จักรพรรดิอู่อันและไทเฮาดูเหมือนจะมิรู้เรื่องนี้ พวกเขาพูดคุยกันอย่างมีความสุขเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตหลิงอวี๋มิได้ตั้งใจฟังมากนัก นางคอยสังเกตท่าทีองค์หญิงใหญ่อย่างใจเย็นนางพำนักอยู่ที่อารามจิ้งซือนานหลายปีจึงมีท่าทีสงบนิ่ง หากพูดตามหลักเหตุผลแล้ว นางควรถือครองพรหมจรรย์และมีจิตใจบริสุทธิ์ แต่หลิงอวี๋มิได้รู้สึกเช่นนั้นทุกย่างก้าวขององค์หญิงใหญ่ดูสง่างามและสูงส่ง ซึ่งเป็นกลิ่นอายที่ผู้บำเพ็ญเพียรมานานมิอาจมีได้อาหารมื้อนี้จบลงด้วยบรรยากาศแห่งความคิดถึง จักรพรรดิอู่อันและพระชายาเส้านั่งรถม้ากลับวังหลวงเป็นคนแรกหลังจากที่หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนกล่าวลา ทั้งสองคนก็เดินออกจากวังหลวง ทันใดนั้นหลิงอวี๋ก็สังเกตเห็นแม่นมซ่งนางกำนัลส่วนตัวของพระชายาเส้ายืนอยู่ข้างต้นไม้หัวใจของหลิงอวี๋เต้นแรง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ นางจึงเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายแม่นมซ่งถอยไปสองก้าวเพื่อซ่อนตัวอยู่ใต้เงาต้นไม้แล้วกระซิบว่า“พระชายาอ๋องอี้ พระชายาสั่งให้ข้ามาบอกบางอย่างให้ท่าน... การลอบสังหารที่ทะเลสาบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระชายาเจ้าค่ะ!”พูดจบ แม่นมซ่งก็เดินจากไปหลิงอวี๋เดินกลับไปหาเซียวหลิน
หอเหยี่ยวราตรีอีกแล้ว!เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋สบตากัน ตอนที่องค์ชายเว่ยไปที่เว่ยโจวครั้งที่แล้วก็จ่ายเงินในราคาสูงให้นักฆ่าจากหอเหยี่ยวราตรีไปลอบสังหารเซียวหลินเทียนศึกครั้งนั้นทำให้เซียวหลินเทียนถือโอกาสยืนขึ้นมา และในขณะเดียวกันก็ทำร้ายยอดฝีมือของหอเหยี่ยวราตรีไปสิบกว่าคนเลยทีเดียวหอเหยี่ยวราตรีได้รับความเสียหายหนักมาก หลังจากนั้นก็หลบซ่อนมิปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกเลยไหนเลยจะคิดว่า ครั้งนี้ตระกูลเว่ยจะใช้นักฆ่าจากหอเหยี่ยวราตรีอีกครั้ง ทั้งยังเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในห้าอันดับต้นอีกด้วยครั้งนี้เสียหายไปหนึ่งคน แล้วหอเหยี่ยวราตรีจะยอมวางมือได้เยี่ยงไร!“ท่านอ๋อง นักฆ่าหญิงผู้นี้คนทั่วไปเรียกกันว่าไป๋สั่วมิ่งพ่ะย่ะค่ะ วรยุทธสูงยิ่งกว่าสามีของนางเสียอีก ว่ากันว่าทุกครั้งที่สองคนนี้รับภารกิจ ไป๋สั่วมิ่งจะเป็นคนวางแผนและตัดสินเรื่องการฆ่าพ่ะย่ะค่ะ”“ตั้งแต่ที่สองคนนี้เริ่มทำมาก็มิเคยพลาดเลย ครั้งนี้สูญเสียสามีของนางไป นางต้องไม่มีทางยอมวางมือแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”ปี้ไห่เฟิงเอ่ยอย่างกังวลใจ “พระชายา ช่วงนี้เวลาท่านออกไปข้างนอกต้องระวังนะขอรับ! ว่ากันว่าไป๋สั่วมิ่งผู้นี้ยังมีอีกฉายาว่ากว
