"บาดแผลทั่วร่างกาย?" ในแววตาของเย่อู่เหิงล้วนคือความปวดใจ"ใช่ ตอนข้าไปรับนาง ทั่วตัวของนางเต็มไปด้วยเลือด ไม่มีสภาพตรงไหนดีเลย แต่นางก็ยังยิ้มให้ข้า" โม่จุนพอพูดถึงตรงนี้ก็ระคายเคืองจมูกขึ้นมาทุกคนต่างมองหน้ากัน อารมณ์กังวลหนักใจยิ่งกว่าอะไร"แล้วเป็นฝีมือใครกันแน่!" ทันใดนั้นฮั้วอวิ๋นเทียนก็แผ่จิตสังหารออกมาโม่จุนเหลือบมองเขาและหันมองดูรอบๆ พอเห็นว่าทุกคนเป็นคนของเขาก็เลยไม่ปิดบัง"มกุฎราชกุมารแคว้นเป่ยจิ้นเซวียนหยวนเชา""อะไรนะ!" มู่เทียนซิงถลึงตาโตจนแทบจะหลุดออกจากเบ้า"เรื่องนี้หากต้องพูดก็คงจะยืดยาว ในเมื่อทุกคนกำลังรอซีเอ๋อร์ให้พื้นขึ้นมา งั้นเราเข้าไปค่อยๆ คุยกันดีกว่า" โม่จุนคิดอยู่ครู่ก่อนจะพูดขึ้นมาแต่ว่าในตอนท้ายก็ยังหันมองฮั้วอวิ๋นเทียน"จิ่วซีเป็นเพื่อนของข้า นางต้องทนทุกข์ขนาดนั้น ข้าแน่นอนว่าไม่สามารถนิ่งดูดายได้ อีกอย่าง ระหว่างข้ากับมกุฎราชกุมารแคว้นเป่ยจิ้นก็มีเรื่องกันมาก่อน" ฮั้วอวิ๋นเทียนเข้าใจความหมายของโม่จุน เลยแสดงจุดยืนออกไปตรงๆโม่จุนเลิกคิ้วและพยักหน้า พวกเขาทั้งหมดเดินเข้ามานั่งยังข้างๆ ห้องผู้ป่วยของมู่จิ่วซีเย่ฮานและอานเย่ทำหน้าที่เป็นบ่าว
โจวเหยาชะงัก ทุกคนเองก็นิ่งไป ชั่วขณะนั้น ทุกคนก็เข้าใจในทันทีว่าตำแหน่งของมู่จิ่วซีในใจของท่านผู้สำเร็จราชการแทนสำคัญมากแค่ไหน"รับสั่งไปว่าให้เอาเห็ดหลินจือเก้าโคจรไปต้ม รอจนจิ่วซีฟื้นขึ้นมาแล้วค่อยให้นางดื่ม" ฮั้วอวิ๋นเทียนเอากล่องให้กับเย่ฮานเย่ฮานหันมองท่านผู้สำเร็จราชการแทน มู่เทียนซิงก็รีบพูดขึ้นมา : "ยังไม่ไปอีก! ของดีขนาดนี้ ซีเอ๋อร์ดื่มแล้วจะต้องไม่เป็นอะไรแน่ ทำไมถึงยังไม่ออกมาอีก! นานขนาดนี้แล้ว ร้อนใจจะตายแล้วเนี่ย"บังเอิญจังหวะพอดีที่เสียงประตูห้องข้างๆ เปิดออก อานเย่รีบคว้าแพทย์หลวงอู๋เอาไว้"แพทย์หลวงอู๋ ซีเอ๋อร์ล่ะ?" โม่จุนรีบถามขึ้นมา คนอื่นๆ ก็ทยอยลุกขึ้นพร้อมกับมองเขาอย่างกระวนกระวายแพทย์หลวงอู๋น้อมเคารพและกล่าว : "ทุกท่าน คุณหนูใหญ่มู่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต ทุกท่านวางใจได้ แต่แค่มีบาดแผลภายนอกไปทั้งตัว คงต้องใช้เวลาในการจัดการแผล ผนวกกับการเสียเลือดไปมากและเหนื่อยมากเกินไเลยหมดสติไม่ฟื้น แต่ไม่เป็นอะไรแน่นอน วางใจเถอะ""บาดแผลภายนอกทั้งตัว งั้นผิวคงจะไม่..." สีหน้าของมู่เทียนซิงแย่ยิ่งกว่าอะไร หญิงสาวหากมีรอยแผลเป็นไปทั่วร่าง หลังจากนี้จะได้รับความรักโปรดปรา
