวดเดียวไปยืนเกาะขาหลงตี้สองขาหน้าอยู่ที่อกแน่น แล้วไอ้อาการนี้ อาการดีใจจนออกนอกหน้า มันไม่ใช่นิสัยของชลชล"พอแล้
จวนแม่ทัพ"ท่านหมอ ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง"รั้งหมอหลวงไม่ให้ออกมาจากห้องให้ตรวจดูอาการของตัวเองผ่านไปถึงสามชั่วยาม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพบาดแผลฉกรรจ์ยิ่งนัก อีกทั้งน้ำลายของ สุนัขเสี่ยวเปา ที่ปนไปด้วยอาหารคาวหวานยิ่งส่งผลให้บาดแผลยิ่งรุนแรง""ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ""คมเขี้ยวของสัตว์เมื่อต้องผิวเนื้อของมนุษย์มักจะทำให้บาดแผลยากหาย ฝ่าบาทสุนัขทรงเลี้ยงตัวนั้นอาจมี อาการคลุ้มคลั่ง ฝ่าบาทคงต้องจัดสรรที่อยู่ของสุนัขเสี่ยวเปาให้ดี"หลงตี้ถอนหายใจ ปกป้องชลชลก็ยิ่งจะทำให้จ้านกงไม่พอใจ ในใจรู้ดีว่าจ้านกง เป็นคนเช่นไรที่แสร้งทำเป็นดุชลชลเพราะไม่อยากให้จ้านกงเคียดแค้นเช่นนั้นเขาจึงไม่อาจปกป้องชลชลได้คนอย่างจ้านกง ทำเรื่องเลวร้ายไม่มีทางรู้ได้หากเขาไม่อยากให้รู้"ท่านต่อไปไม่ต้องไปที่ตำหนัก ข้าจะมาหาท่านที่นี่""ฝ่าบาทห่วงใยข้าหรือว่ากลัวว่าข้าจะไปเอาเรื่องสุนัขอ้วนตัวนั่น""เสี่ยวเปาพักนี้ไม่รู้เป็นอะไร ข้าห่วงว่าท่านแม่ทัพจะถูกเสี่ยวเปากัดเอาอีก ข้าอยากจะขอร้องไม่อยากให้ท่านต้องลำบาก""ก็ได้ จ้านกงรับบัญชาต่อไปจะไม่ไปที่นั่นหากไม่จำเป็น"แต่ภายในใจกลับคิดว่า เสี่ยวเปาเจ้าหมาโง่ก็อย่าได้ออกมาเพ่นพ
วิสัยสุนัขท้องร้องจ้อกแจ้กเมื่อพบของกินแต่ไม่ยอมขยับตัวยังนอนแบบนั้น"เสี่ยวเปาวันนี้ข้าเอาให้เขานำขาหมูมาเผื่อเจ้าด้วย"หูผึ่งหางชี้ เก็บอาการไว้เก็บอาการ อย่างน้อยก็ห้ามใจไม่ให้ตัวเองลุกขึ้นล่ะวะจ้านกงหันไปยิ้มกับหลงตี้"เมื่อคืนข้าลองทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในเมื่อฝ่าบาทโปรดปราน เสี่ยวเปา เพียงนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าจากไป ข้าจึงคิดว่าจะมาเห็นแก่ตัวไม่ให้ฝ่าบาทสนใจเสี่ยวเปากลับมาสนใจข้าเพียงคนเดียวก็จะแย่ไปหน่อย เช่นนั้นข้าจึงมาผูกมิตรกับเสี่ยวเปา""ตอแหลดูตาของนายสิจ้านกง ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อยไม่รู้ในนั่นจะใส่ยาถ่ายไว้หรือเปล่าไม่สินิยายจีนโบราณต้องใส่ยาพิษ มันต้องมีพิษแน่นอนเอื้อกกกก"อาหร่อย...น้ำลายไหลชลชลนอนบ่นไปกลืนน้ำลายลงคอไป แต่ที่ทุกคนเห็นคือ เสี่ยวเปาที่นอนนิ่งลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ให้ใครจับสังเกตได้"ไม่เป็นไรเจ้าค่อยๆ กินไปเสี่ยวเปาอาจยังเวลาเช้าอยู่จึงยังไม่หิว"หันหลังกลับไปยิ้มให้กับหลงตี้"ฝ่าบาทยังจำได้ไหม ปลานึ่งซีอิ๋ว ที่ฝ่าบาทโปรดปราน จ้านกงลงมือปรุงเองกับมือ"ชลชลตัวชา ภาพความทรงจำก่อนหน้านั้น ปลานึ่งซีอิ้วใต้แสงเทียนมองผ่านไวน์ขาวไปยังใบหน้าหล่อเหลาของปานระพี
