Share

บทที่ 400

Author: หูเทียนเสี่ยว
"อย่ากลัวนะ" จั๋วซือหรานฟังฉูนจวีนพูดติดอ่าง นางคิดว่าก่อนหน้านี้ เขาถือเป็นผู้พิทักษ์เงาที่มีจิตใจแข็งแกร่ง ซึ่งมีเลือดออก แต่ไม่เคยหลั่งน้ำตาเลย นางสงสารเขาตกใจจนหวาดกลัวเช่นนี้

ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงปลอบใจเขาอย่างอ่อนโยน

ฉูนจวีนอาจไม่เคยเห็นจั๋วซือหรานพูดอ่อนโยนขนาดนี้มาก่อน ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาไม่รู้สึกสบายใจ ยิ่งไปกว่านั้น เสียงอันอ่อนโยนของนางทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ฉูนจวีนพูดด้วยเสียงอันสั่นเทา "แม่ แม่นางจิ่วนี่...นี่ไม่ใช่...ไม่ใช่เสื้อผ้า ทำไมต้องเย็บด้วย"

และเขาคงรู้ว่าเขาควบคุมเสียงของตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเสียงอันสั่นเทาของเขาเลย

จั๋วซือหรานยิ้มหลังจากได้ยินคำพูดของฉูนจวีน นางพูดว่า "ประมาณนั้นแหละ หากเสื้อผ้าขาด เราเย็บใหม่ ก็ยังใส่ได้"

ขณะที่นางพูด นางก็เย็บอีกเข็มหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้น จากนั้นนางมองและถามฉูนจวีน "มนุษย์เรานะ หากมีช่องที่ไหน เย็บหน่อย ก็จะใช้ได้เหมือนเดิม"

จั๋วซือหรานพูดในใจว่า ฉูนจวีนคนนี้อาจเคยดูถูกนางเล็กน้อยมาก่อน

หลังจากวันนี้ นางคงจะเป็นยักษ์ในสายตาของเขาตลอดไป

หลังจากนั้นไม่นาน เฟิง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 401

    ความรู้สึกแรกฉูนจวีนคือ...คันเล็กน้อยแต่ทันใดนั้นเขาเข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคัน เพราะบาดแผลเหล่านั้นกำลังตกสะเก็ดและหายดีจั๋วซือหรานมองอาการของบาดแผล นางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "เอาล่ะ เจ้าพักผ่อนก่อนเลย ข้าต้องไปตรวจดูอาการของผู้อาวุโสเหล่านั้น เดี๋ยวข้าค่อยมาหารักษาเจ้า"“ขอบคุณแม่นางจิ่วขอรับ” ฉูนจวีนขอบคุณนางด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเล็กน้อยปกติเขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ในยามที่เขาพูด แต่รู้สึกอารมณ์และน้ำเสียงของคำพูดของเขาในวันนี้มีอารมณ์มากกว่าปีที่แล้วรวมกันเฟิงเหยียนยืนอยู่ข้างกายจั๋วซือหราน เขากระซิบว่า "รักษาให้หายขาดแล้วไม่ใช่หรือ"“อาการบาดเจ็บภายนอกหายดีแล้ว” จั๋วซือหรานก้มตัวลงไปตรวจอาการของผู้อาวุโส นางพูดต่อ “แต่อาคมหนอนพิษกู่นั้น ข้ายังไม่ได้ถอนพิษให้เลย ข้าคาดว่าหากไม่ถอนพิษอาคมหนอนพิษกู่ออก อีกไม่นาน ฉูนจวีนคงต้องแปลงตัวเหมือนสี่คนนั้น”เฟิงเหยียนขมวดคิ้วแน่นเดิมทีฉูนจวีนหายความกังวลไปเล็กน้อยแล้ว แต่เขาหูดี และได้ยินสิ่งที่จั๋วซือหรานและเฟิงเหยียนพูดถึงสีหน้าของเขาเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง และเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมากขึ้นกว่าเดิมอะ อะไร...อะไรนะ เขาจะกลายเป็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 402

