แชร์

บทที่ 635

ผู้เขียน: กานเฟย
เสี่ยวฮวาสูดหายใจเข้าแล้วมองหลิงอวี๋อย่างอ่อนแรง พลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา

“พระชายา… ข้าไม่เจ็บ ข้าทนได้... ข้าไม่ต้องกินยาด้วยเจ้าค่ะ! ท่านไม่ต้องรักษาข้าหรอก!”

“น้องชายของข้ายังเด็ก เงินของท่านแม่ต้องเก็บไว้ซื้ออาหารให้เขา… และต้องเก็บไว้เป็นค่ารักษาท่านพ่อด้วย! ข้าทนได้เจ้าค่ะ!”

หลิงซวนอยู่ข้าง ๆ ได้ยินสิ่งนี้ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปแล้วร้องไห้ออกมา

นี่เด็กอายุเท่าไหร่เอง!

ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ แต่ยังคิดถึงน้องชายกับพ่อของตน ไม่ยอมให้แม่ใช้เงินรักษาตนอีก!

รู้ความมากเสียจนทำให้คนที่เห็นต้องปวดใจ!

เมื่อแม่เผิงได้ยินคำพูดของบุตรสาวตน ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาร้องไห้ออกมาอีกพลางเอ่ย

“ไม่ ๆ… อาการป่วยของพ่อนางยังเลื่อนออกไปได้อีกเจ้าค่ะ… เสี่ยวฮวายังเด็กมากเช่นนี้ อยู่กับพวกเราไม่เคยมีชีวิตที่ดีเลย… นางยังตายมิได้นะเจ้าคะ!”

“ข้ายอมแลกชีวิตของข้าเพื่อให้นางมีชีวิตอยู่… พระชายา โปรดช่วยนางให้ได้เถิดหนาเจ้าคะ…”

พ่อเผิงทิ้งไม้ค้ำยันแล้วคุกเข่าลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบหน้าพลางเอ่ย

“เสี่ยวฮวา พ่อขอโทษ… หากมิใช่เพราะพ่อไร้ความสามารถ ก็ไม่มีทางให้เจ้าออกไปขอทานตั้งแต่อายุยังน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
พีรณัฏฐ์ ใกรสวัสดิ์
พระชายาช่วยได้
goodnovel comment avatar
Nok Nok
น้าตาไหลพราก สงสารชีวิตคนยากคนจน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 636

    ลุงเผิงเป็นผู้ใหญ่ แต่พูดแล้วน้ำตาก็พลางไหลลงมา“ท่านอ๋องอี้ ท่านดูครอบครัวใหญ่ของเราเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากหางานดี ๆ มิได้แล้วจะเลี้ยงดูครอบครัวพวกเขาได้เยี่ยงไรเล่า!”“หากทั้งครอบครัวแข็งแรงดีจะทนลำบากสักหน่อยก็หาได้เป็นไรไม่ แต่พ่อกระหม่อมทนมิไหวล้มป่วย เราใช้เงินรักษาเขาไปหมดแล้ว!”“เผิงเอ้อร์ก็อยากไปช่วยคนขุดลอกคลอง แต่ไม่คาดคิดว่าโชคร้ายจะมาไม่หยุดหย่อน เขาไปได้ไม่นานก็ถูกหินหล่นลงมาทับจนได้รับบาดเจ็บที่ขา… นี่มิใช่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรือ?”เมื่อเห็นสิ่งนี้แม่เผิงก็ช่วยพูดด้วย “ท่านอ๋องอี้ พวกผู้หญิงกับลุงป้าของหม่อมฉันรวมถึงหลานสาวคนโตทำงานเย็บปักถักร้อยได้ ก็อยากจะเย็บผ้า ปักผ้าและซักผ้าเพื่อเสริมรายได้ของครอบครัวเพคะ!”“แต่เราไม่มีที่อยู่อาศัยที่แน่นอน ผู้ใดจะไว้ใจให้เราดูแลเสื้อผ้าเล่าเพคะ!”ลูกชายของลุงเผิงก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธเช่นกัน “แม้ว่าเราจะยากจน แต่เราไม่เคยทำเรื่องผิด ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”“แค่เพียงเพราะเรายากจน พอเราเข้าใกล้บ้านคนรวยพวกนั้น เขากลับทำเหมือนเราเป็นขอทานแล้วกล่าวหาว่าเราขโมย! ถึงกับปล่อยสุนัขมากัดเราด้วยซ้ำ...”อันเจ๋อหน้าแดง นึกถึงอคติของเขาที่มีต่อผู้ลี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 637

