จวนแม่ทัพ
"ท่านหมอ ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง"รั้งหมอหลวงไม่ให้ออกมาจากห้องให้ตรวจดูอาการของตัวเองผ่านไปถึงสามชั่วยาม
"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพบาดแผลฉกรรจ์ยิ่งนัก อีกทั้งน้ำลายของ สุนัขเสี่ยวเปา ที่ปนไปด้วยอาหารคาวหวานยิ่งส่งผลให้บาดแผลยิ่งรุนแรง"
"ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ"
"คมเขี้ยวของสัตว์เมื่อต้องผิวเนื้อของมนุษย์มักจะทำให้บาดแผลยากหาย ฝ่าบาทสุนัขทรงเลี้ยงตัวนั้นอาจมี อาการคลุ้มคลั่ง ฝ่าบาทคงต้องจัดสรรที่อยู่ของสุนัขเสี่ยวเปาให้ดี"
หลงตี้ถอนหายใจ ปกป้องชลชลก็ยิ่งจะทำให้จ้านกงไม่พอใจ ในใจรู้ดีว่าจ้านกง เป็นคนเช่นไรที่แสร้งทำเป็นดุชลชลเพราะไม่อยากให้จ้านกงเคียดแค้นเช่นนั้นเขาจึงไม่อาจปกป้องชลชลได้คนอย่างจ้านกง ทำเรื่องเลวร้ายไม่มีทางรู้ได้หากเขาไม่อยากให้รู้
"ท่านต่อไปไม่ต้องไปที่ตำหนัก ข้าจะมาหาท่านที่นี่"
"ฝ่าบาทห่วงใยข้าหรือว่ากลัวว่าข้าจะไปเอาเรื่องสุนัขอ้วนตัวนั่น"
"เสี่ยวเปาพักนี้ไม่รู้เป็นอะไร ข้าห่วงว่าท่านแม่ทัพจะถูกเสี่ยวเปากัดเอาอีก ข้าอยากจะขอร้องไม่อยากให้ท่านต้องลำบาก"
"ก็ได้ จ้านกงรับบัญชาต่อไปจะไม่ไปที่นั่นหากไม่จำเป็น"
แต่ภายในใจกลับคิดว่า เสี่ยวเปาเจ้าหมาโง่ก็อย่าได้ออกมาเพ่นพ่านข้าจะจัดการเสียให้เข็ด
"ค่ำมืดแล้ว ข้าคงต้องกลับตำหนัก"จ้านกงคว้าข้อมือของหลงตี้ไว้ทันที
"จ้านกงบาดเจ็บเพียงนี้ฝ่าบาทยังรีบกลับอีกหรือ"
หลงตี้ถอนหายใจสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดใดออกมาทั้งๆ ที่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย
"จ้านกงให้สาวใช้ยกเครื่องเสวย ฝ่าบาทหนึ่งปีที่ผ่านมาจ้านกงคิดถึงฝ่าบาทที่สุด"
หลงตี้สะดุดใจยิ่งนักก่อนหน้านั้นเขา ก็รู้สึกเหมือนโลกจะแตกดับลงตรงหน้าเมื่อคิดขึ้นมาในครั้งใดว่าจ้านกงไม่อยู่ที่นี่แล้ว แต่ยามนี้ทำไมรู้สึกไม่ยินดียินร้ายหรือใจเต้นกับคำพูดของจ้านกงแม้แต่น้อย
ชลชลนอนขด ด้านล่างแท่นบรรทมหนาวจนขดตัวกลมจนเวลาล่วงเลย เสียงบอกโมงยามจากการตีเหล็กบอกเวลาเที่ยงคืน
ร่างเปลือยนอนขดกับพื้น หลงตี้เปิดประตูเข้ามาอย่างเบามือปิดประตูลงช้าๆ
เดินย่องไปหยิบผ้าห่มบนแท่นนอน มาคลุมร่างเปลือยขาวโพลนผิวเนื้อเนียนละอียดงดงาม หลงตี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ไม่อยากจะมองร่างงดงามกลัวจะเผลอใจเอื้อมมือลูบไล้เสียไม่ได้
"ปานระพี ผมคิดถึงคุณ" ผวาเข้ากอดร่างอุ่นของหลงตี้ซบหน้าลงบนไหล่กว้างเหมือนเด็กๆ
"อย่าทิ้งผมไป"หลงตี้นิ่งงัน ร่างเปลือยเย็นเฉียบ ก้มมองใบหน้าใสริมฝีปากแดงระเรื่อ บางอย่างบอกให้เขากดริมฝีปากลงบนปากบางที่ขนับขึ้นลงทั้งๆ ที่ดวงตาปิดสนิท
"อย่าทิ้งผมไป"กดปิดริมฝีปากอ่อนโยนบดเบียดนุ่มนวลอ่อนหวาน อีกคนเผยอริมฝีปากรับรสจูบหวานฉ่ำ หลงตี้สอดมือเข้าไปในผ้าห่มลูบไล้ผิวเนียนนุ่ม กดร่างเปลีอยของชลชลลงบนพื่นเย็นเฉียบไม่ยอมปล่อยริมฝีปากที่เหมือนมีแม่เหล็กกดติดไว้ไม่อาจแยกจากกัน
ชลชลลืมตาขึ้นตาเหลือกด้วยความตกใจ
"ปล่อยนะ ผลั๊ก"หมัดน้อยๆ ชกเข้าที่ปากครึ่งจมูกของ หลงตี้
"เจ้าชกข้าทำไม"เช็ดริมปากอย่างแรง
"อ่า อะอ่า นายๆ มาจูบฉันทำไมฉันไม่ได้ง่ายแบบนั้นนะ นายจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ถึงฉันจะเคยจูบนายไม่สิเลียหน้านายก่อนฉันก็ไม่ได้อยากให้นายมาจูบฉันหรอกนะ"พูดเร็วปรื้อ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอาย
หลงตี้อมยิ้ม แลบลิ้นเลียริมฝีปาก
"จูบหวานเลยหวงแหน ก็น่าจะเป็นแบบนั้น"
"เฮ๊ย อย่ามาคิดเกินเลยกับฉันนะ ถึงตอนที่อยู่ในร่างหมาฉันจะทำท่าดีใจเมื่อเจอนายก็เถอะ แต่นั่นมันคือเจ้าเสี่ยวเปาหรอกไม่ใช่ฉันเสียหน่อย"โกหกทั้งๆที่ใจรู้ดี
หลงตี้เดินไปที่แท่นนอน ทิ้งตัวหงายหลังลงบนแท่นนอนมือสองข้างสอดประสานที่ท้ายท้อยหลับตายิ้มๆ หัวใจเปี่ยมสุข
"ขอบคุณ ที่เจ้าไม่ใจง่าย ขอบคุณที่จูบเจ้าหวานเพียงนี้" ชลชลเขินจนหน้าแดงถึงใบหู กับคำพูดอ่อนโยนของหลงตี้
คนพูดส่งเสียงกร่นเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้าชลชลถอนหายใจ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกอดผ้าห่มทั้งตัวลงนอนหลับใหลเช่นกัน
แสงอาทิตย์ส่องลอดหน้าต่างแยงม่านตาที่ปรือขึ้นมองแขนที่ปกคลุมด้วยขนปุกปุย
"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพจ้านกง บะ บะ บอกว่าจะมาร่วมเสวยที่นี่"
หลงตี้ขมวดคิ้วเหลือบตามองชลชลที่แกล้งหลับตาขดตัวกลมอยู่บนกองผ้าห่ม
"ไหนเขาสัญญากับข้าว่าจะไม่มาที่นี่สักพัก"
"ตอนนี้ท่านแม่ทัพรออยู่ด้านนอกแล้วพร้อมกับ เครื่องเสวยมากมาย"
"ให้เขาเข้ามา"ตู้กังเปิดประตูให้จ้านกงเข้ามาข้างใน พร้อมกับนางกำนัลที่ยกเครื่องเสวยร้อนๆ เข้ามา
วิสัยสุนัขท้องร้องจ้อกแจ้กเมื่อพบของกินแต่ไม่ยอมขยับตัวยังนอนแบบนั้น"เสี่ยวเปาวันนี้ข้าเอาให้เขานำขาหมูมาเผื่อเจ้าด้วย"หูผึ่งหางชี้ เก็บอาการไว้เก็บอาการ อย่างน้อยก็ห้ามใจไม่ให้ตัวเองลุกขึ้นล่ะวะจ้านกงหันไปยิ้มกับหลงตี้"เมื่อคืนข้าลองทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในเมื่อฝ่าบาทโปรดปราน เสี่ยวเปา เพียงนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าจากไป ข้าจึงคิดว่าจะมาเห็นแก่ตัวไม่ให้ฝ่าบาทสนใจเสี่ยวเปากลับมาสนใจข้าเพียงคนเดียวก็จะแย่ไปหน่อย เช่นนั้นข้าจึงมาผูกมิตรกับเสี่ยวเปา""ตอแหลดูตาของนายสิจ้านกง ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อยไม่รู้ในนั่นจะใส่ยาถ่ายไว้หรือเปล่าไม่สินิยายจีนโบราณต้องใส่ยาพิษ มันต้องมีพิษแน่นอนเอื้อกกกก"อาหร่อย...น้ำลายไหลชลชลนอนบ่นไปกลืนน้ำลายลงคอไป แต่ที่ทุกคนเห็นคือ เสี่ยวเปาที่นอนนิ่งลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ให้ใครจับสังเกตได้"ไม่เป็นไรเจ้าค่อยๆ กินไปเสี่ยวเปาอาจยังเวลาเช้าอยู่จึงยังไม่หิว"หันหลังกลับไปยิ้มให้กับหลงตี้"ฝ่าบาทยังจำได้ไหม ปลานึ่งซีอิ๋ว ที่ฝ่าบาทโปรดปราน จ้านกงลงมือปรุงเองกับมือ"ชลชลตัวชา ภาพความทรงจำก่อนหน้านั้น ปลานึ่งซีอิ้วใต้แสงเทียนมองผ่านไวน์ขาวไปยังใบหน้าหล่อเหลาของปานระพี
"เจ้าหมานั่น มีบางอย่างที่ทำให้ข้าแปลกใจไม่น้อย""ท่านแม่ทัพก่อนหน้านั้น ผู้คนต่างพูดกันว่าฝ่าบาททดท้อใจจนไม่เป็นอันทำอะไรเมื่อท่านแม่ทัพจากไป มาบัดนี้ ข้าน้อย.. ข้าน้อยรู้สึกว่าฝ่าบาทไม่สู้ยินดียินร้ายเท่าไหร่กับการกลับมาครั้งนี้ของท่านแม่ทัพมีเพียงตอนแรกที่พบกันเท่านั้นที่แสดงถึงความดีพระทัย""ตอนแรกข้าก็คิดว่าฝ่าบาทอย่างไรก็มีข้าอยู่ในใจเสมอแต่ตอนนี้นอกจากเจ้าหมานั่น ฝ่าบาทไม่สนใจใครอื่น""มีเสียงเล่าขานว่าเจ้าหมานั่นเป็นจิ้งจอก ที่กลายร่างมาเพื่อบงการฝ่าบาทแม้กระทั่งใต้เท้าหลัวยังต้องยอมให้กับสุนัขตัวนั้น"จ้านกงถอนหายใจ""จิ้งจอก