แชร์

บทที่ 1034

ผู้เขียน: กานเฟย
มู่หรงชิ่งเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนั้น นางอดหัวเราะเยาะมิได้

“องค์หญิงตานรั่ว ข้าเกือบหลงเชื่อเสียแล้วว่าเจ้าเก่งจริง ๆ! เมื่อครู่เจ้ามิได้โอ้อวดว่าเจ้าคล่องแคล่วว่องไวมากหรือ? เหตุใดจึงปล่อยให้พระชายาอ๋องอี้ผลักตนไปหาหมูป่าได้เล่า?”

“จริงด้วย ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ พระชายาหลิงอี๋ไม่มีวิทยายุทธ์! นางจะผลักเจ้าได้อย่างไร?”

“ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพวกเรามาถึง พี่หญิงหลิงอวี๋และคนของนางกำลังยิงหมูป่าที่อยู่ใต้ต้นไม้จริง ๆ ในขณะที่เจ้ากลับหวาดกลัวจนกอดต้นไม้แน่น มิกล้าขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย!”

“พี่หญิงหลิงอวี๋ช่วยเจ้า แต่เจ้ากลับมิสำนึกในบุญคุณ ซ้ำยังพลิกขาวเป็นดำ ตอบแทนคุณด้วยความแค้น เจ้านี่เกินไปจริง ๆ!”

เซี่ยโฮ่วตานรั่วถูกมู่หรงชิ่งพูดจาเสียดสีจนหน้าแดงก่ำ นางมิกล้าเงยหน้าขึ้นเพราะความรู้สึกผิด กลัวสุดขีด คิดหาวิธีแก้ตัวเพื่อพลิกสถานการณ์

ในเวลานี้ นางเพิ่งจะรู้ว่าเหตุใดองค์ชายหนิงถึงได้สั่งให้ตนขอโทษ

เพราะองค์ชายหนิงมองเห็นความจริงทั้งหมดตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว!

ทว่าด้วยความโง่เขลา นางกลับมิเข้าใจความหมายขององค์ชายหนิง ยังคงคิดว่าตนโชคดีสามารถกดให้หลิงอวี๋ประสบความสูญเสียได้

แต่ตอนนี้ คำโกหก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1035

    การล่าสัตว์ยังมิจบ ผลแพ้ชนะยังมิปรากฏ เซียวหลินเทียนได้สละสิทธิ์ในการประลองเมื่อวานแล้ว วันนี้มิสามารถละทิ้งไปครึ่งทางได้เซียวหลินเทียนเห็นว่าอาภรณ์ของหลิงอวี๋สกปรก จึงเสนอว่า“อาอวี๋ ที่นี่อันตรายเกินไป เจ้าพาคนกลับไปก่อนเถอะ! พวกเรายังต้องล่าสัตว์ต่อ!”“มิต้องรีบร้อนหรอก พวกเราขอเดินเล่นแถวนี้ก่อนแล้วกัน ท่านไปล่าสัตว์ต่อเถิด!”หลิงอวี๋เป็นกังวลว่าหากกลุ่มของเซียวหลินเทียนมีคนได้รับบาดเจ็บ นางจะสามารถช่วยเหลือได้ก็ต่อเมื่ออยู่ใกล้ ๆ จึงขออยู่ต่อเซียวหลินเทียนจึงแบ่งลูกธนูให้หลิงอวี๋ แล้วพาจ้าวซวนและคนอื่น ๆ เดินหน้าต่อไปมู่หรงเหยียนซงและองค์ชายหนิงก็แยกย้ายกันไปเพื่อล่าสัตว์ต่อหลิงอวี๋คิดว่าเซี่ยโฮ่วตานรั่วจากไปแล้ว คงมิต้องแข่งขันกันอีก จึงพาเถาจื่อและหานเหมยไปเก็บสมุนไพรด้านเซียวหลินเทียนกำลังจดจ่ออยู่กับการล่าสัตว์ก่อนหน้านี้ ขาของเขาพิการจึงมิได้มีโอกาสได้ล่าสัตว์เช่นนี้มานานแล้วเมื่อครู่ที่เซี่ยโฮ่วตานรั่วก่อเรื่อง เซียวหลินเทียนกำลังมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วงชิงอันดับหนึ่ง เพื่อปราบพยศชาวฉีตะวันออก จึงพาจ้าวซวนและคนอื่น ๆ เดินหน้าลึกเข้าไปในภูเขาพวกเขาล่ากระต่าย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1036