    ตอนที่สอบปากคำชิวเหวินซวงก่อนหน้านี้ เซียวหลินเทียนรู้ว่าฉีตะวันออกมีการติดโรคระบาดกันในวงกว้างและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก!เพราะว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไม่มีเงิน เวลาป่วยจึงไปหาหมอไม่ไหว อาการป่วยเล็กน้อยทั่วไปก็ทนกันได้แต่หากป่วยหนักเช่นเสี่ยวฮวา ก็มีทางเดียวเท่านั้นคือต้องตาย!หากผู้ลี้ภัยเหล่านี้นำโรคระบาดไปยังเมืองหลวงหรือกระจายไปยังสถานที่อื่น ก็ถือเป็นหายนะครั้งใหญ่เลยทีเดียว!หลังจากที่หลิงอวี๋ระบายเลือดคั่งของเสี่ยวฮวาออกไปแล้วก็ฉีดยาลดไข้ให้นางเซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนจัดที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้ครอบครัวของลุงเผิงเมื่อพวกเขากลับไปในห้อง อันเจ๋อก็ควบคุมตนเองไม่ได้อีกต่อไป พลางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ“เจ้ากรมพระคลังจัดการเยี่ยงไรกัน! เหตุใดผู้ลี้ภัยถึงหลั่งไหลกันไปยังเมืองหลวงมากเช่นนี้ เขาไม่คิดหาวิธีจัดการเลยหรือไร!”เผยอวี้กลอกตาใส่อันเจ๋อพลางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“เจ้ากรมพระคลังคือเผยหยวนเป็นลุงรองของข้าเอง อันเจ๋อ หากเจ้าไม่เข้าใจสถานการณ์ก็อย่ามากล่าวหาลุงรองของข้าส่งเดชสิ!”เมื่อถูกเผยอวี้เตือน อันเจ๋อถึงได้นึกขึ้นได้ว่าเจ้ากรมพระคลังเป็นลุงรองของเผยอวี้จริง ๆ จึงหน้าแ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 638

    อันเจ๋อเอ่ยทันที “พระชายามีความคิดที่ดีมาก ท่านอ๋องเฉิงริเริ่มบริจาคก่อนจะต้องดึงดูดความสนใจขององค์จักรพรรดิอย่างแน่นอน! ถึงเวลานั้นพวกผู้มีอำนาจเหล่านั้นก็จะบริจาคตามด้วยเพื่อเอาใจองค์จักรพรรดิ!”“จริงสิ ข้าให้แม่ข้าเอาโจ๊กไปให้ผู้ลี้ภัยได้ด้วย!”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกท่านแม่แล้ว หากนางมีเงินบริจาคธูปเทียนให้วัด สู้เอาไปทำเรื่องจริงจังดีกว่า! ท่านแม่ของข้าจะต้องยอมแน่!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็พยักหน้า พลางเอ่ยอย่างเห็นด้วย“ท่านรัฐทายาทอัน ท่านสามารถขอให้พระชายาผิงหนานระดมทุนในหมู่สตรีผู้สูงศักดิ์ได้อีก หากครอบครัวใดมีเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องนอนเก่าที่ไม่จำเป็น ก็สามารถเอามาช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้!”“ข้าเห็นว่าพวกเขาใส่แต่พวกผ้าขาดวิ่นกันหมด ช่วยได้สักหน่อยก็จะดี!”เซียวหลินเทียนเห็นทั้งสามคนกำลังคุยกันอย่างยุ่งวุ่นวาย เขาย่อมนั่งดูต่อไปไม่ได้อยู่แล้ว“หลิงอวี๋เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า สอนคนตกปลาดีกว่ามอบปลาให้เขา... โครงการฟื้นฟูร้านค้าของข้าในตอนนี้ยังต้องการกำลังคน ข้ามอบโอกาสให้ผู้ที่มีกำลังแรงงานได้!”“ใช่แล้ว ผู้ที่ครอบครองพื้นที่ร้านค้าที่ถูกไฟไหม้ครั้งที่แล้วบางคนก็หาบ้านได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 639

