Share

บทที่ 45

Author: วิ๋นเจิง
ซูชิงอู่สบตากับเขา

เย่เสวียนถิงหลบสายตาของนางโดยไม่รู้ตัว

แต่ครู่ต่อมาซูชิงอู่ก็เพิกเฉยต่อหญิงชราโดยสิ้นเชิง แต่นางกลับเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าอ่อนโยนและนั่งยอง ๆ ต่อหน้าทุกคนโดยไม่สนใจ

นางใช้มือนวดขาของเขาเบา ๆ

“ข้าบอกให้พักผ่อนไม่ใช่หรือไง รู้ไหมว่าขาท่านยืนนาน ๆ ไม่ได้”

ริมฝีปากบางของเย่เสวียนถิงอ้าค้างด้วยความประหลาดใจ

ดูเหมือนคอของเขาจะถูกอะไรบางอย่างปิดกั้น ทำให้เขาก็ไม่อาจส่งเสียงใด ๆ ออกมาได้

น้ำเสียงของซูชิงอู่เร่งเร้าและดูเป็นทุกข์เป็นร้อน นิ้วของนางแตะจุดฝังเข็มบนตัวของเขา ทำให้

เย่เสวียนถิงรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกชาที่ขาของเขาด้วย

ความเจ็บปวดเริ่มแรกก็หายไปมากในทันที

ความเจ็บปวดพุ่งเข้าหาหัวใจของเขาโดยตรง ทำให้เขามองดูเข็มของซูชิงอู่ที่อยู่ใกล้มือ เขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบผมบนศีรษะของนาง

ซูชิงอู่รู้สึกถึงความอบอุ่นจากเขา และอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงก้มศีรษะลง หูของนางแดงเล็กน้อย "อวิ๋นจื่อ รีบหาเก้าอี้มาให้ท่านอ๋องเร็วเข้า!"

"มาแล้วเจ้าค่ะ!"

อวิ๋นจื่อรีบขยับเก้าอี้ไปอย่างรวดเร็ว ด้วยสายตาและมือที่ว่องไว

ซูชิงอู่ผลักเขาไปยังที่ที่เย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 46

    หลิงซื่อประคองฮูหยินผู้เฒ่าพลางค่อย ๆ ปลอบ "นังเด็กชิงอู่คนนี้คงจะถูกผู้มีเจตนาร้ายเสี้ยมสอนมาเป็นแน่ถึงไม่รู้จักมีความเคารพและอกตัญญูถึงเพียงนั้น แค่ตักเตือนสักสองสามคำก็ใช้ได้แล้ว" คำปลอบโยนรังแต่จะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าซูยิ่งมีโทสะมากขึ้นเรื่อย ๆ "ซูชิงอู่ บอกข้ามา ไฉนเจ้าต้องลงไม้ลงมือกับแม่นมของตนเองด้วย? เมื่อสักครู่มีคนเห็นเข้าพอดี เจ้าใช่เพียงทุบตีนางโดยไร้ซึ่งเหตุผลเท่านั้น แต่เจ้ายังขังนางเอาไว้ในห้องเก็บฟืน ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เจ้าถึงขั้นตัดนิ้วมือของนางอีกด้วย!” ซูชิงอู่เลิกคิ้วพลางกล่าวว่า "เมื่อผู้ใดสักคนกระทำความผิด ก็สมควรถูกลงโทษแล้ว ในฐานะที่เป็นพระชายา การที่ข้าลงโทษบ่าวรับใช้มิใช่เรื่องปกติหรอกหรือเจ้าคะ?" ฮูหยินผู้เฒ่าซูโมโหจนพูดไม่ออก "แต่เท่าที่ข้าทราบมา เห็นได้ชัดว่าแม่นมหลินโดนใส่ความอยู่ นางหยิบยาตามที่เจ้าสั่ง เพื่อเห็นแก่ชื่อเสียงของตนเองแล้ว เจ้าโยนความผิดทั้งหมดให้นางได้อย่างไรกัน?" ซูชิงอู่ไม่คิดจะพูดเรื่องนี้กับผู้อื่น น้ำเสียงของนางจึงค่อย ๆ ทวีความเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ "ฮูหยินผู้เฒ่าเลอะเลือนถึงเพียงนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน ? ท่านเชื่อคำพูดของบ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 47

