แชร์

มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน
มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน
ผู้แต่ง: เย่ว์เหมี่ยว

บทที่ 1

ผู้เขียน: เย่ว์เหมี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-09 13:25:03
แคว้นเกาอวิ๋น

สมองของมู่จิ่วซีมึนงง รู้สึกเพียงแค่ร่างกายถูกคนกระชากไปมา โยนไปรอบๆ ในหูยังมีเสียงต่างๆ ลอดเข้ามาอีก

“รีบเอากรงเข้ามา นังผู้หญิงไร้ยางอายคนนี้ กล้าแอบไปคบชู้สู่ชายภายนอก ต้องถูกขังกรงหมูแล้วถ่วงน้ำเสียให้ตาย”

มู่จิ่วซีเบิกสองตาโพลง

สิ่งที่สัมผัสกับสายตาคือแสงตะเกียงสลัวกับพื้นหญ้า รอบด้านมีคนยืนเต็มไปหมด

บนตัวนางคือชุดกระโปรงยาวที่เปียกโชก มือเท้าถูกคนมัดไว้ นอนตัวงอราวกับกุ้งอยู่บนพื้นหญ้า

ห่างออกไปหนึ่งเมตรมีศพของผู้ชายคนหนึ่งอยู่ด้วย

มุมปากของนางค่อยๆ ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชาประชดประชัน

นางเป็นถึงราชินีราตรีของกองทหารรับจ้างอันดับหนึ่งของโลก มีแต่นางที่คอยจับคนอื่นมัด เมื่อไรกันที่ต้องมาถูกคนพันธนาการไว้เช่นนี้?

นั่นก็เพราะนางข้ามมิติมาแล้ว ดวงวิญญาณข้ามมาอยู่บนตัวของมู่จิ่วซีคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่แห่งแคว้นเกาอวิ๋น

“ท่านผู้สำเร็จราชการแทน โปรดปล่อยคุณหนูใหญ่ของตระกูลพวกเราเถิด คุณหนูใหญ่กับหมอหลวงเวินถูกใส่ร้าย” หญิงสาวคนหนึ่งกำลังโขกหัวลงพื้นร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างนาง

มู่จิ่วซีเงยตาทันที ตั้งใจมองให้ชัด

ข้างหน้าห่างไปสามเมตรมีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่ ท่วงท่าพลังที่แข็งแกร่งทำให้คนยากจะมองข้าม

เขาคือผู้สำเร็จราชการแทนผู้อยู่ใต้คนเพียงคนเดียวและอยู่เหนือคนนับหมื่นในแคว้นเกาอวิ๋นโม่จุน

ใบหน้าลึกซึ้งราวกับถูกสลักเสลาออกมาอย่างประณีต ในดวงตาที่น่าหลงใหลคู่หนึ่งมีดาวประกายเยือกเย็น

ผมสีดำขลับห้อยลงมาถึงเอว เหนือหัวมีมงกุฎหยกสีม่วงทอง บนตัวสวมชุดคลุมงูหลามปักทอง ที่เอวคาดเข็มขัดหยกมังกร รูปร่างกำยำเต็มไปด้วยความฉกรรจ์

ชายหล่อเหลาที่เย็นชา

เพียงแต่ตอนนี้ใบหน้าผู้สำเร็จราชการแทนดำขลับราวหมึก ดวงตาเหมือนมีน้ำแข็งพันฉื่อลอยอยู่

“แค่กๆๆ” มู่จิ่วซีมีการเคลื่อนไหว

“ท่านผู้สำเร็จราชการแทน มู่จิ่วซีไม่รู้จักละอายต่อบาป ต้องจับขังกรงหมูถ่วงน้ำเสีย ใครก็ได้ รีบนำกรงเข้ามาเร็ว” หญิงสาวคนหนึ่งพอเห็นมู่จิ่วซีตื่นขึ้นมา ก็รีบส่งเสียงเรียกร้องแหลม

