แม้ว่าพระชายาเว่ยจะเข้าใจแล้ว แต่ก็กังวลว่าหลิงอวี๋กำลังสร้างความขัดแย้งระหว่างตนเองกับจ้าวเจินเจินอยู่ เพราะอยากให้องค์ชายเว่ยขัดแย้งกับองค์ชายคัง แล้วท่านอ๋องอี้ก็จะช่วงชิงผลประโยชน์ไปในที่สุด!นางจึงแสร้งทำเป็นเข้าใจพลางเอ่ยถามอย่างมึนงง “น้องสะใภ้สี่ เจ้าหมายความเช่นไร?”“พี่สะใภ้ใหญ่อยู่ฟังต่อสิแล้วจะรู้เอง!”หลิงอวี๋หันไปหานางผดุงครรภ์ทั้งสองด้วยรอยยิ้มมิคล้ายยิ้ม แล้วมองพวกนางอยู่เช่นนั้นโดยมิเอ่ยวาจานางผดุงครรภ์ทั้งสองตกใจกับท่าทีของหลิงอวี๋ แต่ก็อดกลั้นมิพูดอะไรออกไปเซียวหลินเทียนใจเต้น หลิงอวี๋พบอะไรอีกแล้วหรือ?เขามองไปทางนางผดุงครรภ์ทั้งสองด้วยสายตาเฉียบคม กลิ่นอายเย็นชาของเขาแข็งแกร่งกว่าของหลิงอวี๋มาก ทำให้นางผดุงครรภ์ทั้งสองรู้สึกว่าอากาศรอบตัวพวกนางเย็นยะเยือกขึ้นมาฉับพลันขนลุกซู่ทั่วทั้งร่างกายทันที!พระชายาเว่ยเป็นคนฉลาด เมื่อนึกถึงเหตุและผลที่ตามมา ก็คิดขึ้นได้ว่าหลิงอวี๋อาจพบอะไรบางอย่าง นางจึงจ้องมองนางผดุงครรภ์ทั้งสองอย่างไม่สบอารมณ์...องค์ชายเย่รู้สึกว่าบรรยากาศผิดปกติ จึงมองไปทางนางผดุงครรภ์ทั้งสองเช่นกัน หรือว่าพิษในตัวบุตรชายของตนเกิดจากนางผดุงครร
หลังจากนั้นไม่นาน นิ้วของนางผดุงครรภ์อ้วนก็เปลี่ยนเป็นสีแดง นางตกใจจนหน้าซีด พลางตะโกนลั่น“พระชายาอ๋องอี้ นี่เป็นการกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรมเลย บ่าวมิเคยแตะต้องดอกคำฝอยด้วยซ้ำ…”ยังมิทันที่นางผดุงครรภ์อ้วนจะพูดจบ หลิงซวนก็ตบหน้าอ้วน ๆ ของนางอย่างแรง พลางตะคอกด้วยความโกรธ“เจ้ามิเคยแตะต้องเลยหรือ? เช่นนั้นเหตุใดมือเจ้าถึงเปลี่ยนเป็นสีแดง? แล้วไฉนมือของนางถึงมิเปลี่ยนเล่า?”“ที่แท้คนที่คิดจะวางยาพิษท่านชายน้อยก็คือทาสชั่วเช่นเจ้า!”องค์ชายเย่ควบคุมตัวเองมิได้อีกต่อไป เขาชักดาบขององครักษ์ออกมาแล้วเดินเข้าไปอย่างดุร้าย “วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้า ทาสชั่ว!”นางผดุงครรภ์อ้วนตกใจจนปัสสาวะแทบรั่ว พลางร้องออกมาเสียงสั่น “องค์ชายเย่ บ่าวถูกใส่ร้ายเพคะ แม้ว่าบ่าวจะเผลอใส่ดอกคำฝอยลงในน้ำแกงกระตุ้นการคลอด แต่ดอกคำฝอยนั้นหาได้เป็นพิษไม่เพคะ!”“พระชายาอ๋องอี้ ในเมื่อท่านเป็นแพทย์ชั้นเซียน ท่านก็ควรรู้ว่าดอกคำฝอยสามารถกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและขจัดภาวะเลือดคั่งเท่านั้น มิได้เป็นพิษจริง ๆ!”แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับพระชายาเว่ย แต่เมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็อดมิได้ที่จะเอ่ยแทรก “น้องสะใภ้สี่ เจ้าดูผิดไปหรือ
