แชร์

บทที่ 629

ผู้เขียน: กานเฟย
“ท่านอ๋อง พระชายามาแล้วหรือ!”

ลัวซินผู้ดูแลไร่นาเป็นผู้ชายอายุประมาณห้าสิบปี

เขาเป็นคนรับใช้ที่ตระกูลเสิ่นให้ติดตามพระสนมอวิ๋นมา และเป็นสามีของแม่นมเซียวหลินเทียน ดูซื่อสัตย์ภักดี

เขากับแม่นมลัวออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม พลางเอ่ย

“ท่านอ๋อง บ่าวได้เตรียมอาหารให้ท่านตามที่องครักษ์จ้าวสั่งไว้แล้วเพคะ พวกท่านพักผ่อนสักประเดี๋ยวก็เสวยพระกระยาหารกันได้เลยเพคะ!”

หลิงอวี๋ไม่เคยมาที่ไร่นามาก่อน เคยได้ยินแม่นมลี่แนะนำว่าสามีภรรยาคู่นี้เป็นคนจริงใจ จึงยิ้มและพยักหน้าแสดงความขอบคุณ

ระหว่างรออาหารเย็น เซียวหลินเทียนก็พาหลิงอวี๋กับหลิงเยวี่ยไปดูรอบ ๆ สักพักหนึ่ง แล้วแนะนำสถานการณ์ทั่วไปของไร่นาให้พวกเขาฟัง

ไร่นาของเซียวหลินเทียนครอบครองพื้นที่หนึ่งในสามของหมู่บ้านตระกูลเฉิน มีชาวบ้านอยู่กว่าร้อยคนและผู้คุ้มกันอีกหลายสิบคน

โดยปกติแล้วไร่นาไม่จำเป็นต้องมีผู้คุ้มกันจำนวนมากเช่นนี้ หลิงอวี๋เดาจากวิธีที่ผู้คุ้มกันเหล่านั้นเดินไปมาว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ผู้คุ้มกัน แต่มีแนวโน้มว่าจะเป็นองครักษ์เงาและผู้ใต้บังคับบัญชาของเซียวหลินเทียนมากกว่า

นางไม่ได้พูดอะไรออกไป เซียวหลินเทียนสามารถบอกความลับของเขากับตนได
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 630

    หลิงอวี๋ไม่สนใจว่าทั้งสองคนคิดเยี่ยงไร นางคุกเข่าลงพลางเอ่ยกับหลิงเยวี่ยอย่างจริงจัง“แม่นมลี่และพี่ฉีเต๋อต้องดูแลเจ้าทุกวันก็ลำบากมากแล้ว หากเจ้าอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เจ้าก็ต้องรับผิดชอบดูแลมันเอง! เจ้าไม่สามารถเพิ่มภาระให้พวกเขาเพียงเพราะความชอบของเจ้าได้!”หลิงเยวี่ยกะพริบตาปริบ ๆ คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ท่านแม่ ตกลง ข้าจะดูแลกระต่ายน้อยเองขอรับ!”หลิงอวี๋พยักหน้าพลางเอ่ย “กระต่ายน้อยเป็นสมบัติของท่านอ๋อง หากเจ้าอยากได้กระต่ายน้อยเจ้าต้องขอท่านอ๋อง หากท่านอ๋องเห็นด้วย จึงจะสามารถเอามันไปได้!”หลิงเยวี่ยพยักหน้า พลางเอ่ยกับเซียวหลินเทียนอย่างมีความหวัง “ท่านอ๋อง… ท่านมอบกระต่ายน้อยให้กับเยวี่ยเยวี่ยตัวหนึ่งได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เซียวหลินเทียนตะลึงไปอีกครั้ง แค่กระต่ายน้อยที่ไม่ได้สำคัญอะไร หลิงอวี๋จริงจังถึงขั้นให้หลิงเยวี่ยขอเลยหรือ?แต่เมื่อเห็นท่าทางสุภาพของหลิงเยวี่ย เซียวหลินเทียนก็พูดไม่ออกก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นเด็กจากครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจมาไม่น้อย เวลาอยากได้สิ่งใดก็จะร้องไห้โวยวายขอสิ่งที่ตนต้องการแต่หลิงเยวี่ยไม่ได้ประพฤติตนเอาแต่ใจและก้าวร้าวเช่นนั้น หลิงอว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 631