มู่จิ่วซีหันหน้ามองไป นั่นคือคุณหนูสองไป๋เฟิ่งหว่านจากจวนอัครมหาเสนาบดี

ทันใดนั้น นางยังไม่ทันได้หายใจหายคอ ก็ถูกองครักษ์หิ้วขึ้นมายัดเข้าไปในกรงกรงหนึ่ง และตอนที่นางมองไปยังผู้สำเร็จราชการแทน ก็เห็นว่าในดวงตาดำของเขาคือความมืดทึมเย็นชาผืนหนึ่ง

“มู่จิ่วซี เจ้ามันนังแพศยา ทำไมต้องทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ แล้วเจ้าจะให้ท่านพ่อทำอย่างไร! จะให้จวนมู่ทำอย่างไรกัน? ขายหน้าประชาชีไปหมดแล้ว!” หญิงสาวอีกคนหนึ่งก็ร้องขึ้นมาอย่างเดือดดาล

มู่จิ่วซีก็เห็นว่าเป็นน้องสาวคนรองของเจ้าของเดิมที่ชื่อว่ามู่เจินจู

“ไม่นะ! หยุด! คุณหนูใหญ่ ท่านรีบพูดอะไรเร็ว ท่านกับหมอหลวงเวินไม่ได้แอบคบชู้กัน!” สาวใช้ลู่เอ๋อร์พุ่งเข้าไปดึงกรงไว้ ร้องห่มร้องไห้อย่างหนักจนปอดแทบพัง

“ไสหัวไป! นังคนใช้ชั้นต่ำ!” เท้าข้างหนึ่งถีบลู่เอ๋อร์จนร้องกลิ้งออกไป

สายตามู่จิ่วซีมองไปยังชายหนุ่มสูงส่งที่ยืนดูอยู่ข้างๆ อย่างเย็นชา

“ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ท่านเป็นคนโง่หรือไรกัน?”

ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีทำให้คนทั้งหมดสูดปาก

“มู่จิ่วซี เจ้ากล้าลบหลู่ท่านผู้สำเร็จราชการแทนหรือ?” ไป๋เฟิ่งหว่านตะคอกขึ้นมาอีกครั้ง “เร็ว จับนังแพศยานี่โยนทิ้งทะเลสาบไป!”

“ช้าก่อน!” มู่จิ่วซีร้องให้หยุด

มือเท้าขยับเล็กน้อย ในใจก็หัวเราะเย็นชา การมัดเช่นนี้ใช้ไม่ได้ผลกับนางหรอก

แต่ว่านางก็ไม่ได้รีบร้อนหลบหนี ถึงอย่างไรร่างกายนี้ก็ไม่ใช่ร่างเดิมของนาง นางยังปรับตัวไม่ได้

ไหนจะความผิดเรื่องคบชู้นี่อีก ต่อให้เจ้าของเดิมไม่ได้ดึงนางเข้ามา นางก็ไม่อยากจะแบกชื่อเสียนี้ไว้หรอกนะ

“มู่จิ่วซี เจ้ายังมีอะไรพูดอีกไหม ชายชู้ของเจ้าตายไปแล้ว ยังไม่ยอมตายตามไปด้วยกันอีกหรือ? ไม่กลัวว่าเขาจะเหงาอยู่ในยมโลกหรือไร” ไป๋เฟิ่งหว่านหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาอีกครั้ง

รอบด้านมีเสียงหัวเราะเย้ยหยันและเสียงก่นด่าดังขึ้นมาทันที

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาคือชายชู้ของข้า? เจ้าเห็นกับตาว่าข้าขึ้นเตียงกับเขาหรือ?” คำพูดของมู่จิ่วซีทำเอาทุกคนตกตะลึงขึ้นมา

“นังแพศยาไร้ยางอาย คำพูดเช่นนี้ยังกล้าพูดออกมาอีก!”

มู่จิ่วซีกลับมองไปยังโม่จุนด้วยสายตาเย็นชาแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านกับข้ามีการหมั้นหมาย ท่านคิดว่าข้าตาบอดหรือ? ถึงได้ไม่ชอบชายรูปงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเกาอวิ๋นเช่นท่าน แต่กลับไปสนใจหมอหลวงธรรมดาสามัญคนหนึ่งเช่นนี้?”

ทุกคนล้วนถลึงตาโต คนมากมายยังมองไปทางโม่จุนด้วย

โม่จุนเดินขึ้นมาก้าวหนึ่ง ดวงตาดำที่เย็นชาจ้องเขม็งไปทางมู่จิ่วซี มุมปากมีรอยยิ้มชั่วร้ายเย้ยหยันเอ่ยขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่มู่ ตอนไหนกันที่เจ้ามาพูดดีด้วยกับข้า?”

“ผู้สำเร็จราชการแทน แม้ว่าท่านจะเย่อหยิ่งถือดีไร้ซึ่งศีลธรรม แต่เทียบกับหมอหลวงเวินแล้วก็ยังยอดเยี่ยมกว่า คุณหนูอย่างข้าต่อให้คบชู้จริง ก็ต้องไปคบกับคนที่ดีกว่าท่านไม่ถูกหรือ” ขณะที่มู่จิ่วซีพูด นางก็หัวเราะร่าขึ้นมา

สถานการณ์นี้ทำไมมันถึงประหลาดเช่นนี้

ใบหน้างามของโม่จุนบิดเบี้ยวไปแล้ว สองตาหรี่ลง จ้องมู่จิ่วซีอย่างมาดร้าย

“ข้าเย่อหยิ่งถือดีไร้ซึ่งศีลธรรมหรือ?”

“แล้วไม่ใช่หรือ? ถ้าหากไม่ใช่ ท่านก็ต้องให้โอกาสข้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์สิ” มู่จิ่วซีจ้องสองตาของโม่จุน ด้านในมีประกายท้าทาย

“ผู้สำเร็จราชการแทน มู่จิ่วซีกำเริบเสิบสานมาตั้งแต่เล็ก ทำตัวสำรวยหยาบคาย แล้วยังชอบเข้าซ่องหาผู้ชายอีกด้วย ท่านอย่าถูกนางหลอกเอาเชียว” มู่เจินจูกระโจนตัวเข้ามาพูด

คำพูดของมู่เจินจูก่อให้เกิดความเห็นพ้องจากทุกคน ทยอยกันพยักหน้า

“ไม่กี่วันก่อน ข้ายังเห็นมู่จิ่วซีไปหยอกล้อกับท่านอ๋องหกอยู่เลย รู้ๆ อยู่ว่าเป็นคนที่หมั้นหมายกับผู้สำเร็จราชการแทนไว้ แต่ยังออกไปยั่วยวนคนนั้นคนนี้เสียทั่ว สมควรแล้วที่ต้องถูกขังกรงหมูจับถ่วงน้ำ”

“ถูกต้อง ขังกรงหมู! ขังกรงหมูแล้วจับถ่วงน้ำเสีย!” ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกัน

ใบหน้าโม่จุนขรึมลงราวบึ้งลึก ในดวงตาเอ่อล้นด้วยสีแดงทึม

“โม่จุน เจ้าคงไม่ได้คิดจะแต่งงานกับข้าใช่ไหม ดังนั้นจึงคิดจะสังหารข้า ข้าพิสูจน์ได้ว่าตนเองบริสุทธิ์!” มู่จิ่วซีตะโกนเสียงดังขึ้นมา

“ถูกต้อง คุณหนูเป็นผู้บริสุทธิ์!มีคนใส่ร้ายนาง!” ลู่เอ๋อร์ตะโกนขึ้นมาทันที

“คนใช้ชั้นต่ำ ตีนางเสียให้ตาย!” ไป๋เฟิ่งหวานกับมู่เจินจูให้พวกคนใช้รุมทุบตีลู่เอ๋อร์ทันที

“พอแล้ว!” มู่จิ่วซีคำรามด้วยโทสะ จ้องเขม็งโม่จุนเอ่ยขึ้นเสียงเย็นชา “เจ้าจะฟังหรือไม่ฟัง!”