    เดิมทีจ้าวเจินเจินพยายามจะชดเชยให้ และตั้งใจให้พ่อบ้านเตรียมของกำนัลปลอบใจไปที่ตำหนักองค์ชายเว่ยเพื่อแสดงความเสียใจต่อจ่างหนิงที่ได้รับบาดเจ็บแต่ของกำนัลเหล่านั้นถูกตำหนักองค์ชายเว่ยโยนออกไปอย่างไร้ความปรานี พ่อบ้านของตำหนักองค์ชายเว่ยก็ดุพวกเขาต่อหน้าทุกคนอย่างไม่ไว้หน้าด้วย“พระชายาเว่ยบอกแล้วว่าต่อหน้าทำเป็นรักใคร่ห่วงใยแต่ใจจริงมีเจตนาไม่ดี… พระชายาคังกล้าส่งดอกไม้มีพิษไปให้พระชายาเย่ ใครจะรู้ว่าอาจซ่อนสิ่งที่เป็นอันตรายอยู่ในของกำนัลเหล่านี้ก็เป็นได้!”“ท่านหญิงจ่างหนิงไม่สามารถรับน้ำใจจากพระชายาคังได้… พระชายาคังนำสิ่งเหล่านี้กลับไปใช้เองเถิดขอรับ!”เมื่อจ้าวเจินเจินได้ยินสิ่งที่พ่อบ้านบอก ก็โกรธจนตัวสั่น แต่ตอนนี้ทำอะไรพระชายาเว่ยไม่ได้เลย!พระชายาเว่ยไม่เหมือนหลิงอวี๋ นางหาเหตุผลให้กับตนเองได้นางได้รับการสนับสนุนจากฮองเฮาเว่ย หากนางดุร้ายขึ้นมา วิธีน่ากลัวอะไรนางก็สามารถเอามาใช้ได้ทั้งนั้นดังนั้น ในช่วงสองวันนี้จ้าวเจินเจินจึงอยู่แต่ในตำหนักก็คิดว่าจะกอบกู้ชื่อเสียงของตนเองอย่างไรขอเพียงตนกอบกู้ชื่อเสียงก่อนหน้านี้คืนมาได้ ข่าวลือเหล่านั้นก็จะค่อย ๆ หายไปเองหากทำไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 640

    ในขณะที่กำลังยุ่ง อันซินก็วิ่งเข้ามาในชุดกระโปรงเรียบง่าย นางทักทายกับหลิงหว่าน​พลางเอ่ยกับหลิงอวี๋“ท่านพี่หลิงหลิง วันนี้ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้แล้ว ท่านแม่ของข้ามาแจกโจ๊ก ข้าต้องอยู่ช่วยนางที่ศาลาโจ๊ก!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ย “เจ้าดูแลท่านแม่ของเจ้าให้ดีเถิด! โจ๊กที่ต้นเดือดจะร้อนมาก พวกเจ้าจะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย!”นางหยิบยาทาแผลสองหลอดยื่นให้อันซิน “หากเจ้าโดนลวกโดยไม่ระวังก็ทาลงไป มันได้ผลดีมาก!”“ขอบคุณท่านพี่หลิงหลิง!”อันซินรับยาทาแผลมาอย่างมีความสุข พลางเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของหลิงหว่านแล้ววิ่งกลับไปหลิงหว่านหน้าแดงเล็กน้อย หลิงอวี๋เห็นแล้วก็ค่อนข้างประหลาดใจ​ อันซินพูดอะไรกับนางถึงทำให้สตรีผู้นี้หน้าแดงได้กัน!พอนึกถึงงานเลี้ยงชมบุปผาครั้งที่แล้ว เดิมทีจะให้หลิงหว่านได้ใกล้ชิดเขา แต่ผลกลับมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย หลิงอวี๋เองก็ไม่มีเวลาไปทำความเข้าใจพฤติกรรมของพวกคุณชายเหล่านั้นเมื่อมองแผ่นหลังของอันซิน จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็ใจเต้นรัว พระชายาผิงหนานดูเป็นคนตรงไปตรงมาแล้วก็ชอบหลิงหว่าน นางรู้จักผู้คนมากมายในแวดวงนี้และมีโอกาสมากมายที่จะได้ใกล้ชิดกับพวกคุณชายบาง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 641

    หลิงหว่าน เจียงอวี้ และคนอื่น ๆ ก็ไม่กล้านินทาเช่นกัน จึงแยกกันไปช่วยหลี่ชุงจัดเครื่องยาสมุนไพรและยกชากับน้ำไปให้บรรดาแพทย์หลิงอวี๋นั่งยุ่งอยู่กับการดูแลคนไข้ ตรวจคนไข้ติดกันไปหลายสิบคน ปากก็เลยแห้ง และยังปวดปัสสาวะด้วยนางจึงให้คนไข้รอสักครู่แล้วตนลุกขึ้นวิ่งไปเข้าห้องน้ำชั่วคราวด้านหลังหลิงหว่านตามนางไปห้องน้ำ พอนางออกมาก็เอ่ยกับหลิงอวี๋“ท่านพี่หลิงหลิง พี่เคยเห็นนางผู้นั้นหรือไม่? ฟางเจียอี๋ นางเป็นลูกพี่ลูกน้องของจ้าวเจินเจิน ดูสิ นางตามท่านอ๋องอี้ตลอดเลย!”“ข้าสังเกตนางมานานแล้ว ตั้งแต่ที่นางมาก็เกาะติดท่านอ๋องอี้ตลอด นางชอบท่านอ๋องอี้หรือ?”หลิงอวี๋มองไปทันทีที่นางพูดเช่นนั้นเห็นหน้าศาลารับสมัครคนงานของกรมโยธาธิการ มีหญิงงามคนหนึ่งกำลังยกน้ำชามาให้เซียวหลินเทียนหลิงอวี๋พอจะจำผู้หญิงคนนี้ได้ นางคือฟางเจียอี๋เป็นลูกพี่ลูกน้องของจ้าวเจินเจินจริง ๆครั้งที่แล้วนางปรากฏตัวอย่างสง่างามในงานเลี้ยงชมบุปผาแต่ออกไปก่อนที่จะแข่งดนตรี หมากล้อม อักษรศิลป์และการวาดภาพ เหมือนว่านางจะมีเรื่องด่วนต้องไปทำสิ่งที่ทำให้หลิงอวี๋ประหลาดใจก็คือ ตั้งแต่ขาของเซียวหลินเทียนพิการ ในตำหนักนอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 642

