บทที่ 2พอซิงซิงเดินออกจากเรือนไป หลิวอี้เฟยรีบเดินไปยังด้านข้างของเตียงนอน แกะแผ่นไม้มุมข้างเตียงออก ตั๋วเงินที่นางแอบสะสมเอาไว้มาตลอด 5ปี ถึงจะไม่มากมาย แต่ก็คงพอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ อยู่ที่นี้ทั้งถูกรังแกจากพวกยัยแก่แร้งทึ้ง บ่าวไพร่ไม่ให้ความเคารพ สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าหันซ้ายหันขวา อยู่ข้างกำแพง เอาไงดี พอมายืนใกล้ๆ สูงใช่ย่อย สูงขนาดนี้จะบีนยังไง จดเวลาเวรยามมาอย่างดี แต่ดันมาเจอกำแพงมุมที่ สูงที่สุดในจวน จะบีนออกยังไงล่ะ หลิวอี้เฟยได้แต่ยืนถึ้งหัวตัวเอง อยากจะตะโกนแหกปากระบายอารมก็กลัวจะมีคนได้ยิน"สำเร็จมั้ยเจ้าค่ะ" หลิวอี้เฟยสะดุ้งสุดตัว เมื่อหันไปมองตามเสียง เป็นซิงซิงสาวใช้ประจำตัวของนางนั้นเอง "เฮ้อ เจ้านั้นเองตกอกตกใจหมดเลย ""ซิงซิงว่าคุณหนูกลับไปเตรียมตัวดีกว่าเจ้าค่ะ" สาวใช้พูดไปลากแขนเจ้านายตัวแสบไปด้วย ตั้งแต่นางตื่นมาจากล้มหัวพาดพื้น เมื่อ5ปีก่อน จากคุณหนูสี่ผู้เรียบร้อย พูดจาอ่อนหวานงดงาม กลายเป็นแก่นแก้ว แสบทรวง พูดจาวาแปลกๆ แต่นางแสดงออกแต่ตอนอยู่กับซิงซิงเท่านั้น"เฮ้อ ไอ้ข้าก็ลืมไปว่ากำแพงมันสูง บันไดลิงก็ไม่ได้เตรียมมา แล้วจะทำไงดีล่ะซิงซิง ข้าไม่อยากเจออ
บทที่ 3"เจ้ารู้มัยว่าเสียมารยาท กับท่านอ๋องสามแค่ไหน?" ฮูหยินใหญ่ นั่งมองหลิวอี้เฟย ด้วยสายตาเคียดแค้น ร่างน้อยที่คุกเข่าอยู่หน้าห้องรับรองแขก"อี้เฟย ไม่ทราบค่ะแม่ใหญ่ อี้เฟยไม่ได้ตั้งใจ" พูดไปร้องไห้ไป ไม่ได้ตั้งใจจริงๆโวย คนมันขำ กลั้นแทบแย่ หลุดขำออกมานิดเดียวทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้"อี้เฟย ยินดีรับโทษจากแม่ใหญ่" พยามบีบน้ำตาทำหน้าตาให้หน้าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะตีก็รีบตีได้มัย ปวดหัวเข่าจะแย่แล้ว"เจ้าพูดเองน่ะ ได้ แม่นม โบย5ไม้ "สิ้นเสียงฮูหยิน แม่นม คนสนิท เดินไม่หยิบไม้ทันที น่าแปลก ทั้งๆที่นางเป็นคนเลี้ยงหลิวอี้เฟย มาตั้งแต่เกิด แต่ทำไมนางจึงไม่มีความรักและเมตตาต่อหลิวอี้เฟยเลย"เอาให้หนักๆเลยน่ะ แม่นม บังอาจหักหน้าท่านพ่อ เจ้ารู้มัยท่านพ่อกำลังวิ่งเต้นให้ข้าได้แต่งงานกับองค์หญิงสิบสี่ เจ้าทำเสียงานใหญ่" หลิวอี้ฝาน ที่นั่งจิบน้ำชาอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าไร้อารมอะไรกันบ้านนี่ คุณหนูใหญ่ได้เป็นพระสนมชั้นเฟย คุณหนูรองแต่งเป็นพระชายาองค์ชายใหญ่ บังคับข้าแต่งกับองค์ชายสาม วางแผนให้ลูกชายคนเดียวแต่งองค์หญิงสิบสี่ นี้มันจะรวบหัวรวบหางทั้งราชวงศ์เลยหรอ ตาแก่นี้แผนสูงจริงๆ"เอาล่ะๆ ไ
บทที่ 4ในที่สุดก็ถึงวันงาน งานแต่งพระราชทานยิ่งใหญ่ได้จัดขึ้น ฮ่องเต้ได้พระราชทานสมรสให้กับอ๋องสามกับคุณหนูสี่ตระกูลหลิว เนื่องจากถูกกดดันจากหลายฝ่าย อีกทั้งลูกชายของตนก็ไม่ยอมแต่งพระชายาซักที แต่งแต่อนุเข้าบ้าน แถมชอบเที่ยวหอโคมเขียว จนป่านนี้อายุจะ 25ปีแล้ว ยังไม่มีบุตรซักทีถนนหน้าจวนราชครูประดับประดับไปด้วยโคมแดง ตลอดทางที่เกี้ยวเจ้าสาวผ่าน ผู้คนสองข้างทางต่างพากันชะเง้อลอบมองภายในเกี้ยวเจ้าสาว ต่างคนต่างพยายามมองเพื่อจะได้เห็นหน้าซักแวบก็ยังดี คุณหนูสี่ตะกูลหลิวได้ขึ้นชื่อว่างามที่สุดในเมืองหลวง แต่5ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเห็นนางนอกจวนเลย ต่างจินตนาการการเอาว่าป่านนี้นางจะสวยหยดย้อยขนาดไหน ในเกี้ยวนั้น มีสาวน้อยร่างบางแต่งชุดแดงประดับประดาด้วยเครื่องประดับมากมาย "โอ้ย หนัก!!! ปวดคอจะแย่ จะประโคมใส่อะไรบนหัวเยอะแยะ คอจะหักตายอยู่แล้วเนี้ย" หลิวอี้เฟยได้แต่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว วันนี้นางถูกปลุกแต่เช้ามืด มาอาบน้ำขัดตัว พอกสมุนไพรนานๆชนิด จับแต่งตัวยังกับตุ๊กตา พอเสร็จฮูหยินกับแม่สื่อก็เข้ามา เทศน์นางเรื่องจากดูแลสามี การเข้าหอคืนแรก บลาๆๆๆ คิดว่านางจะฟังหรือไง สามีบ้าบออะไรไร้สาระ ฟ
บทที่ 5หลังจากแต่งตัวทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย ซิงซิงก็ยกสำรับอาหารไปเก็บ ซักครู่หนึ่ง พ่อบ้านประจำจวนก็เดินเข้ามา เป็นชายสูงอายุ ผิวเข้มดำแดง สีหน้าท่าทางจริงจัง ผมมีสีขาวแซมเล็กน้อย คาดว่าอายุน่าจะประมาณ 50 ปลายๆ"ข้าน้อยพ่อบ้านหวัง เป็นพ่อบ้านประจำจวนท่านอ๋องสาม ข้าน้อยเอาบัญชีรายรับ-รายจ่าย ภายในจวนมาให้พระชายาดูแล" หลิวอี้เฟย มองพ่อบ้านอย่างโง่งม อะไรกันแต่งวันแรกเอาบัญชีตัวเลขมาให้นางทำไม" ไม่ต้องหรอก ใครเคยดูแลอยู่แล้ว ก็ดูแลต่อไปเถอะ ที่ผ่านมาก็ทำได้ดีอยู่แล้ว ข้าไม่ก้าวก่ายจะดีกว่า หวังว่าคงไม่มีเรื่อง ลักขโมย ภายในจวนหรอกมั้ง หากมีท่านก็ดูแลตามความเหมาะสมเถอะ" หลิวอี้เฟยกรอกตาไปมา บ้าบอจริง ตอนอยู่โลกนู้นอุตสาห์หนีวิชาบัญชีแล้วน่ะ แค่เห็นตัวเลขก็ปวดหัวแล้ว หนีไปเรียนนิเทศศาสตร์ เพื่อจะได้ทำงานท่องโลกกว้าง พอมายุคนี้ดันจะมาให้นางทำบัญชี ใครจะรับไว้กัน รับไว้ก็โง่สิ "ส่วนสาวใช้ ไม่ต้องหามาเพิ่มน่ะ ข้ามีซิงซิงคนเดียวพอแล้ว"พลางเอามือโบกไล่พ่อบ้านหวังออกไปท่านพ่อบ้านหวัง ดันคิดว่าพระชายาน่ายกย่องนับถือจริงๆ อำนาจมาถึงมือแท้ๆกลับไม่รับไว้ ไว้ใจให้บ่าวไพร่ข้าเก่าอย่างเขาดูแล เอ
บทที่ 6"พระชายาเพคะ วันนี้วันกลับเยี่ยมบ้านเจ้าสาวนะเพคะ" ซิงซิง เก็บสำรับอาหารเช้าอยู่ แจ้งสิ่งที่ควรต้องทำ"กลับไปให้โง่สิ ข้าต้องแต่งกับอ๋องบ้ากามแลกกับการออกจากบ้านนั้นนะ" เสียงหลิวอี้เฟย วีนใส่สาวใช้"แต่...มันเป็นธรรมเนียม" ซิงซิง ไม่รู้จะกล่าวอันใดต่อ" ข้าไม่กลับ วันนี้ข้าจะไปเดินเล่นในสวน เจ้าจะไปด้วยมั้ย" พูดจบก็ลุกออกจากห้องไปเลยโอ้ยแม่เจ้า นี้สวนหรือพระราชวังเนี้ย อะลังการงานสร้าง สุดยอด ว่าจวนราชครูสวนใหญ่แล้วนะ จวนอ๋องใหญ่กว่า3-4เท่าได้มั้งเนี้ย หลิวอี้เฟยเดินอ้างปากค้างไปตลอดทาง พวกเชื้อพระวงค์นี้ร่ำรวยขนาดนี้เลยหรอเนี้ย "แมลงบินเข้าปากแล้วเพคะพระชายา" ซิงซิงอดติงพระชายาไม่ได้ กริยาไม่มีความสำรวมเลย เฮ้อ!! คุณหนูผู้แสนเรียบร้อยของซิงซิงหสยไปไหนกัน"เจ้านี่ ข้ากำลังชื่นชมธรรมชาติ" หลิวอี้เฟย ทำเสียงแข็งเอ็ดสาวใช้ เดินไปซักพัก เจอหนุ่มรูปงาม กำลังเดินผ่านสวน ชายหนุ่มรูปงาม ผิวสีน้ำผึ้ง โอ้ยยุคนี้มีแต่คนหล่อๆหรือไงกัน พอกำลังจะสวนกัน ชายหนุ่มรีบทำความเคารพ ทันที " เจ้าชื่ออะไร" หลิวอี้เฟยรีบถาม"ถวายพระพรพระชายา ข้าน้อยชื่อว่า จางหลง เป็นองค์รักษ์ของท่านอ๋อง""จางหลง ข้า
บทที่ 7เสียงปาข้าวของ ดังสนั่น "อ๋องสามิหยางชงอวี้ หยามหน้าข้าเกินไปแล้ว ไม่ยอมพาอี้เฟยกลับมาเยี่ยมบ้านตามธรรมเนียม ทำแบบนี้หักหน้าข้าชัดๆ " หลิวอี้สง โหโม หน้าเปลี่ยนจากสีเขียว เป็นสีแดง จนกลายเป็นสีดำ"ท่านพี่ใจเย็นๆนะเจ้าค่ะ ปกติท่านอ๋องสามก็ชอบทำอะไรตามใจตัวเองอยู่แล้ว ถ้าจะโทษ คงต้องโทษลูกสาวท่านที่ไม่สามารถพาท่านอ๋องมาได้" ปลอบใจสามีไปพลาง ใส่ไฟหลิวอี้เฟยด้วย หากสามีนางไม่ต้องการฐานอำนาจเพื่อการใหญ่ มีเหรอนางจะยอมให้หอกข้างแคร่ไปแต่งเป็นถึงพระชายาจวนอ๋องสาม"ตอนเด็กๆก็หัวอ่อนเชื่อฟังทุกอย่างดีอยู่หรอก ทำไมหลายปีหลังมานี้นางเริ่มแข็งข้อ เป็นข้าที่อบรมสั่งสอนสั่งสอนนางไม่ดีเอง""ช่างเถอะฮูหยิน เดี๋ยวข้าจะให้คนส่งข่าว อี้เฟยเอง" เมื่อใจเย็นลงแล้ว ได้แต่คิดแผนต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้ได้ใจอ๋องสาม ยังไงแผนการใหญ่ก็ต้องการกำลังทหาร ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้มาก อยู่ที่อี้เฟยแล้ว"พระชายา ของขวัญที่จะส่งไปให้ฮูหยิน" บ่ายคล้อยแล้ว ซิงซิงไม่เห็นนายของนางจะส่งของขวัญออกไปเลย"เมื่อวานเจ้าเห็นข้าซื้อ ของติดมือกลับมาด้วยหรือ?" หลิวอี้เฟย นั่งจิบชาเก๊กฮวย นางยังจำสีหน้าของจางหลงเมื่อวานได้ดี ข้าทำผิ
บทที่ 8วันนี้หลิวอี้เฟยไม่ได้ไปเดินเล่นในสวน นางเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง จะทำไงให้รอดพ้นอาหารเย็นค่ำคืนนี้ หากหยางชงอวี้กินเสร็จแล้วไม่ยอมกลับล่ะ แล้วมากินนางต่อจะทำยังไง ตายๆ ทำไงดี "ซิงซิง เจ้าไปบอกท่านอ๋องที่ว่าข้าไม่สบาย วันนี้คงทานข้าวเป็นเพื่อนไม่ได้"ซิงซิงหันไปมองเจ้าของเสียง นางก็ดูแข็งแรงดี เดินวนรอบห้อง หากไปเดินตลาดข้างนอกคงเดินทั่วเมืองเลยที่เดียว ทำไม่ต้องให้โกหก"พระชายา ไม่สบายตรงไหนเพคะ "เฮ้อ!! ข้าก็เข้าใจน่ะซิงซิงว่าเจ้าซื่อ แต่อย่าถึงขั้นซื่อบื้อขนาดนี้ได้มั้ย "ข้าปวดหัว เจ้าไปรายงานตามที่สั่งก็พอ"อ๋อ สงสัยเดินวนเวียนมากไป "เพคะ พระชายา""เรียนท่านอ๋อง ช่วงนี้หลายวันมานี้ด้านหน้าจวนมีคนของราชครูมาด้อมๆมองๆ ทั้งวัน" จางหลงองค์รักษ์ของอ๋องสาม หลังจากพาพระชายาออกนอกจวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกสั่งโบย โทษนี้ตัวเขารับได้ เพราะเค้าฝ่าฝืนคำสั่ง แถมท่านอ๋องย้ายเขาไปดูแลส่วนหน้าของจวน มีคำสั่งห้ามเข้าใกล้พระชายาอีกด้วย คิดแล้วก็โทษตัวเอง วันนั้นไม่น่าขี้เกียจเดินแล้วใช้สวนเป็นทางลัดเลย"จับตาดูต่อไป แล้วมารายงานเป็นระยะ" คนข้างนอกเริ่มคลื่นไหว แต่คนข้างในยังนิ่งเฉย หลิวอี้เฟย เ
บทที่ 9"เฮ้อ!!!" เสียงถอยหายใจในความมืด ในตอนนี้เรือนเหมยฮัว มีเพียงความมืดและเงียบสงบ รอดพ้นเงื้อมมืออ๋องบ้ากามได้อีกครั้ง ทำไมพวกยุคสมัยโบราณถึงมีเมียเยอะแยะ หว่านรักมากมาย ไม่รู้จักคำว่าผัวเดียวเมียเดียวกันบ้างหรือไง นางจะรอดพ้นไปได้อีกกี่คราวกันเชียวที่หอซื่อเซิ่น วันนี้มีการร่ายรำของ คณิกา อันดับ 1 นามว่า จูเยว่ฉี นางงดงามปานนางฟ้าลงมาจุติ ทั้งฝีมือการรำ ดนตรี บทกลอน ไร้ที่ติ เหล่าขุนนางมากมายต่างเอาเงินมากองเพื่อจะได้นางไปเป็นอนุ แต่นางก็ปฏิเสธไปทุกราย มีข่าวลือว่าท่านอ๋องสามก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่หลงไหล จูเยว่ฉี วันนี้นางแต่งกายด้วยสีแดงขับให้ผิวกายขาวนวล ตัดด้วยแกะอกสีขาว ปากแดงสีชาด ยามเยื้องย่างก้าวเดิน แค่มองแว่บเดียวชายใดพบเห็นก็หลงไหลแทบเป็นแทบตาย"ท่านอ๋อง ขอรับ คุณชายอวี้หยงกวง เชิญห้องรับรองด้านใน"หยางชงอวี้เดินตามเข้าไปพร้อมกับมู่หลง องครักษ์คู่ใจ "ไม่ต้องมากพิธี รีบรายงานข่าวมาเถอะวันนี้เปิ่นหวางเหนื่อย" หยางชงอวี้ หลังจากกลับมาจากชายแดน กลับมาพักจวนในเมืองหลวง ก็ใช้หอซื่อเซิน ในการประชุมสรุปข่าวคราวด้านนอกชายแดน เนื่องจากจวนอ๋องเข้าออก ลำบากเป็นที่เพ่งเล็ง"ด้านนอก
พิเศษ4องค์หญิงเลี่ยงลี่กำลังปั้นหิมะเล่นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เจินเป่ากลิ้งเล่นเอาตัวถูกับหิมะไปมา แม้เจินเป่าจะตัวเกือบเท่าเสือแต่อ่อนโยนกับเลี่ยงลี่ยิ่งกว่าลูกแมว"องค์ชายฮุ่ยจื่อ น่ารักมั้ยซิงซิง" จางเลี่ยงอดถามไม่ได้เพราะยังไม่มีใครได้เห็นองค์ชายเลยตั้งแต่คลอด นี้ก็สองวันแล้ว"น่ารักมากกกกกก ปากกับตาเหมือนพระชายาไม่มีผิด"ซิงซิงรีบตอบ แอบภูมิใจที่ตนได้เห็นและอุ้มองค์ชายน้อย"ถ้าเจ้าไม่รีบแต่งกับข้าระวังจะมีลูกไม่ทันใช้นะ" จางเลี่ยงยืนกอดอกมองซิงซิง"ข้ายังไม่ได้แต่งกับท่านเลย มาพูดถึงเรื่องมีลูกท่านนี้""ก็แต่งสิ"จางเลี่ยงพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยซิงซิงหน้าแดง มือเผลอออกแรงใส่หิมะเยอะไปตุ๊กตาเลยแตก"พี่ซิงซิง" องค์หญิงน้อยแบะปากจะร้องไห้"ซิงซิงไม่ได้ตั้งใจเพคะ เดี๋ยวปั้นให้ใหม่นะเพคะ องค์หญิงอยากได้รูปอะไร ไม่ร้องน้าโอ้ๆ""เลี่ยงลี่ อยากได้ตุ๊กตาพ่อแม่ลูก " องค์หญิงน้อยนั่งสะอื้น"ข้าช่วย" จางเลี่ยงเดินมาช่วยซิงซิงปั้นตุ๊กตาหิมะหิมะตกหนักมาหลายวันแล้ว แต่จวนอ๋องมีแต่ความอบอุ่น เรือยเหมยฮัว มีขนาดใหญ่มาก ที่เรือนมีห้องนอนหลายห้องนอน ห้องหนังสือ ห้องทานอาหาร ท่านอ๋องต่อเติมออกไปเรื่
พิเศษ3หิมะกำลังตกหนัก อากาศหนาวมาก แต่ท่านอ๋องสามกำลังร้อนรุ่มกลุ้มใจ หมอตำแยถูกตามตัวมายังจวนท่านอ๋องสามอย่างเร่งด่วน พระชายา เจ็บท้องกำลังจะคลอด บ่าวไพร่ต่างพากันวุ่นวาย เนื่องจากท่านอ๋องถูกพระชายาไล่ออกมากจากห้องคลอดทำให้ท่านอ๋องนั้นฟาดงวงฟาดงาไปทั่ว ในห้องนั้นจึงมีแค่ พระชายา หมอตำแยและซิงซิงเท่านั้น"อี้เฟย เป็นอย่างไรบ้าง" หลังจากเดินวนอยู่หน้าห้องมาซักระยะ ตั้งแต่หมอมาถึงภายในนั้นเงียบเชียบข้าใจคอไม่ดีเลย ทำไมเงียบแบบนี้ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ อ๋องชงอวี้ก็ได้แต่เดินวนเวียนไปมาตอน ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปดูแต่ถากหากเข้าไปนางบอกจะไม่พูดด้วยตลอดชีวิต จะเข้าไปก็ไม่ได้ รออยู่ข้างนอกก็ร้อนใจจะตาย "จิงซิ่ง เจ้าเข้าไปดูสิ" "หลิ่งถิง น้ำร้อนล่ะพร้อมมั้ย"มู่หลงองครักษ์คู่ใจได้แต่ส่ายหัว ไม่ใช่ลูกคนแรกเสียหน่อย ท่านอ๋องทรงวิตกกังวลเกินไปเฮ้อ! จางหลงถอนหายใจออกมาเบาๆ เบามากๆ เนื่องจากมองท่านอ๋องเดินไปเดินมาแล้วเกิดอาการเวียนหัว "ใครให้เจ้าถอนหายใจเสียงดัง เปิ่นหวางกำลังใช้สมาธิ" อ๋องชงอวี้หันมาทำตาเขียวใส่จางหลงเวรกรรม หายใจ ยังผิดเลยเวลานี้เวลาผ่านไป 2ชั่วยาม ในที่สุดก็มีความเคลื่อนไหวจ
พิเศษ2"คุยอะไรกันอยู่" อ๋องชงอวี้ เดินเข้ามาในเรือน อุ้มเลี่ยงลี่มานั่งบนตักหันไปหอมแก้มพระชายา แล้วก็ก้มลงหอมแก้มองค์หญิงน้อย ปากน้อยๆยังเคี้ยวขนมแก้มตุ้ยอยู่"อี้เฟย ว่าจะให้จิงซิ่ง หลิ่งถิง มาประจำที่เรือนเพคะ ""ดีๆ เจ้าท้องแก่มากแล้ว ซิงซิงดูแลเลี่ยงลี่คงไม่มีเวลามาดูแลเจ้าเท่าไร พรุ่งนี้พี่จะขอฮ่องเต้ลา จนกว่าเจ้าจะคลอดดีมั้ย"พระชายาอ้าปากค้าง ตอนข้าคลอดเลี่ยงลี่ก็ลาหยุด 1ปีเต็มๆ แถมต่อเติมเรือนทำห้องนอนให้เลี่ยงลี่อยู่ในเรือนเดียวกันกลับมาจากในวังก็คลุกอยู่กับเลี่ยงลี่ พาเข้านอนเองทุกคืน นี้จะลาหยุดก่อนข้าคลอดล่วงหน้าอีกหรือ โอ้ยพ่ออออ"ไว้อี้เฟยคลอดค่อยลาดีมั้ยเพคะ""ไม่ เพราะพี่ลาเสด็จพ่อมาเรียบร้อยแล้ว" น้ำเสียงเจือขบขัน พลางฟัดแก้มน้อยๆที่เคี้ยวขนมอยู่จ้าๆ ตามใจท่านเลยบ่ายคล้อย ท่านอ๋องวาดรูปอยู่ที่ศาลาริมสระบัวมีพระชายาเอนหลังอยู่ข้างๆ ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีส่วนองค์หญิงเลี่ยงลี่ วิ่งเล่นอยู่ไม่ไกล"เจ้าแก่แล้วกะมัง เล่นกับองค์หญิงแค่นี้หอบเชียว"จางเลี่ยงยืนพิงต้นไม้ ดูซิงซิงเล่นวิ่งไล่จับกับองค์หญิง"ปีนี้ข้าเพิ่งอายุ20ปี ข้าจะแก่ได้ยังไง ท่านนี้" อ้าปากมาก็ชวนตี คนบ้า
พิเศษ1โอ้ยยยยย ตายๆ ข้าจะเป็นลม สงสัยจะข้าแก่เกินไปแล้วสำหรับเรื่องนี้"องค์หญิงเพคะ ซิงซิงไม่ไหวแล้วเพคะ ได้โปรดหยุดก่อน แฮ่กๆ" ซิงซิงวิ่งตามเด็กน้อยคนหนึ่งเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว"พี่ซิงซิง ตามมาๆ ไวๆ บี๋เสื้อน้อยจะบินหนีแล้ว" องค์หญิงหยางเลี่ยงลี่ เด็กน้อยวัย3ขวบ ผิวสีขาวราวกับน้ำนม ปากแดงแก้มแดง กำลังวิ่งตามจับผีเสื้อในสวนนิสัยขององค์หญิงนั้นตรงตามชื่อแทบจะทุกอย่างความงดงามที่สว่างไสว วันที่ลืมตาดูโลก ฮ่องเต้ทรงพระทานยศองค์หญิงและพระนามให้ หลานคนแรกของฮ่องเต้คงไม่ต้องบอกว่าทรงเอ็นดูแค่ไหน"ซิงซิงไม่ไหวแล้วเพคะ" ทรุดลงไปนั่งกับพื้น"ไม่ไหวก็ไม่หาคนอื่นมาช่วยล่ะ พระชายาบอกเจ้าหลายครั้งแล้วนิ" จางเลี่ยงยืนทอดเงาบังร่างของซิงซิงเอาไว้"ไม่ ข้าจะดูแลองค์หญิงคนเดียวเท่านั้น" หันค้อนขวับใส่เมื่อรู้ว่าเงานั้นเป็นของใคร "ท่านล่ะไม่เฝ้าพระชายาเหรอ ระวังท่านอ๋องทำโทษเอาจะหาว่าข้าไม่เตือน""เจ้าห่วงตัวเองเถอะ ข้าเปลี่ยนเวรกับจางหลงแล้ว ส่วนเจ้านะจะเป็นลมอยู่แล้ว" เดินไปอุ้มองค์หญิงน้อยชูแขนขึ้นจนสุด จนองค์หญิงน้อยจับผี้เสื้อได้"คิกๆ พี่จางเลี่ยงเก่งที่สุดเลย""องค์หญิง พระชายาตามหาอยู่นะขอรั
บทที่ 29ในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง ลมเย็นๆ พัดลอดผ่านใบไม้ต้นหญ้าให้ความรู้สึกสดชื่น ต้นไม้ต่างแข่งกันออกดอกอวดสีสันสวยสดงดงามหน้าประตูเมืองหลวง ผู้คนมากมายสองข้างทาง มายืนส่งขบวนขององค์หญิงเจียวเหมย องค์หญิงจะเสด็จไปยังแคว้นต้าชิง เพื่อแต่งงานกับฮ่องเต้ต้าชิง เชื่อมสัมพันธ์ของสองแคว้น"รักษาตัวด้วยนะเจียวเหมย" อี้เฟยจับมือเจียวเหมย น้ำตาคลอเบ้า แม้ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายโลหิต แต่นางเปรียบเสมือนน้องสาวตัวน้อยๆ ของนาง ต้องแต่งงานตามที่พ่อแม่จัดหาให้ เหมือนหญิงสาวทุกคนในยุคนี้"พี่สะใภ้ ข้าจะคิดถึงท่าน" องค์หญิงเจียวเหมยสวมกอดอี้เฟยไว้ ในราชวงศ์มีการแก่งแย่งชิงดีกันมากมาย มีเพียงแค่นางที่จริงใจกับข้า ดีกับข้าเสมอต้นเสมอปลาย นางเหมือนพี่สาวที่ข้าไม่เคยมี"เอาล่ะ ร่ำลากันพอแล้ว เดี๋ยวจะช้ากว่ากำหนดการ"ซื่อเล่อ พูดขึ้นขัดสองสาวที่กอดกันกลมอยู่ หากปล่อยให้ร่ำลากันต่อไปวันนี้คงไม่ได้เดินทางเป็นแน่"พี่สะใภ้ไม่ต้องห่วง ข้าจะส่งเจียวเหมยให้ถึงที่ รับรองปลอดภัยหายห่วง ท่านเชื่อมือข้าได้"ซื่อเล่อพูดหยอกเย้า ตามประสานิสัย"ฝากเจียวเหมยด้วยนะ" หลังจากส่งองค์หญิงเจียวเหมยขึ้นรถม้าไป เมื่อขบวนเคลื่