    “ข้ารับปากกับเยวี่ยเยวี่ยไว้ว่าจะให้ของเล่นสนุก ๆ กับเขาชิ้นหนึ่ง ในไร่นาของท่านพอจะหาแม่เหล็กกับแผ่นเหล็กได้หรือไม่เพคะ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยโดยไม่ต้องคิด “ง่ายมาก ลู่หนาน เจ้าไปหามาให้พระชายาหน่อย!”ลู่หนานรีบส่งองครักษ์ไปหามาให้ทันทีหลิงอวี๋เอ่ยถามอีกครั้ง “เซียวหลินเทียน ผู้ใดเป็นคนทำล้อรถเข็นของท่านหรือ วันหลังท่านให้เขาทำให้หม่อมฉันสามล้อได้หรือไม่ เดี๋ยวหม่อมฉันจะบอกขนาดกับท่านเอง”“ไม่ใช่เรื่องยาก! เจ้าต้องการอะไรอีกหรือไม่?”แผนของหลิงอวี๋คือการสร้างรถสามล้อคันเล็ก ๆ ให้หลิงเยวี่ยแทนม้าตัวเล็ก แต่ไม่รู้ว่าทักษะของช่างเหล็กในฉินตะวันตกอยู่ในระดับไหนเมื่อได้ยินสิ่งนี้ นางก็รีบเอาภาพวาดที่ตนเองวาดอยู่ข้ามคืนให้เซียวหลินเทียนดู“ท่านดูนี่ มีช่างเหล็กคนใดที่ทำตรงส่วนที่จับกับส่วนที่นั่งเช่นนี้ได้บ้าง…”นางเข้าไปใกล้เซียวหลินเทียน พลางอธิบายการใช้การของแต่ละส่วนให้เซียวหลินเทียนฟังสุดท้ายหลิงอวี๋ก็เอ่ย “ท่านอย่าคิดว่านี่เป็นเพียงแค่ของเล่นนะ ของชิ้นนี้จะต้องทำตามสัดส่วนปกติเลย ตรงด้านหลังยังสามารถต่อรถลากไว้ขนของได้ด้วยเพคะ!”เซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 632

    หลิงอวี๋ตั้งสติได้ทันทีจึงยืดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว พลางเอ่ยอย่างเร่งรีบ “ไม่รู้ว่าเยวี่ยเยวี่ยตื่นแล้วหรือยัง หม่อมฉันขอตัวไปดูก่อน!”แล้วหลิงอวี๋ก็วิ่งออกไปอย่างลนลานเซียวหลินเทียนก็รู้สึกจิตใจว่างเปล่าขึ้นมาทันที เขาอ้าปากจะเรียกหลิงอวี๋ไว้ ปากของเขาขยับแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เปล่งเสียงเรียกออกไปกระทั่งเซียวหลินเทียนสงบอารมณ์ของตนเองแล้วเดินออกมา หลิงอวี๋ก็หายตัวไปแล้ว“ท่านอ๋อง... พระชายาบอกว่าจะพาพวกเยวี่ยเยวี่ยไปเก็บลูกท้อให้ท่านอดีตเสนาบดีที่ภูเขาด้านหลังพ่ะย่ะค่ะ!”“รัฐทายาทอันกับแม่ทัพเผยได้ยินว่าเรามาเที่ยวที่ไร่นาจึงมาหา กระหม่อมบอกไปว่าท่านอ๋องมีเรื่องต้องทำ ให้พวกเขาไปตกปลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานก้าวไปข้างหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาไม่กล้ามองเซียวหลินเทียน เมื่อครู่นับว่าตนทำลายบรรยากาศดี ๆ ของท่านอ๋องกับพระชายาหรือไม่นะ?แม้ว่าตอนนี้หลิงอวี๋จะเปลี่ยนไปมากแล้ว แต่พวกลู่หนานต่างก็รู้ว่าตัวตนของหลิงเยวี่ยนั้นเป็นเหมือนก้างปลาที่ติดอยู่ระหว่างเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋พวกเขาหวังว่าท่านอ๋องจะมีความสุข แต่ก็ไม่อยากให้ท่านอ๋องเลี้ยงลูกให้คนอื่นดังนั้นลู่หนานจึงไม่รู้ว่าจะต้องเผชิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 633

    เผยอวี้ถอนหายใจ ส่ายหัวพลางเปลี่ยนหัวข้อ“กรมกลาโหมให้ข้าไปรักษาการณ์ทางตะวันตกเฉียงใต้ จะออกเดินทางในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว”“ข้าไปครั้งนี้จะไม่ได้กลับมาอีกสองสามปี ดังนั้นข้าจึงไม่มีแผนที่จะแต่งงานหรอก!”อันเจ๋อฟังแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยอย่างกังวล “เจ้าแก่ถึงเพียงนี้แล้วยังมิได้แต่งงานอีกรึ? แม่ของเจ้าไม่เร่งแย่หรือไร!”“เจ้ารีบหาใครสักคนแต่งงานเถิด! บางทีเมื่อเจ้ากลับมา ลูก ๆ อาจจะโตแล้วก็ได้!”เผยอวี้กลอกตาใส่อันเจ๋อพลางเอ่ยอย่างหนักใจ“ช่างเถอะ ข้าไม่ทำร้ายฝ่ายหญิงจะดีกว่า! ข้าแต่งงานแล้วไปประจำการทางตะวันตกเฉียงใต้ ทิ้งให้ภรรยาคลอดและเลี้ยงลูกที่บ้านด้วยตนเอง เช่นนั้นจะต่างอะไรกับการเป็นหม้ายเล่า!”เซียวหลินเทียนนั่งข้าง ๆ มองเพื่อนสนิทสองคนคุยกันเรื่องแต่งงานแล้วก็ยิ้มเล็ก ๆตอนเขาอายุสิบห้าหรือสิบหก เขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ อยากแค่เข้าร่วมกองทัพและสร้างความสำเร็จเท่านั้น!กระทั่งโตขึ้น ถึงได้พบว่าหลาย ๆ อย่างไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดในตอนแรกเลย!เขาอิจฉามากที่อันเจ๋อและเผยอวี้ไม่ต้องเกิดมาในราชวงศ์ ไม่ต้องเผชิญกับแผนการกลอุบายมากมาย!พวกเขาทั้งสามพูดคุยกันอยู่ จากนั้นก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 634