    การปะทะที่รุนแรงครั้งนี้ ทำให้ทั้งหัวหน้าคนชุดดำและเซียวหลินเทียนต้องถอยหลังไปคนละสองก้าวเซียวหลินเทียนรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณง่ามมือระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ ราวกับว่ามันฉีกขาด เลือดไหลออกมาตามรอยแยกหัวหน้าคนชุดดำเองก็มิได้ได้เปรียบไปกว่ากัน ง่ามมือของเขาก็ฉีกขาดเช่นกัน ดาบเกือบจะหลุดจากมือเขาแอบตื่นตระหนกในใจ มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนแม้อายุยังน้อยแต่กลับมีกำลังภายในที่แข็งแกร่งเช่นนี้หัวหน้าคนชุดดำมิกล้าเข้าปะทะแบบตัวต่อตัวอีกต่อไป ร่วมมือกับคนอื่น ๆ เพื่อโจมตีกระหนาบเข้าเซียวหลินเทียนรู้สึกกดดันอย่างมาก เขาขบฟันแน่น ดาบยาวฟาดฟันไปยังมือสังหารที่อยู่ใกล้ที่สุดเซียวหลินเทียนเรียกใช้กำลังภายในทั้งหมดของเขา เห็นว่าความสามารถโดยรวมของมือสังหารเหล่านี้เหนือกว่าฝั่งของตนมากพวกเขามิสามารถตั้งรับได้เป็นเวลานานนัก ฉะนั้นต้องฆ่าให้ได้มากที่สุดก่อนที่ศัตรูจะเข้าใจความแข็งแกร่งของฝ่ายตนอย่างถ่องแท้มือสังหารบางคนมิรู้จักประมาณกำลังตน อุกอาจฟาดดาบเข้ามา แต่เซียวหลินเทียนเพียงแค่หลอกล่อ แล้วเปลี่ยนทิศทางดาบด้วยความเร็วสูง กวาดไปที่หน้าอกและใบหน้าของพวกเขา...มือสังหารเหล่านี้รู้สึก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1037

    เซียวหลินเทียนคิดเช่นนี้ แต่ก็รู้สึกว่ามิถูกต้องนักหลิงอวี๋และเซี่ยโฮ่วตานรั่วเจอหมูป่าระหว่างทางเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มือสังหารจำนวนมากเหล่านี้มิสามารถระดมมาได้ภายในมิกี่ชั่วยามเป็นแน่!เว้นเสียแต่... องค์ชายหนิงตั้งใจจะกำจัดตนในระหว่างการล่าสัตว์อยู่แล้วจึงได้ซุ่มซ่อนมือสังหารจำนวนมากไว้ล่วงหน้า!ฉึก...เซียวหลินเทียนเผลอไปครู่หนึ่ง ข้อมือก็ถูกมือสังหารแทงด้วยดาบอีกครั้งเขาเจ็บปวดจนเกือบจะทำดาบหลุดมือเซียวหลินเทียนรีบรวบรวมสติ กลับมาต่อสู้และถอยหนีไปพร้อมกับจ้าวซวนและคนอื่น ๆ“ท่านอ๋อง ท่านรีบหนีไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากยังดื้อรั้นอยู่ เห็นทีพวกเราคงต้องตายกันหมดเสียที่นี่…”จ้าวซวนและลู่หนานทนมิไหวแล้ว จึงร้องออกมาพร้อมกันเซียวหลินเทียนเห็นว่าทุกคนได้รับบาดเจ็บหนัก ภายในใจร้อนเหมือนโดนไฟเผา เผยอวี้และคนอื่น ๆ วิ่งไปไกลแค่ไหนกัน เหตุใดวิกฤตถึงขั้นนี้แล้วยังมิมาช่วยอีก...ขณะที่กำลังร้อนใจ ก็ได้ยินเสียงของหลิงอวี๋ “เซียวหลินเทียน มาทางนี้!”เซียวหลินเทียนเหลือบมองอย่างรวดเร็วก็เห็นหลิงอวี๋ลุกขึ้นจากพุ่มไม้เซียวหลินเทียนดีใจอย่างยิ่ง หลิงอวี๋มาช่วยแล้ว นี่เหมือนการส่งถ่านยามห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1038

    “รีบไป…”หลิงอวี๋สาดผงยาออกไป มิทันได้ตรวจสอบอาการของมือสังหาร ก็ดึงเซียวหลินเทียนวิ่งหนีไปโดยมิรอช้าทว่าเซียวหลินเทียนยังมิทันได้ก้าว ลูกธนูหลายดอกก็พุ่งมาจากทิศทางต่าง ๆเซียวหลินเทียนกวัดแกว่งดาบเพื่อปัดป้องทว่าลูกธนูเหล่านั้นกลับหนาแน่นยิ่งขึ้นมิรู้จบ...คนสวมหน้ากากหลายคนในพุ่มไม้ลุกขึ้น ยิงธนูไปที่หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนคนหนึ่งในนั้นมีดวงตาร้อนแรงราวพ่นไฟ จ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างโหดเหี้ยมนางซ่อนตัวอยู่ในที่มืด สายตาคมกริบดุจยาพิษ หากหลิงอวี๋มองเห็นอย่างชัดเจนก็จะรู้สึกคุ้นเคยบุคคลนี้คือเซี่ยโฮ่วตานรั่วที่ถูกฉาเค่อฉีพาลงจากภูเขาไปในตอนแรกนางมิสามารถกลืนคำพูดที่ตนถูกหลิงอวี๋ดูถูกเหยียบย่ำได้ จึงบังคับให้ฉาเค่อฉีพานางกลับมาเพื่อหาโอกาสฆ่าหลิงอวี๋เสียมิคาดคิดว่าจะพบหลิงอวี๋กำลังถูกมือสังหารไล่ล่าเสียก่อนเซี่ยโฮ่วตานรั่วได้จังหวะเหมาะนึกว่าโอกาสมาถึงแล้ว รีบสวมหน้ากากพร้อมกับเหล่านางกำนัลแล้วดักรอเพื่อที่จะสังหารหลิงอวี๋เวลานี้ เซียวหลินเทียนถูกโจมตีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง นางยิงธนูเพียงดอกเดียวก็สามารถฆ่าหลิงอวี๋ได้ แล้ว จากนี้จะได้มิต้องกล่าวขอโทษนางซึ่งหน้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1039

    มือสังหารทั้งหลายมิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนผู้โลหิตโชกไปทั่วทั้งร่างและดูอ่อนแรงราวกับสายธนูที่จวนขาด จู่ ๆ จะเกิดพลังโจมตีกลับอันรุนแรงเช่นนี้เขาพุ่งเข้ามาด้วยพลังอันมหาศาลราวกับภูเขาถล่มทลาย ด้วยความเร็วที่คนทั่วไปมิสามารถจินตนาการได้พลังการระเบิดอันทรงพลังนั้นเปรียบเสมือนพายุระดับสิบ ลมพัดกระโชก ใบไม้ปลิวว่อน หินทรายปลิวไปตามลม คำรามอย่างบ้าคลั่ง กดดันจนทุกคนหายใจมิออกในทันทีแม้แต่จ้าวซวนและคนอื่น ๆ ยังรู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่สามารถทำลายล้างใต้หล้าได้ในดาบของเซียวหลินเทียน พลังแผ่กระจายออกกระทั่งอาภรณ์ของพวกเขาปลิวสะบัด…ใบไม้บนต้นไม้ก็ดูเหมือนจะต้านรับพายุที่โหมกระหน่ำและแผ่ขยายไปทั่วท้องฟ้ามิไหว ร่วงหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว…ฉัวะ…เลือดอุ่น ๆ กระเซ็นออกมาสายแล้วสายเล่า ตัดกับใบไม้ที่ร่วงหล่นเต็มท้องฟ้า ป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและฝนในทันที…แขนขาขาดกระเด็น เสียงกรีดร้องดังระงม…มือสังหารที่พุ่งเข้ามาเป็นกลุ่มแรกถูกเซียวหลินเทียนฟันเป็นสองท่อนโดยมิลังเล!หัวหน้ามือสังหารชุดดำเพิ่งตระหนักว่าสถานการณ์เริ่มมิดีและคิดจะวิ่งหนี แต่ก็ถูกเซียวหลินเทียนฟันศีรษะผ่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1040

    จักรพรรดิอู่อันประทับอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลกวนเพื่อรอให้การแข่งขันจบลง ผลก็คือเห็นเซียวหลินเทียนที่ร่างโชกเลือดทั้งตัวอุ้มหลิงอวี๋ลงมาจากเขา จักรพรรดิอู่อันตกใจกับบาดแผลของเซียวหลินเทียนและหลิงอวี๋ เขาคำรามว่า “มือสังหารหน้าไหนกล้าลอบสังหารอ๋องอี้ในดินแดนของฉินตะวันตก พวกมันมิเห็นพวกเราอยู่ในสายตาแล้วรึ!” “สืบสวน ให้สืบสวนให้ดี สืบให้ได้ความว่าใครเป็นผู้สั่งการ ข้าจะต้องให้มันผู้นั้นชดใช้ด้วยเลือด!” จักรพรรดิอู่อันให้เซียวหลินเทียนรีบพาหลิงอวี๋กลับไปก่อน เมื่อกองทัพของเว่ยเหนือและเยวี่ยใต้กลับมา จักรพรรดิอู่อันก็มีสีหน้าเคร่งขรึมแล้วตรัสว่า “มีคนร้ายบังอาจสั่งให้คนไปลอบสังหารอ๋องอี้ในป่า การแข่งขันในวันนี้เกรงว่า อาจต้องยกเลิกไปก่อน การแข่งขันครั้งสุดท้ายจะจัดขึ้นในวันอื่น!” องค์ชายเว่ยและองค์ชายคังได้รับผลจากการล่าสัตว์ที่ดีในวันนี้ เมื่อได้ยินเช่นนั้น องค์ชายเว่ยก็พูดอย่างมิพอใจว่า “เสด็จพ่อ คำกล่าวของพระองค์มิยุติธรรม! น้องสี่ถอนตัวจากการแข่งขันก็จริง แต่ฉินตะวันตกของเรายังมีกระหม่อม น้องสามและน้องห้าที่สามารถเป็นตัวแทนได้พ่ะย่ะค่ะ!” องค์ชายเหยี่ยวแห่งเว่ยเหนือก็เผยรอยยิ้ม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1041

    “อาอวี๋… อาอวี๋…” ในรถม้า เซียวหลินเทียนอุ้มหลิงอวี๋ไว้ เลือดของนางไหลรินเปื้อนอาภรณ์ของเขาไปหมดเขาสัมผัสได้ว่าลมหายใจของนางยิ่งนานยิ่งรวยรินลงทีละน้อย เซียวหลินเทียนรู้สึกราวกับว่ามีมือที่มองมิเห็นขยำหัวใจของเขาไว้แน่น ทำให้หัวใจบีบรัดจนเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขากลัวเหลือเกิน กลัวว่าดวงตาคู่งามของนางจะมิสามารถลืมขึ้นได้อีก... เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้นางเผชิญหน้ากับเซี่ยโฮ่วตานรั่วด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิและความมั่นใจเพียงใด“หม่อมฉันเชื่อว่าสิ่งที่เป็นของหม่อมฉัน มิว่าใครก็แย่งไปมิได้!” รอยยิ้มที่เจิดจ้าจนแสบตาเหมือนแสงอาทิตย์นั้นยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขา พริบตาเดียวเท่านั้น ใบหน้าที่เคยสดใสและสวยงามกลับซีดขาวราวกับหิมะ... “อาอวี๋… อดทนไว้นะ เจ้ามิได้บอกว่าเจ้ายังมีอะไรอีกหลายสิ่งที่ต้องทำหรอกหรือ? เจ้ามิได้บอกว่าจะหาเงินให้ได้มาก ๆ แล้วพาเยวี่ยเยวี่ยและแม่นมท่องเที่ยวไปทุกที่หรอกหรือ? เจ้าคงมิอยากผิดสัญญากับพวกนางหรอกใช่หรือไม่…” “เจ้าต้องอดทนไว้… เจ้าจะต้องมิเป็นอะไร!”เสียงของเซียวหลินเทียนสั่นเครือ หานเหมยที่คุกเข่าอยู่ข้างหลิงอวี๋เพื่อตรวจสอบบาด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1042

    แม้ว่าเถาจื่อจะใช้ยาห้ามเลือดที่ดีที่สุดของนางกับหลิงอวี๋แล้ว แต่ลูกธนูที่ปักอยู่ที่หลังของหลิงอวี๋ก็ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาอยู่เรื่อย ๆเซียวหลินเทียนรู้สึกว่าเส้นทางนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน ช้าเสียจนมิถึงสักทีเลือดของหลิงอวี๋ไหลจากอาภรณ์ของนางเปื้อนไปถึงอาภรณ์ของเขา ผิวของเขาสัมผัสได้ถึงความเหนียวหนืดและความอุ่นร้อนเลือดร้อนราวกับน้ำเดือด แผดเผาความโกรธเกรี้ยวที่มิรู้ที่มาในตัวเซียวหลินเทียนให้พลุ่งพล่านขึ้นเขาพยายามซ่อนความกลัวของตัวเองอย่างสุดความสามารถ กอดหลิงอวี๋ไว้แน่น‘เจ้าจะมิตาย…’‘เจ้าจะต้องมิตาย!’เขาตะโกนอยู่ในใจ“ข้ายังติดหนี้เจ้าอีกมากมายและยังมิได้ชดใช้ เจ้าต้องให้โอกาสข้าได้ชดใช้เจ้า!”“อาอวี๋ เหตุใดเจ้าถึงได้โง่เขลาเช่นนี้ เหตุใดต้องเอาตัวมาขวางลูกธนูแทนข้าด้วย!”“แม้ตัวข้าเองจะบาดเจ็บเจียนตาย ข้าก็มิต้องการให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายเลยสักนิด…”“ท่านอ๋อง... ถึงแล้วเพคะ... หมอเลี่ยวมาแล้ว…”มิรอให้เฉาอี้พูดจบ เซียวหลินเทียนก็อุ้มหลิงอวี๋พุ่งออกจากรถม้า รีบรุดเข้าไปคนรับใช้ในตำหนักอ๋องอี้ต่างก็ตื่นตระหนกกันหมด หมิ่นกูได้รับข่าวล่วงหน้าแล้ว จึงรีบสั่งการอย่างเ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1910

    อาศัยอยู่ที่ตระกูลเฉียวรึ?เซียวหลินเทียนครุ่นคิด หากนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลเฉียวก็คงเข้าไปจับตัวได้ยากว่ากันว่านายน้อยตระกูลเฉียวเสียชีวิตด้วยน้ำมือของหลิงอวี๋ ตระกูลเฉียวจึงเกลียดหลิงอวี๋มากถึงขนาดเสนอรางวัลค่าหัวของนางเป็นจำนวนเงินสูงถึงห้าล้านตระกูลเฉียวรับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาอาศัยด้วยเช่นนี้ หรือว่าพวกเขาคิดจะตามหาหลิงอวี๋ผ่านทางจ้าวหรุ่ยหรุ่ย?“คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของตระกูลเฉียวและจ้าวหรุ่ยหรุ่ยไว้ให้ดี!”เซียวหลินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจว่าจะมิทำอะไรจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นการชั่วคราว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าหลิงอวี๋หนีไปจากนางได้อย่างไร และนางจะมิยอมแพ้ในการตามหาหลิงอวี๋อย่างแน่นอนหากใช้นาง เซียวหลินเทียนก็จะสามารถหาตัวหลิงอวี๋เจอได้เร็วขึ้น“ยังไม่มีข่าวคราวอะไรจากทางหวงฝู่หมิงจูอีกรึ?”เซียวหลินเทียนนึกถึงเรื่องที่เขาเคยสัญญากับหวงฝู่หลินเอาไว้ว่าจะตามหาลูกสาวให้ จึงได้ถามขึ้นมา“ตอนนี้ยังขอรับ ข้าน้อยสั่งให้คนเร่งค้นหาแล้ว อีกทั้งยังได้ส่งคนไปจับตาดูตระกูลจงเจิ้งด้วย แต่จงเจิ้งหลินและเสวี่ยเหมยยังมิกลับไปยังตระกูลจงเจิ้ง ตอนนี้มิทราบว่าทั้งสามค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1909

    มิพูดมิได้ว่า คำพูดสั้น ๆ มิกี่คำของเย่ซื่อฝานนี้ทำให้หลิงอวี๋ซาบซึ้งใจพลันนั้นนางก็นึกถึงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและเก๋อฮุ่ยหนิงขึ้นมา ที่พวกนางบังอาจกล้าลงมือซ้อมนางและสังหารลูกของนาง นั่นก็เป็นเพราะนางอ่อนแอมิใช่รึ?หากตนเข้มแข็งพอที่จะทำให้พวกนางกลัว พวกนางยังจะกล้าปฏิบัติกับตนเช่นนี้หรือ?จุดประสงค์ที่นางเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!แล้วจะสนใจว่าสำนักศึกษาชิงหลงเป็นอย่างไรไปเพื่ออะไร?หากวันหนึ่งนางแข็งแกร่งพออย่างที่เย่ซื่อฝานพูด นางก็สามารถสร้างสำนักศึกษาชิงหลงขึ้นมาใหม่ได้ และจะกำหนดกฎเกณฑ์อย่างไรก็ได้!“สิงอวี๋น้อมรับคำสอนไว้แล้ว! ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง!”หลิงอวี๋โค้งคำนับเย่ซื่อฝานอย่างจริงใจเย่ซื่อฝานมองหลิงอวี๋ด้วยความชื่นชม แม้สตรีนางนี้จะหน้าตาธรรมดา แต่นางก็ฉลาดหลักแหลมมากเอาการเขาชี้แนะไปมิกี่คำนางก็เข้าใจแล้ว ดูมีอนาคตไกลจริง ๆ!“แล้วพบกันวันพรุ่ง!”เย่ซื่อฝานหมุนตัวพาต่งเฉิงออกไปจางอิ๋งยิ้มให้หลิงอวี๋และกระซิบว่า “ท่านรองเจ้าสำนักศึกษามิได้ลำเอียงเข้าข้างเหมียวหยางหรอก เขาแค่เป็นห่วงว่า แม้พวกเราจะร้องเรียนจนชนะแต่ก็จะมิเกิดประ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1908

    สีหน้าของเหมียวหยางเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาคุกเข่าลงพร้อมกับพูดเสียงขรึม“ท่านรองเจ้าสำนักศึกษา เรื่องนี้เป็นฝีมือของเหมียวหยางแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น อาจารย์ของข้าน้อยมิรู้เห็นเรื่องนี้!”“เหมียวหยางเพียงแค่มีความแค้นส่วนตัวกับหอโอสถซ่างกู่ มิอยากเห็นพวกเขาได้ผู้มีความสามารถที่โดดเด่นไป จึงตัดสินใจมาดึงสิงอวี๋เป็นพรรคพวกโดยพลการ!”“เมื่อครู่ที่ข้าน้อยพูดว่าจะสังหารสิงอวี๋ ก็แค่อยากทำให้นางกลัว หาได้คิดจะทำจริง ๆ ไม่ขอรับ!”ผู้รอบรู้ทนมิไหว พลันก่นด่าออกมา “ทำให้นางกลัวรึ? เจ้าถึงกับชักกระบี่ออกมาด้วยซ้ำ หากกลุ่มของท่านรองเจ้าสำนักศึกษามิมา เจ้าจะปล่อยน้องหญิงของข้าไปหรือ?”“เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นเด็กน้อยที่จะดูมิออกว่าเจ้าพูดจริงหรือเท็จหรืออย่างไร?”เหมียวหยางทำท่าทางจริงใจและยกนิ้วสองนิ้วขึ้นราวกับจะสาบาน“พี่ใหญ่ท่านนี้ ข้าเหมียวหยางขอสาบานต่อสวรรค์ สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง ข้าเพียงอยากทำให้นางกลัวเท่านั้น!”เมื่อเห็นท่าทางเจ้าเล่ห์ของเหมียวหยาง ก็ทำเอาหลิงอวี๋ถึงกับพูดมิออกจางอิ๋งโกรธจนตัวสั่น ส่วนเย่ซื่อฝานมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา สุดท้ายก็หันไปมองต่งเฉิงต่งเฉ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1907

    “พี่ใหญ่ ข้ากลับมาแล้ว! จะบอกให้ วันนี้ข้าผ่านการประเมินได้ตั้งสองรอบ ขอเพียงวันพรุ่งข้าผ่านเข้าไปเป็นห้าอันดับแรกได้ ข้าก็จะได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงแล้ว!”หลิงอวี๋วิ่งเข้ามาในเรือนหลังเล็กของตัวเองอย่างลิงโลด ยังมิทันเห็นผู้รอบรู้นางก็เอ่ยตะโกนด้วยความตื่นเต้นดีใจ“จริงหรือ? เจ้ายอดเยี่ยมมากน้องหญิง!”เมื่อได้ยินเสียงของหลิงอวี๋ ผู้รอบรู้ก็วิ่งออกมา“จริงสิ!”ขณะที่หลิงอวี๋พูดอยู่และกำลังจะปิดประตู ก็มีมือข้างหนึ่งยื่นมาผลักหลิงอวี๋แล้วตามเข้ามา“เจ้าเป็นใคร?”เมื่อผู้รอบรู้เห็นหลิงอวี๋ถูกผลักจนเซ เขาก็รีบเข้าไปช่วยนาง จากนั้นก็บังตัวนางเอาไว้และมองผู้มาเยือนด้วยความระแวดระวังคนที่เข้ามาเป็นบุรุษวัยยี่สิบกว่า รูปร่างสูงโปร่ง มีสีหน้าและแววตาที่เหี้ยมโหด“ข้าเป็นใครมิสำคัญ สิงอวี๋ เจ้าอยากเข้าไปเรียนปรุงโอสถที่สำนักศึกษาชิงหลงหรือไม่?”บุรุษผู้นั้นถาม“เหลวไหล หากมิอยากเข้า แล้วน้องหญิงข้าจะไปลงทะเบียนหาปะไร?”ผู้รอบรู้ตวาดอย่างมิไว้หน้า “เจ้าเป็นใครกันแน่ มาทำอะไรที่บ้านของพวกข้า?”บุรุษผู้นั้นเหลือบมองผู้รอบรู้อย่างเฉยเมยและพูดกับหลิงอวี๋ว่า “ขอเพียงเจ้าตอบตกลงเข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1906

    จางอิ๋งได้พูดคุยเรื่องการแต่งงานกับลูกชายของเย่ซื่อฝานแล้ว และต่อไปหอโอสถซ่างกู่ก็จะเป็นครอบครัวสามีของนาง นางมิอาจทนเห็นหอโอสถซ่างกู่ถูกแทนที่ได้ ดังนั้นนางจึงแสวงหาผู้มีความสามารถให้กับหอโอสถซ่างกู่อย่างกระตือรือร้นทันทีที่เสียงกลองหยุดลง จางอิ๋งก็อดใจรอมิไหวที่จะเก็บตำรับยาของผู้เข้าสอบจางอิ๋งรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จำแนกส่วนผสมโอสถได้เพียงสิบห้าชนิดเท่านั้นจากผลงานของหลิงอวี๋ในรอบแรก อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะจำแนกได้สักสิบแปดชนิด เหตุใดถึงได้แค่สิบห้าชนิดกันทางด้านหลงอิงที่ลงทะเบียนเรียนกับหอโอสถไป๋เป่าเขียนตำรับยายี่สิบชนิดได้ถูกต้องทั้งหมด และอยู่ในอันดับที่หนึ่งของกลุ่มนี้ส่วนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเขียนตำรับยาได้สิบห้าชนิด แต่มีตำรับยาสองแผ่นที่มีข้อผิดพลาด ตำรับยาแผ่นหนึ่งระบุเครื่องยาสมุนไพรมิครบถ้วน และอีกแผ่นหนึ่งเขียนชื่อสมุนไพรผิดโดยรวมแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่ในอันดับที่สาม และหลิงอวี๋อยู่ในอันดับที่สอง“อาจารย์ พวกเราต้องการผู้มีความสามารถที่โดดเด่นยอดเยี่ยมที่สุด ถึงจะเหนือกว่าหอโอสถไป๋เป่าได้ สิงอวี๋ผู้นี้มิเก่งกาจเท่าหลงอิง จะให้ข้าไปหาหลงอิงเป็นการส่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1905

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ก็ได้ยินจงเจิ้งเฟยพูดขึ้นเสียงเรียบ “เสี่ยวอวี๋ เป้าหมายของเจ้าคือการได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาปรุงโอสถ เท่านั้นก็พอแล้ว อย่าได้ทำตัวโดดเด่นจนเกินไปล่ะ!”“ในสำนักศึกษาชิงหลง หากทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตาแต่ไม่มีคนหนุนหลังจะทำให้สร้างศัตรูได้ง่าย!”จงเจิ้งเฟยพูดเช่นนี้ด้วยความหวังดีการที่หลิงอวี๋ได้อันดับหนึ่งในรอบแรกก่อให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่ผู้คนมากมาย จงเจิ้งเฟยกังวลว่าสหายใหม่คนนี้จะมิเข้าใจวิถีของสังคม นางจึงให้คำชี้แนะอีกฝ่ายคำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่ทำให้หลิงอวี๋ได้สติขึ้นมาทันทีนางมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลงอิง และเหล่าคุณหนูที่แต่งกายหรูหรา แต่ละคนล้วนร่ำรวยและมีฐานะสูงส่งเหมือนที่จงเจิ้งเฟยพูด ในเมื่อไม่มีพลังอำนาจ แล้วจะเอาอะไรไปต่อกรกับพวกนางได้?ความรู้ความสามารถที่แท้จริงหรืออย่างไร?ในสายตาของเหล่าคุณหนูจากตระกูลขุนนางเหล่านี้ นั่นไม่มีความหมายอะไร เพราะยังมีคนในสำนักศึกษาชิงหลงอีกมากที่มีความสามารถมากกว่าตนการที่นางชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้มิใช่เรื่องอะไรหรอก แต่การปลุกเร้าความอิจฉาริษยาของเหล่าคุณหน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1904

    “หากมิทำให้ยากขึ้นมาหน่อยแล้วจะคัดคนมากมายออกได้อย่างไร!”จงเจิ้งเฟยกลอกตาไปที่เหลยเหวินอีกครั้งพลางยิ้มเยาะ “บางคนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพียงเพื่อแสวงหาชื่อเสียง และบางคนก็มาเพื่อหาสามีที่ร่ำรวย ไม่มีใจที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยซ้ำ!”“หากมิคัดคนเช่นนี้ออกไป ก็รังแต่จะทำให้ชื่อเสียงของเหล่าปรมาจารย์ต้องเสื่อมเสีย!”"เจ้าก็มั่นใจในตัวเองหน่อย เจ้ามิได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย!"หลิงอวี๋รับคำพูดของจงเจิ้งเฟยมาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง นางมิด้อยกว่าใครแน่นอน นางจะต้องเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงและพยายามพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้ เพื่อที่นางจะได้แก้แค้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสุดท้ายทั้งสามคนก็ไปกินอาหารเย็นด้วยกัน หลังจากที่พักผ่อนกันครู่หนึ่งก็กลับมาที่สำนักย่อยเพื่อเข้าร่วมการประเมินรอบต่อไปเนื่องจากในรอบแรกมีคนถูกคัดออกไปเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้เข้าสอบที่สำนักย่อยจึงน้อยลงไปมาก ดังนั้นผู้เข้าสอบทุกคนจึงสามารถเข้าไปสังเกตการณ์ในรอบที่สองได้การสอบแข่งขันยังคงจัดขึ้นแบบกลุ่ม และผู้ที่อยู่ห้าอันดับแรกจะได้ผ่านไปยังการประเมินรอบสุดท้ายสิ่งที่ทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนตื่นเต้นก็คือ ครั้งนี้นอกเหนือจากรองเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1903

    ศิษย์น้องหญิงนางนี้พูดจาอวดดีราวกับสำนักศึกษาชิงหลงเป็นของตระกูลนาง!หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะรู้สึกสนใจศิษย์น้องหญิงนางนี้มากขึ้นกว่าเดิมมิรู้ว่าใครเป็นคนกล่าวคำนี้ไว้ ศัตรูของศัตรูคือมิตร!ตอนนี้หลิงอวี๋มิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอีกต่อไปแล้ว แต่นั่นก็มิอาจหยุดยั้งนางจากการใช้ศัตรูของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเพื่อแก้แค้นอีกฝ่ายได้ดูเหมือนว่าศิษย์น้องหญิงจะเกลียดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก บางทีนางอาจจะร่วมมือกับตนเพื่อจัดการจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้“เหวินเหวิน ศิษย์น้องหญิงนางนั้นเป็นใครกัน? ข้าว่านางดูบ้าบิ่นมากเลย!”หลิงอวี๋ถามด้วยความสงสัย“แน่นอนว่านางทำตัวบ้าบิ่นได้อยู่แล้ว เพราะนางสกุลหลงอย่างไรเล่า!”เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิรู้ตัวตนของศิษย์น้องหญิงจริง ๆ เหลยเหวินจึงเลิกเคืองหลิงอวี๋แล้วกระซิบบอกนาง“นางชื่อหลงอิง แม้นางจะมิได้มาจากตระกูลจักรพรรดิมังกร แต่ก็ยังถือว่าเป็นคนของตระกูลหลงอยู่ดี และยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่คนภายนอกอีกด้วย!”หลิงอวี๋ตระหนักได้ทันทีว่าใต้หล้าในแดนเทพนี้เป็นของตระกูลหลง คนเดียวที่ประสบความสำเร็จในตระกูลนี้ทำให้ทุกคนรอบข้างได้รับประโยชน์ แม้แต่พวกไร้สถานะอำนาจยังดูสู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1902

    ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status