บทที่ 28"ไม่นึกเลย ฮ่องเต้จะประทานยาพิษให้พระสนมหลิว ได้ยินว่ายาพิษนั้นเป็นพิษน้ำทิพย์" บ่าวไพร่ในตระกูลหลิว กำลังนั่งนินทาเจ้านายอยู่ในโรงครัว"เฮ้อ นายท่านกับนายน้อยก็ถูกประหาร ไม่ทันไรคุณหนูใหญ่ก็มาถูกประทานยาพิษ นี้หาก.."ปัง!!!! เสียงประตูโรงครัวเปิดออก "พวกเจ้าไม่มีงานทำกันหรือไง ถึงได้มานั่งนินทาเจ้านาย หรือต้องถูกโบยถึงจะหลาบจำ" เสียงแม่นม คนสนิทของฮูหยินใจจริงอยากสั่งโบยพวกปากหอยปากปูพวกนี้ให้หมด แต่ตอนนี้ต้องอาศัยพวกเขา หลังจากนายท่านถูกประหาร บ่าวไพร่ลาออกเกือบหมด ใครจะอยากอยู่รับใช้พวกกบฏ ตอนนี้เหลือแค่ข้าเก่าเต่าเลี้ยงกับพวกที่ไม่มีที่จะไปเท่านั้นกระมัง"ท่านแม่ เราจะทำอย่างไรต่อไปดี" หลิวอี้ฟางนั่งกอดฮูหยินเอาไว้ หลังจาก พี่ใหญ่ถูกจับขังคุกหลวง ฮ่องเต้รับสั่งห้ามใครเยี่ยมเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนคำสั่งต้องรับโทษสถานเดียวกับพระสนม คือประหารชีวิต"ฮ่องเต้ช่างลำเอียง ถ้าพูดให้ถูกพี่ใหญ่เป็นถึงพระสนมของฮ่องเต้เคยเป็นคนโปรด แล้วทำไมถึงได้ไปเข้าข้างนังอี้เฟย"" จุ๊ๆ อี้ฟาง อย่าพูดเสียงดังไปหากใครได้ยินเข้ามีกี่หัวก็คงไม่พอ แม่ไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้อีก แม่เหลือแค่เจ้าแล้ว ฮือๆ" ข้
บทที่ 27ซิงซิง ยืนอยู่ที่มุมห้องกำลังมอง ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ใต้หล้านี้มีแต่คนเกรงกลัว ทั้งเด็ดขาด โหดเหี้ยม สามารถสั่งการทหารได้มายมาก อีกทั้งยังครอบครองหัวใจสาวสวยทั้งแคว้น แต่ตอนนี้กำลังออดอ้อนให้เจ้านายของนางกินยา"กินอีกคำเถอะนะอี้เฟย หากกินไม่หมดจะหายดีได้อย่างไร จะหมดแล้วอีกคำเดียวเท่านั้น""ไม่เอา อี้เฟยพอแล้ว มันขม พอแล้ว" อี้เฟยพยายามหันหน้าหนีจากชามยาไปมา ทำยาเม็ดมาให้กินได้มั้ยยยย แบบกลืนเม็ดเดียวครบทุกสูตร ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว"อีกคำเดียว พี่สัญญาน่ะ อีกคำเดียว" อ๋องชงอวี้ไม่ยอมแพ้"เมื่อวานพี่ชงอวี้ก็พูดแบบนี้ คำสัญญาท่านมีความหมายอันใด" ข้าไม่กินแล้ว กินยาบ้านี้มาสองอาทิตแล้ว ขมก็ขมเหม็นก็เหม็น ทำไมไม่มียาเม็ด ยัดเข้าปากกินน้ำตามจบเลย ม๊ายยยยยยยย"เฮ้อ!! พอก็พอ พี่ยอมแพ้""พรุ่งนี้ไม่เอายาแล้วนะ เอาเป็นซุปบำรุงก็พอ อี้เฟยหายดีแล้ว นะเพคะ" เสียงออดอ้อน ทำปากยื่นปากยาว"จ๊ะ ไม่กินก็ไม่กิน"ซิงซิงได้แต่ยืนมอง ยืนก้มหน้ายิ้มอยู่คนเดียวหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในวังหลวง เหตุพระชายาอ๋องสามถูกวางยาพิษ ทุกคนต่างเข้าใจตรงกันว่า ตอนนี้ผู้ใดคือคนที่ฮ่องเต้และอ๋องสามโปรดปรานที่สุดพอพร
