Share

บทที่ 923

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนติดตามกลิ่นไปจนสุดทาง

จนมาถึงด้านนอกพระตำหนักโช่วสี่แล้ว

นางเดินผ่านพระตำหนักโช่วสี่อย่างเงียบ ๆ และพบกับบรรยากาศอันมืดมนในสวนอันเงียบสงบด้านหลังพระตำหนักโช่วสี่

ไฟของเรือนกลางสวนส่องสว่างอยู่ และลั่วชิงยวนก็เตะประตูให้เปิดออก

ใบหน้าของร่างที่นั่งบนเก้าอี้ซีดด้วยความตกใจ จ้องมองนางอย่างตะลึง

“บังอาจ!” อีกฝ่ายตะโกนขึ้น

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ปรากฏว่าเป็นสตรีในวัยสี่สิบคนหนึ่ง

ลั่วชิงยวนคิดอย่างรอบคอบ นางเคยเห็นสตรีนางนี้มาก่อน แต่มิเคยสังเกตอะไรมากนัก

“นี่คือพระตำหนักโช่วสี่ กล้าบุกเข้ามาได้อย่างไร!”

อีกฝ่ายตะโกนด้วยความโกรธ

แล้วรีบจะหนีทันที

ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางพุ่งเข้าไปขวางและเข้าปะทะกับอีกฝ่าย

“ข้ามิสนว่าจะเป็นพระตำหนักโช่วสี่หรือไม่ ข้ามาที่นี่ในคืนนี้เพื่อจัดการกับเจ้าเท่านั้น! เจ้าหนีมิพ้นแล้ว!”

เสียงของการต่อสู้ของทั้งสองดังชัดเจนเป็นพิเศษในคืนอันเงียบสงบเช่นนี้

มินานก็มีคนได้ยินเสียงจึงเข้ามา

“บังอาจ! ใครกล้าบุกตำหนักข้า!” เสียงอันสง่างามของไทเฮาดังมาจากด้านนอกประตู

มีเสียงฝีเท้ามากมาย และมีองครักษ์หลายคนมา

เมื่อไทเฮารีบเข้ามา ลั่วชิงยว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Ao Potjanee
อ่านสนุกชอบเนื้อเรื่อง แต่แอบลำคาญนางเอง กับ พระเอก เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน และลงเอยกันซะที
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 924

    ฟู่เฉินหวนมาพร้อมกับทหารองครักษ์จำนวนมากในลักษณะก้าวร้าวเมื่อไทเฮาหันเห็นเหตุการณ์นี้ ใบหน้าของนางก็ซีดเผือดนางพูดด้วยความโกรธ “อ๋องผู้สำเร็จราชการ เจ้าคิดจะก่อกบฏหรือ?”“เจ้ากล้านำคนบุกเข้ามาในพระตำหนักโช่วสี่ได้อย่างไร เจ้ามิเห็นแก่หน้าข้าแล้วรึ?”ฟู่เฉินหวนมีใบหน้าที่เย็นชา สั่งการอย่างมิไว้หน้า “ล้อมพระตำหนักโช่วสี่ไว้ จากนี้ไปแม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็มิอนุญาตให้บินออกไป!”ไทเฮาโกรธมาก เมื่อเห็นว่าฟู่เฉินหวนสั่งให้ล้อมพระตำหนักโช่วสี่ของนาง ใบหน้าของนางก็เขียวคล้ำ “ฟู่เฉินหวน!”ฟู่เฉินหวนมิสนใจสิ่งที่ไทเฮาจะเอ่ย และตรงไปหาลั่วชิงยวนแทน “เจ้าบาดเจ็บหรือไม่?”ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างสงสัย “เหตุใดท่านถึงมาด้วยตนเอง? แล้วองค์จักรพรรดิสูงสุดเล่า?"ฟู่เฉินหวนตอบว่า “ฟู่จิ่งหลีกำลังดูแลอยู่”ฟู่เฉินหวนพูด แล้วมองไปยังคนที่ลั่วชิงยวนจับเอาไว้ แล้วถามว่า “ใช่นางหรือ?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า หันมองกลับไปมองในเรือน “สิ่งที่อยู่ข้างในก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้”ฟู่เฉินหวนส่งคนไปตรวจค้นเรือนดังกล่าวทันทีมีการรวบรวมขวด ไห กระถางธูป และเครื่องรางของขลังจำนวนมากถูกนำออกมาเรียงบนพื้นสิ่งสำคัญ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 925

    ลั่วชิงยวนเข้าไปในห้อง และค้นหาอย่างระมัดระวังแต่ทุกสิ่งที่ควรตรวจค้นในห้องก็พบแล้วและนำออกไปแล้วลั่วชิงยวนมิพบสิ่งใดเลย และมิพบที่ซ่อนลับใด ๆ ในห้องเช่นกันตอนที่กำลังจะออกไป จู่ ๆ ก็พบว่ามีห้องเล็ก ๆ สองห้องตรงมุมสวน ซึ่งดูเหมือนครัวเล็ก ๆ หรือห้องเก็บฟืนลั่วชิงยวนเดินไปโดยมิคาดหวังอะไร และผลักประตูให้เปิดออกแต่เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในห้อง นางก็ได้แต่ตกใจนี่ก็เป็นห้องที่มีคนอาศัยอยู่และการจัดห้องนั้นประณีตมาก มิเหมือนห้องที่คนรับใช้อยู่ แม้แต่ห้องของต่งชูก็มิดีเท่านี้นางค้นหาทั่วห้อง และเมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าก็ต้องตกใจจริง ๆ แล้วมีเสื้อผ้ามากมายในตู้ มันเป็นแค่ชุดชั้นใน มีทั้งสำหรับชายและหญิงมิใช่ของคนคนเดียวกัน!เป็นไปได้หรือไม่ว่า ต่งชูลอบติดต่อกับใครบางคนในวังอีก?นางยังค้นต่อไปในตู้และกล่องต่าง ๆ แล้วพบยาทา ยาหอม และยาเม็ดหลังจากตรวจสอบทีละอย่างแล้ว ก็พบว่าล้วนเป็นของที่ใช้ในการสมสู่ระหว่างชายหญิงลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว ต่งชูกำลังมีความสัมพันธ์กับใครบางคนจริง ๆ!นางหยิบรองเท้าผู้ชายคู่หนึ่งขึ้นมาแล้วรีบออกไปอย่างรวดเร็วต่งชูอาจมีผู้สมรู้ร่วมคิด หากต่งชูปฏิเสธที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 926

    ทุกคนมองดูลั่วชิงยวนด้วยความสังสัย มิรู้ว่านางพูดอะไรกับต่งชูแต่แล้ว ก็ได้ยินเสียงต่งชูกัดฟันพูดว่า “ข้ายอมพูดแล้ว!”ทุกคนต่างตกตะลึงลั่วชิงยวนพูดอะไร ถึงสามารถงัดปากของต่งชูให้เปิดได้ในประโยคเดียว?ทั้งไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนเริ่มกังวลทั้งสองมองหน้ากัน และทำได้เพียงพยายามสงบสติอารมณ์เท่านั้นทุกคนจับจ้องมองต่งชูอย่างคาดหวัง และรอคำพูดต่อไปของนางฟู่จิ่งหานตั้งตารออย่างคาดหวัง โดยรอให้ต่งชูเปิดโปงไทเฮาในเวลานั้น แม้ว่าไทเฮาจะแก้ต่าง เพื่อรักษาชีวิตคนตระกูลเหยียนทั้งหมดได้ แต่มหาราชาจารย์เหยียนจะต้องมอบอำนาจทางทหารคืนให้เขาจากนี้ไป เขาจะเป็นจักรพรรดิที่แท้จริงไม่มีใครสามารถแทรกแซงหรือควบคุมเขาได้อีก“ข้าคือคนจากแคว้นหลี ข้าเป็นคนที่ทำร้ายองค์จักรพรรดิสูงสุด ข้าเป็นคนที่หว่านเมล็ดปีกพญามัจจุราชในสวนเอง”“ข้าทำทั้งหมดนี้เพียงเพื่อแก้แค้น”ฟู่จิ่งหานถามเสียงเฉียบขาด “แก้แค้นให้ใคร?”ต่งชูเงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างหนักแน่น "พระชายาหลี!"ทันทีที่คำพูดดังกล่าวหลุดออกมา การแสดงออกของลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนไปอย่างมากหัวใจของฟู่เฉินหวนตึงเครียด และทันใดนั้นเขาก็รู้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 927