    ขณะที่ทั้งสามกำลังออกไปดูว่าหลิงอวี๋จะช่วยชีวิตคนอย่างไร ก็เห็นเถาจื่ออุ้มเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ วิ่งเข้ามามีคู่สามีภรรยาและเด็กชายร่างผอมบางคนหนึ่งตามหลังมาด้วยหลิงอวี๋วิ่งไปข้างหน้า ผลักโต๊ะตัวเล็กที่อยู่ตรงหลุมไปไว้ข้าง ๆ แล้วให้เถาจื่อวางเด็กหญิงลงบนหลุมเซียวหลินเทียนเห็นว่าใบหน้าของเด็กหญิงคนนั้นสกปรก ผมเผ้าตัดสั้นเหลือเพียงไม่กี่นิ้ว หากหลิงซวนไม่ได้บอกก่อนว่าเป็นเด็กผู้หญิง เขาคงคิดว่าเป็นเด็กผู้ชาย“เถาจื่อ ไปเอาน้ำร้อนมา!”หลิงอวี๋สั่งพลางตรวจชีพจรของเด็ก จากนั้นหลิงซวนก็ยื่นเครื่องวัดไข้ให้หลิงอวี๋อย่างให้ความร่วมมืออันเจ๋อหันไปเห็นรูปร่างหน้าตาของเด็กหญิงก็ตกตะลึงทันทีเด็กคนนี้อายุพอ ๆ กับหลิงเยวี่ย ใบหน้าซีดเซียวและผอมบาง เบ้าตาก็โบ๋ลึกลงไปด้วยเสื้อผ้าที่นางสวมน่าจะเป็นของผู้ใหญ่ เป็นเสื้อตัวยาวที่มีรอยปะอยู่มากมายจนมองรูปแบบเดิมของเสื้อไม่ออกแล้วแขนและขาเล็ก ๆ ของเด็กหญิงที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมา ราวกับกิ่งก้านของต้นไม้ที่บอบบาง ซึ่งดูเหมือนจะหักได้ทุกเมื่อเถาจื่อไปเอาน้ำมาแล้วร่วมมือกับหลิงซวนเช็ดหน้าของเด็กหญิงกระทั่งตอนที่ถอดรองเท้าฟางของเด็กหญิงออก เซียวหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 635

    เสี่ยวฮวาสูดหายใจเข้าแล้วมองหลิงอวี๋อย่างอ่อนแรง พลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา“พระชายา… ข้าไม่เจ็บ ข้าทนได้... ข้าไม่ต้องกินยาด้วยเจ้าค่ะ! ท่านไม่ต้องรักษาข้าหรอก!”“น้องชายของข้ายังเด็ก เงินของท่านแม่ต้องเก็บไว้ซื้ออาหารให้เขา… และต้องเก็บไว้เป็นค่ารักษาท่านพ่อด้วย! ข้าทนได้เจ้าค่ะ!”หลิงซวนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินสิ่งนี้ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปแล้วร้องไห้ออกมานี่เด็กอายุเท่าไหร่เอง!ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ แต่ยังคิดถึงน้องชายกับพ่อของตน ไม่ยอมให้แม่ใช้เงินรักษาตนอีก!รู้ความมากเสียจนทำให้คนที่เห็นต้องปวดใจ!เมื่อแม่เผิงได้ยินคำพูดของบุตรสาวตน ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาร้องไห้ออกมาอีกพลางเอ่ย“ไม่ ๆ… อาการป่วยของพ่อนางยังเลื่อนออกไปได้อีกเจ้าค่ะ… เสี่ยวฮวายังเด็กมากเช่นนี้ อยู่กับพวกเราไม่เคยมีชีวิตที่ดีเลย… นางยังตายมิได้นะเจ้าคะ!”“ข้ายอมแลกชีวิตของข้าเพื่อให้นางมีชีวิตอยู่… พระชายา โปรดช่วยนางให้ได้เถิดหนาเจ้าคะ…”พ่อเผิงทิ้งไม้ค้ำยันแล้วคุกเข่าลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบหน้าพลางเอ่ย“เสี่ยวฮวา พ่อขอโทษ… หากมิใช่เพราะพ่อไร้ความสามารถ ก็ไม่มีทางให้เจ้าออกไปขอทานตั้งแต่อายุยังน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 636

    ลุงเผิงเป็นผู้ใหญ่ แต่พูดแล้วน้ำตาก็พลางไหลลงมา“ท่านอ๋องอี้ ท่านดูครอบครัวใหญ่ของเราเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากหางานดี ๆ มิได้แล้วจะเลี้ยงดูครอบครัวพวกเขาได้เยี่ยงไรเล่า!”“หากทั้งครอบครัวแข็งแรงดีจะทนลำบากสักหน่อยก็หาได้เป็นไรไม่ แต่พ่อกระหม่อมทนมิไหวล้มป่วย เราใช้เงินรักษาเขาไปหมดแล้ว!”“เผิงเอ้อร์ก็อยากไปช่วยคนขุดลอกคลอง แต่ไม่คาดคิดว่าโชคร้ายจะมาไม่หยุดหย่อน เขาไปได้ไม่นานก็ถูกหินหล่นลงมาทับจนได้รับบาดเจ็บที่ขา… นี่มิใช่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรือ?”เมื่อเห็นสิ่งนี้แม่เผิงก็ช่วยพูดด้วย “ท่านอ๋องอี้ พวกผู้หญิงกับลุงป้าของหม่อมฉันรวมถึงหลานสาวคนโตทำงานเย็บปักถักร้อยได้ ก็อยากจะเย็บผ้า ปักผ้าและซักผ้าเพื่อเสริมรายได้ของครอบครัวเพคะ!”“แต่เราไม่มีที่อยู่อาศัยที่แน่นอน ผู้ใดจะไว้ใจให้เราดูแลเสื้อผ้าเล่าเพคะ!”ลูกชายของลุงเผิงก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธเช่นกัน “แม้ว่าเราจะยากจน แต่เราไม่เคยทำเรื่องผิด ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”“แค่เพียงเพราะเรายากจน พอเราเข้าใกล้บ้านคนรวยพวกนั้น เขากลับทำเหมือนเราเป็นขอทานแล้วกล่าวหาว่าเราขโมย! ถึงกับปล่อยสุนัขมากัดเราด้วยซ้ำ...”อันเจ๋อหน้าแดง นึกถึงอคติของเขาที่มีต่อผู้ลี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 637

    ตอนที่สอบปากคำชิวเหวินซวงก่อนหน้านี้ เซียวหลินเทียนรู้ว่าฉีตะวันออกมีการติดโรคระบาดกันในวงกว้างและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก!เพราะว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไม่มีเงิน เวลาป่วยจึงไปหาหมอไม่ไหว อาการป่วยเล็กน้อยทั่วไปก็ทนกันได้แต่หากป่วยหนักเช่นเสี่ยวฮวา ก็มีทางเดียวเท่านั้นคือต้องตาย!หากผู้ลี้ภัยเหล่านี้นำโรคระบาดไปยังเมืองหลวงหรือกระจายไปยังสถานที่อื่น ก็ถือเป็นหายนะครั้งใหญ่เลยทีเดียว!หลังจากที่หลิงอวี๋ระบายเลือดคั่งของเสี่ยวฮวาออกไปแล้วก็ฉีดยาลดไข้ให้นางเซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนจัดที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้ครอบครัวของลุงเผิงเมื่อพวกเขากลับไปในห้อง อันเจ๋อก็ควบคุมตนเองไม่ได้อีกต่อไป พลางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ“เจ้ากรมพระคลังจัดการเยี่ยงไรกัน! เหตุใดผู้ลี้ภัยถึงหลั่งไหลกันไปยังเมืองหลวงมากเช่นนี้ เขาไม่คิดหาวิธีจัดการเลยหรือไร!”เผยอวี้กลอกตาใส่อันเจ๋อพลางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“เจ้ากรมพระคลังคือเผยหยวนเป็นลุงรองของข้าเอง อันเจ๋อ หากเจ้าไม่เข้าใจสถานการณ์ก็อย่ามากล่าวหาลุงรองของข้าส่งเดชสิ!”เมื่อถูกเผยอวี้เตือน อันเจ๋อถึงได้นึกขึ้นได้ว่าเจ้ากรมพระคลังเป็นลุงรองของเผยอวี้จริง ๆ จึงหน้าแ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1798

    หลิงอวี๋อยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดนี้ ใจก็กระตุกไปเล็กน้อย จากนั้นยื่นมือไปลูบหน้าของตนโดยมิรู้ตัวคนที่ป้าวเฉิงช่วยตระกูลหวงฝู่ตามหาก็คือตน!แล้วคนที่เขาบอกว่าถูกสังหารไปแล้วนั่นคือใครกัน?หรือว่าจะเป็นหัวหน้าเสิ่นกับเสี่ยวเจียง?หลิงอวี๋เหงื่อตก หากเป็นพวกเขาสองคนที่ถูกสังหารไปจริง ๆ แล้วคนที่สังหารพวกเขาคือใคร?หากมือสังหารพบว่าหัวหน้าเสิ่นมิได้สังหารตน จะกำลังตามหาตนอยู่หรือไม่?เถ้าแก่เจียงที่อยู่ด้านหน้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของป้าวเฉิงกับตระกูลหวงฝู่ดี เมื่อได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยออกไป “คนตายไปแล้วก็ส่งศพไปให้เจ้าวังก็จบแล้ว เหตุใดพี่ใหญ่ป้าวต้องไปตรวจสอบด้วยตนเองเล่า!”“เจ้ามิเข้าใจ คนที่เจ้าวังต้องการคือสตรีผู้หนึ่ง สตรีผู้นั้นมีความสำคัญต่อเจ้าวังมาก เจ้าวังบอกมาว่าขอเพียงข้าตามหานางพบและยังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะให้สมบัติก้อนโตกับข้า!”ป้าวเฉิงเอ่ยอย่างเป็นทุกข์ “สิ่งที่ข้ากังวลในตอนนี้ก็คือ คนที่ถูกสังหารจะเป็นสตรีผู้นั้น เช่นนั้นก็มิสามารถไปอธิบายกับเจ้าวังได้แล้ว!”“จริงสิ บอกเรื่องของเจ้ามาก่อนเถิด เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”เถ้าแก่เจียงจึงหันไปเรียก “น้องหญิง มานี่!”

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1797

    มิต้องให้เสี่ยวซานเอ๋อร์ออกไปซื้อพวกของใช้ประจำวัน เพราะเมื่อฮูหยินเจียงรู้ว่าเถ้าแก่เจียงให้ผู้มีพระคุณมาอาศัยอยู่ที่เรือนเล็กที่ว่างอยู่ของตระกูล นางก็รีบให้แม่นมข้างกายเอาผ้าห่มและเหล่าของใช้ประจำวันบางส่วนไปให้ด้วยตนเอง หลิงอวี๋เลือกให้ห้องทางทิศตะวันออกเป็นห้องนอน หลิงซินเองก็มีห้องนอนของตนเช่นกันหลิงอวี๋อยู่คนเดียว หลิงซินแค่ต้องรับใช้งานก็พอแล้วหลิงซินรู้สึกขอบคุณหลิงอวี๋ จึงเช็ดหน้าต่างห้องนอนทั้งสองห้องอย่างขยันขันแข็งจนสะอาดดึกมากแล้วนางก็ยังคงทำงานยุ่งอยู่“หลิงซิน ไปพักผ่อนเถิด แล้วก็นำยาไปทาหน้าเจ้าเสีย!”หลิงอวี๋นำยาทาบาดแผลที่เสี่ยวซานเอ๋อร์ออกไปซื้อมาส่งให้หลิงซินพลางเอ่ย “เจ้าทาหน้าแล้วพักผ่อน วันพรุ่งยังต้องไปพบนายใหญ่ป้าวกับข้าอีก!”“หลิงซิน ข้าเพิ่งมาที่นี่ มิได้เข้าใจและคุ้นเคยกับคนที่นี่นัก หากมีอะไรที่ข้าทำมิถูกต้องเจ้าก็อย่าลืมเตือนข้าด้วย!”“เจ้าค่ะคุณหนู!”หลิงซินรับยาทาบาดแผลมาอย่างขอบคุณ เดิมทีอยากจะรับใช้จนหลิงอวี๋หลับก่อนค่อยไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋ไล่ออกมาเสียก่อน“ข้ามิได้อ่อนแอบอบบางถึงเพียงนั้น เจ้ามิต้องมารับใช้ข้า ประเดี๋ยวเจ้าค่อย ๆ คุ้นเคย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1796

    ทันทีที่เถ้าแก่เจียงได้ยินก็มิสนใจแล้วเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “คุณหนูเจียงคงจะมากับครอบครัวใช่หรือไม่? แล้ววางแผนว่าจะอยู่ที่นี่กี่วันหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ย “ข้ามากับน้องสาวข้า แต่ผลก็คือแยกจากกันไปแล้ว! ข้าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะตามหาน้องสาวข้าเจอ!”วันนี้เสี่ยวซานเอ๋อร์พบกับหลิงอวี๋ได้เงินมาหลายสิบตำลึง หากทำงานต่อไปก็จะมีตำแหน่งแล้ว เขาจึงรีบช่วย“พี่ใหญ่เจียง เดิมทีคุณหนูเจียงคิดว่าจะขายกำไลหยกแล้วไปหานายใหญ่ป้าวให้ช่วยตามหาน้องสาว ท่านกับนายใหญ่ป้าวมีมิตรไมตรีต่อกัน ท่านช่วยคุณหนูเจียงพูดหน่อยเถิด!”“เรื่องนี้จะไปยากอะไร วันพรุ่งข้าจะพาเจ้าไปพบกับพี่ใหญ่ป้าว!”เถ้าแก่เจียงเอ่ยขึ้นมาอีก “ข้ายังมีเรือนว่างอยู่ หากคุณหนูมิรังเกียจก็อย่าไปพักที่โรงเตี๊ยมเลย ย้ายมาอยู่ในเรือนข้าเถิด!”เดิมทีหลิงอวี๋คิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อคิดว่ามิรู้ว่าเมื่อใดจึงจะหาเสี่ยวอวี้พบ ตนก็มีเงินอยู่มิมาก จะให้พักโรงเตี๊ยมตลอดก็คงมิใช่เรื่องนางจึงเอ่ย “เรือนนั้นของเถ้าแก่เจียงให้ข้าเช่าอยู่ชั่วคราวเถิด ข้าจะจ่ายค่าเช่า!”เถ้าแก่เจียงหน้านิ่งไป แล้วเอ่ยอย่างมิพอใจ “คุณหนูเจียงพูดอะไรกัน เจ้าช่วยลู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1795

    ทั้งสามคนเข้าไปนั่ง จากนั้นเถ้าแก่เจียงก็พูดออกมาตามตรง “มิทราบว่าผู้มีพระคุณมาหาเจียงโหม่วด้วยเรื่องใดหรือ? ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตหย่งเอ๋อร์ไว้ มิว่าจะเป็นเรื่องอะไรเจียงโหม่วก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่!”หลิงอวี๋นำกำไลหยกออกมา แล้วยิ้มจาง ๆ “ข้าขาดเงินค่าเดินทาง จึงมาขายเครื่องประดับ เถ้าแก่เจียงลองดูว่าจะได้เงินสักเท่าไร หากเหมาะสมข้าก็จะขายให้เถ้าแก่เจียง!”เถ้าแก่เจียงรับกำไลหยกมาดู กำไลหยกนี้คุณภาพพอได้ ตามปกติแล้วเขาให้ราคาหนึ่งพันตำลึงก็ถือว่าสูงมากแล้ว!แต่นี่เป็นกำไลหยกของผู้มีพระคุณ เถ้าแก่เจียงหรือจะกล้ากดราคา“สามพันตำลึง!”เถ้าแก่เจียงตอบออกไปหลิงอวี๋ตะลึง หัวหน้าเสิ่นบอกว่ากำไลหยกนี้ได้ราคาเพียงสองพันตำลึงเถ้าแก่เจียงให้ตนสามพัน เห็นได้ชัดว่าเป็นความเห็นอกเห็นใจหลิงอวี๋หรือจะเอาเปรียบเล็ก ๆ เช่นนี้ เมื่อครู่ที่ช่วยเหลือเจียงหย่งก็มิได้ใช้เครื่องยาสมุนไพรใด ๆ เป็นการช่วยเหลือง่าย ๆ เท่านั้น“สองพัน เถ้าแก่เจียงเอาเงินมาเถิด! กำไลหยกนี้เป็นของท่านแล้ว!”เสี่ยวซานเอ๋อร์อยู่ด้านข้างก็ขยิบตาให้หลิงอวี๋มิหยุด คุณหนูใหญ่ผู้นี้โง่หรือไม่ มีแต่คนต่อรองราคาให้มากขึ้น มีที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1794

    เถ้าแก่เจียงเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้นก็กำลังคิดจะด่า หลิงอวี๋ก็อุ้มเจียงหย่งมาและหันหลังให้ตนแล้วสองมือของนางกอดรัดอยู่ตรงช่วงท้องของเจียงหย่ง มือหนึ่งกำหมัดแล้ววางด้านหัวแม่มือของกำปั้นนั้นอยู่ที่ตรงอกและตรงท้องของเจียงหย่งส่วนมืออีกข้างของหลิงอวี๋ก็จับมือที่กำหมัดไว้แล้วรีบกระทุ้งที่ช่วงท้องของเจียงหย่งอย่างแรงการกระทำนี้ทำเอาเถ้าแก่เจียงโกรธจนกำหมัดไปทุบที่หัวของหลิงอวี๋“ให้ตายสิ นี่เป็นการช่วยเหลือหรือทำร้ายกันแน่ วางลูกชายข้าลงเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”หลิงอวี๋อุ้มเจียงหย่งหลบมา พลางตะคอกใส่เถ้าแก่เจียง “ข้ากำลังช่วยลูกท่านอยู่ ท่านมิเห็นหรือว่าเขากำลังจะตายแล้ว?”“ท่านอย่ามารบกวนข้า หากข้ารักษาเขาตาย ข้าจะชดใช้เขาด้วยชีวิต!”แม้ว่าฮูหยินเจียงจะดูมิเข้าใจวิธีการช่วยเหลือของหลิงอวี๋ แต่ลูกชายใกล้จะตายแล้วจริง ๆ ขอเพียงมีความหวังเพียงเล็กน้อยนางก็จะไม่มีทางยอมแพ้นางดึงเถ้าแก่เจียงไว้หลิงอวี๋ก็ใช้วิธีเดิมกระทุ้งเข้าที่ช่วงท้องของเจียงหย่งต่อไปหลังจากทำเช่นนี้ไปสามครั้ง เจียงหย่งก็ไอแค่ก ๆ แล้วถั่วลิสงเม็ดหนึ่งที่มีเลือดติดอยู่ก็หลุดออกมาจากปากเขาและกระเด็นลงส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1793

    เสี่ยวซานเอ๋อร์จึงพาหลิงอวี๋ไปขายกำไลหยก​ ระหว่างทางเสี่ยวซานเอ๋อร์ก็ยังเล่าเรื่องอื่น ๆ ในเมื่อนี้ให้หลิงอวี๋ฟังอีกหลิงอวี๋เอ่ยถามไปอย่างอ้อม ๆ “เสี่ยวซานเอ๋อร์ ข้ามากับน้องสาว แต่น้องสาวข้าหายตัวไปแล้ว ได้ยินว่าป้าวเฉิงเจ้าถิ่นที่นี่เก่งเรื่องตามหาคน หากข้าไปขอให้เขาช่วย จะต้องใช้เงินเท่าใดหรือ?”เสี่ยวซานเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “คุณหนูใหญ่ แม้ว่านายใหญ่ป้าวจะเก่งเรื่องตามหาคน แต่ก็มิใช่ว่าจะช่วยใครง่าย ๆ! หากจะไปขอร้องเขาแล้วมีเงินมิถึงหลักพันเขาก็มิสนใจหรอก!”“สองพันพอหรือไม่?”หลิงอวี๋นึกถึงที่หัวหน้าเสิ่นบอกว่ากำไลหยกนี้สามารถขายได้สองพันตำลึงจึงเอ่ยถาม“แล้วแต่คน!”เสี่ยวซานเอ๋อร์คิดว่าหลิงอวี๋ใจกว้างกับตนมากจึงเอ่ยขึ้นมา “ข้ารู้จักกับผู้ดูแลหมู่บ้านตระกูลป้าว ข้าจะไปคุยกับเขาดู เขาน่าจะช่วยได้!”“เช่นนั้นขอร้องเจ้าด้วย! รอให้ขายกำไลหยก จากนั้นเจ้าก็ค่อยพาข้าไปหาเขา ข้าจะมิให้เจ้าขาดทุนอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋ใจชื้นขึ้นมา เงินทองเป็นของนอกกาย ขอเพียงตามหาเสี่ยวอวี้เจอ และพวกนางได้ใช้ชีวิตด้วยกัน เรื่องความจนก็มิกลัวหรอกกระทั่งมาถึงที่บ้านเถ้าแก่เจียงที่รับซื้อกำไลหยก ทั้งสองยังม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1792

    “ไปหาสมบัติที่ภูเขาหิมะหรือ? อยากตายนักหรือไรกัน! ภูเขาหิมะนั่นกินคนมิเหลือแม้กระดูก!”แขกคนหนึ่งส่ายหน้าแล้วเอ่ย“คนเหล่านี้แตกต่างไป พวกเขาแต่ละคนมีวรยุทธ์แก่กล้า อีกทั้งยังพาคนเข้าไปตั้งมากมาย มิน่าจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้วกระมัง!”“พวกเราเองก็ตามไปหากำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้างดีหรือไม่!”แขกอีกคนหนึ่งยิ้มออกมาแล้วเอ่ย “เจ้าน่ะหรือ อย่าไปเลย ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่กำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย จะกลับกลายเป็นว่าเอาชีวิตไปทิ้งอยู่ข้างในนั้นน่ะสิ!”“เสี่ยวซานเอ๋อร์ หากเจ้าอยากจะร่ำรวยจริง ๆ พี่ชี้ช่องทางให้ดีหรือไม่?”หลิงอวี๋เหลือบมองเสี่ยวซานเอ๋อร์ผู้นั้น เขาเป็นวัยรุ่นอายุประมาณยี่สิบ ดูผอมและอ่อนแอมาก การแต่งกายก็ดูเรียบง่ายธรรมดาเครื่องหน้างดงาม ทว่าดวงตาค่อนข้างแปลก ดูเหมือนมองคนแล้วมิสามารถมองให้ชัดเจนได้สงสัยจะตาเหล่กระมัง!เสี่ยวซานเอ๋อร์ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “พี่หาน ช่องทางอะไรหรือ? รีบบอกมาเร็วเข้า หากข้าร่ำรวยแล้วจะไม่มีทางลืมเจ้าแน่นอน!”“ไปเป็นผู้ค้ามนุษย์อย่างหม่าเฉียงอย่างไรเล่า! เจ้ามิเห็นหรือว่าทาสหญิงหนึ่งเกวียนของเขาขายไปได้สี่แสนหกหมื่น? การค้าขายนี้ง่ายดายกว่าที่เจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1791

