บทที่ 8
วันนี้หลิวอี้เฟยไม่ได้ไปเดินเล่นในสวน นางเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง จะทำไงให้รอดพ้นอาหารเย็นค่ำคืนนี้ หากหยางชงอวี้กินเสร็จแล้วไม่ยอมกลับล่ะ แล้วมากินนางต่อจะทำยังไง ตายๆ ทำไงดี "ซิงซิง เจ้าไปบอกท่านอ๋องที่ว่าข้าไม่สบาย วันนี้คงทานข้าวเป็นเพื่อนไม่ได้" ซิงซิงหันไปมองเจ้าของเสียง นางก็ดูแข็งแรงดี เดินวนรอบห้อง หากไปเดินตลาดข้างนอกคงเดินทั่วเมืองเลยที่เดียว ทำไม่ต้องให้โกหก"พระชายา ไม่สบายตรงไหนเพคะ " เฮ้อ!! ข้าก็เข้าใจน่ะซิงซิงว่าเจ้าซื่อ แต่อย่าถึงขั้นซื่อบื้อขนาดนี้ได้มั้ย "ข้าปวดหัว เจ้าไปรายงานตามที่สั่งก็พอ" อ๋อ สงสัยเดินวนเวียนมากไป "เพคะ พระชายา" "เรียนท่านอ๋อง ช่วงนี้หลายวันมานี้ด้านหน้าจวนมีคนของราชครูมาด้อมๆมองๆ ทั้งวัน" จางหลงองค์รักษ์ของอ๋องสาม หลังจากพาพระชายาออกนอกจวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกสั่งโบย โทษนี้ตัวเขารับได้ เพราะเค้าฝ่าฝืนคำสั่ง แถมท่านอ๋องย้ายเขาไปดูแลส่วนหน้าของจวน มีคำสั่งห้ามเข้าใกล้พระชายาอีกด้วย คิดแล้วก็โทษตัวเอง วันนั้นไม่น่าขี้เกียจเดินแล้วใช้สวนเป็นทางลัดเลย "จับตาดูต่อไป แล้วมารายงานเป็นระยะ" คนข้างนอกเริ่มคลื่นไหว แต่คนข้างในยังนิ่งเฉย หลิวอี้เฟย เจ้ามีแผนจากจะกล่อมข้ายังไง ข้าจะกระชากหน้ากากเจ้าออกมาให้ได้ หยางชงอวี้ยิ้มเยาะ หลังจากนึกถึงใบหน้าของหลิวอี้เฟยหน้าปั้นยิ้มเสแสร้งของนาง "ท่านอ๋อง ซิงซิง สาวใช้ประจำตัวพระชายา ของเข้าเฝ้า" มู่หลง ที่ยืนยามอยู่ด้านนอก "ให้เข้ามา" ซิงซิง เดินตัวลีบเล็ก เข้ามาในห้อง "ท่านอ๋องเพคะ พระชายาทรงปวดศีรษะ วันนี้เกรงว่าจะรับประทานอาหารเย็นเป็นเพื่อนท่านอ๋องไม่ได้" พูดจบหน้าเหลือหดสองนิ้ว บรรยากาศในห้องเงียบสงัด หยางชงอวี้ยืนมองสาวใช้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยไอเย็น ซิงซิงกำลังจะร้องไห้ หยางชงอวี้โบกมือเป็นสันญาณ ให้ออกไป แล้วเดินไปหยิบหนังสือที่ชั้นมานั่งอ่าน ส่วนซิงซิงนั้นแทบจะบินออกจากห้อง จะสำเร็จมั้ย หวังว่าอ๋องบ้ากามนั้นคงไปกินข้าวเรือนอื่น นางไม่สบายเขาต้องไม่อยากมาวุ่นวายแน่นอน นึกแล้วก็ภูมิใจในตัวเอง ที่อยู่ๆก็คิดแผนนี้ออกในนาทีสุดท้าย หลิวอี้เฟยยืนยิ้มให้กับตัวเอง ''ข้านี้ฉลาดจริงๆ'' "พระชายาเพคะ สำรับอาหารเย็นมาแล้วค่ะ ซิงซิงให้พ่อครัวผัดผักบุ้งไฟแดง ของโปรดพระชายามาด้วย พระชายาจะได้อารมดี หายปวดหัวไวๆ" พูดไปจัดแจง จัดวางกับข้าวลงบนโต๊ะอย่าสวยงาม "เจ้านี้รู้ใจข้าจริง" หลิวอี้เฟย ยิ้มกว้าง โอ้ยซิงซิงเอ้ย อยู่ด้วยกันกับข้าก็นาน เจ้ายังซื่อไม่เปลี่ยน "เปิ่นหวางมาทันอาหารเย็นพอดีเลยใช่หรือไม่" หยางชวอวี้เดินเข้าห้องมา แล้วมานั่งที่โต๊ะอาหาร ทำเป็นไม่เห็นสีหน้าตกตะลึงของอีกฝ่าย "ท่าน ท่าน มาได้ยังไง ก็ ก็ ซิงซิงไปบอกแล้วนิว่าข้าไม่สบาย" นางพูดติดอ่างอีกแล้ว "พระชายาของเปิ่งหวางไม่สบาย เปิ่งหวางก็ต้องมาดูแลสิ" ยิ้มหวานตอบสาวสวยที่นั่งอ้างปากเหวออยู่ข้างๆ อี้เฟย รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด" ท่านอ๋องเพคะ วันนี้หม่อมชั้นรู้สึกไม่ค่อยสบาย เกรงว่าจะดูแล ปรนนิบัติท่านอ๋องได้ไม่ดี ยังไงท่านอ๋องเสด็จเรือนอนุเหมยหลันหลัน ดีมั้ยเพคะ" หยางชงอวี้ หยิบชามข้าวยัดใส่มือหลิวอี้เฟย "พระชายาของเปิ่งหวางป่วย จะให้ใจดำทิ้งไปได้ยังไง" ใจดำเลย ใจดำเยอะๆ ไม่ต้องมาดูดำดูดี รีบออกจากห้องข้าไปให้ไวที่สุดยิ่งดี อี้เฟยแหกปากอยู่ในใจ บรรยากาศการทานข้าววันนี้แปลกพิลึก อีกคนยิ้มอารมดี ตักคีบอาหารให้สาวสวยข้างกายไม่ขาด