โม่จุนมองมู่จิ่วซีที่คิ้วราวกับเป็นน้ำค้างแข็ง รู้สึกถึงจิตสังหารวูบหนึ่งโถมเข้ามา

“หยุดมือเสีย!” โม่จุนตวาดขึ้นมา

หญิงสาวทั้งกลุ่มหยุดมือ ไป๋เฟิ่งหว่านเอ่ยขึ้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ถ้ามู่จิ่วซีกับเซินอวี้อีไม่ได้คบชู้ แล้วจะมากระโดดน้ำตายตามกันทำไม ท่านอย่าถูกนางหลอกเชียว”

โม่จุนมองไปทางไป๋เฟิ่งหว่าน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราวกับภูเขาน้ำแข็ง “เจ้ากำลังสั่งสอนข้าเช่นนั้นหรือ?”

“ไม่ ไม่ หว่านเอ๋อร์มิกล้า” ไป๋เฟิ่งหว่านตกใจจนคุกเข่าลงทันที

สายตาเย็นชาของโม่จุน กวาดไปรอบหนึ่ง หญิงสาวกลุ่มนั้นก็ทยอยกันคุกเข่าลงพื้น

“ไป๋เฟิ่งหว่าน เจ้าเห็นข้ากับหมอหลวงเวินกระโดดน้ำตายด้วยกันหรือ?” มู่จิ่วซีถามขึ้น

ไป๋เฟิ่งหว่านตกตะลึง รีบเอ่ยขึ้นทันที “ไม่ใช่ มีคนอื่นที่เห็น”

“แล้วใครกันที่เห็น เจ้าให้เขายื่นขึ้นมา” มู่จิ่วซีหัวเราะเสียงเย็นชา “ท่านผู้สำเร็จราชการแทน คนที่มองเห็นคือคนร้ายที่มาใส่ร้ายข้า!” พอคำพูดนี้ออกไป คนทั้งหมดก็หันไปมองอีกด้านทันที
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Niyom
ทำไมห้ามอย่าร้างคุณนายลู่ไม่อัปเดทหลายวันแล้ว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 2

    ไป๋เฟิ่งหว่านหน้าแข็งไปในพริบตา ตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ทันที“พวกเจ้ามองข้าทำไมกัน ข้าไม่ใช่คนที่เห็นเสียหน่อย ชิงตงต่างหากที่เห็น”ชิวตงเป็นหนึ่งในคนใช้ของไป๋เฟิ่งหว่านชิวตงรีบคลานขึ้นหน้าออกมาพูดว่า “ตอนที่ข้าน้อยเห็น หมอหลวงเวินกับคุณหนูใหญ่มู่ก็อยู่ในทะเลสาบแล้ว”มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว เหลือบมองโม่จุนแล้วพูดว่า “ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ท่านได้ยินแล้วหรือไม่? ตอนที่นางเห็น ข้ากับหมอหลวงเวินก็อยู่ในทะเลสาบนั่นแล้ว นี่จะอธิบายว่าข้ากับเขาฆ่าตัวตายเพราะความรักได้อย่างไร?”“เช่นนั้นเจ้าลงไปอยู่ในน้ำได้อย่างไรกัน?” โม่จุนถามขึ้น“ข้าถูกคนผลักตกน้ำ ตอนที่กำลังมึนงงก็ได้ยินเสียงคนกระโดดน้ำลงมา ดังนั้นข้าเดาว่าหมอหลวงเวินคงจะลงน้ำมาช่วยข้า”“น่าขัน หมอหลวงเวินว่ายน้ำไม่เป็นด้วยซ้ำ แล้วจะลงน้ำไปช่วยเจ้าได้อย่างไร?” ไป๋เฟิ่งหวานยิ้มเย็นชาขึ้นมา“ดูท่าคุณหนูไป๋จะคุ้นเคยกับหมอหลวงเวินเสียเหลือเกิน” ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีทำเอาทุกคนหน้าประหลาดกันหมด“เจ้าพูดจาเหลวไหล! มู่จิ่วซี มีคนยังเห็นเจ้ากับหมอหลวงเวินคุยกันกระหนุงกระหนิงที่สวนดอกไม้ด้านหลังก่อนหน้านี้ด้วย เจ้าจะอธิบายอย่างไร?” ไป๋เฟิ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 3