โม่จุนเห็นแก่เห็ดหลินจือเก้าโคจรและยาบำรุงผิวก็เลยพยักหน้าตกลงหลังจากช่วงบ่าย ดวงอาทิตย์ได้ขึ้นสูง โม่จุนกลับมาจากเข้าเฝ้าพระพันปีหลวง ทั้งพระนครได้ตกเข้าสู่สถานะวิกฤติอีกครั้งเรื่องของท่านอ๋องสี่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันเกินไป เลยทำให้กระทรวงราชทัณฑ์ กรมพระราชวังนครบาล รวมถึงทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์และอีกหลายฝ่ายดำเนินการสืบสวนร้านค้าของท่านอ๋องสี่ที่เปิดในแคว้นเกาอวิ๋น ทรัพย์สินทั้งหมดได้ถูกยึดจวนของท่านอ๋องสี่ได้ถูกปิดล้อม แต่กลับไม่เห็นเงาของท่านอ๋องสี่และลูกชายของเขาแล้วเห็นได้ชัดว่าท่านอ๋องสี่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้านานแล้ว พอเกิดเรื่องขึ้น เขาก็คงจะปกป้องลูกชายตนและไปซ่อนหรือออกจากแคว้นเกาอวิ๋นไปแต่เชื่อได้ว่าท่านอ๋องสี่เองก็ไม่คาดคิดว่าจะถูกเปิดโปงเร็วขนาดนี้ บางทีอาจรู้นานแล้วว่ามู่จิ่วซีมีความสามารถ พวกเขาไม่ควรเอาท่านอ๋องหกมาแลกเปลี่ยนมู่จิ่วซีเลย เป็นการขุดหลุมให้กับตัวเองชัดๆมู่จิ่วซีในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมา นางพอลืมตาขึ้นก็รู้สึกปวดไปทั้งตัว แต่ความเจ็บปวดนี้อยู่ในขอบเขตที่นางทนไหว"คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าฟื้นแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง?" แพทย์หลวงอู๋กับแพทย์หลวงหวังไม่กล้าห่า
โม่จุนไม่คาดคิดว่าเวลานี้จะได้ยินนางพูดนึกถึงฮั้วอวิ๋นเทียน เมื่อครู่ที่อารมณ์ดีก็หม่นหมองเป็นเมฆดำในทันควัน"จนป่านนี้แล้ว เจ้ายังนึกถึงฮั้วอวิ๋นเทียนอีก?" น้ำเสียงของโม่จุนเย็นเยือกราวกับในนรกลึกขุมที่เก้าขณะเดียวกัน มู่เทียนซิงก็พูดขึ้นมา : "ซีเอ๋อร์ เจ้าสำนักฮั้วไม่เลวเลยจริงๆ เขาพอได้ยินว่าเจ้าบาดเจ็บก็รีบมาเป็นคนแรก แล้วก็ยังเอาเห็ดหลินจือเก้าโคจรให้เจ้าด้วย นั่นเป็นของดีเชียวล่ะ ยังบอกด้วยว่าจะช่วยเจ้ารวบรวมยาบำรุงผิวจากทั้ง 6 แคว้นมาให้ คงไม่อยากให้เจ้ามีรอยแผลเป็น เขาใจดีจริงๆ"คำพูดของมู่เทียนซิงกับตำพูดของโม่จุนแทบจะพูดขึ้นมาพร้อมกัน มู่จิ่วซีชะงักไป นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางหลับไปนานแค่ไหน ทำไมเหมือนกับมีเรื่องมากมายเกิดขึ้นอย่างใดอย่างนั้น?"ท่านพี่ฮั้วได้มาหาแล้ว?" มู่จิ่วซีตกใจและหันไปมองท่านพ่อของนางเอง"ใช่ ฮั้วอวิ๋นเทียนกับเย่อู่เหิงมาเยี่ยมเจ้าแล้ว แล้วก็ยังมีใต้เท้าโจวเหยาด้วย" มู่เทียนซิงกล่าวจากนั้นก็กล่าวอย่างโมโหกับโม่จุน "ท่านผู้สำเร็จราชการแทน เจ้าหมายความว่ายังไง ฮั้วอวิ๋นเทียนดีกับซีเอ๋อร์คงจะไม่ได้เดือดร้อนเจ้าหรอกใช่ไหม ยังไงก็ดีกว่าเจ้าที่เรียกซีเอ๋