    เมื่อทั้งสองเดินกลับไปก็เห็นคนยืนต่อแถวยาวรอโจ๊กอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่จ้าวเจินเจินก็ยังไม่ปรากฏตัว!“ท่านพี่ ท่านคิดว่ามันแปลกหรือไม่? จ้าวเจินเจินไม่อยากพึ่งการแจกโจ๊กมาสร้างชื่อเสียงที่ดีหรอกหรือ? นี่มันนานแค่ไหนแล้ว? ไฉนยังมิเห็นนางอีกเล่า!”หลิงอวี๋มองไป โจ๊กทางนั้นน่าจะต้มพร้อมแล้ว แต่ยังไม่ได้แจกจ่าย “นางจะต้องมาแน่! อีกอย่างข้ากล้ารับรองกับเจ้าเลยว่านางจะหาทางอื่นสร้างชื่อเสียง!”คำพูดของหลิงอวี๋ไม่ได้เกิดจากการคาดเดา ในเมื่อจ้าวเจินเจินมาโดยมีจุดประสงค์ที่จะชะล้างเรื่องของนาง เช่นนั้นตอนนี้ก็มีผู้แจกโจ๊กที่ศาลหลักเมืองอยู่แล้ว หากนางมาก็เป็นเพียงผู้แจกโจ๊กธรรมดา ๆหากต้องการดึงความสนใจของผู้ลี้ภัยไปที่นาง มีเพียงต้องหาทางอื่นเท่านั้นในขณะที่พูดอยู่นั้น ก็มีคนตะโกนขึ้นมา "พระชายาคังมาแล้ว… พระชายาคังบอกว่ากินแค่โจ๊กคงจะไม่อิ่ม วันนี้นางจึงเตรียมหมั่นโถวขาวมาให้ทุกคนด้วย!"“โอ้โห…”เมื่อได้ยินผู้ลี้ภัยเหล่านั้นต่างก็ยินดีพวกเขาหลายคนไม่ได้กินอะไรมานานแล้ว ตอนนี้ได้ยินว่าไม่ได้มีแค่โจ๊กเท่านั้นแต่ยังมีหมั่นโถวแป้งขาวด้วย ใครเล่าจะไม่ตื่นเต้น?ทันใดนั้น ผู้คนก็กรูกันไปต่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 643

    ภาพนี้ทำเอาหลิงอวี๋ตะลึงไปเลยกิ่งทองใบหยกเสียจริง คู่รักนักการเมืองที่เก่งเรื่องสร้างกระแส!นางกล้าเดิมพันเลยว่าคนที่เป็นผู้นำในการตะโกนนั้นล้วนเป็นหน้าม้าที่จ้าวเจินเจินเตรียมมา!ผู้ลี้ภัยที่แท้จริงจะมีคารมคมคายเช่นนี้ได้เยี่ยงไรกันเล่า!หากคำพูดเหล่านี้ไปถึงหูของจักรพรรดิอู่อัน จักรพรรดิอู่อันจะต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอนแม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่พอใจองค์ชายคังกับพระชายาของเขา ก็คงจะหายไปในทันที!ทางด้านเผยอวี้ เซียวหลินเทียนและอันเจ๋อก็เห็นภาพนี้เช่นกันเผยอวี้ก็ตกใจกับความไร้ยางอายขององค์ชายคังกับพระชายาของเขาเช่นกัน เขายิ้มอย่างขมขื่นให้เซียวหลินเทียนพลางเอ่ย “นี่เราตีงูให้กากินรึ?”แนวคิดในการแจกโจ๊กเพื่อบรรเทาภัยพิบัตินี้ดำเนินการไปทีละขั้นตอนภายใต้การนำของเซียวหลินเทียนไหนเลยจะคิดว่าองค์ชายคังกับพระชายาของเขาจะมาชุบมือเปิบ ฉกฉวยความดีความชอบทั้งหมดด้วยคำพูดที่สวยหรูไม่กี่คำกับหมั่นโถวแป้งขาวไม่กี่ตะกร้า!อันเจ๋อรู้สึกว่าถูกยั่วโมโหมากจนพูดไม่ออก เขารู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง!ความดีความชอบนี้ต้องเป็นของเซียวหลินเทียนสิ เขาถึงจะยินยอมอย่างเต็มใจ!แต่เหตุใดคนที่ทำงานหนักเช่

