เรื่องที่หลิงอวี๋ยั่วยุนักฆ่าไป๋สั่วมิ่ง วันรุ่งขึ้นก็ได้แพร่กระจายออกไปในวงของคนที่สนใจจ้าวเจินเจินมิได้รู้สึกต่อเรื่องนี้ว่าหลิงอวี๋เบื่อกับชีวิตจึงไปยั่วยุนักฆ่าอย่างบ้าคลั่งแล้วตอนนี้นางเข้าใจหลิงอวี๋แล้ว นางจะทำเรื่องใดจะต้องมีแผนสำรองหากนักฆ่าผู้นี้มิโผล่หน้ามาก็จบ แต่ทันที่โผล่หน้ามาจะต้องตกหลุมพรางของหลิงอวี๋อย่างแน่นอนจ้าวเจินเจินคิดว่าหากตนเป็นหลิงอวี๋ คิดว่าหากเปลี่ยนเป็นตนแล้วจะล่อนักฆ่าออกมาอย่างไร!แต่นอกจากจ้าวเจินเจินจะให้ความสนใจในเรื่องนี้แล้ว ก็ยังคิดถึงคำสัญญาที่ตนมีต่อจ้าวฮุยอีกด้วย นางจะต้องทำให้หลิงอวี๋หายไปจากใต้หล้านี้ภายในหนึ่งเดือนเช่นนั้น เรื่องนักฆ่าผู้นี้จะมีช่วงชุลมุนให้ตนได้ถือโอกาสกำจัดหลิงอวี๋ไปหรือไม่กันนะ!ทางด้านหลิงอวี๋ก็วางแผนหลอกล่อให้ไป๋สั่วมิงปรากฏตัว พลางหาโอกาสใกล้ชิดกับพี่น้องมู่หรงไปด้วยแต่หลายวันมานี้ นางกับเซียวหลินเทียนหาวิธีใกล้ชิดกับพี่น้องมู่หรงมิได้เลยเมื่อเห็นว่าวันอภิเษกสมรสอันยิ่งใหญ่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หลิงอวี๋ก็ยังหาโอกาสมิได้ นางกังวลเป็นอย่างมาก หรือว่าต้องมองมู่หรงชิ่งแต่งงานกับเฮ่อหรงไปเช่นนั้นหรือ?เฮ่อหรงกับ
มู่หรงชิ่งพยักหน้าแล้วเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างคับแค้นใจพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น “คนตระกูลเฮ่อบอกว่า หลิงเยี่ยนเป็นชายารองขององค์ชายเว่ย บอกว่าเสด็จพี่ข้าดื่มมากเกินไปแล้วไปข่มเหงหลิงเยี่ยนจนทำให้เด็กในท้องของนางหลุดออกมา!”“พวกเขาบีบให้เสด็จพี่ลงนามให้หนังสือรับผิด! ตอนนั้นท่านพี่ยังคงมึน ๆ อยู่จึงถูกคนของตระกูลเฮ่อกดมือลงนามในหนังสือรับผิดไป!”“หลังจากนั้น พวกเขาก็ให้เสด็จพี่ตอบตกลงเรื่องงานแต่งงาน มิเช่นนั้นจะกราบทูลจักรพรรดิอู่อันเรื่องความผิดของเขา!”“พวกเขายังบอกอีกด้วยว่า ตอนนี้ทูตของทั้งสามแคว้นยังมิได้ไปจากเมืองหลวง หากรู้เรื่องที่เสด็จพี่ทำลงไปอย่างละอายเช่นนี้ จะต้องต่อต้านเขาอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋รู้สึกหวั่นใจมาก เขามิเชื่อว่ามู่หรงเหยียนซงจะทำเรื่องเช่นนี้ได้ลง ทว่าหากมู่หรงเหยียนซงลงนามไปแล้ว เช่นนั้นผู้ใดจะเชื่อว่ามู่หรงเหยียนซงมิได้ทำเล่า!มิน่า ตระกูลเฮ่อถึงได้คอยจับตามองพี่น้องมู่หรงอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ที่แท้ก็มีเรื่องลับ ๆ เช่นนี้นี่เอง!ขอเพียงมู่หรงชิ่งแต่งงานกับเฮ่อหรงแล้วทำให้ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกเสียก่อน ตระกูลเฮ่อจึงจะวางใจได้“เสด็จพี่โกรธมาก แต่ก็ไม่
ข้อมูลในคำพูดของมู่หรงชิ่งมีมากเกินไปจนทำให้หลิงอวี๋มิสามารถทำความเข้าใจได้ไปสักพัก นางอยากจะเอ่ยถามอะไรอีกแต่ก็ได้ยินเสียงนางรับใช้คนสนิทของมู่หรงชิ่งดังมาจากข้างนอกเสียก่อน“องค์หญิงชิ่ง รีบออกมาเร็วเพคะ พระชายาเว่ยมาแล้ว!”มู่หรงชิ่งมองไปทางหลิงอวี๋อย่างร้อนใจ หลิงอวี๋จึงรีบเอ่ย “เจ้าออกไปก่อนเถิด! วางใจได้ ข้าต้องขัดขวางงานแต่งของเจ้ากับเฮ่อหรงให้ได้! ส่วนเรื่องของหลิงเยี่ยน ข้าจะช่วยให้เสด็จพี่ของเจ้าได้ชี้แจงให้ชัด!”มู่หรงชิ่งมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้งพลางเอ่ยออกมาอย่างมีความหมาย “พี่หญิงหลิงหลิง พวกเรากับเจ้าต่างหากที่เป็นครอบครัวเดียวกัน!”“ตอนนี้หลิงเยี่ยนข่มขู่เสด็จพี่มิหยุดเลย แล้วก็อาจจะข่มขู่เจ้าด้วย… ตัวตนของเจ้า หากหลิงเยี่ยนรู้เข้าละก็ เช่นนั้นเจ้าต้องรีบคิดหามาตรการรับมือแล้ว!”หลิงอวี๋ใจสั่น หวางซือกับหลิงเสียงเซิงต่างก็รู้เรื่องที่ตนมิใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของหลิงเสียงเซิง หากหวางซือบอกกับหลิงเยี่ยน เช่นนั้นตนก็ต้องรีบคิดมาตรการรับมือไว้จริง ๆ มู่หรงชิ่งไปแล้ว พระชายาเว่ยก็ซื้อชุดที่ถูกใจไปสองสามชุด นางมิได้สงสัยมู่หรงชิ่ง เมื่อเรียกมู่หรงชิ่งแล้วก็ออกไปเลยหลิงอวี๋รอ
ไป๋สั่วมิ่งหยิ่งผยองเช่นนี้ กล้าอวดดีว่าจะเป็นวิญญาณร้ายตามรังควานหลิงอวี๋ หลิงอวี๋ก็มิกังวลแล้วว่านางจะมิโผล่มาขอเพียงติดตามนางไปก็จะต้องเจอหัวหน้าหอเหยี่ยวราตรีที่มิเปิดเผยตัวผู้นั้นแน่นอนหลิงอวี๋จดจำเรื่องของมู่หรงชิ่งแล้วกลับตำหนักอ๋องอี้ไปก่อนเซียวหลินเทียนกำลังรออยู่อย่างร้อนใจ ครั้นเห็นว่าหลิงอวี๋เข้าห้องมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก็รู้เลยว่าหลิงอวี๋พบอะไรบางอย่างมาแล้ว“อาอวี๋ องค์หญิงชิ่งว่าอย่างไรบ้าง?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามอย่างรอมิไหวหลิงอวี๋จึงเล่าสิ่งที่มู่หรงชิ่งบอกมาให้เซียวหลินเทียนฟังเมื่อได้ยินเรื่องของจินโหย่ว เซียวหลินเทียนก็ตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่นหลิงอวี๋รู้เรื่องของจินโหย่วมิมากนัก แต่เซียวหลินเทียนรู้ว่าตอนนั้นจินโหย่วผู้นี้เป็นทหารกล้าที่อยู่ใกล้ชิดจักรพรรดิสูงสุด ว่ากันว่าวรยุทธของเขาแข็งแกร่งมาก ทั้งยังเป็นคนมีปัญญาดีอีกด้วยครั้นเมื่อองค์จักรพรรดิสูงสุดสิ้นพระชนม์ เซียวหลินเทียนยังเด็กอยู่ เขาชื่นชมจินโหย่วผู้นี้มากตอนนั้นจินโหย่วเป็นอาจารย์วิชาวิทยายุทธขององค์ชายเว่ย องค์ชายเว่ยถูกจักรพรรดิอู่อันที่ตอนนั้นยังเป็นองค์รัช