เรื่องที่หลิงอวี๋ยั่วยุนักฆ่าไป๋สั่วมิ่ง วันรุ่งขึ้นก็ได้แพร่กระจายออกไปในวงของคนที่สนใจจ้าวเจินเจินมิได้รู้สึกต่อเรื่องนี้ว่าหลิงอวี๋เบื่อกับชีวิตจึงไปยั่วยุนักฆ่าอย่างบ้าคลั่งแล้วตอนนี้นางเข้าใจหลิงอวี๋แล้ว นางจะทำเรื่องใดจะต้องมีแผนสำรองหากนักฆ่าผู้นี้มิโผล่หน้ามาก็จบ แต่ทันที่โผล่หน้ามาจะต้องตกหลุมพรางของหลิงอวี๋อย่างแน่นอนจ้าวเจินเจินคิดว่าหากตนเป็นหลิงอวี๋ คิดว่าหากเปลี่ยนเป็นตนแล้วจะล่อนักฆ่าออกมาอย่างไร!แต่นอกจากจ้าวเจินเจินจะให้ความสนใจในเรื่องนี้แล้ว ก็ยังคิดถึงคำสัญญาที่ตนมีต่อจ้าวฮุยอีกด้วย นางจะต้องทำให้หลิงอวี๋หายไปจากใต้หล้านี้ภายในหนึ่งเดือนเช่นนั้น เรื่องนักฆ่าผู้นี้จะมีช่วงชุลมุนให้ตนได้ถือโอกาสกำจัดหลิงอวี๋ไปหรือไม่กันนะ!ทางด้านหลิงอวี๋ก็วางแผนหลอกล่อให้ไป๋สั่วมิงปรากฏตัว พลางหาโอกาสใกล้ชิดกับพี่น้องมู่หรงไปด้วยแต่หลายวันมานี้ นางกับเซียวหลินเทียนหาวิธีใกล้ชิดกับพี่น้องมู่หรงมิได้เลยเมื่อเห็นว่าวันอภิเษกสมรสอันยิ่งใหญ่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หลิงอวี๋ก็ยังหาโอกาสมิได้ นางกังวลเป็นอย่างมาก หรือว่าต้องมองมู่หรงชิ่งแต่งงานกับเฮ่อหรงไปเช่นนั้นหรือ?เฮ่อหรงกับ
มู่หรงชิ่งพยักหน้าแล้วเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างคับแค้นใจพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น “คนตระกูลเฮ่อบอกว่า หลิงเยี่ยนเป็นชายารองขององค์ชายเว่ย บอกว่าเสด็จพี่ข้าดื่มมากเกินไปแล้วไปข่มเหงหลิงเยี่ยนจนทำให้เด็กในท้องของนางหลุดออกมา!”“พวกเขาบีบให้เสด็จพี่ลงนามให้หนังสือรับผิด! ตอนนั้นท่านพี่ยังคงมึน ๆ อยู่จึงถูกคนของตระกูลเฮ่อกดมือลงนามในหนังสือรับผิดไป!”“หลังจากนั้น พวกเขาก็ให้เสด็จพี่ตอบตกลงเรื่องงานแต่งงาน มิเช่นนั้นจะกราบทูลจักรพรรดิอู่อันเรื่องความผิดของเขา!”“พวกเขายังบอกอีกด้วยว่า ตอนนี้ทูตของทั้งสามแคว้นยังมิได้ไปจากเมืองหลวง หากรู้เรื่องที่เสด็จพี่ทำลงไปอย่างละอายเช่นนี้ จะต้องต่อต้านเขาอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋รู้สึกหวั่นใจมาก เขามิเชื่อว่ามู่หรงเหยียนซงจะทำเรื่องเช่นนี้ได้ลง ทว่าหากมู่หรงเหยียนซงลงนามไปแล้ว เช่นนั้นผู้ใดจะเชื่อว่ามู่หรงเหยียนซงมิได้ทำเล่า!มิน่า ตระกูลเฮ่อถึงได้คอยจับตามองพี่น้องมู่หรงอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ที่แท้ก็มีเรื่องลับ ๆ เช่นนี้นี่เอง!ขอเพียงมู่หรงชิ่งแต่งงานกับเฮ่อหรงแล้วทำให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกเสียก่อน ตระกูลเฮ่อจึงจะวางใจได้“เสด็จพี่โกรธมาก แต่ก็ไม่
