Share

บทที่ 401

Author: หูเทียนเสี่ยว
ความรู้สึกแรกฉูนจวีนคือ...คันเล็กน้อย

แต่ทันใดนั้นเขาเข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคัน เพราะบาดแผลเหล่านั้นกำลังตกสะเก็ดและหายดี

จั๋วซือหรานมองอาการของบาดแผล นางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ "เอาล่ะ เจ้าพักผ่อนก่อนเลย ข้าต้องไปตรวจดูอาการของผู้อาวุโสเหล่านั้น เดี๋ยวข้าค่อยมาหารักษาเจ้า"

“ขอบคุณแม่นางจิ่วขอรับ” ฉูนจวีนขอบคุณนางด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นเล็กน้อย

ปกติเขาไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ในยามที่เขาพูด แต่รู้สึกอารมณ์และน้ำเสียงของคำพูดของเขาในวันนี้มีอารมณ์มากกว่าปีที่แล้วรวมกัน

เฟิงเหยียนยืนอยู่ข้างกายจั๋วซือหราน เขากระซิบว่า "รักษาให้หายขาดแล้วไม่ใช่หรือ"

“อาการบาดเจ็บภายนอกหายดีแล้ว” จั๋วซือหรานก้มตัวลงไปตรวจอาการของผู้อาวุโส นางพูดต่อ “แต่อาคมหนอนพิษกู่นั้น ข้ายังไม่ได้ถอนพิษให้เลย ข้าคาดว่าหากไม่ถอนพิษอาคมหนอนพิษกู่ออก อีกไม่นาน ฉูนจวีนคงต้องแปลงตัวเหมือนสี่คนนั้น”

เฟิงเหยียนขมวดคิ้วแน่น

เดิมทีฉูนจวีนหายความกังวลไปเล็กน้อยแล้ว แต่เขาหูดี และได้ยินสิ่งที่จั๋วซือหรานและเฟิงเหยียนพูดถึง

สีหน้าของเขาเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง และเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมากขึ้นกว่าเดิม

อะ อะไร...อะไรนะ เขาจะกลายเป็
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 402

    เพราะนางมองออกฉูนจวีนจงรักภักดีต่อเฟิงเหยียน และเป็นคนรับใช้ของตระกูลเฟิง ตามหลัก เมื่อต้องเผชิญหน้าต่อเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเฟิง เขาไม่ต้องมีความจงรักภักดีต่อพวกเขาก็ได้ อย่างน้อยเขาต้องแสดงความเกรงกลัวต่อผู้อาวุโสของของตระกูลเฟิงแม้ว่าเขารู้สึกไม่ยุติธรรมกับนาง แต่เขาทำได้เพียงแอบรู้สึกไม่ยุติธรรมในใจ จั๋วซือหรานไม่คาดคิดว่าเขาจะกล้าพูดเช่นนี้แน่นอนว่าคำพูดของฉูนจวีนทำให้ผู้อาวุโสไม่พอใจทันที และพวกเขาก็ตำหนิทันทีว่า "กล้าดีนัก คนรับใช้อย่างเจ้า กล้าพูดแทรกได้อย่างไร"ฉูนจวีนรู้ตัวเองไม่ควรทำเช่นนี้ เขามีสีหน้าที่แข็งทื่อและไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่เขาไม่ขอโทษผู้อาวุโสโกรธมาก พวกเขาทำได้แค่เพียงมองไปที่เฟิงเหยียนเท่านั้น" เหยียนเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเจ้าให้ความสำคัญกับผู้พิทักษ์เงา ของเจ้ามาโดยตลอด แต่อย่าปล่อยพวกเขาเอาแต่ใจมากเกินไปสิ จนกล้ามาเถียงเจ้านาย ไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่ ช่างไร้มารยาทเสียจริง... ”เฟิงเหยียนพูดอย่างสงบมาก "หมายความว่าฉูนจวีน พูดไม่ได้เช่นนั้นหรือ"จากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองผู้อาวุโสเหล่านั้น มีไฟสีทองส่องประกายไปทั่วรูม่านตาของเขา“เช่นนั้นข้าพูดได้หรือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 403