องค์ชายเย่ถูกพี่ภรรยาดุเข้าก็หน้าแดง พลางรีบเอ่ย “ข้ามิได้เอามานะ สิ่งนี้พระชายาคังมอบให้หลานหลาน!”“ช่วงก่อนหน้านี้หลานหลานไปที่ตำหนักองค์ชายคังแล้วเห็นดอกไม้นี้สวยงาม นางจึงเอ่ยชมแล้วพระชายาคังก็ให้ดอกไม้นี้มา!”เมื่อพระชายาเว่ยได้ยินสิ่งนี้ก็ยิ้มอย่างเย็นชา พลางมองไปที่นางผดุงครรภ์ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องสืบสวนแล้ว ต้องเป็นจ้าวเจินเจินแน่ ๆ ที่ให้ชะเอมเทศที่มีสารพิษนี้กับจูหลานตอนนี้ยังจะส่งนางผดุงครรภ์มาให้จูหลานกินดอกคำฝอยเพื่อกระตุ้นพิษอีก เมื่อทั้งสองอย่างรวมกัน จูหลานจะคลอดลูกอย่างราบรื่นได้เยี่ยงไรเล่า!ยิ่งไปกว่านั้นจ้าวเจินเจินยังวางแผนให้รถม้าของตนชนกับรถม้าของจูหลาน และหากจูหลานตายไปเช่นนี้ ตนก็จะต้องถูกตราหน้า!แผนของจ้าวเจินเจินเป็นแผนการชั่วร้ายที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย!ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยระวังมาก่อนเลย จึงส่งแม่นางซือมาทำร้ายจูหลาน มันไม่จำเป็นเอาเสียเลย!สิ่งที่พระชายาเว่ยนึกถึง หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเองก็นึกถึงเช่นกันทั้งสองต่างมองไปทางองค์ชายเย่ จูหลานชอบดอกไม้นี้เอง แต่จ้าวเจินเจินเองก็สามารถพูดได้ว่านางไม่รู้เลยว่าดอกไม้นั้นมีพิษ!นางให้จูหลานด้ว
ทุกคนเห็นนางผดุงครรภ์อ้วนกระอักเลือดสีดำออกจากปากของนางมากขึ้นอีก แล้วดวงตาของนางก็เบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมาหลิงอวี๋เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไป นางได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวในเลือด จึงส่ายหัวพลางเอ่ย“ช่วยไม่ได้แล้ว นางกินยาพิษ!”องค์ชายเย่ตะลึงไปทันที หากพยานตายแล้ว เช่นนั้นเขาก็ไปร้องต่อองค์จักรพรรดิว่าพระชายาคังวางแผนสังหารหลานหลานมิได้แล้วสิ?ทำได้เพียงอาศัยเอาชะเอมเทศไปกล่าวหาว่าจ้าวเจินเจินทำร้ายคน เขาก็ไม่มีทางชนะหรอก!เซียวหลินเทียนเห็นแล้วพูดไม่ออก จ้าวเจินเจินใช้สติปัญญาไปกับเรื่องพวกนี้ มันทำให้เขาทั้งรังเกียจและเสียดายมาก!เหตุใดสตรีที่มีความสามารถในวันเก่า ๆ ถึงได้กลายเป็นคนแปลกหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ กันนะ!“พระชายาอ๋องอี้ เรื่องพวกนี้ให้พวกเขาจัดการเถิด! หลานหลานฟื้นแล้ว ช่วยไปดูให้ข้าทีว่าจะต้องดูแลนางอย่างไร!”ฮูหยินจูได้ยินจูหลานขยับตัวก็หันกลับไปมองแล้วเห็นจูหลานลืมตาขึ้น จึงรีบเรียกหลิงอวี๋“พระชายาอ๋องอี้ หลานหลานสูดดมละอองเกสรดอกไม้มาเป็นเวลานาน นางจะถูกพิษด้วยหรือไม่? มันจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของนางใช่หรือไม่!”“ท่านชายน้อยจะไม่กลายเป็นคนโง่จริง ๆ ใช่หรือไม่?”
จะเป็นคนดีก็ต้องเป็นให้ถึงที่สุด!ท่านชายน้อยผู้นี้เป็นเด็กคนแรกที่หลิงอวี๋ทำคลอดตั้งแต่มาถึงฉินตะวันตก หลิงอวี๋จึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อเขาสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ หลิงอวี๋ก็มองออกว่าองค์ชายเย่ไม่มีแผนอะไร กลัวว่าเขาจะประมาทอีกแล้วให้คนอื่นอาศัยช่องโหว่มาสังหารท่านชายน้อยเข้าหลิงอวี๋อธิบายรายละเอียดการดูแลแม่ลูกจูหลานให้กับฮูหยินจูฟังสองครั้งอย่างใจเย็น หลังจากแน่ใจแล้วว่าฮูหยินจูจำได้ นางก็เอายาแก้พิษไว้ให้ท่านชายน้อย“ให้ยาสองขวดนี้ครั้งละหนึ่งช้อน… แล้วให้น้ำเยอะ ๆ!”"ตอนป้อนยาจะต้องคอยสังเกตปัสสาวะของเขา หากเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนก็มิต้องให้ยาเขาแล้ว!"“สองวันนี้หลานหลานจะไม่สามารถให้นมลูกได้ เจ้าจะต้องกินยารักษาก่อน หลังจากกินยาไปสามวันแล้ว หากปัสสาวะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ก็ให้กินยากระตุ้นน้ำนม…”หลิงอวี๋สั่งยาสามชนิดให้จูหลาน และสุดท้ายก็คือเพิ่มเลือดหลังจากสั่งยาแล้ว หลิงอวี๋ก็กำชับจูหลาน “หากยังอยากมีลูกต้องเชื่อฟังข้า หลังจากนี้ไปอีกหนึ่งปีเจ้าค่อยมี!”“ตอนเกือบ ๆ ครบปีให้มาหาข้า ข้าจะสั่งยาให้ตามสภาพร่างกายของเจ้า เมื่อทำเช่นนี้คราวหน้าเจ้าจะมีลูกที่แข็งแรงสมบูร
หลิงอวี๋เห็นท่าทีงุนงงของเซียวหลินเทียน ก็รู้สึกว่าว่ามันตลกดีนางดื่มน้ำจากในมิติ ความสามารถในการดมกลิ่น การได้ยิน และการรับรู้ของนางจึงเหนือกว่าคนทั่วไปทั้งหมดพวกเซียวหลินเทียนไม่มีทางเป็นได้เหมือนตนที่แม้แต่กลิ่นที่หอมอ่อน ๆ ก็ได้กลิ่น!“หม่อมฉันต้องขอบพระทัยท่านด้วยเพคะ… ที่เชื่อมั่นในตัวหม่อมฉันและสนับสนุนหม่อมฉันอย่างไม่มีเงื่อนไข!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ย “หม่อมฉันได้ยินหลิงซวนบอกว่าตอนนั้นข้างนอกเสียงดังวุ่นวายกันมาก และองค์ชายห้าก็อยู่ในห้องคลอดด้วย!”“แต่ท่านก็บังคับทุกคนให้อยู่ที่นั่นเพียงเพราะคำพูดของหม่อมฉัน นี่เป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่นักเพคะ! พระชายาเว่ยมิได้ทำให้ท่านลำบากใจใช่หรือไม่เพคะ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างไม่สนใจ “การข่มขู่สตรีไม่กี่คนจะไปยากกระไรเล่า! แค่ช่วยเจ้าได้ก็ดีแล้ว!”ความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นในหัวใจของหลิงอวี๋ ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนเคยบอกไว้ว่า ต่อไปเขาจะใช้หัวใจมอง และจะพยายามทำความรู้จักกับตนใหม่อีกครั้ง ไม่คิดเลยว่าเซียวหลินเทียนจะทำมันได้จริง ๆ!นางคิดถึงหลิงเยวี่ย เซียวหลินเทียนรังเกียจหลิงเยวี่ยมาโดยตลอด และไม่ยอมรับตัวตนของหลิงเยวี่ย!
เช้าวันรุ่งขึ้นเซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนเตรียมรถม้าหลายคันและรอที่ลานหน้าตำหนักอ๋องอี้ในตอนเช้าตรู่ตอนหลิงอวี๋พาหลิงเยวี่ยมา นางตั้งใจสังเกตสีหน้าของเซียวหลินเทียน เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนแค่รู้สึกตะลึง แต่ไม่แสดงท่าทีรังเกียจใด ๆ ก็รู้สึกโล่งใจไปครึ่งหนึ่งกระทั่งตอนขึ้นรถม้า หลิงอวี๋อุ้มหลิงเยวี่ยขึ้นรถม้าก็เห็นว่าเซียวหลินเทียนไม่ได้เปลี่ยนรถม้าและตามขึ้นมานั่งด้วย นางก็รู้สึกโล่งใจได้เต็มที่ไม่ว่าเซียวหลินเทียนจะยอมรับหลิงเยวี่ยหรือไม่ นั่นไม่ใช่สิ่งที่หลิงอวี๋จะตัดสินใจได้!แต่ตราบใดที่เซียวหลินเทียนสามารถเปลี่ยนทัศนคติของเขาได้ นางก็เชื่อว่าวันหนึ่งนางจะทำให้เซียวหลินเทียนยอมรับหลิงเยวี่ยอย่างหมดใจได้หลิงเยวี่ยรู้สึกทำตัวไม่ถูกแล้วพิงติดหลิงอวี๋เขายังคงกลัวเซียวหลินเทียนอยู่เล็กน้อย ภาพที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีหลิงอวี๋ทิ้งเงาลึกไว้ในหัวใจของเด็กชายตัวน้อยเขากังวลว่าความใจดีของเซียวหลินเทียนจะกลายเป็นความชั่วร้ายในพริบตา“ท่านแม่ ข้าควรเรียกเขาว่าอะไร?”หลิงเยวี่ยกระซิบถามเบา ๆ ที่หูของหลิงอวี๋เซียวหลินเทียนเป็นผู้ฝึกวรยุทธ แม้ว่ารถม้าจะกว้างขวาง แต่เขาก็ยังได้ย
หลิงเยวี่ยถือเม็ดหมากล้อมอย่างประหม่า นึกถึงสิ่งที่หลิงอวี๋บอกตนตอนออกไปข้างนอก จากนั้นก็รวบรวมความกล้าเอ่ย“ท่านอ๋อง... เยวี่ยเยวี่ยยังเด็ก ท่านต้องให้เยวี่ยเยวี่ยห้าเม็ด ท่านแม่ของกระหม่อมก็ทำเช่นนี้เช่นกัน!”หลิงอวี๋บอกว่า...“วันนี้อยากทำอะไรก็ทำเลย ไม่ต้องกลัวนะ แม่จะสนับสนุนเจ้าเอง!”“ใครก็ตามที่กล้ารังแกเยวี่ยเยวี่ย แม่จะทุบตีเขาจนกว่าเขาจะรู้ว่าเหตุใดดอกไม้ถึงแดงเช่นนี้เลย!”ด้วยการสนับสนุนจากท่านแม่ของเขา เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เซียวหลินเทียนถูกท่านแม่ของตนแขวนไว้บนต้นไม้ หลิงเยวี่ยจึงมั่นใจมากขึ้นท่านอ๋องผู้ดุร้ายนี้ไม่น่ากลัวถึงเพียงนั้นในสายตาของเขาอีกต่อไปแล้ว!“ได้ ข้าจะให้เจ้าห้าเม็ด!”เซียวหลินเทียนย่อมไม่โต้เถียงกับเด็กอยู่แล้วจึงพยักหน้าหลิงเยวี่ยวางห้าเม็ดบนกระดานหมากล้อมพลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ท่านอ๋อง ถึงตาของท่านแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่เซียวหลินเทียนเห็นการเคลื่อนไหวบนกระดานหมากล้อม มุมปากของเขาก็ยกขึ้นอย่างชื่นชมทันทีสมกับที่เป็นลูกของหลิงอวี๋ผู้ชนะทักษะหมากล้อม การเดินเกมของเด็กน้อยผู้นี้น่าประทับใจทีเดียวเขาลงไปหนึ่งเม็ด หลิงเยวี่ยครุ่นคิดแล้วลงหน