    เพราะนางมองออกฉูนจวีนจงรักภักดีต่อเฟิงเหยียน และเป็นคนรับใช้ของตระกูลเฟิง ตามหลัก เมื่อต้องเผชิญหน้าต่อเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเฟิง เขาไม่ต้องมีความจงรักภักดีต่อพวกเขาก็ได้ อย่างน้อยเขาต้องแสดงความเกรงกลัวต่อผู้อาวุโสของของตระกูลเฟิงแม้ว่าเขารู้สึกไม่ยุติธรรมกับนาง แต่เขาทำได้เพียงแอบรู้สึกไม่ยุติธรรมในใจ จั๋วซือหรานไม่คาดคิดว่าเขาจะกล้าพูดเช่นนี้แน่นอนว่าคำพูดของฉูนจวีนทำให้ผู้อาวุโสไม่พอใจทันที และพวกเขาก็ตำหนิทันทีว่า "กล้าดีนัก คนรับใช้อย่างเจ้า กล้าพูดแทรกได้อย่างไร"ฉูนจวีนรู้ตัวเองไม่ควรทำเช่นนี้ เขามีสีหน้าที่แข็งทื่อและไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่เขาไม่ขอโทษผู้อาวุโสโกรธมาก พวกเขาทำได้แค่เพียงมองไปที่เฟิงเหยียนเท่านั้น" เหยียนเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเจ้าให้ความสำคัญกับผู้พิทักษ์เงา ของเจ้ามาโดยตลอด แต่อย่าปล่อยพวกเขาเอาแต่ใจมากเกินไปสิ จนกล้ามาเถียงเจ้านาย ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ช่างไร้มารยาทเสียจริง... ”เฟิงเหยียนพูดอย่างสงบมาก "หมายความว่าฉูนจวีน พูดไม่ได้เช่นนั้นหรือ"จากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองผู้อาวุโสเหล่านั้น มีไฟสีทองส่องประกายไปทั่วรูม่านตาของเขา“เช่นนั้นข้าพูดได้หรือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 403

    เมื่อจั๋วซือหรานได้ยินเสียงคำรามอันเจ็บปวดของฉูนจวีน สีหน้าของนางก็จริงจังมากขึ้นแต่นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นนางเพิ่งเริ่มรักษา เขาก็เจ็บหนักขนาดนี้แล้ว และจินตนาการไม่ออกเลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้จั๋วซือหรานคิดไปครู่หนึ่ง นางตัดสินใจเพิ่มใช้ยาแก้ปวดให้ฉูนจวีนแต่ก็ไม่ได้ผลแม้ว่าจั๋วซือหรานได้คิดความเป็นไปได้นี้มาก่อน แต่ยาแก้ปวดอาจไม่ส่งผลต่อพิษเช่นอาคมหนอนพิษกู่นัก...นางแค่คาดเดา เพราะอาคมหนอนพิษกู่ไม่ใช่สารพิษธรรมดาและไม่ใช่ผลผลิตของโลกที่นางเคยอาศัยอยู่ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงรู้สึกว่ายาแก้ปวดอาจถอนอาคมหนอนพิษกู่ได้น้อยแต่นางไม่คิดว่ายาแก้ปวดได้ผลน้อยขนาดนี้และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นจั๋วซือหรานกัดริมฝีปากของนาง นางเห็นสีหน้าอันเจ็บปวดของฉูนจวีน นางหันไปมองเฟิงเหยียน“เป็นอะไรหรือ” เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานตอบ "มัดเขาด้วย"เฟิงเหยียนไม่มีข้อสงสัยใด ๆ หลังจากเขาได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาก็รีบมัดฉูนจวีนหลังจากเขายืนยันว่า ฉูนจวีนจะไม่สามารถทำอะไรที่บ้าคลั่งในสภาวะเจ็บปวดสาหัสจั๋วซือหรานรักษาเขาต่อ ก่อนหน้านี้นางเพียงส่งพลังของ การแพทย์ส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 404

    ดังนั้นสีหน้าของฉูนจวีนค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ และสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างเห็นได้ชัดคือใบหน้าของจั๋วซือหราน เริ่มซีดลงเรื่อย ๆเพราะฉูนจวีนฟื้นสติแล้ว บัดนี้เขามองจั๋วซือหรานด้วยการขอโทษ“แม่นางจิ่วยังไหวอยู่ไหมขอรับ” ฉูนจวีนมองสีหน้าของ จั๋วซือหราน “สีหน้าของแม่นางแย่มากขอรับ”"...อืม" จั๋วซือหรานตอบเสียงหนึ่ง และตอบแค่นี้ เลือดก็ไหลออกจากปากของนาง“ แม่นางจิ่ว” ฉูนจวีนตะโกนเฟิงเหยียนมีการเคลื่อนไหวและปฏิกิริยาอย่างว่องไว เขากอดไหล่ของจั๋วซือหรานอย่างรวดเร็วน้ำเสียงของเขามีความกังวลมากขึ้นเล็กน้อย " เสียวจิ่ว"เขาโอบแขนของนางไว้รอบไหล่ เขาอยากพานางไปพักผ่อนที่ข้าง ๆเพราะนางมีเลือดไหลออกจากปากและจมูกแล้วแต่นางยังคงจับข้อมือของฉูนจวีนไว้แน่น นางเม้มริมฝีปากแล้วส่ายหัวและบอกเฟิงเหยียน“หาก... เราหยุดตอนนี้ ความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมด... ก็จะไร้ผล” เสียงและลมหายใจของจั๋วซือหรานไม่คล่องเล็กน้อย เหมือนมีเลือดไหลออกมาจากลำคอของนางแต่เฟิงเหยียนเห็นนางยังเม้มริมฝีปากและพยายามทนไว้ใบหน้าที่มีเลือดไหลออกสะท้อนเข้าไปในดวงตาของเขา และมีแสงวาบวับในดวงตาของเขาสุดท้ายเขาไม่อุ้มนางไปท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 405

    เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน จั๋วซือหรานก็เริ่มเกิดความสนใจเล็กน้อยแต่ก่อนที่นางจะถามเฟิงเหยียนอย่างละเอียด นางก็ได้ยินเสียงที่น่ารำคาญดังมาจากด้านข้าง“เจ้าว่าเช่นนั้น จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือ จั๋วจิ่ว เจ้าจะโน้มน้าวให้คนอื่นเชื่อคำพูดของเจ้าได้อย่างไร”“ใครจะรู้ล่ะ เมื่อครู่นี้คนรับใช้คนนี้กำลังช่วยเจ้าโกงพวกเราหรือไม่ หรือเจ้าอาจใช้ยาพิษอันเจ็บปวดกับเขาแล้วจึงล้างพิษให้เขา ทำให้ดูเหมือนว่าเจ้าถอนอาคมหนอนพิษกู่ให้เขา”“หากเป็นไปตามที่เจ้าพูดจริง ๆ อาคมหนอนพิษกู่อันร้ายแรงเช่นนี้ ขนาดคนรับใช้คนนี้ยังติดเชื้อได้ ทำไมเราติดเชื้อล่ะ ทำไมเฟิงเหยียนไม่ติดเชื้อ แล้วทำไมเจ้าไม่ติดเชื้อด้วยล่ะ”“ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นอาคมหนอนพิษกู่ เจ้ามีหลักฐานไหม เจ้าต้องมีหลักฐานมาอธิบายด้วยใช่ไหม ในงานแต่งระหว่างเจ้ากกับชายคนนั้นที่ไม่ได้เรื่องนั้น เจ้าอ้างว่าเจ้าถูกวางเสน่ห์หนอนพิษกู่ อย่างน้อยชายที่ไม่ได้เรื่องนั้นนั้นมีกล่องหนอนกู่อยู่เลย ตอนนี้เจ้าไม่พกกล่องอะไรเลย”จั๋วซือหรานเหลือบมองพวกเขา จริง ๆ แล้วนางทราบดี ประเภทนี้จะไม่หลั่งน้ำตาจนกว่าจะเห็นโลงศพอาจดูแข็งแกร่ง แต่จริงๆ แล้วเปราะบาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 406

    ขณะที่พวกเขารู้สึกสับสน พวกเขาเริ่มปลอบใจตัวเองบางทีจั๋วจิ่วคนนี้อาจขายยาปลอมเพื่อหลอกลวงผู้คน ใช่สิ หากเรื่องเป็นไปตามที่นางพูด หากถูกกัดและติดเชื้ออย่างที่นางพูด พวกเขาติดเชื้อนานกว่าฉูนจวีนทำไมไม่เห็นพวกเขาเป็นอะไรเลยนางกำลังเล่นกลแน่ ๆ เลย...จั๋วซือหรานมองสีหน้าอันสับสนบนใบหน้าของผู้อาวุโสเหล่านั้น นางรู้ดีว่าพวกเขายังคงสงสัยอยู่แต่นางไม่สนใจจั๋วซือหรานถึงกับนั่งลงและโบกมือเรียกเฟิงเหยียน " ท่านอ๋องมานี่สิ"เฟิงเหยียนเดินมา และนั่งข้างกายนาง เขาเหลือบนางแล้วถามว่า "เป็นอะไร เจ้าไม่สบายตัวหรือ ข้าจะพาเจ้าออกไป"เฟิงเหยียนพูดและมองไปที่ฉูนจวีน "เดินไหวไหม"ฉูนจวีนทราบดี เจ้านายของเขาคงต้องการป้องกันไม่ให้ แม่นางจิ่วฟังคำด่าเหล่านั้น ดังนั้นแม้ว่าฉูนจวีนยังรู้สึกว่าเขายังคงเดินไม่ไหว แต่เขาก็ยังพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ต่อให้ข้าต้องคลานออกไป ข้าก็จะคลานออกไปให้ได้"“ไปกันเถิด” เฟิงเหยียนพูดเบา ๆ “แล้วให้คนมาปิดผนึกห้องใต้ดินเลย”“ เหยียนเอ๋อร์”"ไร้สาระ""ปล่อยเราก่อน"ผู้อาวุโสหลายคนที่ตื่นอยู่พูดกันทีละคนพวกเขาแค่มองดูผู้มีความสามารถที่ดีที่สุดของตระกูลตัวเองและ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 407

    ผู้อาวุโสหลายคนถูกมัดอยู่ที่นั่น และพวกเขาก็มองไปที่ จั๋วซือหราน บัดนี้นางกำลังนั่งอยู่ที่นั่น นางจับคางของตัวเองและยิ้มจาง ๆ ด้วยอารมณ์อย่างดีดูเหมือรคนที่มีเลือดไหลออกจากปากและจมูกในก่อนหน้านี้ไม่ใช่นางเลยไม่มีผู้อาวุโสคนใดสามารถหัวเราะได้ พวกเขาเคร่งขรึมและวิตกกังวลเพราะพวกเขาทั้งหมดถูกเฟิงเหยียนมัดอยู่ด้วยกัน แม้ว่าเขาไม่ได้ใช้เชือกเดียวกันมามัดพวกเขา แต่ตำแหน่งของพวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนั่นหมายความว่า พวกเขา... อยู่ใกล้มากกับคนสองคนที่มีอาการการโจมตีผู้อื่นแล้วพวกเขาอยู่ใกล้กับสัตว์ประหลาดสองคนนั้นอย่างมากมาก สัตว์ประหลาดสองคนนั้นกำลังคลานอยู่บนพื้นเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน ดูเหมือนพวกเขาจะสามารถคลานมาหาพวกเขาในไม่ช้าความรู้สึกเร่งด่วนนี้ช่างน่ากลัวแม้ว่าพวกเขาเคยประสบกับการโจมตีจากพวกเฟิงช่านและเฟิงจู้มาก่อน พวกเขาเคยประสบเรื่องเช่นนี้มาก่อนก็ตาม แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นผู้อสวุโสสองคนที่กลายพันธุ์กำลังกำลังทำท่ากัดและคลานเข้าหาพวกเขาบวกกับความรู้สึกที่ว่าพวกเขาอาจจะกลายเป็นเช่นนั้นเช่นกัน ซึ่งเป็นความเร่งด่วนและความกดดันสองเท่าจั๋วซือหรานรู้สึกนางสามารถพูดคุยก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 408

    พวกเขาหวังว่าเฟิงเหยียนจะช่วยชักชวนจั๋วจิ่ว ให้จั๋วจิ่ว เห็นแก่หน้าของพวกเขาหน่อยแต่เห็นได้ชัดว่าด้วยนิสัยของเฟิงเหยียน เขาไม่มีความตั้งใจที่จะร่วมมือกับพวกเขาตอนนี้พวกเขาทราบทัศนคติของเฟิงเหยียนอย่างชัดเจนจากคำพูดของเขาพวกเขาจึงทำได้เพียงมองจั๋วซือหรานด้วยสีหน้าแข็งทื่อเท่านั้นจั๋วซือหรานยังคงอยู่ที่เดิม นางนั่งอยู่ที่นั่นในท่าที่ค่อนข้างสบาย นางมีสีหน้าอย่างดี พวกเขามองออก นางกำลังอารมณ์ดีนางไม่รีบร้อนเลย ก่อนหน้านี้ นางทำท่านเช่นนี้เหมือนกัน นางปล่อยให้พวกเขาคุยกับเฟิงเหยียนใช่สิ ทำไมนางต้องรีบร้อนล่ะ นางไม่ใช่ผู้ที่ต้องกลายพันธุ์สักหน่อย..."จั๋ว จั๋วจิ่ว... " ผู้อาวุโสคนหนึ่งกลัวผู้อาวุโสที่กลายพันธุ์สองคนนั้นมากเกินไปพูดให้ถูกก็คือ เขาไม่กลัวถูกสองคนนั้นทำร้าย แต่เขากลัวตัวจะเป็นเหมือนพวกเขาจั๋วซือหรานสามารถเข้าใจจุดนี้อย่างดีในสายตาของหลาย ๆ คน แม้ว่าความตายจะเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด การดำรงชีวิตแบบตายทั้งเป็น และการที่เสียชีวิตอย่างไม่เป็นสุขนั้นทำให้ผู้คนหวาดกลัวมากกว่าจั๋วซือหรานไม่ได้พูดอะไร แต่นางยังคงมีรอยยิ้มจาง ๆ บนริมฝีปากข

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1106

    "เสร็จแล้ว พวกเจ้าค่อยๆ พักฟื้นไป เดี๋ยวพอพวกกองหนุนสำนักเมฆาวารีพวกนั้นของผู้เฒ่าเหอมาถึง พวกเราค่อยออกเดินทาง เรื่องนี้สำหรับข้ามันสำคัญมาก จะล่าช้าไม่ได้เด็ดขาด"จั๋วซือหรานเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ดังนั้นเวลาพักฟื้นของพวกเจ้าเดิมทีก็เหลือไม่มากแล้ว อย่าไปทำอะไรบ้าๆ บอๆ อีก""รับทราบ!" เหลียนเจินขานรับเสียงขรึม"ข้าจะรักษาให้พวกเขา จากนั้นเจ้าก็เอายาทาให้พวกเขาเสีย แค่อย่าไปทำอะไรบ้าๆ บอๆ ทายาตามเวลา ไม่นานก็หายดีแล้ว"จั๋วซือหรานหลังจากรักษาคนคุ้มกันไปหลายคน ก็กลับมาที่ห้องตนเอง ไปค้นคว้าบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนเจ้าสิ่งนี้ล้ำค่ามากจริงๆ แต่ในเมื่อเขาให้นางมาแล้ว นางเองก็พอจะรับได้อยู่ ดังนั้นจึงไม่ต้องเกรงใจเกินไปนักตอนที่จั๋วซือหรานย้ายบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนไปปลูกที่ดินในมิติแล้ว ราชาแมงมุมหน้าผีกับแมงมุมหน้าผีตัวอื่นๆ แล้วก็แมงมุมกู่ ก็มาล้อมอยู่ข้างๆ นางแมงมุมที่ขนาดใหญ๋กว่าปกติหลายเท่า ล้อมนางเอาไว้ ฉากนี้ถ้าหากคนอื่นมาเห็น ก็คงรู้สึกหวาดผวาขึ้นแน่ๆแต่สีหน้าของจั๋วซือหรานก็นิ่งอย่างมาก กระทั่งบนหน้ายังยิ้มละไม หลังจากปลูกบัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนไว้ในดินแล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1105

    ด้วยนิสัยซื่อสัตย์ภักดีของพวกเขา ถ้าหากจั๋วซือหรานคิดจะตั้งชื่อเหล่านี้ให้พวกเขาจริงๆไม่แน่พวกเขาอาจจะต้องบีบจมูกยอมรับไปจริงๆแต่ชื่อเหล่านี้มันดูจะ...ดังนั้นจึงคิดวิธีที่จะดิ้นรนต่ออีกหน่อย"กลัวหรือ?" จั๋วซือหรานเลิกคิ้วมองพวกเขาหัวหน้าคนคุ้มกันพยักหน้าหงึกหงักจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "พวกเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ยังกล้าตักน้ำมาเช็ดมาล้างได้ ข้าคิดว่าพวกเจ้าจะกล้าจนไม่กลัวอะไรแล้วเสียอีก ทำไมแค่ชื่อผลไม้แค่นี้ก็ยังกลัวกัน?"หัวหน้าคนคุ้มกันฟังไม่เข้าใจเสียที่ไหน แม่นางจงใจทำให้พวกเขาตกใจ เพื่อจะลงโทษพวกเขาที่เมื่อครู่พูดกันว่าจะจัดการแผลแบบขอไปทีหัวหน้าคนคุ้มกันรีบเอ่ยขึ้นมา "แม่นาง พวกเราไม่กล้าทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว แค่กังวลว่าท่านอยู่ในเมืองหยางจะมีภาระหน้าที่เยอะอยู่แล้ว แต่ยังต้องมาคอยห่วงเรื่องยิบย่อยของพวกเราอีก..."จั๋วซือหรานยกมือตบลงไปที่หนึ่งที่หลังเขาหัวหน้าคนคุ้มกันร้องอั่กออกมา แต่ก็รีบอดทนเอาไว้เดิมทียังคิดว่านี่คือการลงโทษเสียอีก คิดไม่ถึงเลย...ตอนที่แม่นางฟาดมือลงมา รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาก่อน จากนั้นก็รู้สึกเหมือนมีพลังที่ยิ่งใหญ่ แต่กลับนุ่มนวลละมุนละไมลูบผ่าน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1104

    "นายท่านอารมณ์ดีก็ดีแล้ว" เจิ้นเจียงพอเห็นจั๋วซือหรานอารมณ์ดี เขาเองก็อารมณ์ดีตามขึ้นมา จึงได้พูดว่า "จัดแจงคนคุ้มกันเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาล้วนบาดเจ็บกันหมด"จั๋วซือหรานร้องอืม "ดี ข้าจะไปดูหน่อย เดี๋ยวจะตั้งชื่อให้พวกเขาด้วย อยู่ในตระกูลเหอไม่มีชื่อเลยมีแต่หมายเลข เจ้าไปที่โรงเตี๊ยมแล้วหาของกินมาให้พวกเขาหน่อย""ขอรับ" เจิ้นเจียงรับคำสั่ง คิดๆ แล้วจึงเอ่ยถามขึ้นว่า "...อาหารนี่น่าจะไม่ถูกทำอะไรลงไปหรอกกระมัง?"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็ยกมุมปากขึ้น "พวกเจ้าจะลองดูก็ได้นี่"พอได้ยินนายท่านพูดหยามขึ้นเช่นนี้ เจิ้นเจียงก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว"เช่นนั้นข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"เจิ้นเจียงเพิ่งเตรียมจะเดินไปโถงหน้า จั๋วซือหรานคิดๆ แล้วก็เรียกเขาขึ้นมา "จริงด้วย""อื๋อ? แม่นางยังมีอะไรกำชับอีกหรือ?""คุณชายเยี่ยนที่โถงหน้าคนนั้น เป็นคนที่มีบุญคุณกับข้า ถ้าหากเขายังไม่ไป เจ้าเองก็ช่วยดูแลหน่อย""รับทราบ!" เจิ้นเจียงรับคำสั่งแล้วออกไปและระหว่างทางที่จั๋วซือหรานตรงไปเรือนหลัง ในสมองก็มีภาพตอนที่ชายหนุ่มหักตะเกียบก่อนหน้านี้ปรากฏออกมา แก้มที่ตึงกับสายตาที่มีแววตาแบบนั้นจั๋วซือหราน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1103

    สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มของปลายนิ้วหญิงสาวที่แตะลงมาบนริมฝีปากและได้ยินเสียงอ่อนโยนพูดคำที่ว่าต้องแต่งงานด้วยคิ้วของ 'เยี่ยนหราน' ขมวดแน่นขึ้นมากระทั่งตนเองยังไม่ทันตระหนักถึง ว่าทำไมต้องออกแรงที่นิ้ว แล้วทำไมที่น้ิวต้องออกแรงแล้วท้ายสุด เสียง 'กร๊อบ' ก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันตะเกียบไม้ในมือเขาหักครึ่งเป็นสองท่อน!แก้มของชายหนุ่มตึงเป็นเส้นโค้ง เขาเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "แม่นางก็ดูแลตัวเองด้วย"จั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นเบาๆ "คุณชายขี้อายขนาดนี้เชียว? หน้าตาก็หล่อเหลาดี ไม่คิดว่า...จะใสซื่อขนาดนี้"เสียงของชายหนุ่มดังลอดออกมาจากไรฟัน ฟังแล้วรู้สึกกระด้างหน่อยๆ "แล้วก็ออกไปด้านนอก การบุ่มบ่ามลดความสงสัยต่อตัวคนอื่นลง มันคือความประมาทเลินเล่อ"มุมปากจั๋วซือหรานเหมือนมีรอยยิ้มบางๆ ดูแล้วเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มไม่ได้ปฏิเสธคำพูดเขา เพียงเอ่ยขึ้นว่า "ขอบคุณคุณชายเยี่ยนที่เตือน หลังจากนี้ข้าจะระวังให้มาก เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน..."ในที่สุดนางก็หมุนตัวจากไปหลังจากเห็นแผ่นหลังนางเดินห่างไปแล้ว'เยี่ยนหราน'...หรือบางทีควรจะเรียกว่าเฟิงเหยียนตอนนี้จึงมองมายังมือตนเอง บนปลายหัวแม่มือ มีแผ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1102

    รอยยิ้มบนใบหน้าจั๋วซือหรานไม่เปลี่ยน "เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก""ไม่เป็นไร" 'เยี่ยนหราน' เอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วซือหรานยังคงยิ้มบาง "บัวเจ็ดดอกเจ็ดใบแกนกลางเทียนนี้เป็นสิ่งมีพิษกระมัง?""อืม" เขาไม่ได้ตระหนักถึงว่าอะไรผิดปกติ พยักหน้าตอบกลับ "เป็นสิ่งมีพิษที่มีอยู่ไม่มากนัก สามารถสร้างหมอกพิษขึ้นในป่าได้ ต้นของมันเดิมทีก็มีพิษร้ายแรงอยู่"อาหารรสชาติไม่เลวเลย น้ำแกงทำเอาตัวคนผ่อนคลายลงมาเลยทีเดียวเขาค่อนข้างผ่อนคลาย...หรือบางที สิ่งที่ทำให้เขาผ่อนคลายไม่ใช่น้ำแกงร้อน แต่เป็นเสียงอ่อนโยนของนาง...เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันดังนั้น ตอนนี้เขาจึงไม่ได้สังเกตถึงอะไรที่ผิดปกติพอได้ยินคำถามที่จั๋วซือหรานเพิ่งถาม ก็ตอบกลับนางมาตรงๆหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงหญิงสาวใสเย็น เพียงแต่ว่า ไม่ได้อ่อนโยนแบบก่อนหน้านี้แล้วเพียงแค่เอ่ยขึ้นเรียบๆ ว่า "เป็นของดีจริงๆ เพียงแต่ว่า..." นางเปลี่ยนหัวข้อสนทนา "ไม่รู้ว่าคุณชายเยี่ยนรู้ได้อย่างไร...หรือทำไมจึงรู้สึกว่า ข้าสามารถทนทานต่อธาตุพิษได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวอะไร?"มือที่จับตะเกียบของชายหนุ่ม หยุดนิ่งไปในชั่วพริบตาเขาแหงนตา มองไปยังสีหน้าของหญิงสาว อั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1101

    คำพูดนี้ของจั๋วซือหรานไม่ได้มีเจตนาอะไรเป็นพิเศษแต่นางหน้าตาดี แล้วยังฉลาดเฉลียว ปกติเวลาปฏิบัติต่อใครก็จะมีท่าทีเย็นชา ดังนั้นต่อให้จะสวย แต่ก็ยังรู้สึกเหินห่างด้วยเช่นกันแต่ตอนนี้ท่าทีของนาง กลับไม่ได้เย็นชาเหมือนปกตินางยิ้มตาโค้ง ยิ้มสวยหยาดเยิ้มราวกับดวงดาวพร่างพราวอยู่เต็มฟ้า เหมือนมีมนต์สะกดที่ไม่รู้จัก สามารถทำให้คนจมดิ่งเข้าไปได้ในพริบตา'เยี่ยนหราน' มองตานางนิ่ง ไม่ย้ายสายตาไปไหนเลยพักหนึ่ง"ทำไมหรือ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นเบาๆ'เยี่ยนหราน' ตอนนี้จึงส่งเสียงฮึจากจมูกออกมาเป็นเชิงถาม คล้ายกับเพิ่งจะรู้สึกตัวจั๋วซือหรานหัวเราะ ถามขึ้นว่า "คุณชายเยี่ยนเหม่อไปแล้วหรือ? ชื่อดวงดาวที่เจ้าบอกล่ะ?"ตอนนี้เขาจึงเอ่ยขึ้น "เหลียนเจิน เทียนเยว่ เทียนจี เทียนเซี่ยง เทียนถง เทียนเหลียง..."หลังจากจั๋วซือหรานได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้น "ไม่เลวจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่คุณชายว่าแล้วกัน ขอบคุณมาก"ปฏิกิริยาเหล่านี้ของ 'เยี่ยนหราน' จั๋วซือหรานรู้สึกว่าน่าสนใจอย่างเห็นได้ชัดและรู้สึกว่าใกล้เคียงแล้ว จึงลุกขึ้นยืน "คุณชายเยี่ยนค่อยๆ กินเถิด ข้าจะไปดูพวกคนรับใช้ที่บาดเจ็บพอดี แล้วจะบอก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1100

    "เอาที่อร่อยดีกว่า" ขนมชามเองก็ใสซื่อ เอ่ยขึ้นว่า "นายท่านเองก็หิวแล้วนี่"จั๋วซือหรานยื่นนิ้วออกมานิ้วหนึ่ง จับไปที่ขนมชามเบาๆยิ้มตาโค้ง "เด็กดี"จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "เอาล่ะ ถือว่าเขาโชคดีแล้วกัน"โชคดีที่มาเจอเข้ากับขนมชามที่นิสัยอ่อนโยนที่ด้านนอก ถ้าหากขนมถั่วแดงอยู่ด้านนอกล่ะก็ คงได้เสนออีกข้อหนึ่งมาแน่จั๋วซือหรานหยิบวัตถุดิบออกมาจากในมิติ คิดจะทำอาหารสักมื้อหลักๆ คือ อันที่จริงเดิมทีนางก็อยากจะทำให้ใจเขาปั่นป่วนอยู่แต่พอคิดๆ แล้วก็รู้สึกว่า ถ้าหากจะปั่นป่วนจิตใจเขาจริง ก็เหมือนจะไม่ใช่วิธีการที่ปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชาตาของจั๋วซือหรานหรี่ลง พริบตานี้...ก็เหมือนมีแผนการใหม่ขึ้นมาแล้วประมาณราวสามเค่อกับข้าวสี่อย่างน้ำแกงหนึ่งอย่างอันหอมหวนชวนกิน ก็เสร็จสิ้นลงจากเตา"นี่คือปลาเปรี้ยวหวาน ขานกย่าง เนื้อกระดูกหอมเกรียม คะน้าไฟแดง แล้วก็มีน้ำแกงเต้าหู้กระดูกปลาอีกที่ด้วย"จั๋วซือหรานนำอาหารหอมหวนชวนกิน ยกมาวางกองลงตรงหน้า 'เยี่ยนหราน'จากนั้นจึงเลิกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นข้อมือขาว หยิบตะเกียบแล้วเอ่ยขึ้นว่า "คุณชายเยี่ยน ลองชิมฝีมือของข้าหน่อย"ตอนที่พูดค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1099

    เหล่าคนค้มกันทยอยกันมองไปทางหัวหน้าคนคุ้มกัน ในสายตาเต็มไปด้วยความต้องการความช่วยเหลืออย่างจริงใจหัวหน้าคนคุ้มกันกัดฟันถามขึ้น "แม่ แม่นาง...คงจะไม่คิดจะตั้งชื่อ..."เขาชะงักไป เปลี่ยนทิศทางคำพูด เอ่ยต่อว่า "...อะไรทำนองนี้หรอกใช่ไหม?"ไม่หรอกกระมัง?จั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้โง่ ฟังไม่ออกถึงความกังวลพวกเขาเสียที่ไหนนางเหลือบมองพวกเขาผาดหนึ่ง จงใจแหย่พวกเขา เอ่ยขึ้นว่า "ทำไมล่ะ ไม่ดีหรือ? ลาย่างไฟ ขนมไส้หมู หมูชุบกรอบ เป็ดหมักน้ำจิ้ม หมูผัดเปรี้ยวหวาน"นางพูดไปด้วยพลางชี้นิ้วไปทางพวกเขาจากนั้นจึงเห็นว่าสีหน้าของเหล่าคนคุ้มกันแทบจะร้องไห้กันออกมาแล้วตอนนี้เอง เสียงหัวเราะแผ่วเบาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่ประตูจั๋วซือหรานมองไปตามเสียง ก็เห็นร่างเงาหนึ่งที่คุ้นเคย"เจ้าทำไมมาอยู่ที่นี่?" จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว มองคนที่มาใหม่ด้วยสายตาลึกซึ้ง จากนั้นก็พ่นชื่อออกมา "เยี่ยนหราน? ข้าจำชื่อไม่ผิดใช่ไหม"ชายหนุ่มร่างตรงแน่วเดินเข้ามาจากประตู พยักหน้าเบาๆ "ถูกต้อง"จั๋วซือหรานแหงนตามองเขา ไม่พูดอะไรชายหนุ่มก้มหน้ามองนาง สบตากันครู่หนึ่ง อันที่จริงในใจเขาก็ไม่ค่อยสงบนัก แค่คิดว่านางมองอะไรอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1098

    นางหมายถึง...กองหนุนที่ย้ายมาจากสำนักเมฆาวารีของผู้เฒ่าเหอสินะ!?แต่ใครก็ตามที่มีความคิดเช่นนี้ เขาคงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายหยิ่งผยองโอหังถึงที่สุดหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ ตอนที่เผยความหมายนี้ออกมากลับไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความหยิ่งผยองโอหังแม้แต่น้อยเพราะ เรื่องราวเหมือนจะเป็นเช่นนี้จั๋วซือหรานเหมือนจะงึมงำกับตนเองขึ้นว่า "พอเข้าใจวิชาหุ่นเชิดกับหุ่นเชิดมนุษย์แล้ว มันน่าสนใจจริงๆ ทางที่ดีขอให้พวกเขาเอาเจ้าพวกนี้มาเล่นด้วย จะได้ไม่เสียเวลาที่ให้ข้ารอนานขนาดนี้...เจิ้นเจียงเหลือบมองทุกคนที่มีบาดแผลพอคิดๆ ก็ถามจั๋วซือหรานขึ้น "แม่นาง แล้วจะเรียกพวกเขาว่าอย่างไรกัน? เหมือนว่าจะบาดเจ็บกันหนักมาก ข้าพาพวกเขาไปพักผ่อนดีไหม?"หัวหน้าคนคุ้มกันมองออก ว่าคนรับใช้คนนี้ของนายท่าน เหมือนจะไม่ได้กังวลอะไรเลยกับสถานการณ์ที่นายท่านกำลังจะเผชิญแม้ไม่รู้ว่าผ่านเรื่องอะไรมา ถึงทำให้บ่าวมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้แต่ไม่ว่าจะผ่านอะไรมาอันที่จริงคนคุ้มกันอย่างพวกเขา ก็เพิ่งจะผ่านการถูกตระกูลเหอปฏิบัติอย่างโหดร้ายมานี่เองและยังเห็นเจิ้นเจียงมีความเชื่อมั่นที่เด็ดขาดขนาดนี้ต่อนายท่านแม้พวกเขา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status