อืมน่าคิดปรึกษาท่านนักพรตให้จัดการกับจิ้งจอกคงจะดีไม่น้อย"โลกปัจจุบัน"พี่ชล พี่ชล ฟื้นสิฟื้นเดี๋ยวนี้"น้องสาวร้องไห้จนตาบวม"พี่เขาพักผ่อนอยู่ธารธาร (ทาระทาน) หยุดเกเรพี่เขาได้แล้ว""ไม่จริงคุณแม่โกหกพี่ชลเขาไม่ได้พัก"ร้องไห้สะอึกสะอื้น"ธาร จะคอยดูพี่เขาแบบนี้จนกว่าพี่เขาจะพื้น""พี่ระพีเขารีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการพี่ชล ธารกลับพร้อมแม่ให้พี่ระพีเขาคอยดูแลพี่ชลดีกว่า""ไม่เอาหนูไม่ไว้ใจพี่ระพี""พี่เขาเป็นเพื่อนกันอีกอย่างพี่ระพีเขาก็ดีกับพี่
"ไม่ได้พบกันแค่เพียงปีเดียว ดูเจ้าสิ องค์หญิงเจ้าบัดนี้ติดตราตรึงใจจ้านกงยิ่งนัก”ด้วยเพิ่งจะเข้าสู่วัยสาว เจียจิว จึงไม่เคยต้องมือชายหัวใจดวงน้อยสั่นไหวจนน่ากลัว“ท่านแม่ทัพ อย่าล้อเจียจิวเล่น”“ไม่สิ เจ้างดงามเกินใคร คนอย่างจ้านกง จะกล้าล้อเจ้าเล่นหรือไร ก้มลงจรดริมฝีปากที่ริมฝีปากบางเบาๆ เจียจิวตัวสั่นงันงกทำอะไรไม่ถูกมือไม่เย็นเฉียบ“เห็นหรือไม่ว่าข้าพูดจริงองค์หญิงงดงามจนข้าไม่อาจห้ามใจ” ดันร่างเล็กจนไปติดกับต้นไม้ใหญ่ ก้มมองสบตากลมที่มีแต่แววตาเขินอาย“กลับมาครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งนักพบกับองค์หญิงที่งดงามขึ้นผิดหูผิดตา จ้านกงคงต้องมององค์หญิงเสียใหม่”“ท่านแม่ทัพปากหวานยิ่งนัก”“องค์หญิงจ้านกงไม่เคยล้อท่านเล่น หวังว่าองค์หญิงจะเมตตา”เจียจิว อ่อนระทวยทั้งใจและกาย จ้านกงซ่อนยิ้มในหน้า สำเร็จในเมื่อหลงตี้ไม่ใส่ใจเขายังมีเหยื่อที่โง่งมเช่นเจียจิวให้เลือกเฟ้นชลชลในร่างมนุษย์หอบผ้าห่มลงไปที่พื้นด้านล่าง อดที่จะเหลือบตามองร่างเปลือยท่อนบน อกแน่นกล้ามเป็นมัดที่กำลังจะทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนหนาเสียไม่ได้“มาตรงนี้”ตบข้างๆ แท่นนอน“ไม่เอา ฝ่าบาทนอนไปเถอะข้าแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง นอนด้านล่างดีแค่ไห
จวนใต้เท้าหลัว“มือสังหารมือดี มาถึงหรือยัง”“ขอรับใต้เท้า”“ดี เร่งมือ ให้เร็วที่สุดไม่มีเวลาแล้วหลายวันมานี้ จ้านกงกลับมาส่งผลให้ฝ่าบาทกระปรี้กระเปร่า และยังหันมาสนใจเรื่องราวในราชสำนัก ข้าตั้งใจทำสิ่งใดก็ต้องระงับยับยั้งไว้ก่อน”“ใต้เท้า ท่านแม่ทัพจ้านกง ขอพบท่าน”ใต้เท้าหลัวขมวดคิ้ว“เชิญเขาเข้ามา” จ้านกงไม่รอให้เชิญก้าวขาเข้าไปข้างในทันที“ท่านแม่ทัพไม่เจอกันเสียนานไม่คิดว่าท่านจะเปลี่ยนข้าง”“ใต้เท้า ข้ามาครั้งนี้ ตั้งใจมาผูกมิตรกับใต้เท้า”ใต้เท้าหลัว ยิ้มแต่ทว่าภายในใจหาเชื่อคำพูดของจ้านกงไม่“ว่ามา”“ข้า มีข้อเสนอ”ใต้เท้าหลัวเลิกคิ้วสูง“ข้อเสนอของท่านแม่ทัพเกรงว่าจะไปกันกับสิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้”“ใต้เท้าลองฟังดูก่อนบางที อาจ ดีกว่าที่ใต้เท้าคิดไว้”“ได้ เชิญท่านแม่ทัพ”“ท่าน ช่วยข้า ข้าช่วยท่านบัลลังก์เป็นของข้า การคลังเป็นของท่าน อีกทั้งการจัดเก็บภาษี ทั้งหมดข้ายกให้ท่านเพียงผู้เดียว” ใต้เท้าหลัวยิ้ม พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ“ดี พูดได้ดี เอาตามนี้ คราวนี้บอกมาจะให้ข้าช่วยอะไร”“ช่วยสังหารคนข้างกายฝ่าบาทให้ข้า”"เหล่าขุนนางต่างถวายฎีกา กดดันให้ฝ่าบาทมีความขัดเจน""ความชัดเจน ข้าอ
