ฮูหยินกวนเห็นผู้คุ้มกันคนหนึ่งวิ่งไป ก็กังวลมากจนคลานเข้ามาและจับกวนอิ่งคุกเข่าลง กวนอิ่งยังคงไม่เต็มใจ แต่ฮูหยินกวนก็กดนางไว้แน่น มิให้ดิ้นหนีไปได้“พระชายาอ๋องอี้ อิ่งเอ๋อร์คุกเข่าขออภัยท่านแล้ว โปรดยกโทษให้นางด้วยเถิด!”“นายท่าน อิ่งเอ๋อร์เป็นห่วงท่านเช่นกัน ท่านโปรดช่วยอิ่งเอ๋อร์ขอความเมตตาด้วยเถิด!”นายท่านกวนมองกวนอิ่งกับกวนซินอย่างเย็นชา หลานที่ไม่กตัญญูเช่นนี้จะมีประโยชน์อะไร?เขาทำงานหนักเพื่อตระกูลกวน เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดี แต่กลับจะเอามีดมาแทงข้างหลังเขาหรือ?สัตว์ร้ายเหล่านี้ คู่ควรต่อการวิงวอนของเขาเช่นนั้นหรือ?ฮูหยินใหญ่กวนก็เข้ามาตัวสั่นเทาและขอร้องเช่นกัน“นายท่าน เรามีหลานสองคนนี้เท่านั้น!”“พวกเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านจึงได้ทำผิด ท่านเห็นแก่ความกตัญญูของพวกเขา ขอความเมตตาให้พวกเขาเถิด!”“พระชายาอ๋องอี้ ข้าขอร้องให้ท่านปล่อยพวกเขาไป! หากคิดว่ายังมิเพียงพอ… ข้าจักคุกเข่าขออภัยเจ้าด้วย!”ฮูหยินใหญ่กวนบอกจะคุกเข่า แต่ร่างกายของนางยังคงนิ่งอยู่หลิงอวี๋แสร้งทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ยินฮูหยินใหญ่กวนแอบมิพอใจ นางก็แค่พูดเท่านั้น เด็กผู้หญิงตัวเล็กอย่างหลิง
เมื่อท่านกวนเอ้อร์นึกถึงอันตรายเมื่อกี้ ก็รู้ว่าวิธีจัดการของหลิงอวี๋นั้นถูกต้องที่สุด!เขาทำความเคารพหลิงอวี๋อย่างสุภาพมาก "พระชายาอ๋องอี้ ขอบคุณสำหรับวันนี้! แซ่กวน,bสังเกต เกือบจะทำให้พระชายาบาดเจ็บ… แซ่กวนรู้สึกละอายใจแล้ว!""คำขอบคุณมิพอสำหรับบุญคุณ แซ่กวนจักตอบแทนบุญคุณของพระชายาในภายภาคหน้าเป็นแน่!"“พระชายาโปรดพยายามค้นคว้ายาแก้พิษให้ได้โดยเร็วที่สุดด้วยเถิด!”หลิงอวี๋พยักหน้า พลางเอ่ย "ท่านกวนเอ้อร์ เรื่องวันนี้ เขาวางแผนทั้งกับท่านและข้า!""ข้าแค่กลัวว่า แผนของพวกเขาล้มเหลวแล้วพวกเขาจะลองแผนอื่นอีก!"เมื่อคิดถึงว่านายท่านกวนต้องเอาร่างกายที่ป่วยของเขามาขอร้องเพื่อตระกูลกวน หลิงอวี๋ก็รู้สึกหนักใจนายท่านกวนใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์ทางสายเลือด อยากให้โอกาสตระกูลกวนเป็นครั้งสุดท้ายแค่กลัวว่าตระกูลกวนจะไม่เพียงแต่ไม่เห็นค่าเท่านั้น แต่ยังจะทำให้แย่ลงอีกด้วย!ท่านกวนเอ้อร์มองนายท่านกวนด้วยสายตาจริงจังแม้ว่านายท่านกวนจะอารมณ์ไม่ดี แต่ก็ยังตื่นอยู่ เขาสบตาท่านกวนเอ้อร์ ครุ่นคิดอยู่นานพลางเอ่ย“ส่งพระชายาอ๋องอี้กลับกันก่อนเถิด!”นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนแล้วว่า เขาไม่อยากสนใ
“เกิดอะไรขึ้นกับพิษของนายท่าน?”เซียวหลินเทียนไม่มีเวลาทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เพิ่งมีโอกาสถามอย่างชัดเจนสิ่งที่เกิดขึ้นติดต่อกันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้หลิงอวี๋รู้สึกว่าตกอยู่ในภาวะวิกฤต!นางเข้าใจว่าตนกับเซียวหลินเทียนก็ลงเรือลำเดียวกันเช่นกัน หากเซียวหลินเทียนไม่ดี นางก็ไม่ดีเช่นกัน!หลิงอวี๋มิได้ปิดบังอะไร บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้เซียวหลินเทียนรู้เซียวหลินเทียนได้ฟังก็ตกใจมาก นี่เป็นแผนการชั่วร้ายที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวทีเดียว!หากหลิงอวี๋มิได้มีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยมและระงับพิษของนายท่านได้ทันเวลา ทั้งหลิงอวี๋และท่านกวนเอ้อร์คงติดกับดักในวันนี้ ถูกตระกูลกวนวางแผนให้ไม่มีโอกาสฟื้นตัวแล้ว!“นายท่านมิได้บอกว่าใครวางยาพิษเขาหรือ?”เซียวหลินเทียนถามพลางครุ่นคิดหลิงอวี๋ส่ายหัว "นายท่านบอกว่ามีคนในวังวางยาพิษเขา เขาสงสัยว่ากวนซินกับลูกชายของเขามีส่วนเกี่ยวข้อง!"“ยามนั้นเขาไม่ได้สติ สิ่งที่เขาอยากจะแสดงออกก็คือ คนในวังสั่ง ให้กวนซินกับลูกชายเขาวางยาพิษ!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ "นายท่านกวนมีพิษสองชนิดในร่างกายของเขา ชนิดหนึ่งคือพิษเฉียบพลัน และอีกชนิดคือพิษเ
“องค์หญิงหกมิชอบกวนซิน แต่กวนซินชอบนางมาก ฮองเฮานี่คาดว่าต้องการตีสนิทตระกูลกวน จึงพยายามจับคู่อย่างเต็มที่! นางยังต้องการให้จักรพรรดิพระราชทานงานอภิเษกด้วยซ้ำ!”เซียวหลินเทียนคิดพลางเอ่ย "ได้ยินมาว่าองค์หญิงหกเกือบแขวนคอตายเพื่อต่อต้าน! สำหรับเรื่องนี้ ฮองเฮาถูกไทเฮาตำหนิอย่างหนักหนา!"หลิงอวี๋ตกตะลึง ทอดถอนใจพลางเอ่ย“ทะเลาะกันรุนแรงมาก! ดูเหมือนว่าองค์หญิงหกจักมีนิสัยใจร้อนมากด้วย!”นางฝังเข็มเสร็จแล้ว เอามันออก แล้วช่วยพยุงเซียวหลินเทียนพลิกตัวกลับ...แต่ในขณะนี้ ไม่รู้ว่ารถม้าชนเข้ากับอะไร รถม้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงหลิงอวี๋มิได้ตั้งตัว จึงสูญเสียการประคองตัวแล้วล้มลงบนตัวเซียวหลินเทียน...บังเอิญที่ทั้งสองชนกัน หน้าชนกัน ปากชนกัน...ริมฝีปากนุ่มเม้มเข้าหากัน...สัมผัสอันอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายทั้งสองทันที...หลิงอวี๋เบิกตาโต มองใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนอยู่ใกล้มาก ๆ อย่างตกใจ!ขนตาของเขายาว เคลื่อนไหวเบา ๆ...เหมือนพัดเล็ก ๆ พัดมาในใจของหลิงอวี๋หัวใจของนางเต้นแรง จ้องมองใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเซียวหลินเทียนอย่างเหม่อลอย ลืมที่จะลุกขึ้น...หัวใจของเซียวหลิน
กระทั่งกลับไปถึงเมืองหลวงก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วหลิงอวี๋ยังคงคิดที่จะไปตรวจท่านอดีตเสนาบดีที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนอีกครั้ง นางกลับไปที่เรือนบุหงาพร้อมกับหลิงซวนทานอาหารเย็นแบบเร่งรีบและวางแผนที่จะพาหลิงเยวี่ยไปด้วยเมื่อหลิงเยวี่ยได้ยินว่าสามารถไปเยี่ยมท่านอดีตเสนาบดีได้ ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข“ท่านแม่ เช่นนั้นข้าควรเอาของขวัญอันใดไปให้ท่านปู่ทวดดีหรือขอรับ? ข้าเอาหนังสติ๊กที่ลุงปี้ทำมาให้ไปดีหรือไม่?”หลิงอวี๋อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและบีบจมูกเล็ก ๆ ของหลิงเยวี่ย“ท่านปู่ทวดเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่เล่นหนังสติ๊กแล้ว เจ้าเก็บไว้เล่นคนเดียวเถิด!”“เดี๋ยวแม่จักนำตำรับยาบำรุงร่างกายไปให้ก็พอแล้ว!”“แม่นม หากดึกเกินไป คืนนี้เรามิกลับมาที่ตำหนักอ๋องอี้แล้ว!”หลิงอวี๋บอกแม่นมลี่ "ประเดี๋ยวข้าจักไปบอกท่านอ๋อง!"แม่นมลี่พยักหน้าเห็นด้วย แล้วให้หลิงซินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หลิงเยวี่ยนี่เป็นการไปเยี่ยมจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนครั้งแรกของหลิงเยวี่ยนับตั้งแต่เขาเกิด ต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้กับท่านอดีตเสนาบดีเสียหน่อยหลิงอวี๋ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นกัน แล้วก็พาทั้งสามคนไปที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนสา
สายตาท่านอดีตเสนาบดีมองหลิงอวี๋อย่างเฉยชาแฉลบผ่านยังดวงหน้าน้อย ๆ ละเอียดอ่อนของหลิงเยวี่ย พลางหยุดลงบนรอยแผลที่หน้าหลิงอวี๋ในที่สุดหลิงอวี๋เดาออกว่าท่านอดีตเสนาบดีมีความเคืองโกรธในใจเลยไม่อยากให้อภัยตัวเองง่าย ๆ เยี่ยงนี้นางเดินไปหน้าเตียงพลันคุกเข่าลงดังตุ้บครั้นหลิงเยวี่ยเห็นแม่คุกเข่าก็คุกเข่าลงตามเช่นกัน“ท่านปู่ อาอวี๋รู้ผิดแล้ว! เมื่อนั้นอาอวี๋กระทำอันใดตามใจ ทำท่านปู่ปวดใจแล้วเจ้าค่ะ!”“อาอวี๋กลับตัวกลับใจแล้วต่อไปจักมิทำเรื่องโง่เขลาอีกเจ้าค่ะ! โปรดท่านปู่ให้โอกาสอาวี๋อีกสักครั้ง!”หลิงอวี๋โขกหัวคำนับให้ท่านอดีตเสนาบดีอย่างฝืนกลั้นน้ำตา!ช่วงเวลาล่อแหลมในงานพระราชสมภพวันนั้นเป็นท่านอดีตเสนาบดีคุกเข่าอ้อนวอนจักรพรรดิให้โอกาสตนชี้แจงเท็จจริงหลิงอวี๋จำเรื่องนี้ได้เสมอ แม้นางมิชอบพิธีคนโบราณเอะอะอะไรก็โขกหัวโขก ๆแต่โขกหัวคำนับให้ท่านอดีตเสนาบดี หลิงอวี๋ก็ยินดีเต็มใจ!“ท่านตาทวด ท่านให้โอกาสท่านแม่ข้าสักครั้งเถิดขอรับ! ต่อไปนางจะเชื่อฟังท่านแน่นอน!”“ภายหน้าเยวี่ยเยวี่ยจะเอาของอร่อย ๆ มาให้ท่าน!”หลิงเยวี่ยปวดใจต่อมารดาตน ดวงตาโตมองปริบ ๆ อย่างบ้องแบ๊วพลางมองท่านอด