"เจ้าคิดไปไหนของเจ้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เยียนเอ๋อร์ของเขายังมีชีวิตอยู่ต่างหาก!" มู่จิ่วซีอยากจะกรอกตาจริงๆ ผู้ชายคนนี้ยังบอกอีกว่าตัวเองไม่ได้หึง หึงจนนางเข็ดฟันแทบจะหลุดออกมาแล้วโม่จุนชะงักไปจากนั้นก็กล่าวอย่างตกใจ : "ภรรยาที่ตายไปของฮั้วอวิ๋นเทียน?""ใช่ แต่ว่าไม่ใช่ภรรยา พวกเขายังไม่ได้แต่งงานกัน ยังมีอีกเรื่อง เยียนเอ๋อร์ถูกอาจื่อลอบทำร้าย ทั้งสองเป็นพี่น้องแท้ๆ หึๆ" มู่จิ่วซีเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมาโม่จุนมองนางอย่างไม่เชื่อพร้มอกับกล่าว : "เจ้ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร? เจ้าไปเจอกับเยียนเอ๋อร์มา?""ใช่ ข้าถูกกุมขังอยู่ในห้องอุโมงค์หิน ไม่คาดคิดว่าอุโมงค์หินอีกด้านจะมีคนอยู่ นางบอกข้าว่านางมีชื่อว่าฉินอวี่เยียน บอกข้าว่าหากออกไปได้ ให้ไปบอกฮั้วอวิ๋นเทียนมาช่วยด้วย โม่จุน เจ้าว่าข้าช่วยฮั้วอวิ๋นเทียนขนาดนี้จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง?"มู่จิ่วซีกล่าวอย่างดีใจ ดูไม่เหมือนผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บเลย ราวกับความเจ็บปวดบนร่างกายของนางไม่ได้อยู่บนตัวนางเสียอย่างนั้นอันที่จริงมู่จิ่วซีอดทนความเจ็บปวดเก่งมาก ราชินีแห่งราตรีอย่างนางบาดเจ็บมาตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยได้หยุด แข็งแกร่งขึ้น
มู่จิ่วซีขมวดคิ้วกล่าว: "โม่จุนไม่กลับมาเพราะเรื่องนี้? เขาไม่ได้ไปบอกให้ท่านพี่ฮั้วมาหาหรอกเหรอ? ทำไมไม่เห็นมาเลย? หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?"เย่ฮานส่ายหัวและกล่าว : "ไม่หรอก ก็แค่ยุ่งมาก คุณหนูใหญ่ ท่านอย่ากังวลไปนักเลย ท่านบาดเจ็บขนาดนี้ ท่านจะลงมือทำเองทุกเรื่องเลยหรือไง?""ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ เย่ฮาน เตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบกล่าวขึ้นมา "พวกเราจะไปที่ยุ้งฉางประตูตอนเหนือ หากเดาไม่ผิด โม่จุนคงจะพาท่านพี่ฮั้วไปตามหาฉินอวี่เยียนแล้ว"เย่ฮานเบิกตากว้างพร้อมกับกล่าว : "คุณหนูใหญ่ ท่าน ท่านจะขี่ม้างั้นรึขอรับ?""เร็วเข้า! งงอะไรอยู่อีก!" มู่จิ่วซีด้วยเสียงดังแหลมอย่างโมโหเย่ฮานตกใจจนตัวสั่น เขาอยากจะขอร้อง แต่ถูกมู่จิ่วซีทำท่าง้างมือขึ้นจะตีเขา เขาก็กลัวจนวิ่งออกไปแพทย์หลวงอู๋และแพทย์หลวงหวังก็เข้ามาโน้มน้าว แต่มู่จิ่วซีฟังซะที่ไหน อันที่จริงนางรู้ว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แต่คนที่เป็นห่วงนางแค่ตกใจกับสภาพบาดแผลภายนอกก็เท่านั้นหลังจากพักผ่อนปรับสภาพไปหนึ่งวัน นางก็สมบูรณ์ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ กำลังภายในเฟิงเหยียนหยูเฟยทำให้บาดแผลของนางฟื้นฟูเร็วมากเป็นพิเศษ ดีกว่าแต่ก่อนขึ้นเ
มู่จิ่วซีพูดไม่กี่คำก็รีบเดินเข้าไป กลิ่นคาวเลือดด้านในยังไม่ได้ฟุ้งจางหาย ทำเอามู่จิ่วซีขมวดคิ้วพอเข้าไปก็เป็นเรือนหลังใหญ่มาก รอบด้านล้วนเป็นกำแพง ดูไปแล้วเป็นส่วนตัวไม่เลวนางอาศัยความรู้สึกตอนถูกคลุมหัว พวกเขาไม่ได้ไปยังอาคารด้านหลังเรือน แต่เป็นภายในเรือนใหญ่หลังนี้สถานที่ที่นางสังหารคนอยู่ชิดทางด้านตะวันออก ทางด้านนั้นมีของเสียหายมากมาย เห็นชัดถึงการต่อสู้อันรุนแรงไม่นานนัก นางก็เห็นทางที่นางออกมาจากใต้ดิน เพราะว่าถูกยิงไปด้วยธนูจนเป็นรู"คุณหนูใหญ่ ท่านผู้สำเร็จราชการแทนกับเจ้าสำนักฮั้วอยู่ด้านล่างขอรับ" ทหารมังกรดำนายหนึ่งกล่าวขึ้นมามู่จิ่วซีให้เย่ฮานคอยดูข้างบน ส่วนนางก็ลงไปด้านล่างทันที นางขณะลงไปก็ตะโกนไปด้วย : "โม่จุน ท่านพี่ฮั้ว!""ซีเอ๋อร์!""จิ่วซี!" เสียงของชายทั้งสองตกใจได้ดังก้องมามู่จิ่วซีเห็นพวกเขาเดินออกมาจากห้องอุโมงค์หิน แต่ว่าทั้งสองคนกลับเต็มไปด้วยฝุ่น"ซีเอ๋อร์ เจ้ามาได้ยังไง? เจ้าอยากตายหรือไง!" โม่จุนทันใดนั้นก็โกรธมาก แต่เขาก็ได้เดินเข้ามาหามองแผลของนางว่ามีเลือดไหลหรือไม่"ข้าบอกให้เจ้าไปตามท่านพี่ฮั้วมาหาข้า พวกเจ้ากลับไม่บอกไม่กล่าวเลยสัก
มู่จิ่วซีนั่งบนโต๊ะม้าหินอย่างรู้สึกเสียใจ โม่จุนเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าซีดขาวของนางพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาให้อย่างเป็นธรรมชาติมู่จิ่วซีไม่ได้คิดอะไรมาก จากนั้นก็หันไปกล่าวกับฮั้วอวิ๋นเทียน : "ท่านพี่ฮั้ว งั้นเจ้าเชื่อคำพูดของข้าไหม?"ฮั้วอวิ๋นเทียนพยักหน้า : "ถ้าคนอื่นข้าอาจจะไม่เชื่อ แต่หากเจ้าพูด ข้าก็เชื่อ เพราะว่าเจ้าจะไม่เอาเรื่องแบบนี้มาหลอกข้า""อีกอย่างข้าพอฟังโม่จุนพูดเสร็จก็พบว่าอาจื่อไม่อยู่แล้ว ข้ารู้ว่าจะต้องเป็นเรื่องจริง เป็นางที่ทำร้ายเยียนเอ๋อร์ นางจะไปมีหน้าเจอข้าได้อย่างไร"ฮั้วอวิ๋นเทียนสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นปวดร้าว ไม่เคยคาดคิดว่าเยียนเอ๋อร์ยังไม่ตาย และยังเป็นน้องสาวแท้ๆ ที่ทำร้ายที่น่าโมโหสุดก็คือเขาถูกอาจื่อหลอกมานานขนาดนี้แต่กลับไม่รู้ตัวเลยดังนั้นการที่อาจื่อก็คงมีวรยุทธสูง ส่วนคนลอบยิงสังหารมู่จิ่วซีจะเป็นอาจื่อก็คงจะเป็นไปได้เขาเองโง่มากจริงๆมู่จิ่วซีรีบกล่าว : "ในเมื่อพวกเขาไม่ได้สังหารพี่เยียนเอ๋อร์ แสดงว่าพี่เยียนเอ๋อร์ตอนนี้คงจะไม่เป็นอะไร เจ้าวางใจเถอะ พวกเราจะต้องหาพี่เยียนเอ๋อร์พบ"ฮั้วอวิ๋นเทียนก็รีบกล่าว : "ไปกันเถอะ ข้าจะกลับไป