    หัวหน้าเสิ่นถูกปู้ติงจ้องมองอยู่ด้วยสายตาดุร้ายก็ไม่มีทางเลือก จึงต้องเขียนหนังสือยอมรับผิด เขาขอแค่เพียงหลบหนีไปได้ อย่างก็อื่นค่อยว่ากันทีหลัง“หัวหน้าเสิ่น หากจะตามหาคนคนหนึ่งควรเริ่มจากที่ใด?”สุดท้ายหลิงอวี๋ก็ถามหัวหน้าเสิ่นไปหนึ่งคำถามหัวหน้าเสิ่นยิ้มขมขื่น “หากแม่นางจะตามหาคน ป้าวเฉิงคนที่ข้าพูดถึงเมื่อครู่คือคนที่มีความสามารถเก่งกาจยิ่งนัก เขามีลูกน้องมากมาย อีกทั้งคนในหมู่บ้านที่อยู่รอบ ๆ นี้ก็เชื่อฟังเขาด้วย”“หากเจ้าจะตามหาคน ขอเพียงมีเงินมากพอ เขาก็จะช่วยตามหาคนให้ได้เร็วที่สุด!”หลิงอวี๋อยากจะตามหาเสี่ยวอวี้น้องสาวของตน เมื่อได้ยินดังนั้นก็สนใจขึ้นมาแต่ตนไม่มีเงินติดตัวสักแดง จะไปพูดให้ป้าวเฉิงตามหาคนให้ตนได้อย่างไรกัน!“หัวหน้าเสิ่น เอาของมีค่าที่ท่านน้าหลินให้มาให้ข้าสักชิ้นเถิด!”หลิงอวี๋เอ่ยออกไปตามตรง “ข้าไม่มีเงินติดตัวสักแดง เจ้าก็ถือว่าทำบุญแล้วกัน!”ต่อให้หลิงอวี๋จะต้องการของมีค่าทั้งหมดของหัวหน้าเสิ่น หัวหน้าเสิ่นก็มิกล้าบอกว่าไม่ นับประสาอะไรกับหนึ่งชิ้นเล่า!หัวหน้าเสิ่นรีบเปิดห่อของตนแล้วหันหลังให้หลิงอวี๋หยิบกำไลหยกออกมาหนึ่งชิ้น!“แม่นาง กำไลหยก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1790

    “อย่า… อย่าฆ่าข้า!”หัวหน้าเสิ่นกลัวจนร้องออกมาเสียงสั่นเขาเชื่อมั่นในวรยุทธ์ของตนว่าจะสามารถหนีไปได้อย่างราบรื่น ไหนเลยจะคิดว่าจะหนีมิพ้นหมาป่าตัวนี้!“หึ! ข้าบอกไปแล้วว่า นอกเสียจากเจ้าจะเร็วกว่าปู้ติง มิเช่นนั้นก็ให้เชื่อฟังคำของข้า! เจ้าอยากจะทนทุกข์ก่อนจึงจะยอมฟังหรือไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเดินเข้าไป เรี่ยวแรงที่ตัวนางกลับคืนมาแล้วลูกปัดสีเขียวนี้มหัศจรรย์จริง ๆ!แต่หลิงอวี๋มิได้มีความคิดที่จะครอบครองเป็นของตน นี่คือของของแม่หมาป่า ในเมื่อให้ปู้ติงไปแล้วเช่นนั้นก็เป็นของปู้ติง“ปู้ติง! ปล่อยเขาเถิด!”ปู้ติงจึงปล่อยหัวหน้าเสิ่นอย่างเชื่อฟัง หลิงอวี๋ก็ลูบหัวมันอย่างเอ็นดู จากนั้นก็เอาลูกปัดสีเขียวยัดเข้าปากมันไป“เสี่ยวเจียง ปิดประตู!”หลิงอวี๋เอ่ยกับเสี่ยวเจียงที่กลัวจนสั่นมิหยุดเสี่ยวเจียงมองขาที่เลือดไหลของหัวหน้าเสิ่น เมื่อครู่หมาป่าตัวนั้นรวดเร็วมาก เขาหนีมิได้เลยมีหรือเสี่ยวเจียงจะกล้ามิฟังคำพูดของหลิงอวี๋ เขาจึงเดินไปปิดประตูด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น“ข้าถามอะไรเจ้าก็ตอบสิ่งนั้น มิเช่นนั้นครั้งต่อไปที่ปู้ติงกัดจะมิใช่ขาของเจ้า แต่เป็นคอ เข้าใจหรือไม่?”หลิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status