ท่านอดีตเสนาบดีมองหลิงอวี๋พลางถาม “อาอวี๋ เจ้ามีแผนอันใดต่อไป? จักใช้ชีวิตกับเซียวหลินเทียนอยู่หรือไม่?”หลังเรื่องในรถม้าที่เซียวหลินเทียนผลักหลิงอวี๋ นางก็หมดความคิดที่จะอยู่กับเซียวหลินเทียนโดยสิ้นเชิง“ท่านปู่เจ้าคะ ก่อนหน้าข้าพูดเรื่องหย่ากับเซียวหลินเทียนแล้ว เขารับปากแล้วเจ้าค่ะ!”“เรารอเมื่อเวลาเหมาะสม ขอร้ององค์จักรพรรดิเห็นด้วยจึงหย่าร้างเจ้าค่ะ!”ท่านอดีตเสนาบดีนับว่าพอใจแล้วพลางพยักหน้า“ทนไม่ไหวก็หย่า จวนเสนาบดีหลังนี้ตราบใดที่มีปู่ก็คือจวนของเจ้าตลอดไป!”หลังหลิงอวี๋หย่าร้างไม่สนย้ายกลับจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนสักกระผีก แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากเถียงกับท่านอดีตเสนาบดี ถึงคราวนั้นค่อยว่ากันเถอะ!“ท่านปู่ ท่านล้มเจ็บเองจริงหรือไม่? หากท่านถูกคนทำร้าย เช่นนั้นข้าก็มีสิทธิ์รู้…”หลิงอวี๋เป็นห่วงปัญหาข้อนี้พลันถามร้อนใจท่านอดีตเสนาบดีถามว่า “เจ้าตอบคำถามข้าก่อน วิชาแพทย์ของเจ้ารักษาขาของเซียวหลินเทียนหายได้หรือไม่?”หลิงอวี๋เชื่อใจท่านอดีตเสนาบดีสุดจิตสุดใจพลันกล่าวอย่างเชื่อมั่น“หากทั่วหล้านี้มีคนรักษาขาเซียวหลินเทียนหาย นั่นคงมีแค่ข้า!”สีหน้าท่านอดีตเสนาบดีเคร่งขรึมพลางเ
หลิงอวี๋นึกถึงเรื่องที่เซียวหลินเทียนพูดว่า หลิงเสียงเซิงหมายเอาหลิงเยี่ยนออกเรือนเป็นชายารองอีกครั้งก็ตื่นตัวขึ้นพ่อนิสัยแย่คนนี้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง!ผู้ใดจะรู้ว่าพอบอกความจริงเขาแล้ว เขาจะไม่ทรยศหักหลังเซียวหลินเทียนกัน?ตอนนี้หลิงอวี๋ยังเป็นชายาอ๋องอี้ เซียวหลินเทียนถือว่าเป็นที่พึ่งของตนเหมือนกัน นางไม่อาจปล่อยเซียวหลินเทียนกลายเป็นหนามยอกอกขององค์ชายเว่ยกับคนอื่น ๆ ได้!หลิงอวี๋พูดว่า “ท่านพ่อ พวกเราเป็นคนกันเอง ข้ามิปิดบังท่าน! แม้วิชาแพทย์ข้าเหนือคน แต่ก็มีโรคบางอย่างรักษามิได้!”“ขาของท่านอ๋องอี้ ข้าไร้วิธีช่วยเขารักษาหายแล้ว!”ใบหน้าหลิงเสียงเซิงเผยความสิ้นหวังชัดเจน ในตาฉายความระอาแววหนึ่งหลิงอวี๋มองอารมณ์นัยน์ตาของหลิงเสียงเซิง แต่กลับแสร้งไม่เห็นพลางยิ้มกล่าว“ท่านพ่อ ท่านห่วงใยท่านอ๋องอี้เช่นนี้ อาอวี๋ปลื้มใจนักหนา!”หน้าของหลิงเสียงเซิงกระตุก เขาไม่ได้ห่วงใยสุขภาพเซียวหลินเทียนเถอะ!เขาพะวงว่าเซียวหลินเทียนจะยืนได้และกลับมาเป็นผู้บัญชาการกองทัพอีกครั้งหรือไม่!หากเซียวหลินเทียนยืนมิได้ก็เป็นแค่ของไร้ประโยชน์ เขาจะสนใจของไร้ประโยชน์หาปะไร!“อาอวี๋ เมื่อก่อน
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต