แชร์

บทที่ 100

ผู้เขียน: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
เขาดูเหมือนขาดคนเอาใจใส่และขาดความรักเป็นอย่างมาก

ตอนเด็กเขายังร้องห่มร้องไห้เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้ น้ำตาไหลพรั่งพรูไปหมด

เจียงเฟิ่งหัวเก็บกวาดจนสะอาดแล้วก็ไปที่ห้องครัวอีก เซี่ยซางกลับไปที่โต๊ะ ทำงานที่ยังค้างไว้ต่อ และก็เป็นเพราะดึกเกินไปแล้ว เขาจึงไม่ได้ไปที่ห้องหนังสือ เวลานี้ จู่ ๆ เขาก็มีความคิดขึ้นมา เริ่มเขียนหนังสืออย่างรวดเร็ว

เพียงไม่นานนางก็กลับมา เมื่อครู่นางเหมือนจะแอบเห็นว่าเนื้อหาบนกระดาษเกี่ยวข้องกับคดีสุสานหลวงถูกปล้น

พี่ใหญ่บอกว่าเขาสืบได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เป็นทางการมาจากช่องทางพิเศษ เซี่ยซางอารมณ์ไม่ดีเพราะคดี เพราะฉะนั้นเมื่อครู่เขากำลังหงุดหงิดเรื่องคดีหรอกหรือ?

นางจำได้ว่าชาติที่แล้วต่อให้สุสานหลวงถูกปล้น สิบกว่าปีหลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องใหญ่โตอะไรเกิดขึ้น อย่างมากก็แค่อัญมณีและเครื่องหยกที่ฝังพร้อมพระศพในสุสานหายไปบ้างเท่านั้น

แต่ดูท่าทางของเซี่ยซางในตอนนี้แล้ว นางรู้ว่ามีของอย่างหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากหายไปอย่างแน่นอน

“เจ้าไปนอนก่อนเถอะ ข้ายังมีเรื่องบางอย่างต้องสะสาง” เซี่ยซางเห็นนางกลับมา กล่าวเสียงอ่อนโยน

นางไม่ได้พูดอะไร “ตอนนี้ดึ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 1

    ภายในห้องหับวิจิตรงามสง่า สาวน้อยนางหนึ่งสวมชุดวิวาห์หรูหรานั่งอยู่หน้ากระจก ดวงหน้างามพิลาสของนางเผยรอยยิ้มอ่อนโยนมารดาของสาวน้อยกำลังแต่งตัวให้นาง มองดูลูกสาวตรงหน้าอย่างทั้งปลาบปลื้มและปวดใจ ลูกสาวที่เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่กำลังจะออกเรือนแล้ว ดวงตาของนางแดงเรื่ออย่างอดไม่อยู่ “เดิมทีแม่อยากให้เจ้าอยู่ข้างกายอีกสักสองปี คิดไม่ถึงว่าเพิ่งถึงวัยปักปิ่นก็มีราชโองการประทานสมรสของฝ่าบาทลงมาเสียแล้ว”เจียงเฟิ่งหัวเอ่ยปลอบ “ลูกแต่งเข้าราชวงศ์ไปเป็นชายาอ๋อง พรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศทรัพย์ศฤงคาร แพรพรรณอาหารชั้นเลิศ ชีวิตย่อมสุขสบายเป็นแน่แท้ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ ลูกจะต้องมีชีวิตที่ดีแน่นอน”“จ้ะๆๆ ลูกสาวแม่เป็นคนมีวาสนา คุณหนูสกุลใหญ่มีตั้งมากมาย ฮองเฮาทอดพระเนตรปราดเดียวก็เลือกเจ้าเป็นชายาของเหิงอ๋อง เขาเป็นลูกชายแท้ๆ ของฮองเฮา ฮองเฮายังโปรดเจ้ามากถึงเพียงนี้ วันหน้าจะต้องไม่ดูดายเจ้าแน่นอน” เฝิงจิ้งย่วนปีติยินดีจนน้ำตาไหล คิดถึงว่าเหิงอ๋องหล่อเหลาสง่างาม ความสามารถด้านศิลปศาสตร์โดดเด่น ทรงอำนาจบารมี ลูกสาวโฉมงามล่มเมือง เชี่ยวชาญทั้งดนตรี หมากล้อม เขียนพู่กันและวาดภาพ สกุลเจียงซึ่ง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 2

    เมื่อครู่ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วเวลากะพริบตาเดียวเท่านั้น ความเคลื่อนไหวของเซี่ยซางนับว่าว่องไว ดึงผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวที่ร่วงลงมาตรงอกเจียงเฟิ่งหัวคลุมศีรษะให้นางใหม่ หลังจากนั้นเขาก็กลับไปมีท่าทางห่างเหินที่ห้ามคนแปลกหน้าใกล้ชิดอีกครั้ง ไอเย็นห่อหุ้มรอบกาย แววตายิ่งเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ปราศจากความรู้สึกแม้เศษเสี้ยว น้ำเสียงหนักแน่นเปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดดังขึ้นริมโสตนาง “เจ้ายังดำเนินพิธีต่อได้หรือไม่?”เจียงเฟิ่งหัวพยักหน้าน้อยๆ “เพคะ”นางรู้ว่าถึงเซี่ยซางจะไม่ยินดีแต่งงานกับนาง แต่ก็ไม่มีทางเห็นคนประสบอันตรายแล้วไม่ช่วยเหลือ พวกเขาไม่เคยพบกันมาก่อน เจอกันครั้งแรกก็วีรบุรุษช่วยสาวงาม เท่านี้ก็พอให้ซูถิงหว่านที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนถือสาแล้ว ส่วนว่าความเคลื่อนไหวของนางจะทำให้แม่สามีไม่พอใจหรือไม่นั้น มิได้อยู่ในขอบเขตการพิจารณของนางยามนั้นขุนนางผู้ดำเนินพิธีรีบเอ่ยว่า “ยิ่งไฟลุกยิ่งรุ่งโรจน์ ยิ่งโหมไหม้ยิ่งเป็นมงคล ชีวิตของพระชายากับท่านอ๋องจะต้องรุ่งโรจน์โชติช่วง เจริญรุ่งเรืองเป็นแน่แท้ ดำเนินพิธีมงคลสมรสต่อไปได้...”ทุกคนเห็นเจ้าสาวเพียงแวบเดียวก็เอ่ยวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความประหลาดใจ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 3

    ขนตาเจียงเฟิ่งหัวไหวระริก ใบหน้าเล็กๆ นั้นอดกลั้นจนแดงก่ำ นิ้วมือเรียวกระชับชุดชั้นนอกที่เดิมก็บางเบาอยู่แล้ว ยิ่งปกปิดยิ่งเผยให้เห็นเรือนร่างกลมกลึงของนาง เท้าเปลือยเปล่าคู่นั้นเปิดเผยอยู่เบื้องหน้าเขา ชวนให้คนเอ็นดูเหมือนภูตน้อยไม่มีผิดเซี่ยซางรีบเสสายตาหนี เอ่ยเสียงเย็นชา “แต่งตัวให้เรียบร้อย”เจียงเฟิ่งหัวก้มหน้ามอง พบว่าเท้าของตนเองเปลือยเปล่า นางบิดเอวคอดเดินผ่านหน้าเขาไป ด้านหนึ่งดึงอาภรณ์ลงปกปิดอย่างร้อนรน ด้านหนึ่งก็อธิบายเสียงเบา “หม่อมฉันไม่ได้ไม่รู้กฎระเบียบนะเพคะ ท่านอ๋องโปรดฟังหม่อมฉันอธิบายก่อน ตอนกลางวันชุดชั้นนอกของหม่อมฉันถูกไฟเผา หม่อมฉันเกรงว่าจะแลดูไม่เหมาะสม ครั้นกลับห้องหม่อมฉันจึงให้คนไปเตรียมน้ำอาบน้ำ เดิมคิดว่าจะแต่งตัวใหม่ แต่อาจเป็นเพราะเหนื่อยเกินไปจึงเผลอหลับไปโดยไม่ทันระวัง หม่อมฉันจึงลืมเวลาไปชั่วขณะ”“ข้าไม่ได้ถือสา” น้ำเสียงของเขาห่างเหินเย็นชา แววตามืดครึ้มเผยให้เห็นความไม่พอใจนางคิด สำหรับคนที่ไม่สนใจแล้ว ต่อให้เปลือยทั้งตัว เขาก็ไม่สนใจหรอกเจียงเฟิ่งหัวดวงตาเป็นประกาย นางหลบไปข้างๆ อย่างอ่อนแอขวัญอ่อน ดวงตาฉายแววลังเล กัดริมฝีปากสีแดงฉ่ำพึมพ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 4