“หา ฝ่าบาทจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ใต้เท้าหลัวเป็นที่เคารพนับถือเป็นถึง เสนาบดีแล้วยังเป็นผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ฝ่าบาทสั่งลงทัณฑ์ เหมือนกับใต้เท้าเป็นขันทีหรือนางกำนัลเป็นการลดเกียรติ...ของใต้เท้าหลัว”หลงตี้ยิ้ม“ดี คุกเข่าไม่เหมาะกับ ตำแหน่งเช่นนั้นข้าขอสั่งให้ลดเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน ต่อไปใครไม่มาประชุมขุนนางหนึ่งครั้งไม่ต้องจ่ายเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน”“ฝ่าบาท กว่าปีมานี้ฝ่าบาทก็ไม่เคยเข้าประชุมขุนนาง”“ตบปาก ตบปากเลย พูดชี้นำคนอื่นดีนัก”ชลชลส่งเสียเบาๆ ในลำคอหลงตี้ส่ายหน้า ไม่ทำให้เห็นก็จะไม่มีใครกลัวที่ผ่านมาเขาใจดีเกินไป“ดี องครักษ์จับตัวคนพูด มาตบปาก”องครักษ์หันหน้าหันหลัง“องครักษ์ไม่ได้ยินพระบัญชาหรือไร”ซินอ๋องตวาดดังๆ“โฮ้งโฮ้ง แฮร่ๆๆๆๆ ”องครักษ์รีบจับตัวคนสอพลอต่อใต้เท้าหลัวมาข้างหน้าตบปากไปสองสามที“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัยข้าน้อยสมควรตาย ต่อไปข้าน้อยไม่กล้าแล้ว”ทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นแค่สองสามทีก็ถึงกับทรุดได้ผลไม่น้อย“ไม่ได้ให้ตาย แต่ก็ดีแล้วพูดมาแบบนี้ข้า จะได้รู้ว่าใครภักดีต่อข้าใครภักดีต่อใต้เท้าหลัว” จ้านกงเดินเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมกับเสียงปรบมือ“ยอดเยี่ยม ฝ่าบาทสมควรยิ่งแล้ว”ซินอ๋อง
“ท่านแม่ทัพ"ประตูเปิดออกดังนัดหมายก็นัดหมายนั่นล่ะ เจียจิวยอมเปิดใจให้แม่ทัพหนุ่มด้วย หลงคำหวานของเขาเข้าเต็มเปา ริมฝีปากอุ่นไม่พูดพล่ามกดปิดที่ริมฝีปากของเจียจิวไม่ทันให้ตั้งตัว“อุ๊ย ท่านแม่ทัพ”สีหน้าตื่นตกใจเเพราะไม่เคยถูกจู่โจมแบบนี้จากใครคนใดมาก่อน“คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงองค์หญิงเกินใคร” น้ำเสียงอ่อนหวานยิ่งนัก เจียจิวเขินอาย จ้านกงดึงมือเจียจิวเข้าไปในห้องปิดประตูทันที“ข้ากลัวว่าจะไร้วาสนาหากรอช้ากว่านี้ องค์หญิงจ้านกงต้องการท่าน”เจียจิวหลบตาเขินอาย“โฮ้งโฮ้งๆๆๆ ”เสียงเห่าดังลั่น หน้าประตู“โฮ้งโฮ้ง ๆๆๆๆๆ หงิงหงิงหงิงๆๆๆ ”“เจ้าหมาบ้านั่นมาได้อย่างไร”สีหน้าตื่นตกใจกลัวว่าหลงตี้จะมาด้วย“เอ่อเอ่อ เจียจิวมักจะให้เสี่ยวเปามาที่นี่ยามค่ำ”“เจ้าไล่มันกลับไปเลยข้า ไม่ชอบเจ้าหมานั่น”“แค่หมาตัวอ้วนตัวเดียว ท่านแม่ทัพจะโมโหทำไม”เดินไปเปิดประตู ชลชลวิ่งแน่บเข้าไปในห้อง หมุนตัวสามรอบก่อนจะนอนขดบนแท่นอนของเจียจิว“เจ้าเคยให้เจ้าหมานั่นขึ้นไปนอนบนแท่นนอนหรือไร”“ปกติ เสี่ยวเปาขึ้นไปนอนกับข้าเป็นประจำ”“โฮ่งโฮ้งโฮ่ง โฮ้งโฮ้ง (หมดอารมณ์เลยสิ) ”มองก็รู้สีหน้าสีตากำลังหื่นหิว หากมาช้ากว่านี้ ห
"จากคนพวกนั้น พวกที่กำลังขนของมีค่าใส่ในเกี้ยว ฝ่าบาททำอย่างไรดี ด้านท้ายตำหนักมีคนกำลังขนของมีค่า คนผู้นั้นหน้าตาคุ้นแต่ข้าจำไม่ได้ว่าเคยเห็นเขาที่ไหน""ด้านท้ายตำหนัก"หลงตี้ขมวดคิ้ว ก้าวเดินไปที่ประตู ปิดประตูตำหนักตะโกนดังๆ"องครักษ์ส่งคน ไปที่ท้ายตำหนักและห้ามให้ใครเข้าออกวังหลวงจนกว่าข้าจะอนุญาต""คราวนี้บอกมาเจ้าไปทำอะไรที่นั่น""ฉันๆ ไปเดินเล่น"ขี้หดตดหาย หายปวดท้องไปเลยเจอเรื่องแบบนี้เข้า"ไปเดินเล่น ทั้งๆที่รู้ว่าจะกลายร่างทำไมยังออกไป หากไปกลายร่างต่อหน้าคนอื่นเจ้าจะปลอดภัยหรือไม่ห่วงตัวเองหรือไร"น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความโมโห"จริงด้วยลืมคิดไปเสียสนิทเพราะกลายร่างนี่แหละ ถึงต้องวิ่งแน่บกลับมาถ้าเป็นหมาคงไม่โดนสงสัยถึงจะไปเห็นเรื่องไม่ชอบมาพากลก็เถอะ""ข้าเป็นห่วงคราวหลังอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนหากเจ้าเป็นอะไรไปข้าคง ..ใจสลาย"คำสารภาพรักหรือไรหัวหน้าองครักษ์วิ่งกลับมาที่ตำหนัก“ฝ่าบาทไม่พบใครที่นั่นพบเพียงสิ่งของมีค่าควรเมืองมากมาย ที่ถูกลำเลียงใส่ไว้ในเกี้ยว ถึงสามหลัง”“ไวจริงๆ คงไหวตัวทันว่ามีคนมาเห็นจึงหนีไปเสียก่อน”“ใครกันทำเรื่องเช่นนี้”“อือใครกันทำเรื่องแบบนี้ ฝ่าบาทพรุ่งน
“ฝ่าบาท เจ้าสุนัขตัวนี้สร้างความปั่นป่วนในท้องพระโรงฝ่าบาทควรจะให้ใครนำตัวออกไปเสียก่อนตอนนี้มีเรื่องสำคัญต้องหาหรือ ฝ่าบาทเช่นไรถึงพระทัยดียิ่งนักให้สุนัขเข้ามาถึงในนี้”“แฮร่ ๆๆๆ ฮึ่มมม”ชลชลส่งเสียงขู่ ใต้เท้าหลัวที่พูดพาดพิง“เสี่ยวเปามานี่”ชลชลวิ่งแน่บกระดิกหางรัวเร็ว กระโดดขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ลิ้นห้อยหูตั้ง เมื่อไหร่จะเลิก ตื่นเต้นเวลาเจ้านาย ไม่สิคนหล่อเรียกเสียที หลงตี้ยกมือลูบศีรษะเบาๆ“ตู้กังนำเสี่ยวเปาไปที่ห้องเครื่องหาอะไรให้เสี่ยวเปาเป็นของกำนัลรองท้อง สายๆ ข้าจะไปรับที่นั่น”ชลชลยิ้มที่หูรู้ที่หาง ลิ้นห้อยน้ำลายไหล เป็นที่รู้กันว่างานสำเร็จไปแล้วหลงตี้รู้ตัวคนบงการแล้วต่อไปเป็นหน้าที่ของหลงตี้ที่จะต้องทำตามแผนการที่วางไว้กับชลชลเมื่อคืนทำให้อดนอน กันทั้งสองคนตกลงกันว่าจะตลบหลังคนบงการอย่างไร ชลชลเป็นคนวางแผนเสียทั้งหมดหลงตี้อดที่จะชื่นชม ชลชลเสียไม่ได้ สมกับที่เป็นจิ้งจอก อย่างที่หลงตี้เรียกแผนการรัดกุมยิ่งนัก“ใต้เท้าหลัวท่านคิดว่าข้าควรจะจัดการเช่นไรเรื่องนี้”ใต้เท้าหลัวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นทั้งๆ ที่ทำใจไว้แล้วว่าจะไม่แสดงพิรุธ“ฝ่าบาทสิ่งของเหล่านี้เป็นของมีค่าคว
“ฝ่าบาท เจ้าสุนัขตัวนี้สร้างความปั่นป่วนในท้องพระโรงฝ่าบาทควรจะให้ใครนำตัวออกไปเสียก่อนตอนนี้มีเรื่องสำคัญต้องหาหรือ ฝ่าบาทเช่นไรถึงพระทัยดียิ่งนักให้สุนัขเข้ามาถึงในนี้”“แฮร่ ๆๆๆ ฮึ่มมม”ชลชลส่งเสียงขู่ ใต้เท้าหลัวที่พูดพาดพิง“เสี่ยวเปามานี่”ชลชลวิ่งแน่บกระดิกหางรัวเร็ว กระโดดขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ลิ้นห้อยหูตั้ง เมื่อไหร่จะเลิก ตื่นเต้นเวลาเจ้านาย ไม่สิคนหล่อเรียกเสียที หลงตี้ยกมือลูบศีรษะเบาๆ“ตู้กังนำเสี่ยวเปาไปที่ห้องเครื่องหาอะไรให้เสี่ยวเปาเป็นของกำนัลรองท้อง สายๆ ข้าจะไปรับที่นั่น”ชลชลยิ้มที่หูรู้ที่หาง ลิ้นห้อยน้ำลายไหล เป็นที่รู้กันว่างานสำเร็จไปแล้วหลงตี้รู้ตัวคนบงการแล้วต่อไปเป็นหน้าที่ของหลงตี้ที่จะต้องทำตามแผนการที่วางไว้กับชลชลเมื่อคืนทำให้อดนอน กันทั้งสองคนตกลงกันว่าจะตลบหลังคนบงการอย่างไร ชลชลเป็นคนวางแผนเสียทั้งหมดหลงตี้อดที่จะชื่นชม ชลชลเสียไม่ได้ สมกับที่เป็นจิ้งจอก อย่างที่หลงตี้เรียกแผนการรัดกุมยิ่งนัก“ใต้เท้าหลัวท่านคิดว่าข้าควรจะจัดการเช่นไรเรื่องนี้”ใต้เท้าหลัวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นทั้งๆ ที่ทำใจไว้แล้วว่าจะไม่แสดงพิรุธ“ฝ่าบาทสิ่งของเหล่านี้เป็นของมีค่าคว
"จากคนพวกนั้น พวกที่กำลังขนของมีค่าใส่ในเกี้ยว ฝ่าบาททำอย่างไรดี ด้านท้ายตำหนักมีคนกำลังขนของมีค่า คนผู้นั้นหน้าตาคุ้นแต่ข้าจำไม่ได้ว่าเคยเห็นเขาที่ไหน""ด้านท้ายตำหนัก"หลงตี้ขมวดคิ้ว ก้าวเดินไปที่ประตู ปิดประตูตำหนักตะโกนดังๆ"องครักษ์ส่งคน ไปที่ท้ายตำหนักและห้ามให้ใครเข้าออกวังหลวงจนกว่าข้าจะอนุญาต""คราวนี้บอกมาเจ้าไปทำอะไรที่นั่น""ฉันๆ ไปเดินเล่น"ขี้หดตดหาย หายปวดท้องไปเลยเจอเรื่องแบบนี้เข้า"ไปเดินเล่น ทั้งๆที่รู้ว่าจะกลายร่างทำไมยังออกไป หากไปกลายร่างต่อหน้าคนอื่นเจ้าจะปลอดภัยหรือไม่ห่วงตัวเองหรือไร"น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความโมโห"จริงด้วยลืมคิดไปเสียสนิทเพราะกลายร่างนี่แหละ ถึงต้องวิ่งแน่บกลับมาถ้าเป็นหมาคงไม่โดนสงสัยถึงจะไปเห็นเรื่องไม่ชอบมาพากลก็เถอะ""ข้าเป็นห่วงคราวหลังอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนหากเจ้าเป็นอะไรไปข้าคง ..ใจสลาย"คำสารภาพรักหรือไรหัวหน้าองครักษ์วิ่งกลับมาที่ตำหนัก“ฝ่าบาทไม่พบใครที่นั่นพบเพียงสิ่งของมีค่าควรเมืองมากมาย ที่ถูกลำเลียงใส่ไว้ในเกี้ยว ถึงสามหลัง”“ไวจริงๆ คงไหวตัวทันว่ามีคนมาเห็นจึงหนีไปเสียก่อน”“ใครกันทำเรื่องเช่นนี้”“อือใครกันทำเรื่องแบบนี้ ฝ่าบาทพรุ่งน
“ท่านแม่ทัพ"ประตูเปิดออกดังนัดหมายก็นัดหมายนั่นล่ะ เจียจิวยอมเปิดใจให้แม่ทัพหนุ่มด้วย หลงคำหวานของเขาเข้าเต็มเปา ริมฝีปากอุ่นไม่พูดพล่ามกดปิดที่ริมฝีปากของเจียจิวไม่ทันให้ตั้งตัว“อุ๊ย ท่านแม่ทัพ”สีหน้าตื่นตกใจเเพราะไม่เคยถูกจู่โจมแบบนี้จากใครคนใดมาก่อน“คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงองค์หญิงเกินใคร” น้ำเสียงอ่อนหวานยิ่งนัก เจียจิวเขินอาย จ้านกงดึงมือเจียจิวเข้าไปในห้องปิดประตูทันที“ข้ากลัวว่าจะไร้วาสนาหากรอช้ากว่านี้ องค์หญิงจ้านกงต้องการท่าน”เจียจิวหลบตาเขินอาย“โฮ้งโฮ้งๆๆๆ ”เสียงเห่าดังลั่น หน้าประตู“โฮ้งโฮ้ง ๆๆๆๆๆ หงิงหงิงหงิงๆๆๆ ”“เจ้าหมาบ้านั่นมาได้อย่างไร”สีหน้าตื่นตกใจกลัวว่าหลงตี้จะมาด้วย“เอ่อเอ่อ เจียจิวมักจะให้เสี่ยวเปามาที่นี่ยามค่ำ”“เจ้าไล่มันกลับไปเลยข้า ไม่ชอบเจ้าหมานั่น”“แค่หมาตัวอ้วนตัวเดียว ท่านแม่ทัพจะโมโหทำไม”เดินไปเปิดประตู ชลชลวิ่งแน่บเข้าไปในห้อง หมุนตัวสามรอบก่อนจะนอนขดบนแท่นอนของเจียจิว“เจ้าเคยให้เจ้าหมานั่นขึ้นไปนอนบนแท่นนอนหรือไร”“ปกติ เสี่ยวเปาขึ้นไปนอนกับข้าเป็นประจำ”“โฮ่งโฮ้งโฮ่ง โฮ้งโฮ้ง (หมดอารมณ์เลยสิ) ”มองก็รู้สีหน้าสีตากำลังหื่นหิว หากมาช้ากว่านี้ ห
“หา ฝ่าบาทจะทำเช่นนั้นไม่ได้ ใต้เท้าหลัวเป็นที่เคารพนับถือเป็นถึง เสนาบดีแล้วยังเป็นผู้นำสี่ตระกูลใหญ่ฝ่าบาทสั่งลงทัณฑ์ เหมือนกับใต้เท้าเป็นขันทีหรือนางกำนัลเป็นการลดเกียรติ...ของใต้เท้าหลัว”หลงตี้ยิ้ม“ดี คุกเข่าไม่เหมาะกับ ตำแหน่งเช่นนั้นข้าขอสั่งให้ลดเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน ต่อไปใครไม่มาประชุมขุนนางหนึ่งครั้งไม่ต้องจ่ายเบี้ยหวัดหนึ่งเดือน”“ฝ่าบาท กว่าปีมานี้ฝ่าบาทก็ไม่เคยเข้าประชุมขุนนาง”“ตบปาก ตบปากเลย พูดชี้นำคนอื่นดีนัก”ชลชลส่งเสียเบาๆ ในลำคอหลงตี้ส่ายหน้า ไม่ทำให้เห็นก็จะไม่มีใครกลัวที่ผ่านมาเขาใจดีเกินไป“ดี องครักษ์จับตัวคนพูด มาตบปาก”องครักษ์หันหน้าหันหลัง“องครักษ์ไม่ได้ยินพระบัญชาหรือไร”ซินอ๋องตวาดดังๆ“โฮ้งโฮ้ง แฮร่ๆๆๆๆ ”องครักษ์รีบจับตัวคนสอพลอต่อใต้เท้าหลัวมาข้างหน้าตบปากไปสองสามที“ฝ่าบาทโปรดประทานอภัยข้าน้อยสมควรตาย ต่อไปข้าน้อยไม่กล้าแล้ว”ทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นแค่สองสามทีก็ถึงกับทรุดได้ผลไม่น้อย“ไม่ได้ให้ตาย แต่ก็ดีแล้วพูดมาแบบนี้ข้า จะได้รู้ว่าใครภักดีต่อข้าใครภักดีต่อใต้เท้าหลัว” จ้านกงเดินเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมกับเสียงปรบมือ“ยอดเยี่ยม ฝ่าบาทสมควรยิ่งแล้ว”ซินอ๋อง
