“เกิดอะไรขึ้นกับพิษของนายท่าน?”เซียวหลินเทียนไม่มีเวลาทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เพิ่งมีโอกาสถามอย่างชัดเจนสิ่งที่เกิดขึ้นติดต่อกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้หลิงอวี๋รู้สึกว่าตกอยู่ในภาวะวิกฤต!นางเข้าใจว่าตนกับเซียวหลินเทียนก็ลงเรือลำเดียวกันเช่นกัน หากเซียวหลินเทียนไม่ดี นางก็ไม่ดีเช่นกัน!หลิงอวี๋มิได้ปิดบังอะไร บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้เซียวหลินเทียนรู้เซียวหลินเทียนได้ฟังก็ตกใจมาก นี่เป็นแผนการชั่วร้ายที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวทีเดียว!หากหลิงอวี๋มิได้มีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมและระงับพิษของนายท่านได้ทันเวลา ทั้งหลิงอวี๋และท่านกวนเอ้อร์คงติดกับดักในวันนี้ ถูกตระกูลกวนวางแผนให้ไม่มีโอกาสฟื้นตัวแล้ว!“นายท่านมิได้บอกว่าใครวางยาพิษเขาหรือ?”เซียวหลินเทียนถามพลางครุ่นคิดหลิงอวี๋ส่ายหัว "นายท่านบอกว่ามีคนในวังวางยาพิษเขา เขาสงสัยว่ากวนซินกับลูกชายของเขามีส่วนเกี่ยวข้อง!"“ยามนั้นเขาไม่ได้สติ สิ่งที่เขาอยากจะแสดงออกก็คือ คนในวังสั่ง ให้กวนซินกับลูกชายเขาวางยาพิษ!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ "นายท่านกวนมีพิษสองชนิดในร่างกายของเขา ชนิดหนึ่งคือพิษเฉียบพลัน และอีกชนิดคือพิษเ
“องค์หญิงหกมิชอบกวนซิน แต่กวนซินชอบนางมาก ฮองเฮานี่คาดว่าต้องการตีสนิทตระกูลกวน จึงพยายามจับคู่อย่างเต็มที่! นางยังต้องการให้จักรพรรดิพระราชทานงานอภิเษกด้วยซ้ำ!”เซียวหลินเทียนคิดพลางเอ่ย "ได้ยินมาว่าองค์หญิงหกเกือบแขวนคอตายเพื่อต่อต้าน! สำหรับเรื่องนี้ ฮองเฮาถูกไทเฮาตำหนิอย่างหนักหนา!"หลิงอวี๋ตกตะลึง ทอดถอนใจพลางเอ่ย“ทะเลาะกันรุนแรงมาก! ดูเหมือนว่าองค์หญิงหกจักมีนิสัยใจร้อนมากด้วย!”นางฝังเข็มเสร็จแล้ว เอามันออก แล้วช่วยพยุงเซียวหลินเทียนพลิกตัวกลับ...แต่ในขณะนี้ ไม่รู้ว่ารถม้าชนเข้ากับอะไร รถม้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงหลิงอวี๋มิได้ตั้งตัว จึงสูญเสียการประคองตัวแล้วล้มลงบนตัวเซียวหลินเทียน...บังเอิญที่ทั้งสองชนกัน หน้าชนกัน ปากชนกัน...ริมฝีปากนุ่มเม้มเข้าหากัน...สัมผัสอันอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายทั้งสองทันที...หลิงอวี๋เบิกตาโต มองใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนอยู่ใกล้มาก ๆ อย่างตกใจ!ขนตาของเขายาว เคลื่อนไหวเบา ๆ...เหมือนพัดเล็ก ๆ พัดมาในใจของหลิงอวี๋หัวใจของนางเต้นแรง จ้องมองใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเซียวหลินเทียนอย่างเหม่อลอย ลืมที่จะลุกขึ้น...หัวใจของเซียวหลิน
