เช้าวันรุ่งขึ้นเซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนเตรียมรถม้าหลายคันและรอที่ลานหน้าตำหนักอ๋องอี้ในตอนเช้าตรู่ตอนหลิงอวี๋พาหลิงเยวี่ยมา นางตั้งใจสังเกตสีหน้าของเซียวหลินเทียน เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนแค่รู้สึกตะลึง แต่ไม่แสดงท่าทีรังเกียจใด ๆ ก็รู้สึกโล่งใจไปครึ่งหนึ่งกระทั่งตอนขึ้นรถม้า หลิงอวี๋อุ้มหลิงเยวี่ยขึ้นรถม้าก็เห็นว่าเซียวหลินเทียนไม่ได้เปลี่ยนรถม้าและตามขึ้นมานั่งด้วย นางก็รู้สึกโล่งใจได้เต็มที่ไม่ว่าเซียวหลินเทียนจะยอมรับหลิงเยวี่ยหรือไม่ นั่นไม่ใช่สิ่งที่หลิงอวี๋จะตัดสินใจได้!แต่ตราบใดที่เซียวหลินเทียนสามารถเปลี่ยนทัศนคติของเขาได้ นางก็เชื่อว่าวันหนึ่งนางจะทำให้เซียวหลินเทียนยอมรับหลิงเยวี่ยอย่างหมดใจได้หลิงเยวี่ยรู้สึกทำตัวไม่ถูกแล้วพิงติดหลิงอวี๋เขายังคงกลัวเซียวหลินเทียนอยู่เล็กน้อย ภาพที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีหลิงอวี๋ทิ้งเงาลึกไว้ในหัวใจของเด็กชายตัวน้อยเขากังวลว่าความใจดีของเซียวหลินเทียนจะกลายเป็นความชั่วร้ายในพริบตา“ท่านแม่ ข้าควรเรียกเขาว่าอะไร?”หลิงเยวี่ยกระซิบถามเบา ๆ ที่หูของหลิงอวี๋เซียวหลินเทียนเป็นผู้ฝึกวรยุทธ แม้ว่ารถม้าจะกว้างขวาง แต่เขาก็ยังได้ย
หลิงเยวี่ยถือเม็ดหมากล้อมอย่างประหม่า นึกถึงสิ่งที่หลิงอวี๋บอกตนตอนออกไปข้างนอก จากนั้นก็รวบรวมความกล้าเอ่ย“ท่านอ๋อง... เยวี่ยเยวี่ยยังเด็ก ท่านต้องให้เยวี่ยเยวี่ยห้าเม็ด ท่านแม่ของกระหม่อมก็ทำเช่นนี้เช่นกัน!”หลิงอวี๋บอกว่า...“วันนี้อยากทำอะไรก็ทำเลย ไม่ต้องกลัวนะ แม่จะสนับสนุนเจ้าเอง!”“ใครก็ตามที่กล้ารังแกเยวี่ยเยวี่ย แม่จะทุบตีเขาจนกว่าเขาจะรู้ว่าเหตุใดดอกไม้ถึงแดงเช่นนี้เลย!”ด้วยการสนับสนุนจากท่านแม่ของเขา เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เซียวหลินเทียนถูกท่านแม่ของตนแขวนไว้บนต้นไม้ หลิงเยวี่ยจึงมั่นใจมากขึ้นท่านอ๋องผู้ดุร้ายนี้ไม่น่ากลัวถึงเพียงนั้นในสายตาของเขาอีกต่อไปแล้ว!“ได้ ข้าจะให้เจ้าห้าเม็ด!”เซียวหลินเทียนย่อมไม่โต้เถียงกับเด็กอยู่แล้วจึงพยักหน้าหลิงเยวี่ยวางห้าเม็ดบนกระดานหมากล้อมพลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ท่านอ๋อง ถึงตาของท่านแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่เซียวหลินเทียนเห็นการเคลื่อนไหวบนกระดานหมากล้อม มุมปากของเขาก็ยกขึ้นอย่างชื่นชมทันทีสมกับที่เป็นลูกของหลิงอวี๋ผู้ชนะทักษะหมากล้อม การเดินเกมของเด็กน้อยผู้นี้น่าประทับใจทีเดียวเขาลงไปหนึ่งเม็ด หลิงเยวี่ยครุ่นคิดแล้วลงหน
“ท่านอ๋อง พระชายามาแล้วหรือ!”ลัวซินผู้ดูแลไร่นาเป็นผู้ชายอายุประมาณห้าสิบปีเขาเป็นคนรับใช้ที่ตระกูลเสิ่นให้ติดตามพระสนมอวิ๋นมา และเป็นสามีของแม่นมเซียวหลินเทียน ดูซื่อสัตย์ภักดีเขากับแม่นมลัวออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม พลางเอ่ย“ท่านอ๋อง บ่าวได้เตรียมอาหารให้ท่านตามที่องครักษ์จ้าวสั่งไว้แล้วเพคะ พวกท่านพักผ่อนสักประเดี๋ยวก็เสวยพระกระยาหารกันได้เลยเพคะ!”หลิงอวี๋ไม่เคยมาที่ไร่นามาก่อน เคยได้ยินแม่นมลี่แนะนำว่าสามีภรรยาคู่นี้เป็นคนจริงใจ จึงยิ้มและพยักหน้าแสดงความขอบคุณระหว่างรออาหารเย็น เซียวหลินเทียนก็พาหลิงอวี๋กับหลิงเยวี่ยไปดูรอบ ๆ สักพักหนึ่ง แล้วแนะนำสถานการณ์ทั่วไปของไร่นาให้พวกเขาฟังไร่นาของเซียวหลินเทียนครอบครองพื้นที่หนึ่งในสามของหมู่บ้านตระกูลเฉิน มีชาวบ้านอยู่กว่าร้อยคนและผู้คุ้มกันอีกหลายสิบคนโดยปกติแล้วไร่นาไม่จำเป็นต้องมีผู้คุ้มกันจำนวนมากเช่นนี้ หลิงอวี๋เดาจากวิธีที่ผู้คุ้มกันเหล่านั้นเดินไปมาว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ผู้คุ้มกัน แต่มีแนวโน้มว่าจะเป็นองครักษ์เงาและผู้ใต้บังคับบัญชาของเซียวหลินเทียนมากกว่านางไม่ได้พูดอะไรออกไป เซียวหลินเทียนสามารถบอกความลับของเขากับตนได
หลิงอวี๋ไม่สนใจว่าทั้งสองคนคิดเยี่ยงไร นางคุกเข่าลงพลางเอ่ยกับหลิงเยวี่ยอย่างจริงจัง“แม่นมลี่และพี่ฉีเต๋อต้องดูแลเจ้าทุกวันก็ลำบากมากแล้ว หากเจ้าอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เจ้าก็ต้องรับผิดชอบดูแลมันเอง! เจ้าไม่สามารถเพิ่มภาระให้พวกเขาเพียงเพราะความชอบของเจ้าได้!”หลิงเยวี่ยกะพริบตาปริบ ๆ คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ท่านแม่ ตกลง ข้าจะดูแลกระต่ายน้อยเองขอรับ!”หลิงอวี๋พยักหน้าพลางเอ่ย “กระต่ายน้อยเป็นสมบัติของท่านอ๋อง หากเจ้าอยากได้กระต่ายน้อยเจ้าต้องขอท่านอ๋อง หากท่านอ๋องเห็นด้วย จึงจะสามารถเอามันไปได้!”หลิงเยวี่ยพยักหน้า พลางเอ่ยกับเซียวหลินเทียนอย่างมีความหวัง “ท่านอ๋อง… ท่านมอบกระต่ายน้อยให้กับเยวี่ยเยวี่ยตัวหนึ่งได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เซียวหลินเทียนตะลึงไปอีกครั้ง แค่กระต่ายน้อยที่ไม่ได้สำคัญอะไร หลิงอวี๋จริงจังถึงขั้นให้หลิงเยวี่ยขอเลยหรือ?แต่เมื่อเห็นท่าทางสุภาพของหลิงเยวี่ย เซียวหลินเทียนก็พูดไม่ออกก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นเด็กจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจมาไม่น้อย เวลาอยากได้สิ่งใดก็จะร้องไห้โวยวายขอสิ่งที่ตนต้องการแต่หลิงเยวี่ยไม่ได้ประพฤติตนเอาแต่ใจและก้าวร้าวเช่นนั้น หลิงอว
“ข้ารับปากกับเยวี่ยเยวี่ยไว้ว่าจะให้ของเล่นสนุก ๆ กับเขาชิ้นหนึ่ง ในไร่นาของท่านพอจะหาแม่เหล็กกับแผ่นเหล็กได้หรือไม่เพคะ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยโดยไม่ต้องคิด “ง่ายมาก ลู่หนาน เจ้าไปหามาให้พระชายาหน่อย!”ลู่หนานรีบส่งองครักษ์ไปหามาให้ทันทีหลิงอวี๋เอ่ยถามอีกครั้ง “เซียวหลินเทียน ผู้ใดเป็นคนทำล้อรถเข็นของท่านหรือ วันหลังท่านให้เขาทำให้หม่อมฉันสามล้อได้หรือไม่ เดี๋ยวหม่อมฉันจะบอกขนาดกับท่านเอง”“ไม่ใช่เรื่องยาก! เจ้าต้องการอะไรอีกหรือไม่?”แผนของหลิงอวี๋คือการสร้างรถสามล้อคันเล็ก ๆ ให้หลิงเยวี่ยแทนม้าตัวเล็ก แต่ไม่รู้ว่าทักษะของช่างเหล็กในฉินตะวันตกอยู่ในระดับไหนเมื่อได้ยินสิ่งนี้ นางก็รีบเอาภาพวาดที่ตนเองวาดอยู่ข้ามคืนให้เซียวหลินเทียนดู“ท่านดูนี่ มีช่างเหล็กคนใดที่ทำตรงส่วนที่จับกับส่วนที่นั่งเช่นนี้ได้บ้าง…”นางเข้าไปใกล้เซียวหลินเทียน พลางอธิบายการใช้การของแต่ละส่วนให้เซียวหลินเทียนฟังสุดท้ายหลิงอวี๋ก็เอ่ย “ท่านอย่าคิดว่านี่เป็นเพียงแค่ของเล่นนะ ของชิ้นนี้จะต้องทำตามสัดส่วนปกติเลย ตรงด้านหลังยังสามารถต่อรถลากไว้ขนของได้ด้วยเพคะ!”เซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อ
หลิงอวี๋ตั้งสติได้ทันทีจึงยืดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พลางเอ่ยอย่างเร่งรีบ “ไม่รู้ว่าเยวี่ยเยวี่ยตื่นแล้วหรือยัง หม่อมฉันขอตัวไปดูก่อน!”แล้วหลิงอวี๋ก็วิ่งออกไปอย่างลนลานเซียวหลินเทียนก็รู้สึกจิตใจว่างเปล่าขึ้นมาทันที เขาอ้าปากจะเรียกหลิงอวี๋ไว้ ปากของเขาขยับแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เปล่งเสียงเรียกออกไปกระทั่งเซียวหลินเทียนสงบอารมณ์ของตนเองแล้วเดินออกมา หลิงอวี๋ก็หายตัวไปแล้ว“ท่านอ๋อง... พระชายาบอกว่าจะพาพวกเยวี่ยเยวี่ยไปเก็บลูกท้อให้ท่านอดีตเสนาบดีที่ภูเขาด้านหลังพ่ะย่ะค่ะ!”“รัฐทายาทอันกับแม่ทัพเผยได้ยินว่าเรามาเที่ยวที่ไร่นาจึงมาหา กระหม่อมบอกไปว่าท่านอ๋องมีเรื่องต้องทำ ให้พวกเขาไปตกปลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานก้าวไปข้างหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาไม่กล้ามองเซียวหลินเทียน เมื่อครู่นับว่าตนทำลายบรรยากาศดี ๆ ของท่านอ๋องกับพระชายาหรือไม่นะ?แม้ว่าตอนนี้หลิงอวี๋จะเปลี่ยนไปมากแล้ว แต่พวกลู่หนานต่างก็รู้ว่าตัวตนของหลิงเยวี่ยนั้นเป็นเหมือนก้างปลาที่ติดอยู่ระหว่างเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋พวกเขาหวังว่าท่านอ๋องจะมีความสุข แต่ก็ไม่อยากให้ท่านอ๋องเลี้ยงลูกให้คนอื่นดังนั้นลู่หนานจึงไม่รู้ว่าจะต้องเผชิ
เผยอวี้ถอนหายใจ ส่ายหัวพลางเปลี่ยนหัวข้อ“กรมกลาโหมให้ข้าไปรักษาการณ์ทางตะวันตกเฉียงใต้ จะออกเดินทางในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว”“ข้าไปครั้งนี้จะไม่ได้กลับมาอีกสองสามปี ดังนั้นข้าจึงไม่มีแผนที่จะแต่งงานหรอก!”อันเจ๋อฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยอย่างกังวล “เจ้าแก่ถึงเพียงนี้แล้วยังมิได้แต่งงานอีกรึ? แม่ของเจ้าไม่เร่งแย่หรือไร!”“เจ้ารีบหาใครสักคนแต่งงานเถิด! บางทีเมื่อเจ้ากลับมา ลูก ๆ อาจจะโตแล้วก็ได้!”เผยอวี้กลอกตาใส่อันเจ๋อพลางเอ่ยอย่างหนักใจ“ช่างเถอะ ข้าไม่ทำร้ายฝ่ายหญิงจะดีกว่า! ข้าแต่งงานแล้วไปประจำการทางตะวันตกเฉียงใต้ ทิ้งให้ภรรยาคลอดและเลี้ยงลูกที่บ้านด้วยตนเอง เช่นนั้นจะต่างอะไรกับการเป็นหม้ายเล่า!”เซียวหลินเทียนนั่งข้าง ๆ มองเพื่อนสนิทสองคนคุยกันเรื่องแต่งงานแล้วก็ยิ้มเล็ก ๆตอนเขาอายุสิบห้าหรือสิบหก เขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ อยากแค่เข้าร่วมกองทัพและสร้างความสำเร็จเท่านั้น!กระทั่งโตขึ้น ถึงได้พบว่าหลาย ๆ อย่างไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดในตอนแรกเลย!เขาอิจฉามากที่อันเจ๋อและเผยอวี้ไม่ต้องเกิดมาในราชวงศ์ ไม่ต้องเผชิญกับแผนการกลอุบายมากมาย!พวกเขาทั้งสามพูดคุยกันอยู่ จากนั้นก
ขณะที่ทั้งสามกำลังออกไปดูว่าหลิงอวี๋จะช่วยชีวิตคนอย่างไร ก็เห็นเถาจื่ออุ้มเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ วิ่งเข้ามามีคู่สามีภรรยาและเด็กชายร่างผอมบางคนหนึ่งตามหลังมาด้วยหลิงอวี๋วิ่งไปข้างหน้า ผลักโต๊ะตัวเล็กที่อยู่ตรงหลุมไปไว้ข้าง ๆ แล้วให้เถาจื่อวางเด็กหญิงลงบนหลุมเซียวหลินเทียนเห็นว่าใบหน้าของเด็กหญิงคนนั้นสกปรก ผมเผ้าตัดสั้นเหลือเพียงไม่กี่นิ้ว หากหลิงซวนไม่ได้บอกก่อนว่าเป็นเด็กผู้หญิง เขาคงคิดว่าเป็นเด็กผู้ชาย“เถาจื่อ ไปเอาน้ำร้อนมา!”หลิงอวี๋สั่งพลางตรวจชีพจรของเด็ก จากนั้นหลิงซวนก็ยื่นเครื่องวัดไข้ให้หลิงอวี๋อย่างให้ความร่วมมืออันเจ๋อหันไปเห็นรูปร่างหน้าตาของเด็กหญิงก็ตกตะลึงทันทีเด็กคนนี้อายุพอ ๆ กับหลิงเยวี่ย ใบหน้าซีดเซียวและผอมบาง เบ้าตาก็โบ๋ลึกลงไปด้วยเสื้อผ้าที่นางสวมน่าจะเป็นของผู้ใหญ่ เป็นเสื้อตัวยาวที่มีรอยปะอยู่มากมายจนมองรูปแบบเดิมของเสื้อไม่ออกแล้วแขนและขาเล็ก ๆ ของเด็กหญิงที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมา ราวกับกิ่งก้านของต้นไม้ที่บอบบาง ซึ่งดูเหมือนจะหักได้ทุกเมื่อเถาจื่อไปเอาน้ำมาแล้วร่วมมือกับหลิงซวนเช็ดหน้าของเด็กหญิงกระทั่งตอนที่ถอดรองเท้าฟางของเด็กหญิงออก เซียวหล
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต