แชร์

บทที่ 915

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
จักรพรรดิสูงสุดมองนางอย่างเหยียดหยาม ราวกับกำลังถามว่านางกำลังดูแคลนผู้ใดอยู่

ลั่วชิงยวนปล่อยม่านเตียงลง นั่งบนเก้าอี้ หลับตาเอนหลังพิงพนักพิง

“วางพระทัยเถิดเพคะ หม่อมฉันจะปกป้องพระองค์เอง”

ฟู่เฉินหวนจะมิออกไปโดยไม่มีเหตุผล และลั่วเยวี่ยอิงจะมิปวดท้องโดยไม่มีสาเหตุ

ไทเฮาต้องการล่อให้ฟู่เฉินหวนออกไป

เพื่อที่จะได้ลงมือ

ในความเงียบงันก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้น

คนรับใช้ในวังซึ่งแต่งกายเป็นขันทีค่อย ๆ เดินเข้ามา

เขาเดินอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนหลับตาอยู่ แต่ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เย็นเยียบและรุนแรง

ขันทีเดินเข้ามาใกล้เตียง

จู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็พูดว่า “ถึงเวลาแล้วหรือ?”

ขันทีตกใจมาก จึงก้มศีรษะลงแล้วตอบว่า “รายงานพระชายา ถึงเวลาแล้วขอรับ”

“เชิญพระชายาหลบออกไปด้วยขอรับ”

ทุกวันจะมีคนมาเปลี่ยนกระโถน และช่วยจักรพรรดิสูงสุดเปลี่ยนอาภรณ์

แม้แต่กลางคืนก็เช่นกัน

ลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืน แต่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้านี่ดูมิค่อยคุ้นหน้าเลยนะ ช่วงนี้ดูเหมือนจะมิเคยมาที่นี่เลย”

ขันทีถอยไปสองก้าวแล้วตอบว่า “บ่าวเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว เราสับเปลี่ยนกันปฏิบัติหน้าที่ นี่เป็น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 916

    จักรพรรดิสูงสุดบนเตียงบรรทม มีด้ายเงินพันอยู่รอบคอของเขาจักรพรรดิสูงสุดหายใจมิออกจนใบหน้าแดงก่ำไปหมดลั่วชิงยวนดึงกริชออกมาจากใต้หมอนของจักรพรรดิสูงสุด และตัดด้ายเงินออกจักรพรรดิสูงสุดได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งทันใดนั้น ก็มีแมลงสีดำตัวหนึ่งคลานไปตามด้ายเงินที่ขาดด้ายเงินถูกดึงขึ้นไปอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นร่างสีทมิฬบนขอบหลังคาที่ทะลุ และเงานั้นก็มองลงมาด้วยลั่วชิงยวนมองเห็นเพียงดวงตาของอีกฝ่าย และอดมิได้ที่จะตกใจเป็นเขาแน่!คนจากแคว้นหลีคนนั้นเขามิเพียงแค่ใช้กู่ควบคุมเส้นด้ายได้ แต่ยังสามารถฆ่าคนจากระยะไกลได้อีกด้วยดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชา และกระโดดขึ้นไปบนหลังคาอย่างรวดเร็ว เงาร่างทมิฬก็วิ่งหนีไป ลั่วชิงยวนก็ไล่ตามเขาไปทันทีอีกฝ่ายมีร่างผอมบาง ดูคล้ายสตรี แต่ขาและเท้าในยามที่ใช้วิชาตัวเบาแข็งแกร่งมากมิต่างจากบุรุษและเห็นได้ว่าเขาคุ้นเคยกับวังแห่งนี้มาก เขาหลบหนีเข้าไปยังบริเวณที่มืดไปตลอดทาง พยายามหลีกหนีให้พ้นสายตาของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนไล่ตามเขาไปอย่างสุดกำลัง มิยอมให้รอดไปได้เด็ดขาด!สำหรับจักรพรรดิสูงสุดนั้น มีฟู่เฉินหวนอยู่ด้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 917

    “เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?” เซิ่งไป่ชวนถามอย่างกังวลลั่วเยวี่ยอิงกำลังจะพูด แต่ในขณะนั้น นางนึกถึงสิ่งที่น่าสะพรึงกลัววังหลวงในคืนนี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง แม้แต่สำนักหมอหลวงก็ยังดูแปลกไปด้วยทั้งหมดนี้เป็นแผนของตระกูลเหยียนแน่ ๆอำนาจของพวกเขายิ่งใหญ่มากนางจะกล้าต่อต้านพวกเขาจริงหรือ?“แม่นาง?” เซิงไป่ชวนมองดูนางอย่างงุนงง “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกสับสนอย่างมากควรบอกไปหรือไม่?หากมิพูดอะไรเลย ฟู่เฉินหวนอาจตายได้ เพราะคมมีดนั้นเกือบจะแทงโดนจุดสำคัญ!ทว่าหากพูดออกไป ฟู่เฉินหวนอาจได้รับการช่วยเหลือ และตระกูลเหยียนคงมิปล่อยนางไป!…… ภายใต้แสงจันทร์ ลั่วชิงยวนไล่ตามเงาร่างนั้น ผ่านสวนที่เต็มไปด้วยต้นท้อเมื่อลั่วชิงยวนไล่เขาจนออกจากสวนท้อ เงาร่างนั้นกลับหายไปหายไปเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?คงจะยังอยู่แถวนี้แน่ด้านหน้ามีตำหนักอยู่แห่งหนึ่ง รอบ ๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ สภาพแวดล้อมดีมาก แต่อยู่ในส่วนที่ห่างไกลไปหน่อยลั่วชิงยวนสังเกตเห็นว่า ตำหนักแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นตำหนักเพียงแห่งเดียวในบริเวณนี้หรือว่าคนชุดดำจะหนีเข้าไปข้างในแล้ว?ลั่วชิงยวนเดินไปข้างหน้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 918

    ทารกมีกลิ่นอายชั่วร้ายจาง ๆ กระจายออกมาลั่วชิงยวนใจหายวาบทันทีนางจำได้ว่า นางได้จัดการสะสางทุกสิ่งที่เฝิงซีเคยประสบมาก่อนไปจนหมดแล้วกลิ่นอายชั่วร้ายในตัวเด็กคนนี้ มาจากที่ใดกัน?“อวี้เอ๋อร์ อย่าร้อง อย่าร้อง แม่อยู่นี่แล้ว!” เฝิงซีกล่อมลูกน้อยอย่างอ่อนโยนจากนั้นนางเตรียมจะปลดอาภรณ์เพื่อให้นมลูกทันใดนั้นการเคลื่อนไหวของนางก็ชะงักไป ก่อนจะมองไปยังลั่วชิงยวน "พระชายายังมีเรื่องอื่นใดอีกหรือไม่? หากไม่มีแล้ว ท่านกลับไปเถิด"ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขออภัยที่มารบกวนท่านแล้วเพคะ”นางหันกลับและจากไปนางกำนัลส่งนางออกจากพระตำหนักชุนซานลั่วชิงยวนมองย้อนกลับไปด้วยความสงสัยในใจว่า คนชุดดำจะไปที่ใดได้อีกนอกจากเข้าไปในตำหนักชุนซาน?แต่เวลาผ่านไปนานแล้ว นางตามจับมิทันเสียแล้ว อีกคนแค่เปลี่ยนอาภรณ์แล้วก็สามารถเดินไปเดินมาในวังได้ตามปกติจับตัวมิได้แล้วดังนั้นลั่วชิงยวนจึงทำได้แค่หันหลังกลับไปทางเดิมตราบใดที่จักรพรรดิสูงสุดปลอดภัย หากจักรพรรดิมิเป็นอะไร มิช้าก็เร็วไทเฮาจะต้องลงมืออีกแน่แต่การจับคนชุดดำคนนี้ อาจจะลำบากสักหน่อยขณะที่ไล่ตามมือสังหาร ลั่วชิงยวนมิได้สังเกตว่า วังหลวงเง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 919

    ”เขายังเตือนทุกคนว่า ยามกลางคืนห้ามเดินเพ่นพ่าน หากได้ยินเสียงอะไรก็ให้เพิกเฉยเสีย”“พวกเขายังใส่ยาที่ทำให้ง่วงในทุกจานด้วย หากใครกินเข้าไปก็จะง่วงนอน”“กระหม่อมรู้สึกแปลก ๆ จึงคอยระมัดระวัง มิได้กินยาและมิยอมนอน เป็นไปตามคาด กระหม่อมได้ยินเสียงของแม่นางลั่วเข้า”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา“อำนาจยิ่งใหญ่ดีจริง ๆ แม้แต่สำนักหมอหลวงยังถูกควบคุมเช่นนี้ได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “คนที่ข้าไล่ตามไปก็หายไปเช่นกัน”แต่ฟู่เฉินหวนกล่าวว่า “ตราบใดที่คนมิเป็นไรก็ดีแล้ว”เนื่องจากเป็นเวลาดึกแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงจึงถูกส่งไปที่เรือนด้านข้างเพื่อพักผ่อนเดิมทีเซิ่งไป่ชวนคิดจะกลับไป แต่ถูกลั่วชิงยวนรั้งเอาไว้“เจิ้งอู๋เหลียงมิอนุญาตให้ใครเดินเตร็ดเตร่ยามกลางคืน หากท่านกลับไปตอนนี้ พวกเขาต้องรู้แน่ว่าท่านไปทำอะไรมา ข้าเกรงว่าพวกเขาจะมิปล่อยท่านไป”“เหตุใดท่านมิอยู่ที่นี่ และช่วยข้าดูอาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดเล่า?”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า “ขอรับ”ในขณะที่เซิ่งไป่ชวนไปต้มยาลั่วชิงยวนก็เดินไปที่เตียง แล้วยกม่านขึ้น จึงเห็นว่าจักรพรรดิสูงสุดยังคงลืมตาอยู่ และยังมิได้หลับไป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 920

    “เสด็จพ่อ! ท่านหายดีจริงๆ แล้ว!” ฟู่จิ่งหานรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก รีบก้าวไปประคองจักรพรรดิสูงสุดแม้ว่าใบหน้าของจักรพรรดิสูงสุดจะซีดอยู่บ้างเล็กน้อย แต่สีหน้าของเขากลับจริงจังมาก เพียงแค่ยืนเฉย ๆ ก็ดูเต็มไปด้วยความสง่างามไทเฮาที่เดิมทีมักจะร้อนรน กลับกังวลมากจนมิกล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียวขณะนั้นเอง เสียงถอนหายใจหนัก ๆ ก็ดังขึ้น... “ข้าแพ้แล้ว!”หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่ผู้เป็นหมอมาตลอดชีวิต คิดว่าทักษะทางการแพทย์ของเขาเหนือกว่าใคร และมิเชื่อว่าลั่วชิงยวนจะสามารถรักษาจักรพรรดิสูงสุดได้แต่ในขณะนี้ เมื่อเห็นจักรพรรดิสูงสุดยืนขึ้นมาได้ ก็ทำให้เขาตกใจสิ่งที่เขาทุ่มหมดหน้าตักแต่กลับยังทำมิสำเร็จ ทว่าแม่นางผู้นี้กลับทำได้!ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก แล้วเอ่ยขึ้น “เช่นนั้น หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่โปรดอย่าลืมเดิมพันของเรา ส่งสมุนไพรที่ท่านมีทั้งหมดไปที่ตำหนักอ๋องผู้สำเร็จราชการให้ข้าด้วยเถิด”หัวหน้าสำนักหมอหลวงมู่พูดเสียงดัง “ข้าย่อมรักษาคำพูดแน่นอน!”"แต่การที่พระพลานามัยขององค์จักรพรรดิสูงสุดดีขึ้นมากได้เช่นนี้ ข้ายอมรับพ่ายแพ้อย่างเต็มใจ!"ทุกคนรอบตัวตกตะลึง ลั่วชิงยวนเก่งกาจนัก เก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 921

    จักรพรรดิสูงสุดโกรธเล็กน้อยและต้องการยกมือขึ้น แต่ไทเฮาก็รู้สึกได้และจับมือเขาไว้แน่น ป้องกันมิให้เขาขยับพละกำลังของจักรพรรดิสูงสุดในขณะนี้ย่อมด้อยกว่าไทเฮา และเขามิสามารถเคลื่อนไหวได้เลยขุนนางทั้งหลายพากันสรรเสริญ ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติแม้แต่น้อยลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนทราบเรื่องนี้ แต่พวกเขามิได้พูดอะไรมหาราชาจารย์เหยียนกล่าวว่า”เนื่องจากพระพลานามัยขององค์จักรพรรดิสูงสุดดีขึ้นแล้ว ขุนนางทั้งหลายพากันสรรเสริญ ไม่มีใครสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเลย พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการมีความดีความชอบอย่างมาก!”ขณะที่มหาราชาจารย์เหยียนพูดสิ่งนี้ เขาก็ชำเลืองมองลั่วชิงยวนอย่างมีความหมาย“ขอพระชายาโปรดพยายามรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดต่อไป หวังว่าการรักษาต่อจากนี้จะไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น!”เมื่อคำพูดเหล่านี้เข้าหูลั่วชิงยวน ก็ฟังดูคล้ายคำขู่อย่างที่สุด“องค์จักรพรรดิสูงสุดยังทรงต้องพักผ่อน ดังนั้นพวกกระหม่อมขอทูลลาไปก่อน”“กระหม่อมขอทูลลา!”หลังจากที่มหาราชาจารย์เหยียนทำความเคารพแล้ว เขาก็หันหลังจากไปขุนนางคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันทูลลาและจากไปทีละคนในท้ายที่สุด มีองค์ชายเพียงมิกี่คนที่เหลื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 922

    ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็พลันตกลงมาจากท้องฟ้าเมื่อร่างนั้นแตะพื้นก็แผ่กระจายกลิ่นอายชั่วร้ายออกมาทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาก็เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและดุร้าย เขาพุ่งตัวไปที่เตียงทันทีดวงตาของลั่วชิงยวนแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา สะบัดแส้ยาวที่ร่ายอักขระไว้พันรอบข้อเท้าของศัตรูแล้วดึงเขาอย่างแรงแต่ชายคนนั้นดึงดาบสั้นออกจากมือแล้วโยนมันไปทางเตียงจิตสังหารฟุ้งกระจายไปทั่วคนบนเตียงพลิกตัวไปด้านใน หลบคมดาบสั้นที่ปักลงบนเตียงได้ทันหวุดหวิดแส้ยาวในมือของลั่วชิงยวนลากเขาลงไปที่พื้น อักขระเวทนั้นร้อนมากจนอีกฝ่ายร้องครวญครางซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาคว้าแส้ยาวแล้วพยายามจะดึงออกเขาทนต่อความเจ็บปวดจากการถูกแผดเผา แล้วบังคับแส้ยาวจนหัก อีกฝ่ายกลับดึงแส้จนขาด แล้วกระโดดขึ้นมาโจมตีที่ใบหน้าของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนขมวดคิ้วแน่น และเห็นได้อย่างชัดเจนว่า บุคคลนั้นคือขันทีหนุ่มเมื่อวาน รอยแผลที่คอยังอยู่เขาเป็นศพไปแล้วแต่ในตอนนี้ ภายในร่างกายของเขามีพลังบางอย่างที่แข็งแกร่งสิงอยู่พลังวิญญาณชั่วร้ายเช่นนี้ เป็นวิญญาณชั่วร้ายที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างน้อยยี่สิบถึงสามสิบปีเห็นจะได้นี่น่าจะเป็นสิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 923

    ลั่วชิงยวนติดตามกลิ่นไปจนสุดทางจนมาถึงด้านนอกพระตำหนักโช่วสี่แล้วนางเดินผ่านพระตำหนักโช่วสี่อย่างเงียบ ๆ และพบกับบรรยากาศอันมืดมนในสวนอันเงียบสงบด้านหลังพระตำหนักโช่วสี่ไฟของเรือนกลางสวนส่องสว่างอยู่ และลั่วชิงยวนก็เตะประตูให้เปิดออกใบหน้าของร่างที่นั่งบนเก้าอี้ซีดด้วยความตกใจ จ้องมองนางอย่างตะลึง“บังอาจ!” อีกฝ่ายตะโกนขึ้นลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ปรากฏว่าเป็นสตรีในวัยสี่สิบคนหนึ่งลั่วชิงยวนคิดอย่างรอบคอบ นางเคยเห็นสตรีนางนี้มาก่อน แต่มิเคยสังเกตอะไรมากนัก“นี่คือพระตำหนักโช่วสี่ กล้าบุกเข้ามาได้อย่างไร!”อีกฝ่ายตะโกนด้วยความโกรธแล้วรีบจะหนีทันทีดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางพุ่งเข้าไปขวางและเข้าปะทะกับอีกฝ่าย“ข้ามิสนว่าจะเป็นพระตำหนักโช่วสี่หรือไม่ ข้ามาที่นี่ในคืนนี้เพื่อจัดการกับเจ้าเท่านั้น! เจ้าหนีมิพ้นแล้ว!”เสียงของการต่อสู้ของทั้งสองดังชัดเจนเป็นพิเศษในคืนอันเงียบสงบเช่นนี้มินานก็มีคนได้ยินเสียงจึงเข้ามา“บังอาจ! ใครกล้าบุกตำหนักข้า!” เสียงอันสง่างามของไทเฮาดังมาจากด้านนอกประตูมีเสียงฝีเท้ามากมาย และมีองครักษ์หลายคนมาเมื่อไทเฮารีบเข้ามา ลั่วชิงยว

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status