จวนใต้เท้าหลัว“มือสังหารมือดี มาถึงหรือยัง”“ขอรับใต้เท้า”“ดี เร่งมือ ให้เร็วที่สุดไม่มีเวลาแล้วหลายวันมานี้ จ้านกงกลับมาส่งผลให้ฝ่าบาทกระปรี้กระเปร่า และยังหันมาสนใจเรื่องราวในราชสำนัก ข้าตั้งใจทำสิ่งใดก็ต้องระงับยับยั้งไว้ก่อน”“ใต้เท้า ท่านแม่ทัพจ้านกง ขอพบท่าน”ใต้เท้าหลัวขมวดคิ้ว“เชิญเขาเข้ามา” จ้านกงไม่รอให้เชิญก้าวขาเข้าไปข้างในทันที“ท่านแม่ทัพไม่เจอกันเสียนานไม่คิดว่าท่านจะเปลี่ยนข้าง”“ใต้เท้า ข้ามาครั้งนี้ ตั้งใจมาผูกมิตรกับใต้เท้า”ใต้เท้าหลัว ยิ้มแต่ทว่าภายในใจหาเชื่อคำพูดของจ้านกงไม่“ว่ามา”“ข้า มีข้อเสนอ”ใต้เท้าหลัวเลิกคิ้วสูง“ข้อเสนอของท่านแม่ทัพเกรงว่าจะไปกันกับสิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้”“ใต้เท้าลองฟังดูก่อนบางที อาจ ดีกว่าที่ใต้เท้าคิดไว้”“ได้ เชิญท่านแม่ทัพ”“ท่าน ช่วยข้า ข้าช่วยท่านบัลลังก์เป็นของข้า การคลังเป็นของท่าน อีกทั้งการจัดเก็บภาษี ทั้งหมดข้ายกให้ท่านเพียงผู้เดียว” ใต้เท้าหลัวยิ้ม พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ“ดี พูดได้ดี เอาตามนี้ คราวนี้บอกมาจะให้ข้าช่วยอะไร”“ช่วยสังหารคนข้างกายฝ่าบาทให้ข้า”"เหล่าขุนนางต่างถวายฎีกา กดดันให้ฝ่าบาทมีความขัดเจน""ความชัดเจน ข้าอ
"ไม่ได้พบกันแค่เพียงปีเดียว ดูเจ้าสิ องค์หญิงเจ้าบัดนี้ติดตราตรึงใจจ้านกงยิ่งนัก”ด้วยเพิ่งจะเข้าสู่วัยสาว เจียจิว จึงไม่เคยต้องมือชายหัวใจดวงน้อยสั่นไหวจนน่ากลัว“ท่านแม่ทัพ อย่าล้อเจียจิวเล่น”“ไม่สิ เจ้างดงามเกินใคร คนอย่างจ้านกง จะกล้าล้อเจ้าเล่นหรือไร ก้มลงจรดริมฝีปากที่ริมฝีปากบางเบาๆ เจียจิวตัวสั่นงันงกทำอะไรไม่ถูกมือไม่เย็นเฉียบ“เห็นหรือไม่ว่าข้าพูดจริงองค์หญิงงดงามจนข้าไม่อาจห้ามใจ” ดันร่างเล็กจนไปติดกับต้นไม้ใหญ่ ก้มมองสบตากลมที่มีแต่แววตาเขินอาย“กลับมาครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งนักพบกับองค์หญิงที่งดงามขึ้นผิดหูผิดตา จ้านกงคงต้องมององค์หญิงเสียใหม่”“ท่านแม่ทัพปากหวานยิ่งนัก”“องค์หญิงจ้านกงไม่เคยล้อท่านเล่น หวังว่าองค์หญิงจะเมตตา”เจียจิว อ่อนระทวยทั้งใจและกาย จ้านกงซ่อนยิ้มในหน้า สำเร็จในเมื่อหลงตี้ไม่ใส่ใจเขายังมีเหยื่อที่โง่งมเช่นเจียจิวให้เลือกเฟ้นชลชลในร่างมนุษย์หอบผ้าห่มลงไปที่พื้นด้านล่าง อดที่จะเหลือบตามองร่างเปลือยท่อนบน อกแน่นกล้ามเป็นมัดที่กำลังจะทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนหนาเสียไม่ได้“มาตรงนี้”ตบข้างๆ แท่นนอน“ไม่เอา ฝ่าบาทนอนไปเถอะข้าแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง นอนด้านล่างดีแค่ไห
"เจ้าหมานั่น มีบางอย่างที่ทำให้ข้าแปลกใจไม่น้อย""ท่านแม่ทัพก่อนหน้านั้น ผู้คนต่างพูดกันว่าฝ่าบาททดท้อใจจนไม่เป็นอันทำอะไรเมื่อท่านแม่ทัพจากไป มาบัดนี้ ข้าน้อย.. ข้าน้อยรู้สึกว่าฝ่าบาทไม่สู้ยินดียินร้ายเท่าไหร่กับการกลับมาครั้งนี้ของท่านแม่ทัพมีเพียงตอนแรกที่พบกันเท่านั้นที่แสดงถึงความดีพระทัย""ตอนแรกข้าก็คิดว่าฝ่าบาทอย่างไรก็มีข้าอยู่ในใจเสมอแต่ตอนนี้นอกจากเจ้าหมานั่น ฝ่าบาทไม่สนใจใครอื่น""มีเสียงเล่าขานว่าเจ้าหมานั่นเป็นจิ้งจอก ที่กลายร่างมาเพื่อบงการฝ่าบาทแม้กระทั่งใต้เท้าหลัวยังต้องยอมให้กับสุนัขตัวนั้น"จ้านกงถอนหายใจ""จิ้งจอก อืมน่าคิดปรึกษาท่านนักพรตให้จัดการกับจิ้งจอกคงจะดีไม่น้อย"โลกปัจจุบัน"พี่ชล พี่ชล ฟื้นสิฟื้นเดี๋ยวนี้"น้องสาวร้องไห้จนตาบวม"พี่เขาพักผ่อนอยู่ธารธาร (ทาระทาน) หยุดเกเรพี่เขาได้แล้ว""ไม่จริงคุณแม่โกหกพี่ชลเขาไม่ได้พัก"ร้องไห้สะอึกสะอื้น"ธาร จะคอยดูพี่เขาแบบนี้จนกว่าพี่เขาจะพื้น""พี่ระพีเขารีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการพี่ชล ธารกลับพร้อมแม่ให้พี่ระพีเขาคอยดูแลพี่ชลดีกว่า""ไม่เอาหนูไม่ไว้ใจพี่ระพี""พี่เขาเป็นเพื่อนกันอีกอย่างพี่ระพีเขาก็ดีกับพี่
วิสัยสุนัขท้องร้องจ้อกแจ้กเมื่อพบของกินแต่ไม่ยอมขยับตัวยังนอนแบบนั้น"เสี่ยวเปาวันนี้ข้าเอาให้เขานำขาหมูมาเผื่อเจ้าด้วย"หูผึ่งหางชี้ เก็บอาการไว้เก็บอาการ อย่างน้อยก็ห้ามใจไม่ให้ตัวเองลุกขึ้นล่ะวะจ้านกงหันไปยิ้มกับหลงตี้"เมื่อคืนข้าลองทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในเมื่อฝ่าบาทโปรดปราน เสี่ยวเปา เพียงนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าจากไป ข้าจึงคิดว่าจะมาเห็นแก่ตัวไม่ให้ฝ่าบาทสนใจเสี่ยวเปากลับมาสนใจข้าเพียงคนเดียวก็จะแย่ไปหน่อย เช่นนั้นข้าจึงมาผูกมิตรกับเสี่ยวเปา""ตอแหลดูตาของนายสิจ้านกง ไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อยไม่รู้ในนั่นจะใส่ยาถ่ายไว้หรือเปล่าไม่สินิยายจีนโบราณต้องใส่ยาพิษ มันต้องมีพิษแน่นอนเอื้อกกกก"อาหร่อย...น้ำลายไหลชลชลนอนบ่นไปกลืนน้ำลายลงคอไป แต่ที่ทุกคนเห็นคือ เสี่ยวเปาที่นอนนิ่งลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ให้ใครจับสังเกตได้"ไม่เป็นไรเจ้าค่อยๆ กินไปเสี่ยวเปาอาจยังเวลาเช้าอยู่จึงยังไม่หิว"หันหลังกลับไปยิ้มให้กับหลงตี้"ฝ่าบาทยังจำได้ไหม ปลานึ่งซีอิ๋ว ที่ฝ่าบาทโปรดปราน จ้านกงลงมือปรุงเองกับมือ"ชลชลตัวชา ภาพความทรงจำก่อนหน้านั้น ปลานึ่งซีอิ้วใต้แสงเทียนมองผ่านไวน์ขาวไปยังใบหน้าหล่อเหลาของปานระพี
จวนแม่ทัพ"ท่านหมอ ท่านแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง"รั้งหมอหลวงไม่ให้ออกมาจากห้องให้ตรวจดูอาการของตัวเองผ่านไปถึงสามชั่วยาม"ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพบาดแผลฉกรรจ์ยิ่งนัก อีกทั้งน้ำลายของ สุนัขเสี่ยวเปา ที่ปนไปด้วยอาหารคาวหวานยิ่งส่งผลให้บาดแผลยิ่งรุนแรง""ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ""คมเขี้ยวของสัตว์เมื่อต้องผิวเนื้อของมนุษย์มักจะทำให้บาดแผลยากหาย ฝ่าบาทสุนัขทรงเลี้ยงตัวนั้นอาจมี อาการคลุ้มคลั่ง ฝ่าบาทคงต้องจัดสรรที่อยู่ของสุนัขเสี่ยวเปาให้ดี"หลงตี้ถอนหายใจ ปกป้องชลชลก็ยิ่งจะทำให้จ้านกงไม่พอใจ ในใจรู้ดีว่าจ้านกง เป็นคนเช่นไรที่แสร้งทำเป็นดุชลชลเพราะไม่อยากให้จ้านกงเคียดแค้นเช่นนั้นเขาจึงไม่อาจปกป้องชลชลได้คนอย่างจ้านกง ทำเรื่องเลวร้ายไม่มีทางรู้ได้หากเขาไม่อยากให้รู้"ท่านต่อไปไม่ต้องไปที่ตำหนัก ข้าจะมาหาท่านที่นี่""ฝ่าบาทห่วงใยข้าหรือว่ากลัวว่าข้าจะไปเอาเรื่องสุนัขอ้วนตัวนั่น""เสี่ยวเปาพักนี้ไม่รู้เป็นอะไร ข้าห่วงว่าท่านแม่ทัพจะถูกเสี่ยวเปากัดเอาอีก ข้าอยากจะขอร้องไม่อยากให้ท่านต้องลำบาก""ก็ได้ จ้านกงรับบัญชาต่อไปจะไม่ไปที่นั่นหากไม่จำเป็น"แต่ภายในใจกลับคิดว่า เสี่ยวเปาเจ้าหมาโง่ก็อย่าได้ออกมาเพ่นพ