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1938

    เช่นนี้ก็แสดงว่า เฉียวไป๋เองก็รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าคนที่ช่วยเขาไว้คือศัตรูของเขา?หลิงอวี๋แอบดีใจที่ตนเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง หลังจากที่หนีออกมาจากเงื้อมมือของเก๋อฮุ่ยหนิง มิเช่นนั้นหากใช้ใบหน้าก่อนหน้านี้ ก็คงจะถูกเก๋อฮุ่ยหนิงสังหารไปแล้วใช่หรือไม่?ดูท่าทางต่อไปตนจะมิสามารถใช้มีดผ่าตัดรักษาคนได้อีกต่อไปแล้ว!หลิงอวี๋ค้นพบแล้วว่า ที่เมืองหลวงแดนเทพนั้นล้วนเป็นหมอโอสถที่รักษาโรค มิว่าจะเป็นโรคอะไร หมอโอสถก็ล้วนใช้เพียงโอสถในการรักษาโรคเท่านั้นส่วนการผ่าตัดนั้น ในตอนนี้กลายเป็นวิธีการรักษาเฉพาะตัวของนางไปแล้วประเดี๋ยวก่อน จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ตนเป็นคนที่รักษาดวงตาของฮูหยินเว่ยจนหาย ตอนนั้นมีหมอจำนวนมากบอกว่าดวงตาของฮูหยินเว่ยมิสามารถรักษาได้แล้ว หากพวกนางเองก็ได้เห็นหมายจับค่าหัวด้วย พวกนางจะไปเปิดโปงตนให้กับตระกูลเฉียวหรือไม่?ตั้งแต่ที่ตนลงมาจากเรือของตระกูลเว่ย ก็ทำเพียงเปลี่ยนกลับเป็นชุดสตรี แต่มิได้เปลี่ยนการแปลงโฉม!ยิ่งไปกว่านั้น ผู้รอบรู้ก็มิได้แปลงโฉมด้วย เช่นนั้นขอเพียงติดตามเบาะแสเหล่านี้มา การจะตามหาตนก็มิใช่เรื่องยากแล้ว!หากต้องการให้ตนป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1937

    ขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ ทีละก้าว หลิงอวี๋ก็มองพิจารณาฮูหยินทั้งสองของตระกูลเฉียวไปอย่างเงียบ ๆฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเฉียวเป็นเสาหลักของตระกูลเฉียว เฉียวต้าลูกชายของนางซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเฉียวตายไปแล้ว และเฉียวเค่อหลานชายที่เป็นที่รักมาโดยตลอดก็ตายไปแล้วเช่นกันฮูหยินผู้เฒ่าที่อายุหกสิบกว่าผู้นี้แก่ตัวลงมากภายในชั่วข้ามคืน และในช่วงนี้ก็นอนซมอยู่บนเตียงอยู่ตลอด นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่นางออกจากบ้านตั้งแต่ที่ลูกชายตายไปนางแต่งตัวเรียบหรูสุภาพเช่นเดียวกับฮูหยินเฉียว และเนื่องจากนางกินโอสถชะลอวัยมาหลายปี ดังนั้นแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวจะอายุหกสิบแล้ว แต่บนใบหน้าของนางก็ไม่มีริ้วรอยแม้แต่น้อย ดูแล้วคล้ายกับเป็นพี่น้องกับฮูหยินเฉียวเลยทีเดียวผมของนางก็เป็นสีดำสนิททั้งหมดเช่นกัน เพียงแต่เป็นเพราะอาการป่วย จึงทำให้สีผิวดูขาวซีดไปเล็กน้อยรูปร่างของฮูหยินเฉียวสูงใหญ่กว่าสตรีทั่วไป นางสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร กระดูกก็ใหญ่เช่นกัน ดูมีความสามารถมาก และระหว่างคิ้วกับตาของนางนั้นก็ล้วนเป็นความมุ่งมั่นตัดสินใจอย่างเด็ดขาด“ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียว ฮูหยินเฉียว...”จงเจิ้งเฟยพาเหลยเหวินกั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1936