    นางเอื้อมสัมผัสไปที่ท้ายทอยหลังศีรษะของหมอหลวงเวินก่อนจะพูดกับโม่จุน "เจ้าเข้ามาดู"โม่จุนเดินเข้าไป พอเขาเห็นใบหน้าของคนตาย ลมหายใจก็เย็นวาบขึ้นมา"หมอหลวงเวินไม่ได้จมน้ำตายและก็ไม่ได้กระโดดลงมาช่วยข้าด้วย ที่ท้ายทอยหลังศีรษะเขามีบาดแผล ใบหน้าก็ไม่ได้บวม เขาถูกคนฆ่าก่อนแล้วถึงถูกผลักลงทะเลสาบไป ถ้ายังไม่เชื่อข้าอีก จะไปเรียนขุนนางฝ่ายชันสูตรมาชันสูตรศพนี้ก็ได้"มู่จิ่วซีพูดเสร็จก็ยืนขึ้นและจ้องมองไปยังใบหน้าของโม่จุนซึ่งหล่อเหลาจนขนาดทวยเทพยังอิจฉาชังน้ำหน้าชายคนนี้ทำไมถึงได้หล่อมากขนาดนั้น ช่างเป็นอาหารตาจริงๆ“อะไรนะ เขาจะถูกทุบตีจนตายและผลักลงทะเลสาบไปได้อย่างไร?” ไป๋เฟิ่งหว่านส่งเสียงอุทานขึ้นมาทันทีมู่จิ่วซีก็รู้สึกน่าขบขัน ทันใดนั้นนางก็ขยับเข้าหาโม่จุนและพูดกระซิบเบาๆ: "ข้าถูกผลักลงไปในน้ำจริงๆ หากเจ้ายังไม่เชื่อข้า ข้ายอมถอดเสื้อผ้าออกให้เจ้าดูแผ่นหลังข้าก็ได้ ตอนนี้ที่หลังข้ายังเจ็บอยู่เลย"โม่จุนแข็งทื่อไปทั้งตัว ดวงตาสีดำเข้มอันลึกล้ำก็ราวกับมีพายุก่อตัวขึ้นในดวงตาของเขา“ไร้ยางอาย!” โม่จุนพอพ่นวาจาออกมาสามคำก็ถอยห่างจากมู่จิ่วซีไปไกลเล็กน้อย“ใครก็ได้ เรียกเย่อู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 4

    มู่จิ่วซีมองโม่จุนอย่างดูถูกและถอนหายใจปลงอารมณ์อย่างมาก : "เดิมทีข้าไม่กลัวหรอก แต่ใจคนมันน่ากลัวยิ่งกว่า ข้าแต่ก่อนช่างไร้เดียงสาเลยจริงๆ""ไม่มีความรู้ความสามารถ เอาแต่เที่ยวเล่นไร้ความก้าวหน้า!" โม่จุนพอกล่าวจบก็หันหลังเดินไปทันที "อานเย่ เจ้าอยู่นี่แหละ"อานเย่เผยสีหน้าอันขมขื่นออกมา แต่ก็ทำได้เพียงกล่าวรับคำไป"มู่จิ่วซี เจ้าอย่าคิดว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนช่วยเจ้าแล้วเจ้าจะไม่เป็นอะไร จะหยิ่งผยองก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย!" ไป๋เฟิ่งหว่านพอเห็นโม่จุนเดินไปไกลแล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงนาง"ใครบอกว่าข้าไม่เป็นไร?" มู่จิ่วซีเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมาและเดินเข้าไปใกล้ไป๋เฟิ่งหว่านไป๋เฟิ่งหว่านถูกนางทำให้ตกใจจนสะดุ้งพร้อมกับรีบพูดขึ้นมา : "เจ้าจะทำอะไร? วันนี้ถือว่าพวกเจ้าดวงดีก็แล้วกัน พวกเรา กลับ!""คิดจะหนี?" มู่จิ่วซีจู่ๆ ก็หัวเราะเยาะเย้ย "ไป๋เฟิ่งหว่าน เจ้าเข้าใจอะไรข้าผิดไปหรือเปล่า พวกเจ้าอยากให้ข้าตายแล้วคิดจะหนีเนี่ยนะ?"ขณะพูด นางก็คว้าข้อมือของไป๋เฟิ่งหว่านเอาไว้ไป๋เฟิ่งหว่านกรีดร้องขึ้นมา ทันใดนั้นนางพยายามดิ้นรนและกรีดร้องเสียงดัง : "มู่จิ่วซี เจ้าจะทำอะไร ปล่อยข้า"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 5

