แชร์

บทที่ 296

ผู้เขียน: กานเฟย
ฮูหยินกวนเห็นผู้คุ้มกันคนหนึ่งวิ่งไป ก็กังวลมากจนคลานเข้ามาและจับกวนอิ่งคุกเข่าลง

กวนอิ่งยังคงไม่เต็มใจ แต่ฮูหยินกวนก็กดนางไว้แน่น มิให้ดิ้นหนีไปได้

“พระชายาอ๋องอี้ อิ่งเอ๋อร์คุกเข่าขออภัยท่านแล้ว โปรดยกโทษให้นางด้วยเถิด!”

“นายท่าน อิ่งเอ๋อร์เป็นห่วงท่านเช่นกัน ท่านโปรดช่วยอิ่งเอ๋อร์ขอความเมตตาด้วยเถิด!”

นายท่านกวนมองกวนอิ่งกับกวนซินอย่างเย็นชา หลานที่ไม่กตัญญูเช่นนี้จะมีประโยชน์อะไร?

เขาทำงานหนักเพื่อตระกูลกวน เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดี แต่กลับจะเอามีดมาแทงข้างหลังเขาหรือ?

สัตว์ร้ายเหล่านี้ คู่ควรต่อการวิงวอนของเขาเช่นนั้นหรือ?

ฮูหยินใหญ่กวนก็เข้ามาตัวสั่นเทาและขอร้องเช่นกัน

“นายท่าน เรามีหลานสองคนนี้เท่านั้น!”

“พวกเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านจึงได้ทำผิด ท่านเห็นแก่ความกตัญญูของพวกเขา ขอความเมตตาให้พวกเขาเถิด!”

“พระชายาอ๋องอี้ ข้าขอร้องให้ท่านปล่อยพวกเขาไป! หากคิดว่ายังมิเพียงพอ… ข้าจักคุกเข่าขออภัยเจ้าด้วย!”

ฮูหยินใหญ่กวนบอกจะคุกเข่า แต่ร่างกายของนางยังคงนิ่งอยู่

หลิงอวี๋แสร้งทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ยิน

ฮูหยินใหญ่กวนแอบมิพอใจ นางก็แค่พูดเท่านั้น เด็กผู้หญิงตัวเล็กอย่างหลิง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 297

    เมื่อท่านกวนเอ้อร์นึกถึงอันตรายเมื่อกี้ ก็รู้ว่าวิธีจัดการของหลิงอวี๋นั้นถูกต้องที่สุด!เขาทำความเคารพหลิงอวี๋อย่างสุภาพมาก "พระชายาอ๋องอี้ ขอบคุณสำหรับวันนี้! แซ่กวน,bสังเกต เกือบจะทำให้พระชายาบาดเจ็บ… แซ่กวนรู้สึกละอายใจแล้ว!""คำขอบคุณมิพอสำหรับบุญคุณ แซ่กวนจักตอบแทนบุญคุณของพระชายาในภายภาคหน้าเป็นแน่!"“พระชายาโปรดพยายามค้นคว้ายาแก้พิษให้ได้โดยเร็วที่สุดด้วยเถิด!”หลิงอวี๋พยักหน้า พลางเอ่ย "ท่านกวนเอ้อร์ เรื่องวันนี้ เขาวางแผนทั้งกับท่านและข้า!""ข้าแค่กลัวว่า แผนของพวกเขาล้มเหลวแล้วพวกเขาจะลองแผนอื่นอีก!"เมื่อคิดถึงว่านายท่านกวนต้องเอาร่างกายที่ป่วยของเขามาขอร้องเพื่อตระกูลกวน หลิงอวี๋ก็รู้สึกหนักใจนายท่านกวนใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ทางสายเลือด อยากให้โอกาสตระกูลกวนเป็นครั้งสุดท้ายแค่กลัวว่าตระกูลกวนจะไม่เพียงแต่ไม่เห็นค่าเท่านั้น แต่ยังจะทำให้แย่ลงอีกด้วย!ท่านกวนเอ้อร์มองนายท่านกวนด้วยสายตาจริงจังแม้ว่านายท่านกวนจะอารมณ์ไม่ดี แต่ก็ยังตื่นอยู่ เขาสบตาท่านกวนเอ้อร์ ครุ่นคิดอยู่นานพลางเอ่ย“ส่งพระชายาอ๋องอี้กลับกันก่อนเถิด!”นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนแล้วว่า เขาไม่อยากสนใ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 298