"เจ้าหมานั่น มีบางอย่างที่ทำให้ข้าแปลกใจไม่น้อย""ท่านแม่ทัพก่อนหน้านั้น ผู้คนต่างพูดกันว่าฝ่าบาททดท้อใจจนไม่เป็นอันทำอะไรเมื่อท่านแม่ทัพจากไป มาบัดนี้ ข้าน้อย.. ข้าน้อยรู้สึกว่าฝ่าบาทไม่สู้ยินดียินร้ายเท่าไหร่กับการกลับมาครั้งนี้ของท่านแม่ทัพมีเพียงตอนแรกที่พบกันเท่านั้นที่แสดงถึงความดีพระทัย""ตอนแรกข้าก็คิดว่าฝ่าบาทอย่างไรก็มีข้าอยู่ในใจเสมอแต่ตอนนี้นอกจากเจ้าหมานั่น ฝ่าบาทไม่สนใจใครอื่น""มีเสียงเล่าขานว่าเจ้าหมานั่นเป็นจิ้งจอก ที่กลายร่างมาเพื่อบงการฝ่าบาทแม้กระทั่งใต้เท้าหลัวยังต้องยอมให้กับสุนัขตัวนั้น"จ้านกงถอนหายใจ""จิ้งจอก อืมน่าคิดปรึกษาท่านนักพรตให้จัดการกับจิ้งจอกคงจะดีไม่น้อย"โลกปัจจุบัน"พี่ชล พี่ชล ฟื้นสิฟื้นเดี๋ยวนี้"น้องสาวร้องไห้จนตาบวม"พี่เขาพักผ่อนอยู่ธารธาร (ทาระทาน) หยุดเกเรพี่เขาได้แล้ว""ไม่จริงคุณแม่โกหกพี่ชลเขาไม่ได้พัก"ร้องไห้สะอึกสะอื้น"ธาร จะคอยดูพี่เขาแบบนี้จนกว่าพี่เขาจะพื้น""พี่ระพีเขารีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการพี่ชล ธารกลับพร้อมแม่ให้พี่ระพีเขาคอยดูแลพี่ชลดีกว่า""ไม่เอาหนูไม่ไว้ใจพี่ระพี""พี่เขาเป็นเพื่อนกันอีกอย่างพี่ระพีเขาก็ดีกับพี่
"ไม่ได้พบกันแค่เพียงปีเดียว ดูเจ้าสิ องค์หญิงเจ้าบัดนี้ติดตราตรึงใจจ้านกงยิ่งนัก”ด้วยเพิ่งจะเข้าสู่วัยสาว เจียจิว จึงไม่เคยต้องมือชายหัวใจดวงน้อยสั่นไหวจนน่ากลัว“ท่านแม่ทัพ อย่าล้อเจียจิวเล่น”“ไม่สิ เจ้างดงามเกินใคร คนอย่างจ้านกง จะกล้าล้อเจ้าเล่นหรือไร ก้มลงจรดริมฝีปากที่ริมฝีปากบางเบาๆ เจียจิวตัวสั่นงันงกทำอะไรไม่ถูกมือไม่เย็นเฉียบ“เห็นหรือไม่ว่าข้าพูดจริงองค์หญิงงดงามจนข้าไม่อาจห้ามใจ” ดันร่างเล็กจนไปติดกับต้นไม้ใหญ่ ก้มมองสบตากลมที่มีแต่แววตาเขินอาย“กลับมาครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งนักพบกับองค์หญิงที่งดงามขึ้นผิดหูผิดตา จ้านกงคงต้องมององค์หญิงเสียใหม่”“ท่านแม่ทัพปากหวานยิ่งนัก”“องค์หญิงจ้านกงไม่เคยล้อท่านเล่น หวังว่าองค์หญิงจะเมตตา”เจียจิว อ่อนระทวยทั้งใจและกาย จ้านกงซ่อนยิ้มในหน้า สำเร็จในเมื่อหลงตี้ไม่ใส่ใจเขายังมีเหยื่อที่โง่งมเช่นเจียจิวให้เลือกเฟ้นชลชลในร่างมนุษย์หอบผ้าห่มลงไปที่พื้นด้านล่าง อดที่จะเหลือบตามองร่างเปลือยท่อนบน อกแน่นกล้ามเป็นมัดที่กำลังจะทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนหนาเสียไม่ได้“มาตรงนี้”ตบข้างๆ แท่นนอน“ไม่เอา ฝ่าบาทนอนไปเถอะข้าแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง นอนด้านล่างดีแค่ไห