กระทั่งกลับไปถึงเมืองหลวงก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วหลิงอวี๋ยังคงคิดที่จะไปตรวจท่านอดีตเสนาบดีที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนอีกครั้ง นางกลับไปที่เรือนบุหงาพร้อมกับหลิงซวนทานอาหารเย็นแบบเร่งรีบและวางแผนที่จะพาหลิงเยวี่ยไปด้วยเมื่อหลิงเยวี่ยได้ยินว่าสามารถไปเยี่ยมท่านอดีตเสนาบดีได้ ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ท่านแม่ เช่นนั้นข้าควรเอาของขวัญอันใดไปให้ท่านปู่ทวดดีหรือขอรับ? ข้าเอาหนังสติ๊กที่ลุงปี้ทำมาให้ไปดีหรือไม่?”หลิงอวี๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและบีบจมูกเล็ก ๆ ของหลิงเยวี่ย“ท่านปู่ทวดเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เล่นหนังสติ๊กแล้ว เจ้าเก็บไว้เล่นคนเดียวเถิด!”“เดี๋ยวแม่จักนำตำรับยาบำรุงร่างกายไปให้ก็พอแล้ว!”“แม่นม หากดึกเกินไป คืนนี้เรามิกลับมาที่ตำหนักอ๋องอี้แล้ว!”หลิงอวี๋บอกแม่นมลี่ "ประเดี๋ยวข้าจักไปบอกท่านอ๋อง!"แม่นมลี่พยักหน้าเห็นด้วย แล้วให้หลิงซินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หลิงเยวี่ยนี่เป็นการไปเยี่ยมจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนครั้งแรกของหลิงเยวี่ยนับตั้งแต่เขาเกิด ต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้กับท่านอดีตเสนาบดีเสียหน่อยหลิงอวี๋ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน แล้วก็พาทั้งสามคนไปที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนสา
สายตาท่านอดีตเสนาบดีมองหลิงอวี๋อย่างเฉยชาแฉลบผ่านยังดวงหน้าน้อย ๆ ละเอียดอ่อนของหลิงเยวี่ย พลางหยุดลงบนรอยแผลที่หน้าหลิงอวี๋ในที่สุดหลิงอวี๋เดาออกว่าท่านอดีตเสนาบดีมีความเคืองโกรธในใจเลยไม่อยากให้อภัยตัวเองง่าย ๆ เยี่ยงนี้นางเดินไปหน้าเตียงพลันคุกเข่าลงดังตุ้บครั้นหลิงเยวี่ยเห็นแม่คุกเข่าก็คุกเข่าลงตามเช่นกัน“ท่านปู่ อาอวี๋รู้ผิดแล้ว! เมื่อนั้นอาอวี๋กระทำอันใดตามใจ ทำท่านปู่ปวดใจแล้วเจ้าค่ะ!”“อาอวี๋กลับตัวกลับใจแล้วต่อไปจักมิทำเรื่องโง่เขลาอีกเจ้าค่ะ! โปรดท่านปู่ให้โอกาสอาวี๋อีกสักครั้ง!”หลิงอวี๋โขกหัวคำนับให้ท่านอดีตเสนาบดีอย่างฝืนกลั้นน้ำตา!ช่วงเวลาล่อแหลมในงานพระราชสมภพวันนั้นเป็นท่านอดีตเสนาบดีคุกเข่าอ้อนวอนจักรพรรดิให้โอกาสตนชี้แจงเท็จจริงหลิงอวี๋จำเรื่องนี้ได้เสมอ แม้นางมิชอบพิธีคนโบราณเอะอะอะไรก็โขกหัวโขก ๆแต่โขกหัวคำนับให้ท่านอดีตเสนาบดี หลิงอวี๋ก็ยินดีเต็มใจ!“ท่านตาทวด ท่านให้โอกาสท่านแม่ข้าสักครั้งเถิดขอรับ! ต่อไปนางจะเชื่อฟังท่านแน่นอน!”“ภายหน้าเยวี่ยเยวี่ยจะเอาของอร่อย ๆ มาให้ท่าน!”หลิงเยวี่ยปวดใจต่อมารดาตน ดวงตาโตมองปริบ ๆ อย่างบ้องแบ๊วพลางมองท่านอด
ท่านอดีตเสนาบดีมองหลิงอวี๋พลางถาม “อาอวี๋ เจ้ามีแผนอันใดต่อไป? จักใช้ชีวิตกับเซียวหลินเทียนอยู่หรือไม่?”หลังเรื่องในรถม้าที่เซียวหลินเทียนผลักหลิงอวี๋ นางก็หมดความคิดที่จะอยู่กับเซียวหลินเทียนโดยสิ้นเชิง“ท่านปู่เจ้าคะ ก่อนหน้าข้าพูดเรื่องหย่ากับเซียวหลินเทียนแล้ว เขารับปากแล้วเจ้าค่ะ!”“เรารอเมื่อเวลาเหมาะสม ขอร้ององค์จักรพรรดิเห็นด้วยจึงหย่าร้างเจ้าค่ะ!”ท่านอดีตเสนาบดีนับว่าพอใจแล้วพลางพยักหน้า“ทนไม่ไหวก็หย่า จวนเสนาบดีหลังนี้ตราบใดที่มีปู่ก็คือจวนของเจ้าตลอดไป!”หลังหลิงอวี๋หย่าร้างไม่สนย้ายกลับจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนสักกระผีก แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากเถียงกับท่านอดีตเสนาบดี ถึงคราวนั้นค่อยว่ากันเถอะ!“ท่านปู่ ท่านล้มเจ็บเองจริงหรือไม่? หากท่านถูกคนทำร้าย เช่นนั้นข้าก็มีสิทธิ์รู้…”หลิงอวี๋เป็นห่วงปัญหาข้อนี้พลันถามร้อนใจท่านอดีตเสนาบดีถามว่า “เจ้าตอบคำถามข้าก่อน วิชาแพทย์ของเจ้ารักษาขาของเซียวหลินเทียนหายได้หรือไม่?”หลิงอวี๋เชื่อใจท่านอดีตเสนาบดีสุดจิตสุดใจพลันกล่าวอย่างเชื่อมั่น“หากทั่วหล้านี้มีคนรักษาขาเซียวหลินเทียนหาย นั่นคงมีแค่ข้า!”สีหน้าท่านอดีตเสนาบดีเคร่งขรึมพลางเ
หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องที่เซียวหลินเทียนพูดว่า หลิงเสียงเซิงหมายเอาหลิงเยี่ยนออกเรือนเป็นชายารองอีกครั้งก็ตื่นตัวขึ้นพ่อนิสัยแย่คนนี้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง!ผู้ใดจะรู้ว่าพอบอกความจริงเขาแล้ว เขาจะไม่ทรยศหักหลังเซียวหลินเทียนกัน?ตอนนี้หลิงอวี๋ยังเป็นชายาอ๋องอี้ เซียวหลินเทียนถือว่าเป็นที่พึ่งของตนเหมือนกัน นางไม่อาจปล่อยเซียวหลินเทียนกลายเป็นหนามยอกอกขององค์ชายเว่ยกับคนอื่น ๆ ได้!หลิงอวี๋พูดว่า “ท่านพ่อ พวกเราเป็นคนกันเอง ข้ามิปิดบังท่าน! แม้วิชาแพทย์ข้าเหนือคน แต่ก็มีโรคบางอย่างรักษามิได้!”“ขาของท่านอ๋องอี้ ข้าไร้วิธีช่วยเขารักษาหายแล้ว!”ใบหน้าหลิงเสียงเซิงเผยความสิ้นหวังชัดเจน ในตาฉายความระอาแววหนึ่งหลิงอวี๋มองอารมณ์นัยน์ตาของหลิงเสียงเซิง แต่กลับแสร้งไม่เห็นพลางยิ้มกล่าว“ท่านพ่อ ท่านห่วงใยท่านอ๋องอี้เช่นนี้ อาอวี๋ปลื้มใจนักหนา!”หน้าของหลิงเสียงเซิงกระตุก เขาไม่ได้ห่วงใยสุขภาพเซียวหลินเทียนเถอะ!เขาพะวงว่าเซียวหลินเทียนจะยืนได้และกลับมาเป็นผู้บัญชาการกองทัพอีกครั้งหรือไม่!หากเซียวหลินเทียนยืนมิได้ก็เป็นแค่ของไร้ประโยชน์ เขาจะสนใจของไร้ประโยชน์หาปะไร!“อาอวี๋ เมื่อก่อน
หลิงอวี๋ตั้งอาจารย์ขึ้นมัว ๆ เมื่อเห็นหวางซือสนใจที่ตนถูกพิษขนาดนี้ นางยิ่งมั่นใจว่าการถูกพิษของตนไม่พ้นเกี่ยวข้องกับหวางซือหรอก!หลิงอวี๋ขบคิดพลางกล่าว“ข้าถูกพิษชนิดที่เรียกว่าอินทรีดำ อาจารย์ข้าถอนให้ข้าครึ่งเดียว นางพูดว่าระยะเวลาถูกพิษของข้านานเกินไปทำตับเสียหายแล้วเจ้าค่ะ!”“เดิมทีอาจารย์ข้ากล่าวว่าข้ามีชีวิตได้แค่ครึ่งปี! แต่ตอนนี้อยู่ได้หลายปีแล้วเจ้าค่ะ!”หวางซือปรายมองเล็กน้อย แสร้งเป็นพูดเคือง“ทั้งหมดนี้เป็นขี้ข้าต่ำช้าสองคนนั้นทำชั่ว! พวกนางสมควรถูกถลกหนังทั้งเป็น!”จากนั้นหวางซือก็เปลี่ยนประเด็น จ้องหลิงอวี๋เอ่ยอีกว่า“อาอวี๋ เจ้ารู้เรื่องหรือไม่? เมื่อก่อนแม่เจ้ารู้จักซือคงชวิ่นปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์!”“วิชาแพทย์ซือคงชวิ่นเหนือชั้น เป็นหมอชั้นเซียนชั่วอายุคน ว่ากันว่าเวลานั้นเขาเก็บตำราแพทย์ไว้เล่มหนึ่ง…”“หากเจ้าได้มันมา พิษของเจ้าถอนได้แน่! ขาท่านอ๋องอี้ก็จะมีทางรักษาหายเช่นกัน!”“ตำราแพทย์? ซือคงชวิ่น?”หลิงอวี๋ตะลึงชั่วขณะ คาดไม่ถึงว่าหลานฮุ่ยจวนผู้เป็นมารดาจะรู้จักซือคงชวิ่นหมอเลื่องชื่อ?“อาอวี๋ เจ้ามิรู้เรื่องนี้หรือ?”หวางซือมองในตาเป๋อเหลอของหลิงอวี๋ คว
หลิงอวี๋โกรธจนยืนขึ้นเร็วพลัน“ท่านพ่อ ถ้ามือท่านมีแผลเปิดก็ต้องใช้เวลาหลายวันหาย!”“ท่านปู่ล้มขาหัก ท่านคิดว่าข้าเป็นเทพเซียนเป่าลมหายใจเซียนก็ทำท่านปู่กระโดดโลดเต้นได้หรือ?”ครั้นหวางซือเห็นหลิงอวี๋โมโหเลยมองค้อนหลิงเสียงเซิง รีบกล่าวปลอบ“อาอวี๋ พ่อเจ้าก็เป็นห่วงท่านปู่เจ้าเหมือนกัน กลัวเขาทุกข์ใจ! เลยใจร้อน!”“ถูก ถูกต้อง พ่อมิอยากให้ท่านปู่เจ้าทุกข์ใจ!”หลิงเสียงเซิงมองหลิงอวี๋เอาอกเอาใจ “เจ้าก็ลองคิดวิธีดูเถิด!”“ไม่มีวิธี! ลงเตียงได้ในยี่สิบวันเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว!”หลิงอวี๋กล่าวเหลืออด “หากท่านพ่อไม่มีธุระอื่น ข้าขอไปพักแล้ว!”หัวใจหลิงเสียงเซิงอ้างว้าง หรือว่าต้องดูท่านอดีตเสนาบดีสูญเสียตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ตาปริบ ๆ งั้นหรือ?นี่คือการโจมตีหนักหน่วงทั้งครอบครัวพวกเขา!พอหวางซือเห็นหลิงอวี๋หมายไปพลันดึงหลิงเสียงเซิงไว้หลิงเสียงเซิงราวเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคว้าหลิงอวี๋ไว้“อาอวี๋ เจ้าคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของไทเฮากับท่านอ๋องเฉิงมิใช่หรือ?”“เจ้าทวงบุญคุณไทเฮาแนะนำหลิงเฟิงน้องชายเจ้าไปรับตำแหน่งราชการกรมกลาโหมเถอะ!”“อาอวี๋ แผลของท่านปู่เจ้ามิหายเร็ว ๆ นี้”“ตำแห