ส่วนอีกคนนั่งก้มหน้ามองชามข้าว ทำหน้าเหมือนกำลังถูกบังคับให้ยาพิษ ยิ่งเวลาหยางชงอวี้ คีบผักบุ้งไฟแดงมาให้" ของโปรดเจ้า ทานเยอะๆสิ" หลิวอี้เฟยทำหน้าเหมือนจะสำลักข้าวออกมา ข้าจะไม่กินผัดผักบุ้งไปอีกนาน ข้าจะลบเมนูนี้ออกจากของโปรด มื้อค้ำอันแสนแปลกประหลาดจบลง ซิงซิงเก็บสำรับแล้วออกจากห้องไป "เชิญท่านอ๋องเสร็จ เพคะ เดี๋ยวหม่อมชั้นไปส่งที่หน้าเรือน" อี้เฟยก้มหน้าถอนสายบัวให้หยางชงอวี้ "น้องหญิง ไม่ชอบให้เปิ่งหวางดูแลเอาใจใส่หรอกหรือ?" น้องหญิง? อี้เฟยตากระตุก สงสัยจะท่าไม่ดีแล้วแกอี้เฟย "ไม่เลยซักนิด" เอาว่ะ ตายเป็นตาย หากต้องนอนร่วมเรือนเคียงหมอนกับคนที่ไม่ได้รัก ตายยังจะดีกว่า หยางชงอวี้ เดินมาจับมือนางแล้วจุมพิต เมื่อเห็นอีกฝ่ายรีบชักมือออกแล้วถูหลังมืออย่างแรง จึงยิ้มเจ้าชู้เดินมากอดเอวนางจากข้างหลัง อี้เฟยขนลุกซู่ พยายามดิ้นรนออกมาจากวงแขนนั้นแต่ไม่เป็นผล "เจ้าไม่ได้ต้องการให้เปิ่งหวางรักและเอ็นดูเจ้าหรอกหรือ หากเปิ่นหวางเอ็นดูเจ้า จะต้องการสิ่งใดนั้นไม่ยากเลย" "ไม่เลยซักนิด ปล่อยข้าได้แล้ว" หลิวอี้เฟย ตะโกนออกมาสุดเสียง พยายามแกะมือปลาหมึกออกจากเอว หยางชงอวี้นั้นเค้าทราบดีว่านางพยายามหนีงานแต่งงาน แต่นางมีหน้าที่มากล่อมให้เค้าเข้าพวกกับราชครูแน่นอนเขามั่นใจในจุดนี้ "หากเจ้าขัดใจเปิ่นหวาง ไม่กลัวตระกูลหลิวเดือดร้อน?" "เกี่ยวอะไรกับข้า ข้าแต่งออกมาแล้ว ไม่ใช่คนตระกูลหลิวอีกต่อไป โอ๊ยปล่อยข้าได้แล้ว ถ้ามีอารมก็ไปหาอนุเจ้านู้น ข้าเชื่อว่าพวกนางยินดีปรนนิบัติเจ้าอย่างถึงใจ" เสียงหวีด โวยวายเสียงลั่นห้อง อยู่ๆหลิวอี้เหยก็ถูกดึงเหวี่ยงออกหมุนตัวมาอีกด้าน นางไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากของนางถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากหยกของหยางชงอวี้ นางไม่สามารถหนีได้เลย จูบนี้รุนแรง บดขยี้เนื้อบางของนาง บังคับเรียกร้องให้อี้เฟยอ้างปากรับลิ้นอุ่นๆ เข้าไปภายใน มืออีกข้างลูบไล้ไปยังแผ่นหลังของนาง แม้จะใส่จะมีเสื้อนอกกั้นอยู่แต่ได้รับรู้ได้ถึงสัมผัสร้อนๆจากมือหยางชงอวี้ อี้เฟยพยายามบังคับสมองน้อยๆที่เหลือที่ยังทำงานได้อยู่ ทำยังไงดีตายแน่ๆ ในห้องนอนอีกด้วย แกโดนรวบหัวรวบหางแน่อี้เฟยเอ้ย อยู่ๆ หลิวอี้เฟยก็เป็นลมล้มพับไป ถ้าหากหยางชงอวี้ไม่กอดไว้ ป่านนี้นางหัวฟาดพื้นไปแล้ว แน่นอนอี้เฟยแกล้งเป็นลมคิดว่าหยางชงอวี้เป็นถึงอ๋องอยากได้หญิงใดก็ได้สมใจ คงไม่หักหาญน้ำใจกับหญิงสาวไม่ได้สติ หยางชงอวี้ เหล่มองอี้เฟยด้วยความสงสัย แล้วอุ้มช้อนร่างบางไปนอนบนเตียงห่มผ้าให้ ดับเทียนในห้อง ก่อนจะดับเทียนดวงสุดท้ายหันไปมองร่างที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้านางนั้นเกร็ง ปากแม้มเข้าหากันสนิท หยางชงอวี้ดับเทียนดวงสุดท้ายแล้วเดินออกจากห้องไป "หึหึ" หยางชงอวี้ หลุดเสียงออกมาเล็กน้อยไม่อยากเป็นของข้าถึงกับแกล้งเป็นลมเลยหรอ "ท่านอ๋อง คุณชายอวี้หยงกวง เชิญที่หอซื่อเซินขอรับ" มู่หลง องครักษ์คู่ใจเดินออกมาจากความมืด "อืม เตรียมรถม้า หาคนมาเฝ้าพระชายาไว้ เปิ่นหวางอยากรู้ทุกความเคลื่อนไหวของนาง" กวางน้อย ข้าอยากจะรู้เจ้าจะทำยังไต่อไป หึหึบทที่ 9"เฮ้อ!!!" เสียงถอยหายใจในความมืด ในตอนนี้เรือนเหมยฮัว มีเพียงความมืดและเงียบสงบ รอดพ้นเงื้อมมืออ๋องบ้ากามได้อีกครั้ง ทำไมพวกยุคสมัยโบราณถึงมีเมียเยอะแยะ หว่านรักมากมาย ไม่รู้จักคำว่าผัวเดียวเมียเดียวกันบ้างหรือไง นางจะรอดพ้นไปได้อีกกี่คราวกันเชียวที่หอซื่อเซิ่น วันนี้มีการร่ายรำของ คณิกา อันดับ 1 นามว่า จูเยว่ฉี นางงดงามปานนางฟ้าลงมาจุติ ทั้งฝีมือการรำ ดนตรี บทกลอน ไร้ที่ติ เหล่าขุนนางมากมายต่างเอาเงินมากองเพื่อจะได้นางไปเป็นอนุ แต่นางก็ปฏิเสธไปทุกราย มีข่าวลือว่าท่านอ๋องสามก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่หลงไหล จูเยว่ฉี วันนี้นางแต่งกายด้วยสีแดงขับให้ผิวกายขาวนวล ตัดด้วยแกะอกสีขาว ปากแดงสีชาด ยามเยื้องย่างก้าวเดิน แค่มองแว่บเดียวชายใดพบเห็นก็หลงไหลแทบเป็นแทบตาย"ท่านอ๋อง ขอรับ คุณชายอวี้หยงกวง เชิญห้องรับรองด้านใน"หยางชงอวี้เดินตามเข้าไปพร้อมกับมู่หลง องครักษ์คู่ใจ "ไม่ต้องมากพิธี รีบรายงานข่าวมาเถอะวันนี้เปิ่นหวางเหนื่อย" หยางชงอวี้ หลังจากกลับมาจากชายแดน กลับมาพักจวนในเมืองหลวง ก็ใช้หอซื่อเซิน ในการประชุมสรุปข่าวคราวด้านนอกชายแดน เนื่องจากจวนอ๋องเข้าออก ลำบากเป็นที่เพ่งเล็ง"ด้านนอก
บทที่ 10หลังจากคืนนั้น อี้เฟยก็ไม่เจอหยางชงอวี้อีกเลย แต่.....กลับส่งองครักษ์หน้าตายมาเฝ้าแทน คนอะไรสูงใหญ่ หล่อบาดใจ แต่หน้าบูดหน้าบึ้งตลอดเวลา ยืนเป็นยักษ์บักหลักอยู่หน้าห้องไม่พูดไม่จา บรรยายรอบตัวหน้าขนลุก นางเดินออกจากเรือนไปไหน ก็เดินตาม ถ้าหากยิ้มซักนิดคงมีแม่ยกตรึม "นี้ๆจางเลี่ยง เจ้าเดินห่างๆข้าหน่อยได้ไหม ใกล้มากไปข้าขนลุกขนพองหมดแล้วเนี้ย" อี้เฟย อดแหย่องครักษ์หน้าตายไม่ได้ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากองครักษ์หน้าตาย ชื่อก็แปลว่า แสงสว่าง แต่ทำไมอึมครึมได้ขนาดนี้ อี้เฟยเดินเรื่อยเปื่อยมาถึงบริเวณ หน้าจวน มองเห็น จางหลง กำลังตรวจแถวเวรยามอยู่เมื่อจางหลง หันมาเห็นพระชายา ทำท่าเหมือนจะวิ่งหนี "จางหลง" อี้เฟยตะโกนเรียกเสียงดังบัดซบวันซวยอะไรของข้า! "ขอรับพระชายา " จางหลงค้อมศีรษะคำนับพระชายาที่กำลังเดินมาหาตน"หลังของเจ้าหายดีหรือยัง" อี้เฟยยังรู้สึกผิดที่จางหลงถูกทำโทษเพราะนาง"หายดีแล้วขอรับ ขอบพระทัยพระชายา ที่ประทานยามาให้""ข้าไม่กวนเวลาทำงานของเจ้าล่ะ ขอตัว" อี้เฟยหมุนตัวกลับไปทางที่เดินมา สายตาแอบมองไปที่ประตูจวน เดินมาใกล้ขนาดนี้ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะออกไป ถ้าหากข้าไปขออนุญ
บทที่ 11หยางชงอวี้ นั่งอยู่ในความมืด มองหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียง นางต้องการอะไร? ปั่นหัวข้าเล่นยังงั้นเหรอ? ในสมองน้อยๆของนางกำลังคิดแผนอันใดหลิวอี้เฟย ลืมตางัวเงียตื่นขึ้นมา ต้องสะดุ้งสุดตัว" ท่านอ๋อง" มือกุ้มผ้าห่มแน่ หันไปมองค้อนให้สมาชิกใหม่ในเรือน เจินเป่า ไอ้หมาเลี้ยงเสียข้าวสุก มีคนบุกมาห้องข้าแต่เช้ามืดขนาดนี้ จะเห่าปลุกซักแอ๊ะก็ไม่มี"กระดาษที่เจ้ามอบให้จางเลี่ยง หมายความว่าอย่างไร" หยางชงอวี้เดินมานั่งปลายเตียงอี้เฟยรีบดีดตัว ลุกหนีไปนั่งที่โต๊ะน้ำชา ไม่เรียกนางว่าน้องหญิงแล้ว? "เขียนว่าอย่างไรก็หมายความตามนั้นล่ะ หม่อมชั้นไม่ได้อ่านมัน ย่อมไม่เข้าใจความหมาย"อี้เฟย รินน้ำชาทำท่าท่างใจเย็น"แล้วมอบให้เปิ่นหวาง ไม่กลัวเปิ่นหวางเข้าใจผิด?"หยางชงอวี้เดินมาโต๊ะน้ำชารินน้ำชาขึ้นจิบ"ท่านอ๋องเรามาทำสัญญากันดีหรือไม่" เหมือนเห็นหยางชงอวี้ไม่ตอบอะไร " ข้าแต่งเข้าตระกูลหยางแล้ว คนแซ่หลิวไม่มีอันใดเกี่ยวกับข้าอีกแล้ว ข้าจะอยู่ที่เรือนเหมยฮัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ขอแค่ได้ออกไปเดินตลาดเปิดหูเปิดตาอาทิตย์ล่ะครั้งเท่านั้น ได้หรือไม่" อี้เฟย รีบสาธยายเงื่อนไขแล้วผลประโยชน์หยางชงอวี