    “เกิดอะไรขึ้นกับพิษของนายท่าน?”เซียวหลินเทียนไม่มีเวลาทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เพิ่งมีโอกาสถามอย่างชัดเจนสิ่งที่เกิดขึ้นติดต่อกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้หลิงอวี๋รู้สึกว่าตกอยู่ในภาวะวิกฤต!นางเข้าใจว่าตนกับเซียวหลินเทียนก็ลงเรือลำเดียวกันเช่นกัน หากเซียวหลินเทียนไม่ดี นางก็ไม่ดีเช่นกัน!หลิงอวี๋มิได้ปิดบังอะไร บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้เซียวหลินเทียนรู้เซียวหลินเทียนได้ฟังก็ตกใจมาก นี่เป็นแผนการชั่วร้ายที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวทีเดียว!หากหลิงอวี๋มิได้มีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมและระงับพิษของนายท่านได้ทันเวลา ทั้งหลิงอวี๋และท่านกวนเอ้อร์คงติดกับดักในวันนี้ ถูกตระกูลกวนวางแผนให้ไม่มีโอกาสฟื้นตัวแล้ว!“นายท่านมิได้บอกว่าใครวางยาพิษเขาหรือ?”เซียวหลินเทียนถามพลางครุ่นคิดหลิงอวี๋ส่ายหัว "นายท่านบอกว่ามีคนในวังวางยาพิษเขา เขาสงสัยว่ากวนซินกับลูกชายของเขามีส่วนเกี่ยวข้อง!"“ยามนั้นเขาไม่ได้สติ สิ่งที่เขาอยากจะแสดงออกก็คือ คนในวังสั่ง ให้กวนซินกับลูกชายเขาวางยาพิษ!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ "นายท่านกวนมีพิษสองชนิดในร่างกายของเขา ชนิดหนึ่งคือพิษเฉียบพลัน และอีกชนิดคือพิษเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 299

    “องค์หญิงหกมิชอบกวนซิน แต่กวนซินชอบนางมาก ฮองเฮานี่คาดว่าต้องการตีสนิทตระกูลกวน จึงพยายามจับคู่อย่างเต็มที่! นางยังต้องการให้จักรพรรดิพระราชทานงานอภิเษกด้วยซ้ำ!”เซียวหลินเทียนคิดพลางเอ่ย "ได้ยินมาว่าองค์หญิงหกเกือบแขวนคอตายเพื่อต่อต้าน! สำหรับเรื่องนี้ ฮองเฮาถูกไทเฮาตำหนิอย่างหนักหนา!"หลิงอวี๋ตกตะลึง ทอดถอนใจพลางเอ่ย“ทะเลาะกันรุนแรงมาก! ดูเหมือนว่าองค์หญิงหกจักมีนิสัยใจร้อนมากด้วย!”นางฝังเข็มเสร็จแล้ว เอามันออก แล้วช่วยพยุงเซียวหลินเทียนพลิกตัวกลับ...แต่ในขณะนี้ ไม่รู้ว่ารถม้าชนเข้ากับอะไร รถม้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงหลิงอวี๋มิได้ตั้งตัว จึงสูญเสียการประคองตัวแล้วล้มลงบนตัวเซียวหลินเทียน...บังเอิญที่ทั้งสองชนกัน หน้าชนกัน ปากชนกัน...ริมฝีปากนุ่มเม้มเข้าหากัน...สัมผัสอันอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายทั้งสองทันที...หลิงอวี๋เบิกตาโต มองใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนอยู่ใกล้มาก ๆ อย่างตกใจ!ขนตาของเขายาว เคลื่อนไหวเบา ๆ...เหมือนพัดเล็ก ๆ พัดมาในใจของหลิงอวี๋หัวใจของนางเต้นแรง จ้องมองใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเซียวหลินเทียนอย่างเหม่อลอย ลืมที่จะลุกขึ้น...หัวใจของเซียวหลิน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 300

    กระทั่งกลับไปถึงเมืองหลวงก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วหลิงอวี๋ยังคงคิดที่จะไปตรวจท่านอดีตเสนาบดีที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนอีกครั้ง นางกลับไปที่เรือนบุหงาพร้อมกับหลิงซวนทานอาหารเย็นแบบเร่งรีบและวางแผนที่จะพาหลิงเยวี่ยไปด้วยเมื่อหลิงเยวี่ยได้ยินว่าสามารถไปเยี่ยมท่านอดีตเสนาบดีได้ ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ท่านแม่ เช่นนั้นข้าควรเอาของขวัญอันใดไปให้ท่านปู่ทวดดีหรือขอรับ? ข้าเอาหนังสติ๊กที่ลุงปี้ทำมาให้ไปดีหรือไม่?”หลิงอวี๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและบีบจมูกเล็ก ๆ ของหลิงเยวี่ย“ท่านปู่ทวดเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เล่นหนังสติ๊กแล้ว เจ้าเก็บไว้เล่นคนเดียวเถิด!”“เดี๋ยวแม่จักนำตำรับยาบำรุงร่างกายไปให้ก็พอแล้ว!”“แม่นม หากดึกเกินไป คืนนี้เรามิกลับมาที่ตำหนักอ๋องอี้แล้ว!”หลิงอวี๋บอกแม่นมลี่ "ประเดี๋ยวข้าจักไปบอกท่านอ๋อง!"แม่นมลี่พยักหน้าเห็นด้วย แล้วให้หลิงซินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หลิงเยวี่ยนี่เป็นการไปเยี่ยมจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนครั้งแรกของหลิงเยวี่ยนับตั้งแต่เขาเกิด ต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้กับท่านอดีตเสนาบดีเสียหน่อยหลิงอวี๋ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน แล้วก็พาทั้งสามคนไปที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนสา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 301

    สายตาท่านอดีตเสนาบดีมองหลิงอวี๋อย่างเฉยชาแฉลบผ่านยังดวงหน้าน้อย ๆ ละเอียดอ่อนของหลิงเยวี่ย พลางหยุดลงบนรอยแผลที่หน้าหลิงอวี๋ในที่สุดหลิงอวี๋เดาออกว่าท่านอดีตเสนาบดีมีความเคืองโกรธในใจเลยไม่อยากให้อภัยตัวเองง่าย ๆ เยี่ยงนี้นางเดินไปหน้าเตียงพลันคุกเข่าลงดังตุ้บครั้นหลิงเยวี่ยเห็นแม่คุกเข่าก็คุกเข่าลงตามเช่นกัน“ท่านปู่ อาอวี๋รู้ผิดแล้ว! เมื่อนั้นอาอวี๋กระทำอันใดตามใจ ทำท่านปู่ปวดใจแล้วเจ้าค่ะ!”“อาอวี๋กลับตัวกลับใจแล้วต่อไปจักมิทำเรื่องโง่เขลาอีกเจ้าค่ะ! โปรดท่านปู่ให้โอกาสอาวี๋อีกสักครั้ง!”หลิงอวี๋โขกหัวคำนับให้ท่านอดีตเสนาบดีอย่างฝืนกลั้นน้ำตา!ช่วงเวลาล่อแหลมในงานพระราชสมภพวันนั้นเป็นท่านอดีตเสนาบดีคุกเข่าอ้อนวอนจักรพรรดิให้โอกาสตนชี้แจงเท็จจริงหลิงอวี๋จำเรื่องนี้ได้เสมอ แม้นางมิชอบพิธีคนโบราณเอะอะอะไรก็โขกหัวโขก ๆแต่โขกหัวคำนับให้ท่านอดีตเสนาบดี หลิงอวี๋ก็ยินดีเต็มใจ!“ท่านตาทวด ท่านให้โอกาสท่านแม่ข้าสักครั้งเถิดขอรับ! ต่อไปนางจะเชื่อฟังท่านแน่นอน!”“ภายหน้าเยวี่ยเยวี่ยจะเอาของอร่อย ๆ มาให้ท่าน!”หลิงเยวี่ยปวดใจต่อมารดาตน ดวงตาโตมองปริบ ๆ อย่างบ้องแบ๊วพลางมองท่านอด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 302

    ท่านอดีตเสนาบดีมองหลิงอวี๋พลางถาม “อาอวี๋ เจ้ามีแผนอันใดต่อไป? จักใช้ชีวิตกับเซียวหลินเทียนอยู่หรือไม่?”หลังเรื่องในรถม้าที่เซียวหลินเทียนผลักหลิงอวี๋ นางก็หมดความคิดที่จะอยู่กับเซียวหลินเทียนโดยสิ้นเชิง“ท่านปู่เจ้าคะ ก่อนหน้าข้าพูดเรื่องหย่ากับเซียวหลินเทียนแล้ว เขารับปากแล้วเจ้าค่ะ!”“เรารอเมื่อเวลาเหมาะสม ขอร้ององค์จักรพรรดิเห็นด้วยจึงหย่าร้างเจ้าค่ะ!”ท่านอดีตเสนาบดีนับว่าพอใจแล้วพลางพยักหน้า“ทนไม่ไหวก็หย่า จวนเสนาบดีหลังนี้ตราบใดที่มีปู่ก็คือจวนของเจ้าตลอดไป!”หลังหลิงอวี๋หย่าร้างไม่สนย้ายกลับจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนสักกระผีก แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากเถียงกับท่านอดีตเสนาบดี ถึงคราวนั้นค่อยว่ากันเถอะ!“ท่านปู่ ท่านล้มเจ็บเองจริงหรือไม่? หากท่านถูกคนทำร้าย เช่นนั้นข้าก็มีสิทธิ์รู้…”หลิงอวี๋เป็นห่วงปัญหาข้อนี้พลันถามร้อนใจท่านอดีตเสนาบดีถามว่า “เจ้าตอบคำถามข้าก่อน วิชาแพทย์ของเจ้ารักษาขาของเซียวหลินเทียนหายได้หรือไม่?”หลิงอวี๋เชื่อใจท่านอดีตเสนาบดีสุดจิตสุดใจพลันกล่าวอย่างเชื่อมั่น“หากทั่วหล้านี้มีคนรักษาขาเซียวหลินเทียนหาย นั่นคงมีแค่ข้า!”สีหน้าท่านอดีตเสนาบดีเคร่งขรึมพลางเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 303

    หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องที่เซียวหลินเทียนพูดว่า หลิงเสียงเซิงหมายเอาหลิงเยี่ยนออกเรือนเป็นชายารองอีกครั้งก็ตื่นตัวขึ้นพ่อนิสัยแย่คนนี้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง!ผู้ใดจะรู้ว่าพอบอกความจริงเขาแล้ว เขาจะไม่ทรยศหักหลังเซียวหลินเทียนกัน?ตอนนี้หลิงอวี๋ยังเป็นชายาอ๋องอี้ เซียวหลินเทียนถือว่าเป็นที่พึ่งของตนเหมือนกัน นางไม่อาจปล่อยเซียวหลินเทียนกลายเป็นหนามยอกอกขององค์ชายเว่ยกับคนอื่น ๆ ได้!หลิงอวี๋พูดว่า “ท่านพ่อ พวกเราเป็นคนกันเอง ข้ามิปิดบังท่าน! แม้วิชาแพทย์ข้าเหนือคน แต่ก็มีโรคบางอย่างรักษามิได้!”“ขาของท่านอ๋องอี้ ข้าไร้วิธีช่วยเขารักษาหายแล้ว!”ใบหน้าหลิงเสียงเซิงเผยความสิ้นหวังชัดเจน ในตาฉายความระอาแววหนึ่งหลิงอวี๋มองอารมณ์นัยน์ตาของหลิงเสียงเซิง แต่กลับแสร้งไม่เห็นพลางยิ้มกล่าว“ท่านพ่อ ท่านห่วงใยท่านอ๋องอี้เช่นนี้ อาอวี๋ปลื้มใจนักหนา!”หน้าของหลิงเสียงเซิงกระตุก เขาไม่ได้ห่วงใยสุขภาพเซียวหลินเทียนเถอะ!เขาพะวงว่าเซียวหลินเทียนจะยืนได้และกลับมาเป็นผู้บัญชาการกองทัพอีกครั้งหรือไม่!หากเซียวหลินเทียนยืนมิได้ก็เป็นแค่ของไร้ประโยชน์ เขาจะสนใจของไร้ประโยชน์หาปะไร!“อาอวี๋ เมื่อก่อน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 304

    หลิงอวี๋ตั้งอาจารย์ขึ้นมัว ๆ เมื่อเห็นหวางซือสนใจที่ตนถูกพิษขนาดนี้ นางยิ่งมั่นใจว่าการถูกพิษของตนไม่พ้นเกี่ยวข้องกับหวางซือหรอก!หลิงอวี๋ขบคิดพลางกล่าว“ข้าถูกพิษชนิดที่เรียกว่าอินทรีดำ อาจารย์ข้าถอนให้ข้าครึ่งเดียว นางพูดว่าระยะเวลาถูกพิษของข้านานเกินไปทำตับเสียหายแล้วเจ้าค่ะ!”“เดิมทีอาจารย์ข้ากล่าวว่าข้ามีชีวิตได้แค่ครึ่งปี! แต่ตอนนี้อยู่ได้หลายปีแล้วเจ้าค่ะ!”หวางซือปรายมองเล็กน้อย แสร้งเป็นพูดเคือง“ทั้งหมดนี้เป็นขี้ข้าต่ำช้าสองคนนั้นทำชั่ว! พวกนางสมควรถูกถลกหนังทั้งเป็น!”จากนั้นหวางซือก็เปลี่ยนประเด็น จ้องหลิงอวี๋เอ่ยอีกว่า“อาอวี๋ เจ้ารู้เรื่องหรือไม่? เมื่อก่อนแม่เจ้ารู้จักซือคงชวิ่นปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์!”“วิชาแพทย์ซือคงชวิ่นเหนือชั้น เป็นหมอชั้นเซียนชั่วอายุคน ว่ากันว่าเวลานั้นเขาเก็บตำราแพทย์ไว้เล่มหนึ่ง…”“หากเจ้าได้มันมา พิษของเจ้าถอนได้แน่! ขาท่านอ๋องอี้ก็จะมีทางรักษาหายเช่นกัน!”“ตำราแพทย์? ซือคงชวิ่น?”หลิงอวี๋ตะลึงชั่วขณะ คาดไม่ถึงว่าหลานฮุ่ยจวนผู้เป็นมารดาจะรู้จักซือคงชวิ่นหมอเลื่องชื่อ?“อาอวี๋ เจ้ามิรู้เรื่องนี้หรือ?”หวางซือมองในตาเป๋อเหลอของหลิงอวี๋ คว