    ปลายฤดูวสันต์ อากาศเริ่มร้อนระอุ บนร่างเจียงเฟิ่งหัวสวมชุดบางๆ ชั้นเดียวไม่หนาวและไม่ร้อน ในไม่ช้าก็นอนหลับไป ลมหายใจสม่ำเสมอเซี่ยซางอาบน้ำกลับมาก็เห็นนางนอนอยู่ด้านในสุดของเตียง เรือนร่างนางโค้งเว้าชัดเจน เอวคอดดุจกิ่งหลิว ขาเรียวงามโผล่ออกมานอกผ้าห่ม เปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดถึงที่สุด แขนเกลี้ยงเกลาดุจหยกพาดสะเปะสะปะ ดวงหน้างามพิสุทธิ์ผุดผาด ดวงตาทั้งสองหลับพริ้ม ขนตางอนงามสงบนิ่งดุจหญิงที่ยังไม่ออกเรือน ริมฝีปากแดงอิ่มเป็นมันวาว เย้ายวนชวนเสน่หาเซี่ยซางอึ้งไปชั่วขณะ เขาจำต้องยอมรับว่ารูปโฉมงามพิลาสของเจียงเฟิ่งหัวนั้นหาได้ยากยิ่ง เขานอนอยู่ด้านนอกสุดของเตียงโดยสวมอาภรณ์เรียบร้อย เว้นที่ว่างกว้างเท่าหนึ่งคนนอนได้ไว้ตรงกลาง กลิ่นหอมกรุ่นจางๆ ซ่านเข้าจมูก ตอนกลางวันขณะที่เขาอุ้มนางก็ได้กลิ่นหอมอ่อนจางเช่นนี้ หอมจรุงใจยิ่งนักเขาหลับตา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เขากลั้นหายใจรวบรวมสมาธิ เตือนตัวเองว่าแม้จะนอนร่วมเตียงกับสตรีผู้หนึ่งก็สามารถทำได้ถึงขั้นจิตใจไม่วอกแวกเจียงเฟิ่งหัวไม่ใช่คนที่เขารัก นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอที่มีดีเพียงรูปโฉม ไม่อาจมีความคิดนอกลู่นอกทางกับนางเป็นอันขาดหันไปมองเจี

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 5

    วันนี้เซี่ยซางสวมชุดแพรทรงตรงสีม่วง ตรงเอวรัดด้วยแถบผ้าแพรปักดิ้นทองลายเมฆสีเดียวกันเส้นหนึ่ง ผมสีดำสนิทรวบไว้ครอบด้วยมงกุฎทองคำประดับหยก รูปร่างสูงโปร่งยืนแผ่นหลังตั้งตรง ทั้งตัวคนแลดูหล่อเหลาสง่างาม กอปรด้วยราศีสูงศักดิ์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิดส่วนเจียงเฟิ่งหัววันนี้สวมเสื้อคลุมเนื้อบางสีม่วงอ่อน ข้างในสวมเกาะอกและกระโปรงร้อยจีบสีฟ้าเทา ไหล่กลึงเกลาดุจแกะสลัก เอวอ้อนแอ้นอรชร ลำคอของนางเรียวยาว ผิวพรรณขาวพิสุทธิ์เกลี้ยงเกลา บุคลิกภาพดุจกล้วยไม้ในหุบเขา การแต่งกายแต่ละแบบสามารถขับเน้นเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำกันของนาง ผมทรงมวยเมฆาในวันนี้ยิ่งขับเน้นความสุภาพเรียบร้อย แลดูทั้งสง่างามและหรูหรา นางแต่งหน้าอย่างประณีตงดงาม เดินตรงมาทางเขาด้วยฝีเท้าแช่มช้า“หม่อมฉันคารวะท่านอ๋อง” น้ำเสียงของนางอ่อนหวาน ต่างจากท่าทางปล่อยตัวตามสบายเปี่ยมเสน่ห์เย้ายวนเมื่อคืนนี้ลิบลับ กิริยาที่นางแสดงออกก็คือมาดของชายาอ๋องเซี่ยซางใจสั่นระรัว หันหน้ามากล่าวเสียงเย็นชา “ตามธรรมเนียมแล้ว วันนี้ข้าจะต้องพาเจ้าเข้าวังไปคารวะขอบพระทัย ถ้าเจ้าเตรียมตัวเสร็จแล้ว พวกเราก็ไปกันเถอะ!”“เพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างไม่แข็งกร้าวไ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 6

    ภายในตำหนักคุนหนิง วังหมัวมัวรายงานเรื่องที่พวกเขายังไม่ได้ร่วมหอกันต่อเฉิงฮองเฮา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างนอก ฮองเฮาก็ทราบแล้วเช่นกัน ไม่ว่าเจียงเฟิ่งหัวทำได้อย่างไร สุดท้ายนางก็รักษาเกียรติของตนเองเอาไว้ได้เฉิงฮองเฮาเลิกคิ้วงามขึ้นเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบ “ถ้าเจียงเฟิ่งหัวเป็นคนมีความสามารถ การร่วมหอย่อมเป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็ว จากที่เห็นวันนี้ นับว่าข้าเลือกชายาที่ดีคนหนึ่งให้ซางเอ๋อร์แล้วสินะ”“ท่านอ๋องเดี๋ยวประคองขึ้นเดี๋ยวประคองลง คิดว่าคงโปรดพระชายาเป็นแน่เพคะ” สี่หมัวมัวเอ่ยมาอีกว่า “องค์หญิงเก้าช่างไม่รู้ความเกินไปแล้ว มาถึงหน้าประตูตำหนักแล้วแท้ๆ ก็ยังไม่เข้ามาคารวะทักทายฮองเฮา ไม่รู้จริงๆ ว่ากุ้ยเฟยสั่งสอนอย่างไร”“ไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องได้รับบทเรียนแน่” เฉิงฮองเฮารังเกียจเซี่ยหลิงเอ๋อร์ด้วยเช่นกันสี่หมัวมัวยินดีในคราเคราะห์ของผู้อื่น “ตั้งแต่กำหนดเรื่องมงคลของท่านอ๋อง กุ้ยเฟยก็ไปร้องไห้ต่อหน้าฝ่าบาทมาแล้วหนหนึ่ง บอกว่าคุณหนูซูกับท่านอ๋องของพวกเราชอบพอกัน ต้องการขอพระเมตตาให้คุณหนูซู สุดท้ายฝ่าบาทปฏิเสธกุ้ยเฟยไปโดยอ้างว่ากษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ ยามนั้นสีหน้าปั้นยากยิ่งนัก