    หลิงซื่อมุมปากกระตุกริก ๆ "เจ้ากำลังแว้งกัดข้า!" ซูชิงอู่ตอบว่า "ข้ามิกัดกับสุนัขหรอก" วาจาของนางที่บ่งบอกชัดแจ้งว่าหลิงซื่อเป็นสุนัข ทำให้หลิงซื่อรู้สึกเดือดดาลนัก คนกลุ่มหนึ่งพาฮูหยินผู้เฒ่ามาส่งห้องว่างติดกับห้องของนาง จากนั้นก็รีบเชิญท่านหมอเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มากับเขาด้วยก็คืออัครเสนาบดีซู หลิงซื่อยืนร้องไห้อยู่ตรงประตูพลางเช็ดน้ำตา นางคร่ำครวญเสียงแผ่วเบากับอัครเสนาบดีซูด้วยความขมขื่นใจ เพื่อบอกว่าซูชิงอู่กระทำเกินกว่าเหตุจนทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหจนหมดสติไป นางยังเอ่ยถึงเรื่องที่อีกฝ่ายไม่เคารพผู้อาวุโส จนแทบจะกลับดำเป็นขาว! เย่เสวียนถิงเม้มปากเล็กน้อย สายตาที่ทอดมองลงบนแผ่นหลังของซูชิงอู่บ่งบอกอารมณ์ที่ออกจะลึกซึ้งอยู่บ้าง ทันใดนั้นเขาก็พลันรู้สึกว่ามิอาจเข้าใจสิ่งที่นางกพลังครุ่นคิดอยู่ในยามนี้ ซูซิงอู่ราวกับมีดวงตาติดอยู่บนแผ่นหลัง จู่ ๆ นางก็หันหลังกลับมาทันที แววเยียบเย็นในดวงตาของนางสลายไปจนสิ้น แทนที่ด้วยสายตาอ่อนโยนราวกับสายน้ำ "เสวียนถิง ใบหน้าของข้ามีอันใดติดอยู่กระนั้นหรือ? ไฉนท่านจึงเอาแต่จ้องหน้าข้าอยู่เล่า?" เย่เสวียนถิงอดมิได้ที่จะรู้สึกเ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 48

    ด้วยเหตุนี้เอง ต่อให้สุดท้ายอีกฝ่ายตายไป เขาก็หาได้เสียใจนัก "ซูฉางเซิง ถึงแม้ว่าข้าจะมิได้ใส่ใจเจ้านัก แต่ข้าก็เชิญอาจารย์มาอบรมสั่งสอนเจ้าอยู่ไม่น้อย ไยเจ้าถึงมุทะลุตามนางเช่นนี้เล่า?" ซูฉางเซิงต่างจากซูชิงอู่ อย่างไรเสีย ซูชิงอู่ก็เป็นบุตรีที่ออกเรือนแล้ว ยามนี้นางจึงถือเป็นคนนอกของจวนอัครเสนาบดี ทว่าเขาเป็นบุตรภรรยาเอกของอัครเสนาบดี ทำให้วาจาพอจะมีน้ำหนักอยู่บ้างในจวน นอกเหนือไปจากนั้น เขาก็มิใช่กบในบ่อ[1] ต่อให้เขามิเคยเดินทางไปที่ใดนัก แต่กลับเรียกได้ว่าแตกฉานในเรื่องตำรับตำรายิ่งนัก "น้องสาวของข้าเคยเป็นคนใจอ่อน แต่ท่านกลับปฏิบัติกับนางราวกับลูกพลับนิ่มและเอาเปรียบเสียจนนางรู้สึกเหลืออด ท่านกินของนาง หาเศษหาเลยจากนางและหลอกใช้นาง เอาแต่คิดว่าทุกอย่างล้วนเป็นของตนเอง เมื่อก่อนตัวนางอาจจะยินยอมพร้อมใจ ดังนั้นข้าจึงเอ่ยสิ่งใดมิได้ ทว่ายามนี้นางมิได้ยินยอมพร้อมใจ การที่นางทวงเอาของ ๆ ตนเองกลับคืนก็ผิดด้วยหรือ?” ทั้ง ๆ ที่น้ำเสียงของซูฉางเซิงเชื่องช้าและแผ่วเบา ทว่าสิ่งที่เขาเอ่ยกลับชัดเจนยิ่ง มิหนำซ้ำวาจาทุกคำก็ฟังดูสมเหตุสมผล หลังจากเขาพูดจบ อัครเสนาบดีซูก็พลันหน้าต

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 49

    คนทั้งตระกูลเกี่ยวข้องอันใดกับซูชิงอู่ด้วยเล่า? ส่วนพี่ชายของนางนั้น นางย่อมต้องมอบเงินทองให้อยู่แล้ว เดิมทีสินเดิมที่ฟางอี๋ซินนำเอามาจากตระกูลฟางก็สมควรจะเป็นของซูชิงอู่ อัครเสนาบดีซูพลันสีหน้าแปรเปลี่ยน จากนั้นเขาก็เอ่ยเสียงทุ้มว่า "ชิงอู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ พ่อจะสั่งให้คนไปเรียกพี่ใหญ่กับพี่รองของเจ้าแล้วถามความคิดเห็นของพวกเขา อย่างไรเสียข้าวของของมารดาเจ้าก็เป็นของพวกเขาด้วยมิใช่หรือ?” ซูฉางเซิงเอ่ยขึ้นทันทีโดยมิได้ลังเลใจว่า "ส่วนของข้ายกให้เป็นของชิงอู่" ซูชิงอู่มองพี่ห้าของนาง แววตาของนางอ่อนลงโดยมิทันได้รู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น นางก็คิดถึงบรรดาพี่ชายของนางด้วย น่าเสียดายที่ระหว่างนี้ พี่สามกับพี่สี่ยังเล่าเรียนอยู่ข้างนอก คนหนึ่งฝากตัวเป็นศิษย์สำนักขงจื๊อ ส่วนอีกคนหนึ่งไปฝึกฝนวรยุทธ์ที่วัดเส้าหลินในเขาหยุนเหลียง... เมื่อชาติก่อน หลังจากเกิดเรื่องกับตระกูลซู พวกเขาทั้งสองคนก็รีบดั้นด้นกลับมาตลอดทาง ทว่าต่อมานางถึงได้ทราบจากซูเชียนหลิงว่าศีรษะของพวกเขาถูกแขวนเอาไว้บนกำแพงเมือง จากนั้นก็ตากแดดเอาไว้ร่วมครึ่งค่อนเดือน กระทั่งกระดูกผุพังไปจนสิ้น ซูเชียนหลิง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 50

    "บอกข้ามา ผู้ใดมันทำให้น้องหกของข้าต้องร้องไห้?" เสียงของพี่รองดังลั่น กลิ่นอายทั่วทั้งร่างประดุจดั่งดาบที่หลุดออกจากฝัก เขามีคิ้วหนาและแผ่รังสีอำมหิตอันมิอาจหลีกเร้นได้ของผู้เป็นนักรบ ประกอบกับร่างสูงแกร่งกำยำ ถึงแม้ว่าใบหน้าจะหล่อเหลาคมคาย ทว่าเขาก็ยังมีหน้าตาที่ออกจะดุดันอยู่บ้าง ท่ามกลางบรรดาพี่ชาย เขาเป็นผู้ที่รักใคร่ซูชิงอู่เป็นที่สุด ทั้งยังเอาอกเอาใจเสียจนเข้าขั้นไร้เหตุผล เป็นความชอบพอที่รุนแรงยิ่งกว่าความรักของบิดาที่มีต่อบุตรีเสียด้วยซ้ำไป... เมื่อซูชิงอู่เห็นเขา นางก็รู้สึกทั้งสุขและเศร้าในคราวเดียวกัน นางสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วขับไล่ภาพการตายอันน่าสลดใจของพี่ชายทั้งสองออกไปจากสมอง จากนั้นก็ค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "พี่รอง เชิญนั่งลงก่อนเจ้าค่ะ" ยามที่ซูเชียนหมิงได้ยินเช่นนี้ เขาก็ถึงกับกลั้นหายใจพลางถือดาบเอาไว้อีกครั้ง แล้วนั่งลงด้วยสีหน้าเย็นชา เขาจ้องมองเย่เสวียนถิงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ราวกับว่าอีกฝ่ายติดหนี้เขานับแปดล้านตำลึงเงิน เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาเข้าใจผิดคิดว่าอีกฝ่ายเป็นตัวการ ถึงแม้ว่าเย่เสวียนถิงจะมิได้หวาดกลัวซูเชียนหมิงที่อยู่ตรงหน้า แต่เมื่อส

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 51

    หลิงซื่อหัวใจบีบรัด ยามนี้นางเป็นฮูหยินของประมุขตระกูล มีแต่นางเท่านั้นที่สามารถจัดการเรื่องเงินทองได้ ตอนนี้ซูชิงอู่คิดจะเอาไปทั้งหมด ก็มิต่างอันใดจากการแล่เนื้อเถือหนังของตน! หลิงซื่อลุกขึ้นพลางเอ่ยขึ้นมาว่า "ข้าไม่ยอม!" ทุกคนต่างทอดสายตามองหลิงซื่อ สีหน้าของหลิงซื่อเปลี่ยนเป็นซีดขาว เมื่อนางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็เห็นอัครเสนาบดีซูหลุบตาลงแล้วเอาแต่นิ่งเงียบ นางจึงรีบกระตุกแขนเสื้อของเขาทันที "นายท่าน บอกข้าทีเถิดเจ้าค่ะ ถ้านางเอาเงินไปหมดแล้ว บ่าวไพร่ของตระกูลใหญ่เช่นนี้จะอยู่กันอย่างไร? และ...ยิ่งไปกว่านั้น มารดาของท่านก็สุขภาพไม่ดี นางต้องพบท่านหมอและรับยาอยู่ทุกวันซึ่งใช้เงินไม่น้อยเลย มิหนำซ้ำยังต้องใช้โสมอายุร้อยปีชั้นยอดเพื่อบำรุงร่างกาย ต้นหนึ่งก็ตกสองร้อยตำลึงเข้าไปแล้ว..." สีหน้าของอัครเสนาบดีซูกลับยิ่งหม่นคล้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ซูชิงอู่ยิ้มพลางกล่าวว่า "ในเมื่อพวกเราไม่มีเงินจ่ายให้พวกบ่าวรับใช้ก็ส่งพวกเขาออกไป ถ้าพวกเราไม่มีเงินซื้อโสมอายุร้อยปี เช่นนั้นก็ซื้อโสมธรรมดา ท่านพ่อของข้าเป็นถึงอัครเสนาบดีแห่งราชวงศ์ถังและมีเบี้ยหวัดรายปีมากโข ถ้าหากประหยัดสักหน่อย จ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 52

    การแนะนำให้รู้จักกันเช่นนั้นทำให้ดวงตาของเย่เสวียนถิงฉายแววประหลาดใจ เขากวาดสายตามองเสี้ยวหน้าของซูชิงอู่พลางเลิกคิ้วแล้วลดเสียงลง จากนั้นก็ออกแรงบีบมือที่อยู่ในฝ่ามือของตัวเองไว้แน่น "อาอู่ ข้า..." ซูชิงอู่ดึงตัวเขามาข้างหน้าพลางกล่าวว่า "นี่คือซูหัวจิ่นพี่ใหญ่ของข้าที่ยามนี้เป็นเจ้ากรมกิจการพลเรือน เขามาถึงตำแหน่งนี้ได้ด้วยความสามารถของตนเอง พี่ชายของข้าหาได้พึ่งพาเส้นสายของตระกูลแต่อย่างใดไม่..." ซูเชียนหมิงรีบเดินเข้ามาประสานมือคำนับเย่เสวียนถิง ยามนี้ดูเหมือนท่าทีแฝงเจตนาร้ายแลไม่เป็นมิตรเมื่อก่อนหน้านี้จะสลายหายไปจนสิ้น "กระหม่อมซูเชียนหมิงเป็นพี่รองของนาง ยามนี้กระหม่อมเป็นหัวหน้าราชองครักษ์คอยอารักขาข้างพระวรกายฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ ข้าชื่นชมในความน่าเกรงขามของท่านอ๋องมานานและนับถือท่านจากใจจริง นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป คงต้องฝากน้องสาวของข้าไว้กับท่านเสียแล้ว ท่านอ๋อง" วาจาเหล่านี้ทำให้ซูชิงอู่รู้สึกอุ่นใจ นางยิ้มพลางมองเย่เสวียนถิง สีหน้าของนางพึงพอใจอยู่บ้าง นางเองก็มีผู้หนุนหลังเช่นกัน สีหน้าเพียงเล็กน้อยเช่นนั้นกลับทำให้นางแลดูงดงามสดใส ดวงตาคู่งามเต็มเปี่ยมไปด

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 53

    ซูชิงอู่พาคนไปยังที่เรือนที่หลิงซื่อพักอาศัยอยู่ องครักษ์หลายนายจากตำหนักอ๋องที่ยืนอยู่ตรงประตู ล้วนมีท่าทีอยากจะบุกเข้าไป เย่เสวียนถิงที่ยืนอยู่เคียงข้างซูชิงอู่หรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ทำลายทิ้งซะ" "พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!" คนพวกนั้นวิ่งเข้ามาพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือ จากนั้นก็ขนย้ายข้าวของทุกอย่างที่พวกเขาจะสามารถเอาไปได้ แล้วทุบทำลายข้าวของที่ไม่สามารถขนย้ายได้ พวกเขาดูเหมือนหัวขโมยกลุ่มหนึ่งก็มิปาน ซูชิงอู่มิได้รู้สึกเสียใจ อย่างไรเสียถ้าหากขนย้ายไปมิได้แล้วต้องทิ้งเอาไว้ที่นี่ ก็รังแต่จะถูกผู้อื่นนำไปใช้เสียเปล่า ๆ มิสู้ทำลายทิ้งให้สิ้นซากเสียดีกว่า นางเดินเข้ามาในห้องพลางกวาดสายตามองไปรอบห้อง ทันใดนั้นก็หยุดฝีเท้าอยู่ตรงแจกันใบหนึ่ง สายตาของเย่เสวียนถิงคอยตามติดนาง เมื่อเห็นนางหมุนฐานแจกันด้วยท่าทีคล่องแคล่ว ภาพเขียนที่แขวนอยู่บนผนังทางด้านหน้าก็ร่วงหล่นลงมา เผยให้เห็นห้องลับที่อยู่ข้างหลัง ซูชิงอู่ยิ้มพลางกล่าวว่า "อยู่ตรงนี้อย่างที่คาดคิดเอาไว้จริง ๆ เสียด้วย" เมื่อเย่เสวียนถิงเห็นนางก้าวเข้ามาก็รีบขวางนางเอาไว้ทันที น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและเค

Latest chapter

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 930

    คนขายเนื้อทำสีหน้าหวาดกลัว “คนผู้นี้เลวทรามถึงเพียงนี้เลยรึ?”“เจ้าคอยระวังตัวเอาไว้ก็ไม่เป็นไรแล้ว ทางนั้นตรวจดูเสร็จรึยัง? ไปกันต่อเถิด!”เมื่อกองกำลังทำการค้นหาเสร็จเรียบร้อย คนขายเนื้อก็ยิ้มมุมปากเบา ๆเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนเหล่านี้จะพบเบาะแสทางตะวันตกของเมืองเร็วถึงเพียงนี้หากเขาไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อนหน้านี้และรีบปลอมตัวโดยไว เขาก็คงจะถูกจับได้ไปแล้วคนขายเนื้อรีบเข้าไปยังพื้นที่ด้านในสุดของร้านเขาเหลือบมองหนอนกู่ที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ในหนึ่ง และเมื่อเปิดตู้ใบนั้น ดวงตาของเขาก็ฉายแววน่ากลัวออกมาผ่านมาหลายปี ดูเหมือนโลกภายนอกจะลืมความน่ากลัวของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว เริ่มแรกนั้นพวกเขาได้ครอบครองตำแหน่งระดับสูงของราชวงศ์ในแคว้นต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งในนามแต่มันสามารถแทรกแซงแคว้นนั้น ๆ และพลิกสถานการณ์ได้ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือการแอบเข้าไปในพระราชวังเพื่อช่วยเหลือเจียงเฟยเอ๋อร์หากต้องการเข้าไปในพระราชวังมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาได้ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างออกไปบุรุษผู้นั้นออกจากร้านขายเนื้อหมูที่ถูกตรวจค้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับปิดประตูร้านแสร้งทำเป็นออกไปทำธุร

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 929

    หลังจากซูชิงอู่ส่งชิงอวี่ออกไปก็ยังคงตื่นเต้นอยู่เล็กน้อยซูชิงอู่หาคนมาวาดภาพเหมือนเจ้าอาวาสในปีที่แล้วและส่งต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อช่วยกันค้นหา ซึ่งมันก็ผ่านมานานมากแล้ว และมีเพียงชิงอวี่เท่านั้นที่นำข่าวที่ได้รับการยืนยันกลับมาแจ้งนางแม้จะยังไม่ได้เจอคนผู้นั้น แต่ก็หมายความว่านางจะได้รู้ความจริงของการตายของท่านแม่เสียทีหลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ซูชิงอู่ก็ตัดสินใจเดินทางไปทันทีนางอยากไปเจอจิ้งซินผู้นั้นด้วยตนเองและถามเขาว่าเหตุใดตอนนั้นเขาถึงฆ่าท่านแม่ของนาง!คืนเดียวกันนั้นซูชิงอู่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเย่เสวียนถิงเมื่อเย่เสวียนถิงได้รับรู้เรื่องราวก็พยักหน้าเบา ๆ และตัดสินใจอย่างทันทีว่า “ข้าจะส่งคนไปจับเขามาให้เจ้า”ซูชิงอู่ได้ยินอีกฝ่ายตอบง่าย ๆ และห้วนก็อดไม่ได้ที่จะตะลึงและหัวเราะ“ได้”ตอนนี้มีศิษย์พี่ของเจียงเฟยเอ๋อร์คอยจับตาดูอยู่ในเมืองหลวง ซูชิงอู่จึงไม่สามารถไปหาคนผู้นั้นพร้อมกับชิงอวี่ได้บรรยากาศในเมืองหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ฮ่องเต้เช่นเย่ชิวหมิงก็สังเกตเห็นสัญญาณของเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างที่กำลังจะตามมาเขาเคยได้ยินซูชิงอู่พูดว่าศัตรูที่ซ่อนตัวอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 928