    เมื่อจั๋วซือหรานได้ยินเสียงคำรามอันเจ็บปวดของฉูนจวีน สีหน้าของนางก็จริงจังมากขึ้นแต่นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นนางเพิ่งเริ่มรักษา เขาก็เจ็บหนักขนาดนี้แล้ว และจินตนาการไม่ออกเลยว่า อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้จั๋วซือหรานคิดไปครู่หนึ่ง นางตัดสินใจเพิ่มใช้ยาแก้ปวดให้ฉูนจวีนแต่ก็ไม่ได้ผลแม้ว่าจั๋วซือหรานได้คิดความเป็นไปได้นี้มาก่อน แต่ยาแก้ปวดอาจไม่ส่งผลต่อพิษเช่นอาคมหนอนพิษกู่นัก...นางแค่คาดเดา เพราะอาคมหนอนพิษกู่ไม่ใช่สารพิษธรรมดาและไม่ใช่ผลผลิตของโลกที่นางเคยอาศัยอยู่ดังนั้นจั๋วซือหรานจึงรู้สึกว่ายาแก้ปวดอาจถอนอาคมหนอนพิษกู่ได้น้อยแต่นางไม่คิดว่ายาแก้ปวดได้ผลน้อยขนาดนี้และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นจั๋วซือหรานกัดริมฝีปากของนาง นางเห็นสีหน้าอันเจ็บปวดของฉูนจวีน นางหันไปมองเฟิงเหยียน“เป็นอะไรหรือ” เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานตอบ "มัดเขาด้วย"เฟิงเหยียนไม่มีข้อสงสัยใด ๆ หลังจากเขาได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขาก็รีบมัดฉูนจวีนหลังจากเขายืนยันว่า ฉูนจวีนจะไม่สามารถทำอะไรที่บ้าคลั่งในสภาวะเจ็บปวดสาหัสจั๋วซือหรานรักษาเขาต่อ ก่อนหน้านี้นางเพียงส่งพลังของ การแพทย์ส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 404

    ดังนั้นสีหน้าของฉูนจวีนค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ และสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างเห็นได้ชัดคือใบหน้าของจั๋วซือหราน เริ่มซีดลงเรื่อย ๆเพราะฉูนจวีนฟื้นสติแล้ว บัดนี้เขามองจั๋วซือหรานด้วยการขอโทษ“แม่นางจิ่วยังไหวอยู่ไหมขอรับ” ฉูนจวีนมองสีหน้าของ จั๋วซือหราน “สีหน้าของแม่นางแย่มากขอรับ”"...อืม" จั๋วซือหรานตอบเสียงหนึ่ง และตอบแค่นี้ เลือดก็ไหลออกจากปากของนาง“ แม่นางจิ่ว” ฉูนจวีนตะโกนเฟิงเหยียนมีการเคลื่อนไหวและปฏิกิริยาอย่างว่องไว เขากอดไหล่ของจั๋วซือหรานอย่างรวดเร็วน้ำเสียงของเขามีความกังวลมากขึ้นเล็กน้อย " เสียวจิ่ว"เขาโอบแขนของนางไว้รอบไหล่ เขาอยากพานางไปพักผ่อนที่ข้าง ๆเพราะนางมีเลือดไหลออกจากปากและจมูกแล้วแต่นางยังคงจับข้อมือของฉูนจวีนไว้แน่น นางเม้มริมฝีปากแล้วส่ายหัวและบอกเฟิงเหยียน“หาก... เราหยุดตอนนี้ ความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมด... ก็จะไร้ผล” เสียงและลมหายใจของจั๋วซือหรานไม่คล่องเล็กน้อย เหมือนมีเลือดไหลออกมาจากลำคอของนางแต่เฟิงเหยียนเห็นนางยังเม้มริมฝีปากและพยายามทนไว้ใบหน้าที่มีเลือดไหลออกสะท้อนเข้าไปในดวงตาของเขา และมีแสงวาบวับในดวงตาของเขาสุดท้ายเขาไม่อุ้มนางไปท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 405

    เมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน จั๋วซือหรานก็เริ่มเกิดความสนใจเล็กน้อยแต่ก่อนที่นางจะถามเฟิงเหยียนอย่างละเอียด นางก็ได้ยินเสียงที่น่ารำคาญดังมาจากด้านข้าง“เจ้าว่าเช่นนั้น จะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือ จั๋วจิ่ว เจ้าจะโน้มน้าวให้คนอื่นเชื่อคำพูดของเจ้าได้อย่างไร”“ใครจะรู้ล่ะ เมื่อครู่นี้คนรับใช้คนนี้กำลังช่วยเจ้าโกงพวกเราหรือไม่ หรือเจ้าอาจใช้ยาพิษอันเจ็บปวดกับเขาแล้วจึงล้างพิษให้เขา ทำให้ดูเหมือนว่าเจ้าถอนอาคมหนอนพิษกู่ให้เขา”“หากเป็นไปตามที่เจ้าพูดจริง ๆ อาคมหนอนพิษกู่อันร้ายแรงเช่นนี้ ขนาดคนรับใช้คนนี้ยังติดเชื้อได้ ทำไมเราติดเชื้อล่ะ ทำไมเฟิงเหยียนไม่ติดเชื้อ แล้วทำไมเจ้าไม่ติดเชื้อด้วยล่ะ”“ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นอาคมหนอนพิษกู่ เจ้ามีหลักฐานไหม เจ้าต้องมีหลักฐานมาอธิบายด้วยใช่ไหม ในงานแต่งระหว่างเจ้ากกับชายคนนั้นที่ไม่ได้เรื่องนั้น เจ้าอ้างว่าเจ้าถูกวางเสน่ห์หนอนพิษกู่ อย่างน้อยชายที่ไม่ได้เรื่องนั้นนั้นมีกล่องหนอนกู่อยู่เลย ตอนนี้เจ้าไม่พกกล่องอะไรเลย”จั๋วซือหรานเหลือบมองพวกเขา จริง ๆ แล้วนางทราบดี ประเภทนี้จะไม่หลั่งน้ำตาจนกว่าจะเห็นโลงศพอาจดูแข็งแกร่ง แต่จริงๆ แล้วเปราะบาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 406

    ขณะที่พวกเขารู้สึกสับสน พวกเขาเริ่มปลอบใจตัวเองบางทีจั๋วจิ่วคนนี้อาจขายยาปลอมเพื่อหลอกลวงผู้คน ใช่สิ หากเรื่องเป็นไปตามที่นางพูด หากถูกกัดและติดเชื้ออย่างที่นางพูด พวกเขาติดเชื้อนานกว่าฉูนจวีนทำไมไม่เห็นพวกเขาเป็นอะไรเลยนางกำลังเล่นกลแน่ ๆ เลย...จั๋วซือหรานมองสีหน้าอันสับสนบนใบหน้าของผู้อาวุโสเหล่านั้น นางรู้ดีว่าพวกเขายังคงสงสัยอยู่แต่นางไม่สนใจจั๋วซือหรานถึงกับนั่งลงและโบกมือเรียกเฟิงเหยียน " ท่านอ๋องมานี่สิ"เฟิงเหยียนเดินมา และนั่งข้างกายนาง เขาเหลือบนางแล้วถามว่า "เป็นอะไร เจ้าไม่สบายตัวหรือ ข้าจะพาเจ้าออกไป"เฟิงเหยียนพูดและมองไปที่ฉูนจวีน "เดินไหวไหม"ฉูนจวีนทราบดี เจ้านายของเขาคงต้องการป้องกันไม่ให้ แม่นางจิ่วฟังคำด่าเหล่านั้น ดังนั้นแม้ว่าฉูนจวีนยังรู้สึกว่าเขายังคงเดินไม่ไหว แต่เขาก็ยังพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ต่อให้ข้าต้องคลานออกไป ข้าก็จะคลานออกไปให้ได้"“ไปกันเถิด” เฟิงเหยียนพูดเบา ๆ “แล้วให้คนมาปิดผนึกห้องใต้ดินเลย”“ เหยียนเอ๋อร์”"ไร้สาระ""ปล่อยเราก่อน"ผู้อาวุโสหลายคนที่ตื่นอยู่พูดกันทีละคนพวกเขาแค่มองดูผู้มีความสามารถที่ดีที่สุดของตระกูลตัวเองและ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 407

    ผู้อาวุโสหลายคนถูกมัดอยู่ที่นั่น และพวกเขาก็มองไปที่ จั๋วซือหราน บัดนี้นางกำลังนั่งอยู่ที่นั่น นางจับคางของตัวเองและยิ้มจาง ๆ ด้วยอารมณ์อย่างดีดูเหมือรคนที่มีเลือดไหลออกจากปากและจมูกในก่อนหน้านี้ไม่ใช่นางเลยไม่มีผู้อาวุโสคนใดสามารถหัวเราะได้ พวกเขาเคร่งขรึมและวิตกกังวลเพราะพวกเขาทั้งหมดถูกเฟิงเหยียนมัดอยู่ด้วยกัน แม้ว่าเขาไม่ได้ใช้เชือกเดียวกันมามัดพวกเขา แต่ตำแหน่งของพวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนั่นหมายความว่า พวกเขา... อยู่ใกล้มากกับคนสองคนที่มีอาการการโจมตีผู้อื่นแล้วพวกเขาอยู่ใกล้กับสัตว์ประหลาดสองคนนั้นอย่างมากมาก สัตว์ประหลาดสองคนนั้นกำลังคลานอยู่บนพื้นเหมือนสัตว์เลื้อยคลาน ดูเหมือนพวกเขาจะสามารถคลานมาหาพวกเขาในไม่ช้าความรู้สึกเร่งด่วนนี้ช่างน่ากลัวแม้ว่าพวกเขาเคยประสบกับการโจมตีจากพวกเฟิงช่านและเฟิงจู้มาก่อน พวกเขาเคยประสบเรื่องเช่นนี้มาก่อนก็ตาม แต่ตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นผู้อสวุโสสองคนที่กลายพันธุ์กำลังกำลังทำท่ากัดและคลานเข้าหาพวกเขาบวกกับความรู้สึกที่ว่าพวกเขาอาจจะกลายเป็นเช่นนั้นเช่นกัน ซึ่งเป็นความเร่งด่วนและความกดดันสองเท่าจั๋วซือหรานรู้สึกนางสามารถพูดคุยก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 408

    พวกเขาหวังว่าเฟิงเหยียนจะช่วยชักชวนจั๋วจิ่ว ให้จั๋วจิ่ว เห็นแก่หน้าของพวกเขาหน่อยแต่เห็นได้ชัดว่าด้วยนิสัยของเฟิงเหยียน เขาไม่มีความตั้งใจที่จะร่วมมือกับพวกเขาตอนนี้พวกเขาทราบทัศนคติของเฟิงเหยียนอย่างชัดเจนจากคำพูดของเขาพวกเขาจึงทำได้เพียงมองจั๋วซือหรานด้วยสีหน้าแข็งทื่อเท่านั้นจั๋วซือหรานยังคงอยู่ที่เดิม นางนั่งอยู่ที่นั่นในท่าที่ค่อนข้างสบาย นางมีสีหน้าอย่างดี พวกเขามองออก นางกำลังอารมณ์ดีนางไม่รีบร้อนเลย ก่อนหน้านี้ นางทำท่านเช่นนี้เหมือนกัน นางปล่อยให้พวกเขาคุยกับเฟิงเหยียนใช่สิ ทำไมนางต้องรีบร้อนล่ะ นางไม่ใช่ผู้ที่ต้องกลายพันธุ์สักหน่อย..."จั๋ว จั๋วจิ่ว... " ผู้อาวุโสคนหนึ่งกลัวผู้อาวุโสที่กลายพันธุ์สองคนนั้นมากเกินไปพูดให้ถูกก็คือ เขาไม่กลัวถูกสองคนนั้นทำร้าย แต่เขากลัวตัวจะเป็นเหมือนพวกเขาจั๋วซือหรานสามารถเข้าใจจุดนี้อย่างดีในสายตาของหลาย ๆ คน แม้ว่าความตายจะเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด การดำรงชีวิตแบบตายทั้งเป็น และการที่เสียชีวิตอย่างไม่เป็นสุขนั้นทำให้ผู้คนหวาดกลัวมากกว่าจั๋วซือหรานไม่ได้พูดอะไร แต่นางยังคงมีรอยยิ้มจาง ๆ บนริมฝีปากข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 409

    ทันทีที่พวกเขาได้ยินว่ามาคุยเงื่อนไขด้วยกัน ผู้อาวุโสก็รู้สึกโล่งใจมาก การที่มีโอกาสเจรจานั่นเป็นเรื่องที่ดี ตราบใดที่พวกเขายังสามารถเจรจาได้ แสดงว่าพวกเขายังมีโอกาสรอดชีวิตผู้อาวุโสคนนี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาถาม"เจ้ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง"จั๋วซือหรานชูสองนิ้วแล้วพูดว่า "เงื่อนไขสองประการ ก่อนอื่น ต่อจากนี้ไป ข้าจะต้องได้รับการเคารพมากพอในตระกูลเฟิง"ผู้อาวุโสขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้าไม่เคยถูกดูหมิ่นใน ตระกูลเฟิงเลย"สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเฟิงเหยียน แม้ว่าจริง ๆ แล้ว ตระกูลเฟิงไม่เห็นชอบมากนัก พวกเขาไม่อยากให้ผู้หญิงที่เคยเหยียบย่ำชื่อเสียงของตระกูลเฟิง อีกครั้งมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเฟิงอีกครั้งแต่พวกเขาปฏิเสธไม่ได้ เพราะจั๋วจิ่วผู้นี้มีความสามารถมากจนพวกเขาต้องยอมรับนางดังนั้นพวกเขาจึงยอมทำตามเฟิงเหยียน นางกับเฟิงเหยียนกลับมาหมั้นกันอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้จัดพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการแต่จริง ๆ แล้วพิธีหมั้นเป็นเพียงพิธีที่ขอไปทีเท่านั้น พวกเขาถือเป็นคู่หมั้นแล้วดังนั้นด้วยสถานะของนาง จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่นางไม่ได้รับความเคารพในตระกูลเฟิงมากเท่าใด อย่างมากพว

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 930

    ทุกคนล้วนมองออก ถ้าพูดจากด้านพลัง จั๋วซือหรานได้เปรียบอย่างสมบูรณ์ต่อให้นางไม่ต้องพูดซ้ำเกรงว่าหลังจากวันนี้ ชื่อของจั๋วซือหรานคงกลายเป็นตำนานมีชีวิตในเมืองหลวงแน่ๆถ้าจะให้พูดจริงๆ นางสู้กับตระกูลใหญ่ห้าตระกูลตามลำพัง แต่ก็ยัง...ไม่พ่ายแพ้แค่คิด ก็รู้สึกว่าเป็นแรงบันดาลใจได้แล้วรถม้าแล่นมาถึงบ้านตระกูลจั๋วรู้สึกเหมือนจากไปเสียนาน แต่พอย้อนนึกดู ก็เหมือนจะไม่ได้นานเท่าไรทว่าตอนนี้ จั๋วซือหรานไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนางเดินเข้าไปในโถงประชุม ไม่แม้แต่จะมองพวกเขา เดินตรงไปที่นั่งบนสุด แล้วนั่งลงทุกคนล้วนตะลึงงันไปชั่วขณะหนึ่ง ทั้งห้องนิ่งเงียบเป็นเป่าสากเหมือนมีคนรู้สึกว่าสมควรจะตำหนินาง นางขึ้นไปนั่งบนที่นั่งสูงสุดได้อย่างไรกัน?! ที่นั่งสูงสุดบนโถงประชุม มีไว้ให้เหล่าผู้อาวุโสนั่งแต่นางก็นั่งลงแล้ว กระทั่งมองออกไม่ยากด้วยว่านางจงใจยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งที่นางนั่ง ก็เป็นตำแหน่งของผู้อาวุโสสามพอดีแต่เห็นได้ชัด ว่าประสบการณ์ในอดีต ทำให้นางมีความรู้สึกไม่ดีกับผู้อาวุโสสามมากและเพราะการแสดงออกในเมืองหลวงของจั๋วซือหรานยิ่งยอดเยี่ยม ยิ่งโดดเด่นผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 929

    สายตาจั๋วซือหรานมองพวกเขาอย่างจืดจางอันที่จริง คนไม่น้อยที่รอจะดูมหรสพ เพราะตอนที่เห็นคนของตระกูลจั๋วมากมายมาที่ประตู รู้สึกว่าน่าจะมีมหรสพให้ดูจึงหยุดลงมาคนไม่น้อยยังรู้สึกว่า ตระกูลจั๋วน่าจะมาหาเรื่องจั๋วซือหราน หรืออาจจะทำอะไร...สรุปคือ สิ่งที่พวกเขารอ คือฉากที่ตระกูลจั๋วกับจั๋วซือหรานไปกันไม่ได้ไม่มีคนคิดถึงภาพระหว่างจั๋วซือหรานกับตระกูลจั๋วอยู่กันด้วยดีอะไรแบบนั้นบางทีคงเพราะ...ไม่เคยมีใครคิด คนที่ทะเลาะกับครอบครัวจนแตกหักไปแล้วแบบนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็คงรู้สึกแย่เอามากๆ นั่นล่ะจะไปมีชีวิตที่ดี แล้วกลับมาถูกตระกูลให้ความสำคัญอีกได้อย่างไรกัน?เพราะล้วนคิดเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดว่าระหว่างจั๋วซือหรานกับตระกูลจั๋วจะอยู่กันได้ด้วยดีเพียงแต่ตอนนี้ ทุกคนกลับไม่ได้เห็นฉากที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบให้พวกเขาหลีกทาง จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเฉยเมยในความเป็นจริง คนของตระกูลจั๋ว ในสายตานางไม่เห็นถึงความทะนงตนใดๆ เลยพวกเขาเดิมทีคิดว่า ตอนที่เห็นพวกเขาเข้ามาอ่อนข้อให้แล้วเชิญนางกลับไป ท่าทีของนางควรจะดูเย่อหยิ่งมากถึงจะถูกแต่กลับไม่มีเล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 928

    "โอ้ เห็นว่าคนอื่นเขามากัน ข้าก็อยากจะมาหนุนหน้าให้เจ้าเหมือนกันสิ" ฮั่วจือโจวเอ่ยขึ้น รอยยิ้มในดวงตาเปล่งประกาย "พอดีเลย เจ้านี่อยากจะมาขอบคุณเจ้าด้วยเหมือนกัน"ฮั่วจือโจวชี้ไปที่ฮั่วชิงหยวน"ขอบคุณหรือ?" จั๋วซือหรานไม่ค่อยเข้าใจ "ขอบคุณเรื่องอะไร?""เยอะเลย" ฮั่วจือโจวเอียงตาเหลือบไปทางฮั่วชิงหยวน บอกกับนางว่า "ให้เขาบอกเองดีกว่า"จั๋วซือหรานมองไปทางฮั่วชิงหยวนฮั่วชิงหยวนเกาหัวอย่างเขินๆ แต่ดวงตาก็เปล่งประกายวิบวับอยู่ตลอด คอยจ้องมาทางจั๋วซือหรานเป็นระยะ เอ่ยขึ้นตรงๆ ว่า "แม่นางจิ่ว ถ้าไม่มีท่าน ข้าคงถูกชินอ๋องอวี้หลอกใช้ไปนานแล้ว ถึงแม้ข้าจะไม่ค่อยฉลาดนัก แต่ก็ไม่ชอบถูกคนใช้ประโยชน์เท่าไร""ยิ่งไปกว่านั้น..." ฮั่วชิงหยวนหัวเราะเหอะๆ "ด้วยความช่วยเหลือของท่าน แม้ว่าทรัพยากรข้าจะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ก็ถือว่าเป็นทรัพยากรที่ไม่เลว"จั๋วซือหรานฟังคำพูดนี้ก็นึกๆ ก็เข้าใจว่าเขาน่าจะพูดถึงการร่วมมือของนางกับตระกูลฮั่ว ยาลูกกลอนที่มอบให้เหล่านั้นกระมัง"ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ต้องมาขอบคุณท่านด้วยตัวเองสักครั้ง ขอบคุณมาก" ฮั่วชิงหยวนเก็บรอยยิ้มบนหน้าลง เอ่ยขึ้นด้วยสายตาจริงจังจั๋ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 927

    จั๋วซือหรานต้องการอะไร ก็จะขอออกมาตรงๆจุดนี้ ไม่ได้ทำให้องค์จักรพรรดิเฒ่ารำคาญน่าจะเพราะถูกซือคงอวี้วางแผนใส่มานาน พอโดนไปมากๆ เข้า จักรพรรดิเฒ่าตอนนี้จึงรู้สึกต่อต้านพวกคนคดเคี้ยวกับเรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้นมาโดยสัญชาตญาณดังนั้นจั๋วซือหรานที่นิสัยตรงไปตรงมาแบบนี้ กลับยิ่งสอดคล้องกับเจตนาของเขามากขึ้นองค์จักรพรรดิเฒ่าฟังคำนี้แล้วก็นึกๆ จากนั้นก็เข้าใจขึ้นมา "ข้าจำได้แล้ว ก่อนหน้านี้เจ้าเคยไปหาไทเฮาเรื่องขอพระราชทานอภิเษกไว้ใช่ไหม?""ใช่แล้ว" จั๋วซือหรานยิ้มตาโค้งเอ่ยขึ้น "ฝ่าบาททรงจำได้ด้วย จั๋วจิ่วรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก""ทำไมหรือ? เจ้าต้องตาใครเข้าแล้วล่ะ?" ซือคงเหมี่ยนรู้สึกสนใจขึ้นมาจั๋วจิ่วคนนี้ กระทั่งน้องเจ็ดก็ยังไม่ชายตามอง...แล้วไปต้องตาใครเข้ากันนะ? คงจะไม่ใช่ซื่อจื่อเฟิงกระมัง? นี่จะซื่อตรงเกินไปแล้วซือคงเหมี่ยนครุ่นคิด ตอบว่า "ยัยหนูจั๋วจิ่ว ถ้าหากอีกฝ่ายหมั้นหมายไปแล้ว ข้าเองก็ไปทำลายงานแต่งงานคนอื่นไม่ได้หรอกนะ"พอได้ยินคำนี้ อ๋องเซี่ยนที่ขี่ม้าอยู่ข้างๆ รถองค์จักรพรรดิเฒ่ามาตลอดก็ถอนใจโล่ง แม้ว่าเขาจะไม่รู้ก็ตามว่าถอนใจโล่งทำไมและจั๋วซือหรานพอได้ยินคำน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 926

    แม้จะบอกว่า จั๋วซือหรานตอนที่ประลองกับซางถิงในตลาดมืด จะเคยใช้สัตว์เลี้ยงไปแล้วตามหลักการน่าจะมีคนไม่น้อยที่รู้จักสัตว์อสูรของนางแต่เพราะตอนนั้น ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นนี่ไม่ได้เหมือนในชาติที่แล้วของนาง ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปโพสไปบนเน็ตได้นี่ล้วนเป็นการลือกันแบบปากต่อปาก คนส่วนใหญ่เคยชินกับข่าวแบบนี้ที่มักจะพูดกันเกินจริง ดังนั้นบางคนก็ไม่ค่อย หรือเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างก็ตามทีแต่ตอนนี้ ทุกคนได้เห็นกับตาแล้ว"หรือว่า...กระทั่งตระกูลซาง...ก็ยังแพ้นางมาแล้ว"อิงเซ่าขี่ม้าเข้ามารับ เขาดูตื่นเต้น ใบหน้าแดงก่ำไปหมดพอมาอยู่ตรงหน้าจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานจึงเก็บแมงมุมลงมา ยืนอยู่บนพื้นอิงเซ่าพลิกตัวลงจากม้า "แม่นางจิ่ว! ข้ารู้อยู่แล้ว ว่าถ้าท่านออกโรงต้องสำเร็จ"จั๋วซือหรานเอียงหัวไปทางด้านหลัง "คนของท่าน พากลับมาไม่ขาดแม้แต่คนเดียว บาดเจ็บไปหลายคน แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร""ดี!" อิงเซ่าพยักหน้า พูดต่อกันว่า "ดีดีดีมาก!"ตอนนี้ อันที่จริงอย่าว่าแต่เหล่าขุนนางชนชั้นสูงกับพวกราชวงศ์ที่ออกันเต็มประตูเมืองเลยกระทั่งเหล่าประชาชนที่มามุงดูก็ยังเข้าใจ ว่าแม่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 925

    ดวงตาซือคงอวี้ถลึงโต ลูกตาค่อยๆ พร่ามัวและชายหนุ่มที่ใบหน้าหล่อเหลาชั่วร้ายนี้ ก็ปัดเศษเลือดที่กระเซ็นมาติดชายเสื้อออกไปอย่างไม่แยแสเขารูปร่างโปรง สูงเพรียว แต่ไม่ได้ดูแข็งแรงนัก ดูแล้วผอมไปบ้างแต่กระดูกรูปหน้าดี ดังนั้นใบหน้าจึงดูดีมาก บวกกับผิวที่ขาว จึงให้ความรู้สึกที่เย็นชาดูจากใบหน้าแล้ว ไม่ได้มีเอกลักษณ์ของคนแดนใต้มากนัก ถ้าหากบวกกับผิวสีขาวเข้าไป ก็ยิ่งไม่เกี่ยวกันกับผิวสีคล้ำค่อนดำที่เห็นได้บ่อยๆ ของคนแดนใต้แล้วแต่ผมสีแดงเข้มบนหัว ก็ดูไม่เหมือนกับต้าชางเลยเสื้อผ้าบนตัวเขา สีใกล้เคียงกับสีผมเขามาก ในที่ที่มีแสงน้อย ก็เหมือนจะกลืนกันจนเป็นสีดำแต่ถ้ามองในที่ที่สว่างหน่อย ก็จะดูเป็นสีแดงเข้มคล้ายเลือดและตอนนี้ เหล่าทหารเดนตายของชินอ๋องอวี้...ที่ก่อนหน้านี้ไม่รู้ถอยหนีกระจายกันไปที่ไหน กลับล้อมวงกันเข้ามา"นายท่าน"พวกเขาทยอยกันคุกเข่าข้างหนึ่งชายหนุ่มร้องอืมขึ้น จากนั้นจึงยื่นมือไปดึงคอเสื้อของซือคงอวี้ ลากเขาเดินไปด้านหน้าทหารเดนตายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นทันที "นายท่าน ให้ข้าน้อยช่วยเถิด?"ชายหนุ่มกลับโบกไม้โบกมือไม่สนใจ "ไม่ต้อง เดี๋ยวจะทำตะปูวิญญาณข้าเสียหาย"เหล

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 924

    ในใจฮาร์วีย์คิดถึงความเป็นไปได้หนึ่ง คิ้วเลิกขยับขึ้นเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกจั๋วซือหรานเห็นสีหน้าเขา ยังคิดว่าเขาจะพูดอะไรอีก คิดไม่ถึงว่าจะไม่พูดอะไรออกมาเลยไม่พูดก็ไม่พูด ถึงอย่างไรก็ไม่ได้รีบร้อนที่จุดนี้จั๋วซือหรานรอการตัดสินใจขององค์จักรพรรดิเฒ่า แค่ครู่เดียว รองแม่ทัพก็เข้ามารายงาน อธิบายถึงเจตนาขององค์จักรพรรดิเฒ่ารองแม่ทัพบอกว่า "ฝ่าบาทตรัสว่า ให้เดินหน้าต่อได้เลย"จั๋วซือหรานพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้รู้สึกเกินคาดอะไรกับคำตอบนี้ แค่ตบลงบนตัวแมงมุมน้อยเบาๆไม่มีอะไรเกินคาด นับแต่โบราณองค์จักรพรรดินั้นปราศจากความเมตตาที่สุดมาตลอดตอนที่โปรดปรานเจ้า ก็อยากจะให้เจ้าเป็นองค์รัชทายาทจนตัวสั่น แต่พอความโปรดปรานนี้หายไป แค่ศพก็ไม่อยากจะเก็บกลับไปแมงมุมของจั๋วซือหรานนำทางอยู่ด้านหน้า ขบวนรถม้าเคลื่อนตามนางอยู่ด้านหลังซือคงอวี้แผ่อยู่บนพื้น เขาคลานไปบนพื้นสายตาจับจ้องไปยังทิศทางที่ขบวนรถม้าจากไป มองรถม้าที่คลุมด้วยสีเหลืองคันนั้นห่างออกไปเรื่อยๆมุมปากเขาขยับ แต่ก็ไม่อาจะตะโกนเรียกได้แล้ว เหลือเพียงแต่เสียงที่อ่อนแอ"เสด็จพ่อ...เสด็จพ่อ..." หางตาซือคงอวี้มีน้ำตาหลั่งอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 923

    จากที่คนอื่นเห็นชินอ๋องคนหนึ่ง ต่อให้จะทำความผิดพลาดครั้งใหญ่แค่ไหน ก็ยังต้องให้ผู้ปกครองสูงสุดแห่งราชวงศ์ ผู้เป็นจักรพรรดิมาลงโทษแต่ไม่ใช่นางที่เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ลงมาสังหารโดยที่ตาก็ไม่กระพริบนางช่างอาจหาญเสียจริง!เหมือนกับชายหนุ่มที่เด็ดเดี่ยวซึ่งไม่เคยหันกลับไปมองฉากระเบิดด้านหลังอย่างไรอย่างนั้นจั๋วซือหรานพอลงมือก็ลงมือ ขี้เกียจจะหันกลับไปมองหลายรอบนางหิ้วขลุ่ยดินเผาเลานั้น เดินกลับไปตรงหน้าราชาแมงมุมหน้าผี กระโดดขึ้นไปบนหลังมันฮาร์วีย์ที่อยู่ข้างๆ เนื่องจากเป็นเชลยของจั๋วซือหราน ดังนั้นจึงอยู่ใกล้นางมากก่อนหน้านี้เห็นขั้นตอนทั้งหมดกับตา ดังนั้นตอนนี้จึงยังคงตกตะลึงอยู่จั๋วซือหรานจ้องมองขลุ่ยดินเผาในมือพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จึงแหงนตามองฮาร์วีย์ "นี่คืออาวุธกู่นั่นใช่ไหม?"ฮาร์วีย์พยักหน้า "ใช่แล้ว"จั๋วซือหรานมองสัญลักษณ์ดอกถูหมีนั่น มุมปากนางก็ยกขึ้น นิ้วมือควบพลังวิญญาณ จัดการลบสัญลักษณ์ดอกถูหมีบนขลุ่ยดินเผานั้นออกอย่างไม่ปราณีพอเห็นการกระทำที่อหังการเช่นนี้ของนาง ฮาร์วีย์ประหลาดใจหน่อยๆ แต่ก็เหมือนไม่ได้รู้สึกเกินคาดเท่าไรฮาร์วีย์เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "แม่นา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 922

    และนางเองก็ไม่ใช่ว่าจะไปเด็ดหัวศัตรู แต่แค่ทำเหมือนเข้าไปเด็ดดอกไม้สดดอกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นนักรบเดนตายของซือคงอวี้เหล่านั้น ก็ไม่รู้ว่าเพราะเห็นซือคงอวี้ไม่ดิ้นรนเหมือนคนที่ใกล้จะตายแล้ว หรือว่าเพราะยังตกใจกับการโจมตีก่อนหน้าของจั๋วซือหราน จึงทำให้คนไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม?สรุปคือ แม้พวกเขาจะมีท่าทีระแวดระวังอยู่ตลอด กลับไม่กล้าคิดจะทดลองลงมืออะไรกับจั๋วซือหรานแน่นอน และอาจจะเพราะรู้ว่าตนเองสู้ไม่ไหวจั๋วซือหรานเดินไปอยู่ตรงหน้าซือคงอวี้อย่างราบรื่นพอเห็นว่าเหล่าทหารเดนตายรอบๆ ทำได้แค่ระแวดระวัง ไม่มีท่าทีว่าจะโจมตีอะไร จั๋วซือหรานจึงยกริมฝีปากหัวเราะขึ้นมา "เป็นตัวเลือกที่ฉลาด"จากนั้น จั๋วซือหรานก็คุกเข่าลงมาตรงหน้าซือคงอวี้นางกอดเขานั่งยองลงมาตรงหน้าซือคงอวี้ ก้มลงมองดูเขา...ซือคงอวี้ถลึงสองตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด จ้องเขม็งยังจั๋วซือหรานแต่ตอนนี้เอง ท่าทางกับสายตาของจั๋วซือหรานก็ทำให้เขาเกิดเข้าใจผิด ราวกับว่า...นางไม่ได้กำลังมองเขา แต่ว่า...แต่ว่ากำลังมองมดปลวกบนพื้นตัวหนึ่ง"เจ้า..." ซือคงอวี้ส่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก เขารู้ว่าตนเองตกที่นั่งลำบากแล้วเช่นนั้น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status