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 7

    ได้ยินเจียงเฟิ่งหัวเอ่ยเนิบช้าว่า “หม่อมฉันได้ยินท่านพ่อชื่นชมท่านอ๋องมาตั้งแต่เล็กแล้วว่าเพียบพร้อมทั้งบุ๋นบู๊ เฉลียวฉลาดมากความสามารถมาตั้งแต่ยังเยาว์ เคยเข้าไปประลองกับบัณฑิตมากมายในสำนักศึกษาหลวงจนสร้างชื่อได้ในคราวเดียว ต่อมา เผ่าหูรวบรวมไพร่พลสามแสนมาโจมตีต้าโจว กองทัพศัตรูรุดหน้าเหมือนผ่าลำไผ่ เมืองต่างๆ ของต้าโจวถูกตีแตกเมืองแล้วเมืองเล่า เหิงอ๋องในวัยเพียงสิบห้าปีนำกำลังคนสิบกว่าคนบุกเข้าค่ายทหารของศัตรูไปจับเป็นผู้นำทัพศัตรู เผ่าหูถอนทัพ ครานั้นท่านอ๋องคว้าชัยชนะมาให้ต้าโจวได้อย่างงดงาม ท่านอ๋องห้าวหาญเพียงนี้ นับว่าเป็นความชอบที่เสด็จแม่ทุ่มเทสั่งสอนมาเช่นกันเพคะ”กล่าวถึงความสำเร็จครั้งใหญ่ในอดีตของเซี่ยซาง ดวงตาเฉิงฮองเฮาทอประกายภาคภูมิใจ แต่ครั้นคิดถึงว่าบุตรชายมีความสามารถโดดเด่นปานนี้แต่กลับไม่ได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้ คิ้วก็ขมวดเข้าหากันอย่างอดไม่อยู่ ซางเอ๋อร์ไม่ได้รับความรักจากฮ่องเต้เป็นเพราะผลกระทบจากตนเองทั้งสิ้นดวงหน้าอ่อนเยาว์ของเจียงเฟิ่งหัวฉายแววกังขา “เสด็จแม่เป็นอะไรไปเพคะ?”“ยามนี้หัวใจทั้งดวงของซางเอ๋อร์อยู่ที่สตรีนางนั้น ข้าเองก็ปวดหัวเหมือนกัน” ฮองเฮ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 8

    อีกด้านหนึ่ง ฮองเฮาขอตำแหน่งผู้ดูแลเขตเมืองหลวงมาให้เหิงอ๋องได้จริงๆ นางกำลังดีใจอยู่ก็ได้ยินฮ่องเต้แค่นหัวเราะ “อายุน้อยดีแบบนี้เอง ไร้ทุกข์ไร้โศก กล้าหาญมิพรั่น อยากได้ตำแหน่งก็ไม่มาขอด้วยตนเอง”ฮองเฮารีบร้อนอธิบาย “ความจริงซางเอ๋อร์มีใจแสวงหาความก้าวหน้ามากนะเพคะ ตอนที่เขายังเล็กก็...”ฮ่องเต้วางฎีกาในมือลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วง “เพราถูกเจ้าตามใจจนเสียคนน่ะสิ เขาถึงได้ทำอะไรตามอำเภอใจเช่นนี้ ถ้าเขามีใจแสวงหาความก้าวหน้าจริงก็คงไม่หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องสตรี อยู่ว่างทั้งวี่วัน ต่อให้ยกตำแหน่งผู้ดูแลเขตเมืองหลวงให้เขา เขาจะทำได้ดีงั้นรึ?”สีหน้าฮองเฮาบัดเดี๋ยวเขียวคล้ำบัดเดี๋ยวซีดขาว เล็บจิกเข้าเนื้อก็ไม่รู้สึกเจ็บ นางพลันเงยหน้าขึ้นจ้องมองฮ่องเต้ตรงๆ “ฝ่าบาทจะลำเอียงก็ไม่ต้องลำเอียงถึงขนาดนี้ก็ได้กระมัง หากฝ่าบาทมีใจยุติธรรมสักนิด ปฏิบัติกับเขาเช่นเดียวกับองค์ชายคนอื่น เขาจะอยู่ว่างทั้งวี่วันเช่นนี้หรือเพคะ? มีวาจาประโยคไหนของฝ่าบาทที่ไม่ดูถูกดูแคลนเขา ตอนยังเล็กเขาเป็นเด็กเฉลียวฉลาดถึงปานนั้น...”ฮองเฮาพูดพลางรำลึกถึงความสำเร็จที่แสนยิ่งใหญ่เมื่อครั้งเยาว์วัยของเซี่ยซาง ล้วนแต่เป็