    ไป๋เฟิงก้มหัวลงอย่างเชื่อฟัง ราวกับมันได้กลายเป็นแมวตัวใหญ่ไปแล้วซูชิงอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าคงเหนื่อยแย่ วันนี้ทำได้ดีมาก”ในที่สุดก็ได้ใช้ประโยชน์จากไป๋เฟิง สมกับที่เลี้ยงมันมานานไป๋เฟิงยืนขึ้นและอ้าปากหาว ส่วนสิงโตขนทองคำที่อยู่ข้าง ๆ ย่องเข้ามาทางด้านหลังซูชิงอู่ และใช้หัวถูเอวของนางดูเหมือนว่ามันต้องการให้ซูชิงอู่ลูบมันด้วยคนอื่น ๆ มองไปยังซูชิงอู่ที่มีร่างกายบอบบางยืนอยู่ตรงหน้าสัตว์ดุร้ายทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดก็พูดไม่ออกอยู่นานนี่มัน...ร้ายกาจเกินไปแล้ว!แม้แต่กลุ่มบุรุษร่างใหญ่เช่นพวกเขาก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้สัตว์ดุร้ายทั้งสองแม้แต่ครึ่งก้าว ทว่าซูชิงอู่กลับสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้อย่างกลมกลืนเหมือนพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของนางเมื่อไม่ถูกยุงกัดและกินยาสมุนไพรที่ผสมไว้แล้ว ม้าทุกตัวในสนามฝึกก็สงบลงและกลับสู่ภาวะปกติทันทีที่ซูชิงอู่กลับมาถึงตำหนัก ก็เห็นหรงหย่าวิ่งเข้ามา“พระชายา เมื่อครู่มีคนมาพบท่านและบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องรายงาน”“มีเรื่องด่วนอะไรรึ?”หรงหย่าส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน ท่านไปดูก่อนเถิด”ซูชิงอู่สั่งให้คนพาผู้ส่งข่าวเข้ามาทันทีนางจ้อง

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 927

    เลือดของแมลงวันติดอยู่ที่มือของซูชิงอู่ส่งกลิ่นแปลก ๆ ออกมาเมื่อซูชิงอู่มองชัด ๆ นางก็ได้รู้ว่ามันไม่ใช่แมลงวันแต่เป็น…แมลงมีปีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลงวันปากของแมลงมีความคมมาก สามารถเจาะทะลุขนของสัตว์บางชนิดได้ง่าย ทว่าแมลงมีปีกชนิดนี้ไม่สนใจมนุษย์และจะกัดเฉพาะสัตว์เท่านั้นที่แท้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สัตว์ในเมืองหลวงบ้าคลั่งในช่วงหลายวันนี้!ซูชิงอู่ยังสังเกตเห็นว่ายุงเหล่านี้ถูกพิษและเมื่อพวกมันแพร่พันธุ์ ในไข่ก็มีสารพิษดังกล่าวติดไปด้วยขอเพียงแมลงเหล่านี้ยังกัดสัตว์ต่อไป สารพิษก็จะค่อย ๆ สะสมทีละน้อยสุดท้ายก็ถึงขั้นทำให้เสียสติ!คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้มีเจตนาชั่วร้ายหากนางไม่ค้นพบสิ่งนี้ก่อน เกรงว่าม้าศึกทั้งหมดจะต้องตายไปด้วยความบ้าคลั่งอีกทั้งยังไม่อาจทราบสาเหตุได้แน่นอนว่าม้าศึกเป็นส่วนสำคัญในกองทัพ หากทหารม้าเสียม้าไป ก็คงไม่ต่างไปจากคนอ่อนแอไร้ค่า...ซูชิงอู่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว“นำม้าทุกตัวไปไว้ในที่ปิดและหาทางฆ่าแมลงมีปีกเหล่านี้ให้สิ้นเสีย”รองแม่ทัพที่ติดตามนางมารีบจำคำสั่งนี้เอาไว้ทันที“รับทราบพ่ะย่ะค่ะพระชายา!”เขาก็รีบกระจายคำสั่งออก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 926

    เมื่อเย่เสวียนถิงได้ยินสิ่งที่ซูชิงอู่พูด สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น “ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบ”ซูชิงอู่ส่ายหัวทันที “ยาพิษนี้คงไม่ได้อยู่ในอาหารสัตว์ อีกทั้งเมื่อมาลองคิดดู สัตว์ป่าจำนวนมากที่อยู่ใกล้เมืองหลวง รวมไปถึงม้าศึกล้วนติดพิษกันหมด มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร นี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครสามารถวางยาพิษม้าศึกในเมืองหลวงได้อย่างเงียบ ๆ ”การวิเคราะห์ของซูชิงอู่นั้นสมเหตุสมผลมาก แม้แต่เย่เสวียนถิงเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหากหาสาเหตุไม่พบก็แก้ปัญหาไม่ได้แม้จะรักษาม้าหนึ่งในนั้นจนหายขาด แต่ก็จะกลับมามีอาการเดิมในอีกไม่ช้าไม่ไกลกันนักก็มีนายทหารระดับสูงนายหนึ่งวิ่งเข้ามาเขาหอบหายใจและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ทำการตรวจสอบเสบียงอาหารแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ”“น้ำล่ะ?”“ตรวจสอบน้ำแล้วเช่นกัน ไม่มีร่องรอยของการวางยาพิษเลยพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อได้ยินรายงาน เย่เสวียนถิงก็ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าคราวนี้แย่แล้วสิซูชิงอู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วยทำให้ม้าทุกตัวสงบลงก่อนได้หรือไม่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปดูรางอาหารม้าเอง”“ได้พ่ะย่ะค่ะพระชายา กรุณารอสักครู่ ก

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 925

    เริ่มแรก เขาสงสัยในเรื่องที่ซูชิงอู่เคยพูดจนเกิดความคิดจินตนาการบางส่วนขึ้นมา เรียกได้ว่าตอนกลางวันก็เอาแต่นึกถึง ตกกลางคืนก็เก็บมาฝันอีกแต่เขาไม่เคยได้ยินซูชิงอู่พูดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยจริง ๆเนื่องจากความฝันนั้นมันดูเพ้อเจ้อเกินไป เย่เสวียนถิงจึงไม่พูดออกมา เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับซูชิงอู่อย่างไม่มีเหตุผลหลายวันมานี้ซูชิงอู่อาศัยอยู่กับลูกน้อยทั้งสามของนางเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่นางห่างพวกเขาไปนานเด็ก ๆ ที่เพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือนแต่กลับต้องห่างจากอ้อมอกของพ่อแม่ นั่นทำให้ซูชิงอู่รู้สึกผิดขึ้นมาดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องภายนอกมากนักทันใดนั้นนางก็นึกอะไรออกและถามว่า “เสวียนถิง ช่วงนี้หมาป่าเหล่านั้นที่อยู่ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?”เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้าย แต่ยังกระทบไปถึงม้าศึกด้วย ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงเริ่มไม่เชื่อฟังคำสั่งกัน”“เดี๋ยวข้าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้เสียหน่อย”ซูชิงอู่รู้สึกได้โดยไม่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้เรื่องจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยและไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนัก แต่นางก็รู้สึกอ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 924

    ทันใดนั้นหมอหลวงซุนก็เหมือนจะคิดอะไรออก “เหมือนกับตอนที่พระชายาใช้ดอกไม้ชนิดหนึ่งเพื่อทำให้ม้าพยศคลั่งใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“อืม ทำนองนั้นแหละ”สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่นางพบในเภสัชตำรับ และหากใช้มัน ผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งมากแม้ลงมือไปอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่มีใครจับได้ปรมาจารย์มือวางพิษที่แท้จริงคือผู้ที่วางยาพิษโดยไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ เอาไว้“ขอบพระทัยพระชายาสำหรับคำชี้แนะ หลังจากที่ได้พูดคุยกับท่าน กระหม่อมก็เข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ซูชิงอู่ปิดเภสัชตำรับ “ข้าท่องเภสัชตำรับนี้จนจำขึ้นใจ และเข้าใจเนื้อหาด้านในได้คร่าว ๆ เพียงแต่ยังไม่พบวิธีที่จะไขความลับที่อยู่ในนั้น หวังว่าท่านจะช่วยเรื่องนี้ได้”คราวนี้ ทุกคนเชื่อมั่นในคำพูดของซูชิงอู่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สนใจ แต่พระชายากลับนำมาใช้งานได้ถึงขั้นนี้ ยังมีอะไรที่ต้องพูดกันอีกหรือ?ตาแก่เช่นพวกเขาที่อาศัยว่าตนอายุมากทำตัวอาวุโสดูถูกผู้อื่นนั้นเทียบเทียมพระชายาไม่ได้เลย!หลังจากที่ซูชิงอู่อธิบายเรื่องนี้จบ นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและแอบหลบออกมาทางประตูใหญ่นางกลัวว่าคนเหล่านั้นจะถามนางว่านางศึกษาเรียนรู้ทักษะทางการ