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1898

    เผยอวี้เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ เมืองหลวงแดนเทพที่เจริญรุ่งเรืองราวกับคนบ้านนอก ทำเอาเขาอดมิได้ที่จะถอนหายใจ“มิแปลกใจที่ทุกคนล้วนพูดว่าเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรือง เพราะที่นี่เจริญจริง ๆ ดังคำกล่าว นายท่านอู่ เมืองหลวงแดนเทพแห่งนี้ใหญ่กว่าเมืองหลวงในฉินตะวันตกของพวกเราหลายเท่านัก!”เซียวหลินเทียนวางแผนใช้คำในชื่อจักรพรรดิเซิ่งอู่ของตนเป็นแซ่ ดังนั้น เผยอวี้และคนอื่น ๆ จึงได้เปลี่ยนมาเรียกเซียวหลินเทียนว่านายท่านอู่หานอวี้กับเถาจื่อและคนอื่น ๆ ที่ได้รีบมารวมตัวกับกลุ่มของเซียวหลินเทียนต่างพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบ ๆทว่าเซียวหลินเทียนกลับรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา เมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองแล้วอย่างไร?หากไม่มีหลิงอวี๋อยู่เคียงข้าง มิว่าทิวทัศน์จะสวยงามเพียงใดมันก็ไร้ประโยชน์ยิ่งเมืองหลวงแดนเทพเจริญรุ่งเรืองและมีขนาดใหญ่มากเท่าไร การตามหาหลิงอวี๋ก็จะยิ่งยากมากเท่านั้นท่ามกลางฝูงชนมหาศาลนี้เขาจะหาตัวหลิงอวี๋ของเขาพบได้อย่างไร?ฉินซาน หานเหมยและสือหรงล่วงหน้ากันไปก่อน ในช่วงที่ยังสร้างตำหนักปีกเงินแห่งใหม่มิเสร็จนี้ ทั้งสามคนได้ซื้อที่ดินใหญ่ที่มีหกส่วนเพื่อให้ทุกคนใช้เป็นที่อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1897

    หลิงอวี๋เห็นด้วยกับผู้รอบรู้ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นสงสัยว่านางกับผู้รอบรู้มิใช่พี่น้องกันแท้ ๆ นางจึงเปลี่ยนแซ่ของตนเป็นแซ่เดียวผู้รอบรู้และใช้นามว่า สิงอวี๋วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋ไปที่ห้องโถงหลักของหอโอสถซ่างกู่เพื่อลงทะเบียน ที่ทางเข้าหอโอสถซ่างกู่นั้นมีทั้งบุรุษและสตรีต่อแถวยาวเป็นหางว่าวหลิงอวี๋รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเมื่อเห็นแถวยาวถึงเพียงนี้ ต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไรกว่าตนจะได้ลงทะเบียนเล่านี่!แต่เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เพื่ออนาคตของตนในวันข้างหน้า นางก็ทำได้เพียงต่อแถวต่อไปอย่างว่าง่ายเท่านั้นคุณหนูและนายน้อยบางส่วนมิได้มาด้วยตนเอง แต่ส่งสาวใช้และคนรับใช้ไปต่อแถวให้เด็กสาวท่าทางเหมือนคุณหนูที่อยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา“แม้แต่มาต่อแถวก็ยังไม่มีความจริงใจ แต่กลับอยากเป็นศิษย์ของอาจารย์เย่น่ะหรือ คนเช่นนี้สมควรถูกปัดตกไปเสีย!”สาวใช้ด้านหน้าหลิงอวี๋ที่มาต่อแถวแทนเจ้านายได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างดูถูกว่า “ไม่มีใครตั้งกฎว่าห้ามสาวใช้มาต่อแถวให้นี่! ตระกูลเหลยของท่านขัดสนมากจนไม่มีเงินจ้างสาวใช้หรืออย่างไร?”เหลยเหวินโกรธจัดและตะโ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1896

    หลิงอวี๋มิได้ถือโทษผู้รอบรู้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่มิต้องกังวลไป กินข้าวกันก่อนเถิด ท่านซื้อตำรับกลั่นโอสถมิได้ก็ช่างมัน ข้ามีที่เรียนแล้ว!”ในขณะที่กำลังกินข้าวหลิงอวี๋ก็เล่าให้ผู้รอบรู้ฟังว่าสำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตวิชาปรุงโอสถ“วันพรุ่งข้าจะไปลงทะเบียน หากข้าได้ที่หนึ่ง ข้าก็จะได้เรียนวิชาปรุงโอสถโดยมิต้องเสียเงินแม้แต่แดงเดียว!”แต่แม้จะมิได้ที่หนึ่งหลิงอวี๋ก็คิดว่าตนสามารถหาเงินห้าหมื่นอีแปะจากการขายตำรับยาเพียงมิกี่เล่ม นางจึงมิได้เก็บมาใส่ใจ“พี่ใหญ่ ตอนที่ลงทะเบียนมีปรมาจารย์ให้เลือกเรียนด้วยสองคน ข้ามิรู้ว่าควรจะเลือกปรมาจารย์คนไหน วันพรุ่งท่านช่วยไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนิสัยของแต่ละคนให้ข้าหน่อยนะ!”เมื่อผู้รอบรู้ได้ยินว่า นักปรุงโอสถแห่งหอโอสถไป๋เป่าและซ่างกู่จะรับหน้าที่เป็นครู เขาก็พูดโดยมิลังเลว่า “มิจำเป็นต้องไปสอบถามหรอก เลือกครูของหอโอสถซ่างกู่สิ!”“เพราะเหตุใดหรือ?” หลิงอวี๋ถามด้วยความอยากรู้ผู้รอบรู้ยิ้มหยัน “คนของหอโอสถไป๋เป่าเหล่านั้นเป็นพวกยโสชอบดูถูกคนอื่น! เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังหอโอสถของพวกเขาคือฮูหยินของเจ้าแห่งทะเลของตระกูลหลงอย่างไรเล่า!”“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1895

    เมื่อเห็นบรรยากาศที่แสนจะคึกคัก หลิงอวี๋ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นนางเห็นประกาศว่า สำนักศึกษาชิงหลงกำลังรับสมัครบัณฑิตในหลายสาย เช่น สายนักปรุงโอสถ สายนักสร้างอาวุธ สายนักทำนายดวงดาว สายนักอัญเชิญ และสายจอมยุทธ์ ขณะที่หลิงอวี๋กำลังอ่านประกาศ นางก็ได้ยินผู้คนรอบ ๆ พูดคุยกันจากบทสนทนาของพวกเขา ทำให้หลิงอวี๋ได้รู้ว่า สำนักศึกษาชิงหลงนั้นอยู่ในการดำเนินงานของราชสำนักซึ่งให้การศึกษาด้านการฝึกฝนในระดับสูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นครูคือปรมาจารย์ที่โดดเด่นในด้านต่าง ๆ หากมีบัณฑิตที่มีความเป็นเลิศประจักษ์แก่สายตาของอาจารย์เหล่านี้ พวกเขาก็สามารถรับเป็นศิษย์และเข้าร่วมกับกองทัพของราชสำนัก หรือสำนักใหญ่ ๆ ได้แดนเทพเปิดกว้างมากเรื่องความแตกต่างระหว่างบุรุษและสตรี สตรีนั้นสามารถเข้ามาร่ำเรียนในสำนักศึกษาและได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับบัณฑิตชายหลิงอวี๋รู้สึกถูกใจในสิ่งที่ได้เห็น การที่ได้ไปร่ำเรียนในสำนักศึกษาเช่นนี้ จะทำให้ตนเข้าใจการปรุงโอสถได้ง่ายขึ้น ดีกว่าลองผิดลองถูกมิใช่หรือ?นางตั้งใจอ่านอีกครั้ง ข้อกำหนดในการลงทะเบียนมิได้เข้มงวดเกินไป และใช้เงินเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้นในการลงทะเบี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1894

    หลิงอวี๋และผู้รอบรู้ได้มาถึงเมืองหลวงแดนเทพ เหมือนกับที่ผู้รอบรู้บอก เมืองหลวงแดนเทพเต็มไปด้วยโอกาสเพราะที่นี่มีผู้บำเพ็ญตนมากมายและเต็มไปด้วยกลุ่มคนน้อยใหญ่อยู่ทั่วทุกหนแห่งหลิงอวี๋เองก็รู้สึกทึ่งกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแดนเทพ มีร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุมและสินค้าที่ขายก็มีความหลากหลายแปลกตาและสวยงามเช่นเดียวกัน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหลวงแดนเทพก็มีราคาแพงสองวันแรกทั้งสองคนพักที่โรงเตี๊ยมเล็ก ๆ บริเวณชานเมือง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคืนละห้าสิบตำลึงเงินหลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดผู้รอบรู้ก็ได้ซื้อเรือนเล็ก ๆ ของตรอกเล็กในเมืองที่อยู่ไกลออกไปโดยใช้เงินไปเกือบสามหมื่นนี่เทียบเท่ากับการใช้สมบัติของหลิงอวี๋ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รอบรู้รู้สึกปวดใจอยู่นานแต่หลิงอวี๋พอใจแล้ว การซื้อเรือนเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ในราคาต่ำเช่นนี้ ถือว่าผู้รอบรู้ก็มีความสามารถ มิเช่นนั้น หากดูตามราคาตลาด เรือนแห่งนี้อาจมีราคาสูงถึงห้าหมื่นด้วยซ้ำ“พี่ใหญ่ เงินหมดก็หาใหม่ได้ มิต้องเสียใจไปหรอก พวกเรามีบ้านแล้วก็สามารถหาอาชีพทำมาหากินได้”หลิงอวี๋พูดปลอบอีกฝ่ายด้วยความมั่นใจเรือนเล็กนี้รวมห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1893

    เมื่อครอบครัวของเจี่ยงหัวกลับมาที่เรือ พวกเขาก็พบศพไร้หัวในห้องของเขา มีคราบเลือดยาวบนผนังไม้ของห้องโดยสาร ซึ่งเป็นประโยคที่ถูกสลักด้วยกระบี่อาบเลือด“จุดจบของคนทรยศ!”ครอบครัวของเจี่ยงหัวตกใจกลัวมากจนสละเรือและหนีไปในคืนนั้นพวกเขามิรู้ว่าที่จริงแล้วเซียวหลินเทียนมิคิดจะเอาผิดพวกเขา ทุกคนควรรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และการสังหารเจี่ยงหัวนั้นก็เพียงพอแล้วเซียวหลินเทียนส่งศีรษะของเจี่ยงหัวให้สือหรง ทันใดนั้นสือหรงก็ร้องไห้เศร้าโศกและนำศีรษะของเจี่ยงหัวไปเซ่นให้กับครอบครัวของตนหลังจากนั้น สือหรงก็กระทำการบางอย่าง เขาเขียนจดหมายเลือดเรื่องที่เจี่ยงหัวสมคบคิดกับมหาปราชญ์สังหารเหล่าศิษย์ของตำหนักปีกเงิน และคัดลอกสำเนาไปหลายสิบฉบับภายในคืนเดียววันรุ่งขึ้น ที่ประตูเมืองในพื้นที่นั้นมีพ่อค้าจำนวนมากกำลังต่อแถวรอเข้าเมือง แล้วก็มีคนพบศีรษะของเจี่ยงหัวที่แขวนอยู่บนกำแพงเมือง และยังมีจดหมายเลือดที่สือหรงเป็นคนเขียน ซึ่งเขียนประณามความผิดของเจี่ยงหัวขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันเรื่องนี้ ก็มีจดหมายเลือดมากมายปลิวลงมาจากกำแพงเมืองทันใดนั้นความผิดฐานทรยศอาจารย์และสมคบคิดกับมหาปราชญ์ของเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1892

    หลังจากได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น หลิงอวี๋ก็คิดว่าเซียวหลินเทียนเป็นปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วสารพัดและสังหารผู้คนเป็นผักปลาแต่หลิงอวี๋กลับมิรู้เลยว่ามหาปราชญ์เป็นผู้สั่งให้คนบิดเบือนและแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปหลังจากที่เขากลับไปถึงเมืองหลวงแดนเทพเซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินนั้นคนหนึ่งทำให้มหาปราชญ์ตาบอด และอีกคนก็ตัดแขนข้างหนึ่งของมหาปราชญ์ มหาปราชญ์จะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรหากเขามิแก้แค้น!เขาทำให้เซียวหลินเทียนและหวงฝู่หลินเสียชื่อเสียงและทำให้ผู้คนทั่วหล้าลุกขึ้นมาโจมตีพวกเขา ส่วนมหาปราชญ์ใช้โอกาสนี้พักฟื้นและหาโอกาสเหมาะเพื่อช่วงชิงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคือ กระบี่คุณอู่ของเซียวหลินเทียนอีกครั้งมหาปราชญ์มิได้บอกใครเกี่ยวกับการค้นพบกระบี่อายุนับพันปีเล่มนี้ ด้วยคิดว่ากระบี่เล่มนี้เป็นของตน จึงมิอยากให้ใครมาแย่งชิงมันไปการแพร่กระจายข่าวลือเป็นหนึ่งในอุบายของมหาปราชญ์ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและป้องกันมิให้เขาพบกับเหล่าศิษย์จากตำหนักปีกเงินซึ่งเป็นไปตามคาดว่าข่าวลือนั้นแพร่กระจายไปยังวงกว้างด้วยความรวดเร็วบรรดาศิษย์ตำหนักปีกเงินบางส่วนที่กระจายอยู่ตามสถาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1891

    ผู้รอบรู้ซาบซึ้งจนน้ำตาแทบไหล เมื่อไรกันที่เขาได้รับความเชื่อใจจากใครบางคนมากมายถึงเพียงนี้!หลิงอวี๋พูดไปตามตรง “พี่ใหญ่ มีเรื่องบางอย่างที่ตอนนี้ข้ายังบอกท่านมิได้ มิใช่ว่าข้ามิไว้ใจท่าน แต่หากพูดไปแล้วมันอาจสร้างปัญหามากมายให้ท่านได้!”“เชื่อใจข้าเถิด สักวันข้าจะเล่าให้ท่านฟังทุกอย่าง!”ผู้รอบรู้มองตั๋วเงินในมือของตนพลางพูดอย่างใจกว้างว่า “ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเอง หากเจ้ามิอยากพูดก็มิต้องพูดหรอก พี่ใหญ่เชื่อใจเจ้า!”หลิงอวี๋ถึงกับยอมมอบของมีค่าทั้งหมดให้กับตนเช่นนี้ แม้จะมีความลับปิดบังต่อตนผู้รอบรู้ก็ย่อมยอมรับได้ขอแค่เขาเชื่อใจว่าหลิงอวี๋ไม่มีเจตนาร้ายก็พอแล้วสองพี่น้องพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน ต่อมาในวันรุ่งขึ้นที่ฟ้ายังมิสว่าง ผู้รอบรู้ก็รีบรุดไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคันโชคดีที่รถม้าเพิ่งส่งผู้โดยสารเพื่อขึ้นเรือไป ผู้รอบรู้จึงได้เช่ารถม้ามาในราคาสิบตำลึงส่วนหลิงอวี๋นั้นเพิ่งตื่น และผู้รอบรู้ก็วิ่งเข้ามาเคาะประตูด้วยความลิงโลด “น้องชาย รีบลุกเถิด พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว! รถม้ากำลังรออยู่ข้างนอก”หลิงอวี๋รีบอาบน้ำแต่งตัวและแบกห่อผ้าของตนออกมา ผู้รอบรู้ยัดถุงกระดาษไขใบห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1890

    ผู้รอบรู้พูดมิออกแล้ว หลิงอวี๋มิรู้อะไรเลย แล้วจะจ่ายยาที่ถูกต้องได้อย่างไร!“พี่สิง ข้าอยากรู้มากว่าท่านรู้เรื่องมากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าผู้รอบรู้ลำบากใจ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ก่อนหน้านี้ท่านเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงแดนเทพหรือ?”ใบหน้าของผู้รอบรู้กระตุก เขาหันมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงเอ่ยขึ้นมา “ข้าจะพูดกับเจ้าตามตรง เมื่อก่อนข้าเป็นคนของตำหนักปีกเงิน ข้าเป็นคนของเจี่ยงฮั๋วผู้พิทักษ์ฝ่ายขวา เมื่อสองปีก่อนข้าทำงานพลาดไป ทำให้เจี่ยงฮั๋วโกรธ เขาจึงไล่ข้าออกจากตำหนักปีกเงิน!”“ก่อนหน้านี้ข้าก็ยังคิดจะหาโอกาสขอพบท่านเจ้าตำหนักเก่า แล้วกลับไปที่ตำหนักปีกเงินอีกครั้ง แต่ตอนนี้ตำหนักปีกเงินเสื่อมโทรมลงไปแล้ว ได้ยินว่าเจ้าตำหนักเก่าป่วยหนักและมิรับงานแล้ว ข้าจึงได้เร่ร่อนอยู่ข้างนอกตลอดเช่นนี้!”“คนที่ออกมาจากตำหนักปีกเงินล้วนเก่งในการสืบหาข้อมูล แม้ว่าข้าจะออกจากตำหนักปีกเงินไปแล้ว แต่ข้าก็เคยชินกับสัญชาตญาณนี้ ดังนั้นข้าจึงใส่ใจกับข้อมูลแต่ละประเภทมาก อยากจะรู้มากแค่ไหนก็มิยาก!”หลิงอวี๋จึงได้รู้ว่าผู้รอบรู้ก็เป็นคนที่มีภูมิหลังเช่นก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status