บทล่าสุด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 100

    เขาดูเหมือนขาดคนเอาใจใส่และขาดความรักเป็นอย่างมากตอนเด็กเขายังร้องห่มร้องไห้เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้ น้ำตาไหลพรั่งพรูไปหมดเจียงเฟิ่งหัวเก็บกวาดจนสะอาดแล้วก็ไปที่ห้องครัวอีก เซี่ยซางกลับไปที่โต๊ะ ทำงานที่ยังค้างไว้ต่อ และก็เป็นเพราะดึกเกินไปแล้ว เขาจึงไม่ได้ไปที่ห้องหนังสือ เวลานี้ จู่ ๆ เขาก็มีความคิดขึ้นมา เริ่มเขียนหนังสืออย่างรวดเร็วเพียงไม่นานนางก็กลับมา เมื่อครู่นางเหมือนจะแอบเห็นว่าเนื้อหาบนกระดาษเกี่ยวข้องกับคดีสุสานหลวงถูกปล้นพี่ใหญ่บอกว่าเขาสืบได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เป็นทางการมาจากช่องทางพิเศษ เซี่ยซางอารมณ์ไม่ดีเพราะคดี เพราะฉะนั้นเมื่อครู่เขากำลังหงุดหงิดเรื่องคดีหรอกหรือ?นางจำได้ว่าชาติที่แล้วต่อให้สุสานหลวงถูกปล้น สิบกว่าปีหลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องใหญ่โตอะไรเกิดขึ้น อย่างมากก็แค่อัญมณีและเครื่องหยกที่ฝังพร้อมพระศพในสุสานหายไปบ้างเท่านั้นแต่ดูท่าทางของเซี่ยซางในตอนนี้แล้ว นางรู้ว่ามีของอย่างหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากหายไปอย่างแน่นอน“เจ้าไปนอนก่อนเถอะ ข้ายังมีเรื่องบางอย่างต้องสะสาง” เซี่ยซางเห็นนางกลับมา กล่าวเสียงอ่อนโยนนางไม่ได้พูดอะไร “ตอนนี้ดึ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 99

    เซี่ยซางกลับขยับเว้นที่ให้นางเองอย่างมีไหวพริบ ถังอาบน้ำในหอหล่านเยว่ใหญ่มาก รองรับสองคนแล้วยังมีที่ว่างเหลือเจียงเฟิ่งหัวเห็นว่าเขานอนพาดอยู่นิ่ง ๆ กับขอบถังอาบน้ำ ขณะที่นางเตรียมจะลุกขึ้น ทันใดนั้นเซี่ยซางก็ฉุดข้อเท้าของนางไว้ “อาบด้วยกัน”เจียงเฟิ่งหัวอยากจะบอกว่าอาบไปแล้ว แต่เซี่ยซางพูดด้วยทีท่าหนักแน่น นางจึงหยิบผ้าขึ้นมาถูหลังให้เขาเบา ๆ ล้างแขน ลงไปด้านล่างเรื่อย ๆ …นางทำอย่างเบามือ อ่อนโยน เหมือนกำลังลูบไล้สัตว์เลี้ยง ตอนนี้นางก็มองเขาเป็นสัตว์เลี้ยงแล้ว ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตัวเองคงไม่มีความอดทนพอที่จะอาบเขาให้เสร็จได้ผมของนางตั้งแต่ไหล่ลงไปเปียกหมดแล้ว ลอยอยู่บนผิวน้ำ นางดูแล้วมีเสน่ห์เย้ายวนน่าหลงใหลแต่เซี่ยซางกลับไม่หวั่นไหว ทั้งสองคนเหมือนสามีภรรยาทั่วไปที่อาบน้ำให้กัน นางถึงขั้นสระผมให้เขา สระจนสะอาด น้ำก็เริ่มเย็นแล้ว เขาก็ยังไม่คิดจะลุกขึ้นนางกล่าว “ท่านอ๋อง” วันนี้ดูเหมือนเขาจะไม่มีอารมณ์ และยังอารมณ์ไม่ดีอีกด้วย“ข้าเริ่มเหนื่อยแล้ว เจ้าลุกขึ้นก่อนเถอะ!” เซี่ยซางว้าวุ่นในใจ ร้อนรุ่ม อยู่ไม่สุข แต่เขาคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งไม่มีทางทำอะไรกับนางในน้ำอย่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 98