บทที่ 12วันนี้ต้องให้คำตอบหยางชงอวี้ หันซ้ายก็หน้าผา หันขวาก็เสือโคล่งตัวใหญ่ยักษ์ ตอบทางไหนก็มีแต่เสียเปรียบ ถึงข้าจะมาจากยุคสมัยใหม่เรื่องพวกนี้ก็ทำใจลำบากอยู่ดี หากข้าชอบเจ้าซักนิดคงไม่ต้องลำบากใจขนาดนนี้ อี้เฟยทึ้งหัวตัวเอง กลิ้งไปมาบนเตียง เจ้าเจินเป่า ที่นอนอยู่ข้างๆได้แต่เอียงคอไปมา สงสัยกับการกระทำของนายสาวช่วงสายๆของวัน พ่อบ้านหวังกับสาวใช้อีกกลุ่มใหญ่ ยกกล่องเครื่องประดับ เสื้อผ้า เครื่องเรือนอีกหลายชนิด หนึ่งในนั้นมีตะกร้าสานใส่ที่นอนขนาดใหญ่ สำหรับเจินเป่าน้อย "คิดจะติดสินบนข้าหรือ" แต่มีคนให้ของก็ต้องรับไว้สิ ไม่งั้นเสียน้ำใจแย่ การรับสินบนไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำตามสิ่งที่คนให้ ร้องของเสมอไป "เจินเป่า มาๆ มานอนบนฟูกนี้มาเร็วๆ" ตั้งแต่มีเจินเป่า อี้เฟยอารมดีตลอด"พี่สาม ทำไมท่านต้องให้ข้าไปประชุมแทน"เมื่อคืน คุณชายอวี้หยงกวง แจ้งข่าวมา พี่ชายกลับสั่งให้เขาไปหอซื่อเซินแทน"เจ้าบอกเองมิใช่หรือ หากเปิ่นหวางไปหอคณิกา เดี๋ยวพี่สะใภ้เจ้าจะไม่พอใจ เปิ่นหวางยังต้องการทราบข่าวด้านนอกอยู่ ก็ต้องให้เจ้าไปแทนนะถูกแล้ว เปิ่นหวางไว้ใจเจ้าที่สุด""ป่านนี้คนลือไปทั้งเมืองแล้วกระมั้ง อ
บทที่ 13เช้ามืด ฟ้ายังไม่สว่างดีเท่าไรนัก หน้าต่างเรือนเหมยฮัวเปิดออก มีเงาหนึ่งแทรกเข้ามาตามสายลม เจินเป่าน้อยเด้งตัวขึ้นในท่าเตรียมป้องกัน เมื่อเห็นว่าเงานั้นคือผู้ใด ก็ขดตัวลงนอนที่ปลายเตียงเช่นเดิม เงานั้นเดินมาดึงผ้าห่มให้กระชับร่างน้อยที่นอนอยู่บนเตียง ช่วงนี้เขาต้องเข้าออกวัง สืบตามสายข่าวหัวหมุน แค่มองหน้านางกลับเหมือนได้รับพลังงานเต็มเปี่ยม เขาแอบเข้ามาดูนางทุกเช้า พยายามเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะกลัวนางตื่นหลังจากคืนที่สระบัวอี้เฟยก็ไม่เจอหยางชงอวี้อีกเลย อี้เฟยนั่งคิดถึงภาพคืนนั้นใบหน้าเริ่มมีสีเลือดฝาดระเรื่อขึ้นที่พวงแก้ม หยางชงอวี้จูงนางกลับมาส่งที่เรือนเหมยฮัว ก่อนจะเดินจากไปไม่วายหอมแก้มนางด้วย ใครให้เจ้าหน้าแดง พลางหยิกขาตัวเองเต็มแรง ห้ามหวั่นไหวนะอี้เฟย เฮ้อ! ชายหญิงใกล้ชิดกัน ข้าเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาสามัญ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน จะหวั่นไหวคงไม่แปลกมั้ง ข้าไม่ได้ตายด้านซักหน่อย พูดเข้าข้างตัวเองเสร็จสรรพ"ซิงซิง เจ้าไปเชิญอนุมี่ฮวาไปที่ศาลาริมสระบัวที่นะ บอกว่าข้าอยากทานอาหารกลางวันด้วย" พอสั่งซิงซิงเสร็จ อี้เฟย กวักมือเรียกเจินเป่าให้วิ่งตามนางออกไปอยู่คนเดียวแล้ว
บทที่ 14อี้เฟยให้ซิงซิงไปเชิญ มี่ฮวามาทานข้าวเป็นเพื่อน แต่นางไม่อยู่ นางไปไหน? ทำไมไม่บอกกล่าว"ท่านอ๋องให้เชิญพระชายา ไปพบที่เรือนหนังสือ" อี้เฟยสะดุ้งเฮือก มู่หลง ทำลาย ความเงียบ พวกองครักษ์นี้ ควบตำแหน่งนักย่องเบาด้วยหรือไง ชอบมาเงียบๆเมื่ออี้เฟย มาถึงเรือนหนังสือ ขายังไม่ทันก้าวพ้นประตู "พี่สะใภ้" สองเสียงประสานกัน หยางซื่อเล่อ หยางเจียวเหมย อี้เฟยยังไม่ทั้งตั้งตัวก็ถูกเจียวเหมยลากไปนั่งที่เก้าอี้ "พี่สะใภ้ ข้าคิดถึงท่าน กว่าจะบังคับพี่สิบให้พามาได้ แทบแย่รู้มั้ย" เสียงเจื้อยแจ้วของดรุณีน้อย"เฮ้อ นางไปขู่ข้าถึงจวน ถ้าไม่พามาจวนข้าคงไม่สงบสุข" ซื่อเล่อ ยกพัดขึ้นพัดเต็มแรง อี้เฟยเหลือบไปมองชงอวี้ที่นั่งอ่านหนังสือทำหน้าซังกะตายอยู่ที่โต๊ะหนังสือ เมื่อกี้นางเข้ามาไม่ทันได้ทักเขา ถูกเจียวเหมยลากมานั่งซะก่อน ไม่ทันไรเจียวเหมยก็ไปเล่นกับเจินเป่า บอกว่ามาหานางแต่ทิ้งนางไว้นั่งเงียบกันหมด สามพี่น้องนี้ยังไง อี้เฟยตัดสินใจถามในสิ่งที่อยากรู้"ท่านอ๋องเพคะ มี่ฮวา นางไปไหน"ชงอวี้ละสายตาจากหนังสือ หันมามามองอี้เฟย" เจ้าสองคนสนิทกัน ถึงขนาดถามไถ่ถึงกันเลยหรอ""ไม่ได้สนิทสนมอะไรมากมายหรอก ห
บทที่15"ท่านพ่อสถานการณ์ทางจวนรัชทายาททางท่าทางจะไม่ค่อยดี เหมือนพักหลังรัชทายาทเอาใจออกห่างพวกเราไปเรื่อยๆ " พักหลัง รัชทายาทไม่ยอมมาตามคำเชิญของท่านพ่อเหมือนแต่ก่อนอีกทั้ง การแต่งงานของเขากับองค์หญิงสิบสี่ก็ถูกฮ่องเต้ปฏิเสธมาอย่าไร้เยื่อใย"เจ้าใจเย็น ไว้ก่อนอี้ฝาน เดี๋ยวจะเสียงานใหญ่" หลิวอี้สงถึงจะเห็นด้วยกับคำพูดลูกชาย แต่ไม่อยากพูดให้ลูกชายเสียกำลังใจ องค์รัชทายาทตอนนี้โปรดพระชายารองเถาเลี่ยงลี่ ลูกสาวคนเดียวของเสนาบดีฝ่ายซ้ายจนออกนอกหน้า เขาจะให้แผนการที่วางไว้เสียหายไม่ได้ แม้แต่หลิวอี้เฟยที่เขาตัดสินใจให้แต่งงานเพื่อไปกล่อมอ๋องสามหวังจะอาศัยกำลังทหาร หลิวอี้สงเอามือทุบโต๊ะน้ำชาเสียงดังลั่นห้อง อี้เฟย เจ้ากล้าหักหลังข้า ข้าให้ชีวิตเจ้าได้ข้าก็เอาคืนได้"องค์หญิงรัชทายาทเสด็จมาถึงแล้วเจ้าค่ะ" สาวใช้วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้อง"ท่านพ่อ" หลิวอี้ฟาง คำนับอี้สง"รัชทายาทล่ะ ทำไมไม่มาด้วย ไหนเจ้ารับปากว่าวันนี้จะพามาหาข้าให้ได้" อี้สงตอนนี้อารมคลุกกรุ่นไปด้วยสีดำ"ข้าพยายามแล้ว แต่......" หลิวอี้ฟางน้ำตานองหน้า"ไม่ได้เรื่อง" หลิวอี้สงปานจอกน้ำชาใส่หลิวอี้ฟางเต็มแรง หลิวอี้ฟางกัดริม
บทที่ 16เที่ยวภูเขา บิดาเจ้าสิ สามวันมานี้เดินทางไม่ได้พักเลย แถมนอนบนรถม้าตลอด หยางชงอวี้ก็นอนในนั้นด้วย จะไล่ให้ไปนอนที่อื่นก็กลัวเขาจะเสียหน้า ทหารตั้งมากมาย แม่ทัพใหญ่ ถูกพระชายาไล่ไปนอนที่อื่น หากเสียหน้าแล้วฆ่าข้าหมกป่าแถวนี้ก็คงไม่มีใครรู้หรอกโชคดีช่วงนี้เหมือนอ๋องบ้ากามจะกลับใจ ไม่คิดทำมิดีมิร้ายข้า อี้เฟยนั่งขมวดคิ้ว จนเกิดรอบย่นกลางหน้าผากตกลงข้าคิดยังไงกับหยางชงอวี้กันแน่ ยอมให้ถึงเนื้อถึงตัว เวลาเขายิ้มให้ก็ใจเต้นรัว"เฮ้อ!" อี้เฟยหลุดถอนหายใจออกมา การกระทำทุกอย่างของนาง อยู่ในสายตาชงอวี้ทุกอย่าง"เหนื่อยมั้ยอี้เฟย คืนนี้ก็ถึงแล้ว อดทนหน่อยนะ" อี้เฟยพยักหน้ารับรู้ แต่ไม่ได้ตอบอันใดช่วงหัวค่ำก็ถึงที่หมายอย่างที่อ๋องชงอวี้บอกจริงๆ " ท่านอ๋องถึงแล้วขอรับ"หยางชงอวี้ ก้าวออกมาจากรถม้า จูงมืออี้เฟยออกมาด้วย ที่ๆมาถึงเป็นค่ายทหาร มองด้วยตาเปล่ากะกำลังไม่ถูกว่ามีคนอยู่เท่าใด หยางชงอวี้จูงมืออี้เฟยเข้าไปในกระโจม ด้านในมีคนรอต้อนรับอยู่ ชายหนุ่มผิวสีแทน หน้าตาเกลี้ยงเกลา ข้างๆมีหญิงสาวหน้าตาคุ้นๆ มี่ฮวา! "นี้คุณชายอวี้หยงกวง แม่ทัพคู่ใจของเปิ่นหวาง พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน วันนี้ให้เป
พิเศษ4องค์หญิงเลี่ยงลี่กำลังปั้นหิมะเล่นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เจินเป่ากลิ้งเล่นเอาตัวถูกับหิมะไปมา แม้เจินเป่าจะตัวเกือบเท่าเสือแต่อ่อนโยนกับเลี่ยงลี่ยิ่งกว่าลูกแมว"องค์ชายฮุ่ยจื่อ น่ารักมั้ยซิงซิง" จางเลี่ยงอดถามไม่ได้เพราะยังไม่มีใครได้เห็นองค์ชายเลยตั้งแต่คลอด นี้ก็สองวันแล้ว"น่ารักมากกกกกก ปากกับตาเหมือนพระชายาไม่มีผิด"ซิงซิงรีบตอบ แอบภูมิใจที่ตนได้เห็นและอุ้มองค์ชายน้อย"ถ้าเจ้าไม่รีบแต่งกับข้าระวังจะมีลูกไม่ทันใช้นะ" จางเลี่ยงยืนกอดอกมองซิงซิง"ข้ายังไม่ได้แต่งกับท่านเลย มาพูดถึงเรื่องมีลูกท่านนี้""ก็แต่งสิ"จางเลี่ยงพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยซิงซิงหน้าแดง มือเผลอออกแรงใส่หิมะเยอะไปตุ๊กตาเลยแตก"พี่ซิงซิง" องค์หญิงน้อยแบะปากจะร้องไห้"ซิงซิงไม่ได้ตั้งใจเพคะ เดี๋ยวปั้นให้ใหม่นะเพคะ องค์หญิงอยากได้รูปอะไร ไม่ร้องน้าโอ้ๆ""เลี่ยงลี่ อยากได้ตุ๊กตาพ่อแม่ลูก " องค์หญิงน้อยนั่งสะอื้น"ข้าช่วย" จางเลี่ยงเดินมาช่วยซิงซิงปั้นตุ๊กตาหิมะหิมะตกหนักมาหลายวันแล้ว แต่จวนอ๋องมีแต่ความอบอุ่น เรือยเหมยฮัว มีขนาดใหญ่มาก ที่เรือนมีห้องนอนหลายห้องนอน ห้องหนังสือ ห้องทานอาหาร ท่านอ๋องต่อเติมออกไปเรื่
พิเศษ3หิมะกำลังตกหนัก อากาศหนาวมาก แต่ท่านอ๋องสามกำลังร้อนรุ่มกลุ้มใจ หมอตำแยถูกตามตัวมายังจวนท่านอ๋องสามอย่างเร่งด่วน พระชายา เจ็บท้องกำลังจะคลอด บ่าวไพร่ต่างพากันวุ่นวาย เนื่องจากท่านอ๋องถูกพระชายาไล่ออกมากจากห้องคลอดทำให้ท่านอ๋องนั้นฟาดงวงฟาดงาไปทั่ว ในห้องนั้นจึงมีแค่ พระชายา หมอตำแยและซิงซิงเท่านั้น"อี้เฟย เป็นอย่างไรบ้าง" หลังจากเดินวนอยู่หน้าห้องมาซักระยะ ตั้งแต่หมอมาถึงภายในนั้นเงียบเชียบข้าใจคอไม่ดีเลย ทำไมเงียบแบบนี้ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ อ๋องชงอวี้ก็ได้แต่เดินวนเวียนไปมาตอน ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปดูแต่ถากหากเข้าไปนางบอกจะไม่พูดด้วยตลอดชีวิต จะเข้าไปก็ไม่ได้ รออยู่ข้างนอกก็ร้อนใจจะตาย "จิงซิ่ง เจ้าเข้าไปดูสิ" "หลิ่งถิง น้ำร้อนล่ะพร้อมมั้ย"มู่หลงองครักษ์คู่ใจได้แต่ส่ายหัว ไม่ใช่ลูกคนแรกเสียหน่อย ท่านอ๋องทรงวิตกกังวลเกินไปเฮ้อ! จางหลงถอนหายใจออกมาเบาๆ เบามากๆ เนื่องจากมองท่านอ๋องเดินไปเดินมาแล้วเกิดอาการเวียนหัว "ใครให้เจ้าถอนหายใจเสียงดัง เปิ่นหวางกำลังใช้สมาธิ" อ๋องชงอวี้หันมาทำตาเขียวใส่จางหลงเวรกรรม หายใจ ยังผิดเลยเวลานี้เวลาผ่านไป 2ชั่วยาม ในที่สุดก็มีความเคลื่อนไหวจ
พิเศษ2"คุยอะไรกันอยู่" อ๋องชงอวี้ เดินเข้ามาในเรือน อุ้มเลี่ยงลี่มานั่งบนตักหันไปหอมแก้มพระชายา แล้วก็ก้มลงหอมแก้มองค์หญิงน้อย ปากน้อยๆยังเคี้ยวขนมแก้มตุ้ยอยู่"อี้เฟย ว่าจะให้จิงซิ่ง หลิ่งถิง มาประจำที่เรือนเพคะ ""ดีๆ เจ้าท้องแก่มากแล้ว ซิงซิงดูแลเลี่ยงลี่คงไม่มีเวลามาดูแลเจ้าเท่าไร พรุ่งนี้พี่จะขอฮ่องเต้ลา จนกว่าเจ้าจะคลอดดีมั้ย"พระชายาอ้าปากค้าง ตอนข้าคลอดเลี่ยงลี่ก็ลาหยุด 1ปีเต็มๆ แถมต่อเติมเรือนทำห้องนอนให้เลี่ยงลี่อยู่ในเรือนเดียวกันกลับมาจากในวังก็คลุกอยู่กับเลี่ยงลี่ พาเข้านอนเองทุกคืน นี้จะลาหยุดก่อนข้าคลอดล่วงหน้าอีกหรือ โอ้ยพ่ออออ"ไว้อี้เฟยคลอดค่อยลาดีมั้ยเพคะ""ไม่ เพราะพี่ลาเสด็จพ่อมาเรียบร้อยแล้ว" น้ำเสียงเจือขบขัน พลางฟัดแก้มน้อยๆที่เคี้ยวขนมอยู่จ้าๆ ตามใจท่านเลยบ่ายคล้อย ท่านอ๋องวาดรูปอยู่ที่ศาลาริมสระบัวมีพระชายาเอนหลังอยู่ข้างๆ ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีส่วนองค์หญิงเลี่ยงลี่ วิ่งเล่นอยู่ไม่ไกล"เจ้าแก่แล้วกะมัง เล่นกับองค์หญิงแค่นี้หอบเชียว"จางเลี่ยงยืนพิงต้นไม้ ดูซิงซิงเล่นวิ่งไล่จับกับองค์หญิง"ปีนี้ข้าเพิ่งอายุ20ปี ข้าจะแก่ได้ยังไง ท่านนี้" อ้าปากมาก็ชวนตี คนบ้า
พิเศษ1โอ้ยยยยย ตายๆ ข้าจะเป็นลม สงสัยจะข้าแก่เกินไปแล้วสำหรับเรื่องนี้"องค์หญิงเพคะ ซิงซิงไม่ไหวแล้วเพคะ ได้โปรดหยุดก่อน แฮ่กๆ" ซิงซิงวิ่งตามเด็กน้อยคนหนึ่งเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว"พี่ซิงซิง ตามมาๆ ไวๆ บี๋เสื้อน้อยจะบินหนีแล้ว" องค์หญิงหยางเลี่ยงลี่ เด็กน้อยวัย3ขวบ ผิวสีขาวราวกับน้ำนม ปากแดงแก้มแดง กำลังวิ่งตามจับผีเสื้อในสวนนิสัยขององค์หญิงนั้นตรงตามชื่อแทบจะทุกอย่างความงดงามที่สว่างไสว วันที่ลืมตาดูโลก ฮ่องเต้ทรงพระทานยศองค์หญิงและพระนามให้ หลานคนแรกของฮ่องเต้คงไม่ต้องบอกว่าทรงเอ็นดูแค่ไหน"ซิงซิงไม่ไหวแล้วเพคะ" ทรุดลงไปนั่งกับพื้น"ไม่ไหวก็ไม่หาคนอื่นมาช่วยล่ะ พระชายาบอกเจ้าหลายครั้งแล้วนิ" จางเลี่ยงยืนทอดเงาบังร่างของซิงซิงเอาไว้"ไม่ ข้าจะดูแลองค์หญิงคนเดียวเท่านั้น" หันค้อนขวับใส่เมื่อรู้ว่าเงานั้นเป็นของใคร "ท่านล่ะไม่เฝ้าพระชายาเหรอ ระวังท่านอ๋องทำโทษเอาจะหาว่าข้าไม่เตือน""เจ้าห่วงตัวเองเถอะ ข้าเปลี่ยนเวรกับจางหลงแล้ว ส่วนเจ้านะจะเป็นลมอยู่แล้ว" เดินไปอุ้มองค์หญิงน้อยชูแขนขึ้นจนสุด จนองค์หญิงน้อยจับผี้เสื้อได้"คิกๆ พี่จางเลี่ยงเก่งที่สุดเลย""องค์หญิง พระชายาตามหาอยู่นะขอรั
บทที่ 29ในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง ลมเย็นๆ พัดลอดผ่านใบไม้ต้นหญ้าให้ความรู้สึกสดชื่น ต้นไม้ต่างแข่งกันออกดอกอวดสีสันสวยสดงดงามหน้าประตูเมืองหลวง ผู้คนมากมายสองข้างทาง มายืนส่งขบวนขององค์หญิงเจียวเหมย องค์หญิงจะเสด็จไปยังแคว้นต้าชิง เพื่อแต่งงานกับฮ่องเต้ต้าชิง เชื่อมสัมพันธ์ของสองแคว้น"รักษาตัวด้วยนะเจียวเหมย" อี้เฟยจับมือเจียวเหมย น้ำตาคลอเบ้า แม้ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายโลหิต แต่นางเปรียบเสมือนน้องสาวตัวน้อยๆ ของนาง ต้องแต่งงานตามที่พ่อแม่จัดหาให้ เหมือนหญิงสาวทุกคนในยุคนี้"พี่สะใภ้ ข้าจะคิดถึงท่าน" องค์หญิงเจียวเหมยสวมกอดอี้เฟยไว้ ในราชวงศ์มีการแก่งแย่งชิงดีกันมากมาย มีเพียงแค่นางที่จริงใจกับข้า ดีกับข้าเสมอต้นเสมอปลาย นางเหมือนพี่สาวที่ข้าไม่เคยมี"เอาล่ะ ร่ำลากันพอแล้ว เดี๋ยวจะช้ากว่ากำหนดการ"ซื่อเล่อ พูดขึ้นขัดสองสาวที่กอดกันกลมอยู่ หากปล่อยให้ร่ำลากันต่อไปวันนี้คงไม่ได้เดินทางเป็นแน่"พี่สะใภ้ไม่ต้องห่วง ข้าจะส่งเจียวเหมยให้ถึงที่ รับรองปลอดภัยหายห่วง ท่านเชื่อมือข้าได้"ซื่อเล่อพูดหยอกเย้า ตามประสานิสัย"ฝากเจียวเหมยด้วยนะ" หลังจากส่งองค์หญิงเจียวเหมยขึ้นรถม้าไป เมื่อขบวนเคลื่
บทที่ 28"ไม่นึกเลย ฮ่องเต้จะประทานยาพิษให้พระสนมหลิว ได้ยินว่ายาพิษนั้นเป็นพิษน้ำทิพย์" บ่าวไพร่ในตระกูลหลิว กำลังนั่งนินทาเจ้านายอยู่ในโรงครัว"เฮ้อ นายท่านกับนายน้อยก็ถูกประหาร ไม่ทันไรคุณหนูใหญ่ก็มาถูกประทานยาพิษ นี้หาก.."ปัง!!!! เสียงประตูโรงครัวเปิดออก "พวกเจ้าไม่มีงานทำกันหรือไง ถึงได้มานั่งนินทาเจ้านาย หรือต้องถูกโบยถึงจะหลาบจำ" เสียงแม่นม คนสนิทของฮูหยินใจจริงอยากสั่งโบยพวกปากหอยปากปูพวกนี้ให้หมด แต่ตอนนี้ต้องอาศัยพวกเขา หลังจากนายท่านถูกประหาร บ่าวไพร่ลาออกเกือบหมด ใครจะอยากอยู่รับใช้พวกกบฏ ตอนนี้เหลือแค่ข้าเก่าเต่าเลี้ยงกับพวกที่ไม่มีที่จะไปเท่านั้นกระมัง"ท่านแม่ เราจะทำอย่างไรต่อไปดี" หลิวอี้ฟางนั่งกอดฮูหยินเอาไว้ หลังจาก พี่ใหญ่ถูกจับขังคุกหลวง ฮ่องเต้รับสั่งห้ามใครเยี่ยมเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนคำสั่งต้องรับโทษสถานเดียวกับพระสนม คือประหารชีวิต"ฮ่องเต้ช่างลำเอียง ถ้าพูดให้ถูกพี่ใหญ่เป็นถึงพระสนมของฮ่องเต้เคยเป็นคนโปรด แล้วทำไมถึงได้ไปเข้าข้างนังอี้เฟย"" จุ๊ๆ อี้ฟาง อย่าพูดเสียงดังไปหากใครได้ยินเข้ามีกี่หัวก็คงไม่พอ แม่ไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้อีก แม่เหลือแค่เจ้าแล้ว ฮือๆ" ข้
บทที่ 27ซิงซิง ยืนอยู่ที่มุมห้องกำลังมอง ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ใต้หล้านี้มีแต่คนเกรงกลัว ทั้งเด็ดขาด โหดเหี้ยม สามารถสั่งการทหารได้มายมาก อีกทั้งยังครอบครองหัวใจสาวสวยทั้งแคว้น แต่ตอนนี้กำลังออดอ้อนให้เจ้านายของนางกินยา"กินอีกคำเถอะนะอี้เฟย หากกินไม่หมดจะหายดีได้อย่างไร จะหมดแล้วอีกคำเดียวเท่านั้น""ไม่เอา อี้เฟยพอแล้ว มันขม พอแล้ว" อี้เฟยพยายามหันหน้าหนีจากชามยาไปมา ทำยาเม็ดมาให้กินได้มั้ยยยย แบบกลืนเม็ดเดียวครบทุกสูตร ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว"อีกคำเดียว พี่สัญญาน่ะ อีกคำเดียว" อ๋องชงอวี้ไม่ยอมแพ้"เมื่อวานพี่ชงอวี้ก็พูดแบบนี้ คำสัญญาท่านมีความหมายอันใด" ข้าไม่กินแล้ว กินยาบ้านี้มาสองอาทิตแล้ว ขมก็ขมเหม็นก็เหม็น ทำไมไม่มียาเม็ด ยัดเข้าปากกินน้ำตามจบเลย ม๊ายยยยยยยย"เฮ้อ!! พอก็พอ พี่ยอมแพ้""พรุ่งนี้ไม่เอายาแล้วนะ เอาเป็นซุปบำรุงก็พอ อี้เฟยหายดีแล้ว นะเพคะ" เสียงออดอ้อน ทำปากยื่นปากยาว"จ๊ะ ไม่กินก็ไม่กิน"ซิงซิงได้แต่ยืนมอง ยืนก้มหน้ายิ้มอยู่คนเดียวหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในวังหลวง เหตุพระชายาอ๋องสามถูกวางยาพิษ ทุกคนต่างเข้าใจตรงกันว่า ตอนนี้ผู้ใดคือคนที่ฮ่องเต้และอ๋องสามโปรดปรานที่สุดพอพร
บทที่ 26"ท่านอ๋องเคลื่อนย้ายร่างพระชายาไม่ได้นะพะยะคะ" หมอหลวง ร้องห้ามอ๋องหยางชงวี้ ที่กำลังอุ้มร่างพระชายาออกจากตำหนัก"เปิ่นหวางจะพานางกลับจวน" กลับเรือนเหมยฮัวกันเถอะอี้เฟย ข้ารู้ว่าเจ้าต้องอยากไปนอนที่ห้องของเรามากกว่าที่นี่ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากขาวซีดหิมะปกคลุมหนาไปทั้งจวนอ๋องหยางชงอวี้ ความหนาวเหน็บนั้นไม่อาจเทียบเทียมกับความรู้สึกในใจของเจ้าของจวนได้เลย มีเพียงแต่แววตาของของนางเท่านั้นที่จะทำให้หัวใจของเขากลับมาอบอุ่นอีกครั้ง"อี้เฟย ตื่นเถอะน่ะ''''น้องหญิง ได้โปรดลืมตาเถิด''นานเท่าใดแล้วที่เจ้าหลับไหล มิอาจรู้ได้เลยเพราะเวลาของข้าได้หยุดลงไปแล้วตั้งแต่วินาทีที่เจ้าหลับ หากมีสิ่งใดต้องแลกเพื่อให้เจ้าลืมตาอีกครั้งข้ายอม ข้ายอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งลมหายใจของข้า"วันนี้กับข้าวมีอะไรบ้างลูก" นิภาถามลูกสาวที่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในครัว"ของโปรดพ่อค่ะ ต้มยำไก่บ้าน กับผัดผัก อีก2อย่าง" นิดาหันมาตอบผู้เป็นแม่วันนี้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาอีกเช่นเคย3คนพ่อ แม่ ลูก นั่งทานข้างเย็นด้วยกันอย่างมีความสุข คุยถึงเรื่องที่ผ่านมาวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีวิญญาณของสาวน้อยน
บทที่ 25เวลานี้ ประตูวังหลวงถูกปิดตาย ห้ามใครเข้าออกยังหาไม่เจออีกหรือ ผ่านมาหนึ่งชั่วยามแล้ว นางกำนัลคนที่ยกขนมมาก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว เวลาทุกวินาทีมีค่ายิ่งกว่าทองคำพันชั่ง ใครกัน! ใครที่อยากให้อี้เฟยของข้าตาย"อี้เฟย แข็งใจหน่อยนะ พี่กำลังหายาถอนพิษมาให้เจ้า" มือยังคงกุมนางไม่ไว้แน่น เขาไม่กล้าปล่อยมือนี้ หากปล่อยเขาอาจต้องเสียใจไปจนวันตาย ร่างของอี้เฟยเริ่มมีเลือดไหลออกมาจากจมูก ลมหายใจของนางแผ่วเบามากลงเรื่อยๆ ร่างบางนั้นนอนแน่นิ่ง แทบไม่เหมือนคนที่ยังหายใจอยู่เลยด้วยซ้ำ บรรยากาศในห้องตรึงเครียด แทบไม่มีเสียงใดๆแม้กระทั้งเสียงลมพัดผ่านหมอหลวงหลายสิบคนพยายามยื้อชีวิตน้อยๆนี้ไว้สุดกำลัง พยายามปรุงยาถอนพิษ แต่กว่าจะปรุงเสร็จคงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามวัน เกรงว่าหากรอถึงเวลานั้นพระชายาคงสิ้นลมหายใจ ไม่แคล้วพวกเขาต้องตายตามไปเป็นแน่ ตอนนี้ภายในวังหลวงกำลังโกลาหล ฮ่องเต้และฮองเฮาอนุญาตให้ทหารของอ๋องหยางชงอวี้ค้นได้ทุกตำหนักที่ต้องการอ๋องหยางชงอวี้ พยายามรวมรวบความคิดทั้งหมด พยามลำดับเหตุการณ์ ใช่อี้เฟยนางเคยพูดว่าคนที่จวนหลิวอี้สงเกลียดนาง ในวังตอนนี้....... หลิวเหมยฮัว! "กงกง เจ้าไปเชิญพระ