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 923

    หมอหลวงซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย“อย่าพูดไร้สาระ นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? พระชายาไม่จำเป็นต้องโกหกพวกเราเลย โกหกพวกเราไปแล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?”คำพูดนี้ก็ถือว่ามีเหตุผลทุกคนต่างพูดไม่ออกทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ แล้วพลิกหน้าอ่านต่อไปพลิกหน้ากระดาษตั้งแต่เช้าจรดค่ำ และอ่านจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นตำราทั้งเล่มถูกอ่านจนจบอย่างรวดเร็ว ทุกคนในสำนักหมอหลวงไม่ได้นอนมาสองวันสองคืน และตอนนี้ทุกคนดูเหนื่อยและมีสีหน้าทรุดโทรมเมื่ออ่านหน้าจนถึงสุดท้าย แม้แต่หมอหลวงซุนก็ตกอยู่ในความเงียบเพราะเภสัชตำรับเล่มนี้บันทึกเฉพาะโรคและวัตถุดิบยาที่ธรรดาทั่วไปมาก ๆ บางส่วนเท่านั้นข้อแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวคือผู้อาวุโสเช่นพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบยาหลายประเภทและพัฒนาแนวคิดใหม่ ๆแม้จะไม่ไร้ประโยชน์ แต่ความคาดหวังกับผลลัพธ์ก็แตกต่างกันมากเลยทีเดียวถึงขั้นทำให้พวกเขาขาดความมั่นใจและอดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่น่ะหรือคือเภสัชตำรับที่ตระกูลฟางเฝ้าหวงแหนมานานหลายปี?ดวงตาของหมอหลวงซุนเต็มไปด้วยสีแดงก่ำที่เกิดจากการอดนอน“ในเมื่อเภสัชตำรับของตระกูลฟางไร้ประโยชน์ เช่นนั้นพระชายาไปเรียนรู้ทักษะด้านการแพทย์มา

  • ย้อนรักทวงแค้น   บทที่ 922

    “นี่คือวัตถุดิบยาและปริมาณที่คนผู้นั้นทำการวางยา ที่สำนักหมอหลวงของพวกท่านมีสิ่งนี้อยู่แล้ว หากจะทำยาถอนพิษก็คงไม่ใช่เรื่องยากกระมัง”“ไม่ยากพ่ะย่ะค่ะ ไม่ยาก!”หมอหลวงซุนยิ้มร่าราวกับได้รับสมบัติเขามองซูชิงอู่ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่กลับเก่งกาจกว่าเหล่าคนชราเช่นพวกเขาเมื่อรวมกับเภสัชตำรับของตระกูลฟางที่ซูชิงอู่พูดถึง หมอหลวงเฒ่าก็ดีใจจนเนื้อเต้นหากได้เรียนรู้และกลายเป็นคนที่เก่งกาจเหมือนพระชายา ระดับความรู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยหรือไม่?แต่หมอหลวงซุนไม่เคยรู้เลยว่าทุกสิ่งที่ซูชิงอู่เรียนรู้ไม่ได้มาจากเภสัชตำรับของตระกูลฟางในเภสัชตำรับเล่มนั้นมีความแตกต่างตรงจุดไหน ตัวซูชิงอู่ในตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำแม้ตอนตายไปในชาติก่อน เภสัชตำรับก็ถูกทำลายและไม่มีใครเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ในนั้นจุดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของเภสัชตำรับเล่มนั้นคือบันทึกข้อมูลวัตถุดิบยาจำนวนมากที่คนทั่วไปไม่ทราบและสรรพคุณลับบางส่วนบรรดาผู้อาวุโสของสำนักหมอหลวงพากันมาช่วยคิดค้นยาถอนพิษเพื่อที่จะได้อ่านเภสัชตำรับนั้นเร็ว ๆในที่สุดเช้าวันรุ่งขึ้นยาที่สามารถฟื้นฟูสติของสัตว์ร้ายได้ก็ถูกส่งมาให้ฮ่องเต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status