ข้อมูลในคำพูดของมู่หรงชิ่งมีมากเกินไปจนทำให้หลิงอวี๋มิสามารถทำความเข้าใจได้ไปสักพัก นางอยากจะเอ่ยถามอะไรอีกแต่ก็ได้ยินเสียงนางรับใช้คนสนิทของมู่หรงชิ่งดังมาจากข้างนอกเสียก่อน“องค์หญิงชิ่ง รีบออกมาเร็วเพคะ พระชายาเว่ยมาแล้ว!”มู่หรงชิ่งมองไปทางหลิงอวี๋อย่างร้อนใจ หลิงอวี๋จึงรีบเอ่ย “เจ้าออกไปก่อนเถิด! วางใจได้ ข้าต้องขัดขวางงานแต่งของเจ้ากับเฮ่อหรงให้ได้! ส่วนเรื่องของหลิงเยี่ยน ข้าจะช่วยให้เสด็จพี่ของเจ้าได้ชี้แจงให้ชัด!”มู่หรงชิ่งมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้งพลางเอ่ยออกมาอย่างมีความหมาย “พี่หญิงหลิงหลิง พวกเรากับเจ้าต่างหากที่เป็นครอบครัวเดียวกัน!”“ตอนนี้หลิงเยี่ยนข่มขู่เสด็จพี่มิหยุดเลย แล้วก็อาจจะข่มขู่เจ้าด้วย… ตัวตนของเจ้า หากหลิงเยี่ยนรู้เข้าละก็ เช่นนั้นเจ้าต้องรีบคิดหามาตรการรับมือแล้ว!”หลิงอวี๋ใจสั่น หวางซือกับหลิงเสียงเซิงต่างก็รู้เรื่องที่ตนมิใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของหลิงเสียงเซิง หากหวางซือบอกกับหลิงเยี่ยน เช่นนั้นตนก็ต้องรีบคิดมาตรการรับมือไว้จริง ๆ มู่หรงชิ่งไปแล้ว พระชายาเว่ยก็ซื้อชุดที่ถูกใจไปสองสามชุด นางมิได้สงสัยมู่หรงชิ่ง เมื่อเรียกมู่หรงชิ่งแล้วก็ออกไปเลยหลิงอวี๋รอ
ไป๋สั่วมิ่งหยิ่งผยองเช่นนี้ กล้าอวดดีว่าจะเป็นวิญญาณร้ายตามรังควานหลิงอวี๋ หลิงอวี๋ก็มิกังวลแล้วว่านางจะมิโผล่มาขอเพียงติดตามนางไปก็จะต้องเจอหัวหน้าหอเหยี่ยวราตรีที่มิเปิดเผยตัวผู้นั้นแน่นอนหลิงอวี๋จดจำเรื่องของมู่หรงชิ่งแล้วกลับตำหนักอ๋องอี้ไปก่อนเซียวหลินเทียนกำลังรออยู่อย่างร้อนใจ ครั้นเห็นว่าหลิงอวี๋เข้าห้องมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก็รู้เลยว่าหลิงอวี๋พบอะไรบางอย่างมาแล้ว“อาอวี๋ องค์หญิงชิ่งว่าอย่างไรบ้าง?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามอย่างรอมิไหวหลิงอวี๋จึงเล่าสิ่งที่มู่หรงชิ่งบอกมาให้เซียวหลินเทียนฟังเมื่อได้ยินเรื่องของจินโหย่ว เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่นหลิงอวี๋รู้เรื่องของจินโหย่วมิมากนัก แต่เซียวหลินเทียนรู้ว่าตอนนั้นจินโหย่วผู้นี้เป็นทหารกล้าที่อยู่ใกล้ชิดจักรพรรดิสูงสุด ว่ากันว่าวรยุทธของเขาแข็งแกร่งมาก ทั้งยังเป็นคนมีปัญญาดีอีกด้วยครั้นเมื่อองค์จักรพรรดิสูงสุดสิ้นพระชนม์ เซียวหลินเทียนยังเด็กอยู่ เขาชื่นชมจินโหย่วผู้นี้มากตอนนั้นจินโหย่วเป็นอาจารย์วิชาวิทยายุทธขององค์ชายเว่ย องค์ชายเว่ยถูกจักรพรรดิอู่อันที่ตอนนั้นยังเป็นองค์รัช