    เมื่อเห็นเซี่ยซางแช่อยู่ในน้ำ เปลือยแขนและท่อนบน ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเมตตาสงสารขึ้นมา ต่อให้เป็นหมาแมวตกน้ำ นางก็ต้องไปช่วยหน่อยมิใช่หรือ ยิ่งไปกว่านั้นเขาดื่มจนเมาขนาดนี้ หากไถลลงไปจมน้ำตาย ฝันของนางที่จะเป็นฮองเฮามิต้องสลายไปหรอกหรือนางคิดว่าต่อให้ตอนนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อนเต็มที่แล้ว แม้ไม่จมน้ำตาย แต่กลางคืนหลับไปแบบนี้ก็จะเป็นหวัดได้ง่าย ๆนางฝืนใจยกน้ำแกงสร่างเมาไปทางเรือนด้านข้าง “ท่านอ๋อง ตื่นเถอะเพคะ” นางเรียกข้างหูเขาเบา ๆ หนึ่งทีเซี่ยซางเหมือนจะหลับไปแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย นอกจากว่าเขาคออ่อน มารยาทในการดื่มของเขายังถือว่าใช้ได้ อย่างน้อยไม่โหวกเหวกโวยวายนางใช้ช้อนตักน้ำแกงสร่างเมา ค่อย ๆ ป้อนใส่ปากเขา “ดื่มสักหน่อยนะเพคะ ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าตื่นมาจะรู้สึกไม่สบายตัวนะเพคะ”เซี่ยซายยังคงไม่ขยับ หายใจสม่ำเสมอ หลับลึกมาก เหมือนเหนื่อยสุดขีด เจียงเฟิ่งหัวป้อนเขานิดเดียวอย่างใจเย็น แต่กลับไหลเปรอะเปื้อนเต็มปากไปหมด นางก็ขี้เกียจจะป้อนแล้ว เมื่อครู่อาเจียนในเรือนไปแล้ว ในท้องเขาไม่น่าจะมีเหล้าหลงเหลืออยู่เจียงเฟิ่งหัวย่อมย้ายตัวเขาไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อเห็นกล้าม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 97

    เซี่ยซางเห็นเจียงเฟิงหัวยืนอย่างงดงามอ่อนช้อยอยู่ที่ประตู ก็ยื่นมือไปทางนาง กล่าวเสียงเข้มว่า “มานี่…”“อ๊อก!” เขายังพูดไม่จบ เซี่ยซางก็เริ่มอาเจียนออกมาอย่างรุนแรงทันที เวลานี้ท่าทางของเขาน่าสมเพชเวทนามาก ไม่เหลือมาดท่านอ๋องแม้แต่นิดเดียวเจียงเฟิ่งหัวปิดปากและจมูกไว้ มองดูเรือนที่นางจัดตกแต่งอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจหลินเฟิงรู้สึกผิดไม่น้อย วันนี้ท่านอ๋องน่าขายหน้ามากจริง ๆ อาเจียนได้อย่างไรกัน?แล้วก็ได้ยินเจียงเฟิ่งหัวสั่งสาวใช้ว่า “เตรียมน้ำอุ่นให้ท่านอ๋อง ให้ท่านอาบน้ำ สวีหมัวมัว วานท่านไปห้องครัว ต้มน้ำแกงสร่างเมามาหน่อย”รอจนเขาอาเจียนน้ำเหลือง ๆ ออกมาจากในท้อง หลินเฟิงกับพ่อบ้านเฉิงจึงค่อยย้ายเซี่ยซางไปเรือนด้านข้าง วางเขาลงในถังอาบน้ำอันที่จริงเจียงเฟิ่งหัวอยากให้หลินเฟิงเอาเขาไปส่งหอทิงเสวี่ยหลินเฟิ่งช่วยถอดเสื้อผ้าของเซี่ยซางออก เหลือไว้เพียงกางเกงชั้นในบนตัวเขา เขาลองหยั่งเชิงว่า “เช่นนั้นแล้วข้าน้อยก็จะออกไปแล้ว?”เจียงเฟิ่งหัวขมวดคิ้ว อยากจะพูดว่าเจ้ามาอาบน้ำล้างตัวเขาให้สะอาดก่อนค่อยไปสิ!แต่หลินเฟิงไหนเลยจะให้โอกาสนางได้พูด พูด “ข้าน้อย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 96

    ซูถิงหว่านกล่าว “ท่านก็เห็นว่าเขาจ้องเจียงเฟิ่งหัวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและไม่อยากจากลา คนก็จากไปแล้ว ลูกตาเขายังจ้องจนแทบจะออกมานอกเบ้า”“ข้าหมายถึงว่าต้องการหลักฐานที่แน่นหนา”ซูถิงหว่านก็เริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย “คราวก่อนก็เป็นเขาที่มาช่วยนางไว้ ท่านอ๋องเห็นกับตาอยู่ชัด ๆ ว่าเขากับเจียงเฟิ่งหัวมีความสัมพันธ์คลุมเครือ แต่ท่านอ๋องกลับไม่ถือสาหาความ วันนี้ก็เป็นเขาอีกแล้ว ท่านพูดถูก ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน อาซางไม่มีทางเชื่อแน่”“พระชายารองรู้จักคนคนนี้ตั้งนานแล้วหรือ?” อวิ๋นฟางถาม“ไม่รู้จักได้อย่างไร เหมือนจะชื่อเซียวอวี้ เป็นดาวเด่นคนใหม่ในเมืองเซิ่งจิ่ง มีชื่อเสียงอยู่พอสมควร” ซูถิงหว่านอธิบาย ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ “คนพวกนี้ชอบดัดจริตเป็นที่สุด ทำตัวเป็นผู้ดีมีรสนิยม เรียนหนังสือเก่งแล้วมีอะไรดีเล่า ถ้าไม่ได้ทหารเหล่านั้นที่ปกป้องประเทศชาติอยู่ชายแดน พวกเขาจะได้เดินเตร่ในหอโคมเขียว ดื่มเหล้าอย่างสบายอารมณ์เช่นนี้ไหม? ทั้งสกุลซูของข้าพิทักษ์รักษาบ้านเมือง เป็นขุนนางที่มีความดีความชอบของแคว้นต้าโจว แม้แต่ฝ่าบาทยังต้องให้ความเคารพสกุลซูของข้าอยู่ไม่น้อย เหตุใดท่านป้าจึง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 95

    อีกฝั่งหนึ่ง เจียงเฟิ่งหัวหนีออกมาจากหออี๋ชุนแล้วก็ไม่กล้ากลับไปอีก กลัวจะเจอเซี่ยซางเข้าเซียวอวี้เห็นนางสวมหน้ากาก ก็ลองถามดูว่า “คุณหนูสามหรือ?”เจียงเฟิ่งหัวได้สติกลับมา เปิดหน้ากากออก กล่าวว่า “คุณชายเซียวรู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า?”เซียวอวี้หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ตอบตามตรงว่า “เมื่อก่อนไปหาท่านครูที่จวนสกุลเจียงอยู่บ่อย ๆ บ้านสกุลเจียงมักจะมีเสียงพิณลอยออกมา ข้าเลยรู้ว่าคุณหนูสามสกุลเจียงดีดพิณอยู่”เมื่อเขาได้ยินท่วงทำนองอันคุ้ยเคยที่หออี๋ชุนอีกครั้ง เขาก็ตกใจตาค้าง วินาทีนั้นเอง เขาก็กล้าฟันธงว่านางคือเจียงเฟิ่งหัว เพราะว่าคุ้นเคยเป็นอย่างดี“ที่แท้คุณชายเซียวฟังเสียงดนตรีก็รู้ตัวคนเล่น ดูท่าคุณชายเซียวก็เป็นคนที่ชื่นชอบเสียงดนตรีเช่นกัน” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเซียวอวี้ตอบ “ก็แค่พอรู้เรื่องบ้าง ไม่ได้เสี้ยวของคุณหนูสามหรอก”“คุณชายเซียวถ่อมตัวไปแล้ว ท่านพ่อของข้ามักจะบอกว่าในบรรดานักเรียนของท่านทั้งหมด มีเพียงเซียวอวี้ที่เฉลียวฉลาดเกินใคร ต่อไปจะต้องเป็นใหญ่เป็นโตแน่นอน” เจียงเฟิ่งหัวไม่ได้โกหก ราชครูเจียงเป็นคนที่เห็นคุณค่าของคนมีความสามารถจริง ๆ ดังนั้นจึงมักกล่าวถึงเขาอยู่บ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 94

    เวลานี้เอง เจียงจิ่นเหยียนก็มาถึงเวทีเช่นกัน เขาอยากจะพาเจียงเฟิ่งหัวไป แต่กลับคว้ามือของชายอีกคนหนึ่งไว้ในความมืดมิด เจียงเฟิ่งหัวยื่นมือไปคว้ามือของพี่ใหญ่ของนางไว้ แต่กลับคลำเจอฝ่ามือใหญ่ ๆ คู่หนึ่งที่มีแผ่นหนังด้าน ๆ นางรู้ว่านี่ไม่ใช่มือของพี่ใหญ่แน่ ถ้าเช่นนั้นก็เป็นคนอื่น จะเป็นใครเล่า?นางคิดอยากสะบัดมือของอีกฝ่ายออก แต่อีกฝ่ายกลับกำมือนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยทันใดนั้น ฝั่งตรงข้ามก็ดึงนางเข้าไปใกล้ นางจึงเพิ่งได้กลิ่นที่คุ้นเคย นางสับสนวุ่นวายในใจ เป็นเซี่ยซางได้อย่างไรกันเจียงเฟิ่งหัวรีบหุบปากไว้ ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่แอะเดียว กลัวว่าเขาจะจำเสียงได้เนื่องจากนางใส่หน้ากากปกปิดไว้ทั้งหน้า เซี่ยซางเห็นลักษณะของคนที่อยู่เบื้องหน้าไม่ชัด รู้สึกเพียงว่านิ้วมือของคนผู้นี้เรียว เนียนละเอียด เหมือนมือผู้หญิง วินาทีนั้นที่เขาเข้าโอบเอวคนผู้นี้ ก็รู้สึกได้ว่าเอวบางเหมือนกิ่งหลิว และหน้าอกของคนผู้นี้นุ่มนิ่มเขารู้ตัวแล้วว่าที่แท้เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง…ขณะที่เขากำลังลังเลนั้นเอง เจียงเฟิ่งหัวเหยียบหลังเท้าเขาอย่างแรง นางใช้กำลังทั้งหมดที่มีจึงหลุดออกมาจากมือเขาได้ นางก็ไม่มีเวลาสนใจอะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 93