เซียวหลินเทียนครุ่นคิดตาม เขาคิดไปเรื่อย ๆ แล้วความคิดก็มุ่งไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเฮ่อกับค่ายกองทหารเสือเหตุใดตระกูลเฮ่อต้องวางยาพิษจักรพรรดิสูงสุดด้วยเล่า?ตอนนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?“องค์หญิงใหญ่กับฮองเฮาเว่ยรู้เรื่องนี้ด้วยหรือไม่?”เขาคิดแล้วก็ตั้งคำถามออกมาโดยมิรู้ตัวหลิงอวี๋กำลังคิดอยู่ว่าจะช่วยมู่หรงเหยียนซงลบล้างความผิดอย่างไรดี แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินคำถามของเซียวหลินเทียน จึงเอ่ยออกไป“หม่อมฉันยังสงสัยอยู่เลยเพคะว่า องค์หญิงใหญ่กับไทเฮามีความแค้นอะไรต่อกันกันแน่ เหตุใดพระนางจึงไปอยู่ที่อารามจิ้งซือนานหลายปีมิกลับมาเลย?”“เซียวหลินเทียน หม่อมฉันรู้สึกว่า จินโหย่วผู้นี้อาจจะมิได้รู้เพียงแค่สิ่งที่มู่หรงชิ่งบอกพวกเราเพคะ! หากต้องการที่จะรู้รายละเอียดมากกว่านี้ก็ต้องไปหาเขา!”เซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่น “อีกมิกี่วันก็จะถึงงานแต่งงานของมู่หรงชิ่งกับเฮ่อหรงแล้ว พวกเรามีเวลาไปตามหาเขามากมายถึงเพียงนั้นที่ไหนกัน!”“เรื่องสำคัญต้องจัดการทันที คิดวิธีขวางงานแต่งงานก่อนเถิด!”หลิงอวี๋พยักหน้าแล้วเล่าเรื่องที่เจอกับไป๋สั่วมิ่งในวันนี้ สุดท้ายก็เอ่ย “พวกเราเตรียมตัวก่
หลิงอวี๋กุมที่ปากแผลไว้แล้วก็ถูกหานเหมยกับเถาจื่อประคองเข้าไปในห้องเมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว หลิงอวี๋จึงได้ปล่อยมือ ในมือของนางซ่อนถุงเลือดเล็ก ๆ ไว้หนึ่งถุง เมื่อครู่ก็ถือโอกาสตอนที่ไป๋สั่วมิ่งแทงมาที่นางตั้งใจบีบถุงเลือดให้แตกหลิงอวี๋ได้กลิ่นที่ตนทิ้งไว้ที่ตัวไป๋สั่วมิ่งตั้งแต่ตอนที่นางปลอมเป็นลุงแก่เข้ามาใกล้แล้ว นางใช้แผนซ้อนแผน แสร้งทำเป็นถูกแทงเพราะอยากให้ไป๋สั่วมิ่งภูมิใจสักหน่อยเมื่อเป็นเช่นนี้ ตอนที่เซียวหลินเทียนกับจ้าวซวนแล้วก็ปี้ไห่เฟิงตามไป๋สั่วมิ่งไป ไป๋สั่วมิ่งจะได้มิสังเกตหานเหมยเอาอาภรณ์สะอาดมาให้หลิงอวี๋เปลี่ยนใหม่ เถาจื่อเรียกสตรีที่รูปร่างพอ ๆ กันกับหลิงอวี๋มาใส่ชุดของหลิงอวี๋ไว้ แล้วแสร้งทำเป็นได้รับบาดเจ็บจึงกลับตำหนักอ๋องอี้ไปก่อนหลิงอวี๋แต่งตัวเป็นนางรับใช้ต่ำต้อยหน้าตาอัปลักษณ์แล้วพาหานอวี้ออกไปทางด้านหลังไร่นาสองวันมานี้คนของเซียวหลินเทียนที่แอบปกป้องนางอยู่พบว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งที่แอบตามสอดแนมหลิงอวี๋อยู่ คนเหล่านี้คือคนของจ้าวเจินเจินตอนที่หลิงอวี๋ได้ยินก็รู้แก่ใจเลยจ้าวเจินเจินจะต้องได้ยินว่า ตนกับไป๋สั่วมิ่งเจอกันแล้วแน่นอน ดังนั้นจึงอยากจะจ
เซียวหลินเทียนไปหารายชื่อและข้อมูลของบ่าวเหล่านั้นมาให้หลิงอวี๋ตามแผนของหลิงอวี๋หลิงอวี๋พอจะคุ้นเคยกับประวัติความเป็นมาของพวกเขาบ้างแล้ว ดังนั้นนางกับหานอวี้จึงแฝงตัวกับกลุ่มของจวนอ๋องหรงที่ออกมาจ่ายตลาดเข้าไปในจวนโดยที่มิดึงดูดความสนใจของผู้ใดเลยพ่อบ้านจวนอ๋องหรงตอนนี้คือเฮ่อเฉียงซึ่งเป็นพ่อบ้านที่ไร่นาของเฮ่อหรง เซียวหลินเทียนไปตรวจสอบเขามาแล้วปีนี้เฮ่อเฉียงอายุสี่สิบกว่า เป็นคนรับใช้ของตระกูลเฮ่อ ตอนแรกเป็นบ่าวติดตามพ่อของเฮ่อหรง มีความจงรักภักดีต่อเฮ่อหรงมากเขาแต่งงานมีลูกแล้ว เฮ่อหยางลูกชายของเขาก็เป็นคนรับใช้ของเฮ่อหรงเช่นกัน ส่วนภรรยาก็ช่วยเฮ่อหรงดูแลไร่นาหลิงอวี๋ดูข้อมูลแล้วก็มิเห็นความพิเศษของเฮ่อเฉียง ทว่าแฝงตัวเข้าไปมิถึงครึ่งวัน นางก็พบมุมที่เก่งกาจของเฮ่อเฉียงแล้ว...หลิงอวี๋กับหานอวี้เข้าไปในจวนอ๋องหรงแล้วแยกกันทำงาน นางไปทำงานในครัวกับสตรีอายุสามสิบกว่าสตรีผู้นี้เป็นแม่ครัวที่จักรพรรดิอู่อันประทานเป็นรางวัลมาให้อ๋องหรง นางสกุลลั่ว นางเห็นหลิงอวี๋เข้ามาช่วยตอนยุ่งกับการซื้อของจึงให้หลิงอวี๋อยู่ด้วยหลิงอวี๋ใช้นามแฝงว่าหลิงเอ๋อร์ นี่เป็นชื่อที่มีอยู่ในรายชื่อ
หลิงอวี๋ฝืนทนไว้ มือก็จงใจจับที่ชายเสื้อผ้าของตนเองอย่างดูอึดอัดหลังจากนั้นสักพัก เฮ่อเฉียงจึงหันไปถามแม่นางลั่ว “ก่อนหน้านี้มิได้เห็นนางรับใช้ผู้นี้เลย มาจากที่ใดกัน?”แม่นางลั่วยิ้มทันทีพลางเอ่ย “ก่อนหน้านี้หลิงเอ๋อร์ตามบ่าวไปจ่ายตลาด บ่าวเห็นว่านางคล่องแคล่วดี ทั้งยังรู้หนังสือด้วยจึงให้นางอยู่ช่วยในครัวเลยเจ้าค่ะ!”“พ่อบ้านเฮ่อ ดูสิเจ้าคะ ครัวมีงานมากถึงเพียงนี้ หากไม่มีคนที่คล่องแคล่วมาช่วยบ่าวก็ทำมิเสร็จจริง ๆ เจ้าค่ะ! นางมาช่วยงานบ่าวไปได้มากทีเดียว!”“เช่นนั้นก็ให้นางอยู่เถิด!”เฮ่อเฉียงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินถอยออกไปหลิงอวี๋เห็นว่าเขาไปไกลแล้วจึงกล้าที่จะลอบถอนหายใจสิ่งนี่พิสูจน์แล้วว่าตนปลอมตัวสำเร็จ อีกทั้งการเตรียมตัวก่อนหน้านี้ก็เต็มที่ด้วย ดังนั้นเฮ่อเฉียงจึงมิได้สงสัยตนที่เขาซักไซ้ตนก่อนหน้านี้ก็แค่มิคุ้นหน้าตนเท่านั้นแต่ในช่วงเวลาเล็กน้อยนี้ก็ทำให้หลิงอวี๋มองออกถึงความสามารถของเฮ่อเฉียงที่คนทั่วไปมิสังเกตข้อแรก เฮ่อเฉียงมิดูบันทึก แค่ฟังชื่อของตนแล้วก็มิได้ถามละเอียดนี่แสดงว่าเขามีความทรงจำที่ดีมาก สามารถจดจำข้อมูลของคนรับใช้ทุกคนในจวนได้ข้อสอง เฮ่อ