    “เมื่อครู่ต่งชูปฏิเสธที่จะพูด เป็นลั่วชิงยวนที่พูดอะไรบางอย่างกับนาง จนทำให้นางตัดสินใจสารภาพ”“ว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็น่าสงสัย ข้าอยากรู้ว่าลั่วชิงยวนพูดอะไรกับต่งชู ถึงทำให้นางสารภาพออกมาจนหมดเปลือก”“ความสามารถเช่นนี้ การเป็นเพียงชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการดูจะเป็นการใช้คนมิคุ้มค่า น่าจะมอบตำแหน่งทางราชการให้นางจะดีกว่า”คำพูดของมหาราชาจารย์เหยียนพยายามหว่านความมิลงรอยกันระหว่างลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนอย่างมิต้องสงสัยฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว และมองดูลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่ซับซ้อน สายตาเต็มไปด้วยความสงสัยหัวใจของลั่วชิงยวนถูกแทงอย่างแรงในขณะนั้นนางต้องการอธิบาย แต่นางก็มิรู้ว่าต้องอธิบายอย่างไรนางประมาท ยังมิทันที่นางจะได้สอบสวนต่งชูให้ถ้วนถี่ กลับไปขู่ว่าจะเปิดเผยบุคคลที่อยู่เบื้องหลังนางเสียก่อนมิคาดคิดต่งชูจะแว้งกัดพระชายาหลีที่ถูกเผาทั้งเป็นไปแล้วเช่นนี้และต่งชูก็ยอมรับว่า นางมาจากแคว้นหลี พระชายาหลีถูกประหารชีวิตเพราะกลียุคในวังที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับมิถ้วน ต่งชูอ้างว่านางล้างแค้นให้พระชายาหลีและเป็นคนลงมือทำร้ายจักรพรรดิสูงสุดฟังดูมีเหตุผลทีเดียวมิพบสิ่งที่น่าสงสัยเลย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 928

    น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเย็นชา “หากต่งชูมีความสัมพันธ์กับลั่วชิงยวน นางคงมิวางกับดักจนสามารถจับต่งชูได้หรอก”“หากนางต้องการฆ่าปิดปากอีกฝ่าย นางก็สามารถทำได้อย่างไร้ร่องรอย จะมิปล่อยให้เรื่องลุกลามถึงขั้นนี้”“พวกท่านเพียงอยากกล่าวหาว่าข้ามิใช่หรือ? เช่นนั้นข้าจะเข้าคุกเอง!”“แต่ลั่วชิงยวน มิว่าผู้ใดก็ห้ามแตะต้องนาง!”“นางยังต้องการรักษาเสด็จพ่อต่อไป!”หลังจากพูดอย่างนั้น ฟู่เฉินหวนโบกแขนเสื้อแล้วจากไปมหาราชาจารย์เหยียนและไทเฮาเหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่แล้วพวกเขาก็มองหน้ากันและรู้สึกสบายใจมากขึ้นลั่วชิงยวนตกตะลึงเป็นฟู่เฉินหวนที่ริเริ่มจะเข้าคุกเองเพื่อมิให้นางต้องพัวพันด้วยเมื่อฟู่เฉินหวนอยู่ในคุกแล้ว มหาราชาจารย์เหยียนจะได้มิจ้องจับผิดลั่วชิงยวนอีก คืนนี้ก็ถือว่าพวกเขารอดจากเคราะห์ร้ายมาได้แล้วฟู่จิ่งหานขมวดคิ้ว พยายามจะปกป้องฟู่เฉินหวน “หากพี่สามรู้จักต่งชูจริง ๆ ไม่มีทางที่เขาจะจับต่งชูให้ข้าเช่นนี้!”มหาราชาจารย์เหยียนมิได้ร้อนรนแม้แต่น้อย ทั้งยังยิ้มเบา ๆ และกล่าวว่า “มิว่าอย่างไร อ๋องผู้สำเร็จราชการก็เป็นฝ่ายเลือกเข้าคุกเอง เช่นนั้นก็แสดงว่า เรื่องนี้เขามิอาจห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 929

    “หงเฉิน มือของท่านเขียนหนังสือได้แล้วมิใช่หรือ? เหตุใดถึงไร้เรี่ยวแรงเพียงนี้? แม้แต่จะกำหมัดท่านยังทำมิได้เลย”ไทเฮากล่าวอย่างเสียใจแต่ภายใต้แสงจันทร์ แสงสีเงินวาบบนข้อมือของจักรพรรดิสูงสุด และเห็นได้ชัดว่ามีเข็มปักอยู่ที่มือนั้น!ฟู่จิงหลี่ก็เห็นเช่นกัน เขาตกใจมาก “พระนาง…”ลั่วชิงยวนปิดปากของเขาทันที และทำท่าทางให้เขาเงียบตอนนี้ฟู่เฉินหวนถูกขังอยู่ในคุก องค์จักรพรรดิมิอาจปราบปรามไทเฮาเหยียนได้เลย หากไทเฮาเหยียนรู้ว่าพวกเขากำลังดักฟังอยู่ มิว่าอย่างไรนางก็จะฆ่าพวกเขาแน่ไทเฮาถอนหายใจ “หม่อมฉันรู้ว่าตอนนี้ในใจท่านมิได้คิดถึงหม่อมฉันเลย”“แต่เป็นบุตรชายท่าน อ๋องผู้สำเร็จราชการ ฟู่เฉินหวนคนนั้น”“ตอนนั้นท่านมอบตำแหน่งอ๋องผู้สำเร็จราชการให้เขา โดยมิสนคำค้านของหม่อมฉัน เพียงเพื่อจะฝึกฝนเขาให้มาต่อต้านตระกูลเหยียนของเรา”“ท่านคาดหวังในตัวเขาอย่างมาก หากมิใช่เพราะแม่ของเขาเป็นชายาปีศาจแห่งแคว้นหลี บัลลังก์นี้คงตกมิถึงมือของลูกชายหม่อมฉัน”“เมื่อเขามิอาจเป็นจักรพรรดิได้ ท่านทำให้เขาเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการเพื่อกระจายอำนาจ ท่านคำนวณได้กว้างไกลนัก”“น่าเสียดาย ที่สุดท้ายเขาก็ยังพ่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 930

    “ไทเฮาไม่มีหลักฐาน ต่งชูก็ตายไปแล้ว ไม่มีพยานอีกต่อไป ต่อให้พวกเขาปลอมแปลงหลักฐานก็ย่อมต้องใช้เวลา“ท้ายที่สุดแล้ว อ๋องผู้สำเร็จราชการก็เป็นตำแหน่งสูงและสถานะมิธรรมดา หลักฐานที่พวกเขาปลอมแปลงจะต้องสมเหตุสมผลและไร้ช่องโหว่ เพื่อจะได้ตบตาเหล่าขุนนางทั้งหลายในราชสำนัก”“เช่นนั้นถึงจะสามารถประหารฟู่เฉินหวนได้”“ดังนั้น พวกเขาน่าจะต้องใช้เวลาในการสร้างหลักฐาน และฟู่เฉินหวนที่อยู่ในคุกตอนนี้น่าจะปลอดภัย”“แต่คงจะหลีกเลี่ยงการทนทุกข์ทางกายมิได้ หม่อมฉันต้องขอให้จักรพรรดิมีราชโองการมิอนุญาตให้มีการทรมานในเรือนจำ”หลังจากฟังการวิเคราะห์ของลั่วชิงยวน ฟู่จิ่งหลีก็สงบลงเขาพยักหน้า “เรื่องคุก ข้าจะไปหาองค์จักรพรรดิเอง”ลั่วชิงยวนคิดเรื่องนี้และพูดต่อ “ตราบใดที่เราหาหลักฐานและจุดอ่อนของพวกเขาเจอก่อนที่พวกเขาจะปลอมแปลงหลักฐานได้ เราก็สามารถบีบให้พวกเขาปล่อยตัวฟู่เฉินหวนออกมาได้”ฟู่จิ่งหลีอดมิได้ที่จะถาม “แต่เสด็จพี่สามเข้าไปแล้ว และตอนนี้พวกเขายังสามารถควบคุมวังหลวงได้อย่างเบ็ดเสร็จ พวกเราจะยังหาหลักฐานและจุดอ่อนของพวกเขาได้หรือ?"ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิดและค่อย ๆ พูดขึ้นมาว่า “หม่อมฉันอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 931

    “ท่านอ๋องยอมเข้าคุกด้วยตัวพระองค์เองก็เพื่อปกป้องลั่วชิงยวน ดูเหมือนว่าเขาจะมิได้เกลียดลั่วชิงยวนมากอย่างที่ลือกัน”มหาราชาจารย์เหยียนสงสัยว่า ลั่วชิงยวนอาจเป็นจุดอ่อนของฟู่เฉินหวนก็เป็นได้ในที่สุดฟู่เฉินหวนก็เงยหน้าขึ้น จ้องมองไปยังมหาราชาจารย์เหยียนด้วยสายตาดุดัน“ข้าจะมิพูดซ้ำ ใครก็อย่าได้คิดจะแตะต้องลั่วชิงยวน!”มหาราชาจารย์เหยียนอดมิได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นฟู่เฉินหวนยอมเปิดปากในที่สุดเขาถามอย่างมิใส่ใจ "แม้ว่ากระหม่อมจะแตะต้องนาง สถานการณ์ของท่านอ๋องในตอนนี้จะเปลี่ยนไปหรือ?"ดวงตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความอาฆาต เขามองไปยังมหาราชาจารย์เหยียนด้วยสายตาที่คมกริบ น้ำเสียงเย็นชาและอันตรายเปล่งออกมาอย่างปฏิเสธมิได้ “เช่นนั้นมหาราชาจารย์เหยียน จะลองดูก็ได้”“หากไทเฮาทรงจะละทิ้งลูกชายของพระนางอย่างฟู่อวิ๋นโจว มหาราชาจารย์เหยียนจะทำอะไรก็เชิญ”มหาราชาจารย์เหยียนตกใจเป็นอย่างมากฟู่อวิ๋นโจวเขาเกือบลืมฟู่อวิ๋นโจวไปแล้วดูเหมือนว่าฟู่อวิ๋นโจวจะถูกคนจากตำหนักอ๋องควบคุมอีกครั้งแต่แล้วเขาก็ยิ้มออกมาและพูดว่า “ใช้ฟู่อวิ๋นโจวแลกชีวิตกับลั่วชิงยวนได้ แล้วตัวท่านอ๋องเองเล่า?”“เบี้ย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status