    ในหออี๋ชุนมีทั้งร้องทั้งเต้น เสียงปรบมือโห่ร้องดังทั่วหอ แล้วก็ได้ยินพิธีกรเอ่ยว่า “ขอเชิญคุณชายไร้เทียมทานขึ้นเวที”ฝูงชนเมื่อได้ยินว่าคุณชายไร้เทียมทาน ทุกคนก็ตกใจ พากันวิพากษ์วิจารณ์ “นี่คือการประกวดคัดเลือกนางคณิกา จะมีผู้ชายขึ้นเวทีได้อย่างไร หรือว่าผู้ชายก็อยากชิงตำแหน่งยอดนางคณิกาด้วยหรือ”“ก็ใช่น่ะสิ คณิกาชายมาจากไหนกัน พวกเราต้องการแต่ผู้หญิง ไม่เอาผู้ชาย” ทันใดนั้นกัวเซี่ยก็ขึ้นเสียงด่าทอ “ให้คุณชายไร้เทียมทานอะไรนั่นไสหัวลงไป”มีคนผสมโรงไปด้วยอีก “ข้าน่ะมาใช้เงินเพื่อดูสาว ๆ แก้เบื่อ ผู้ชายมีอะไรน่าดูกัน พวกเจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย ให้แม่นางเพียนเพียนเมื่อครู่ออกมาร้องอีกเพลงซิ ข้ามีเงินเยอะแยะ พวกนี้ก็ตบรางวัลนางให้หมด”ในชั่วพริบตา ชายคนนั้นควักทองตำลึงออกมาหลายก้อน “ตำแหน่งยอดคณิกาคืนนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่นางเพียนเพียน ให้นางออกมา”“เพียนเพียน!”ไม่นาน ทั้งหอก็ตะโกนเรียกชื่อของเพียนเพียนหลินอวี่ในชุดกระโปรงยาวเข้ารูปอันประณีตเดินอย่างอ่อนช้อยไปที่เวที นางยิ้มมุมปากอย่างเย้ายวน ริมฝีปากแดงระเรื่อ กล่าวเสียงหนักแน่นว่า “ทุกท่านมาสนับสนุนงานนี้ที่หออี๋ชุนของข้า ก็เป็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 92

    เจียงจิ่นเหยียนเห็นว่าในแววตานางมีความกังวลซ่อนอยู่ “ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ที่เจ้าแต่งกับเหิงอ๋อง เขาทำอะไรเจ้าหรือ ถึงได้ห่วงหน้าพะวงหลัง ข้าแทบจะจำเจ้าไม่ได้แล้ว เจียงเฟิ่งหัวที่มีการวางแผนชัดเจนอยู่ในใจ มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมไปอยู่ที่ไหนแล้ว”“เมื่อก่อนข้าเข้าออกหออี๋ชุนมีพี่ใหญ่คอยปกปิดให้ข้า แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ข้าทำตามอำเภอใจไม่ได้อีกต่อไป” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบเจียงจิ่นเหยียนรู้ว่านางคือพระชายาเหิงอ๋อง ยิ่งรู้ดีว่าเซี่ยซางผูกสมัครรักใคร่กับหญิงอื่นมานานแล้ว แต่หรวนหร่วนอยากจะแต่งเอง เขาก็ห้ามไม่ได้ เขาเพียงแค่หวังว่าน้องสาวจะทำใจให้สบาย ไร้ทุกข์ไร้กังวลในใจเขาสงสัยมาตลอดว่า หรือว่าหรวนหร่วนจะมีใจให้เหิงอ๋องมาตั้งแต่เด็ก เขาถามว่า “หรวนหร่วน พี่ใหญ่รู้ว่าเจ้ามีแผนการอันซับซ้อนอยู่ในใจมาตั้งแต่เด็ก พี่ใหญ่หวังว่าเจ้าจะไม่ลืมความเป็นตัวเอง ทำให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์เพื่อเรื่องบางอย่างหรือคนบางคนที่ไม่ควรค่า เจ้าต้องจำไว้ว่าความสุขสำคัญที่สุด ถ้าเขาทำให้เจ้ามีความสุขไม่ได้ ทำให้เจ้าไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง เจ้าจะแต่งงานกับเขาไปทำไม”เจียงจิ่นเหยียนรู้ว่านางแตกต่าง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status