เซียวหลินเทียนครุ่นคิดตาม เขาคิดไปเรื่อย ๆ แล้วความคิดก็มุ่งไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฮ่อกับค่ายกองทหารเสือเหตุใดตระกูลเฮ่อต้องวางยาพิษจักรพรรดิสูงสุดด้วยเล่า?ตอนนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?“องค์หญิงใหญ่กับฮองเฮาเว่ยรู้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่?”เขาคิดแล้วก็ตั้งคำถามออกมาโดยมิรู้ตัวหลิงอวี๋กำลังคิดอยู่ว่าจะช่วยมู่หรงเหยียนซงลบล้างความผิดอย่างไรดี แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินคำถามของเซียวหลินเทียน จึงเอ่ยออกไป“หม่อมฉันยังสงสัยอยู่เลยเพคะว่า องค์หญิงใหญ่กับไทเฮามีความแค้นอะไรต่อกันกันแน่ เหตุใดพระนางจึงไปอยู่ที่อารามจิ้งซือนานหลายปีมิกลับมาเลย?”“เซียวหลินเทียน หม่อมฉันรู้สึกว่า จินโหย่วผู้นี้อาจจะมิได้รู้เพียงแค่สิ่งที่มู่หรงชิ่งบอกพวกเราเพคะ! หากต้องการที่จะรู้รายละเอียดมากกว่านี้ก็ต้องไปหาเขา!”เซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่น “อีกมิกี่วันก็จะถึงงานแต่งงานของมู่หรงชิ่งกับเฮ่อหรงแล้ว พวกเรามีเวลาไปตามหาเขามากมายถึงเพียงนั้นที่ไหนกัน!”“เรื่องสำคัญต้องจัดการทันที คิดวิธีขวางงานแต่งงานก่อนเถิด!”หลิงอวี๋พยักหน้าแล้วเล่าเรื่องที่เจอกับไป๋สั่วมิ่งในวันนี้ สุดท้ายก็เอ่ย “พวกเราเตรียมตัวก่
หลิงอวี๋กุมที่ปากแผลไว้แล้วก็ถูกหานเหมยกับเถาจื่อประคองเข้าไปในห้องเมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว หลิงอวี๋จึงได้ปล่อยมือ ในมือของนางซ่อนถุงเลือดเล็ก ๆ ไว้หนึ่งถุง เมื่อครู่ก็ถือโอกาสตอนที่ไป๋สั่วมิ่งแทงมาที่นางตั้งใจบีบถุงเลือดให้แตกหลิงอวี๋ได้กลิ่นที่ตนทิ้งไว้ที่ตัวไป๋สั่วมิ่งตั้งแต่ตอนที่นางปลอมเป็นลุงแก่เข้ามาใกล้แล้ว นางใช้แผนซ้อนแผน แสร้งทำเป็นถูกแทงเพราะอยากให้ไป๋สั่วมิ่งภูมิใจสักหน่อยเมื่อเป็นเช่นนี้ ตอนที่เซียวหลินเทียนกับจ้าวซวนแล้วก็ปี้ไห่เฟิงตามไป๋สั่วมิ่งไป ไป๋สั่วมิ่งจะได้มิสังเกตหานเหมยเอาอาภรณ์สะอาดมาให้หลิงอวี๋เปลี่ยนใหม่ เถาจื่อเรียกสตรีที่รูปร่างพอ ๆ กันกับหลิงอวี๋มาใส่ชุดของหลิงอวี๋ไว้ แล้วแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บจึงกลับตำหนักอ๋องอี้ไปก่อนหลิงอวี๋แต่งตัวเป็นนางรับใช้ต่ำต้อยหน้าตาอัปลักษณ์แล้วพาหานอวี้ออกไปทางด้านหลังไร่นาสองวันมานี้คนของเซียวหลินเทียนที่แอบปกป้องนางอยู่พบว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งที่แอบตามสอดแนมหลิงอวี๋อยู่ คนเหล่านี้คือคนของจ้าวเจินเจินตอนที่หลิงอวี๋ได้ยินก็รู้แก่ใจเลยจ้าวเจินเจินจะต้องได้ยินว่า ตนกับไป๋สั่วมิ่งเจอกันแล้วแน่นอน ดังนั้นจึงอยากจะจ