    น่าสนใจ!เซียวหลินเทียนเห็นกระบวนการทั้งหมดนั้น แล้วก็รู้สึกว่าการมาเข้าร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่น่าเบื่อในวันนี้ ก็มิได้น่าเบื่อถึงเพียงนั้นแล้วเขาหันไปหาเถาจื่อแล้วเอ่ยออกไป “ศิษย์พี่หญิงของเจ้าผู้นี้น่าสนใจมาก เจ้าจงเข้าใกล้นางเข้าไว้!”เถาจื่อดูท่าทีสับสน “นายท่านอู่ ท่านแน่ใจว่านางมิใช่คุณหนูมิใช่หรือเจ้าคะ? เหตุใดจึงต้องเสียเวลาไปกับนางด้วยเจ้าคะ?”เซียวหลินเทียนส่ายหัว “ไม่ ข้ามิอาจแน่ใจได้หรอก! คุณหนูของพวกเจ้าฉลาดถึงเพียงนั้น หากนางตั้งใจจะซ่อนตัวขึ้นมาจริง ๆ ก็มีวิธีมากมายนัก!”“ข่าวล่าสุดที่สือหรงส่งมาก็คือ คุณหนูของพวกเจ้าติดตามฮูหยินเว่ยมาที่เมืองหลวงแดนเทพ ขอเพียงนางอยู่ในสังคมเมืองหลวงแดนเทพนี้ นางจะต้องมาศึกษาที่สำนักศึกษาชิงหลงอย่างแน่นอน!”“สิ่งที่พวกเราต้องให้ความสำคัญก็คือสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้ เราจะต้องตรวจสอบพวกนางทีละคน จนกว่าจะพบคุณหนูของเจ้า!”เซียวหลินเทียนเชื่อว่า ด้วยความฉลาดของหลิงอวี๋แล้ว นางไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอน ขอเพียงคอยจับตามองสตรีที่โดดเด่นเหล่านี้เข้าไว้ เขาจะต้องหาหลิงอวี๋พบได้อย่างแน่นอน“ฉินซาน เจ้ากลับไปบอกให้สือหรงสืบประวัติของส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1935

    หลิวซานและเหล่าบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าเห็นสถานการณ์เช่นนั้น ก็พากันตำหนิหลิงอวี๋หลิวซานเป็นผู้นำดุด่าขึ้นมา “ใช่แล้ว ตนเองสร้างปัญหาไปทั่ว เมื่อถูกคนมาทำลายบ้านยังจะมาใส่ร้ายศิษย์พี่ของพวกเราอีก คงมิใช่ว่าเจ้ายากจนไม่มีเงิน จึงคิดจะขู่กรรโชกเงินจำนวนหนึ่งไปสร้างบ้านใหม่ใช่หรือไม่!”บัณฑิตคนหนึ่งก็เอ่ยออกมาอย่างดูถูกเช่นกัน “ดูจากอาภรณ์ที่นางใส่แล้ว ก็คงมิได้อยู่อาศัยในที่ที่ดีนักหรอก คงจะไปทำให้ใครขุ่นเคืองเข้าจึงถูกทุบน่ะสิ!”“ใช่แล้ว ที่อยู่ของพวกเรามีความปลอดภัยดี ไม่มีทางเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่!”“สิงอวี๋ เจ้าช่างน่ารังเกียจเสียจริง! เมื่อครู่ศิษย์พี่ของเราล้อเล่นจึงพูดเช่นนั้นออกไป คาดมิถึงเลยว่าจะถูกเจ้าใส่ร้าย! เช่นนั้นหากเป็นข้าที่พูดเช่นนั้นออกไป เจ้าก็จะบอกว่าข้าทำลายบ้านเจ้าใช่หรือไม่?”จงเจิ้งเฟยกับเหลยเหวินจึงดึงหลิงอวี๋ไปถามด้วยความเป็นห่วง “บ้านของเจ้าถูกทุบจริงหรือ?”หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องวุ่นวายในบ้านที่เห็นท่ามกลางสายฝนเมื่อวานนี้ แล้วพยักหน้าอย่างแน่วแน่นางมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา เขายังคงหัวเราะอย่างมิกลัวเกรง พร้อมกับทำท่าทางท้าทายราวกับว่า ‘เจ้าทำอะไรข้ามิไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1934