จวนใต้เท้าหลัว“มือสังหารมือดี มาถึงหรือยัง”“ขอรับใต้เท้า”“ดี เร่งมือ ให้เร็วที่สุดไม่มีเวลาแล้วหลายวันมานี้ จ้านกงกลับมาส่งผลให้ฝ่าบาทกระปรี้กระเปร่า และยังหันมาสนใจเรื่องราวในราชสำนัก ข้าตั้งใจทำสิ่งใดก็ต้องระงับยับยั้งไว้ก่อน”“ใต้เท้า ท่านแม่ทัพจ้านกง ขอพบท่าน”ใต้เท้าหลัวขมวดคิ้ว“เชิญเขาเข้ามา” จ้านกงไม่รอให้เชิญก้าวขาเข้าไปข้างในทันที“ท่านแม่ทัพไม่เจอกันเสียนานไม่คิดว่าท่านจะเปลี่ยนข้าง”“ใต้เท้า ข้ามาครั้งนี้ ตั้งใจมาผูกมิตรกับใต้เท้า”ใต้เท้าหลัว ยิ้มแต่ทว่าภายในใจหาเชื่อคำพูดของจ้านกงไม่“ว่ามา”“ข้า มีข้อเสนอ”ใต้เท้าหลัวเลิกคิ้วสูง“ข้อเสนอของท่านแม่ทัพเกรงว่าจะไปกันกับสิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้”“ใต้เท้าลองฟังดูก่อนบางที อาจ ดีกว่าที่ใต้เท้าคิดไว้”“ได้ เชิญท่านแม่ทัพ”“ท่าน ช่วยข้า ข้าช่วยท่านบัลลังก์เป็นของข้า การคลังเป็นของท่าน อีกทั้งการจัดเก็บภาษี ทั้งหมดข้ายกให้ท่านเพียงผู้เดียว” ใต้เท้าหลัวยิ้ม พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ“ดี พูดได้ดี เอาตามนี้ คราวนี้บอกมาจะให้ข้าช่วยอะไร”“ช่วยสังหารคนข้างกายฝ่าบาทให้ข้า”"เหล่าขุนนางต่างถวายฎีกา กดดันให้ฝ่าบาทมีความขัดเจน""ความชัดเจน ข้าอ
“หา ฝ่าบาทจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ใต้เท้าหลัวเป็นที่เคารพนับถือเป็นถึง เสนาบดีแล้วยังเป็นผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ฝ่าบาทสั่งลงทัณฑ์ เหมือนกับใต้เท้าเป็นขันทีหรือนางกำนัลเป็นการลดเกียรติ...ของใต้เท้าหลัว”หลงตี้ยิ้ม“ดี คุกเข่าไม่เหมาะกับ ตำแหน่งเช่นนั้นข้าขอสั่งให้ลดเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน ต่อไปใครไม่มาประชุมขุนนางหนึ่งครั้งไม่ต้องจ่ายเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน”“ฝ่าบาท กว่าปีมานี้ฝ่าบาทก็ไม่เคยเข้าประชุมขุนนาง”“ตบปาก ตบปากเลย พูดชี้นำคนอื่นดีนัก”ชลชลส่งเสียเบาๆ ในลำคอหลงตี้ส่ายหน้า ไม่ทำให้เห็นก็จะไม่มีใครกลัวที่ผ่านมาเขาใจดีเกินไป“ดี องครักษ์จับตัวคนพูด มาตบปาก”องครักษ์หันหน้าหันหลัง“องครักษ์ไม่ได้ยินพระบัญชาหรือไร”ซินอ๋องตวาดดังๆ“โฮ้งโฮ้ง แฮร่ๆๆๆๆ ”องครักษ์รีบจับตัวคนสอพลอต่อใต้เท้าหลัวมาข้างหน้าตบปากไปสองสามที“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัยข้าน้อยสมควรตาย ต่อไปข้าน้อยไม่กล้าแล้ว”ทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นแค่สองสามทีก็ถึงกับทรุดได้ผลไม่น้อย“ไม่ได้ให้ตาย แต่ก็ดีแล้วพูดมาแบบนี้ข้า จะได้รู้ว่าใครภักดีต่อข้าใครภักดีต่อใต้เท้าหลัว” จ้านกงเดินเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมกับเสียงปรบมือ“ยอดเยี่ยม ฝ่าบาทสมควรยิ่งแล้ว”ซินอ๋อง
“ท่านแม่ทัพ"ประตูเปิดออกดังนัดหมายก็นัดหมายนั่นล่ะ เจียจิวยอมเปิดใจให้แม่ทัพหนุ่มด้วย หลงคำหวานของเขาเข้าเต็มเปา ริมฝีปากอุ่นไม่พูดพล่ามกดปิดที่ริมฝีปากของเจียจิวไม่ทันให้ตั้งตัว“อุ๊ย ท่านแม่ทัพ”สีหน้าตื่นตกใจเเพราะไม่เคยถูกจู่โจมแบบนี้จากใครคนใดมาก่อน“คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงองค์หญิงเกินใคร” น้ำเสียงอ่อนหวานยิ่งนัก เจียจิวเขินอาย จ้านกงดึงมือเจียจิวเข้าไปในห้องปิดประตูทันที“ข้ากลัวว่าจะไร้วาสนาหากรอช้ากว่านี้ องค์หญิงจ้านกงต้องการท่าน”เจียจิวหลบตาเขินอาย“โฮ้งโฮ้งๆๆๆ ”เสียงเห่าดังลั่น หน้าประตู“โฮ้งโฮ้ง ๆๆๆๆๆ หงิงหงิงหงิงๆๆๆ ”“เจ้าหมาบ้านั่นมาได้อย่างไร”สีหน้าตื่นตกใจกลัวว่าหลงตี้จะมาด้วย“เอ่อเอ่อ เจียจิวมักจะให้เสี่ยวเปามาที่นี่ยามค่ำ”“เจ้าไล่มันกลับไปเลยข้า ไม่ชอบเจ้าหมานั่น”“แค่หมาตัวอ้วนตัวเดียว ท่านแม่ทัพจะโมโหทำไม”เดินไปเปิดประตู ชลชลวิ่งแน่บเข้าไปในห้อง หมุนตัวสามรอบก่อนจะนอนขดบนแท่นอนของเจียจิว“เจ้าเคยให้เจ้าหมานั่นขึ้นไปนอนบนแท่นนอนหรือไร”“ปกติ เสี่ยวเปาขึ้นไปนอนกับข้าเป็นประจำ”“โฮ่งโฮ้งโฮ่ง โฮ้งโฮ้ง (หมดอารมณ์เลยสิ) ”มองก็รู้สีหน้าสีตากำลังหื่นหิว หากมาช้ากว่านี้ ห
“ฝ่าบาท เจ้าสุนัขตัวนี้สร้างความปั่นป่วนในท้องพระโรงฝ่าบาทควรจะให้ใครนำตัวออกไปเสียก่อนตอนนี้มีเรื่องสำคัญต้องหาหรือ ฝ่าบาทเช่นไรถึงพระทัยดียิ่งนักให้สุนัขเข้ามาถึงในนี้”“แฮร่ ๆๆๆ ฮึ่มมม”ชลชลส่งเสียงขู่ ใต้เท้าหลัวที่พูดพาดพิง“เสี่ยวเปามานี่”ชลชลวิ่งแน่บกระดิกหางรัวเร็ว กระโดดขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ลิ้นห้อยหูตั้ง เมื่อไหร่จะเลิก ตื่นเต้นเวลาเจ้านาย ไม่สิคนหล่อเรียกเสียที หลงตี้ยกมือลูบศีรษะเบาๆ“ตู้กังนำเสี่ยวเปาไปที่ห้องเครื่องหาอะไรให้เสี่ยวเปาเป็นของกำนัลรองท้อง สายๆ ข้าจะไปรับที่นั่น”ชลชลยิ้มที่หูรู้ที่หาง ลิ้นห้อยน้ำลายไหล เป็นที่รู้กันว่างานสำเร็จไปแล้วหลงตี้รู้ตัวคนบงการแล้วต่อไปเป็นหน้าที่ของหลงตี้ที่จะต้องทำตามแผนการที่วางไว้กับชลชลเมื่อคืนทำให้อดนอน กันทั้งสองคนตกลงกันว่าจะตลบหลังคนบงการอย่างไร ชลชลเป็นคนวางแผนเสียทั้งหมดหลงตี้อดที่จะชื่นชม ชลชลเสียไม่ได้ สมกับที่เป็นจิ้งจอก อย่างที่หลงตี้เรียกแผนการรัดกุมยิ่งนัก“ใต้เท้าหลัวท่านคิดว่าข้าควรจะจัดการเช่นไรเรื่องนี้”ใต้เท้าหลัวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นทั้งๆ ที่ทำใจไว้แล้วว่าจะไม่แสดงพิรุธ“ฝ่าบาทสิ่งของเหล่านี้เป็นของมีค่าคว
"จากคนพวกนั้น พวกที่กำลังขนของมีค่าใส่ในเกี้ยว ฝ่าบาททำอย่างไรดี ด้านท้ายตำหนักมีคนกำลังขนของมีค่า คนผู้นั้นหน้าตาคุ้นแต่ข้าจำไม่ได้ว่าเคยเห็นเขาที่ไหน""ด้านท้ายตำหนัก"หลงตี้ขมวดคิ้ว ก้าวเดินไปที่ประตู ปิดประตูตำหนักตะโกนดังๆ"องครักษ์ส่งคน ไปที่ท้ายตำหนักและห้ามให้ใครเข้าออกวังหลวงจนกว่าข้าจะอนุญาต""คราวนี้บอกมาเจ้าไปทำอะไรที่นั่น""ฉันๆ ไปเดินเล่น"ขี้หดตดหาย หายปวดท้องไปเลยเจอเรื่องแบบนี้เข้า"ไปเดินเล่น ทั้งๆที่รู้ว่าจะกลายร่างทำไมยังออกไป หากไปกลายร่างต่อหน้าคนอื่นเจ้าจะปลอดภัยหรือไม่ห่วงตัวเองหรือไร"น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความโมโห"จริงด้วยลืมคิดไปเสียสนิทเพราะกลายร่างนี่แหละ ถึงต้องวิ่งแน่บกลับมาถ้าเป็นหมาคงไม่โดนสงสัยถึงจะไปเห็นเรื่องไม่ชอบมาพากลก็เถอะ""ข้าเป็นห่วงคราวหลังอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนหากเจ้าเป็นอะไรไปข้าคง ..ใจสลาย"คำสารภาพรักหรือไรหัวหน้าองครักษ์วิ่งกลับมาที่ตำหนัก“ฝ่าบาทไม่พบใครที่นั่นพบเพียงสิ่งของมีค่าควรเมืองมากมาย ที่ถูกลำเลียงใส่ไว้ในเกี้ยว ถึงสามหลัง”“ไวจริงๆ คงไหวตัวทันว่ามีคนมาเห็นจึงหนีไปเสียก่อน”“ใครกันทำเรื่องเช่นนี้”“อือใครกันทำเรื่องแบบนี้ ฝ่าบาทพรุ่งน
“ท่านแม่ทัพ"ประตูเปิดออกดังนัดหมายก็นัดหมายนั่นล่ะ เจียจิวยอมเปิดใจให้แม่ทัพหนุ่มด้วย หลงคำหวานของเขาเข้าเต็มเปา ริมฝีปากอุ่นไม่พูดพล่ามกดปิดที่ริมฝีปากของเจียจิวไม่ทันให้ตั้งตัว“อุ๊ย ท่านแม่ทัพ”สีหน้าตื่นตกใจเเพราะไม่เคยถูกจู่โจมแบบนี้จากใครคนใดมาก่อน“คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงองค์หญิงเกินใคร” น้ำเสียงอ่อนหวานยิ่งนัก เจียจิวเขินอาย จ้านกงดึงมือเจียจิวเข้าไปในห้องปิดประตูทันที“ข้ากลัวว่าจะไร้วาสนาหากรอช้ากว่านี้ องค์หญิงจ้านกงต้องการท่าน”เจียจิวหลบตาเขินอาย“โฮ้งโฮ้งๆๆๆ ”เสียงเห่าดังลั่น หน้าประตู“โฮ้งโฮ้ง ๆๆๆๆๆ หงิงหงิงหงิงๆๆๆ ”“เจ้าหมาบ้านั่นมาได้อย่างไร”สีหน้าตื่นตกใจกลัวว่าหลงตี้จะมาด้วย“เอ่อเอ่อ เจียจิวมักจะให้เสี่ยวเปามาที่นี่ยามค่ำ”“เจ้าไล่มันกลับไปเลยข้า ไม่ชอบเจ้าหมานั่น”“แค่หมาตัวอ้วนตัวเดียว ท่านแม่ทัพจะโมโหทำไม”เดินไปเปิดประตู ชลชลวิ่งแน่บเข้าไปในห้อง หมุนตัวสามรอบก่อนจะนอนขดบนแท่นอนของเจียจิว“เจ้าเคยให้เจ้าหมานั่นขึ้นไปนอนบนแท่นนอนหรือไร”“ปกติ เสี่ยวเปาขึ้นไปนอนกับข้าเป็นประจำ”“โฮ่งโฮ้งโฮ่ง โฮ้งโฮ้ง (หมดอารมณ์เลยสิ) ”มองก็รู้สีหน้าสีตากำลังหื่นหิว หากมาช้ากว่านี้ ห
“หา ฝ่าบาทจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ใต้เท้าหลัวเป็นที่เคารพนับถือเป็นถึง เสนาบดีแล้วยังเป็นผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ฝ่าบาทสั่งลงทัณฑ์ เหมือนกับใต้เท้าเป็นขันทีหรือนางกำนัลเป็นการลดเกียรติ...ของใต้เท้าหลัว”หลงตี้ยิ้ม“ดี คุกเข่าไม่เหมาะกับ ตำแหน่งเช่นนั้นข้าขอสั่งให้ลดเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน ต่อไปใครไม่มาประชุมขุนนางหนึ่งครั้งไม่ต้องจ่ายเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน”“ฝ่าบาท กว่าปีมานี้ฝ่าบาทก็ไม่เคยเข้าประชุมขุนนาง”“ตบปาก ตบปากเลย พูดชี้นำคนอื่นดีนัก”ชลชลส่งเสียเบาๆ ในลำคอหลงตี้ส่ายหน้า ไม่ทำให้เห็นก็จะไม่มีใครกลัวที่ผ่านมาเขาใจดีเกินไป“ดี องครักษ์จับตัวคนพูด มาตบปาก”องครักษ์หันหน้าหันหลัง“องครักษ์ไม่ได้ยินพระบัญชาหรือไร”ซินอ๋องตวาดดังๆ“โฮ้งโฮ้ง แฮร่ๆๆๆๆ ”องครักษ์รีบจับตัวคนสอพลอต่อใต้เท้าหลัวมาข้างหน้าตบปากไปสองสามที“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัยข้าน้อยสมควรตาย ต่อไปข้าน้อยไม่กล้าแล้ว”ทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นแค่สองสามทีก็ถึงกับทรุดได้ผลไม่น้อย“ไม่ได้ให้ตาย แต่ก็ดีแล้วพูดมาแบบนี้ข้า จะได้รู้ว่าใครภักดีต่อข้าใครภักดีต่อใต้เท้าหลัว” จ้านกงเดินเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมกับเสียงปรบมือ“ยอดเยี่ยม ฝ่าบาทสมควรยิ่งแล้ว”ซินอ๋อง
จวนใต้เท้าหลัว“มือสังหารมือดี มาถึงหรือยัง”“ขอรับใต้เท้า”“ดี เร่งมือ ให้เร็วที่สุดไม่มีเวลาแล้วหลายวันมานี้ จ้านกงกลับมาส่งผลให้ฝ่าบาทกระปรี้กระเปร่า และยังหันมาสนใจเรื่องราวในราชสำนัก ข้าตั้งใจทำสิ่งใดก็ต้องระงับยับยั้งไว้ก่อน”“ใต้เท้า ท่านแม่ทัพจ้านกง ขอพบท่าน”ใต้เท้าหลัวขมวดคิ้ว“เชิญเขาเข้ามา” จ้านกงไม่รอให้เชิญก้าวขาเข้าไปข้างในทันที“ท่านแม่ทัพไม่เจอกันเสียนานไม่คิดว่าท่านจะเปลี่ยนข้าง”“ใต้เท้า ข้ามาครั้งนี้ ตั้งใจมาผูกมิตรกับใต้เท้า”ใต้เท้าหลัว ยิ้มแต่ทว่าภายในใจหาเชื่อคำพูดของจ้านกงไม่“ว่ามา”“ข้า มีข้อเสนอ”ใต้เท้าหลัวเลิกคิ้วสูง“ข้อเสนอของท่านแม่ทัพเกรงว่าจะไปกันกับสิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้”“ใต้เท้าลองฟังดูก่อนบางที อาจ ดีกว่าที่ใต้เท้าคิดไว้”“ได้ เชิญท่านแม่ทัพ”“ท่าน ช่วยข้า ข้าช่วยท่านบัลลังก์เป็นของข้า การคลังเป็นของท่าน อีกทั้งการจัดเก็บภาษี ทั้งหมดข้ายกให้ท่านเพียงผู้เดียว” ใต้เท้าหลัวยิ้ม พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ“ดี พูดได้ดี เอาตามนี้ คราวนี้บอกมาจะให้ข้าช่วยอะไร”“ช่วยสังหารคนข้างกายฝ่าบาทให้ข้า”"เหล่าขุนนางต่างถวายฎีกา กดดันให้ฝ่าบาทมีความขัดเจน""ความชัดเจน ข้าอ
"ไม่ได้พบกันแค่เพียงปีเดียว ดูเจ้าสิ องค์หญิงเจ้าบัดนี้ติดตราตรึงใจจ้านกงยิ่งนัก”ด้วยเพิ่งจะเข้าสู่วัยสาว เจียจิว จึงไม่เคยต้องมือชายหัวใจดวงน้อยสั่นไหวจนน่ากลัว“ท่านแม่ทัพ อย่าล้อเจียจิวเล่น”“ไม่สิ เจ้างดงามเกินใคร คนอย่างจ้านกง จะกล้าล้อเจ้าเล่นหรือไร ก้มลงจรดริมฝีปากที่ริมฝีปากบางเบาๆ เจียจิวตัวสั่นงันงกทำอะไรไม่ถูกมือไม่เย็นเฉียบ“เห็นหรือไม่ว่าข้าพูดจริงองค์หญิงงดงามจนข้าไม่อาจห้ามใจ” ดันร่างเล็กจนไปติดกับต้นไม้ใหญ่ ก้มมองสบตากลมที่มีแต่แววตาเขินอาย“กลับมาครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งนักพบกับองค์หญิงที่งดงามขึ้นผิดหูผิดตา จ้านกงคงต้องมององค์หญิงเสียใหม่”“ท่านแม่ทัพปากหวานยิ่งนัก”“องค์หญิงจ้านกงไม่เคยล้อท่านเล่น หวังว่าองค์หญิงจะเมตตา”เจียจิว อ่อนระทวยทั้งใจและกาย จ้านกงซ่อนยิ้มในหน้า สำเร็จในเมื่อหลงตี้ไม่ใส่ใจเขายังมีเหยื่อที่โง่งมเช่นเจียจิวให้เลือกเฟ้นชลชลในร่างมนุษย์หอบผ้าห่มลงไปที่พื้นด้านล่าง อดที่จะเหลือบตามองร่างเปลือยท่อนบน อกแน่นกล้ามเป็นมัดที่กำลังจะทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนหนาเสียไม่ได้“มาตรงนี้”ตบข้างๆ แท่นนอน“ไม่เอา ฝ่าบาทนอนไปเถอะข้าแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง นอนด้านล่างดีแค่ไห
"เจ้าหมานั่น มีบางอย่างที่ทำให้ข้าแปลกใจไม่น้อย""ท่านแม่ทัพก่อนหน้านั้น ผู้คนต่างพูดกันว่าฝ่าบาททดท้อใจจนไม่เป็นอันทำอะไรเมื่อท่านแม่ทัพจากไป มาบัดนี้ ข้าน้อย.. ข้าน้อยรู้สึกว่าฝ่าบาทไม่สู้ยินดียินร้ายเท่าไหร่กับการกลับมาครั้งนี้ของท่านแม่ทัพมีเพียงตอนแรกที่พบกันเท่านั้นที่แสดงถึงความดีพระทัย""ตอนแรกข้าก็คิดว่าฝ่าบาทอย่างไรก็มีข้าอยู่ในใจเสมอแต่ตอนนี้นอกจากเจ้าหมานั่น ฝ่าบาทไม่สนใจใครอื่น""มีเสียงเล่าขานว่าเจ้าหมานั่นเป็นจิ้งจอก ที่กลายร่างมาเพื่อบงการฝ่าบาทแม้กระทั่งใต้เท้าหลัวยังต้องยอมให้กับสุนัขตัวนั้น"จ้านกงถอนหายใจ""จิ้งจอก อืมน่าคิดปรึกษาท่านนักพรตให้จัดการกับจิ้งจอกคงจะดีไม่น้อย"โลกปัจจุบัน"พี่ชล พี่ชล ฟื้นสิฟื้นเดี๋ยวนี้"น้องสาวร้องไห้จนตาบวม"พี่เขาพักผ่อนอยู่ธารธาร (ทาระทาน) หยุดเกเรพี่เขาได้แล้ว""ไม่จริงคุณแม่โกหกพี่ชลเขาไม่ได้พัก"ร้องไห้สะอึกสะอื้น"ธาร จะคอยดูพี่เขาแบบนี้จนกว่าพี่เขาจะพื้น""พี่ระพีเขารีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการพี่ชล ธารกลับพร้อมแม่ให้พี่ระพีเขาคอยดูแลพี่ชลดีกว่า""ไม่เอาหนูไม่ไว้ใจพี่ระพี""พี่เขาเป็นเพื่อนกันอีกอย่างพี่ระพีเขาก็ดีกับพี่