    "คุณหนูใหญ่ ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?" ชายที่เข้ามาสวมชุดเสื้อผ้ากางเกงสีดำ พอเขาเห็นมู่จิ่วซีก็คุกเข่าลงทันทีมู่จิ่วซีให้เขาลุกขึ้นและเอ่ยกล่าว : "ข้าไม่เป็นไร เย่ฮาน ท่านพ่อทราบเรื่องในวันนี้หรือเปล่า?""คุณท่านเพิ่งทราบขอรับ เขาโกรธจนทุบโต๊ะจนหัก เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนต้องการทำร้ายฆ่าคุณหนูใหญ่"เย่ฮานคือหนึ่งในผู้พิทักษ์เงาข้างกายคนหนึ่งของแม่ทัพใหญ่มู่"ท่านพ่อคาดเดาว่าเป็นใครที่ต้องการทำร้ายฆ่าข้า?" มู่จิ่วซีถามเย่ฮานครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย : "คุณท่านบอกว่ามีสองคนที่น่าสงสัยมาก หนึ่งคือสนมเอกสามเซียวหลิงเย่ว์ สองคือคุณหนูใหญ่ไป๋ชิงขอรับ"มู่จิ่วซีเงียบไม่พูดอะไร นางเองก็สงสัยสนมเอกสามเหมือนกันแคว้นเกาอวิ๋นค่อนข้างพิเศษ จักรพรรดิเป็นเพียงเด็กอายุแค่สิบขวบ โม่จุนคือเสด็จลุงห้าของจักรพรรดิองค์น้อยนี้จักรพรรดิองค์ก่อนได้ทรงนำทัพเป็นการส่วนพระองค์และสิ้นพระชนม์ลง ฮองเฮาที่มีพระชันษาเพียง 25 พรรษาก็กลายเป็นพระพันปีหลวง มกุฎราชกุมารที่อายุ 8 พรรษาก็ต้องสืบทอดราชบัลลังก์ แต่ก็ต้องมาประสบจากแรงกดดันของหลายฝ่ายโม่จุนได้ใช้เวลาสามปีในการช่วยพระพันปีหลวงและจักรพรรดิองค์น้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 6