    เสียงของหลิงอวี๋มิได้ดัง แต่ก็แน่วแน่มีพลังพอ ทำให้คุณหนูคุณชายที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินกันหมดเซียวหลินเทียนเพิ่งลงจากรถม้ามาพร้อมกับพวกเถาจื่อ เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วก็หันไปมองน้ำเสียงนี้ พลังเช่นนี้ เหตุใดจึงคล้ายกับหลิงอวี๋มากถึงเพียงนั้นอย่ารังแกคนหนุ่มสาวที่ยากจน!ตอนนั้นที่หลิงอวี๋ถูกพวกเสิ่นจวนกลั่นแกล้งที่ภัตตาคาร หลิงอวี๋ก็เคยพูดในทำนองเดียวกันนี้“ใต้หล้านี้หากมีคนใส่ร้ายข้า หลอกลวงข้า ดูหมิ่นข้า เย้ยหยันข้า ดูถูกข้า เหยียดหยามข้า รังเกียจข้า หลอกลวงข้า ข้าควรจะลงโทษอย่างไร?”“ขอเพียงอดทนกับเขา ยอมเขา ตามใจเขา หลีกเลี่ยงเขา อดกลั้นกับเขา เคารพเขา เมินเฉยเขา และรอไปสักสองสามปีแล้วค่อยดูเขา!”พวกของเสิ่นจวนที่เคยรังแกหลิงอวี๋ในอดีตนั้น ในตอนนี้ต่างก็มีจุดจบที่น่าสังเวชทั้งสิ้น มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้น ที่ก้าวหน้า กลายเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เป็นฮองเฮาที่ผู้คนนับล้านในฉินตะวันตกเคารพ!สตรีหน้าตาธรรมดาและแต่งตัวซอมซ่อตรงหน้าเขาผู้นี้ ก็มีพลังของหลิงอวี๋อยู่เช่นกันใครจะรู้ว่านางจะเป็นดังเช่นหลิงอวี๋หรือไม่ หนึ่งปีหลังจากนี้นางอาจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1933

    ใต้หล้านี้มีสตรีที่งดงามอยู่มากมาย!บางคนก็พึ่งการแต่งตัวให้ตนดูงดงาม!และบางคนก็พึ่งความเข้มแข็งภายในจิตใจทำให้งดงาม!และในชั่วขณะนี้ เหลยเหวินรู้สึกว่าสหายของตนผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดาทั่วไป แต่ก็มิได้ด้อยไปกว่าสตรีที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย“เสี่ยวอวี๋ เจ้าจะต้องได้สิ่งที่เจ้าต้องการอย่างแน่นอน!”เหลยเหวินเอ่ยออกมาอย่างจริงใจหลิงอวี๋มีจิตใจที่แน่วแน่เช่นนี้ ทั้งยังมีพรสวรรค์ด้านการกลั่นโอสถอีก ในอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด นางจะต้องไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างแน่นอนทั้งสองยิ้มให้กันแล้วออกไปรอจงเจิ้งเฟยและเมื่อมาถึงที่หน้าประตู รถม้าของตระกูลจงเจิ้งก็มาถึงเนื่องจากเป็นตระกูลใหญ่ จึงเป็นรถม้าที่มีม้าลากสี่ตัวที่ดูหรูหรามาก พวกนางทั้งสามคนยิ้มแย้มพูดคุยกันไปขณะที่มุ่งหน้าไปที่บ้านของหลงอิง“เสี่ยวอวี๋ ตระกูลของหลงอิงเป็นสายข้างเคียงของตระกูลหลง ดังนั้นที่ที่พวกเราจะไปกันจึงมิใช่คฤหาสน์ต้นตระกูล แต่เป็นคฤหาสน์ของครอบครัวนางเอง”เหลยเหวินแนะนำหลิงอวี๋อย่างกระตือรือร้น “แม้ว่าจะเป็นเพียงสายข้างเคียง แต่ครอบครัวหลงอิงก็ใหญ่โตมากเช่นกัน ต้องจัดงานยิ่งใหญ่เช่นนี้ประจำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1932

    “เสี่ยวชี เจ้าอาศัยอยู่ที่ใด ข้าจะไปส่งเจ้า!”เย่หรงรู้สึกว่าคุยกับหลิงอวี๋ถูกคอมาก จึงรู้สึกว่ายังมิพอ“โรงเตี๊ยมเจ้าค่ะ!”ในเมื่อหลิงอวี๋ตัดสินใจที่จะสร้างพันธมิตรกับเย่หรงแล้ว นางจึงมิลังเลที่จะบอกเรื่องของตนให้เขารู้เย่หรงจึงเอ่ยออกมาอย่างประหลาดใจ “เจ้าสอบเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงได้แล้วนี่ เหตุใดยังพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมอีกเล่า? โรงเตี๊ยมในเมืองหลวงแดนเทพราคามิใช่ถูก ๆ เจ้าทำเช่นนี้มิสู้ซื้อเรือนสักหลังน่าจะคุ้มค่ากว่าหรือ!”หลิงอวี๋จึงยิ้มอย่างเย็นชา “เดิมทีข้ามีบ้านอยู่ แต่ถูกคนทำลายไปเสียแล้ว!”“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เจ้าเป็นศิษย์น้อยของอาสาม ใครกันที่ตาไร้แววกล้ามาทำลายเรือนของเจ้า?”เย่หรงยิ่งก็ยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีกหลิงอวี๋จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้เขาฟัง และสุดท้ายก็เอ่ยออกไป “เรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของเหมียวหยางเป็นแน่ ข้าไม่มีศัตรูอยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ และนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครที่จะทำเรื่องเช่นนี้กับข้าด้วย!”เย่หรงได้ยินเช่นนั้นก็โกรธมาก “ไป่หลี่ไห่กับหอโอสถไป๋เป่าอาศัยว่ามีการสนับสนุนของเจ้าแห่งทะเล จึงได้กล้าทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนี้!”“เสี่ยวช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1931