บทที่ 26"ท่านอ๋องเคลื่อนย้ายร่างพระชายาไม่ได้นะพะยะคะ" หมอหลวง ร้องห้ามอ๋องหยางชงวี้ ที่กำลังอุ้มร่างพระชายาออกจากตำหนัก"เปิ่นหวางจะพานางกลับจวน" กลับเรือนเหมยฮัวกันเถอะอี้เฟย ข้ารู้ว่าเจ้าต้องอยากไปนอนที่ห้องของเรามากกว่าที่นี่ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากขาวซีดหิมะปกคลุมหนาไปทั้งจวนอ๋องหยางชงอวี้ ความหนาวเหน็บนั้นไม่อาจเทียบเทียมกับความรู้สึกในใจของเจ้าของจวนได้เลย มีเพียงแต่แววตาของของนางเท่านั้นที่จะทำให้หัวใจของเขากลับมาอบอุ่นอีกครั้ง"อี้เฟย ตื่นเถอะน่ะ''''น้องหญิง ได้โปรดลืมตาเถิด''นานเท่าใดแล้วที่เจ้าหลับไหล มิอาจรู้ได้เลยเพราะเวลาของข้าได้หยุดลงไปแล้วตั้งแต่วินาทีที่เจ้าหลับ หากมีสิ่งใดต้องแลกเพื่อให้เจ้าลืมตาอีกครั้งข้ายอม ข้ายอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งลมหายใจของข้า"วันนี้กับข้าวมีอะไรบ้างลูก" นิภาถามลูกสาวที่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัว"ของโปรดพ่อค่ะ ต้มยำไก่บ้าน กับผัดผัก อีก2อย่าง" นิดาหันมาตอบผู้เป็นแม่วันนี้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาอีกเช่นเคย3คนพ่อ แม่ ลูก นั่งทานข้างเย็นด้วยกันอย่างมีความสุข คุยถึงเรื่องที่ผ่านมาวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีวิญญาณของสาวน้อยน
บทที่ 25เวลานี้ ประตูวังหลวงถูกปิดตาย ห้ามใครเข้าออกยังหาไม่เจออีกหรือ ผ่านมาหนึ่งชั่วยามแล้ว นางกำนัลคนที่ยกขนมมาก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว เวลาทุกวินาทีมีค่ายิ่งกว่าทองคำพันชั่ง ใครกัน! ใครที่อยากให้อี้เฟยของข้าตาย"อี้เฟย แข็งใจหน่อยนะ พี่กำลังหายาถอนพิษมาให้เจ้า" มือยังคงกุมนางไม่ไว้แน่น เขาไม่กล้าปล่อยมือนี้ หากปล่อยเขาอาจต้องเสียใจไปจนวันตาย ร่างของอี้เฟยเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากจมูก ลมหายใจของนางแผ่วเบามากลงเรื่อยๆ ร่างบางนั้นนอนแน่นิ่ง แทบไม่เหมือนคนที่ยังหายใจอยู่เลยด้วยซ้ำ บรรยากาศในห้องตรึงเครียด แทบไม่มีเสียงใดๆแม้กระทั้งเสียงลมพัดผ่านหมอหลวงหลายสิบคนพยายามยื้อชีวิตน้อยๆนี้ไว้สุดกำลัง พยายามปรุงยาถอนพิษ แต่กว่าจะปรุงเสร็จคงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามวัน เกรงว่าหากรอถึงเวลานั้นพระชายาคงสิ้นลมหายใจ ไม่แคล้วพวกเขาต้องตายตามไปเป็นแน่ ตอนนี้ภายในวังหลวงกำลังโกลาหล ฮ่องเต้และฮองเฮาอนุญาตให้ทหารของอ๋องหยางชงอวี้ค้นได้ทุกตำหนักที่ต้องการอ๋องหยางชงอวี้ พยายามรวมรวบความคิดทั้งหมด พยามลำดับเหตุการณ์ ใช่อี้เฟยนางเคยพูดว่าคนที่จวนหลิวอี้สงเกลียดนาง ในวังตอนนี้....... หลิวเหมยฮัว! "กงกง เจ้าไปเชิญพระ