วิสัยสุนัขท้องร้องจ้อกแจ้กเมื่อพบของกินแต่ไม่ยอมขยับตัวยังนอนแบบนั้น"เสี่ยวเปาวันนี้ข้าเอาให้เขานำขาหมูมาเผื่อเจ้าด้วย"หูผึ่งหางชี้ เก็บอาการไว้เก็บอาการ อย่างน้อยก็ห้ามใจไม่ให้ตัวเองลุกขึ้นล่ะวะจ้านกงหันไปยิ้มกับหลงตี้"เมื่อคืนข้าลองทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในเมื่อฝ่าบาทโปรดปราน เสี่ยวเปา เพียงนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าจากไป ข้าจึงคิดว่าจะมาเห็นแก่ตัวไม่ให้ฝ่าบาทสนใจเสี่ยวเปากลับมาสนใจข้าเพียงคนเดียวก็จะแย่ไปหน่อย เช่นนั้นข้าจึงมาผูกมิตรกับเสี่ยวเปา""ตอแหลดูตาของนายสิจ้านกง ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อยไม่รู้ในนั่นจะใส่ยาถ่ายไว้หรือเปล่าไม่สินิยายจีนโบราณต้องใส่ยาพิษ มันต้องมีพิษแน่นอนเอื้อกกกก"อาหร่อย...น้ำลายไหลชลชลนอนบ่นไปกลืนน้ำลายลงคอไป แต่ที่ทุกคนเห็นคือ เสี่ยวเปาที่นอนนิ่งลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ให้ใครจับสังเกตได้"ไม่เป็นไรเจ้าค่อยๆ กินไปเสี่ยวเปาอาจยังเวลาเช้าอยู่จึงยังไม่หิว"หันหลังกลับไปยิ้มให้กับหลงตี้"ฝ่าบาทยังจำได้ไหม ปลานึ่งซีอิ๋ว ที่ฝ่าบาทโปรดปราน จ้านกงลงมือปรุงเองกับมือ"ชลชลตัวชา ภาพความทรงจำก่อนหน้านั้น ปลานึ่งซีอิ้วใต้แสงเทียนมองผ่านไวน์ขาวไปยังใบหน้าหล่อเหลาของปานระพี
จวนแม่ทัพ"ท่านหมอ ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง"รั้งหมอหลวงไม่ให้ออกมาจากห้องให้ตรวจดูอาการของตัวเองผ่านไปถึงสามชั่วยาม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพบาดแผลฉกรรจ์ยิ่งนัก อีกทั้งน้ำลายของ สุนัขเสี่ยวเปา ที่ปนไปด้วยอาหารคาวหวานยิ่งส่งผลให้บาดแผลยิ่งรุนแรง""ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ""คมเขี้ยวของสัตว์เมื่อต้องผิวเนื้อของมนุษย์มักจะทำให้บาดแผลยากหาย ฝ่าบาทสุนัขทรงเลี้ยงตัวนั้นอาจมี อาการคลุ้มคลั่ง ฝ่าบาทคงต้องจัดสรรที่อยู่ของสุนัขเสี่ยวเปาให้ดี"หลงตี้ถอนหายใจ ปกป้องชลชลก็ยิ่งจะทำให้จ้านกงไม่พอใจ ในใจรู้ดีว่าจ้านกง เป็นคนเช่นไรที่แสร้งทำเป็นดุชลชลเพราะไม่อยากให้จ้านกงเคียดแค้นเช่นนั้นเขาจึงไม่อาจปกป้องชลชลได้คนอย่างจ้านกง ทำเรื่องเลวร้ายไม่มีทางรู้ได้หากเขาไม่อยากให้รู้"ท่านต่อไปไม่ต้องไปที่ตำหนัก ข้าจะมาหาท่านที่นี่""ฝ่าบาทห่วงใยข้าหรือว่ากลัวว่าข้าจะไปเอาเรื่องสุนัขอ้วนตัวนั่น""เสี่ยวเปาพักนี้ไม่รู้เป็นอะไร ข้าห่วงว่าท่านแม่ทัพจะถูกเสี่ยวเปากัดเอาอีก ข้าอยากจะขอร้องไม่อยากให้ท่านต้องลำบาก""ก็ได้ จ้านกงรับบัญชาต่อไปจะไม่ไปที่นั่นหากไม่จำเป็น"แต่ภายในใจกลับคิดว่า เสี่ยวเปาเจ้าหมาโง่ก็อย่าได้ออกมาเพ่นพ