    แหกคุกหรือ?เหมือนว่าจะไม่มีใครเคยพูดเช่นนี้กับเย่หรงมาก่อนเลย เย่หรงเองก็ถูกการศึกษาที่แสนยาวนานยับยั้งเอาไว้ คิดมิถึงเลยว่าจะมีวิธีเช่นนี้ที่สามารถใช้ได้ด้วย!เขาประหลาดใจขึ้นมาในทันที แล้วก็มองหลิงอวี๋อย่างเหลือเชื่อเช่นนี้ก็ได้เช่นกันนี่?เพราะว่าเย่หรงเองก็เป็นคนที่มิทำตามกฎอยู่แล้ว หลังจากที่ตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง เขาก็คิดออกแล้วคำโน้มนำที่หลิงอวี๋ขว้างมาตรงหน้าตนนั้นเป็นราวกับต้นกล้าเล็ก ๆ ที่ทะลุผ่านดินขึ้นมาในชั่วพริบตา และเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ!ใครบอกว่ามิได้เล่า?ความผิดที่มารดาของเขาทำนั้นมิใช่ความผิดร้ายแรง ตระกูลหลงและตระกูลเย่ก็มิแม้แต่จะผ่านการพิจารณาคดีด้วยซ้ำ พวกเขาแค่ขังนางไว้ในคุกน้ำอันมืดมิดมาเป็นเวลานานสิบกว่าปีแล้วพวกเขาสามารถเพิกเฉยกฎเกณฑ์ได้ และทำตามอำเภอใจกันได้ เช่นนั้นเหตุใดตนจึงต้องปฏิบัติตามกฎของพวกเขาด้วยเล่า?มิรู้ว่าท่านแม่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายเช่นนั้นจะถูกทรมานอย่างไรบ้าง เขาในฐานะลูกชายจะสามารถมองดูมารดาต้องทนทุกข์ต่อไปได้อย่างไรกัน?หากเขามิช่วยท่านแม่ออกมาจากสถานที่เลวร้ายนั้น เขาจะต้องสูญเสียท่านแม่ไปแน่“เสี่ยวชี ข้าจะหาช่องโหว่ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1930

    ก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน!เป็นเพราะได้ยินหยางหงหนิงบอกว่าเย่หรงชอบหลิงอวี๋หรือ?หรือเป็นเพราะเมื่อครู่ได้ยินเย่หรงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตัวเขาไร้ประโยชน์ และไม่มีอะไรดี?หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเคยได้ยินผู้รอบรู้เล่าเรื่องภูมิหลังของเย่หรง เมื่อหลิงอวี๋เห็นเย่หรงจึงไม่มีความระแวดระวังดังเช่นก่อนหน้านี้นี่คือคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง!หลิงอวี๋มองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างประหม่า “คุณชายเย่ ข้ามิได้ตั้งใจจะแอบฟัง ข้าแค่ผ่านมา… แค่ผ่านมาเท่านั้นเอง!”เย่หรงจ้องมองนางอย่างดุร้าย และเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝาน ดูมิคล้ายกับพูดโกหกอยู่ เขาก็เอ่ยถามอย่างมิคาดคิด “เจ้าดื่มสุราเป็นหรือไม่?”เอ๊ะ นี่คือคำถามอะไรกัน?“มินับว่าดื่มเป็นเจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยความเขินอายนางมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนสามารถดื่มได้มากแค่ไหน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าดื่มเป็นหรือไม่“ไป ข้าจะเลี้ยงสุราเจ้าเอง!”เย่หรงมิพูดพร่ำทำเพลง แล้วเดินเข้ามาคว้าแขนของหลิงอวี๋เดินไป“คุณชายเย่ ข้าไปดื่มกับท่านมิได้เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกใจ แล้วก็ดิ้นรนพลางเอ่ยออกมาแม้แต่คนตาบอดก็ยังมองเห็นชัดเจนว่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status