    ลู่เอ๋อร์เมื่อได้ยินคำพูดของคุณหนูใหญ่ของนาง ใบหน้าของนางก็ราวกับอึดอัดใจพร้อมกับรีบพูดเสียงเบา : "คุณหนู นี่ มันคงไม่ดีหรือเปล่าเจ้าคะ"มู่จิ่วซีหันมองเย่อู่เหิงพร้อมกับใบหน้าอันงดงามและเย็นชา : "ใต้เท้าเย่ สีหน้าของพวกเจ้าแบบนี้คืออะไร อยากจะบอกว่าคุณหนูอย่างข้าไม่รู้จักยางอายใช่ไหม?""เจ้าเคยคิดไหม นี่มันเรื่องสำคัญเกี่ยวกับชีวิตคน ถ้าข้าไม่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง หลังจากนี้ก็คงไม่รู้ว่าถูกคนเอาไปพูดต่อกันอย่างไร""ถ้าเจ้าเป็นท่านผู้สำเร็จราชการแทน แน่นอนว่าข้าต้องเขินอาย แต่ว่าเจ้าคือขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่ผู้ทรงเกียรติ เป็นข้าราชการที่ซื่อตรงของพสกนิกร เมื่อเจ้าเผชิญหน้ากับหลักฐานพยาน เจ้ายังคงสำเหนียกอายอยู่อีกหรือ?""ก็เหมือนกับผู้หญิงป่วยที่ไม่อาจให้หมอผู้ชายได้ตรวจ จากที่จะมีชีวิตรอดก็ต้องมาตายถึงจะถูกอย่างงั้นหรือ?"แววตาดูถูกของมู่จิ่วซีทำให้ใบหน้าของเย่อู่เหิงร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขาถูกคำพูดของนางแทงใจดำเข้าจริงๆ"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน!" จู่ๆ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยนอกห้องคนหนึ่งก็ส่งเสียงตกใจมู่จิ่วซีและเย่อู่เหิงก็หันไปเห็นบุคลิกท่าทางเย็นชาของเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 2

    "ท่านหมายความว่าอย่างไร หวังให้ข้าตาย จะได้ไม่ต้องแต่งงานกับข้าหรือ? โม่จุน ที่บอกว่าท่านไร้ซึ่งศีลธรรมนี่พูดไว้ไม่ผิดเลย ท่านทำไมจึงต่ำทรามเช่นนี้? ไม่แต่งก็ไม่แต่งสิ ต้องมาแช่งข้าแบบนี้ด้วยหรือ?"สีหน้าบนใบหน้าหล่อเหลาของเย่อู๋เหิงมากมายเต็มไปหมด รู้สึกว่าตนเองตอนนี้เป็นส่วนเกินหรือเปล่านะ?แต่ว่าสำหรับความพูดมากกับความกำเริบเสิบสานของมู่จิ่วซีอันที่จริงก็รู้มาบ้างแล้ว ขนาดท่านผู้สำเร็จราชการแทนที่โหดร้ายเย็นชาในสายตาคนนอก นางก็ยังด่ากราดพ่วงสกุลไปด้วยได้เลย"มู่จิ่วซี!" โม่จุนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน "ข้าก็แค่กำลังวิเคราะห์ตามปกติ!"มู่จิ่วซีมองบนใส่เขายกใหญ่"เรื่องจริงก็คือข้ายังมีชีวิต ดังนั้นคนร้ายคนนี้พวกท่านต้องหาออกมาให้ได้ ฝ่ามือสันดอนสินะ รอให้หาเจอก่อนเถอะ คุณหนูอย่างข้าจะให้เขาได้ลิ้มรสฝ่ามือยูไลดูบ้าง!" มู่จิ่วซี่ขบฟัน"ฝ่ามือยูไล?" เย่อู๋เหิงดวงตาเป็นประกาย ท่าทีอยากรู้อยากเห็น "คุณหนูใหญ่เป็นวรยุทธ์ด้วยหรือ?""ท่านเย่ บิดาข้าคือแม่ทัพใหญ่นะ ที่ข้ารอบรู้บู๊บุ๋นมันก็เรื่องปกติไม่ใช่หรือ?" มู่จิ่วซีเอ่ยขึ้นอย่างเคืองๆ "มาดูถูกใครกันล่ะนั่น?""รอบรู้บู๊บุ๋น? เจ้าน่ะหรือ?"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 8

    "คุณหนู" ลู่เอ๋อร์ข้างๆ เองก็มองต่อไปไม่ไหวแล้วเย่อู๋เหิงขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น "คุณหนูใหญ่ไม่กลัวคนร้ายจะเข้ามาสังหารท่านหรือ?""ให้เขาเข้ามา! คุณหนูอย่างข้าก็อยากจะเห็นว่าใครกันที่สายตาไม่กว้างไกลจนคิดจะเข้ามาสังหารข้า?"มู่จิ่วซีสองตาหรี่ลง กำหมัดแน่น ทั้งตัวแผ่ความเย็นเยียบ กระหายเลือดออกมาในพริบตา กลิ่นอายที่ดุดัน ราวกับราชาแห่งรัตติกาลกำลังจ้องมองใต้หล้าโม่จุนกับเย่อู๋เหิงก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที ทั้งสองคนล้วนสีหน้าตกตะลึง เพราะกลิ่นอายที่มู่จิ่วซีแผ่ออกมาเวลานี้แข็งแกร่งอย่างมากนี่ไม่ใช่พลังที่คุณหนูใหญ่ราวกับผ้าพับไว้มี แต่กลับเหมือนเป็นเพชรฆาตที่จมดิ่งอยู่ในการฆ่าฟันคนหนึ่งจะเป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาตาฝาดไปกระมังหลังจากมู่จิ่วซีหัวเราะเย็นชา ก็เก็บกลิ่นอายลง มองไปทางชายทั้งสองคน จู่ๆ ก็กระแอมไอออกมาเสียงหนึ่ง "ครั้งนี้ข้าประมาทไปหน่อย ถ้าหากนักฆ่ากลับมาอีกครั้ง ข้ารับรองว่าจะทำให้เขาไม่ได้กลับไปเลย!""มู่จิ่วซี นี่ไม่ใช่การเล่นขายของนะ คนร้ายเป็นวิชาฝ่ามือสันดอน พลังไม่ธรรมดา เจ้าที่มีวรยุทธ์แค่หางอึ่งคิดจะหนียังยากเลย!"โม่จุนประชดประชันขึ้นทันทีมู่จิ่วซีเหลือบตามองเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 9

    มู่จิ่วซีเวลานี้พอมองไปก็ไม่เหมือนสาวน้อยอ้อนแอ้นเลย แต่ดูคล้ายกับขุนพลที่กำลังจะออกสังหารศัตรูในค่ายเสียมากกว่า"คุณหนูใหญ่มู่ ข้าน้อยใช้กำลังภายในขั้นสามแล้ว ท่านระวังด้วย""ดี ถ้าไม่ไหว ก็สุดแล้วแต่เจ้าจะสำแดงเลย" มู่จิ่วซีพูดจบ ก็พุ่งตัวเข้าหาเย่อู๋เหิงนางถนัดการต่อสู้ระยะประชิดที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นจะดีที่สุดถ้ามีอาวุธในมือ ถึงอย่างไรเป้าหมายที่ฝึกฝนตอนแรกก็มีเพียงข้อเดียว นั่นคือการสังหารคนความเร็วคือสิ่งที่แกร่งที่สุดของนาง ดังนั้นเย่อู๋เหิงจึงไม่เชื่อเลยว่ามู่จิ่วซีที่เร็วขนาดนี้จะไม่ใช้กำลังภายใน แต่ความจริงมันก็เป็นเช่นนั้นกำลังภายในระเบิดออก ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นทันที ทั้งสองคนปะทะกันไปสิบกว่ากระบวนท่าในพริบตา มู่จิ่วซีร่างกายคล่องแคล่วมาก แทบจะวนตีเย่อู๋เหิงเลยทีเดียวแต่เย่อู๋เหิงก็พบว่าพลังของมู่จิ่วซีเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่มันไม่ใช่กำลังภายใน ความเร็วเองก็เพิ่มขึ้นสิ่งนี้อธิบายว่าการประมือก่อนหน้า นางแค่หยั่งเชิงเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ใจเขาตกตะลึงใบหน้างามของโม่จุนก็เคร่งขรึมลงมาจนคนตกใจ สายตาจ้องเขม็งไปที่มู่จิ่วซี ในใจเองก็เกิดคลื่นถาโถมมู่จิ่วซีต่อสู้จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09

บทล่าสุด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

DMCA.com Protection Status