Share

บทที่ 914

Author: หว่านชิงอิ๋น
หลังจากพูดอย่างนั้น ลั่วชิงยวนก็เดินออกไปอย่างเย็นชา

หัวใจของฟู่เฉินหวนตึงเครียดขึ้นมาทันที

“ท่านอ๋อง...” ลั่วเยวี่ยอิงเรียกเบา ๆ

ฟู่เฉินหวนรู้สึกราวกับว่า เชือกที่ตึงอยู่ในหัวของเขากำลังจะขาด “ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำแผล”

ลั่วชิงยวนต้มยาอีกครั้ง แล้วกลับมาป้อนให้จักรพรรดิสูงสุด

กว่าจะรู้ตัว เวลาก็ล่วงเข้าสู่ยามค่ำคืนเสียแล้ว

คืนนี้แสงจันทร์สว่างเป็นพิเศษ และลั่วชิงยวนก็นั่งลงบนพื้นโดยเอนหลังนั่งพิงเตียง

แล้วเริ่มสนทนากับจักรพรรดิสูงสุด

“คืนนี้หม่อมฉันจะอยู่กับพระองค์เอง ฟู่เฉินหวนคงไม่มีเวลาหรอกเพคะ”

“หม่อมฉันคิดว่า ตอนนี้คงมีคนมากมายจับจ้องพระองค์กับหม่อมฉันอยู่ พระอาการของพระองค์คงมิสามารถหายได้ในระยะเวลาอันสั้น ผู้ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังผู้นี้ ต้องถูกจับตัวออกมาให้ได้เพคะ”

“มิเช่นนั้น ในภายภาคหน้า เขาจะใช้วิธีการที่คล้ายกันนี้ทำร้ายพระองค์อีกครั้งเป็นแน่ และยากจะป้องกัน”

“แต่หม่อมฉันมิสามารถจับตาดูพระองค์ได้ตลอดเวลา จริงใช่หรือไม่เพคะ?”

จักรพรรดิสูงสุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้สึกว่าสมเหตุสมผล จึงพยักหน้ารับ

“เช่นนั้น พระองค์ก็ทรงร่วมมือกับหม่อมฉันเถิดเพคะ แล้วลากคนผู้นี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 915

    จักรพรรดิสูงสุดมองนางอย่างเหยียดหยาม ราวกับกำลังถามว่านางกำลังดูแคลนผู้ใดอยู่ลั่วชิงยวนปล่อยม่านเตียงลง นั่งบนเก้าอี้ หลับตาเอนหลังพิงพนักพิง“วางพระทัยเถิดเพคะ หม่อมฉันจะปกป้องพระองค์เอง”ฟู่เฉินหวนจะมิออกไปโดยไม่มีเหตุผล และลั่วเยวี่ยอิงจะมิปวดท้องโดยไม่มีสาเหตุไทเฮาต้องการล่อให้ฟู่เฉินหวนออกไปเพื่อที่จะได้ลงมือในความเงียบงันก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นคนรับใช้ในวังซึ่งแต่งกายเป็นขันทีค่อย ๆ เดินเข้ามาเขาเดินอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนหลับตาอยู่ แต่ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เย็นเยียบและรุนแรงขันทีเดินเข้ามาใกล้เตียงจู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็พูดว่า “ถึงเวลาแล้วหรือ?”ขันทีตกใจมาก จึงก้มศีรษะลงแล้วตอบว่า “รายงานพระชายา ถึงเวลาแล้วขอรับ”“เชิญพระชายาหลบออกไปด้วยขอรับ”ทุกวันจะมีคนมาเปลี่ยนกระโถน และช่วยจักรพรรดิสูงสุดเปลี่ยนอาภรณ์แม้แต่กลางคืนก็เช่นกันลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืน แต่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้านี่ดูมิค่อยคุ้นหน้าเลยนะ ช่วงนี้ดูเหมือนจะมิเคยมาที่นี่เลย”ขันทีถอยไปสองก้าวแล้วตอบว่า “บ่าวเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว เราสับเปลี่ยนกันปฏิบัติหน้าที่ นี่เป็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 916

    จักรพรรดิสูงสุดบนเตียงบรรทม มีด้ายเงินพันอยู่รอบคอของเขาจักรพรรดิสูงสุดหายใจมิออกจนใบหน้าแดงก่ำไปหมดลั่วชิงยวนดึงกริชออกมาจากใต้หมอนของจักรพรรดิสูงสุด และตัดด้ายเงินออกจักรพรรดิสูงสุดได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งทันใดนั้น ก็มีแมลงสีดำตัวหนึ่งคลานไปตามด้ายเงินที่ขาดด้ายเงินถูกดึงขึ้นไปอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นร่างสีทมิฬบนขอบหลังคาที่ทะลุ และเงานั้นก็มองลงมาด้วยลั่วชิงยวนมองเห็นเพียงดวงตาของอีกฝ่าย และอดมิได้ที่จะตกใจเป็นเขาแน่!คนจากแคว้นหลีคนนั้นเขามิเพียงแค่ใช้กู่ควบคุมเส้นด้ายได้ แต่ยังสามารถฆ่าคนจากระยะไกลได้อีกด้วยดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชา และกระโดดขึ้นไปบนหลังคาอย่างรวดเร็ว เงาร่างทมิฬก็วิ่งหนีไป ลั่วชิงยวนก็ไล่ตามเขาไปทันทีอีกฝ่ายมีร่างผอมบาง ดูคล้ายสตรี แต่ขาและเท้าในยามที่ใช้วิชาตัวเบาแข็งแกร่งมากมิต่างจากบุรุษและเห็นได้ว่าเขาคุ้นเคยกับวังแห่งนี้มาก เขาหลบหนีเข้าไปยังบริเวณที่มืดไปตลอดทาง พยายามหลีกหนีให้พ้นสายตาของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนไล่ตามเขาไปอย่างสุดกำลัง มิยอมให้รอดไปได้เด็ดขาด!สำหรับจักรพรรดิสูงสุดนั้น มีฟู่เฉินหวนอยู่ด้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 917

    “เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?” เซิ่งไป่ชวนถามอย่างกังวลลั่วเยวี่ยอิงกำลังจะพูด แต่ในขณะนั้น นางนึกถึงสิ่งที่น่าสะพรึงกลัววังหลวงในคืนนี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง แม้แต่สำนักหมอหลวงก็ยังดูแปลกไปด้วยทั้งหมดนี้เป็นแผนของตระกูลเหยียนแน่ ๆอำนาจของพวกเขายิ่งใหญ่มากนางจะกล้าต่อต้านพวกเขาจริงหรือ?“แม่นาง?” เซิงไป่ชวนมองดูนางอย่างงุนงง “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกสับสนอย่างมากควรบอกไปหรือไม่?หากมิพูดอะไรเลย ฟู่เฉินหวนอาจตายได้ เพราะคมมีดนั้นเกือบจะแทงโดนจุดสำคัญ!ทว่าหากพูดออกไป ฟู่เฉินหวนอาจได้รับการช่วยเหลือ และตระกูลเหยียนคงมิปล่อยนางไป!…… ภายใต้แสงจันทร์ ลั่วชิงยวนไล่ตามเงาร่างนั้น ผ่านสวนที่เต็มไปด้วยต้นท้อเมื่อลั่วชิงยวนไล่เขาจนออกจากสวนท้อ เงาร่างนั้นกลับหายไปหายไปเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?คงจะยังอยู่แถวนี้แน่ด้านหน้ามีตำหนักอยู่แห่งหนึ่ง รอบ ๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ สภาพแวดล้อมดีมาก แต่อยู่ในส่วนที่ห่างไกลไปหน่อยลั่วชิงยวนสังเกตเห็นว่า ตำหนักแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นตำหนักเพียงแห่งเดียวในบริเวณนี้หรือว่าคนชุดดำจะหนีเข้าไปข้างในแล้ว?ลั่วชิงยวนเดินไปข้างหน้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 918

    ทารกมีกลิ่นอายชั่วร้ายจาง ๆ กระจายออกมาลั่วชิงยวนใจหายวาบทันทีนางจำได้ว่า นางได้จัดการสะสางทุกสิ่งที่เฝิงซีเคยประสบมาก่อนไปจนหมดแล้วกลิ่นอายชั่วร้ายในตัวเด็กคนนี้ มาจากที่ใดกัน?“อวี้เอ๋อร์ อย่าร้อง อย่าร้อง แม่อยู่นี่แล้ว!” เฝิงซีกล่อมลูกน้อยอย่างอ่อนโยนจากนั้นนางเตรียมจะปลดอาภรณ์เพื่อให้นมลูกทันใดนั้นการเคลื่อนไหวของนางก็ชะงักไป ก่อนจะมองไปยังลั่วชิงยวน "พระชายายังมีเรื่องอื่นใดอีกหรือไม่? หากไม่มีแล้ว ท่านกลับไปเถิด"ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขออภัยที่มารบกวนท่านแล้วเพคะ”นางหันกลับและจากไปนางกำนัลส่งนางออกจากพระตำหนักชุนซานลั่วชิงยวนมองย้อนกลับไปด้วยความสงสัยในใจว่า คนชุดดำจะไปที่ใดได้อีกนอกจากเข้าไปในตำหนักชุนซาน?แต่เวลาผ่านไปนานแล้ว นางตามจับมิทันเสียแล้ว อีกคนแค่เปลี่ยนอาภรณ์แล้วก็สามารถเดินไปเดินมาในวังได้ตามปกติจับตัวมิได้แล้วดังนั้นลั่วชิงยวนจึงทำได้แค่หันหลังกลับไปทางเดิมตราบใดที่จักรพรรดิสูงสุดปลอดภัย หากจักรพรรดิมิเป็นอะไร มิช้าก็เร็วไทเฮาจะต้องลงมืออีกแน่แต่การจับคนชุดดำคนนี้ อาจจะลำบากสักหน่อยขณะที่ไล่ตามมือสังหาร ลั่วชิงยวนมิได้สังเกตว่า วังหลวงเง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 919

    ”เขายังเตือนทุกคนว่า ยามกลางคืนห้ามเดินเพ่นพ่าน หากได้ยินเสียงอะไรก็ให้เพิกเฉยเสีย”“พวกเขายังใส่ยาที่ทำให้ง่วงในทุกจานด้วย หากใครกินเข้าไปก็จะง่วงนอน”“กระหม่อมรู้สึกแปลก ๆ จึงคอยระมัดระวัง มิได้กินยาและมิยอมนอน เป็นไปตามคาด กระหม่อมได้ยินเสียงของแม่นางลั่วเข้า”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา“อำนาจยิ่งใหญ่ดีจริง ๆ แม้แต่สำนักหมอหลวงยังถูกควบคุมเช่นนี้ได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “คนที่ข้าไล่ตามไปก็หายไปเช่นกัน”แต่ฟู่เฉินหวนกล่าวว่า “ตราบใดที่คนมิเป็นไรก็ดีแล้ว”เนื่องจากเป็นเวลาดึกแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงจึงถูกส่งไปที่เรือนด้านข้างเพื่อพักผ่อนเดิมทีเซิ่งไป่ชวนคิดจะกลับไป แต่ถูกลั่วชิงยวนรั้งเอาไว้“เจิ้งอู๋เหลียงมิอนุญาตให้ใครเดินเตร็ดเตร่ยามกลางคืน หากท่านกลับไปตอนนี้ พวกเขาต้องรู้แน่ว่าท่านไปทำอะไรมา ข้าเกรงว่าพวกเขาจะมิปล่อยท่านไป”“เหตุใดท่านมิอยู่ที่นี่ และช่วยข้าดูอาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดเล่า?”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า “ขอรับ”ในขณะที่เซิ่งไป่ชวนไปต้มยาลั่วชิงยวนก็เดินไปที่เตียง แล้วยกม่านขึ้น จึงเห็นว่าจักรพรรดิสูงสุดยังคงลืมตาอยู่ และยังมิได้หลับไป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 920

    “เสด็จพ่อ! ท่านหายดีจริงๆ แล้ว!” ฟู่จิ่งหานรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก รีบก้าวไปประคองจักรพรรดิสูงสุดแม้ว่าใบหน้าของจักรพรรดิสูงสุดจะซีดอยู่บ้างเล็กน้อย แต่สีหน้าของเขากลับจริงจังมาก เพียงแค่ยืนเฉย ๆ ก็ดูเต็มไปด้วยความสง่างามไทเฮาที่เดิมทีมักจะร้อนรน กลับกังวลมากจนมิกล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียวขณะนั้นเอง เสียงถอนหายใจหนัก ๆ ก็ดังขึ้น... “ข้าแพ้แล้ว!”หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่ผู้เป็นหมอมาตลอดชีวิต คิดว่าทักษะทางการแพทย์ของเขาเหนือกว่าใคร และมิเชื่อว่าลั่วชิงยวนจะสามารถรักษาจักรพรรดิสูงสุดได้แต่ในขณะนี้ เมื่อเห็นจักรพรรดิสูงสุดยืนขึ้นมาได้ ก็ทำให้เขาตกใจสิ่งที่เขาทุ่มหมดหน้าตักแต่กลับยังทำมิสำเร็จ ทว่าแม่นางผู้นี้กลับทำได้!ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก แล้วเอ่ยขึ้น “เช่นนั้น หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่โปรดอย่าลืมเดิมพันของเรา ส่งสมุนไพรที่ท่านมีทั้งหมดไปที่ตำหนักอ๋องผู้สำเร็จราชการให้ข้าด้วยเถิด”หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่พูดเสียงดัง “ข้าย่อมรักษาคำพูดแน่นอน!”"แต่การที่พระพลานามัยขององค์จักรพรรดิสูงสุดดีขึ้นมากได้เช่นนี้ ข้ายอมรับพ่ายแพ้อย่างเต็มใจ!"ทุกคนรอบตัวตกตะลึง ลั่วชิงยวนเก่งกาจนัก เก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 921

    จักรพรรดิสูงสุดโกรธเล็กน้อยและต้องการยกมือขึ้น แต่ไทเฮาก็รู้สึกได้และจับมือเขาไว้แน่น ป้องกันมิให้เขาขยับพละกำลังของจักรพรรดิสูงสุดในขณะนี้ย่อมด้อยกว่าไทเฮา และเขามิสามารถเคลื่อนไหวได้เลยขุนนางทั้งหลายพากันสรรเสริญ ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติแม้แต่น้อยลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนทราบเรื่องนี้ แต่พวกเขามิได้พูดอะไรมหาราชาจารย์เหยียนกล่าวว่า”เนื่องจากพระพลานามัยขององค์จักรพรรดิสูงสุดดีขึ้นแล้ว ขุนนางทั้งหลายพากันสรรเสริญ ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเลย พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการมีความดีความชอบอย่างมาก!”ขณะที่มหาราชาจารย์เหยียนพูดสิ่งนี้ เขาก็ชำเลืองมองลั่วชิงยวนอย่างมีความหมาย“ขอพระชายาโปรดพยายามรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดต่อไป หวังว่าการรักษาต่อจากนี้จะไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น!”เมื่อคำพูดเหล่านี้เข้าหูลั่วชิงยวน ก็ฟังดูคล้ายคำขู่อย่างที่สุด“องค์จักรพรรดิสูงสุดยังทรงต้องพักผ่อน ดังนั้นพวกกระหม่อมขอทูลลาไปก่อน”“กระหม่อมขอทูลลา!”หลังจากที่มหาราชาจารย์เหยียนทำความเคารพแล้ว เขาก็หันหลังจากไปขุนนางคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันทูลลาและจากไปทีละคนในท้ายที่สุด มีองค์ชายเพียงมิกี่คนที่เหลื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 922

    ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็พลันตกลงมาจากท้องฟ้าเมื่อร่างนั้นแตะพื้นก็แผ่กระจายกลิ่นอายชั่วร้ายออกมาทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาก็เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและดุร้าย เขาพุ่งตัวไปที่เตียงทันทีดวงตาของลั่วชิงยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา สะบัดแส้ยาวที่ร่ายอักขระไว้พันรอบข้อเท้าของศัตรูแล้วดึงเขาอย่างแรงแต่ชายคนนั้นดึงดาบสั้นออกจากมือแล้วโยนมันไปทางเตียงจิตสังหารฟุ้งกระจายไปทั่วคนบนเตียงพลิกตัวไปด้านใน หลบคมดาบสั้นที่ปักลงบนเตียงได้ทันหวุดหวิดแส้ยาวในมือของลั่วชิงยวนลากเขาลงไปที่พื้น อักขระเวทนั้นร้อนมากจนอีกฝ่ายร้องครวญครางซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาคว้าแส้ยาวแล้วพยายามจะดึงออกเขาทนต่อความเจ็บปวดจากการถูกแผดเผา แล้วบังคับแส้ยาวจนหัก อีกฝ่ายกลับดึงแส้จนขาด แล้วกระโดดขึ้นมาโจมตีที่ใบหน้าของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนขมวดคิ้วแน่น และเห็นได้อย่างชัดเจนว่า บุคคลนั้นคือขันทีหนุ่มเมื่อวาน รอยแผลที่คอยังอยู่เขาเป็นศพไปแล้วแต่ในตอนนี้ ภายในร่างกายของเขามีพลังบางอย่างที่แข็งแกร่งสิงอยู่พลังวิญญาณชั่วร้ายเช่นนี้ เป็นวิญญาณชั่วร้ายที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างน้อยยี่สิบถึงสามสิบปีเห็นจะได้นี่น่าจะเป็นสิ่ง

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1211

    นางเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “ได้”ลั่วฉิงพยุงนางขึ้น แล้วโยนนางลงบนเก้าอี้ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะพูด “ข้าต้องการสมุนไพร”มือทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนที่วางแขน แท่งเหล็กยังคงปักอยู่ เลือดไหลอาบมิหยุด ขยับร่างกายมิได้เลยลั่วฉิงมองนางอย่างเย็นชา ก่อนจะกดมือของนางไว้แล้วดึงแท่งเหล็กออกอย่างรวดเร็ว“กรี๊ด”ลั่วชิงยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดลั่วฉิงโน้มตัวลงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้เจ้ามิเคยกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้ ลั่วเหลา”ลั่วชิงยวนตัวสั่น มองนางด้วยความตกใจ“นี่ก็เป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนรู้สึกทั้งโกรธและสิ้นหวังในใจลั่วฉิงนำยามาทำแผลให้พลางหัวเราะอย่างดูถูก “มินึกเลยว่านักบวชระดับสูงลั่วเหลาผู้มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ถูกอาจารย์เอ็นดูทะนุถนอมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับบุรุษ”ในน้ำเสียงของลั่วฉิงแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ข้ากับเจ้ามิเคยมีเรื่องบาดหมางกันมิใช่หรือ”แววตาของลั่วฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มองนางอย่างเย็นชา “ในสายตาของเจ้า อาจจะไม่มีเรื่องบาดหมาง”“แต่สำหรับข้า เรื่องบาดหมางนั้นใหญ่หลวงนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1210

    “กรี๊ด” ลั่วชิงยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แท่งเหล็กถูกแทงลึกลงไปอีก ความรู้สึกที่กระดูกถูกแยกออกจากกันนั้นทำให้เจ็บปวดจนอยากตาย“ดี ยังมิยอมบอกอีกใช่หรือไม่”ลั่วฉิงหยิบแท่งเหล็กอีกอันแทงเข้าไปในมืออีกข้างของลั่วชิงยวนอย่างแรงตลอดทั้งคืน ลั่วชิงยวนถูกทรมานจนเหมือนตายแล้วเกิดขึ้นใหม่ หลายครั้งที่สลบไปเพราะความเจ็บปวด แล้วก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุด คอของนางก็แหบแห้งจนส่งเสียงร้องมิได้ด้วยซ้ำฟ้าสางแล้ว แสงแดดสาดส่องเข้ามา ลั่วชิงยวนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับแอ่งโคลนเปียก มิขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเลือดเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนางจนเป็นสีแดงฉาน แสงแดดส่องกระทบกองเลือดจนเป็นประกาย......ตำหนักอ๋องมีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากห้องตำรา“ยังไม่มีใครมารายงานข้าสักคน! รีบไปหา! ออกไปหาให้หมด!”ฟู่เฉินหวนโกรธจัด มึนหัวจนต้องเอามือยันโต๊ะไว้ถึงแม้จะนั่งลงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังมิสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ร้อนรุ่มใจยิ่งนักได้แต่หวังว่านางจะออกจากตำหนักไปเองจือเฉายังคงอยู่ที่หน้าประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1209

    ในชั่วขณะนั้น นางเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป เหตุใดนางจึงเห็นลั่วฉิงแต่คำพูดของลั่วฉิงในวินาทีต่อมา ทำให้นางรู้สึกราวกับตกอยู่ในหุบเหวลึก“แม้แต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังจัดการคนดื้อรั้นเช่นเจ้ามิได้ ต้องให้ข้ามาเองเลยหรือ”ร่างของลั่วชิงยวนสั่นเทามิหยุด หนาวเหน็บจนแทบจะไร้ความรู้สึกน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าซีดเซียวหยดลงบนพื้นทีละหยดลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าที่นี่คือห้องห้องหนึ่งแต่มิใช่ในตำหนักอ๋อง“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” นางจำได้ว่าหลังจากที่จือเฉาทายาให้แล้วนางก็หลับไปลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนส่งเจ้ามาให้ข้า”“เขาเค้นคำตอบจากเจ้ามิได้ จึงต้องให้ข้ามาจัดการเอง”ได้ยินดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้งเขายังคิดว่าตัวเองยังโหดร้ายมิพออีกหรือ จึงส่งนางให้ลั่วฉิงเช่นนี้นี่ต้องการทรมานนางจนตายจึงจะหายแค้นหรืออย่างไรลั่วฉิงหยิบกล่องใบหนึ่งมาเปิดออก ข้างในเต็มไปด้วยแท่งเหล็กขนาดเท่าหัวแม่มือแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าต้องการอะไร”“หากตอนนี้เจ้าบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“หากพลาดโอกาสนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1208

    ในวินาทีต่อมา องครักษ์ก็กรูกันเข้ามาลากลั่วชิงยวนออกไปที่ลานหลังจากกดนางลงกับพื้นก็ใช้หวายฟาดลงบนร่างของนางอย่างมิปรานีความเจ็บปวดแล่นริ้ว ลั่วชิงยวนจิกเล็บลงบนพื้นหิมะจนเป็นรอยลึกจือเฉากระโจนเข้ามาจากนอกลาน “หยุด! หยุด!”“ท่านอ๋อง เหตุใดจึงทำกับพระชายาเช่นนี้ พระชายาทำผิดอันใดหรือเพคะ!”“ท่านอ๋อง ขอได้โปรดปล่อยพระชายาเถิดเพคะ! ตั้งแต่เข้าเหมันตฤดู แผลบนร่างของพระชายาก็ยังมิหาย! หากโบยเช่นนี้ต่อไปคงจะสิ้นใจเป็นแน่เพคะ!”“ท่านอ๋องทรงพระกรุณาด้วยเพคะ!” จือเฉาโผเข้ากอดลั่วชิงยวนเพื่อรับหวายแทนแต่กลับถูกองครักษ์ดึงตัวออกไปจือเฉาร้องขอความเมตตาสุดเสียง แต่บุรุษที่ยืนอยู่ใต้ชายคากลับมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาฉายแววเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่น“พระชายา...” จือเฉาร้อนใจ แทบจะเป็นลมเพราะร้องไห้หนักลั่วชิงยวนเจ็บปวดจนแทบมิได้ยินเสียงของจือเฉา มีเพียงความเจ็บปวดมิรู้จบ ยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดหลังจากที่ลั่วชิงยวนสลบไป ฟู่เฉินหวนจึงสั่งให้หยุดแล้วจากไปด้วยความโกรธจือเฉาโผเข้าหาลั่วชิงยวน เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสก็พบว่ามือเปื้อนไปด้วยเลือด นางรีบชักมือกลับมองเลือดที่ไหลนองเต็มพื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1207

    ฟู่เฉินหวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แววตาที่น่ารังเกียจนั้นทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทงลั่วชิงยวนกัดฟันพลางกลั้นน้ำตาไว้ “ท่านมิได้บอกว่าจะเชื่อหม่อมฉันหรอกหรือเพคะ?”“หากหม่อมฉันบอกท่านทั้งหมด ท่านก็จะเชื่อหม่อมฉันมิใช่หรือเพคะ!”ฟู่เฉินหวนมีแววตาเย็นชา มองนางอย่างเฉยเมย “แต่เจ้าบอกข้าทั้งหมดแล้วหรือยังเล่า? เจ้ายังคงปิดบัง ยังคงหลอกลวง!”เสียงตำหนินั้นเต็มไปด้วยความโกรธทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนแทบแตกสลาย“ฟู่เฉินหวน วันนี้ท่านมาก็เพื่อหลอกลวงหม่อมฉันอีกแล้วใช่หรือไม่”“จุดประสงค์สุดท้ายของท่านคือ หลอกล่อให้หม่อมฉันบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ เพราะลั่วฉิงใช้มันมิได้ ใช่หรือไม่!”ลั่วชิงยวนตะโกนด้วยความโกรธ“หม่อมฉันช่างโง่เขลาที่เชื่อใจท่าน บอกความลับทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านก็หลอกลวงหม่อมฉันอีกครั้ง...”พูดไปน้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินในเวลานี้ หัวใจของลั่วชิงยวนราวกับถูกควักออกมาผ่าเป็นสองซีกเจ็บปวดเจียนตายแต่ฟู่เฉินหวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า แววตายิ่งเย็นชาขึ้นเขาบีบคอของนางด้วยความโกรธ“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว ข้าก็ขี้เกียจเสแสร้งกับเจ้าแล้ว”“เข็มท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1206

    ฟู่เฉินหวนตกใจมองนางด้วยความประหลาดใจก่อนจะตอบว่า “ได้”“หากเจ้าอธิบายได้ชัดเจน ข้ายินดีเชื่อเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยรีบกล่าวทันที “หม่อมฉันชื่อลั่วเหลา แท้จริงแล้วลั่วอิงคืออาจารย์ของหม่อมฉัน หม่อมฉันตายไปแล้วมาเกิดใหม่ในร่างของลั่วชิงยวน”“วันรุ่งขึ้นหลังจากวันแต่งงาน ลั่วชิงยวนก็ปลิดชีพตัวเอง หลังจากนั้นร่างนี้ก็มิใช่ลั่วชิงยวนอีกต่อไป แต่เป็นหม่อมฉัน ลั่วเหลา”“หม่อมฉันเป็นชาวแคว้นหลี”“ดังนั้นความสามารถที่หม่อมฉันมีจึงเป็นสิ่งที่ลั่วชิงยวนไม่มี”“เรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นหลี หม่อมฉันก็เพิ่งค้นพบตอนที่ไปเผ่านอกด่าน หลังจากที่อาจารย์ค้นพบความลับนี้ ก็พยายามค้นหาวิธีแก้ไขเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์”“เพราะหากความลับนี้รั่วไหลออกไป จะมีคนมากมายเกิดความโลภ จะทำให้ทั้งใต้หล้าประสบพบความวุ่นวาย เลือดนองแผ่นดิน”“...”ลั่วชิงยวนเล่าความลับทั้งหมดของนางให้เขาฟังโดยมิปิดบังนางรู้สึกว่าคนที่เคยเปิดใจให้กันคงจะมิทรยศกันง่าย ๆตราบใดที่นางจริงใจ มิปิดบังสิ่งใด นางก็จะได้รับการตอบสนองเช่นเดียวกันหลังจากที่นางพูดจบ ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1205

    เหตุใดแคว้นหลีจึงส่งกองทัพมากะทันหันฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถาม “ท่านมหาปราชญ์ ท่านเชี่ยวชาญด้านนี้ พอจะทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่?”“ควรจะรับมืออย่างไร”ขุนนางทั้งหลายต่างมองไปที่ลั่วฉิง ลั่วฉิงไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เรื่องนี้... ทำนายได้ แต่หม่อมฉันต้องการเวลาเพคะ”ฟู่อวิ๋นโจวมีสีหน้ากังวล และถามว่า “ท่านมหาปราชญ์ต้องการเวลานานเพียงใด?”ลั่วฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “สามวันเพคะ!”สิ้นคำพูดของนาง หลายคนก็แสดงความมิพอใจ“สามวันหรือ? ซีหลิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวพันลี้ สามวันกว่าจะบอกผลลัพธ์ จะทันการณ์ได้อย่างไร”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิได้ใช้เวลานานถึงเพียงนั้น”“ใช่ ท่านมหาปราชญ์คงจะมิค่อยมีความสามารถมากถึงเพียงนั้นกระมัง”คำพูดนี้ทำให้ลั่วฉิงหน้าซีดเผือด“สองวัน อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองวัน!” ลั่วฉิงกัดฟันกล่าวในตอนนี้ ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “แคว้นหลีส่งกองทัพมาโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดว่าตอนนี้ควรส่งคนไปเจรจากับแคว้นหลีโดยด่วน”“ระหว่างนั้นก็ส่งกองกำลังไปเสริมอย่างลับ ๆ ด้วย อย่าได้พึ่งพาแต่ผลการทำนายของท่านมหาปราชญ์”“หากผลลัพธ์ออกมาแล้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1204

    เมื่อเฉินชีได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงักแล้วยกยิ้มมุมปาก เดินมาที่หน้าต่าง พิงกำแพงพลางกอดอก “เจ้าจะให้ข้าช่วยเจ้าในฐานะที่เจ้าเป็นใคร?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “นักบวชระดับสูง”ดวงตาของเฉินชีลุกโชนด้วยประกายร้อนแรง “อาเหลา ในที่สุดเจ้าก็ตัดสินใจจะไปกับข้าแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยสายตาเย็นชาและเย่อหยิ่ง “กลับแคว้นหลีก็ได้ ข้าบอกแล้วว่าให้เจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่ง”“แคว้นหลีจะมีนักบวชระดับสูงได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น”เฉินชียกยิ้มมุมปากแล้วหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะคุกเข่าลงข้างหนึ่งอย่างนอบน้อม “อย่าว่าแต่เรื่องเดียวเลย สิบเรื่อง ร้อยเรื่อง เฉินชีก็ยินดีทำเพื่อนักบวชระดับสูงทั้งสิ้น!”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองเขาด้วยแววตาที่ลึกล้ำถึงแม้เฉินชีจะบ้าแต่ก็มิใช้คนโง่เขลา เขาทำอะไรตามอำเภอใจแต่ก็คงมิยอมสยบต่อนางง่าย ๆ เช่นนี้การเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ทำให้นางมิค่อยเชื่อถือ“เจ้าฟังเรื่องที่ข้าจะให้เจ้าทำก่อนค่อยตอบรับก็ยังมิสาย”เฉินชีลุกขึ้นมองนางด้วยแววตาเป็นประกาย “ท่านนักบวชต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”“ข้าต้องการให้เจ้ายกทัพไปตีซีหลิง”“แต่ห้ามสู้รบกันจริง ๆ ห้ามทำร้ายราษฎร”เฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1203

    ใจของลั่วชิงยวนร้อนรุ่มดั่งไฟสุม นางพยายามดิ้นรนสุดแรง “ปล่อยข้านะ!”“ฟู่เฉินหวน ท่านช่างไร้หัวใจอะไรเยี่ยงนี้!”ทว่าฟู่เฉินหวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย มิสะทกสะท้านแม้แต่น้อยเมื่อเห็นแม่นมเติ้งใกล้จะทนมิไหวแล้ว น้ำตาลั่วชิงยวนก็เอ่อคลอ“หม่อมฉันจะมิออกจากเรือนแล้ว หม่อมฉันจะมิออกจากห้องแล้ว ได้หรือไม่!”นางมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามวิงวอนขอร้องในที่สุดนางก็ยอมก้มหน้าลง“ขอท่านไว้ชีวิตนางด้วยเถิดเพคะ!” ลั่วชิงยวนคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรงแววตาฟู่เฉินหวนมืดมนเดิมทีลั่วชิงยวนคิดว่าเมื่อนางขอร้องแล้ว ฟู่เฉินหวนคงจะไว้ชีวิตแม่นมเติ้งแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีแววตาเย็นชา “นางเป็นบ่าวของตำหนัก มิใช่บ่าวของเจ้า นางขัดคำสั่งข้า สำหรับข้าแล้ว ไม่มีคำว่ายกโทษ”น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาเป็นดั่งหนามแหลมทิ่มแทงหัวใจของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนตกตะลึงนางโกรธจนตะโกนลั่น “ฟู่เฉินหวน!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายแววหงุดหงิดขณะกล่าวเสียงเย็น “พาตัวนางไป”องครักษ์จับตัวลั่วชิงยวนแล้วลากออกไปฟู่เฉินหวนมองนางเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาเย็นชา “หากเจ้ายังท้าทายข้าอีก จะต้องมีคนตายมา่กกว่านี้แน่”แ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status